พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิทานสอนใจ : กล่องกระดาษของพ่อ
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000017452
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กุมภาพันธ์ 2553 10:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นิทานสอนใจ : กล่องกระดาษของพ่อ

    มีพ่อลูกคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ชายป่า พ่อมีอาชีพปลูกผักและเก็บไปขายในเมือง ส่วนลูกชายอายุ 10 ขวบมีหน้าที่สำคัญคือไปโรงเรียนและตั้งใจศึกษาหาความรู้

    ลูกชายของคนปลูกผักเป็นเด็กเรียนดีมีมารยาท เป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์และผู้ใหญ่ที่พบเห็น แต่มาในระยะหลัง ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่า ลูกมักจะกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง เหมือนมีเรื่องขุ่นมัวในใจ จึงเรียกเข้ามาคุยด้วยในเย็นวันหนึ่ง


    "ลูกรัก ระยะหลังมานี้พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยมีความสุขนัก หน้าตาของลูกบึ้งตึงไม่ชวนมอง โดยเฉพาะเวลาที่กลับจากโรงเรียน มีอะไรเกิดขึ้นกับลูก บอกความจริงกับพ่อมาเถิด"

    ลูกชายไม่คิดปิดบังพ่อของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาเห็นว่า พ่อเหนื่อยเพราะทำงานหนัก จึงไม่อยากรบกวนให้ต้องมากังวลด้วยเรื่องของตนอีก แต่เมื่อพ่อเอ่ยปากถามมาเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องพูดความจริงออกไป

    "ที่ห้องของผมมีนักเรียนย้ายมาใหม่ครับ เขาเป็นลูกคนมีเงิน แต่ชอบดูถูกคน และมักรังแกเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมสอบได้คะแนนดีและได้รับคำชมจากครูบ่อย ๆ เขาก็มักพูดจาถากถาง และคอยกลั่นแกล้งผมอยู่ตลอดเวลา" ลูกชายระบายให้พ่อของเขาฟังอย่างคับแค้นใจ

    "แล้วลูกทำอย่างไรเมื่อโดนเขาแกล้ง" ผู้เป็นพ่อถามต่อ

    "ผมพยายามไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่ยอมลดละ ผมคิดว่าผมคงทนเขาไปได้อีกไม่นานหรอกครับพ่อ สักวันผมจะต่อยเขา เอาให้เลือดของเขาไหลออกมาล้างปากเสีย ๆ ของเขาบ้าง"


    พูดจบ ผู้เป็นลูกก็ตกใจวูบขึ้นมาทันที เพราะนึกได้ว่าตนเองเผลอใช้คำพูดที่รุนแรงออกไป เขาเหลือบมองหน้าพ่อ คิดว่าพ่อจะต้องโกรธมากแน่ ๆ เพราะพ่อสอนเขาให้เป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษ ไม่ทำตัวเกกมะเหรกเกเร หาเรื่องชกต่อยกับใคร

    ทว่า พ่อของเขากลับไม่ได้พูดหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ลูกชายชั่งใจดูท่าทีของพ่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า

    "ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบให้ผมก้าวร้าว แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้ไอ้คนที่ทำกับผมรู้จักความเจ็บปวดและอับอายบ้าง มันจะได้รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง"

    ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มน้อย ๆ เขาบอกแก่ลูกด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า

    "อีกสามวันจะเป็นวันเกิดครบสิบเอ็ดขวบของลูก ตัวพ่อเองก็ยากจน ไม่เคยให้ของขวัญอะไรลูกเลย แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อจะให้ของขวัญแก่ลูก"

    ลูกชายรู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีใจมาก และเฝ้านับวันรอให้วันเกิดในอีกสามวันมาถึงเร็ว ๆ

    ครั้นเมื่อถึงวันเกิดของลูกชาย คนปลูกผักก็นำของขวัญมามอบให้แก่ลูกชายของเขาตามสัญญา เป็นกล่องกระดาษสีขาว และสีดำ ขนาดใหญ่ อย่างละ 1 กล่อง

    "พ่อครับ ทำไมต้องให้ของขวัญแก่ผมตั้งสองชิ้นล่ะครับ ถึงผมจะอยากได้ของขวัญจากพ่อ แต่แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอแล้ว" ลูกชายกล่าวด้วยความเกรงใจ ด้วยรู้ว่าพ่อขายผักแต่ละครั้งได้เงินไม่มากนัก

