ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike

ยอดผู้สมัคร จำนวน 2 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 13 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ

 

รุ่นเก่า ไม่ต้องลงชื่อครับ มาได้เลยครับ
ขออนุโมทนา ที่ได้มาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยครับ

 

คนมีองค์ มีได้สองอย่าง
อย่างแรก คือ องค์ที่มีกรรมอยู่เหนือเรา
อย่างสอง คือ องค์ที่มีกรรมต้องใช้เรา
ขอไม่อธิบายนะคะ

 

ขอบคุณที่ชี้แนะ แต่จะให้กระจ่าง เห็นควรอธิบาย จักขอขอบคุณอย่างสูง

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553
ยินดีต้อนรับ คุณแมว ที่โทรมาสมัครครับ

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว

ยอดผู้สมัคร จำนวน 3 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 12 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553
ยินดีต้อนรับ คุณเอ๋ ที่โทรมาสมัครครับ

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋

ยอดผู้สมัคร จำนวน 4 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 11 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อยากไปค่ะ แต่คงไม่ได้ไป --*

อัสสะมา สะมานิมันตรา --*

 

สมัครแทนอาจารย์ผม2ท่านครับ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553
ยินดีต้อนรับ อาจารย์คุณหนุ่ม และเพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋
5) อาจารย์คุณหนุ่ม
6) เพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม

ยอดผู้สมัคร จำนวน 6 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 9 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณเอก

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋
5) อาจารย์คุณหนุ่ม
6) เพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม
7) คุณเอก (นับถือศาสนาคริสต์)

ยอดผู้สมัคร จำนวน 7 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 8 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ

สำหรับคุณเอก แม้ว่าจะนับถือศาสนาคริสต์ แต่มีความปรารถนาที่จะศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่วิธีการเจริญสมาธิและหลักคำสอนของศาสนาตนต่อไป

ขออนุโมนาด้วยครับ

 

เทวบุตรมาร

หมายถึง มารคือเทพเทวดา ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ต้องผจญกับมาร ทั้งก่อนที่จะตรัสรู้และหลังจากได้ตรัสรู้แล้ว ในคืนตรัสรู้เป็นวันเพ็ญ 15 ค่ำเดือนวิสาขะ
เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประทับ ณ โคนต้นโพธิ์พระองค์ทรงตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า "วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแห่งความเป็นความตายของเรา หากสำเร็จผลสมความมุ่งหมายของการออกบวช ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อประโยชน์แก่โลก หากไม่สำเร็จก็ขอทิ้งร่างกายไว้ที่นี่"
ทรงอธิษฐานปรารภความเพียรว่า "แม้เลือดเนื้อจะเหือดแห้งไป เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกก็ตาม สิ่งใดที่สำเร็จได้ด้วยความเพียร ความบากบั่นของตนแล้ว ถ้าเราไม่ถึงจุดนั้น จะไม่ลุกขึ้นจากที่นั่งเป็นอันขาด"

เมื่อตั้งใจดังนั้นแล้วก็ทรงสำรวมจิตสงบตั้งมั่นให้มีกำลังปัญญาแรงกล้าเพื่อที่จะทำลายอวิชชาให้หมดสิ้น ฝ่ายพญามารเมื่อรู้ว่าเจ้าชายสิทธัตถะกำลังจะพ้นไปจากอำนาจของตน จึงพยายามมขัดขวางการบรรลุธรรม โดยแสดงฤทธิ์ให้ตนมีมือถึงหนึ่งพันมือ มีอาวุธครบมือ ขี่ช้างคีรีเมขละ มีบริวารหมู่ใหญ่ห้อมล้อมกึกก้องมาทำลายมหาบุรุษเจ้าชายสิทธัตถะ

