หลวงพ่อเล่าเรื่อง อดีตของท่านท้าวมหาราชหรือท้าวจตุโลกบาล

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Charls, 2 เมษายน 2010.

  1. Charls

    Charls เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,343
    [​IMG]


    "มาวันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้างๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาลมีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่วก็สุดวิสัยที่จะช่วยได้ก็อดใจไว้ และก็มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคนทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม <O:p</O:p

    ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ<O:p</O:p
    ๑) ท่านท้าวเวสสุวัณคุมด้านทิศเหนือ<O:p</O:p
    ๒) ท่านท้าววิรุฬหกคุมด้านทิศใต้<O:p</O:p
    ๓) ท่านท้าวธตรฐคุมด้านทิศตะวันออก<O:p</O:p
    ๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ

    <O:p</O:pท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์ จะเห็นได้ตามวัด ตามถํ้าจะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ทางด้านหน้าทางเข้า ก่อนที่ท่านจะมาเป็นท่านท้าวมหาราชเขตจาตุมหาราช ถอยหลังไป ๑ ชาติ ในตอนต้นเลยทีเดียวที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา มีแต่ศาสนาพราหมณ์ ท่านมีนามว่า “กุเวรพราหมณ์”เป็นชื่อเดิม ต่อมาท่านเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์มหานครทรงพระนามว่า “พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์”ท่านเกิดรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารครองกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งต่อมาทรงออกผนวชบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรง พระนามว่า “สมเด็จพระสมณโคดม”ท่านมีพระสหายอีก ๒ องค์คือ พระเจ้าปเสนทิโกศลครองกรุงสาวัตถีกับท่านพันธุรเสนารวมเป็น ๔ องค์ เป็นเพื่อนรักกันมาก ต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ สมัยนั้นไปเรียนหนังสือที่เมืองตักศิลาด้วยกัน
    <O:p</O:p
    ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารทรงออกมหาภิเนษกรมณ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่ามีเรื่องราวกับใคร จึงนิมนต์ให้เข้าประทับในเมือง จะมอบอำนาจให้ครึ่งหนึ่งและสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ให้เป็นมหาอุปราช พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า“ไม่ได้หนีใคร ทรงเบื่อความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากความตาย และต้องการเอาธรรมนั้นมา สอนคนอื่น”
    <O:p</O:p
    พระเจ้าพิมพิสารจึงบอกว่า ถ้าพระองค์ทรงบรรลุเมื่อไร ขอมาโปรดท่านก่อน
    <O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าก็ทรงรับ เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ทรงสอนคนมาตามทาง จนกระทั่งถึงกรุงราชคฤห์มหานคร พบพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ก็ทรงเทศน์ พอเทศน์จบปรากฏว่า พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันพร้อมกับคนจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ได้อาราธนาพระพุทธเจ้าเข้าประทับในพระเวฬุวันมหาวิหาร

    <O:p</O:p
    ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้าพิมพิสารไปเฝ้าทุกวัน ได้ถวายทานทุกวัน ฟังเทศน์ทุกวัน จึงมีอานิสงส์ดังนี้คือ
    <O:p</O:p
    การถวายทาน เป็นปัจจัยให้ได้ทิพยสมบัติ<O:p</O:p
    การถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร เป็นเหตุให้ได้วิมานสวยงาม<O:p</O:p
    กำลังความเป็นพระโสดาบันและทรงฌานสมาบัติด้วย เป็นเหตุให้มีกำลัง เมื่อไปเป็นเทวดาก็ทรงอำนาจมาก


    <O:p</O:pเวลาที่ท่านจะตาย ท่านถูกลูกชายคือ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรมาน คือพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกบฏทรยศต่อพ่อ แย่งราชสมบัติแล้วก็ทรมานพ่อ โดยจับขังคุก ต่อมาให้อดข้าว เมื่อท่านยังเดินจงกรมได้ ท่านอยู่ด้วยธรรมปีติแม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส ในที่สุดเขาก็เฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านก็มีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจก็นึกถึงองค์สมเด็จพระจอมไตร ท่านก็มีจิตใจชุ่มชื่น ปวดน่ะปวด แต่ท่านก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน แม้ฐานะจะต่างกัน แต่สภาพจริงๆ มันเหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้นเหมือนกันหมดทุกคน และก็เดินเข้าไปหาความแก่ มีทุกขเวทนา มีการทรมานจากร่างกาย และในที่สุดก็เป็นคนตาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ จะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือคนยากจนก็ตาม มีสภาพเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน

