ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ukrin

    ukrin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +1,463
    เป็นกำลังใจให้คุณ


    โหวตเลือกรัฐสภาแห่งใหม่”สัปปายะสภา”
    ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พ.ย.นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการพิจารณาการประกวดโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีกลุ่มผู้เสนอแบบ 5 บริษัท ที่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายเข้ามาเสนองานออกแบบในครั้งสุดท้าย ได้แก่ 1.กลุ่มของนายธีรพล นิยม 2.บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด 3.นายธรรมศักดิ์ อังศุสิงห์ 4.บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชันแนล จำกัด และ 5.ผศ.วิเชษฏ์ สุวิสิทฐ์


    ก่อนที่จะมีการตัดสินผลผู้ชนะเลิศ โดยคณะกรรมการตัดสิน ได้กำหนดเวลาให้แต่ละกลุ่มบริษัท ใช้เวลาการเสนองาน 1 ชั่วโมง และที่เหลืออีก 1 ชั่วโมง เป็นการซักถามของคณะกรรมการตัดสิน การพิจารณาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด


    หลังใช้เวลาในการตัดสินเกือบ 12 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 23.00น. การตัดสินจึงแล้วเสร็จ โดยนายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยาม หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เปิดเผยว่า หลังคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 12 คน ที่มีทั้งสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อย่างสถาปัตยกรรมสถาน สภาวิศวกรรม และศิลปินแห่งชาติ ได้พิจารณารายละเอียดทุกแง่มุม ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ในที่สุดก็ได้ผลการตัดสิน โดยการลงคะแนนของคณะกรรมการพิจารณาให้แบบอาคารรัฐสภาแบบที่ 1

    “สัปปายะสภาสถาน”

    ของกลุ่มนายธีรพล นิยม ได้รับการคัดเลือกเป็นแบบจำลองอาคารรัฐสภาที่จะสร้างในโอกาสต่อไป ถือเป็นอาคารที่ออกแบบได้อย่างเหมาะสมในทุกด้าน เป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมร่วมสมัย กับวิถีประเพณี.


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    .
     
  2. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    เงินโอนเข้าบัญชีผมมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามจำนวนเงินที่โอนมาคือ ๕๑,๐๕๕.- บาท

    ขอกราบอนุโมทนาครับ
     
  3. สมจิตรเขากะลา

    สมจิตรเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +162
    วันนี้ พี่สมจิตร ได้นำของใช้ เช่น ปั้มน้ำ พัดลม รูปภาพต่าง ๆ ต้นไม้ ที่มีผู้บริจาคมาให้สถานปฏิบัติธรรมเขากะัลานั้น แต่สถานปฏิบัติธรรมเขากะลาได้ปิดตัวลงแล้ว พี่สมจิตรจึงได้นำของบริจาคทั้งหมดนั้น มาถวายให้แด่วัดคีรีสวรรค์(วัดเขากะลา)แทน ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค พี่สมจิตรของอนุโมทนากับผู้บริจาคทุกท่านค่ะ

    วัดเขากะลาแห่งนี้ ปู่ฉิ่ง และย่ากลม (บิดา มารดา ของพ่อเชิด) ได้ถวายที่ิดินจำนวน 13 ไร่ ในการสร้างวัดแห่งนี้ หน้าวัดจะมีรูปปั้นของปู่ฉิ่งและย่ากลม และมีภาพวาดในศาลาวัดแห่งนี้ด้วย

    หลังจากนั้น เวลา 12.00น. ไ้ด้มาส่งพี่สุดใจ ที่ท่ารถตู้สะพานดำ พี่สุดใจจะต้องเดินทางไปประสานงานที่กรุงเทพต่อค่ะ พี่สุดใจอาจจะอยู่กรุงเทพอีกหลายวัน


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2009
  4. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    ({)({)
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=collapseimg_post_groan_2674307 style="WIDTH: 12.75pt; HEIGHT: 12.75pt" type="#_x0000_t75" alt="" o:button="t" href="http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-588#top" o:spid="_x0000_i1025"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/buttons/collapse_tcat.gif" src="file:///C:DOCUME~1siriponpLOCALS~1Tempmsohtml11clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ เซี่ยมหล่อนั๊ง ที่เขียนไว้ทางด้านบน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เอ่ออ.....ประทานโทษ นะครับ ขอแนะนำหน่อยนะครับ เวลาไม่เห็นด้วยกรุณาแสดงความเห็นว่าตรงไหน ประเด็นไหน คนอ่านจะได้ติดตามตอนตอ่ไปได้ มันถึงจะได้แสดงภูมิคิด มีราคาหน่อย :boo:(ไม่ต้องถึงขั้นปัญญาก็ได้ครับ) ถึงจะได้แชร์ความรู้ต่อกัน หากแสดงทัศนะไม่เห็นด้วย เพียงเพราะเป็นพวก ตะแบงไปเรื่อยมันทำให้คนอ่านอื่น ๆ คิดติดลบพวกท่านเอง เข้าใจนะครับ ผมจะหลีกเลี่ยงไม่เห็นด้วย เพราะมันกระทัดรัดเกินไป แต่ไม่แสดงความเห็นออกมา คนอ่านยิ่งเข้าใจไปในทางพวกมากลากไป อันนี้หากตรงไปก็ต้องขอโทษ เพราะออกจะเห็นความไม่เห็นด้วยอย่างฟุ่มเฟือย จนหมดราคาเลย นะครับ บางทีความเห็นของกลุ่มก็ใช้ได้ ผมก็สนับสนุน ไม่ได้ค้านตะพืดดด อันนั้นไม่จัดเป็นคนของระยบที่ทรงภูมิปัญญาเลยสักนิด จริงไม๊ ครับ อ่อเดี๋ยวอย่าโกรธาผมอีกนะ อันนี้คิดดีดี เป็นประโยชน์ของท่านล้วนน ๆๆๆ เลย จิงง :cool::cool:<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  5. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665

