โวยนายทุนงาบที่ธรณีสงฆ์วัดหลวงพ่อจ้อย

​

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการร้องเรียนจาก นายประเสริฐ บุญทองขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก ว่า ที่ธรณีสงฆ์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ดอนเสาธง เนื้อที่กว่า 80 ไร่ ถูกนายทุนบุกรุกเข้าไปทำสวนปาล์มน้ำมัน โดยที่ผ่านมาทางคณะกรรมการสำนักสงฆ์ และชาวบ้านในพื้นที่ ได้พยายามต่อสู้เรียกร้องให้ทางราชการดำเนินการเรียกคืนที่ดินผืนดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ชาวบ้านอ้างว่า เป็นที่ธรณีสงฆ์ และเคยเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ดอนเสาธง พบว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ชลประทาน มีการปรับที่ดินปลูกปาล์มน้ำมัน อายุระหว่าง 3-7 ปี และบางส่วนปลูกยางพาราอายุประมาณ 3 ปี แต่ยังเหลือพื้นที่ป่าประมาณ 5 ไร่ ที่ยังไม่ถูกปรับไถพื้นที่ เพียงแต่มีการนำต้นกล้าปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 1 ปี ลงไปปลูกไว้อายุไม่เกิน 1 เดือน ขณะเดียวกันพบหลักฐานเป็นฐานเสาธงขนาดใหญ่ 2 ต้น สร้างจากไม้ตำเสา ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งประจำท้องถิ่น สภาพเหลือแต่แกนไม้ นอกจากนั้น ยังพบบ่อน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านระบุว่า หลักฐานทั้ง 2 อย่าง คือ สิ่งที่เหลืออยู่ หลังจากชาวบ้านได้ช่วยกันย้ายสำนักสงฆ์ไปตั้งอยู่ในชุมชน เมื่อ 40 ปีที่แล้ว

