ทำบาปมากจะไปนิพพานอย่างไร

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย gopets, 10 พฤษภาคม 2008.

  1. gopets

    gopets เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +119
    [​IMG]

    ตามปกติคนที่เกิดมาแล้วไม่มีใครไม่ทำบาป พระอรหันต์ที่นิพพานไปแล้วเกือบทุกองค์
    ชาติปัจจุบันก็ทำบาปเหมือนกัน แต่วาระสุดท้ายของอารมณ์ไม่ใช่วาระสุดท้ายของชีวิต
    ท่านตัดสินใจเด็ดขาดว่า"เราจะไม่ทำละ เรื่องบาปอกุศล เราจะทำดีเพื่อเปลื้องความทุกข์
    และพ้นจากความเกิดต่อไป คือหวังพระนิพพาน"

    การทำบาปอาจจะเป็นความจำเป็นเพราะการจองเวรจองกรรมกันก็ได้ เพราะเราเกิดทุกชาติก็มีการฆ่าสัตว์ทุกชาติ บางชาติเราอาจจะเป็นสัตว์ ถูกเขาฆ่าและอาจจะจองเวรก็ได้ อย่าง "ท่านองคุลีมาร" ขอเล่าโดยย่อ ท่านองคุลีมาร เดิมชื่อ "อหิงสกะกุมาร" เป็นลูกของปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล แปลว่า "กุมารผู้ไม่เบียดเบียน" มีความประพฤติดีมาก อายุ ๑๖ ปี พ่อก็ให้ไปเรียนวิชาความรู้ที่เมืองตักศิลา หลักสูตร ๔ ปี

    แต่อหิงสกะกุมารเรียนแค่ ๒ ปี จบหมดและเก่งมาก ครูให้สอนแทน เพื่อนรุ่นเดียวกันก็เริ่มริษยา ด้วยเห็นว่าเพื่อนมาเรียนพร้อมกันแต่ดันมาเป็นครูกันเองเสียอีก อหิงสกะกุมารเก่งทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น คือ เก่งทั้งวิชาการรบ การปกครอง และกฏหมาย พร้อมจริงๆ วิชารบนั้นเก่งเป็นพิเศษ ตั้งแต่ตั้งสำนักมาไม่เคยมีคนเก่งทั้งสองประการอย่างนี้มาก่อน ตามบาลีมีอยุ่ว่า ก่อนจะเกิดมาเป็นคน ท่านเกิดเป็นควายป่าที่มีความเก่งกล้าสามารถมาก ปราบสัตว์ป่าได้ทุกประเภทและควายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ได้ราบคาบ ชาวบ้านเขาก็โกธร ต่อมาเขารวมตัวกันคิดฆ่าควายป่าตัวนี้

    จึงทำคอกแข็งแรงมากทำทางเข้าแต่เข้าได้ไม่ถึงควายที่กักไว้ในคอก ทางเข้าคอกปากทางใหญ่ พอใกล้จะถึงคอกก็เล็กคับตัวมาก เขาเตรียมไม้ไว้เพื่อ สอดเข้าไปกันออก เอาควายเลี้ยงไว้ในคอกเพื่อเป็น "ควายต่อ" เมื่อถึงเวลาควายองคุลีมารก็ออกจากป่าเพื่อล่าสังหารศัตรู ก็หาช้างม้าวัวควายไม่พบเมื่อเดินเข้ามาถึงเขตคอก พวกควายในคอกก็กลัวแต่ไม่มีทางหนีออกจากคอกควายองคุลีมารเห็นควายพวกนั้นไม่หนีคิดว่าพวกนั้นไม่รู้จักราชสีห์ควายเสียแล้วจะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก ก็เดินวนไปวนมาหาทางเข้าไปปราบก็ไม่มีทางเข้าพอถึงประตูที่เขาทำลวงไว้ ไม่ทันสังเกตก็พุ่งตัวโดยแรงเข้าประตู ตัวก็ติดช่องแคบกลับตัวออกก็ไม่ได้เพราะคับมาก