แต่พระองค์ทรงชนะพญามารได้ด้วยพระบารมี อ้างเอาพระแม่ธรณีเป็นพยานในการบำเพ็ญบารมีของพระองค์ พระแม่ธรณีจึงขึ้นมาบิดมวยผมให้น้ำท่วมพวกมารเหล่านั้นแพ้พ่ายไป เมื่อไม่สามารถเอาชนะเจ้าชายสิทธัตถะได้
พญามารจึงได้ขอร้องให้ธิดาทั้ง 3 ของตนคือนางตัณหา(ความอยากได้) นางราคา(ราคะ กำหนัด) และนางอรดี (ความเกลียดชัง ริษยา) ให้มาหลอกล่อยั่วยวนมหาบุรุษเจ้าชายสิทธัตถะ ด้วยอุบายต่างๆ เช่น เปลื้องเสื้อผ้าออกแปลงร่างเป็นสาวแรกรุ่นบ้าง สาวใหญ่บ้าง
แต่มหาบุรุษไม่ได้ไยดีแม้แต่น้อย ทรงพิจารณาถึงเหตุเกิดของกามและโทษของกามแล้ว ก็ทรงแน่วแน่อยู่ในสมาธิจิตที่ตั้งมั่น มีกำลังอานุภาพจนทำลายอวิชชาทั้งปวงได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า พระโคดมพุทธะ ผู้ซึ่งนำแสงสว่างแห่งสัจธรรมมาสู่ชาวโลกในยุคนี้

แม้เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วมารยังไม่หมดความพยายาม ยังได้ทูลขอให้พระองค์เสด็จดับขันปรินิพพาน แต่พระองค์ก็มิได้รับคำขอของมาร เพราะทรงมีมหากรุณาต่อโลก

เรื่องเทวบุตรมารในสมัยพุทธกาลกล่าวไว้ว่า มารเป็นเทพบุตร สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นที่6 ซึ่งการจะเป็นเทพในสวรรค์ชั้นนี้ได้ ก็จะต้องทำบุญทำกุศลไว้ไม่น้อย แต่ว่าเป็นเทพที่มุ่งมนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ ไม่ต้องการนิพพานสมบัติ

เพราะฉะนั้น เทพเหล่านี้ก็ไม่ได้เที่ยวทำบาปทำกรรมอะไรแก่ใคร แต่จะมุ่งขัดขวางมิให้พระโพธิสัตว์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คือไม่ต้องการที่จะให้พระโพธิสัตว์พ้นไปจากอำนาจของมาร
เมื่อไม่ตรัสรู้ พระองค์ก็ต้องอยู่ในอำนาจของมาร เมื่อไม่ตรัสรู้แล้วพระองค์ก็ทรงพ้นจากอำนาจของมาร มารทำอะไรไม่ได้ และเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วยังทรงแสดงธรรมสั่งสอน โปรดให้เวไนยสัตว์บรรลุมรรคผลนิพพานตามอีกอันจะทำให้เหล่าเวไนยสัตว์จำนวนมากพ้นไปจากอำนาจของมาร พ้นไปจากอำนาจของกิเลส

ดังนั้นมารก็ไม่ได้ไปขัดขวางใครที่ทำบุญทำกุศลเพื่อมนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ แต่จะมุ่งขัดขวางเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติให้พ้นจากอำนาจของกิเลสเท่านั้น

ต้องการที่จะให้ติดอยู่ในโลก จะเป็นโลกมนุษย์หรือสวรรค์ก็ตาม ก็ยังติดอยู่ในอำนาจของโลก ยังไม่เป็นโลกุตระ พ้นจากโลก

สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม เทวบุตรมารจะเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการปฏิบัติ เช่น เมื่อทำสมาธิเกิดนิมิตเห็น หรือได้ยินเสียงว่าเป็น เทพ เทวดา มาปรากฏ แนะนำว่าควรทำอย่างนั้น ควรทำอย่างนี้ ทำให้หลงติดอยู่กับนิมิต หลงเชื่อตามนั้นจริงๆ

การเกิดนิมิตขณะนั่งสมาธิ แม้จะเป็นนิมิตว่า มีเทพ เทวดา ครูบาอาจารย์ หรือแม้เป็นพระพุทธเจ้ามาสอน ทางที่ดีคือ อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ตั้งสติ ไม่ยินดียินร้าย ไม่ยึดมั่นถือมั่น ทำใจเป็นกลางๆ หากสิ่งที่เห็นสิ่งที่ได้ยินเป็นข้อธรรมคำสอน ก็ควรนำมาพิจารณาด้วยเหตุและผล หากเป็นประโยชน์จริงจึงนำมาปฏิบัติ

