ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญโรงทาน วัดหลวงปู่สิน วัดระหารใหญ่

เคยไปกราบหลวงปู่จักรเพียง 1 ครั้งไม่นานมานี้ ตอนนั้นหลวงปู่ยังแข็งแรงมากและที่ผ่านมาก็ได้ยินข่าวว่าหลวงปู่อาพาธแต่ไม่เป็นอะไรมาก และว่าจะไปงานครอบครูที่จะถึงนี้อีกครั้ง แต่มาถึงวันนี้หลวงปู่จักรละสังขารแล้ว ไม่คิดว่าหลวงปู่จะจากเราไปเร็วขนาดนี้ ตอนแรกก็ไม่เชื่อกลัวจะเป็นข่าวไม่ได้กรองเลยโทรไปถามที่วัดเพื่อความแน่นอน....
หลวงปู่จักรละสังขาร เหลือไว้เพียงคุณงามความดีที่คงทน ลูกศิษย์ทุกคนน้อมกราบอาลัยหลวงปู่จักร

 

ขอบคุณที่แจ้งข่าวมาครับพี่ pipat_san

 

ศีล 5 ต้องรักษาทุกวันนะครับผม อนุโมทนาสาธุครับท่าน

 

เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดที่พึ่งทราบข่าวและเป็นศิษย์หลวงปู่จักรก็ขอเชิญร่วมกันทำความดีรักษาศีล5 เพื่อทำบุญอุทิศบุญกุศลให้หลวงปู่จักกันนะครับ และใครที่ได้ไปรดน้ำศพหลวงปู่จักรถ้าสะดวกก็เก็บภาพมาฝากกันบ้างก็ดีครับ

ศิษย์มีครู ไม่หลบหลู่ครูบาอาจารย์ ย่อมเจริญ
ศรัทธาไม่มี บารมีไม่เกิด

 

ขอนมัสการหลวงปู่ท่านด้วยเศียรเกล้าครับ ยังไม่มีโอกาสไปกราบท่าน ก็กราบไปทางใจนี่แหละครับ จิตเราตั้งมั่นแล้วย่อมกราบได้ถึงท่านแน่

 

สวัสดีวันเสาร์ครับ

 

มาทำงานด้วยหรอครับ

 

ทำงานอยู่บ้านครับ เลยมีเวลาว่าง

 

สวัสดีวันทำงานครับ เดี๋ยววันจันทร์มาเที่ยวงานกวนข้าวทิพย์กันต่อครับ

 

หลวงปู่ครูบาดวงดี เกจิดังแห่งล้านนา 5แผ่นดินสิ้นแล้ว​

​

เมื่อเวลา 06.37 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต พระเถระผู้ใหญ่อายุ 103 ปี ซึ่งมีพรรษา 83 สูงที่สุดของประเทศไทย เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่ห้องไอซียู ชั้น 4 อาคารศรีพัฒน์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หลังเข้ารับการรักษาตัวกับ น.พ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตและความดันโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยอาการอาพาธของหลวงปู่ดวงดีเริ่มทรุดลงตั้งแต่บ่ายวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งทีมแพทย์ได้พยายามฟอกไตแต่ร่างกายไม่ยอมตอบสนองและมรณภาพลงด้วยอาการไตวายเฉียบพลันช่วงเช้ามืดวันนี้ พระปลัดธีระพงษ์ ธัมมธโร รองเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลและปรนนิบัติหลวงปู่ เปิดเผยว่า นับจากคณะศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาได้นิมนต์หลวงปู่เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 กันยายน 2552 จนอาการดีขึ้นเป็นลำดับและหลวงปู่ได้เดินทางกลับมาพำนักที่วัดท่าจำปีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมานั้นโดยงดเว้นกิจนิมนต์ทุกอย่างเพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ในวันที่ 19 มกราคม 2553 หลวงปู่เริ่มมีอาการความดันโลหิตต่ำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสันป่าตองแต่อาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับหลวงปู่อาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ มีแผลในลำไส้ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จึงย้ายเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงแก่มรณภาพในที่สุด นายจำลอง กิตติศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ถือเป็นความสูญเสียของชาวพุทธ เพราะหลวงปู่เป็นพระเถระผู้ใหญ่ระดับพระราชาคณะ อย่างไรก็ตามในเวลา 13.00 น.จ.เชียงใหม่ร่วมกับคณะสงฆ์จะได้อารธนาศพหลวงปู่ครูบาดวงดีออกจากโรงพยาบาลฯ ไปยังวัดท่าจำปี เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลและรอประกอบพิธีขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 16.00 น.วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ โดยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ จะเป็นประธานในพิธีสรงน้ำหลวงอาบศพ สำหรับประวัติหลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง บิดาชื่อพ่ออูบ มารดาชื่อนางจั๋นติ๊บ ซึ่งมีอาชีพทำไร่ทำนา หลวงปู่ถือกำเนิดในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 8 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน โดยหลวงปู่เป็นคนที่ 7 ซึ่งทั้งหมดถึงแก่กรรมหมดแล้ว ในช่วงวัยเด็กติดตามบิดามารดาไปทำบุญกับครูบาศรีวิชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งครูบาศรีวิชัยมีเมตตาให้พ่อแม่พามาบวช โดยทำนายว่าต่อไปบิดามารดาจะได้กราบไหว้ ซึ่งต่อมาได้ไปเป็นลูกศิษย์ครูบาโปธิมา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี จนกระทั่งอายุ 13 ปี จึงบรรพชาที่วัดทุ่งสะโตก ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับครูบาศรีวิชัย และสามเณรดวงดีได้ถูกส่งตัวเข้ามาปรนนิบัติและรับการอบรมสั่งสอนจากครูบาศรีวิชัย ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหารและวัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งหลวงปู่ดวงดีอุปสมบทเป็นพระได้ 12 พรรษา ครูบาศรีวิชัยจึงมรณภาพลงในปี 2481 โดยหลวงปู่ดวงดียังเจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยด้วยการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกเมื่ออายุได้ 42 ปี พรรษา 22 และได้รับการขนานนามว่า ตุ๊เจ้าตนบุญวิเศษแห่งล้านนา มีลูกศิษย์จำนวนมาก สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2518 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่พระครูสุภัทรสีลคุณ พ.ศ.2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุย่าง 102 ​

