คม ชัด ภาพอดีต อยู่ที่จิต

การนั่งสมาธิ เพื่อ อะไร ..
คิดว่า เพือนๆ คงทราบดี
ผล ที่ตามมา บ้างคน เกิด นิมิต ต่างๆๆ
แต่ หาก ติด กับนิมิต จะไม่พัฒนา
อย่างเช่น ดิฉัน ติดอยู่ระยะ หนึ่ง
แต่ก้อโชคดี ที่ผ่าน พ้นไปได้
...
หลวงตา สอนว่า ให้ผ่านไป ..
พอมาถึงวัน หนึ่ง ...สติ จิต
เหมือน มี แบต มาก
จะเห็นภาพ สี
ไม่ใช่ ภาพ ขาวดำ เหมือนเริ่มต้น
จะ เกิด เมื่อไร ก้อได้ ตาม ที่เราต้องการ
ดังนั่น
หาก อยากเห็นภาพสี หรือขาว ดำ
หรือ ไม่อยากเห็น
ภาพ มันอยู่ ที่เดิม นั่นแหระ
เพียง แต่เรา จะเห็น ไม่อยากเห็น เองเท่านั่น
หลวงตา สอนมา
หลวงตา เตือน เสมอ อย่าไปหลง กับ มัน
เห็นแล้ว ก้อเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ได้
เห็น นรก ก้อ ยิ่ง กลัวบาป
ไม่รู้ ไม่เห็น อยุ่กับ ปัจจุบัน ดีกว่า
อยากทราบ เพือนๆๆ คิด อย่างไร กับ
วีดีโอ ตรงหน้าผาก ของเรา เอง
ที่จะชัด หรือไม่ชัด
ก้อขึ้นอยู่ตัวตน ของเราเอง[b-wai]

 

ภาพที่ปรากฏเห็นบริเวณ หน้าผาก เกิดขึ้นเพราะจิตจะไปรวมเป็นหนึ่งบนฐานพลังงานที่บริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นฐานจักรที่ 1 จะมีลักษะณะเป็นวงกลมหมุน จักรมีทั้งหมด 7 ฐาน คือ หน้าผาก กลางอก ใต้ท้องน้อย ก้นกบ กลางสันหลัง ต้นคอ กลางศีรษะ คนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง จักรตรงฐานบางฐานอาจจะไม่ทำงาน แต่พอเราตั้งจิตนิ่งไว้บริเวณฐานใดฐานหนึ่ง ก็จะไปกระตุ้นการทำงานของฐานจักระนั้น ถ้ามีโอกาส ไว้อาตมาจะแนะนำการเดินลมปราณบนฐานจักระทั้ง 7 เพื่อช่วยกระตุ้นให้ฐานพลังงานของจักระอันตรงกับจุดรวมปลายประสาทของอวัยวะบริเวณใกล้เคียงให้ทำงานและแข็งแรงขึ้น ขณะที่ปรากฏภาพวงกลมหมุน แล้วสักพักหายไป นั้นเป็นอาการของจิตเริ่มรวม และเวลาปรากฏภาพอะไรก็ตาม ให้สักแต่ว่ารู้อยู่ห่างๆ ไม่ต้องอยากเข้าไปดู เพราะ ถ้าสงสัยหรืออยากดู จะทำให้จิตเข้าไปเสวยอารมณ์ในภาพที่ปรากฏ ทำให้สติไม่พัฒนาต่อไป และในที่สุดภาพนั้นก็จะหายไป แต่หากสักแต่ว่ารู้อยู่ห่างๆ โดยไม่ให้จิตเข้าไปเสวยอารมณ์อยากรู้อยากเห็นใดๆ สติก็จะพัฒนาต่อ เมื่อสติพัฒนาต่อ จากภาพวงกลมหมุนๆ ก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นความสว่างจากสลัวๆ ไปสว่างมากขึ้นๆทีละน้อย ขณะที่เกิดโอภาสสว่างค่อยๆปรากฏขึ้น ให้ดูด้วยใจที่ปล่อยวาง การปล่อยวางไม่อยาก ไม่ยึดมั่น จะทำให้จิตสว่างขึ้นไปโดยลำดับ แต่หากมีความอยากหรือความยึดมั่น ก็จะเป็นอวิชชาบดบังความสว่าง ทำให้จิตกลับไปสู่ความมืดตามเดิม ฉะนั้น พีงรักษาจิตให้เป็นกลางๆ ด้วยการละนิวรณ์ 5 ความอยาก ความยึดมั่นไปโดยลำดับ ก็จะทำให้การปฏิบัติก้าวหน้าและถึงซึ่งความสว่างหมดจดและความผ่องใสของจิตไปโดยลำดับ