    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=collapseimg_post_groan_2674307 style="WIDTH: 12.75pt; HEIGHT: 12.75pt" type="#_x0000_t75" alt="" o:button="t" href="http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-588#top" o:spid="_x0000_i1025"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/buttons/collapse_tcat.gif" src="file:///C:DOCUME~1siriponpLOCALS~1Tempmsohtml11clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ เซี่ยมหล่อนั๊ง ที่เขียนไว้ทางด้านบน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ({) เอ่ออ.....ประทานโทษ นะครับ ขอแนะนำหน่อยนะครับ เวลาไม่เห็นด้วยกรุณาแสดงความเห็นว่าตรงไหน ประเด็นไหน คนอ่านจะได้ติดตามตอนตอ่ไปได้ มันถึงจะได้แสดงภูมิคิด มีราคาหน่อย ถึงจะได้แชร์ความรู้ต่อกัน หากแสดงทัศนะไม่เห็นด้วย เพียงเพราะเป็นพวก ตะแบงไปเรื่อยมันทำให้คนอ่านอื่น ๆ คิดติดลบพวกท่านเอง เข้าใจนะครับ ผมจะหลีกเลี่ยงไม่เห็นด้วย เพราะมันกระทัดรัดเกินไป แต่ไม่แสดงความเห็นออกมา คนอ่านยิ่งเข้าใจไปในทางพวกมากลากไป อันนี้หากตรงไปก็ต้องขอโทษ เพราะออกจะเห็นความไม่เห็นด้วยอย่างฟุ่มเฟือย จนหมดราคาเลย :boo:นะครับ บางทีความเห็นของกลุ่มก็ใช้ได้ ผมก็สนับสนุน ไม่ได้ค้านตะพืดดด อันนั้นไม่จัดเป็นคนของระยบที่ทรงภูมิปัญญาเลยสักนิด จริงไม๊ ครับ อ่อเดี๋ยวอย่าโกรธาผมอีกนะ อันนี้คิดดีดี เป็นประโยชน์ของท่านล้วนน ๆๆๆ เลย จิงง :cool::cool:<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผลของการประทุษร้าย ต่อผู้ไม่ประทุษร้าย มีโทษ 10 ประการ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์โทษของการประทุษร้าย ผู้ที่ไม่ประทุษร้ายตอบว่า ย่อมประสบความวิบัติทันตาเห็น 10 ประการ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ดังนี้

    1. พึงได้เวทนาอันหยาบ (ทุกข์หนัก) ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า เช่น โรคปวดศรีษะอย่างรุนแรง
    2. เสื่อมจากลาภ ยศ ทั้งปวง ความเสื่อมสิ้นทรัพย์สินที่มีอยู่
    3. ถูกทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตีหัว หรือถูกผ่าตัด
    4. เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างหนัก เจ็บหนัก เช่น เป็นอัมพาต
    5. ถึงความฟุ้งซ่านแห่งจิต ถึงความเสียสติ เป็นบ้า
    6. ขัดข้องด้วยพระราชา (ถูกลงโทษ) ถูกกฎหมายลงโทษ เช่น ถูกปลดและลดตำแหน่ง
    7. ถูกกล่าวหาอย่างสาหัส ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง
    8. เกิดความเสื่อมในหมู่ญาติ (แยกครอบครัว) ไร้ญาติขาดพี่น้อง
    9. ไฟไหม้บ้านเรือน โภคทรัพย์ เช่น เรือกสวนไร่นา ฉิบหาย
    10. เมื่อละสังขารย่อมเข้าถึงนรก ตายแล้วไฟนรกเผาผลาญซ้ำอีก


    ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=all4u&group=1
     
  7. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    ผมก็พยายามจะดับไฟนะ แต่ท่านอื่นๆ ที่แสดงตนว่าเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มฯ หรือคอยเอาใจช่วยกลุ่มฯ ก็พยายามจะจุดไฟเล่นกันจัง ถ้าไฟมันลุกลามขึ้นมาแล้วหาทางดับไม่ได้ ก็ระวังอย่าให้ไฟมันลวกมือเอาก็แล้วกันนะครับ
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ศุข เห็นลูกหลานสนทนากันแบบมีอารมณ์ ยิ่งสนทนาเสียงก็ยิ่งดัง
    ท่านจึงกล่าวว่า "หายใจยาวๆนะลูก จะได้ผ่อนคลาย มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน
    ขอให้ลูกหลาน รักกันเหมือนไม้ท่อนเดียว อย่าแบ่งเขาแบ่งเรา"

    ผมจำได้แม่นในสิ่งที่หลวงปู่สอน แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม
    เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
     