นายโรย จันทร์ดำ อายุ 71 ปี ชาวบ้านดอนเสาธง หนึ่งในคณะกรรมการสำนักสงฆ์ กล่าวว่า เดิมทีชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้ย้ายถิ่นฐานมาจากแถบ อ.ปากพนัง มาตั้งครัวเรือนอยู่บริเวณดังกล่าว และขึ้นอยู่กับเขตการปกครองของ หมู่ 10 ต.ดอนสัก กิ่ง อ.ดอนสัก และพบเสาธงโบราณ ซึ่งเล่าต่อกันว่า เป็นที่ตั้งกองทัพของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก จึงพากันเรียกว่า ดอนเสาธง และร่วมกันก่อตั้งสำนักสงฆ์ โดยมีท่านเจ้าคุณพระกิตติมงคลพิพัฒน์ หรือหลวงพ่อจ้อย ฐิตปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ให้ความเคารพนับถือ เป็นผู้นำ และได้ให้พระลูกวัดจากวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ มาเป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์ และมีการก่อสร้างโรงเรียนเพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาเล่าเรียน ต่อมาในปี 2512 ชาวบ้านเห็นว่า ที่ตั้งสำนักสงฆ์อยู่ห่างไกลชุมชน จึงได้มีการบริจาคที่ดินเพิ่มเติมอีก ประมาณ 46 ไร่ ห่างจากที่ตั้งเก่าประมาณ 500 เมตร และช่วยกันย้ายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดมายังที่ตั้งปัจจุบัน ทิ้งให้ที่ตั้งเดิมรกร้างว่างเปล่า จนกระทั่งมาพบว่า ถูกนายทุนบุกรุกเข้าไปยึดครอง และปลูกปาล์มน้ำมันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านเชื่อว่า สาเหตุที่นายทุนไม่สามารถไถปรับที่ดินบริเวณที่ตั้งของฐานเสาธงโบราณ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ เนื่องจากบุญญานุภาพของหลวงพ่อจ้อย ที่ต้องการให้เหลือหลักฐานว่า เป็นที่ธรณีสงฆ์ ด้วยการดลบันดาลให้ผู้ที่บุกรุกไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปไถทำลายได้ แม้จะมีความพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม ทั้งนี้ พบว่า ที่บริเวณฐานเสาธงคู่ดังกล่าวมีการตั้งศาลเพียงตา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เป็นฝีมือของกลุ่มนายทุน ที่สร้างขึ้นเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขณะที่ นายประเสริฐ บุญทองขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ปากแพรก เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้มีหนังสือตอบรับจากสำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งผลการตรวจสอบที่ธรณีสงฆ์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ที่พักสงฆ์ดอนเสาธงตั้งอยู่บนที่ธรณีสงฆ์ของวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ มีเอกสารสิทธิ์เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) 3 แปลง ประกอบด้วย เลขที่ 2714 ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักสงฆ์ในปัจจุบัน เนื้อที่ 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา เอกสารเลขที่ 1959 เนื้อที่ 43 ไร่ 27 ตารางวา และเลขที่ 1960 เนื้อที่ 39 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ซึ่งทั้ง 2 แปลงนี้ถูกนายทุนบุกรุก ต่อมาไวยาวัจกรได้ยื่นขอรังวัดสอบเขต และออกโฉนดที่ดิน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขากาญจนดิษฐ์ เพื่อจะได้ทราบแนวเขตที่ดิน และตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ ปรากฏว่า เมื่อไวยาวัจกรไปดำเนินการ กลับถูกบ่ายเบี่ยงจากเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่า ให้ติดตามผู้ครอบครองที่ดินบริเวณข้างเคียงที่ธรณีสงฆ์ไปร่วมนำชี้แนวเขตที่ดิน ซึ่งทางคณะกรรมการวัด และชาวบ้านเห็นว่า เจ้าหน้าที่ที่ดินน่าจะใช้ระวางที่ดินตามเอกสาร น.ส.3ก. ซึ่งเป็นหลักฐานที่ทางสำนักพระพุทธฯ ได้มอบให้กับกรรมการวัดดำเนินการรังวัดที่ดินได้ โดยไม่ต้องรอการชี้แนวเขตที่ดินจากผู้ครอบครองที่ดินรอบข้าง

นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดตนทราบว่า ที่ธรณีสงฆ์ 2 แปลง ที่เคยเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ ถูกออกโฉนด และมีผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวแล้ว และการที่เจ้าหน้าที่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมดำเนินการรังวัดที่ดิน จึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีเจ้าหน้าที่บางคนเข้าไปมีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มนายทุน ในการออกโฉนดที่ดินทับที่ธรณีสงฆ์ผืนดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการวัด และชาวบ้านในพื้นที่กำลังเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อเข้าพบ นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เข้าตรวจสอบเป็นการเร่งด่วนแล้ว


Daily News Online > หน้าภูมิภาค > โวยนายทุนงาบที่ธรณีสงฆ์วัดหลวงพ่อจ้อย

 

นรกเป็นที่หมายสำหรับเปรตพวกนี้ แม้แต่ที่สงฆ์มันยังไม่เว้น

 

บาปกรรมมากนัก เขตของธรณี สงฆ์ แค่เอาผลไม้ของเขตสงฆ์ก็บาปมากแล้ว ขอให้ได้ที่คืนครับ

 

ประตูนรกย่อมเปิดรับ เหล่าสัตว์นรกเสมอ ที่ดินสงฆ์ ผู้ใดครอบครองโดยเจตนา หรือไม่ก็ตาม ย่อมได้รับความวิบ้ติ แน่นอน ไม่เชื่อลองถาม บุคคลที่อยู่ดูไบเอาเอง...

 

ความโลภเป็นหนทางสู่ความวิบัติ

 

อย่างไปว่าไรเขาเลยครับ กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง เราไปโกธรเขาก็มีแต่จะเป็นทุกข์เปล่าๆ