    "ลูกรัก พ่อตั้งใจมอบของขวัญให้ลูกเช่นนี้เอง เพราะมันจำเป็นแก่ตัวลูกทั้งสองกล่อง จงรับไปจากพ่อเถิด"

    ลูกชายก้มลงกราบเท้าพ่อและกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นเขาจึงลงมือแกะเชือกที่ผูกกล่องกระดาษสีขาวออก แต่ก็พบว่า ในกล่องสีขาวนั้น ไม่มีอะไรอยู่เลย เขาหันไปมองหน้าพ่อเป็นเชิงคำถาม

    "เปิดกล่องสีดำด้วยสิลูกรัก" พ่อของเขากล่าวแทนคำตอบ

    ลูกชายรีบแกะเชือกที่ผูกกล่องสีดำออก แต่ในกล่องสีดำก็ไม่มีอะไรเลยเช่นเดียวกับกล่องสีขาว นอกจากรูขนาดใหญ่ที่ถูกเจาะเอาไว้ตรงก้นกล่องเท่านั้น

    "พ่อครับ ไม่มีอะไรอยู่เลยนี่ครับ" ลูกชายบอกกับพ่อของเขา "พ่อลืมใส่ของลงไปหรือเปล่าครับ หรือเพราะว่ากล่องกระดาษสีดำก้นรั่ว ของที่พ่อใส่ไว้ก็เลยหล่นหายไปโดยที่พ่อไม่รู้ครับ"

    ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายพร้อมกับบอกว่า

    "พ่อคงให้ของขวัญแก่ลูกได้แค่กล่องกระดาษสองใบนี้ แต่ของที่อยู่ข้างใน ลูกจะต้องเป็นผู้ใส่มันลงไปเอง กล่องกระดาษสีขาวเป็นกล่องแห่งความสุข ต่อไปนี้ เมื่อไรก็ตามที่ลูกได้พบกับสิ่งดี ๆ หรือเรื่องที่ทำให้ลูกมีความสุข ขอให้ลูกเขียนมันลงไปในเศษกระดาษและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีขาว ส่วนกล่องสีดำคือกล่องแห่งความทุกข์ ไม่ว่าอะไรที่ทำให้จิตใจของลูกเป็นทุกข์ มัวหมอง ให้ลูกเขียนและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีดำ แล้ววันหนึ่ง เราจะมาเปิดกล่องทั้งสองใบนี้ดูด้วยกัน"

    แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้ทำเช่นนี้ แต่ลูกชายก็ยอมทำตามคำขอของพ่อแต่โดยดี ทุก ๆ วันเขาจะนำเศษกระดาษมากมายที่เขียนเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตหย่อนลงไปในกล่องสีขาว และเอาเศษกระดาษอีกมากมายที่เขียนเรื่องราวไม่ดีหย่อนลงไปกล่องสีดำ โดยผู้เป็นพ่อคอยเฝ้ามองการกระทำนี้อยู่เงียบ ๆ

    สามเดือนผ่านไป เย็นวันหนึ่งลูกชายกลับมาจากโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าวันไหน ๆ เขาโยนกระเป๋านักเรียนลงบนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว และทำท่าจะผลุนผลันออกจากบ้านไปอีกครั้ง แต่คนปลูกผักสังเกตเห็นก่อน เขาปราดเข้าไปยุดตัวลูกชายไว้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    "ผมทนไม่ไหวแล้วครับพ่อ ไอ้คนเลวคนนั้นมันดูถูกพวกเรา มันว่าพ่อเป็นแค่คนปูกผักยากจน มันว่าเราสองคนเป็นคนชั้นต่ำไม่มีเกียรติ แล้วมันยังขโมยหนังสือเรียนของผมไปทิ้งในถังขยะด้วย ผมจะไปจัดการมัน จะทำให้มันเจ็บและจำไปจนตายเลยที่มันบังอาจมาดูถูกพ่อ"

    คนปลูกผักไม่ได้โกรธตามลูกชาย เขาเพียงแต่ถามลูกว่า "วันนี้ลูกเขียนเรื่องสุข และทุกข์ใส่ในกล่องสีขาวและกล่องสีดำหรือยัง"

    ลูกชายประกาศเสียงกร้าวทันทีว่า "ผมจะไปจัดการไอ้คนนั้นก่อน ให้มันรู้ว่าเราจะไม่ยอมให้มันมาดูถูกเราได้อีก"