    <O:p</O:p
    พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสารท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

    <O:p</O:p
    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้

    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักเข้าใจว่า ท่านท้าววิรุฬหกและบริวารของท่านเป็นกุมภัณฑ์
    <O:p</O:p
    “กุมภะ”แปลว่า “หม้อ”ท่านจึงแสดงรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกับพ้อมใส่ข้าว ผิวดำปี๋ พุงก็ปลิ้น คอก็สั้น หัวก็โต ฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้งออกจากปาก มีริมฝีปากนูนๆ ตาใหญ่มาก สว่างแวววาวเหมือนกับไฟฉาย มองส่ายไปส่ายมา ทำให้น่ากลัว แต่ความจริงท่านสวยสดงดงามมาก

    ท่านมาบอกอาตมาว่า ในสมัยเป็นมนุษย์ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อาชีพของท่านเป็นคนมีเงินเดือน เป็นหัวหน้าคนกลุ่มใหญ่มีคนใต้บังคับบัญชานับพันคน ท่านบอกท่านเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน เคยเข้าสมาคมกับขุนนางชั้นสูงและกับคนทุกชั้น เพราะท่านมีเมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ท่านถือว่าทุกคนฐานะไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจเท่านั้น นอกจากนั้นท่านมีความต้องการหนังเหนียวยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอาวุธ และสามารถแสดงฤทธิ์ ท่านมีอาจารย์เป็นพระและเป็นฆราวาสก็มี ถ้ามีความดีเป็นกรณีพิเศษ การทำให้หนังเหนียวต้องใช้คาถา ก่อนที่จะใช้คาถาทั้งหมด ท่านต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจ เคารพในพระธรรมคำสอน และเคารพในพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นต้องทำจิตให้มั่นคงโดยภาวนาให้จิตทรงตัว ก็คือ จิตเป็นสมาธินั่นเองถ้าจิตมีสมาธิสูง กำลังอานุภาพที่ต้องการก็จะมีอานุภาพมาก ถ้ากำลังสมาธิตํ่าของที่เรียนมาก็มีอานุภาพตํ่า การท่องคาถาอาคม การปลุกตัว การปลุกของ ต้องทำทุกวันเพื่อความมั่นคง จิตต้องเข้าถึงฌานสมาบัติแต่เวลาที่ท่านตาย ท่านไม่ได้เข้าฌานตาย

    <O:p</O:p
    เมื่อตายแล้วท่านไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ต่อมาก็ขึ้นเป็น เทวดาชั้นอินทกะ (คำว่าอินทกะแปลว่าผู้เป็นใหญ่คือเป็นรองท่านท้าวมหาราช อินทกะนี้มีได้ทิศละพันองค์ พร้อมที่จะเป็นท้าวมหาราชได้ตามความสามารถและวาสนาบารมี ในเมื่อท่านท้าวมหาราชไปจากชั้นนี้ คือจากชั้นจาตุมหาราชไปเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงบ้าง หรือว่าไปเป็นพรหมบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม) จากอินทกะท่านก็เป็นท้าวมหาราช คือท่านท้าววิรุฬหกในปัจจุบันนี้


    ท่านท้าวธตรฐ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันออก

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เห็นท่านท้าวมหาราชมานั่งอยู่ องค์หนึ่งมาตัวสูงเท่ายอดตาล จึงหันไปถามว่า “ใคร” ท่านท้าววิรุฬหกตอบว่า ท่านธตรฐครับพอท่านเข้ามาใกล้ก็เลยถามว่า “ทำไมสูงเหมือนเปรตแบบนี้ล่ะ” ท่านตอบว่า “อย่างนี้เขาเรียกสูงแบบเทวดา ไม่ใช่สูงแบบเปรต” ถามท่านท้าวธตรฐว่า “อดีตของท่านเคยเป็นอะไรมาตอนเป็นมนุษย์” ท่านตอบว่า อดีตผมเป็นพระราชาเมืองพาราณสีครับก็เลยถามท่านว่า เวลานั้นไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นเทวดาได้อย่างไร