.....................................
ขอยื่ม บทความ ของคุณ ดวงแก้ว
นำมาลง เพื่อ ความกระจ่าง

 

จากประสบการณ์ ของตนเอง
...........
นั่งสมาธิ จิต จะดิ่ง
ปิดตา ..สนิด....
ภายใน..เหมือน โรงหนังจอใหญ่
ภาพ จะค่อยๆๆ ..เปิด
เหมือน ทางเดิน เป็นอุโมงค์
ภาพ จะค่อยๆๆขยายๆๆ
จะค่อยๆ ชัด
บ้างวัน ภาพ จะวิ่งเร็ว
บ้าวัน ภาพ จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ
หาก เรา เฝ้าติด หนัง
จิต จะไม่พัฒนา
แค่เฝ้า ดู แล้ว เจริญสติ ภาวนา ข้าม ขั่นไป
ทุกสิ่ง ไม่เที่ยง
อดีต เปลี่ยนแปลงไม่ได้
เจริญกรรมฐาน ภาวนา เพือน หนทางดับทุกข์

 

โมทนาครับ

คือคนปรกติสมัยปัจจุบันนี่ เอาแค่ให้มองเห็นให้รอดก่อนเถอะครับ...

ให้มีสติ ความสงบ...นอบน้อมในพระรัตนตรัย

 

โมทนาครับ...เป็นการพัฒนาจิตและพัฒนากายไปด้วย

 

โมทนาครับ....

..ผมตีความได้ว่า... เมื่อจิตสงบถึงจุดนี้(อุปจารสมาธิสลับฌานสูงขึ้นไป) .. ให้อย่าไปสนใจในนิมิตมาก ให้วางจิตไว้ที่ความปล่อยวาง ไม่สนใจให้มากเกินไป...เพื่อความเจริญของจิต ตามธรรมชาติของจิตในขั้นนั้นๆ

 

จะว่าไปแล้ว ดูอดีตก็เหมือนดูหนัง
จะอินกับหนังมากไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร บางทีดีใจ เสียใจตามหนัง(บ้า)
การดูหนังดูไว้เพื่อเป็นบทเรียน ดูเอาคติ เพื่อละวาง อันนี้ก็ดีนะ

อนุโมทนาครับ

 

ใช่ค่ะ รู้มาก ทุกข์ มาก
เปลี่ยนแปลง ไม่ได้ ยิ่ง เกรงกลัว ต่อบาป มากขึ้น

 

อนุโมทนาค่ะ ........
กำหนดตัวเป็นผู้รู้ไว้อย่างเดียว จะเห็นหรือได้ยิน กำหนดรู้ไว้อย่างเดียว ไม่ต้องไปสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ชัดไม่ชัดอยู่ที่กำลังใจ

การวางอารมณ์ เพื่อความชัด คือ 1. ตัดร่างกาย ไม่ต้องห่วงร่างกายของเรา ของคนอื่น 2. ตัดการเกิด ไม่อยากเกิดเป็นคน เทวดา ฯลฯ

ที่สำคัญ ขณะ กรรมฐานอยุ่ งดความอยากให้ชัด หรือไม่ชัด

ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เราเห็นคือข้อธรรมะ สอนใจเราเอง.. เพื่อให้เราเห็นทางแห่งความหลุดพ้นเป็นสำคัญ...

 

ล่าสุดไปฝึกญาณ 8 มากับ อ.พรนุช.
เล่นเอาผมหน้าเสีย น้ำตาไหลเลย
ก็เห็นภาพตัวเองกำลังโดนทุบเลยในนรกนะครับ ทุบมือ ทุบหัว โดนหอก เลือดกระจาย ตัวผอม หน้าตาแทบไม่เป็นคน เหมือนเป็นความทรงจำเลยทีเดียว
เหมือนเรานึกขึ้นได้ เหมือนเราเพิ่งผ่านมันมา โหดมากๆ
แต่ก็ดีนะครับที่ทำให้เราไม่อยากหวนกลับไปอีก

ป.ล. อย่าโมทนากันเลยนะครับ นี่เป็นผลของการทำบาป อย่าโมทนาๆๆๆ

 

อีกนิดนึง อ.พรนุช สอนว่า...