 

ขอเชิญเพื่อนๆ พี่ๆ ทำบุญตักบาตรในวันที่ 7/02/10 เพื่อุทิศบุญกุศลให้กับครูบาอาจารย์อันได้แก่ หลวงปู่จักร และครูบาดวงดี ซึ่งเป็นพระที่เต็มไปด้วยเมตตา ปัญญาและศีลอันบริสุทธิ์ และพรุ่งนี้เป็นวันพระก็ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร ทำสังฆทาน หรือทำดีเพื่อครูบาอาจารย์ที่เราเคารพและศรัทธากันครับ

 

ใบไม้ ร่วงหล่นทีล่ะใบ

 

อาลัยท่าน ครับ
ปีนี้
หลายอาจารย์
ดับขันธ์

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันแรกของการทำงาน เดี๋ยววันนี้จะพาเที่ยวงานกวนข้าวทิพย์กันต่อในช่วงเย็นนะครับ และค่ำคืนนี้จะมีอะไรพิเศษ.... ต้องคอยติดตามคืนนี้ครับ

 

หลังจากพระฉันอาหารเพลแล้วก็ได้มีการแจกทุนให้กับนักเรียน ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม​

​

หลังจากแจกทุนเสร็จก็เลยเก็บภาพสวยๆ มาฝากกัน​

​

ส่วนข้าวทิพย์ หลังจากปลุกเสกเสร็จแล้วก็นำไปวางไว้หน้าพระพุทธรูปอีกครั้ง เห็นแล้วต้องบอกว่าเจตนาและพิธีการเข้มขลังมาก​

​

 

มาเยี่ยมครับ...

 

เวลา 17.19 น. เริ่มพิธีนพเคราะห์ พระพิธีธรรม ทำพิธีสวดบูชาเทพยดานพเคราะห์ ทั้ง 8 วัน สวดพระอภิธรรม 1 จบ บังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น ​

​

บริเวณพิธีคนแน่นมากครับ บางท่านนั่งรอตั้งแต่บ่ายก็มี ดูแล้วมาด้วยแรงศรัทธาล้วนๆ​

​

หลังเสร็จพิธีพระสงฆ์ทำพิธีพรมน้ำพระพุทธมนต์ ​

​

และก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย แจกข้าวทิพย์และผ้ายันต์ ไม่จำกัดจำนวนได้ครั้งละ 1 กระปุก ถ้าอยากได้เยอะก็ให้มาต่อแถวใหม่จนกว่าจะพอใจ ไม่หมดไม่กลับว่างั้น​

​

คนที่มารับข้าวทิพย์กับหลวงพ่อชำนาญเยอะมาก แถวที่ว่าเป็นระเบียบก็เป็นอย่างที่เห็น ได้อารมณ์ไปอีกแบบ​