จากหนังสือชนะใคร ไม่เท่าชนะใจตน

พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก​

 

จองด้วยคนครับ ชื่อ นอร์ฐา ครับ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณนอร์ฐา

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋
5) อาจารย์คุณหนุ่ม
6) เพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม
7) คุณเอก (นับถือศาสนาคริสต์)
8) คุณนอร์ฐา

ยอดผู้สมัคร จำนวน 8 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 7 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณเอ๋

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋
5) อาจารย์คุณหนุ่ม
6) เพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม
7) คุณเอก (นับถือศาสนาคริสต์)
8) คุณนอร์ฐา
9) คุณเอ๋

ยอดผู้สมัคร จำนวน 9 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 6 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ

 

สมัครด้วยค่ะ

----- ขอสมัครด้วยค่ะ ชื่อ ชนาภาค่ะและเพื่อนอีก1คนค่ะ รวมเป็น23คนนะคะ.........ขอบคุณค่ะั----

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณชนาภาและเพื่อน ครับ

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณใหญ่
2) คุณ Mike
3) คุณแมว
4) คุณเอ๋
5) อาจารย์คุณหนุ่ม
6) เพื่อนอาจารย์คุณหนุ่ม
7) คุณเอก (นับถือศาสนาคริสต์)
8) คุณนอร์ฐา
9) คุณเอ๋
10) คุณชนาภา
11) เพื่อนคุณชนาภา

ยอดผู้สมัคร จำนวน 11 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 4 ท่าน

ยังสมัครได้อยู่ครับ

 

ตอนที่ 4 สถาปัตยกรรมบุโรพุทโธ

ศาสนสถานบุโรพุทโธเป็นศิลปะชวาภาคกลาง มีลักษณะเป็นรูปทรงฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ผนังของฐานสี่เหลี่ยมแต่ละชั้นจะใช้เป็นกำแพงด้านนอกของระเบียงสำหรับใช้ต่อๆ ไปยังข้างบน ระเบียงคดทั้งหมดมีด้วยกัน 4 ชั้น แต่ผนังกำแพงมีอยู่ 5 ชั้น หากเดินโดยรอบตามระเบียงแต่ละชั้น ก็จะเห็นภาพสลักนูนต่ำเล่าเรื่องประดับโดยตลอด ภาพสลักนูนต่ำหากปรากฏอยู่บนผนังกำแพงด้านนอกทางด้านซ้ายมือของเรา เรียกว่า “ระเบียงคด” แต่หากภาพสลักนูนต่ำปรากฏอยู่บนผนังกำแพงด้านในทางขวามือเรา เรียกว่า “กำแพงหลัก” ต่อจากฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสขึ้นไปจะเป็นรูปทรงฐานวงกลม แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยมีเจดีย์หรือสถูปใหญ่อยู่ตรงกลางบนยอดสุด ดังภาพ

​

วัชรธาตุมณฑล (Vijarathadu Madala)​

​

​

ภาพสลักนูนต่ำที่ปรากฏบนผนังกำแพงทั้ง 5 ชั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,460 แผ่นภาพเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์มาจากคัมภีร์สำคัญๆ ได้แก่ คัมภีร์กรรมวิภังค์ คัมภีร์ลลิตวิสูตร และคัมภีร์คัณฑพยูหะ รวมไปถึงชาดก (Jataka) ชาดกมาลา (Jatakamala) และอวทาน (Avadanas) ต่างๆ ดังภาพ
<O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นรากฐาน รหัส 0.1 – 0.160 <O</O
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกฝังจมอยู่ใต้ดิน มีจำนวนถึง 160 ภาพ ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์มหากรรมวิภังค์ (Mahakarmavibhangga) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจำแนกกรรมอย่างละเอียด<O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 1 ระเบียงคดด้านนอก รหัส 0.0 <O</O
ล้วนแล้วแต่เป็นรูปเคารพของเหล่าทวารบาล <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 1 กำแพงหลักส่วนบน รหัส I a <O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์ลลิตวิสตระ (Lalitavistara) ซึ่งถือว่าเป็นคัมภีร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งด้านแนวคิดทางศาสนา และสังคมที่มีมาอย่างยาวนานนับพันๆ ปี <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 1 กำแพงหลักส่วนล่าง รหัส I b<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากนิทานมโนราห์ และอวทานต่างๆ
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 1 ระเบียงคดส่วนบน รหัส I B a<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากนิทานชาดก<O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 1 ระเบียงคดส่วนล่าง รหัส I B b<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากนิทานชาดกมาลา และนิทานชาดกทั่วไป<O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 2 กำแพงหลัก รหัส II<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์คัณฑพยูหะ (Gandavyuha) <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 2 ระเบียงคด รหัส II B<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากนิทานชาดก และอวทานต่างๆ <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 3 กำแพงหลัก รหัส III<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์คัณฑพยู (Gandavyuha) <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 3 ระเบียงคด รหัส III B<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์คัณฑพยู (Gandavyuha) <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 4 กำแพงหลัก รหัส IV<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์คัณฑพยู (Gandavyuha) <O</O
<O</O