    ชาวบ้านเห็นดังนั้นก็รีบมาเอาไม้ใส่สะกัดไว้ไม่ให้ออกชาวบ้านที่เสียหายจากสัตว์เลี้ยงถูกทำร้าย ก็รวมตัวกันทั้งหมดพันคนเศษร่วมมือกันตีราชสีห์ควายจนตายคนที่ร่วมมือจริงๆไม่กี่คนนักแต่เป็นคนที่ร่วมกันคิดร่วมทุนร่วมจัดทำคอกและร่วมใจว่าเจ้าควายตัวนี้เราต้องฆ่าให้ตายขืนปล่อยไว้สัตว์เลี้ยงเราจะตายหมด ก่อนจะตายเจ้าควายราชสีห์มันลืมตาดูทุกคนที่รุมฆ่ามัน คิดว่า "ชาติหน้ากูขอฆ่ามึงบ้าง ชาตินี้กูคนเดียวมึงรุมฆ่ากู ชาติหน้ากูคนเดียวจะฆ่าพวกมึงทั้งหมด" เป็นการจองเวรกันชัดๆ คนที่รุมฆ่าควายตัวนั้น ในชาตินี้เกิดมาเป็นคนในเขตเมืองพาราณสีและในเมืองใกล้เคียง แม่ของท่านองคุลีมารก็อยู่ในกลุ่มคนที่ฆ่าท่านมาในชาติก่อน เมื่อกรรมตามที่ท่านกล่าวจะเริ่มสนองใจ

    ก็เป็นเหตุให้คณะศิษย์ที่มาเรียนร่วมกันทั้งหมดมีอารมณ์ริษยามากขึ้น อกุศกรรมที่ทำไว้เข้าสิงใจพวกเพื่อนทุกคนจึงไปยุครูว่า "อหิงสกะกุมารจะฆ่าท่านครู และจะยึดสำนักนี้เป็นอาจารย์เจ้าของสำนักเสียเอง ขณะนี้กำลังรวบรวมพรรคพวก จะลงมือฆ่าท่านในไม่ช้านี้" เมื่อลมปากพัดบ่อยๆ หูนุ่นและหูสำลีก็อดหวั่นไหวไม่ได้ถึงขั้นปลิวลมเลย ครูอาจารย์ก็เลยวางแผนฆ่าท่านองคุลีมาร คิดว่าเราจะฆ่าเองนั้นไม่ยาก แต่การฆ่าลูกศิษย์ลูกหาด้วยมือตนเองหรือใช้ให้ใครฆ่าในสำนักความเสียหายใหญ่จะเกิดขึ้น จะหากินไม่ได้ในอาชีพนี้ต่อไป ควรยืมมือคนอื่นฆ่าดีกว่า เจ้าสำนักจึงเรียกท่านองคุลีมารเข้าไปหา บอกว่า "มีมนต์พิเศษอยู่บทหนึ่งชื่อว่า "วิษณุมนต์"

    ถ้าใครเรียนได้สามารถปราบได้ทั่วไตรภพ คือ ปราบมนุษย์ เทวดา พรหม ได้ทั้งหมดและศิษย์ที่สอนมาไม่มีใครคู่ควรกับมนต์บทนี้ มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่สมควรจะเรียนได้ มนต์นี้จะเรียนต้องยกครูก่อน การยกครูต้องฆ่าคนถึงพันคนก่อนถึงจะได้" อหิงสกะกุมารก็พร้อม

    จากวันนั้นเป็นต้นมาก็ออกล่าชีวิตคน เมื่อฆ่าคนมาหลายวันเข้าก็ลืมจำนวนคนที่ฆ่า ต่อมาจึงใช้วิธีฆ่าได้หนึ่งคนตัดเอานิ้วไว้นิ้วหนึ่ง จึงมีนามใหม่ว่า "องคุลีมารโจร" ในที่สุดก็ได้ ๙๙๙ นิ้ว ขาดอีกนิ้วเดียว หาคนที่จะฆ่าก็ยากมาก เดินหาเรื่อยไปจนเข้าเขตเมืองพาราณสีแม่ทราบว่าลูกมาใกล้ที่อยู่ จึงตั้งใจว่าตอนเช้าจะไปหาลูก

    จะไปขอร้องให้ลูกเลิกการฆ่าคน ซึ่งช่วงนี้บุญเก่าเริ่มเข้าสนองได้ กำลังที่จะทำบาปก็เริ่มคลายตัว แต่ความเข้มข้นของอกุศลก็มีไม่น้อย ตอนเช้ามืด พระพุทธเจ้าทรงตรวจอุปนิสัยของสัตว์ เห็นมรรคผลจะมีแก่องคุลีมาร และทรงทราบว่า ถ้าตอนสายวันนี้แม่ออกไปหา อาศัยการจองเวรกันไว้เธอจะฆ่าแม่เพื่อให้ได้นิ้วมือครบพันมือเมื่อฆ่าแม่ตายก็มีกรรมเป็น อนันตริยกรรม บุญมีเท่าไรจะยังให้ผลไม่ได้ ต้องลงนรกก่อน ด้วยความกรุณาพระพุทธเจ้าจึงตัดสินพระทัยเสด็จไปโปรดตอนเช้าตรู่ เมื่อองคุลีมารเห็นสมเด็จพระบรมครูก็ออกวิ่งไล่กวด แต่ไม่ทัน เธอร้องตะโกนว่า "สมณะหยุดก่อน" พระพุทธเจ้าท่านตอบว่า "เราหยุดแล้ว"