    <O:p</O:p
    ท่านตอบว่า เทวดาหรือพรหมไม่จำเป็นต้องนับถือพระพุทธศาสนาเสมอไป พราหมณ์ก็เป็นเทวดาเป็นพรหมได้ เวลานี้ท่านเป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ท่านไม่กลับลงมาเกิดอีกแล้ว


    ท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันตก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วันเดียวกันนั้นอาตมาได้หันไปถาม ท่านวิรูปักษ์ ว่า “อดีตท่านเป็นอะไร” ท่านตอบว่า อดีตผมอยู่ปักษ์ใต้ ประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้ชายไทย ฐานะสูงมากสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ฌานสมาบัติแต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเป็นอินทกะเลย เมื่อท่านวิรูปักษ์องค์เก่าขึ้นไปเป็นพรหม ท่านก็ขึ้นเป็นแทน ท่านเก่งมาก

    <O:p</O:p
    เป็นอันว่าก็ได้ทราบประวัติของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วว่าใครเป็นใคร ทำให้ทราบว่าการเป็นเทวดาก็ไม่หนักสำหรับพวกเรา การเป็นพรหมก็ไม่หนัก การไปพระนิพพานก็ไม่หนัก การไปนรกก็ไม่หนัก ชอบทางไหนก็ไปได้ทั้งนั้น.."


    เนื้อหา จากหนังสือ ตายแล้วไม่สูญ......แล้วไปไหน
    โดย พระราชพรหมยาน (คณิตพร รวบรวม)

    ภาพ จาก http://www.putthawutt.com/html/actrule3-4-01.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2010
  2. Charls

    Charls เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,343
    อดีตของท่านท้าววิรุฬหกพอจะทราบได้ จากหนังสือเล่มอื่นของหลวงพ่อ

    เรียนถามท่านผู้รู้เพิ่มเติมว่า อดีตของท่านท้าวธตรฐ และท้าววิรูปักข์เป็นท่านผู้ใดครับ
     
  3. prapang

    prapang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +956
    เอ่อ... ถ้าจำไม่ผิดท่านท้าววิรูปักษ์ อดีตก็คือ กรมหลวงชุมพร นะ
    ถูกไม่ถูก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะถามท่านผู้รู้ให้นะเจ้าคะ:d
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เว็บทางนิพพาน
    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา


    [​IMG]</O:p>
     
  5. Amine

    Amine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +114
    ท่านท้าวทั้งสององค์ทั้งท่านท้าวธตรฐและท้าววิรูปักษ์ นั้น ผมไม่ทราบว่าก่อนนั้นท่านเคยเกิดเป็นใคร แต่เท่าที่จำไม่ได้ ไม่ใช่กรมหลวงชุมพรนะครับ
     
  6. Charls

    Charls เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,343
    เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ คือท่านท้าววิรุฬหก ครับ อ้างอิงจากหนังสืออ่านเล่น เล่ม ๕ โดย ส. สังข์สุวรรณ (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน) ดังนี้ ครับ


    "ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้วันที่บันทึกก็ยังเป็นวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๑ เป็นการบันทึก ตอนที่ ๖ ของหนังสือเล่มที่ ๕ เรียกว่า หนังสืออ่านเล่น เขียนโดย ส.สังข์สุวรรณ แต่ว่า เวลานี้เขียนไม่ไหว ตาไม่เห็นเส้น ไม่เห็นน้ำหมึก ก็เลยต้องบันทึกเสียงแทน ให้เจ้าหน้าที่ลอกเป็นตัวหนังสือ

    ก็เป็นอันว่าตอนที่แล้ว เรื่องมาขาดตอนลงที่เรื่องราวของท่านพลเรือเอกกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ว่าท่านเป็นเทวดาที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อท่านจริง ๆ เคารพท่านจริง ๆ ขอย้ำตอนนี้นะบรรดาท่านผู้ฟัง ถ้าเชื่อไม่จริง เคารพไม่จริง อย่าลืมว่าท่านเป็นเทวดา ท่านรู้ความรู้สึกของคนท่านจะไม่ยอมช่วย