  9. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    อื่ม น่าสนใจขออนุโมทนา ว่าแต่พระท่านออกใบอนุโมทนาการรับสิ่งของที่นำถวายหรือเปล่า หากไม่เกรงว่าจะเป็นการรับของโดยไม่ถูกต้องนะครับ เพระเดี๋ยวจะถือเป็นการให้โดยเสน่หา ไม่ได้เจาะจงให้เพื่อศาสนาเอา พระก็อาบัติ ม้วหมองเป่ล่า ๆ เนื่องจากอ่านดูแล้ว มูลค่าของต้องมากกว่า หนึ่งมาสก นะครับ (มาตราเงิน คงต้องไปเปิดเอา คงไม่ต้อง post ในนี้นะครับ แสดงให้ดูหน่อยนะครับ ไม่ใข่ไม่เขื่อถือ แต่การแสดงรูปอย่างเดี๋ยว ใครๆก็ถ่ายกับพระได้ เพราะภาพมันบอกได้แค่นั้น พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ post อ่านจะได้ดีใจว่าได้ถวายงานแด่ศาสนาจริง อย่างน้อยทางกลุ่มก็ได้แสดงความตั้งใจดี
     
  10. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    จริงแล้ว คนที่ยึดคำสอนพระพุทธองค์ จะนับเป็นกลุ่มเดียวกันก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน เนื่องจากเป็นพุทธมามกะ ให้ใกล้หน่อยก็บุตรของศาสนาพุทธ ดังนั้น จะจัดเป็นกลุ่มเดียวกันก็ถูกอีก ฉะนั้น อะไรที่มีข้อสงสัยที่มาเกี่ยวพันถึงศาสนาพุทธเรา หากเป็นปลอมหรือไม่แน่ใจว่าเจตนาร้ายกับทางพุทธ คนที่อยู่ในพุทธ ก็คงอยู่เฉยไม่ได้ จริงไม๊ เช่นเดียวกันกลุ่มอื่นนะแหละ เมื่อเขามีข้อสงสัยก็น่าจะตอบให้กระจ่างแจ้ง แย้งได้ ไม่เห็นด้วยได้ แต่ทุกครั้งความไม่เห็นด้วยไม่เคยเอาความเห็นด้วยของตัวมาลงเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ความรู้เพิ่มขึ้นกับ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่หลงเข้ามาอ่าน มันก็เท่านี้ จริง ๆ no9 ผมก็ไม่เคยแย้งไม่เคยขัด แต่อ่านข้อมูลข้างต้น ก็ต้องแสดงตัวกันหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวจะหลงคิดว่าเป็นแค่กลุ่มกวน เท่านั้น ขอให้ no9 เข้าใจตามนี้ นะครับ อ้อ ผมนะไปเดี๋ยวมาเดี๋ยว ไม่เกี่ยวกับกลุ่ม แต่ถ้าเป็นชาวพุทธ กลุ่มผมใหญ่นะครับ จะบอกให้ ใหญ่มาสองพันกว่าปีแล้ว ด้วย มันนับไม่ถ้วนนะถ้าจะนับจำนวนคนในกลุ่ม
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุแห่งภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัว 10 ประการ

    ผู้บริสุทธิ์ที่บุคคลไม่ควรประทุษร้าย ไม่ควรปรามาส ไม่ควรล่วงเกินโดยประการทั้งปวงมิฉะนั้นจะเกิดภัยพิบัติ 10 ประการแก่บุคคลผู้ล่วงเกินและเป็นผลพวง นับเนื่อง ถึงบุคคลอื่น ๆ ซึ่งเป็นทายาทแห่งกรรมอันหนักนั้นด้วย ผู้บริสุทธิ์ที่บุคคลไม่ควรประทุษร้ายมีดังนี้:-

    - ผู้มีอุปการะก่อน โดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น มารดา บิดา ฯลฯ

    - พระคุณครูอุปัชฌายะธรรมมาจารย์ผู้ทรงคุณทั้งหลายทั้งปวง

    - บรรดาลูกกตัญญูกตเวที พระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

    - ผู้มีดวงใจอิ่มด้วยบุญ ทั้งที่เป็นมนุษย์หรือสรรพสัตว์น้อยใหญ่ แม้แต่รูปปั้น พระปฏิมากรของพระองค์ บรรดาผู้ทรงฌานบริสุทธิ์ ตลอดถึงผู้บรรลุธรรมตั้งแต่เบื้องต้นเป็นลำดับ ตั้งแต่พระอริยะเบื้องต้นตราบถึงพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย

    - พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง บุคคลทั้งปวงที่เป็นผู้บริสุทธิ์ สุจริต และมีดวงใจอันอิ่มด้วยบุญแม้แต่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชพุทธรรม

    - ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพสกนิกรทั้งหลายทั้งปวง ก็ตาม นับได้ว่า เป็นผู้มีพระคุณบริสุทธิ์โดยประการทั้งสิ้นทั้งปวง อันบุคคลมิบังควรประทุษร้าย มิบังควรปรามาส มิบังควรล่วงเกิน

    ภัยพิบัติ ๑๐ ประการมีดังนี้

    ภัยพิบัติ ๑๐ ประการ อันเกิดแต่การประทุษร้ายล่วงเกิน ปรามาสผู้ทรงคุณดังกล่าวบุคคลผู้กระทำกรรมหนักนั้น ย่อมได้รับผลอันเหมาะสมแก่การกระทำของตน ๑๐ ประการดังนี้.