    แต่ยังเดินต่อไป องคุลีมารกวดใหม่แต่ไม่ทัน จึงร้องตะโกนไปใหม่ว่า "สมณะทำไมจึงพูดมุสาวาท ท่านยังเดินอยู่แต่บอกว่าหยุดแล้ว" พระพุทธเจ้าหันมาถามว่า "องคุลีมาร ตถาคตหยุดจากบาปกรรมอันลามกแล้ว เธอยังไม่หยุดอีกหรือ" ด้วยพระพุทธดำรัสเพียงเท่านี้ กุศลกรรมที่เข้ามาสนองใจก็มีกำลังเพราะปีติ องคุลีมารได้สติคิดว่านี่เราทำความชั่วเสียแล้วเหรอ จึงวางดาบถอดพวงนิ้วออกวาง สยายผม คลายผ้าหยักรั้ง วิ่งเข้าไปหมอบที่พระพุทธบาท พระพุทธเจ้าทรงให้โอวาท

    ในที่สุดเธอก็ขออุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนาเป็นเวลาพอดีที่แม่ไปถึง แล้วในที่สุดท่านก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ที่นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็เพื่อจะให้เข้าใจว่าการทำบาปอาจจะเป็นความจำเป็นเพราะการจองเวรจองกรรมกันก็ได้ เพื่อความมันใจ ขอให้ทุกคนตั้งใจ เวลาทำบุญจงอย่านึกถึงบาป เมื่อเจริญภาวนาจงอย่านึกถึงบาปหลังจากทำบุญแล้วให้อุทิศส่วนกุศลถึงสัตว์ที่ฆ่ามาแล้ว ขอให้เธออโหสิอกรรมจนกว่าจะเข้านิพพาน


    ทำอย่างนี้เสมอๆใจนึกถึงบุญจนชินที่ท่านเรียกว่า"ณาน"จะเป็นบุญประเภทใดก็ได้ ทางที่ดี ภาวนานึงถึงพระพุทธเจ้าไว้เป็นปกติ ท่านที่ไปสววรค์ พรหม นิพพานได้ ใช้กำลังใจจับอยู่ที่สถานที่เราชอบที่สุดไว้ทุกเช้าเย็น และคิดว่าถ้าเราตายขอมาที่นี้แห่งเดียว ถ้าทำแบบนี้ป็นปกติ ก่อนจะตายอารมณ์ก็จะจับกุศลก่อน

    จิตออกจากร่างเมื่อไร ก็จะไปตามที่เราต้องการทันที และถ้าหากขณะที่ไปเป็นเทวดา หรือพรหม พบพระศรีอาริยะเมตไตรย์เมื่อไร ฟังเทศน์จบเดียวก็จะบรรลุมรรคผล สามารถไปนิพพาน พ้นจากการกลับมาเสวยทุกข์ต่อไปอีก จากหนังสือ พ่อสอนลูก หน้า ๓๖๙-๓๗๒
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2009
  2. นายจั๊บ

    นายจั๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +1,109
    จะทำตามหลวงพ่อสอนครับ
     
  3. THANAKIM

    THANAKIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +1,740
    ขออนุโมทนา ข้าพเจ้าจะนำคำสอนของหลวงพ่อไปปฏิบัติให้ดีจนสุดความสามารถ
     
  4. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอโมทนาบุญธรรมทานอันเป็นมหากุศลด้วยครับ


    วันนี้ 19 พ.ค. 2551 เป็นวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปริพนิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    <!-- / message -->
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
  6. picmy_aui

    picmy_aui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +47
    อนุโมทนาสาธุ ครับ
     
