***หลังจากพุทธภูมิบารมีเต็มแล้วท่านทำอะไรตั้งหลายอสงไขย???***

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย KomAon11, 4 พฤษภาคม 2006.

  1. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    เมื่อครั้งก่อนหลวงปู่ดู่ท่านจะละขันธ์ หลวงปู่บุดดา ท่านมาเยี่ยม

    นำพระพุทธรูปปางนาคปรกมามอบให้ท่านด้วย หลวงปู่บุดดากล่าวว่า

    " ผมนำมงกุฏพระพุทธเจ้ามาให้ อาราธนาให้คุณอยู่ต่อ

    แต่ถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ ไม่เป็นไร


    คุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้าสมใจแน่นอน "



    หลังจากหลวงปู่บุดดากลับไปแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านกล่าวกับผู้ใกล้ชิดว่า

    " ข้าจะได้ตรัสรู้ ใต้ต้นไม้คู่ พระอรหันต์ท่านมาให้พร ข้าก็รับไว้ "



    ท่านที่มีทัศนะแจ่มใส ลองดูเองว่า ใครที่ซ้อนกายกับหลวงปู่ดู่อยู่
     
  2. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ในสายวิชาของหลวงปู่ดู่

    มีวิชาหนึ่งของสายพุทธภูมิ คือ ภูติพระเจ้า


    วิสัยแห่งวิริยาธิกะ บารมีเต็ม จนล้น ท่านสามารถตั้งพุทธนิมิต ธรรมนิมิต
    สังฆนิมิต ขึ้นมา

    ส่งให้มาทำงานในภพต่างๆ บางครั้งเต็มดวงจิต บางครั้งแบ่งกำลังมา


    นี่ละหนา หลวงปู่ดู่ถึงบอกว่า "กลัวคนที่ไม่เชื่อแล้วจาบจ้วง จะเป็นมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม " ผมผู้นำมาบอกเล่าก็ไม่พ้นมีกรรมที่ต้องตามแก้ไขทีหลังอีก

    แผ่นดินไทยอันศักดิ์สิทธิ์นี้ มหาโพธิสัตว์ลงมาเกิดชำระกรรมเก่า
    ช่วยเหลือสัตว์โลก ค้ำจุนพระศาสนา นับไม่ถ้วน

    หลายท่านกลับไปโดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะขาดการบันทึกและบอกเล่าของผู้ใกล้ชิด
     
  3. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    บันทึกจากศิษย์ใกล้ชิด

    อาจจะมีหลงเหลือที่วัดสะแก บางฉบับ
    เพราะบุคคลบางท่านที่รับฟังจากปาก เห็นกับตา รู้กับใจ
    และรับวิชาจากหลวงปู่ดู่ ก็บวชเป็นพระอยู่ที่นั่น

    โดยเฉพาะ ห่นังสือ " กายสิทธิ์ " เขียนโดย อ.ศุภรัตน์ แสง่จันทร์

    ฆราวาสผู้ทรงภูมิจิต ภูมิธรรมขั้นสูง ซึ่งรับใช้ท่านมานาน


    เชิญพิสูจน์
     
  4. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    ข้อมูลน่าสนใจมากครับคุณ oo
     
  5. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    กระทู้นี้ โดนใจสุดๆ (verygood)

    อ่านเพื่อเปิดปัญญาชัดๆ
     
  6. toy1

    toy1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +111
    ดีจัง ถ้าเต็มแล้วก็สร้างปารมีต่อจนถึงชาติทีเกิดมาบําเพ็ญปารมีหย่างพระเวสสันดอน ถึงจะถือว่าเต็มจริงคุณว่าไม่
     
  7. patuwan

    patuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +842
    ผู้ที่บารมีเต็มแล้ว

    เคยอ่านในหนังสือเรื่องอภิญญาของพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ ) ผู้ที่จะมาฝึกอภิญญา มีทั้งที่เป็นพุทธภูมิบารมีเต็มและเกือบเต็ม มีจำนวนมาก ดังนั้นท่านพวกนี้ คงต้องหาประโยชน์ต่าง ๆ ทำเพื่อการสงเคราะห์ไปเรื่อย ๆ
     
  8. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ขออนุญาติคัดลอกสรุปหลักธรรมะถวาย พระมหาสัตว์อ้น และทุกท่านครับ "ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้คือเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือ กิเลสหมด ว่างจากกิเลสสักวัน อาทิตย์ละสองสามวัน คือไม่มีโลภ โกรธ หลง ไม่หลงหน้าตาคนอื่น ไม่ทาครีม ไม่กลัวตาย ไม่ดีใจ พอใจ หรือไม่พอใจ ไม่มีมานะสำคัญว่าตนเองดี มีบุญ เลยกลายเป็นอัตตาไป ละอารมณ์อุเบกขา สงบ ไม่ใช่อารมณ์ของเราได้ครับ "
     