    ๑.แม้มีเงินทอง ย่อมเปรียบเสมือนด้วยก้อนแห่งถ่านเพลิง แม้จับถือแล้วก็ต้องปล่อยทันที ไม่อาจเก็บงำไว้ได้เสมือนว่าเงินทองนั้นเป็นของร้อนเหมือนก้อนถ่านเพลิง

    ๒.แม้ทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่มีอยู่ ย่อมเปรียบเสมือนกระเบื้องแตก มีความหมายว่า ถ้าเป็นกระเบื้องหลังคา ก็ไม่อาจกันร้อน ไม่อาจกันลม ไม่อาจกันฝนได้ ถ้าเปรียบด้วยกระเบื้องคือ ภาชนะ ก็ไม่อาจใส่อาหารได้อย่างโดยบริบูรณ์ ทรัพย์สมบัตินั้นเป็นทรัพย์สมบัติที่ใช้การไม่ได้ ประดุจดั่งว่า เมล็ดฝ้ายผุ ถูกหนอนเจาะเพาะไม่ขึ้น ทรัพย์สมบัติล้วนกลายเป็นของคนอื่น ทั้งหมดเขาเวนคืนหรือถูกยึดไป

    ๓.บ้านแตกสาแหรกขาด ญาติพี่น้องแตกแยก ขาดความสมาน ขาดความปรองดอง ขาดความสามัคคี แม้นมียศศักดิ์ ฐานันดร อันสูงส่ง ก็เป็นคนปราศจากสง่าราศี เป็นคนไม่มีราศี ย่อมถูกบุคคลผู้เป็นคู่เวรกลั่นแกล้ง ถูกขุดคุ้ยเรื่องเลวร้ายให้ขยาย กระจายความขึ้นเกินกว่าเหตุ ถูกอาเภท ให้บุคคลคู่เวรได้ใส่ร้ายป้ายสี ต่าง ๆ นานา เป็นเหตุให้เป็นที่รังเกียจแก่ผองชนทั่วไป

    ๔.ย่อมถูกราชทัณฑ์ ต้องโทษ ถูกจองจำ ถูกกฎหมายบีบบังคับ ให้ต้องอาญาร้ายแรง ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว

    ๕.ย่อมเกิดทุกขเวทนาอย่างแก่กล้าแสนสาหัส โดยหาสมมุติฐานแห่งโรคไม่พบ

    ๖.ย่อมเกิดโรคร้ายแรง เป็นที่ยิ่ง อันเป็นเหตุ ให้เกิดความทุกขเวทนาแสนสาหัส

    ๗.อวัยวะร่างกายของเขา ย่อมพิกลพิการไป ด้วยเพราะการประสบอุบัติเหตุในลักษณะต่าง ๆ

    ๘.จิตใจของเขาผู้นั้น ย่อมไม่อาจหยั่งลงสู่สมาธิรสอันลึกซึ้งได้ ขาดความปราโมทย์ ขาดความสดชื่น ขาดความแช่มชื่นจิต ขาดความปลื้มจิตปีติใจ จิตใจขาดความสุขุมเยือกเย็น ขาดความหนักแน่น ขาดความตั้งมั่นของจิตใจ จิตใจเสียการทรงตัว จิตใจมิอาจเข้าแถวเขาแนวให้เป็นระบียบได้ จิตใจซัดส่าย ฟุ้งซ่าน คิดมาก เกิดความเครียดอย่างแสนสาหัส เป็นเหตุให้เกิด โรคประสาทโรคจิต ชนิดต่าง ๆ

    ๙.ทุมเมโท....เขาผู้นั้น ย่อมถึงแก่ความเป็นคนบ้า ควบคุมสติไม่อยู่ แม้นได้รับการบำบัดเยียวยา ด้วยหยูกยาต่าง ๆ ก็มิอาจบำบัดให้หายเป็นปกติได้

    ๑๐.ปาวโก... เทวทัณโฑ อัสนี อันว่าไฟแห่งบาปเวร ผู้ชำระ อันเกิดขึ้นโดยเหมาะสม แก่การกระทำของตน ย่อมเผาไหม้สมบัติบ้านเรือน ปีละหนบ้าง สองหนบ้าง หากแม้นว่า อันว่าไฟแห่งบาปเวรผู้ชำระ มิล้างผลาญซึ่งสมบัติบ้านเรือนแล้วไซร้ เทวทัณโฑ อัสนี อันว่าอาญาแห่งเทพ คืออัสนีบาต ย่อมฟาดลงกลางกระหม่อม แห่งเขาผู้กระทำซึ่งกรรมนักนั้น (ฟ้าผ่า หรือไฟช๊อตตาย) อันเป็นลางร้ายเป็นความหมายแห่งไฟอันเกิดแต่ไฟแห่งอเวจี เข้ามาเผาผลาญเขาผู้นั้นให้ย่อยยับ เพื่อจักได้อบรมบ่มอุปนิสัยให้ได้เกิดความสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี รู้ความบังควรหรือมิบังควร โดยประการไร ๆ

    ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นภัยพิบัติ 10 ประการ ที่เกิดขึ้นจากการประทุษร้าย ปรามาสล่วงเกิน ท่านผู้บริสุทธิ์ดังกล่าว ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสเทศนาไว้แก่พุทธบริษัททั้งหลาย มีภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี สิกขมานา อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลายทั้งปวง เป็นต้น

    ซึ่งในปัจจุบันนี้ ปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ ได้ประสบกันโดยมากและเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันโดยมาก และน่าสะพรึงกลัวมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น เหล่าบุคคล ผู้รักสงบ รักสันติสุข อย่างโดยชอบธรรม ควรแนะนำซึ่งกันและกัน ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และทั่วถึง ถึงสาเหตุแห่งภัยพิบัติ ๑๐ ประการนี้ แล้วพากันระงับเหตุแห่งภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการดังกล่าว มิให้เกิดภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการ อันน่าสะพึงกลัวดังกล่าวมาแล้วข้างต้น