  7. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    สาธุ เป็นข้อความที่ให้กำลังใจเเก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ดีมากมาย พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า สิ่งที่เคยทำผิดหรือเผลอไปในอดีต อย่าไปนำมาคิดให้จิตเศร้าหมองเพราะจิตเศร้าหมองกระวนกระวายเป็นจิตที่จะนำไปสู่ความทุกข์เเละถ้าจิตก่อนตายเศร้าหมองก็จะนำไปสู่อบายภูมิได้ ควรเร่งทำความดีประดุจเกลือรักษาความเค็มหรือจะเป็นปิดทองหลังพระ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ทำทานเมื่อมีโอกาสเเละปัจจัยเพียงพอ เจริญกรรมฐานตามจริตของเเต่ละคน ส่วนสาวกภูมิก็เเบ่งเป็นตามความถนัดเเละจริตเช่นเป็นสุขวิปัสโก เตวิชโช อภิญญา6 เเละปฏิสัมภิทาญาณ เพราะทุกคนล้วนจริตต่างกันการสะสมจากอดีตอาจถนัดคนละด้าน ไม่มีดวงจิตดวงใดที่ไม่เคยทำผิดตราบใดที่ยังมีขันธ์5 ยกเว้นพระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่เเละพระอรหันต์ที่เข้านิพพานเเล้วจะหลุดพ้นการเกิด เเก่ เจ็บ ตาย เเต่ถ้าดวงจิตนั้นมองเห็นเเล้วสำนึกกลับตัวกลับใจเร่งทำความเพียรเพื่อสร้างสมบารมีหรือเพื่อหลุดพ้นจากการเกิด เเก่ เจ็บ ตาย ในวัฏฏะ ก็ยังไม่สายเกินไป พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านปรารภว่า การบวชเพื่อเข้ามาในร่มกาสวพัสต์ต้องทำให้เเจ้งซึ่งพระนิพพาน นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ
    การกระทำพระนิพพานให้แจ้ง
    เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    สี่ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ถ้าไม่ได้ชาตินี้ชาติต่อๆไปก็ต้องบรรลุ หรือเเม้เเต่ฆราวาสนั้นก็สามารถเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้าได้ ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้ปูพื้นฐานไว้ให้ตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นกรรมฐานถึง40กองได้เเก่ กสิณ10, อสุภกรรมฐาน10 ,พรหมวิหาร4 ,อนุสสติกรรมฐาน10,อาหาเรปฏิกูลสัญญา,จตุธาตุวัฏฐาน4,วิปัสสนาญาณสามนัยให้เอาสังโยชน์สอบเป็นเครื่องวัดอารมณ์ ตามจริตของท่านผู้ที่จะทำให้ให้เเจ้งซึ่งพระนิพพาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y6052711-0.jpg
      Y6052711-0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.9 KB
      เปิดดู:
      34
    • lp055.jpg
      lp055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      28
    • CCI16112550_00000.jpg
      CCI16112550_00000.jpg
      ขนาดไฟล์:
      214.9 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2009
  8. ส.เชียงใหม่

    ส.เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +145
    ขอนำคำสอนไปปฏิบัติครับ..อนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ..ขอบุญรักษาและมีความสุขทุกท่านครับ
     
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    เมื่อธรรมจักษุยังไม่เกิดขึ้น ย่อมเผอประมาททำบารมีดี กับ บารมีเลวปะปนกัน

    ธรรมจักษุ เกิดขึ้น ณ ขณะใดย่อมเห็นหนทางไปยังพระนิพพาน
     
  10. nspparama

    nspparama เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +178
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับหลวงพ่อแล้วจะนำพระธรรมคำสอนของหลวงพ่อไปบอกต่อๆๆไปนะครับ สาธุ
     
  11. siltham

    siltham สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาด้วยคนกับคำสอนของหลวงพ่อ เป็นจริงดังนั้นเพราะพระพุทธองค์บอกว่าคนจะเป็นสุขได้ต้องตั้งจิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่นำพาอดีตและอนาคตเข้ามาจะทำให้พิจารณาเห็นตามสภาพของความเป็นจริง จะเห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยุ่และดับไป เห็นกฎของไตรลักษณ์ ก็จะอยู่ในสภาวะของโสดาบัน ก้าวเข้าสู่โคตรของอริยบุคคล ซึ่งหมายถึงนิพพานก็อยู่ไม่ไกลเกิน ๗ ชาติแน่ๆๆ
     
  12. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    อ่านแล้วน้ำตาไหล

    ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าอย่างยิ่ง
     
  13. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    [​IMG]

    กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ
    ---------------------------------------
    * คนเจ้าปัญญา ย่อมบริหารอารมณ์
    สร้างอารมณ์ที่ควรสร้าง
    เสพอารมณ์ที่ควรเสพ
    ควบคุมอารมณ์ทีควรควบคุม
    รักษาอารมณ์ที่ควรรักษา
    สลายอารมณ์ที่ควรสลาย
    เขาจึงเป็นนายของอารมณ์โดยสมบูรณ์ *

    ขอพญายมราชและท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่จงโมทนาและเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าด้วยเถิด...สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...