    "ลูกต้องไปเขียนก่อน" พ่อบอกเสียงเรียบ "เพราะวันนี้เราจะเปิดกล่องนั้นออกดูด้วยกัน"

    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้เปิดกล่องพวกนั้นในเวลานี้ด้วย แต่เขาไม่ใช่เด็กดื้อ จึงยอมข่มอารมณ์โกรธลงชั่วคราวแล้วทำตามที่พ่อบอก

    หลังจากหย่อนกระดาษความสุขความทุกข์ลงในกล่องกระดาษสีขาวสีดำเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นพ่อจึงบอกให้ลูกชายยกกล่องกระดาษสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน

    "โอ้โห แค่สามเดือนที่ผมใส่เศษกระดาษลงไป ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้กล่องสีขาวหนักได้ขนาดนี้" ลูกชายอุทานอย่างคาดไม่ถึง

    ผู้เป็นพ่อยิ้ม และบอกว่า "ทีนี้ลูกไปยกกล่องสีดำมาวางตรงนี้ด้วยสิ"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "กล่องสีดำน่าจะหนักกว่านี้อีกนะครับ เพราะว่าผมใส่เรื่องไม่ดีของคนที่ชอบแกล้งผมเอาไว้มากทีเดียว"

    แต่ทันทีที่ลูกชายยกกล่องกระดาษสีดำขึ้นจากที่ตั้งเดิมของมัน เศษกระดาษมากมายที่เคยอัดแน่นอยู่ภายในก็ร่วงพรูออกมาจากก้นกล่อง บัดนี้ กล่องกระดาษสีดำก็เบาหวิวไร้น้ำหนัก เพราะไม่มีอะไรคงเหลืออยู่ในนั้นแล้ว

    ลูกชายหันไปมองหน้าพ่อ

    "ผมลืมไปเสียสนิทเลยครับว่ากล่องใบนี้มีรูอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะเก็บเศษกระดาษพวกนี้ไปใส่กล่องใบใหม่นะครับ"

    แต่ผู้เป็นพ่อบอกว่า "เก็บไปทำไมล่ะลูก เมื่อมันร่วงออกมาจากกล่องแล้วมันก็คือขยะ ใส่กลับเข้าไปไม่ได้อีก ลูกไปเอาไม้กวาดมากวาดมันทิ้งไปให้หมดเถิด ต่อไปกล่องแห่งความทุกข์ของลูกจะได้ว่างเปล่า ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่อีก ในขณะที่กล่องแห่งความสุขของลูกจะเต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา"

    "อันที่จริง เมื่อลูกบอกพ่อว่า ลูกทนคนที่กลั่นแกล้งทำร้ายลูกไม่ไหวนั้น พ่อก็ไม่เห็นว่าทำไมลูกจะต้องทนเขาด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องทนเลย เพียงแค่ลูกไม่เก็บเอาสิ่งแย่ ๆ ที่เขาทำกับลูกมาขังไว้กับตัวเอง ไม่ต้องไปทำความรู้จักมัน ความทุกข์นั้นก็ระรานหัวใจของลูกไม่ได้ ดูในกล่องสีขาวสิลูก ความสุขความภูมิใจของลูกตั้งมากมายก็อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำไมลูกถึงมองข้ามไป ละทิ้งความทุกข์ซึ่งไร้ประโยชน์กับชีวิตของลูก แล้วอยู่กับสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นสุขไม่ดีกว่าหรือ"


    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างอัศจรรย์ใจ เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของกล่องกระดาษสองใบนั้นอย่างแจ่มชัดในวันนี้เอง ความโกรธขึ้งที่มีต่อเพื่อนคนนั้นค่อย ๆ จางหาย หัวใจผ่อนคลายไม่บีบรัดเหมือนเมื่อครู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะกล่องแห่งความทุกข์ของเขาว่างเปล่าแล้วนั่นเอง

    บทสรุปของผู้แต่ง

    ช่างน่าฉงนจริง ๆ ที่คนเรามักจะจดจำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดได้แม่นยำและยาวนานกว่าความสุขอีกตั้งมากมายที่เราเคยรู้จัก สิ่งที่คนปลูกผักมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายไม่ใช่แค่กล่องกระดาษสีขาวหรือสีดำ แต่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข ด้วยการละทิ้งความทุกข์แล้วทำความรู้จักกับความสุขที่มีให้มากกว่าเดิม เพียงการให้ที่แสนจะธรรมดาครั้งเดียวนี้ก็ทำให้ลูกของเขารู้จักความสุขไปจนตลอดชีวิต