เคยเป็นเทวดาเราก็เคยเป็นมาแล้ว แล้วทำไมตอนนี้เป็นคนล่ะ
เคยเป็นพรหมมีอายุยืนยาวก็เคยเป็นมาแล้ว แล้วทำไมตอนนี้เป็นคนล่ะ

ถ้าเป็นเทวดา เป็นพรหม ดีจริงก็ไม่น่ากลับมาเป็นคนอีก นั่นแสดงว่ายังไม่ดีจริง ยังไม่เที่ยง ให้จับเอาพระนิพพานไว้ ไม่ต้องเกิดอีกต่อไปให้มันเป็นทุกข์

สุดยอดๆๆ

 

นั่งแล้วเห็นวงกลมเป็นสีเขียวอ่อน แดงอ่อน ดำปนสว่าง สลับกัน ไม่ไปไหนเลย เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด มาถูกทางรึยังต้องทำไงต่อละ

 

อุ้ยๆๆๆอย่ากได้อย่างเขาบ้าง ดีแล้วครับมาบอกกันเผื่อได้ความรู้หลังเข้าชาญ อันกระทู้ก่อนผมนี้ ยังไม่ไปไหนนะ ยังเริ่มแรกยุ

 

โลภมากมักลาภหาย ไปสบาย ๆ ง่ายก่าเยอะ

 

ครั้งแรก ที่ทำสมาธิได้ ทำไม ไม่เห็นอะไรเลย นอกจาก หายวับ แล้วตั้งอยู่ บอกไม่ถูก วันหลัง ๆ เข้า ๆ ออก ๆ มันจาไม่ซ้ำกันเลย งงอยู่ว่าคือไร แต่ไม่เข้าไปดู ครับ กลัว ๆ บางวันไม่กลัว ไปแบบซุปเปอร์แมนครับเบรค ไม่อยู่5555 เรื่องของจิต นี่ก็แปลกดีนะ แต่ก็ทำให้ปล่อยวางอะไรไปเยอะเหมือนกัน เน้อ ะ จิต วิญญาณมีจริง การเกิดดับก็มีให้เห็น ทุกวัน ทุกข์ สุข น่าเบื่อเน้อะ เคยได้ยินว่า มีพระอรหันต์บางท่านไม่เข้านิพพาน บอกว่าไปที่สูงกว่านิพพาน อีก ไม่ทราบว่า เท็จจริงเป็นเช่นไรครับ ?

 

มีดจะคม ต้องหมั่นลับ ครับ

 

งั้นขอรับมีดมะคมดีกว่าครับ คมๆคงเจ็บแย่

 

ไม่มีที่ไหนสูงกว่า นิพพาน นะค่ะ

เพราะว่า ..ธรรมชาติ เนี้ย แหระโหด มาก
ชาตินี้เป็นคน ..เกิด นึกได้ทำความดี แยะๆๆ ก่อนตายคิดดี
อ้าวไป กินบุญก่อน ..ได้เกิด ชั่นสุงสุด ..เป็นเทพฯ เป็นพรหม ..
พอหมดบุญ ..ตกมาใช้กรรม ในนรก อีก..

จากสูงสุด มาต่ำสุด ..เวรกรรม หากหนีดีๆ ก็หนี พ้น แต่กรรมมันยังอยู่
สูงกว่า ..กรรม ..นู้น นิพพาน ..เลยนะค่ะ

ไม่ใช่ สักแต่ จำคำเค้ามา..
เวียนว่ายตายเกิด..
หาก เกิดมา หยิ่ง จำความดีไม่ได้ ..สร้างแต่กรรม ..ซวยเลยชาตินี้
เกิดมา กรรมเก่า ไม่ล้าง สร้าง กรรมใหม่เพิ่มเข้าไปอีก ..

 

(ping)


น้องมาถูกทาง แล้วนะค่ะ
อย่าพึง เลิก เสียก่อน ..

เอาแค่เข้าสมาธิ ก่อน เรื่องสติกรรมฐาน ค่อย ว่ากัน

ขอเจริญในธรรมนะค่ะ