หลักการถือศีล ๕ ให้ครบ โดยแม่ชีทศพร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย honey_bee414, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. honey_bee414

    honey_bee414 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,665
    [​IMG]


    ;aa55 หลักการถือศีล ๕ ให้ครบ ;aa55

    ใครรักษาศีล ศีลก็จะรักษาคนผู้นั้นให้ปลอดภัยมีความเจริญ กั้นอำนาจกรรมเก่า
    ที่จะมาบั่นทอนชีวิต

    ขั้นตอนในการรักษาศีลให้มีความบริสุทธิ์ก็เปรียบเสมือนกับเสื้อผ้าที่สะอาดไม่มีรอยด่างพร้อยของสีอื่นๆ

    แม่ชีทศพรบอกว่าคนเรามักจะชอบคุยเรื่องของคนอื่น มนุษย์ชอบพูดถึงบุคคลที่ 3 ถ้าลูกน้อง 2 คนคุยกัน ก็จะคุยถึงเจ้านาย การคุยเรื่องคนอื่นก็หนีไม่พ้นเรื่องของศีลข้อที่ 2

    บางคนจะมีรหัสกรรมเด่นคือนิสัยชอบพูดคุยนินทาคนอื่นไม่หยุดปาก ทำอย่างไรก็แก้ยาก แม้จะเข้าวัดมาปฏิบัติธรรมพยายามรักษาศีลข้อที่ 2 โดยไม่ไปโกหกใครแต่ทว่าเราก็ยังอดนินทาให้ร้ายบุคลที่ 3 ไม่ได้ ก็ถือว่าทำให้ศีลข้อที่ 2 มีมลทิน ด่างพร้อยแทนที่เราจะได้อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ 2

    การว่าร้ายผู้อื่นทำให้จิตใจเราขาดเมตตา เพราะขณะที่นินทาผู้อื่นอยู่นั้นจิตใจของเรามีความสนุกสะใจสนุกสนาน ในการนินทาทุกครั้งมักจะมีความขยายความเพิ่มเติม

    จากข้อมูลข่าวสารที่เราได้ยินมาจากที่อื่นการเพิ่มเติมข่าวสารเข้าไปโดยที่เราไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นการเพิ่มเติมข้อมูลข่าวสารการให้ร้ายคนอื่นโดยตัวเราเองเข้าข่ายการมุสาหรือปั้นน้ำเป็นตัวโดยที่เราเองไม่ทันรู้ตัว

    ในขณะที่”จิตใจ” ของเราที่เมามันกับการว่าร้ายนินทาผู้อื่นนั้น มันยึดเอา”ตัวเราและคำพูดของเรา” ที่ประกอบไปด้วยรูปร่างหน้าตาของเราที่แสดงออก บุคลิกของเราในขณะนินทา อารมณ์ที่คลุกเคล้าเข้าประทับในจิตนี้กลายเป็นตอกย้ำรหัสกรรมเดิมของตนเองมากขึ้นจนยากที่จะถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นได้ แถมตนเองยังสร้าง “เจ้ากรรมคนใหม่” เกิดขึ้นรายวันอีกด้วย

    การรักษาศีลให้ได้นิสงส์อันประเสริฐบริบูรณ์จะต้องไม่ทำให้ศีลขาด หลักการที่ถือว่าศีลขาดนั้น มี 3 ขั้นตอนด้วยกันคือ

    1.ศีลขาด หมายถึงการตั้งใจผิดศีลและทำให้ศีลนั้นขาดโดยสมบูรณืทั้งกาย วาจา ใจ เช่น การคิดฆ่าสัตว์ แต่สัตว์นั้นยังไม่ตาย มีความพยายามวางแผน กระทำการฆ่าให้สำเร็จลง เรียกว่า ศีลขาด

    2.ศีลทะลุ หมายถึงพยายามฆ่าแต่ไม่สำเร็จเปรียบเสมือนเสื้อผ้าที่เป็นรูก็ยังดีกว่าเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้

    3.ศีลพร้อย หมายถึงไม่ได้ตั้งใจทำแต่ให้สัตว์เดือดร้อน เรียกว่าศีลพร้อย คนโบราณเปรียบศีลดั่งเสื้อผ้า มีรอยกระดำกระด่าง เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ขาวสะอาด

    แม่ชีทศพรเล่าให้ฟังว่า มีโยมผู้ชายที่เป็นข้าราชการ พอได้ยินเสียงแม่ชีอธิบายถึงความงดงามอันอัศจรรย์ของศีลว่าสามารถแก้รหัสกรรมบางอย่างและดัดนิสัยของคนให้ค่อยๆเข้าเส้นทางธรรมได้อย่างไร โยมผู้ชายคนนนี้ถึงกับร้องว่า”โอ้ . . . ผมไม่กล้าที่จะทำอะไร”