    เราอาจจะเลี่ยงคนสกปรกที่ชอบโยนขยะและความโสโครกใส่หน้าบ้านเราไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ก้มลงเก็บมันเข้ามาไว้ในบ้านและกวาดมันทิ้งไปอย่างไม่แยแสได้ แน่นอนว่าการรับมือกับคนพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้าเราทำได้ ต่อไปความสกปรกก็จะหายไปจากหน้าบ้านของเราเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย

    ขอบคุณนิทานดี ๆ จากหนังสือด้วยรักบันดาล นิทานสีขาว เล่าเรื่องโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ลืมแจ้งครับธรรมดาผมจะไม่ย้ำแจ้งครั้งเดียวสั้นพอครับ ผมแจ้งเรื่องที่ยุโรป วันรุ่งขึ้น นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และเนชั่นก็ลงข่าวหน้าหนึ่งเลยว่าให้ระวังหนี้ของบริษัท ยุโรป ก็ตามนั้นครับ หุ หุ
     
  3. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ผมเดาเอาว่าฟ้าหลังฝนเมื่อเข้าพฤษภาคมแล้วครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ผมนำเรื่องของอาหารการกิน ไปลงที่กระทู้ 108 เคล็ดกิน ในหมวด ท่องเที่ยว - อาหารการกิน

    PaLungJit.com > ทั่วไป > ท่องเที่ยว - อาหารการกิน > http://palungjit.org/.76/108-เคล็ดกิน.226035/

    ลองไปหาอ่านกันดูครับ

    หมายเหตุ หากเป็นตัวหนังสือที่มีเส้นใต้ จะเป็นลิงค์ทั้งหมดครับ

    .
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มันต้องคม-ชัด-ลึกอย่างนี้สิครับคุณน้องนู๋..:cool::cool:
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 39 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 36 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, chantasakuldecha+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนค่ำๆครับ

    [​IMG] [​IMG]



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8-2-53 sit.JPG
      8-2-53 sit.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • 8-2-53 pra.JPG
      8-2-53 pra.JPG
      ขนาดไฟล์:
      168.4 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2010
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ทางรูปแบบของเวลานี่ขอไตร่ตรองก่อนครับ เร็วไปที่จะแจ้งครับ อาจไม่ใช่ครับ หุ หุ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    มาแจ้งความคืบหน้าของล็อกเก็ต

    พี่สิทธิพรแจ้งว่า ล็อกเก็ตที่ปรับปรุงรูปแบบใหม่ สวยงามมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซึ่งในวันนี้ ผมจะดำเนินการโอนเงิน ประมาณ 50 % ให้กับพี่สิทธิพรก่อน

    สร้างล็อกเก็ต จำนวน 56 องค์(ตามที่ได้จอง) ราคาองค์ละ 830 บาท รวมจำนวนเงิน 46,480.-บาท ผมจะดำเนินการโอนเงินจำนวน 24,480.-บาทให้กับพี่สิทธิพร ส่วนที่เหลือ 22,000 บาท ผมจะโอนให้หลังจากที่ได้จัดสร้างล็อกเก็ตเรียบร้อยแล้ว

    ขอบพระคุณพี่สิทธิพร ที่ได้ช่วยเป็นธุระให้ครับ

    .
     
  9. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    โมทนา สาธุ สาธุ อยากเห็นเร็วจังเลย
     
  10. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ตราสารหนี้

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->[​IMG]
    ตราสารหนี้ หรือ Fixed Income Securities คือ ตราสารทางการเงิน ที่ผู้ออกตราสาร ซึ่งเรียกว่า ผู้กู้ หรือ ลูกหนี้ มีข้อผูกพันทางกฎหมายว่าจะจ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ และเงินต้น หรือ ผลประโยชน์อื่นๆ ตามกำหนดในตราสารให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งเรืยกว่า เจ้าหนี้ หรือ ผู้ให้กู้ เมื่อครบกำหนดที่ตกลงกันไว้ โดยทั่วไปตราสารหนี้ในตลาดทุนมักจะหมายถึง ตราสารหนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป


    [แก้] องค์ประกอบของตราสารหนี้

    • มูลค่าที่ตราไว้ Par Value
    หมายถึง มูลค่าเงินต้นที่ระบุไว้ในตราสารหนี้แต่ละหน่วยที่ผู้กู้ จะต้องชำระคืนให้กับผู้ถือตราสารหนี้นั้น เมื่อครบกำหนดชำระ มูลค่าดังกล่าวอาจลดลงเมื่อมีการทยอยจ่ายคืนเงินต้น
    • อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว Coupon Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ออกมีภาระจะต้องจ่ายให้กับผู้ถือตราสารหนี้นั้นๆ ตามงวดการจ่ายดอกเบี้ยที่กำหนดตลอดอายุของตราสารหนี้นั้น
    • งวดการจ่ายดอกเบี้ย Coupon Frequency คือ จำนวนครั้งของการดอกเบี้ยต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผู้ออกตราสารหนี้ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะกำหนดให้มีการจ่ายดอกเบี้ยทุกครึ่งปี
    • วันครบกำหนดไถ่ถอน Maturity Date หมายถึง วันหมดอายุของตราสารหนี้ ที่ผู้ออกจะต้องจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยงวดสุดท้าย (ถ้ามี) ให้แก่ผู้ถือ
    • ชื่อผู้ออก Issuer Name
    • ข้อสัญญา และประเภทของตราสารหนี้ Covenants
    หมายถึง เงื่อนไข สิทธิแฝง และข้อมูลที่ระบุ ซึ่งผู้ถือจะต้องปฏิบัติ หรืองดเว้นการปฏิบัติตลอดอายุของตราสารหนี้นั้น เช่น การดำรงสัดส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกินอัตราที่กำหนด การให้สิทธิในการไถ่ถอนตราสารนั้นๆ ก่อนกำหนดตามที่ระบุไว้ เป็นต้น

    ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้สนใจตราสารหนี้ จากวิกิพีเดียครับ
    ต่อไปจะเป็นdurationครับ
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อายุตราสารหนี้

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    (เปลี่ยนทางมาจาก ดูเรชั่น)
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->อายุตราสารหนี้ (อังกฤษ: Bond duration) เป็นระยะเวลาการจ่ายคืนเงินเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักด้วยกระแสเงินในแต่ละงวด ซึ่งการตีความของดูเรชั่นอาจเปรียบเสมือนกับอายุคงเหลือของตราสารหนี้นั้นๆ แต่ดูเรชั่นได้คำนึงถึงจำนวนเงินที่ตราสารนั้นจ่ายให้แก่ผู้ลงทุนในแต่ละงวดด้วย ทำให้การพิจารณาความเสี่ยงเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ตราสารหนี้ที่จ่ายอัตราคูปองเท่ากับศูนย์ (zero-coupon bond) มีอายุคงเหลือ 2 ปี กับตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือ 2 ปีจ่ายคูปองในอัตรา 3% ต่อปี ถ้าหากความเสี่ยงด้านเครดิต และ yield-to-maturity ของตราสารทั้งสองเท่ากัน ผู้ลงทุนย่อมที่จะสนใจตราสารที่จ่ายคูปองในอัตราที่สูงกว่า
    <TABLE class=toc id=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>[แก้] ประเภทของดูเรชั่น

    [แก้] Macaulay duration

    <DL><DD><DL><DD>[​IMG] </DD></DL></DD></DL>
    • n = จำนวนงวดทั้งหมดของตราสารหนี้
    • t = งวดที่ของกระแสเงิน
    • C = กระแสเงินในแต่ละงวด
    • M = กระแสเงินที่จ่ายตอนวันครบกำหนด (ส่วนใหญ่จะเป็นมูลค่าที่ตรา)
    • i = อัตราคิดลด (ร้อยละต่องวด)
    • P = ราคาของตราสารหนี้
    • ค่าที่คำนวณได้จะมีหน่วยเป็นจำนวนงวด
    [แก้] Modified duration

    <DL><DD><DL><DD>Modified duration = Macaulay duration / (1+i) </DD></DL></DD></DL>เป็นการแปลงค่า Macaulay duration โดยดูว่าหากอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงจะกระทบต่อค่าดูเรชั่นอย่างไร
    [แก้] ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าดูเรชั่น