    ทั้งแก่ตน คนที่รัก ญาติสนิท มิตรสหาย บริวาร และบุคคลอื่น ๆ ตลอดถึงเพื่อนร่วมชีวิต เพื่อนร่วมโลก เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งปวง ด้วยการพากันสำนึก พินิจตรึกตรองโดยอย่างถี่ถ้วนถ่องแท้ ว่า ณ ทุก ๆ ปัจจุบันขณะนี้ ทุกข์นี้มีมาแต่ไหน และจะดับเหตุแห่งทุกข์นี้ ด้วยวิธีประการไร จึงจะถูกวิธีอย่างโดยบริบูรณ์ อย่างโดยเร่งด่วน จงอย่าได้ประมาทในชีวิตอันน้อยนิดนี้ และจงอย่าได้เป็นผู้ต้องเสียใจ และเดือดร้อนใจในภายหลังเลย

    โพสต์โดยคุณ มุณีธรรม 28/02/2552 (2:56 pm)

    ที่มา http://www.navagaprom.com/oldsite/show1.php?id=642
     
  12. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    กระทู้นี้มีแต่ประโยชน์ตน กับประโยชน์ท่าน ผู้ที่ให้ประโยชน์ท่านก็ต้องรักษาประโยชน์ตน ผู้ที่พยายามรักษาประโยชน์ตนในบางครั้งก็ถึงความประมาทในอุปกิเลสต่างๆ ที่ล่อลวงไปจนได้ เป็นยังไงกันบ้างล่ะคนระบบที่ออกมารบอยู่หน้าจอทั้งหลาย (ไม่ได้กล่าวถึงท่านอื่นๆ ที่ได้กรุณาเข้ามาชี้แนะท้วงติงกลุ่มฯ นะครับ) ขัดแย้งกับผู้อื่นก็ไม่ทุกข์ ทั้งหยอดทั้งแหย่เขาก็ยังคิดว่าไม่ทุกข์ พอผมทิ่มเข้าทีนึงแล้วเห็นอะไรบ้างรึยัง เห็นตัว "ความมั่นใจในตัวเองสูง" ที่เป็นต้นเหตุของตัว "มานะ" ตัว "ทิฐิ" กันบ้างรึยัง เรียนมามาก ได้รับการอธิบายขยายระบบมาเยอะก็เผลอ เข้าใจว่าทุกข์อะไรก็ไม่ได้กินเรา

    ในวิชาประมวลพลัง ในชั่วโมงแห่งการประมวลพลัง เป็นการที่ผู้เรียนต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ถูกกดจิต ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน กับสถานการณ์ที่ผู้สอนสร้างขึ้นเองเพื่อให้กับผู้เรียน โดยผู้เรียนจะมีทางเลือกอยู่แค่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย ผมเองและผู้อาวุโสอีกหลายท่านก็เคยกล่าวไว้แล้ว แต่ที่อาจจะไม่ได้กล่าวไว้ก็คือเป็นวิชาที่มาขุดเอากิเลส รวมถึงอุปกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิตใจของผู้ฝึกออกมา ขุดแล้วยังไม่พอ ยังต้องขูดอีก ตอนขุดตอนขูดก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บนะ เหมือนคนปวดฟัน ถ้าจะไปหาหมอถอนออกก็เสียว ถ้าจะไม่ถอนออกก็ปวด แต่ที่สำคัญคือถ้าไม่รู้ว่าปวดซี่ไหนนี่ก็ยิ่งลำบาก แต่เมื่อไปหาหมอตรวจหมอก็จะบอกได้ว่ามันน่าจะปวดออกมาจากซี่ไหน เพราะมองเห็นว่าฟันซี่ไหนมันผุอยู่

    เรื่องจะขัดแย้งหรือไม่ขัดแย้ง จะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี จะจริงดีหรือจะไม่จริงดี อะไรต่างๆ เหล่านี้ ไม่ใช่ความหมายของ "ไฟ" ตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วหรอกนะครับ แต่หมายถึง "ไฟกิเลส"ในจิตของเรา เมื่อเราทุกคนยังมีเชื้อที่ทำให้ไฟกิเลสมันลามปามได้อยู่ ก็สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเพียรพยายามนำเอาเชื้อไฟนั้นออกไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย อย่าเพิ่งย่อท้อ

    ขออนุโมทนาครับ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การทำงานของกลุ่มเขากะลา

    ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ การทำงานของกลุ่มเขากะลากับเพื่อนต่างดาวนั้น ผมเห็นว่าเป็นเป็นงานเฉพาะกิจที่เพื่อนจากต่างดาว ได้คัดเลือกบุคคลจำนวน 5,000 คน จากทั่วทุกมุมโลกให้มาร่วมกันทำงานเพื่อช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้​

    เพราะฉะนั้นวิธีการปฏิบัติจิตในด้านต่างๆนั้น มันก็เป็นเรื่องเฉพาะของกลุ่มคน 5,000 คนนี้เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้สื่อสารติดต่อร่วมงานกับเพื่อนจากต่างดาวได้อย่างสะดวกราบรื่นในยามที่เกิดภัยพิบัติ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะแต่ประเทศไทยเท่านั้น ประเทศอื่นๆ ก็มีกลุ่มคนที่ทำงานแบบนี้อยู่ทั่วโลก​