    พอแม่ชีทศพรได้ยินก็ค่อยอธิบายด้วยความใจดีว่า ทุกเรื่องราวต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่าทำให้การปฏิบัติธรรม รักษาศีลเป็นเรื่องเคร่งเครียดขอให้ทำแบบสบายๆ ค่อยๆปรับนิสัย รับศีล 5 ไปก่อน จากนั้นค่อยๆ โน้มนำจิตใจให้อ่อนลงสู่ธรรมได้เองในเวลาต่อมา

    ;20 คัดลอกจาก : http://www.thossaporn.com/article_detail.php?id_edit=34




    :z9 เขียนความดีที่หัวใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กรกฎาคม 2009
  2. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ก็จริง บางทีคุยกันสนุกปาก ไม่รู้ตัวเลย ทำผิดศีลข้อ 2 ง่ายๆ ไม่รู้ตัวอีกด้วย
    พูดให้น้อย ก็ทำให้หลีกเลี่ยงกรรมข้อนี้ไปได้ ต้องพยายาม แม้จะยาก
     
  3. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    บุญเราไม่เคยสร้างใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ลูกเอ๋ย ก่อนจะไปเที่ยวขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัวเมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง... <o:p></o:p>
    จงจำไว้นะ.. เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้... ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดิน ก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า... <o:p></o:p>
    นี่คือ คำเทศนา ของเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิต หลังจากที่ล่วงลับไปแล้ว เมื่อ100 กว่าปี อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดี อย่างไม่มีที่สิ้นสุด <o:p></o:p>
     
  4. mint2546

    mint2546 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +46
    ก็กำลังพยายามปฎิบัติให้ได้ และก็หมั่นทำความดีตลอดครับ ต้องดีให้ได้ครับ
    -------------------------------------------------------------------------
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. bork

    bork Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +37
    มีสติ รู้ตัว ศีล 5 ก็จะบริสุทธิ์ได้นะครับ
     
  6. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 174pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=232 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 23pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1133" width=31><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><COL style="WIDTH: 55pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 2669" width=73><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 23pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=31 height=20> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 55pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=73> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" colSpan=3>อนุโมทนา... สาธุ...</TD></TR><TR style="HEIGHT: 8.25pt; mso-height-source: userset" height=11><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 8.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=11> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 25.5pt; mso-height-source: userset" height=34><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 25.5pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=34> </TD><TD class=xl69 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" colSpan=2>ทาน ศิล ภาวนา</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    กรรมฐาน

    วันเสาร์จะเป็นวันที่โยมหลั่งไหลมาที่วัดพิชยญาติเป็นจำนวนมาก หลังจาก
    รับศีล 8 เรียบร้อยทุกท่านก็จะต้องเข้าปฏิบัติตามที่ทางวัดจัดโปรแกรมปฏิบัติ
    เอาไว้ คือ นั่งสมาธิ เดินจงกลม โดยมีพระวิปัสสนาจารย์เป็นผู้อบรม นำพาให้
    ทุกท่านอยู่ในอารมณ์ของ “สติปัสฐานสี่”

    แต่จิตใจของมนุษย์ที่จะนั่งให้สงบนั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก ก็มีหลายท่านที่
    พยายามจนนิ่งสงบลงจนเห็นได้ชัดจากที่ได้พบกันหลายๆอาทิตย์ส่วนแม่ชี
    ก็นั่งแผ่เมตตาเหมือนกัน การนั่งของแม่ชี แม่ชีใช้บทพุทธคุณ ธรรมคุณ
    สังฆคุณ เป็นอารมณ์โดยสวดมนต์ในใจตลอดเวลา บางครั้งก็ใช้บทชินบัญชร
    เป็นอารมณ์ เพราะถ้าไม่มีบทสวดมาเป็นอารมณ์ ก็ทำให้แม่ชีฟุ้งเหมือนกัน

    เมื่อนั่งไปเรื่อยๆก็มีรูปของสภาวธรรมของโยมสไลด์มาที่แม่ชี แม่ชีก็
    พิจารณาองค์ธรรมที่เกิดขึ้นโดยระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “สิ่งที่เกิด
    ขึ้นเบื้องหน้านี้ ขอให้แม่ชีรู้แจ้งแทงตลอดในธรรม สิ่งใดที่พระพุทธองค์มิ
    ได้ตรัสรู้สั่งสอน ขออย่าให้ข้าพเจ้ารู้เห็นเลย”