​

ได้มา 2 กระปุก แจกที่ทำงานไป 1 กระปุก แบ่งๆ กันไปคนละเล็กคนละน้อย และอีกกระปุกให้พระที่บ้านครับ คุณพ่อคุณแม่ผมเองครับ งานนี้ต้องบอกว่าครบทุกรสชาติครับ ​

​

 

เก็บตกงานกวนข้าวทิพย์ วัดบางกุฏีทอง เริ่มด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัดบางกุฏีทอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ได้จากการทำบุญ บอกไว้อย่างชัดเจน​

​

คำถวายสังฆทานและคำอุทิศบุญกุศลของวัดบางกุฏีทอง​

​

รายละเอียดวัตถุมงคลที่ออกให้บูชาในงานกวนข้าวทิพย์ ​

​

และเงินส่วนหนึ่งของคุณเอ็กซ์ที่ได้โอนมาเกิน 50 บาทและฝากทำบุญ ก็นำมาร่วมทำบุญถวายกระจกประดับพระวิหารในครั้งนี้ ซึ่งได้รับวัตถุมงคลในการทำบุญครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะส่งไปให้คุณเอ็กซ์เพื่อนำไปบูชาต่อไป​

​

 

รายการที่27 ชูชก " อิ่มทิพย์ " เนื้อทองแดง หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง​

ชูชกรุ่นอิ่มทิพย์ สร้างให้คนอิ่มเอมอิ่มบุญ รุ่นอิ่มทิพย์คือ ได้ไปแล้วอิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจ อิ่มทั้งทรัพย์ อิ่มไปทุกอย่าง อิ่มแบบเทวดาอิ่มแล้วยาวนานมั่นคงไม่พร่องไม่หาย อิ่มตลอดกาล เนื้อทองแดงสร้าง 5,000 องค์ บูชาองค์ละ 200 บาท ​

ตอกเลขทุกที่วัด ตอกโค๊ดที่วัด ใส่กล่องที่วัด ให้บูชาที่วัดในวันงาน 29 - 31 มกราคม 2553 หมดภายใน 2 ชม. ​

การทำวัตถุมงคลชูชกครั้งนี้หลวงพ่อชำนาญท่านได้สร้างไว้นานแล้วก่อนที่จะมีข่าวดังว่าปีชงให้บูชาชูชกในการแก้เคล็ดจะได้ร่ำรวยซะอีก และเจตนาในการสร้างครั้งนี้ชัดเจนไม่มีส่วนแบ่งตู้พระหรือกรรมการวัด ใครอยากบูชาต่อแถวเหมือนกันทุกคน เพราะหลวงพ่อชำนาญอยากให้ลูกศิษย์ทุกคนได้ของดีไปใช้กันทุกคน มีทั้งหมด 9 องค์ หมายเลขที่ยังมี กล่องที่ 1 , 4 , 5 , 7 เท่านั้น

ปลุกเสกเสาร์5 วันที่ 31 กรกฏาคม 2553 ตัวเมียเมตตา หลวงพ่อสมชาย วัดหนองน้อย

และเข้าพิธีปลุกเสกน้ำมนต์วันกระทิง 19/08/10 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 หลวงพ่อสมชายวัดหนองน้อย ​

องค์ละ 350 บาท พร้อมส่งEMS​

 

รายการพิเศษ น้ำมันพราย ครูบาสุบิน สุเมธโส ชุดพิเศษ ปลุกเสกอีกครั้งแบบพิเศษ เพื่อคนพิเศษ​

​

ครูบาสุบิน สุเมธโส แห่งวัดทองสะอาด อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของ หลวงปู่ดวง เจ้าตำรับวิชาเสริมดวง 9 จุด แห่งวัดกู่ลายมือ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชาทำเทียนมหาเศรษฐีพันอย่างกับครูบาอิ่นแก้ว วัดป่าเงาะ ศึกษาวิชาคาถาอาคม และได้รับถ่ายทอดหัวใจเสือสมิงจากครูบาหน้อย วัดบ้านปง ศึกษาศาสตร์การสร้าง เทพสี่หูห้าตากับหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ และได้ศึกษาวิชาอีกหลายแขนงจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ทั้งทางล้านนา พม่ เขมร กระเหรี่ยง อาทิ หลวงพ่อพระครูสิริสุภาจารย์ วัดป่าคู อาจารย์วิชาอาคมด้านแคล้วคลาดโดยเฉพาะ อาจารย์สุวรรณ(ฆราวาส) เป็นอาจารย์ทางด้านมหาเสน่ห์ และวิชาการสร้างกุมารทอง ในยุคนั้นถือว่าท่านเอกอุมากในเรื่องวิญญาณศาสตร์ ครูบาสุบินซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชานี้มาเพียงผู้เดียว​