    การปฏิบัติธรรมที่กลุ่มเขากะลา กำลังฝึกปฏิบัติอยู่นี้จึงเป็นเรื่องเฉพาะของกลุ่มคน 5,000 คนนี้เท่านั้น ท่านที่ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องมาทำงานร่วมกับเพื่อนต่างดาว จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องมาฝึกปฏิบัติในแนวทางนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังจะเห็นได้จากข้อความที่เพื่อนต่างดาว สื่อผ่านมาทางกลุ่มเขากะลา จะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า"แจ้งเพื่อทราบ" เท่านั้น​

    ท่านที่เป็นชาวพุทธ ที่เคารพนับถือและปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์ ก็ยังคงปฏิบัติธรรมไปตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนเอาไว้ได้ตามปรกติ แม้ว่าจะได้รับคัดเลือกให้มาทำงานร่วมกับเพื่อนจากต่างดาวนี้ ก็เป็นเพียงงานเฉพาะกิจในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เพื่อฝึกใช้อุปกรณ์ที่มีวิทยาการที่ล้ำหน้ากว่าที่มีในโลกเรานี้จากเพื่อนต่างดาว เพื่อนำมาช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ในยามที่เกิดภัยพิบัติ เช่นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสสารจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว โดยผ่านประตูมิติของจักรวาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเคลื่อนย้ายผู้คน ไปยังสถานที่ปลอดภัยในยามที่เกิดภัยพิบัติ​

    สรุปก็คือมันเป็นเรื่องของการฝึกความพร้อม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อที่จะมาทำงานร่วมกับเพื่อนจากต่างดาว ของทางกลุ่มเขากะลานี้เท่านั้น มันจึงไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้ง หรือการบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการฝึกจิตของกลุ่มคน 5,000 คนนี้เท่านั้น ที่ได้รับคัดเลือกให้มาทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนจากต่างดาว ท่านที่ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องมาทำงานเหล่านี้ จึงเป็นเพียงการแจ้งเพื่อทราบ ไม่ได้ชักชวนให้ท่านต้องมาฝึกจิตในแนวทางของกลุ่มเขากะลาแต่อย่างใดครับ​
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาเหตุที่มีการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่และการฝึกจิตของกลุ่มคน 5,000 คน

    เมื่อดวงจิตที่ยังเวียนว่ายตายเกิดและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับดาวโลกนี้ ได้ทำกรรมชั่วไว้ในแต่ละภพภูมิและแต่ละภพชาติที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อดวงจิตใดทำกรรมชั่ว ก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้น ซึ่งเป็นผลแห่งกรรมเฉพาะตัว ส่วนผลแห่งกรรมรวมจะเกิดขึ้นจากกรรมชั่วที่ทุกดวงจิตได้ทำไว้และไปสะสมรวมตัวกัน จนกลายเป็นพลังกรรมดำ เมื่อพลังกรรมดำมีการสะสมรวมตัวกันมากขึ้น จะทำให้พลังนี้มีแรงผลักดันให้เกิดผลแห่งกรรรมรวมคือ จะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

    ความหมายของคำว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่"

    คำว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" ในที่นี้หมายถึง ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในระดับรุนแรงทั่วโลก ได้แก่ สภาพภูมิอากาศแปรปรวนและเปลี่นแปลงอย่างฉับพลัน อากาศร้อนจัด หนาวจัด ฝนตกหนัก ลมพายุรุนแรง ไฟไหม้ป่า ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว โคลนถล่ม หิมะถล่ม น้ำแข็งทั่วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ฯลฯ

    ภัยธรรมชาติเหล่านี้จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้มนุษย์และสัตว์เสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล ส่วนภัยอื่นๆ เป็นเพียงทางผ่านของการเดินทางไปสู่ช่วงเวลาการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

    ผลจากการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

    มนุษย์และสัตว์จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล มนุษย์จะเสียชีวิตเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมดในโลกนี้ บ้านเรือน อาคารสถานที่และทรัพย์สินทั่วโลกจะถูกทำลายพังพินาศ ระบบเทคโนโลยีต่างๆ จะเสียหายและใช้งานไมได้เลย เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบโทรศัพท์ และรบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น จะมีน้ำท่วมระดับสูงบริเวณพื้นที่ราบทั่วโลกเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น ผู้ที่รอดชีวิตจึงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสภาวะปกติเหมือนเดิม และต้องไปอาศัยหลบภัย ณ จุดปลอดภัยต่างๆ ทั่วโลกเป็นระยะเวลานาน

    ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่จะชำระล้างโลกให้สะอาดขึ้น ได้แก่ อากาศจะบริสุทธิ์ขึ้น น้ำจะสะอาดขึ้น พื้นดินเก่าจะถูกชะล้างสารเคมีและกลับฟื้นสภาพดีขึ้น ฯลฯ จะทำให้เกิดการปรับสมดุลทางธรรมชาติและจะเกิดการเปลี่นแปลงด้านภูมิศาสตร์ ได้แก่ สภาพภูมิอากาศจะเป็นไปตามฤดูกาล จะมีพื้นดินเกิดใหม่ซึ่งมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ พื้นดินเก่าบางส่วนจะจมหายไปและสายน้ำเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้ต้องเขียนแผนที่โลกใหม่ ฯลฯ

    ขั้นตอนในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ

    แผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่

    1. ขั้นตอนฝึกจิต

    2. ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติ ในขั้นตอนนี้จะมีการประสานงานกันระหว่างผู้ปฎิบัติงานทุกกลุ่ม เพื่อรวบรวมผู้ปฏิบัติงานและรวบรวมปัจจัย 4

