เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. Mr.Ex

    Mr.Ex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,199
    ขอส่งแรงใจ และเป็นกำลังใจให้พี่ กิ๊ต(นายGEET) ด้วยคนนะครับ..."หลังฟ้าหม่นจะมีแสงทองผ่องอำไพครับ"
     
  2. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
     
  3. plykaew

    plykaew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +1,278
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง ครับผม....

    ขอแสดงความเสียใจกับน้องกีตด้วยนะครับ....และขอให้มีสติอยู่ตลอดเพื่อสู้กับปัญหาที่รออยู่ข้างหน้าต่อไป......เป็นกำลังใจให้..
     
  4. KHAjit

    KHAjit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +941
    กราบหลวงพ่อทรงครับ
    ขอแสดงความเสียใจกับคุณกีตด้วยครับขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1060204.JPG
      P1060204.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      53
    • P1060202.JPG
      P1060202.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      69
  5. putsudsoi

    putsudsoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +8,396
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง

    เข้ามาตอกบัตรกับเค้ามั่งครับ เป็นกำลังใจให้ป๋าGEETและครอบครัวครับ

    ขอบารมีหลวงปู่ทรงคุ่มครองทุกท่านและครอบครัวให้สุขกาย สุขใจ ไม่เจ็บ ไม่จนครับ
     
  6. mmax

    mmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +1,119
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พิณพาทย์ [​IMG]
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงวัดศาลาดิน
    สวัสดีพี่พีและพี่น้องชาวเหรียญบินทุกท่านอีกครั้งครับ
    ไม่ค่อยได้เข้ามาติดตามครับ ช่วงนี้ว่างจากงานเลยเข้ามารายงานตัวครับ

    และขอแสดงความเสียใจ และเป้นกำลังใจอย่างสุดซึ้ง
    ให้กับท่าน กิ๊ต(นายGEET) ครับที่บ้านเกิดเพลิงใหม้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้
    เพิ่งทราบข่าวโทรไปคุย ใหม้ไปเยอะเช่นกัน และครอบครัวไม่มีใครเป็นอะไร
    เหตุเกิดจากไฟลามมาจากบ้านข้างๆครับ กิ๊ตบอกรวดเร็วมาก
    คงไม่ได้มาพูดคุยพบปะในบ้านเหรียญบินสักพักนะครับทุกท่าน
    ยังไงแล้วก็ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
    ขอให้บารมีครุบาอาจารย์และบารมีหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    ปกป้องคุ้มครองให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ...

    เป็นกำลังใจให้นะนายGEET<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. ณัฐวัฒน์

    ณัฐวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,145
    ค่าพลัง:
    +4,047
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ

    ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ไปหลายหน้าเลย

    ขอแสดงความเสียใจ ให้นายGEET
    และเป็นกำลังใจ ให้กับคุณไม่เกิดด้วยนะครับ
     
  8. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    สวัสดียามเย็นครับ
     
  9. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,062
    ค่าพลัง:
    +5,460

    ชีวิตคนก็เหมือนสายนำ้้ำมีขึ้นมีลง ไม่มีใครมีความสุขได้ตลอดไป
    และเช่นกันไม่มีใครมีความทุกข์ได้ตลอดไป

    เมื่อผมพบเจอะกับเรื่องที่เลวร้ายต่างๆมากมายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต ผมจะบอกกับตัวเองว่าไม่นานมันก็จะผ่านพ้นไป เตรียมใจรับปัญหาและอยู่กับมันด้วยสติ ปัญญา แล้วปัญหามันก็หายผ่านไป

    ผมเชื่อว่าคุณจะผ่านมันไปได้ ขอให้บุญรักษา
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ใครมีเบอร์คุณ GEET ไหมครับ
     
  11. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,062
    ค่าพลัง:
    +5,460
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    อยากรู้ครับ...แหะๆ

    PM มาบอกที่น่ะครับ
     
  13. JLB

    JLB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,180
    ค่าพลัง:
    +8,080
    กราบพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทรง
    สวัสดีพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่าน