  9. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    เร็วๆเลยท่านอย่าแถ แสดงธรรมที่อวดอ้างว่า ตน"ตรัสรู้"แล้ว ตน"บรรลุธรรม"แล้ว ตนคือ "พระศรี" มาโดยที่ไม่ต้องไป ลอก copy มาสักที (บอกเป็นครั้งที่ 62แล้ว แถได้ตลอดจริงๆ) ฮ่าฮ่าฮ่า ยอมรับมาเถอะว่าทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  10. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    รู้แล้ว เคยอ่านเจอแล้ว เอาแบบไม่ต้องจำมาจากไหน ไม่ต้องไป ลอก copyมา อ่านแล้วรู้เลยว่าคิดเอง บอกเป็นครั้งที่ 66 แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  11. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ตอนนี้ผมก็เป็นศิษย์หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าเรียบร้อยแล้ว อิอิ
     
  12. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +3,843
    อาณาจักรของลุงอยู่แถวๆปากคลองสานมีหมอและพยาบาลดูแลใกล้ชิดมาก
    กว่ามั๊ง ลุงแต๋วระวิสีหลังอาน(||)
     
  13. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    แม้จะบารมีเต็มแล้ว

    แต่บริวารท่านไม่ได้เต็มด้วยหนิครับ ท่านก็ลงมาสงเคราะห์บริวาร และศาสนาของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์เป็นช่วงๆครับ ... การเกิดแต่ละครั้ง ท่านก็ต้องมารับกรรมเก่าท่านด้วยเหมือนกัน จะสบายนั้นหายากครับ ..
     
  14. found_evidence

    found_evidence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +639
    ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ นี่เท่ากับเป็นแนวทางให้ผมและพุทธทายาทคนต่อๆไปได้ปฏิบัติเลยนะครับ
     
  15. zci

    zci Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +28
    ผมคิดว่า....ผู้ที่บารมีเต็มแล้ว...ยิ่งทำงานหนักกว่าเดิม....มากกว่าเดิม จนกว่าจะเข้านิพพานนั่นแหละ...จึงจะค่อยบรรเทาเบาบางลงได้
    ขอขยายความอีกเล็กน้อย...ผู้ที่บารมีเต็มแล้ว ย่อมจะต้องเพียบพร้อมสมบูรณ์ในด้านศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมมีอะไร ๆ ที่มากกว่าผู้ที่ยังไม่เต็มยังไม่สมบูรณ์ การทำการใดก็ต้องละเอียดลึกซึ้งสุขุมคัมภีรภาพ ไม่หยาบ ไม่บกพร่องอย่างคนที่ยังบำเพ็ญบารมีอยู่ เปรียบได้กับผู้ที่ปรารถนาในระยะต้น ๆ การสั่งสมบารมีก็กระทำเข้มข้นกว่าสามัญชนทั่วไปไม่มาก เมื่อเข้าสู่ระยะกลาง ๆ ก็เพิ่มความเข้มข้นและจำนวนครั้งมากขึ้น จนถึงขั้นปรมัตถ์ใช้ชีวิตเป็นบรรทัดฐานทุกภารกิจ ดังนี้เป็นต้น
    ครั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ก็ยิ่งมีทัศนญาณอันกว้างไกลแผ่ไพศาลมองเห็นหมู่พวกและบริวารมากกว่าปกติ ความเมตตาก็มากล้นจนประมาณมิได้ เมื่อเห็นหมู่พวกและบริวารรวมทั้งสัตว์ผู้ยากทั้งหลายได้รับความลำบาก มีหรือจะนิ่งดูดายได้...และด้วยความสมารถเหนือคนธรรมดา..ท่านก็ต้องทำงานมากขึ้น ๆ ๆ จนหาที่เปรียบได้ยาก
    หากจะเปรียบ..ก็พอจะยกมาพอเป็นสังเขปได้ว่า เด็กน้อยผู้มีภาระดูแลเลี้ยงฝูงโค ด้วยความสามารถของเด็กก็จะดูแลเลี้ยงดูได้ตามประสาเด็ก ๆ ต่อเมื่อนานวันเข้าก็มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ก็จะดูแลฝูงโคนั้นได้ดียิ่งขึ้น ภาระก็มากขึ้น และฝูงโคนั้นก็เพิ่มพูนมากขึ้นตามวันเวลาที่เพิ่มขึ้น..จนเป็นฝูงโคใหญ่ จากเด็กน้อยเป็นหนุ่มและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ภาระกิจการงานหาได้ลดลงไม่ กลับต้องดูแลให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้วัวแต่ละตัว มีความสมบูรณ์มากพอที่จะว่ายข้ามกระแสร์วัฏสงสาร พยายามให้วัวทุกตัวข้ามพ้นวังน้ำวนนั้นให้ได้ และในบางโอกาสยังมีวัวของฝูงอื่นที่ฝากไว้ให้พาข้ามมาด้วย...ก็ต้องเพิ่มงานมากขึ้นไปอีก จนบางครั้งฝูงของตัวเองก็ยังพาข้ามไปได้ไม่หมด..ต้องฝากฝังให้ท่านอื่นรับภาระต่อก็ยังมี
    ผมเข้าใจว่าอย่างนี้แหละครับ....
     