พ่อท่านหนานดวงตา ซึ่งเป็นศิษย์เอกใกล้ชิดของครูบาศรีวิชัย ถ่ายทอดการลงวิชาอักขระเลขยันต์ วิชาเสริมดวง เสริมบารมี ป้องกันคุณไสย วิชาการทำตะกรุด 9 จักรวาล ตะกรุดเสือสมิง และตะกรุดต่างๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งยังมอบตำราวิชาของครูบาศรีวิชัยให้แก่ครูบาสุบินเป็นผู้รับสืบทอดอีกด้วย อาจารย์ท้าวทองดี(ชาวเขมร) สอนสายวิชาสายเขมรโบราณ อาจารย์ฐบูบุอ่อง(ชาวพม่า) อาจารย์สาธู(ชาวกระเหรี่ยง) สอนวิชาอาคมด้านเมตตามหานิยม การรักษาโรคด้วยสมุนไพร แก้คุณไสยมนต์ดำ อาจารย์โยคีเคราเหล็ก(ฆราวาส ชาวเขาอ้อพัทลุง) สอนวิชาการสักยันต์ต่างๆ รวมทั้งการสักสาริกาที่ริมฝีปากอีกด้วย ​

ครูบาสุบินท่านเป็นพระเกจิที่สร้างจริง ทำจริง ตั้งใจสร้างสรรค์ มงคลวัตถุขึ้นมาเพื่อให้ญาติโยมได้มีของดีใช้ มวลสารที่นำมาจึงแน่นและหนักไปด้วยพลังอาถรรพณ์ ของดีมิใช่หามาได้ง่ายและย่อมมีวันหมดด้วยเหตุนี้ ​

น้ำมันพรายบรรจุขวดพร้อมตะกรุดสาริกาคู่และกุมารดูดรก ครูบาสุบินปลุกเสกลงนะเมตตา ค้าขาย ร่ำรวย สร้างน้อยจำนวนจำกัด และเป็นน้ำมันพรายแท้ๆ นำมาหุงผสมกับน้ำมันว่านมหาเสน่ห์108 และว่านพญาไก่แดง ซึ่งรวมกันแล้วนับเป็นที่สุดแห่งด้านเมตตาค้าขาย ท่านกล่าวว่าน้ำมันพรายนี้นั้นควรเอาไปเจิมหน้าผากก็เหมาะสมยิ่ง เพราะจะดีในทางเมตตามหาเสนห์ใครเห็นใครรัก ทำการค้าขายหรือปรารถนาในตำแหน่งหน้าที่การงานสิ่งใดจะเกิดความเป็นสิริมงคล ท่านว่าจะได้คู่ครองสมหวังด้วย เพราะเป็นเสน่ห์อย่างยิ่ง ​

และนี่คือความพิเศษของน้ำมันพราย ด้วยเพราะในการปลุกเสกและหุงน้ำมันนั้นท่านต้องพิถีพิถันในการผสม น้ำมันพรายสายนี้มีแต่คุณไม่มีโทษ และน้ำมันพรายแท้ๆ แบบนี้ในปัจจุบันนั้นหายาก โดยเฉพาะมีกุมารทองดูดรกที่ขึ้นชื่อว่าแรงที่สุดในการสร้างกุมารทอง และตะกรุดสาริกา ซึ่งดีในด้านเมตตา ด้านค้าขาย ร่ำรวย หรือท่านที่ชอบการเสี่ยงโชค ห้ามนำไปป้ายคนอื่นโดยเด็ดขาด​

ชุดนี้ต้องขอบอกว่าเป็นชุดพิเศษจริงๆ ซึ่งชุดนี้ลูกศิษย์ที่ประเทศจีนได้บูชาไปทั้งหมด 100 ขวด เนื่องจากใช้แล้วดีขึ้น เห็นผลด้วยแรงศรัทธา ปลุกเสกซ้ำและลงคาถากำกับอีกครั้งที่ฝาขวดซึ่งเป็นวิชาทางล้านนาจารอักขระว่า " กินไม่หมด หมายถึงมีกินมีใช้ไม่หมด ร่ำรวย เงินทอง " หากหมดชุดนี้แล้วคงจะหามาให้ไม่ได้แล้ว และราคาคงจะไปไกลกว่านี้​

ของจริงพิสูจน์ได้ ​

บูชาขวดละ 650 บาท พร้อมส่งEMS