    ขอแสดงความเสียใจกับ ท่าน GEET ด้วยครับ
     
  14. teaycub2009

    teaycub2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    3,747
    ค่าพลัง:
    +2,582
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง ครับ

    ขอแสดงความเสียใจ กับคุณ นาย GEET
    และเป็นกำลังใจ ให้สู้ต่อไปนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
    ผมเชื่อว่าหลวงปู่ท่านไม่ทอดทิ้งศิษย์แน่นอนครับ
    อย่าพึ่งท้อนะครับ......:cool:
     
  15. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    กราบหลวงพ่อทรง... ครับ
    วันนี้เข้ามาเร็วนิดหน่อย... เพิ่งกลับจากโรงพยาบาล ตอนนี้อาการของน้องโฟสต์ (ลูกชายคนโต ) ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ที่น่าเป็นห่วงคือเท้าอีกข้างกำลังจะเริ่มบวมเหมื่อนอีกข้าง วันนี้เวลาประมาณ 21.00 น. จะผ่าตัดเอาเนื่อที่ตายบริเวณเท้าซ้ายที่บวม เนื่องจากยาเข้าไปไม่ถึง เพราะมีอาการจะลามขึ้นไปตามขาได้ ถ้าปล่อยเอาไว้ ส่วนอาการอย่างอื่นก็ดีขึ้น เช่นไตทำงานได้ดีขึ้น ก็เลยเอาที่สวนปัสสาวะออก ความดันก็ดีขึ้น มีไข้บ้างนิดหน่อย ทานได้ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องดูแลอย่างใก้ลชิด เพราะว่าเชื้อโรคที่ตรวจพบ ( แบคทีเรีย ) ยังมีฤทธิ์อยู่ สามารถทำให้เกิดอาการบวมอักเสบได้.....
     
  16. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    เป็นกำลังใจให้คุณ GEET เช่นกันครับ พักนี้ฟาดเคราะห์กันเยอะนะครับ ขอบารมีหลวงพ่อทรงคุ้มครอง
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เป็นกำลังใจให้ทุกท่านอีกครั้งครับ
     
  18. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรที่เลวร้าย หรือปัญหาหนักๆ ที่ต้องแก้ไข สิ่งสำคัญอย่างแรกคือสติ ต้องประคองให้อยู่ รู้ตัวทุกขณะ ไม่ว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือเลวร้าย จงเข้าใจในสิ่งที่เป็นไปให้ได้ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น... บางครั้งอาจมีการพลั้งเผลอในการมีสติ แต่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับปุถุชน เพราะฉะนั้นต้องมีการฝึกฝน... ( การมีสติอยู่ทุกขณะจิตนั้นไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิดครับ.... )
     
  19. เมืองสมุทร

    เมืองสมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +5,767
    ขอแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจให้กับ กิ๊ต ด้วยนะครับ สู้ๆ นะครับ

    และขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน ที่กำลังประสพปัญหาต่างๆ ด้วยครับ

    ขอให้ผ่านพ้นทุกอย่างไปด้วยดี

    ขอบารมีคุณพระรัตนตรัย

    และบารมีหลวงปู่ทรง คุ้มครองครับ
     
  20. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    วันนี้ขอพักผ่อนเร็วสักหน่อย.. เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเยี่ยมน้องโฟสต์ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าและพาคุณยายของน้องโฟสต์ไปเฝ้าแทนคุณแม่ของเค้า.... แต่ก่อนไปขอฝากสิ่งดีให้ได้อ่านและผ่านเข้าไปในสายตาบ้าง..... ต้องขอประทานด้วยครับที่ข้อความมีความยาวพอสมควร