    กระแสเงินที่จ่ายในแต่ละงวดมีผลต่อค่าดูเรชั่น โดยตราสารหนี้ที่มีการจ่ายกระแสเงินในงวดแรกๆ เป็นจำนวนมากย่อมมีค่าดูเรชั่นน้อยกว่าตราสารที่มีการจ่ายกระแสเงินในงวดหลังๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ตราสารหนี้ที่จ่ายคูปองเท่ากับศูนย์จะมีค่า Macaulay duration เท่ากับอายุคงเหลือของตราสารนั้น จึงเห็นได้ว่าตราสารหนี้ที่มีอัตราคูปอง และ yield-to-maturity ต่ำ ย่อมมีค่าดูเรชั่นสูงกว่าตราสารหนี้ที่มีอัตราคูปอง และ yield-to-maturity สูง
    [แก้] การใช้งานค่าดูเรชั่น

    ดูเรชั่นช่วยในการวัด sensitivity ของตราสารหนี้นั้นๆ ว่าหากอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงไปในขนาดเล็กๆ เช่น 1 basis point ซึ่งสามารถคำนวณได้จากความสัมพันธ์
    dP/P = - D * dy
    D = Modified duration
    การใช้ดูเรชั่นในการวัดความผันผวนของตราสารหนี้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยขนาดเล็กมากๆ เท่านั้นเพราะไม่เช่นนั้นค่าดูเรชั่นจะไม่สามารถจับการเปลี่ยนแปลงที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้งได้ จึงต้องมีการใช้ค่า convexity มาช่วยวัดด้วย
    [แก้] ตัวอย่าง

    ถ้าอัตราดอกเบี้ยในตลาดมีค่าร้อยละ 5 ต่อปี พันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี มีอัตราคูปองร้อยละ 3 ต่อปี จะมีดูเรชั่นเท่ากับ 5.775 และ zero-coupon bond ที่มีอายุและดูเรชั่นเท่ากับ 5.775 งวด หาก อัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น 1 จุดเบสิส ราคาของตราสารหนี้ทั้งสองจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
    <TABLE class=wikitable><TBODY><TR><TH></TH><TH>ราคาเดิม</TH><TH>ราคาใหม่</TH><TH> % ราคาเปลี่ยนแปลง</TH></TR><TR><TD>พันธบัตรรัฐบาล</TD><TD>944.92</TD><TD>944.65</TD><TD>-0.028%</TD></TR><TR><TD>zero-coupon bond</TD><TD>1000.00</TD><TD>999.72</TD><TD>-0.028%</TD></TR></TBODY></TABLE>จะเห็นว่าตราสารหนี้ที่มีดูเรชั่นเท่ากัน แม้ว่าจะมีการจ่ายคูปองที่ต่างกัน จะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยตลาดที่เท่ากัน
    [แก้] อ้างอิง

    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 62/1000000Post-expand include size: 279/2048000 bytesTemplate argument size: 83/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:141006-0!1!0!!th!2 and timestamp 20100209031639 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89".
    จากวิกิพีเดียเช่นกันครับ เป็นดูเรชั่นที่ผมแจ้งไว้ไงครับ หุ หุ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ขอบคุณครับ

    มีการบ้านอีกแล้วครับ

    แต่ว่า น่าจะน้อยกว่าการบ้านท่านโดแน่เลย เหอๆๆๆ

    .
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่า...ใช่เลยครับนี่คือตัวอย่าง อุตสาหกรรมในครัวเรือนครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ่า รูปนี้ไม่มี DELL ครับ
    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2953495", true); </SCRIPT> , คุณ:::เพชร::: ครับ แล้วตกลงว่ารูปนี้ไม่มี DELL ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ

    [​IMG]

    เอ้ย ไม่ใช่

    ต้องรูปนี้ไม่มีDELL

    [​IMG] [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • somdej.JPG
      somdej.JPG
      ขนาดไฟล์:
      18.1 KB
      เปิดดู:
      77
    • somdej 1.JPG
      somdej 1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.6 KB
      เปิดดู:
      107
    • 9-2-53 11-24.JPG
      9-2-53 11-24.JPG
      ขนาดไฟล์:
      21.9 KB
      เปิดดู:
      143
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เรียนพี่สิทธิพร

    ผมได้โอนเงินไปเรียบร้อยแล้วครับ

    ขอบคุณครับ



    .
     
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้... [​IMG] [​IMG] กลับมาอีกรอบแล้ว :)
     
  20. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    ... เท่ากับ พระพุทธคุณ ๕๖ ประการ (พระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ) พอดีเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...