ภาพสลักนูนต่ำชั้นที่ 4 ระเบียงคด รหัส IV B<O</O
ใช้เล่าเรื่องราวจากคัมภีร์คัณฑพยู (Gandavyuha)
<O</O

 

ตอนที่ 5 มหากรรมวิภังค์ (Mahakarmavibhangga)

มหากรรมวิภังค์ว่าด้วยการจำแนกกรรมอย่างละเอียด พระพุทธองค์ทรงตรัสแก่พราหมณ์หนุ่มนามว่า ชูกะ ถึงอานิสงค์ในการสร้างเจดีย์ตถาคต ซึ่งมีด้วยกัน 18 ประการนี้ <O</O

1. จะได้เกิดเป็นบุตรของกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่<O</O
2. จะมีร่างกายที่แข็งแรง <O</O
3. จะมีรูปลักษณ์ที่งดงาม
4. จะเป็นคนที่มีความฉลาดหลักแหลม<O</O
5. จะเป็นคนที่มีอำนาจและเกียรติยศ<O</O
6. จะมีข้าบริวารที่จงรักภักดี<O</O
7. จะเป็นผู้นำในหมู่มาก<O</O
8. จะมีผู้คอยให้การอุปถัมภ์<O</O
9. จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทั้งสิบทิศ <O</O
10. จะเป็นคนทีมีเสียงอันไพเราะ <O</O
11. จะเป็นผู้ที่ได้รับความเป็นศิริมงคลจากมนุษย์และพระผู้เป็นเจ้า<O</O
12. จะเป็นผู้มากด้วยโภคทรัพย์<O</O
13. จะเป็นราชาแห่งเอกภพ<O</O
14. จะเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาว<O</O
15. จะเป็นผู้ที่มีกายฉัพพรรณรังสี<O</O
16. จะมีสัญลักษณ์แห่งพระพุทธเจ้า อันเป็นเครื่องหมายตำนิที่ร่างกาย <O</O
17. จะได้กลับชาติมาเกิดอีกเพียงสามชาติเท่านั้น<O</O
18. จะได้ไปสู่นิพพาน<O</O
<O
</O

 

ตอนที่ 5 มหากรรมวิภังค์ (Mahakarmavibhangga) ต่อ


พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ผลแห่งการกระทำที่เป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมนั้น จะปรากฏให้เห็น จะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยจากภายนอกหลายๆ ประการ เช่น เวลา สถานที่ บุคลิกภาพ และวิธีปฏิบัติ

ดังนั้น กฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนา หมายถึง กฎของการกระทำ และผลของการกระทำ มีทั้งดีและชั่ว และทั้งที่เป็นกลาง ผลจากการกระทำนั้น แสดงออกได้ทั้ง กายกรรม มโนกรรม และวจีกรรม ส่วนสาเหตุของการประกอบกรรมเกิดมาจากความอยาก (ตัณหา) วิบากผลในการประกอบกรรมนั้น มีทั้งฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล และฝ่ายที่เป็นกลางๆ <O</O

สำหรับต้นเหตุแห่งอกุศลกรรมเกิดจากกิเลสทั้งสาม คือ โลภ โทสะ โมหะ ส่วนเหตุแห่งกุศลกรรม เกิดจากจาคะ เมตตา และปัญญา<O</O

ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ...

“สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นแดนเกิด ทุกอย่างเกี่ยวกับกรรมและสนับสนุนโดยกรรมทั้งที่หยาบและประณีต”
<O</O

 

ตอนที่ 5 มหากรรมวิภังค์ (Mahakarmavibhangga) ต่อ

ในปี ค.ศ. 1885 เจ ดับบิล ไอจเซอร์แมน ได้ค้นพบภาพสลักนูนต่ำโดยบังเอิญ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 160 ภาพ ได้ถูกซ้อนและทับถมไว้ใต้ดินตรงฐานองค์สถูปเจดีย์ ภายใต้ภาพเหล่านี้ได้จารึกอักษรเป็นภาษาสันสกฤตและภาษาชวาโบราณ เนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับ มหากรรมวิภังค์ (Mahakarmavibhangga) หรือกฎแห่งกรรม ต่อมาได้มีการแปลเนื้อหาเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอิหร่าน ภาษาเนปาล และภาษาอื่นๆ อีกทั่วโลก

จากเรื่องราวของมหากรรมวิภังค์ ได้ถูกถ่ายทอดสู่วิถีชีวิตของชาวบ้านชนบทแห่งหนึ่งในชวา เมื่อครั้นสมัยที่กำลังก่อสร้างศาสนสถานบุโรพุทโธ เช่น ภาพชาวนาปลูกข้าว ภาพเที่ยวตลาด ภาพตกปลาริมฝั่งน้ำ และภาพบุคคลในครอบครัวในบ้าน เป็นต้น ภาพสลักนูนต่ำเหล่านี้ได้ถูกแกะสลักด้วยความละเอียดลออและวิจิตรบรรจง ได้ปรากฏอยู่บนชั้นรากฐาน รหัส 0.1 – 0.160 ทุกแผ่นภาพจะมีขนาดกว้าง 2 เมตร สูง 67 เซนติเมตร


ภาพสำคัญๆ ได้เล่าถึงเรื่องราวของมุนษย์ในรูปแบบแตกต่างกัน มีทั้งมนุษย์ที่กระทำความดีงาม แล้วได้ไปสู่สรวงสวรรค์ และมนุษย์ที่กระทำชั่ว แล้วถูกทำโทษอย่างแสนสาหัสในดินแดนนรกทั้งแปดขุม อันปรากฏไว้ดังนี้<O</O

นรกขุมที่ 1 สัญชีวะ (Sanjiva) ขุมนรกไม่มีวันตาย สัตว์นรกมีอายุ 500 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 5 ล้านปีมนุษย์<O</O

นรกขุมที่ 2 กาฬสุตต (Kalasutra) ขุมนรกบรรทัดดำ สัตว์นรกมีอายุ 1000 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 36 ล้านปีมนุษย์ <O</O

นรกขุมที่ 3 สังฆาตะ (Sanghata) ขุมนรกภูเขาขยี้กาย สัตว์นรกมีอายุ 2000 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 145 ล้านปีมนุษย์<O</O

นรกขุมที่ 4 โรระวะ (Raurava) ขุมนรกร้องไห้ สัตว์นรกมีอายุ 4000 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 234 ล้านปีมนุษย์<O</O

นรกขุมที่ 5 มหาโรระวะ (Maharaurava) ขุมนรกร้องดังสนั่น สัตว์นรกมีอายุ 8000 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 9216 ล้านปีมนุษย์<O</O

นรกขุมที่ 6 ปราปะนะ (Pratapana) ขุมนรกแห่งความเร่าร้อน สัตว์นรกมีอายุ 16000 ปี หนึ่งวันนรกขุมนี้เท่ากับ 184212 ล้านปีมนุษย์<O</O

นรกขุมที่ 7 มหาปราปะนะ (Mahapratapana) ขุมนรกแห่งความเร่าร้อนยิ่ง สัตว์นรกมีอายุครึ่งกัป<O</O

นรกขุมที่ 8 อเวจี (Avichi) ขุมนรกแห่งไฟ สัตว์นรกมีอายุหนึ่งกัป <O</O