    การปล่อยวาง

    การที่เราอยู่ร่วมกันนี้จะต้องมีระเบียบ ระเบียบเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนหมู่มาก ไม่ใช่จำเป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้น อยู่คนเดียวก็ต้องมีระเบียบ อย่างพระวินัย พระวินัยสมัยก่อนนี้มีนิดเดียว พระสงฆ์ที่มาบวชในพระพุทธศาสนามีมากขึ้น ต่างคนต่างจะทำอะไร ก็มีหลายเรื่อง บางคนอยากจะทำอย่างนั้น บางคนอยากจะทำอย่างนี้ ก็มีกันมาเรื่อยๆ เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าของเราตั้งข้อกติกา คือพระวินัยขึ้นมา เพื่อเป็นข้อปฏิบัติ อยู่ไปนานๆก็มีคนบางคนก็ทำเรื่องมาอีกหลายอย่าง ดังนั้นพระวินัยจึงไม่มีทางจบสิ้น หลายล้านสิกขาบท แต่ก็ยังไม่จบ พระวินัยไม่มีทางจบลงได้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องธรรม เรื่องธรรมะนี้มีทางจบ ก็คือ "การปล่อยวาง" เรื่องพระวินัยก็คือเอาเหตุผลกัน ถ้าเอาเหตุผลกันแล้วไม่จบหรอก

    เรื่องธรรมะที่แท้จริงนั้น ต้องทิ้งเหตุทิ้งผล คือธรรมะมันสูงกว่านั้น ธรรมะที่พระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ ระงับกิเลสทั้งหลายได้นั้นมันอยู่นอกเหตุเหนือผล ไม่อยู่ในเหตุ อยู่เหนือผล ทุกข์มันจึงไม่มีสุขมันจึงไม่มี ธรรมนั้นท่านเรียกว่าระงับ ระงับเหตุ ระงับผล ถ้าพวกใช้เหตุผลอยู่อย่างนี้ เถียงกันตลอดจนตายเหมือนพระสององค์นั้น

    ธรรมที่พระพุทธองค์ท่าน ตรัสรู้ ต้องอยู่นอกเหตุเหนือผล นอกสุขเหนือทุกข์ นอกเกิดเหนือตาย ธรรมนี้มันเป็นธรรมที่ระงับคนเราก็มาสงสัยอยู่นี่แหละ ผู้ชายยิ่งสงสัยมาก ความสงสัยนี่ตัวสำคัญ มีเหตุผลอย่างนั้นอย่างนี้ มันจะตายอยู่แล้ว (หัวเราะ) มันไม่ใช่ธรรมของพระพุทธองค์ ธรรมนั้นเป็นข้อปฏิบัติ เป็นทางเดินเดินไปเท่านั้น ถ้ามัวคิดว่าเมื่อไปถึง นี่ฉันนี้สุขเหลือเกิน ไม่ได้ฉันนี้ทุกข์เหลือเกิน ไม่ได้ แต่ถ้าฉันไม่มีสุขไม่มีทุกข์ นี่คือมันระงับแล้ว สงสัยไม่มี

    ตรงโน้นมันจะมีอยู่ที่ตรงไหน มันก็อยู่ตรงที่ปฏิบัติไปเรื่อยๆสุขเกิดขึ้นมา ทุกข์เกิดขึ้นมา เรารู้มันทั้งสองอย่างนี้ สุขนี้ก็สักว่าสุขทุกข์นี้ก็สักว่าทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ตัวตนเราเขา ธรรมนี้เกิดขึ้นแล้วดับไป เกิดขึ้นมาดับไปเท่านั้น จะเอาอะไรกับมัน สงสัยทำไมมันเกิดอย่างนั้น เมื่อเกิดอีกทำไมมันไปอย่างนั้นละ สงสัยอย่างนี้มันเป็นทุกข์ ปฏิบัติไปจนตายก็ไม่รู้เรื่อง มันทำให้เกิดเหตุไม่ระงับเหตุของมัน