  16. zci

    zci Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +28
    ตราบใดที่ยังไม่ถึงคิวของท่าน....ผมเชื่อว่าท่านก็ต้องทำการอันใดก็ตามเพื่อให้บริษัทและบริวารของท่านเพรียบพร้อมสมบูรณ์ที่สุด...แล้วอย่างนี้จะว่าสบาย ๆ ...หรือเบาบางลงได้อย่างไรครับ
     
  17. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ทำใหม่อีกหลายๆอัน สะสมไว้เป็นคอลเล็กชั่น
    ดันลูกศิษย์ที่อยากไปไวๆ ให้กับรุ่นพี่ แล้วหาเอาใหม่

    ทำไมต้องทำอันเดียว ไหนๆก็ทำแล้ว
    ทำเยอะๆหลายๆอันจะได้แบ่งคนอื่นๆได้

    ลูกศิษย์บางท่าน ก็กลายเป็นอาจารย์คนอื่น
    ก็แตกตัวไป ไปมีสำนักของตัวเอง
    หวงลูกศิษย์ เอาไว้ทำซากอะไร โตแล้วก็ไล่มันไป
     
  18. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านต่อไปว่า "หลวงปู่ครับ หน่อพุทธภูมิที่บารมีเต็มแล้ว ท่านก็ไม่ต้องมาเกิดแล้วใช่ไหม รอการตรัสรู้เลยที่ชั้นดุสิต หรืออย่างหลวงปู่ก็ไม่ต้องมาเกิดแล้วใช่ไหมครับ" หลวงปู่ตอบว่า "กำลังของพุทธภูมิมีหน้าที่ที่จะทำให้มหาชนมีความสุข ถ้ามีคนเรียกร้องหรือบ้านเมืองเกิดยุคเข็ญก็ต้องลงมาช่วย จะคิดเอาแต่สบายได้ยังไง นั่นไม่ใช่ความคิดของหน่อพุทธภูมิ อย่างนี้พระอรหันต์สำเร็จแล้ว ท่านก็ไม่ต้องยุ่งกับใคร ไม่ต้องทำอะไรแล้วซิ" หลวงปู่ท่านตอบคำถามของผู้เขียนเสร็จแล้ว ท่านปรารภถึงการจัดการเรื่องศพของท่านต่อไปว่า "ถ้าข้าตายแล้วอย่าเก็บศพไว้นาน เจ็ดวันเผาเลย ไม่เผาก็โยนทิ้ง เดี๋ยวจะกลายเป็นหากินกับศพ"

    ผู้เขียนได้แย้งท่านว่า "กลัววัดจะร้าง" หลวงปู่ท่านตอบว่า "เรื่องเผาไม่เผา ต้องแล้วแต่คำสั่ง ดูอย่างหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านสั่งไม่ให้เผา เพราะกลัวพระเณรจะอดอยาก แต่สำหรับข้าให้เผา เวลาจะเผาให้เผายืน ข้าจะได้ไปไหนได้" ผู้เขียนจึงถามท่านว่า "หลวงปู่ไม่ไปนิพพานหรือ" ท่านตอบว่า "จะไปได้อย่างไร คนนี้ก็เรียก คนนั้นก็ร้อง ข้าไปแค่หัวตะพานก็พอ ดูอย่างหลวงปู่ทวดซิ มีคนเรียกร้องท่านมากมาย บารมีท่านเต็มท้องฟ้า อย่างข้าเอง คนไหนคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา คนไหนไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา เพราะในวันหนึ่งๆ ข้าต้องอธิษฐานไปให้หมู่คณะทุกวันไม่เคยขาด วันละ ๓ ครั้ง เขาจะได้ไม่เป็นอันตรายทั้งเช้ามืด ตอนเย็น ตอนกลางคืน ก่อนนอน เพื่อเป็นการช่วยเหลือหมู่คณะ"

    ๑๗ อภิญญาสมาบัติ ทิพย์แห่งจิต หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...