เสียงประหลาดจากสมาธิ

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวันเป็นประจำสวดมนต์วันหนึ่งก็ประมาณ1ชั่วโมง เมื่อ2วันที่ผ่านมาหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ จากนั้นก็นั่งสมาธิขณะที่จิตสงบมีเสียงประหลาดเกิดขึ้นว่า " การปฎิบัติธรรมสมาธิภาวนานั้นเราต้องใช้หลักโยนิโสมนสิการอันจะเป็นหนทางสู่มรรคผลนิพพาน" หลังจากออกสมาธิผมก็มาพิจารณาว่ามันคืออะำไรทำไมเราได้ยินเสียงประหลาดแล้วหลักโยนิโสมนสิการมันคืออะไรมีความหมายอย่างไรผมไม่เคยรู้มาก่อนและไม่เคยได้ยิน ทำให้ผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่าโยนิโสมนสิการคืออะไรและแล้วผมก็ได้ทราบคำตอบว่าหลักโยนิโสมนสิการคือ การหยั่งรู้ในจิตใจโดยแยบคายพูดง่ายๆก็คือ การเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริงตามกฎไตรลักษณ์ แล้วใช้สติปัญญาพิจราณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้นโดยหาเหตุปัจจัยต่างๆมาแยกแยะวิเคราะห์ รู้รูปนาม ขันธ์5 การมีสติอยู่กับปัจจุบันตามแนวทางสติปัฐฐาน4 การคิดแบบอริยสัจ4สรุปแล้วหนทางมรรคผลนิพพานมันรวมหมดอยู่ตรงนี้เอง ทำให้ผมมีกำลังใจในการปฏิบัติมาก นี่นะหรือที่เขาว่าสอนกันทางสมาธิแต่ผมไม่ทราบนะว่าเสียงประหลาดนั่นเป็นใครแต่เป็นเสียงผู้ชายหนุ่มน้ำเสียงไพเราะมาก แต่จิตผมมีความรู้สึกว่าน่าจะเป็นพุทธองค์ครับ แล้วเพื่อนๆมีความเห็นว่าอย่างไรโปรดชี้แนะด้วยครับ

 

ขอบคุณครับคุณวิญญาณนิพพาน

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ตั้งหน้าปฏิบัติธรรมกันครับนิพพานอยู่ไม่ไกล

 

การปฎิบัติธรรมสมาธิภาวนานั้นเราต้องใช้หลักโยนิโสมนสิการอันจะเป็นหนทางสู่มรรคผลนิพพาน"

ก็คือการพิจรณาให้เห็นคุณเห็นโทษ ของการกระทำของตัวเราเอง
ก็คือการพิจรณาให้เห็นจิต ของของตัวเราเอง ว่าจิตของเรา บริสุทธิมากน้อยเพียงใด
ไม่ต้องสนใจว่าใครจะดี ร้ายอย่างไร
เราต้องขัดเกลาจิตของเราให้สะอาดเหมือนเพชร ใหม่ๆได้มาแล้วยังไม่สวยต้องรูว่าขัดเกลาตรงไหนตัดออกตรงไหน แล้วขัดให้ชัดเจนขึ้นไปยิ่งฯ
ความรู้ตัวตนตลอดเวลา ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร สิ่งที่ผิดพราดมาแล้วก็พิจรณาว่ามีโทษโทษอย่างนี้ต่อไปไม่เข้าใก้ล ความเป็นโทษอย่างนี้อีก ใจเราจะได้ไม่เศร้าหมอง

เวลาพิจรณาแล้วก็ปลง ว่าเราจะดำรงความดีคือมีศีล มีธรรมเป็นที่ตั้ง
ให้อภัย และขออโหสิ ใจเราจะเบา มีความสุข และปฎิบัติธรรมให้สูงขึ้นได้ง่าย

 

เสียงนั้น คือเสียงศักดิ์สิทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์ ที่มาสอนกรรมฐานให้คุณ
ป้าหมูก็เคยเจอแบบคุณเป็นประจำค่ะ
และป้าหมูก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

โดย ป้าหมูวิปัสสนา

 

ไม่ใช่พุทธองค์หรอกครับ เป็นอุปาทานในเสียง พูดง่ายๆก็คือความคิดของตนเอง หรือ กิเลสมันจะหลอกให้หลง

 

กำหนดสติตั้งมั่น..รู้สักแต่ว่า..แต่รู้
ไม่ต้องทำความรู้ตามกำหนดความหมาย ว่า..เป็นอะไร..วางเฉย....
รู้แล้วละ..<!-- google_ad_section_end --> ละแล้วรู้

 

เจ้าของคำถาม ทิ้งกระทู้ตนเลย ไม่มาติดตามถามข่าวบ้างเลยหนอ เป็นไงบ้าง

 

เสียงนั้นเกิดจากเสียงของเทพที่รักษาตัวเจ้าอยู่ ถ้าเจ้าประพฤติปฏิบัติดี เขาเองก็จะมาอนุโมทนาบุญให้แก่เจ้า แต่ถ้าเจ้าจะละเว้นการประพฤติปฏิบัติ เจ้าเองก็จะไม่ได้สิ่งที่ตัวเจ้าหวัง แต่เจ้าอย่าไปยึดติดให้มาก เพราะเทพเองก็ยังมีกิเลส ใช่ว่าจะหลุดพ้นทุกพระองค์ไม่ พระพุทธเจ้าสอนว่าให้เจ้าคิดดีทำดี ต่อไป เจ้าเองก็จะได้เข้าสู่พระนิพพานด้วยตัวของเจ้าเอง ขอให้เจ้าตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม แล้วเจ้าเองก็จะได้รู้ด้วยตัวเองว่าเสียงนั้นเป็นของใคร หาใช่เสียงที่เป็นอุปทานเองไม่ หลาย ๆ คนเขาก็เป็นกันแต่ว่าเขาเองอาจจะพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่ถ้าหากเจ้าไม่เป็นกังวลกับสิ่งนั้น เสียงที่ว่าเหมือนจะเป็นเสียงอุปทานที่มาจากจิตของเจ้า จากเทพที่รักษาตัวเจ้าอยู่ เขาก็จะเงียบไปเองและเขาก็จะกลับมาโปรดเจ้าอีกในเวลาที่เจ้ามีความพร้อมมากกว่า ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้ เห็นชอบ มีสติ ขอให้เจ้ายึดมั่นเพียรปฏิบัติต่อไปนะ ขออนุโมทนา.

 

ไม่รู้ซิครับผมเพิ่งเริ่มต้นเอาใจช่วย..อนุโมทนาด้วยครับ แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี สู้ๆ

 

อนุโมทนาค่ะ
ดิฉันก็เคยได้ยินเสียงและวาจาแปลกๆในสามธิ...
ก็ทำประหนึ่งว่า"สักแต่ว่าได้ยิน"

 

-----------------------------------------------------------------
สาธุ ค่ะ จะจำเอาไปใช้ค่ะ