    ความ เป็นจริง ธรรมที่พวกเราปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ธรรมนี้นำเราไปสู่ความสงบ สงบจากอะไร จากสิ่งที่ชอบใจ จากสิ่งที่ไม่ชอบใจถ้าเราชอบสิ่งที่เราชอบใจ ไม่ชอบสิ่งที่เราไม่ชอบใจ มันไม่หมด ธรรมนี้ไม่ใช่ธรรมระงับ ธรรมนี้เป็นธรรมก่อทุกข์ขึ้นมา ให้เข้าใจอย่างนั้น

    ฉะนั้นเราจะ ต้องอดทน อดทนต่ออารมณ์ที่มันเกิดขึ้นมาอย่าไปหมายมั่น อย่าไปยึดมั่น จับมาดูแล้วรู้เรื่อง เราก็ปล่อยมันไปเสีย เขาจะพูดอย่างไรก็รับฟังมันไปเถอะ มันจะทำอย่างไรก็ระวังไว้ มันเป็นอย่างนั้นของมัน เราต้องถอยกลับมาอยู่ตรงนี้ เราก็มีความสบาย

    อารมณ์ ก็เหมือนกันฉันนั้น ที่มันมากระทบเราอยู่ทุกวันนี้ บางทีก็ร้าย บางทีก็ดี บางทีก็ชอบใจ บางทีก็ไม่ชอบใจ คนทุกๆคนนั่งอยู่ในนี้ก็เหมือนกัน จะทำให้ถูกใจเราทุกคนมีไหม มันไม่ได้ นอกจากเราปฏิบัติธรรมะให้รู้ว่า คนคนนี้มันเป็นอย่างนี้นานาจิตตังไม่เหมือนกัน

    เราจำเป็นต้องอบรมใจ ของเราทุกๆคน เมื่อมันโกรธขึ้นก็ดูความโกรธ ความโกรธนี้มันมาจากไหน เราให้มันโกรธหรือเปล่า ดูว่ามันดีไหม ทำไมเราถึงชอบมัน ทำไมเราถึงไม่ทิ้งมัน เมื่อโกรธขึ้นมาแล้วไม่ดี ไม่ดีเราเก็บมันไว้ทำไม ก็เป็นบ้าเท่านั้น ทิ้งมันเสียถ้าเห็นว่ามันไม่ดี มันก็จะไปในทำนองนี้

    พระองค์ ตรัสว่าอะไรเป็นบาป อันนั้นท่านให้อาย อะไรที่ไม่เป็นบาปจะอายทำไม ใครอายก็โง่เท่านั้น ภาวนายังไม่เป็นเลย ถ้าอายอย่างนั้น เราจะไปอยู่ตรงไหนถึงจะมีปัญญา ถ้าไปอยู่คนเดียวไม่มีใครพูดดีพูดชั่วให้ มันก็สบาย แต่เราจะไม่รู้เรื่อง สบายอย่างนี้มันไม่มีปัญญา ถ้าถูกอารมณ์แล้วปัญญามันไม่มี ก็เป็นทุกข์อย่างนั้น

    ฉะนั้นเราอยู่ ในโลก ก็ต้องมีความสัมพันธ์กับมนุษย์เรื่อยไปเป็นธรรมดา ไม่อยากเป็นมันก็เป็น ไม่อยากจะอยู่มันก็อยู่ เป็นไปอยู่อย่างนั้น ให้เรามาพิจารณาอย่างนั้น เราต้องกลับมาย้อนพิจารณาอารมณ์ที่ท่านตรัสว่า นินทาสรรเสริญมันเป็นคู่กันมา เรื่องนินทาเรื่องสรรเสริญเป็นธรรมดาของโลก ถ้าไม่ดีเขาก็นินทา ถ้าดีเขาก็สรรเสริญ พระพุทธองค์ท่านไม่เห็นแก่นินทา ไม่เห็นแก่สรรเสริญจงเรียนสรรเสริญให้มันรู้จัก จงมาเรียนนินทาให้มันรู้จัก ให้รู้จักสรรเสริญกับนินทา สรรเสริญ นินทามันก็มีผลมีเหตุเท่ากัน นินทาเราก็ไม่ชอบ นี่เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ถ้าสรรเสริญเราชอบ