    มาว่ากันถึงการช่วยเหลือ เขาบนกันทุกอย่างเป็นการช่วยเหลืออาตมาจะนำเรื่องมาคุยให้ฟัง อาตมาก็เคยบน แต่ทว่าบนให้คนอื่นเขาบนเพื่อช่วยเขา ท่านก็ช่วยได้ ถ้าไม่ลืมเรื่องนี้ ก็จะนำมาเล่าให้ฟังเพราะไม่ได้บันทึกมา

    เป็นอันว่า ครั้งหนึ่ง เสริมศรี ส่งสิริ เธอมีความเคารพในกรมหลวงชุมพรฯ มาก มีอะไรขัดข้องเธอก็บน แต่ว่าการบนทุกอย่างของท่านมีผลทุกคราว คนนี้มีความเลื่อมใสมาก ต่อไปเมื่อคนอื่นมีทุกข์ ต้องการให้ท่านกรมหลวงชุมพรฯ ช่วย ก็มาของร้องให้เสริมศรีบน เพราะตนเองจะบนก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะช่วยหรือไม่ช่วยทำผิดหรือทำถูก จิตใจนั้นเคารพแน่ แต่เกรงว่าจะผิดระเบียบ และเสริมศรีก็ช่วยบนให้ และก็มีผลตามนั้นทุกครั้ง เป็นที่น่าอัศจรรย์

    ใครว่าผีช่วยไม่ได้ เทวดาช่วยไม่ได้ บรรดาท่านทั้งหลาย ไม่จริง คนมันไม่ดีเทวดาท่านจะช่วยอย่างไร เทวะ แปลว่า ผู้ประเสริฐ ท่านจะเป็นเทวดาได้ ธรรมะเบื้องต้นของท่านที่ปฏิบัติได้ขั้นแรกคือ หิริ และ โอตัปปะ ก่อนจะตายมีความรู้สึกตัว เกรงกลัวผลของความชั่ว อายความชั่ว เวลานั้นจิตเป็นกุศลธรรม ตายจากความเป็นคน จึงเป็นเทวดา แต่ในเมื่อคนที่จะไปใช้ท่าน หรือต้องการจะเห็นท่าน ต้องการจะให้ท่านช่วย ในเมื่อคนนั้นมันยังนิยมความชั่วไม่อายความชั่ว ไม่เกรงกลัวผลของความชั่ว เป็นคนเลว เทวดา แปลว่า ผู้ประเสริฐ ผู้ประเสริฐก็ไม่กล้าสู้คนเลว ไม่กล้าช่วยคนเลว เพราะเกรงว่าจะเลวไปด้วย อย่างนี้คนเลวบนไม่ได้ผล บอกกันเสียก่อนนะ

    วิธีบน ทีแรกเขาก็บนกันตามความชอบใจ ต่อมาอาตมาถามท่าน ก็ขอพูดกันตรงไปตรงมา เคยคุยกับท่าน ท่านกรมหลวงชุมพรฯ นั้น ท่านมาให้เห็นเป็นปกติ และก็ขอร้องให้ท่านช่วยอะไร ท่านก็ช่วยตามกำลังของเทวดาที่จะพึงช่วยได้ อย่าไปเกณฑ์เทวดาทุก ๆ อย่าง ถ้าจะเกณฑ์ว่าขอเทวดาจงบอกหวยให้ อันนี้ไม่ได้ เกณฑ์ได้แต่ว่าท่านไม่ช่วย อย่างอาตมานี้ขอพูดให้ฟัง

    ท่านปู่ใหญ่ คือ สหัมบดีพรหม เดิมทีเดียวเมื่อท่านเป็นพระในหลายร้อยปีมาแล้ว อาจจะเป็นเกือบพันปีมาแล้ว ท่านชื่อ สิงห์ เป็นพระทรงสมาบัติขั้นสูง และก็เป็นพระอริยเจ้า ต่อมาก่อนหน้าท่านเป็นสหัมบดีพรหม ขณะเป็นรอง ไปถามเรื่องหวยท่าน ท่านเอาเรียงเบอร์มาให้อ่านเลย อ่านเรียงเบอร์ อ่านได้ทุกรางวัล เหมือนกับที่เขาพิมพ์ ทำภาพให้เห็น แต่ท่านบอกว่า ห้ามบอกใครนะ