    3. ขั้นตอนช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะต้องปฎิบัติงานภายใต้ระบบสากลจักรวาลซึ่งเป็น ระบบการทำงานของมนุษย์ต่างดาว จะทำให้งานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    ผู้ปฏิบัติงาน

    ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ มีผู้ปฎิบัติงาน 3 ฝ่าย ได้แก่

    1. ฝ่ายพระญาณ(หลวงปู่เทพโลกอุดร) ได้แก่ พระญาณต่างๆ ที่ลงมาจากสวรรค์ พรหมและดินแดนนิพพาน เพื่อทำหน้าที่ฝึกจิตแก่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลกและปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือภัยพิบัติ

    2. ฝ่ายมนุษย์ต่างดาว มีมนุษย์ต่างดาว 18 ดวงดาว ทำหน้าที่ดังนี้

    2.1 ทำหน้าที่ฝึกจิตแก่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก

    2.2 สำรวจและวิจัยมนุษย์โลก รวมทั้งสิ่งต่างๆ บนดาวโลกนี้ ได้แก่ สำรวจและวิจัยระบบในร่างกายมนุษย์โลก สภาพภูมิอากาศ ก๊าซ น้ำ แร่ธาตุและสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อจุดประสงค์ใน ข้อ 2.3 และข้อ 2.4

    2.3 สร้างอาคารสถานที่ ณ จุดปลอดภัยทั่วโลก จำนวน 30 จุด เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยพิบัติของมนุษย์โลก

    2.4 สร้างเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และยานบินเพื่อให้มนุษย์โลกได้ใช้งานตามความจำเป็น

    3. ฝ่ายมนุษย์โลก มีผู้ปฏิบัติงานจำนวน 5,000 กว่าคน แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

    3.1 ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นอากาศ

    3.2 ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นดิน

    ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายพระญาณ(หลวงปู่เทพโลกอุดร) และผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลกด้วยปัญญาญาณหยั่งรู้ว่า ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะสามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ จึงขอความร่วมมือจากมนุษย์ต่างดาว 18 ดวงดาว ซึ่งเป็นสมาชิกในสหพันธ์จักรวาลและอาศัยอยู่ในแกแล็กซีเดียวกันกับดาวโลกนี้ พวกเขามีความเจริญในธรรมะและมีความเจริญในเทคโนโลยี ดังนั้น พวกเขาจึงมีความพร้อมและเหมาะสมที่จะมาร่วมมือทำงานช่วยเหลือภัยพิบัติ

    เหตุปัจจัยในการคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก

    เหตุปัจจัยในการคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานฝ่ายมนุษย์โลก มีดังนี้

    1. มีการพัฒนาดวงจิตอยู่ในระดับที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ

    2. เคยสร้างบุญกุศลในจำนวนที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ

    3. เคยสร้างบุญกุศลร่วมกันกับผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ

    4. ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะไม่มีกรรมหนักที่ส่งผลในชาตินี้ เพระผลแห่งกรรมหนักจะทำให้ดวงจิตไม่มีกำลังต้านทานความทุกข์ในระบบฝึกจิต และผลแห่งกรรมหนักจะขัดขวางการทำความดี คือการช่วยเหลือภัยพิบัติ

    5. มีคุณสมบัติเหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

    ระบบฝึกจิต

    มนุษย์ต่างดาวได้สร้างเครื่องมือชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้เกิดคลื่นและนำคลื่นมาเชื่อมต่อดวงจิตของมนุษย์โลก คลื่นนี้สามารถคิด พูด ทำในร่างกายของมนุษย์โลกได้ เมื่อกิเลสกำเริบ คลื่นจะทำงานทันที โดยการเพิ่มปริมาณของกิเลสให้มากขึ้น ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์มากกว่าปกติและทำให้มองเห็นกิเลสหรือนิสัยได้ชัดเจนขึ้น ระบบฝึกจิตนี้เป็นระบบฝึกจิตแบบพิเศษ เรียกว่า ระบบพัฒนาดวงจิต

    ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านจะได้รับการฝึกจิตในระบบเดียวกันนี้ แต่ละท่านจะได้รับการฝึกจิตตามเหตุปัจจัยของตนเอง บางทีก็ฝึกคนเดียว บางทีก็ฝึกเป็นคู่ บางทีก็ฝึกเป็นกลุ่ม เพราะมีเหตุปัจจัยคล้ายกัน

    จุดมุ่งหมายในการฝึกจิต

    ก่อนที่ผู้ปฏิบัติงานจะไปทำงานช่วยเหลือภัยพิบัติ ทุกท่านจะได้รับการฝึกจิตในระบบพัฒนาดวงจิตเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อยกระดับดวงจิตให้สูงขึ้นหรือเพื่อขัดเกลานิสัยให้ดีขึ้น เมื่อทุกท่านได้รับการฝึกจิตให้เข้าสู่เป้าหมายแล้ว จึงจะสามารถปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนงานช่วยเหลือภัยพิบัติ ดังนั้น การฝึกจิตในระบบนี้จึงเป็นการฝึกเพื่อไปทำงานเฉพาะกิจ คือ งานช่วยเหลือภัยพิบัติ

    บทเรียนฝึกจิต

    สิ่งใดที่เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน แล้วทำให้ท่านเป็นทุกข์ สิ่งนั้นจะเป็นบทเรียนฝึกจิตของท่าน

    วิธีเอาชนะบทเรียนฝึกจิต

    เมื่อท่านรู้สึกเป็นทุกข์ ท่านต้องใช้บารมี 10 ของท่านเข้าต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อออกจากความทุกข์นั้น เช่น ใช้ความอดทน ใช้ความเพียรพยายาม ใช้ปัญญาพิจารณาความเป็นจริงในวัฎสงสาร แล้วปล่อยว่าง เป็นต้น