    ดัง นั้นเราต้องอดทนต่อสู้ ให้เรามีสติคุ้มครองจิตของเรา สติคือความระลึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว อันนี้ช่วยประคับประคองดวงใจของเราให้อยู่กับธรรมะ สติระลึกได้ว่า บัดนี้เราจะจับไม้เท้าเมื่อเราจับไม้เท้าอยู่เราก็รู้ว่าเราจับไม้เท้า นี่เป็นสัมปชัญญะถ้าเรารู้อยู่ในขณะนี้ ขณะเมื่อเราจะทำ หรือเมื่อเราทำอยู่ก็รู้ตามความเป็นจริงของมันอยู่อย่างนั้น อันนี้แหละที่จะช่วยประคับประคองใจของเราให้รู้ธรรมะที่แท้จริง

    เมื่อ พระพุทธองค์ตรัสรู้ธรรมะ ทรงเทศน์เป็นปฐมเทศนาเลยตรงนี้ ทางหนึ่งมันเป็นทางสุขของกาม ทางหนึ่งมันเป็นทางทุกข์ทรมานตน สองอย่างนี้ไม่ใช่ทางที่สงบ ท่านพูดว่าไม่ใช่ทางของสมณะ สมณะนี้คือความสงบ สงบจากสุขทุกข์ ไม่ใช่มีความสุขแล้วมันสงบ ไม่ใช่มีความทุกข์แล้วมันสงบ ต้องปราศจากสุขหรือทุกข์มันจึงเป็นเรื่องความสงบ ถ้าเราทำอย่างนั้นแล้วมีความสุขใจเหลือเกิน อันนี้ก็ไม่ใช่ธรรมะที่ดีนะ แต่ต้องเราวางสุขหรือทุกข์ไว้สองข้าง ความรู้สึกต้องไปกลางๆ เดินผ่านมันไปกลาง เราก็มองดู สุขก็เห็น ทุกข์ก็เห็น แต่เราไม่ปรารถนาอะไร เดินมันเรื่อยไป เราไม่ต้องการสุข เราไม่ต้องการทุกข์ เราต้องการความสงบ จิตใจของเราไม่ต้องแวะไปหาความสุข ไม่ต้องแวะไปหาความทุกข์ ก็เดินมันไปเรื่อยเป็นสัมมาปฏิปทา เป็นมรรคมีองค์แปด มีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบเกิดขึ้นแล้ว สัมมาสังกัปปะ คือความดำริวิตกวิจารมันก็ชอบทั้งนั้น อันนี้เป็นสัมมามรรค เป็นมรรคปฏิปทา ถ้าจะทำอย่างนี้ให้เกิดอย่างนั้น

    "อาการบังคับตัวเองให้กำหนดลม หายใจข้อนี้ เป็นศีล การกำหนดลมหายใจได้และติดต่อกันไปจนจิตสงบข้อนี้เรียกว่า สมาธิการพิจารณากำหนดรู้ลมหายใจว่าไม่เที่ยง ทนได้ยาก มิใช่ตัวตนแล้วรู้การปล่อยวาง ข้อนี้เรียกว่าปัญญา การทำอานาปานสติภาวนาจึงกล่าวได้ว่าเป็นการบำเพ็ญทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ไปพร้อมกันและเมื่อทำศีล สมาธิ ปัญญาให้ครบ ก็ชื่อว่าได้เดินทางตามมรรค มีองค์แปด ที่พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นทางสายเอก ประเสริฐกว่าทางทั้งหมด เพราะจะเป็นการเดินทางเข้าถึงพระนิพพาน เมื่อเราทำตามที่กล่าวมานี้ ชื่อว่าเป็นการเข้าถึงพุทธธรรมอย่างถูกต้องที่สุด"
     

แชร์หน้านี้

Loading...