    แต่ความจริงสังเกตดูแล้วว่า ท่านไม่บอกนี่ตรงทุกที ถ้าบางครั้งท่านจะบอกได้เท่านี้นะ ถ้าพูดเท่านั้นมีผล ถ้าพูดเลยไปตัวเดียวหรือแต้มเดียว หรือว่าประโยคเดียว จะไร้ผลทั้งหมด เวลานี้ท่านก็เลยขอร้อง ปฏิเสธ บอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อยากจะรู้จะให้รู้ แต่ห้ามพูดเด็ดขาด ก็เลยเป็นอันว่า ไม่รู้เสียดีกว่า รู้แล้วพูดไม่ได้ มันอึดอัดใจ

    มาว่ากันถึงเรื่องกรมหลวงชุมพรฯ กันดีกว่า วิธีบน บรรดาท่านพุทธบริษัท ฟังแล้วอาจจะบนกันบ้าง วิธีบนก็คือ

    . ข้าวปากหม้อ คำว่า ข้าวปากหม้อ หมายความว่า ข้าวปากหม้อที่ยังไม่เป็นเดนใคร ตักมา ๑ ถ้วย<O:p</O:p
    . หมูต้ม หมูธรรมดาต้น ประมาณสักครึ่งกิโล ถ้าจนมาก็ชิ้นเดียว อย่าให้เล็กนัก<O:p</O:p
    . ไก่ต้ม ถ้าจนมากมีทุนน้อย ก็ไม่ต้องถึงตัว เอาชิ้นหนึ่งก็ได้ แต่คนมีทุนมากต้องเอาถึงตัว อย่าขี้เหนียวนะ ขี้เหนียวเทวดาไม่ช่วย<O:p</O:p
    . ทองหยิบ ฝอยทอง อย่างละถ้วยเล็ก ๆ ก็ได้ ๒-๓ อันก็ได้นะ<O:p</O:p
    . ขนมจีนน้ำพริก
    <O:p</O:p
    เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ว่าตามพิธีกรรม ถ้าจะบนท่านให้ใช้ของทั้งหมดนี้ก่อนเวลาบน ถวายก่อน เวลาถวายท่านกำหนดว่า เวลาตอนเช้าให้ใช้เวลาก่อน ๒ โมงเช้า ๑๐ นาที หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อยก็ได้ แต่อย่าให้ถึง ๒ โมงเช้า ถ้าจะแก้ตอนบ่าย ตอนเย็นให้ใช้เวลา ๓ โมงเย็น แต่ก่อนเวลา ๓ โมงเย็นสัก ๑๐ นาที เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งไม่ต้องใช้กัน เวลานี้ท่านเป็น วิรุฬหก เมื่อก่อนเป็น วิรุฬหก ชอบให้เขาแก้บนด้วยน้ำตาลเมา แต่เดี๋ยวนี้บอก ไม่เอาแล้ว ลูกน้องมันมาก เดี๋ยวลูกน้องมันเมา มนุษย์จะมีความลำบาก เทวดาเมานี่ยุ่ง แต่ความจริงเทวดาท่านไม่กินน้ำตงน้ำตาลหรอก ก็ว่ากันเรื่อยเฉื่อยไป เป็นสัญลักษณ์ว่าสมัยเป็นคนชอบอะไรก็ขออย่างนั้น"
     
  7. prapang

    prapang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +956
    ขอโทษ ขอโทษ จำผิดอ่ะ pig_cryy
    โปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วยเถิด
    ไปถามท่านผู้ ที่คิดว่ารู้ ท่านก็ไม่รู้ง่ะ[Embarrass
    แล้วเราจะรู้กันไม่คะเนี๊ยะ
     
  8. prapang

    prapang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +956
    ขออนุญาติเรียนเจ้าของกระทู้ว่า
    ได้เรียนถามคุณลุงหมอสมศักดิ์ หรือยังค่ะyimm
    ท่านน่าจะรู้น๊า
     
  9. Charls

    Charls เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,343
    ยังไม่มีโอกาสเลยครับ
     
  10. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    อนุโมทนาสาธุอย่างยิ่ง ได้ความรู้มากมายเลยจ้ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...