    ข้อมูลในช่วงเวลาฝึกจิต

    ข้อมูลในช่วงเวลาฝึกจิต จะเป็นข้อมูลจริงปนหลอก เพื่อให้เป็นบทเรียนฝึกจิตหรือเพื่อให้กำลังใจ ข้อมูลจะเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน

    ในช่วงเวลาฝึกจิตนี้ แต่ละคน แต่ละกลุ่มจะได้รับสื่อข้อมูลจากคลื่นของมนุษย์ต่างดาวหรือจากพระญาณซึ่งเป็นอาจารย์ฝึกจิต ทุกคนก็จะเชื่อมั่นในข้อมูลที่ตนสื่อได้ ว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ถ้าทุกคน ทุกกลุ่มมาพูดคุยรวมกัน จะเห็นได้ว่า ทุกคนต่างมีข้อมูลที่แตกต่างกันและอาจมีข้อมูลที่คล้ายกันบ้างในบางส่วน เพราะข้อมูลเหล่านี้เกิดจากเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติแล้ว ข้อมูลก็จะมีความเป็นหนึ่งเดียว

    เมื่อระบบฝึกจิตปิดคอร์ส

    นั่นหมายถึง ทุกคนได้รับการฝึกจิตเข้าสู่เป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการก่อนเกิดภัยพิบัติ ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านก็จะมารวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อช่วยกันทำงาน เรียกว่า กลุ่มช่วยเหลือภัยพิบัติ

    จาก ญาณในร่างต้อย
    1 มกราคม 2548

    ที่มา : http://forum.sanook.com/forum/index.php/topic,1303346.0/all.html?ckid=1202327692
     
  15. มองตน

    มองตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +116
    บ้านน้อยหลังนี้เคยเงียบสงบมานาน
    บัดนี้มีเชื้อไฟที่คุกรุ่นอยู่ภายใน เพื่อรอวันประทุ นับแต่วันที่มีสมาชิกกลุ่มฯบางส่วนขอถอนตัวออกไป วันดีคืนดี ก็มีเด็กมาจุดไฟเล่นทำให้เกิดประกายไฟ

    บางคนพยายามดับไฟ
    บางคนคอยเติมเชื้อฟืน และราดน้ำมันใส่
    บางคนก็ถอยห่าง เพื่อให้ไฟมันดับไปเอง
    พอมันจะดับ ก็จะมีคนทำให้เกิดประกายไฟอีก


    ไฟ มันเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งเชื้อฟืนที่ทำให้มันจรัสเจิดจ้า มันก็ยังเผา สุดท้ายเมื่อหมดเชื้อฟืนมันก็จะมอดม้วยลง แต่ก็ยังคงมีเชื้ออยู่ รอวันที่มีคนมาทำให้เกิดประกายไฟและประทุขึ้นมาอีกครั้ง

    ย้อนกลับมาดูที่ตัวเรา ว่าเราเป็นเช่นไร

    หยุด เท่านั้น ที่จะดับไฟได้
     
  16. firstman

    firstman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    พิจารณาตัวเอง
     
  17. มองตน

    มองตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +116
    บ้านน้อยหลังนี้ ไม่มีมารศาสนาหรอกครับ

    การปฎิบัติธรรมของกลุ่มเขากะลา ก็เป็นไปในแนวทางของพุทธะ เพียงแต่มีวิถีทางที่ก้าวเดินแตกต่างกันออกไป ก็เหมือนการปฎิบัติธรรมในสายอื่นๆ ที่มีอุบายธรรมในทางที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีแนวทางไหนดีที่สุดหรือดีกว่ากัน อยู่ที่จริตของแต่ละคน เพราะทุกแนวทางก็พาเดินไปสู่จุดหมายเดียวกัน

    มารศาสนาตัวจริง อยู่ในจิตใจของพวกเรา
    เขากำลังจ้องมองพวกเราฆ่าฟันกันเองครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เสียดายอนาคตเยาวชนของชาติ

    [​IMG]


    ผมเห็นแล้วนึกเสียดายครับ หลายคนยังเป็นเด็ก และมีความสนุกที่จะขีดเขียนข้อความฝากไว้ในอินเตอร์เน็ต ด้วยความคึกคะนอง บางทีไม่รู้ตัวเลยว่าเอาอนาคตมาทิ้งเสียด้วยการสนทนาแบบไร้หน้าไร้เสียงนี่เอง

    โอกาสก่อกรรมในยุคไอทีของพวกเรานี้ มีได้เป็นร้อยเป็นพันเท่ามากกว่ายุคอื่นครับ กระดิกนิ้วง่ายๆไม่กี่ที ผล(กรรม)อาจใหญ่หลวงยิ่งกว่าพยายามพูดในห้องประชุมใหญ่หลายๆอาทิตย์เสียอีก หากจิตตั้งไว้ดีแล้วก็สบายตัวไป แต่หากจิตยังตั้งไว้ในมุมมืด อย่างนั้นก็คงน่าเป็นห่วงหน่อยล่ะ

    ที่มา www.dungtrin.com<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. สมุนไพร

    สมุนไพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +213
    มารศาสนา ยังไม่ร้ายเท่า มารในใจตน
     
  20. สมุนไพร

    สมุนไพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +213
    จะกำหราบมารในใจตนได้ ไม่ได้อยู่ที่ เอาแพ้ หรือชนะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...