    แม่ชีเห็นญาติพี่น้องของโยมทั้งหลายที่ตายลับจากโลกนี้ไปแล้ว เป็นกาย
    วิญญาณนั่งหนาวสั่น ไม่มีอาภรณ์ติดกาย แม่ชีจึงอธิษฐานว่า “ถ้าบุญกุศลใด
    ที่แม่ชีทำสำเร็จแล้ว เกิดผลแล้ว จงส่งผลให้วิญญาณเหล่านี้ จงได้รับในบุญ
    ของแม่ชี” หลังจากอธิษฐานเสร็จ แม่ชีเห็นรูปวิญญาณค่อยๆ เคลื่อนกายละลาย
    ไปในอากาศคล้ายควันบุหรี่ แม่ชีเริ่มกำหนดทุกข์ที่เห็นในขณะที่นั่งวิปัสสนา
    ก็ได้รู้เหตุและผลว่า วิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถรับบุญจากการใส่บาตรได้ เพราะ
    ในขณะมีชีวิต ชอบติเตียนพระสงฆ์ ติเตียนผู้มีพระคุณ คือ “พ่อ แม่”

    เมื่อลูกหลานมานั่งปฏิบัติรักษาศีล จนความบริสุทธิ์เกิดขึ้นทั้งสามทางคือ
    “กายสุจริต วาจาสุจริต ใจสุจริต” ก็ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นท่ามกลางความมืดมิด
    แสงสว่างของบุญทำให้วิญญาณของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายติดตามแสงบุญมาอาศัย
    กายลูกหลานสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น จะสังเกตได้ไม่ยาก เพราะถ้าญาติตาย
    ด้วยโรคร้ายทางปอดก็จะไอไม่หยุด และถ้าตายเพราะฆ่าตัวตายก็จะทำให้ลูกหลาน
    ที่มาปฏิบัติ ลุกขึ้นเดินไปแอบนั่งโทรศัพท์คุยกับเพื่อนเบื่อหน่ายการปฏิบัติ เพราะ
    ผู้ที่ฆ่าตัวตายนั้นมีกรรมมาก ทำอย่างไรก็รับบุญบริสุทธิ์ไม่ได้ มีอีกมากมายที่ต้อง
    ทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดจากการตาย

    แม่ชีเคยคิดว่าตายแล้วคงหมดทุกข์ แต่ความจริงไม่ใช่ ตายเช่นไร เจ็บปวด
    ทรมานเท่าไร ก็ยังเจ็บปวดเช่นนั้น นอกจากว่าท่านทั้งหลายเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
    เห็นความเป็นไปของสังขารว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ก็จะเห็นความเป็นจริงของสติปัฏฐานสี่
    คือ สติกำหนดพิจารณากายเป็นอารมณ์ว่า “กายนี้ก็สักว่ากายไม่ใช่สัตว์ บุคลวัตนะเรา
    “เขาเรียกว่า “กายานุปัสสนาเก้า”

    สติกำหนดพิจารณาเวทนา คือ สุข ทุกข์ และอุเบกขาเป็นอารมณ์ว่า “เวทนานี้
    สักว่าเวทนา ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเรา” เขาเรียกว่า”เวทนานุปัสสนา”

    สติกำหนดพิจารณาใจที่เศร้าหมอง หรือผ่องแผ้วเป็นอารมณ์ว่าใจนี้ก็สักว่าใจ
    ไม่ใช่สัตว์บุคคลเรา เขาเรียก “จิตตา นุปัสสนา”

    สติกำหนดพิจารณาธรรมที่เป็นกุศลหรืออกุศล ซึ่งเกิดขึ้นกับใจเป็นอารมณ์ว่า
    “ธรรมนี้ก็สักว่าธรรม ไม่ใช่สัตว์บุคคลตวัตนเรา” เขาเรียกว่า “ธัมมานุปัสสนา”

    สติปัฏฐานแปลว่า “สติเป็นที่ตั้งเป็นประธาน ใช้สติพิจารณาให้รู้เท่าทันว่า
    กายก็ดี สุข ทุกข์ก็ดี ใจก็ดี ธรรมอื่นเป็นกุศลหรืออกุศลก็ดี เพียงสมมุติเป็นอย่างหนึ่งๆ
    ไม่ใช่เขา ไม่ใช่เรา ไม่จีรัง เมื่ออุบัติขึ้นมาแล้วล้วนเสื่อมสลายเหมือนกันหมด”

    แม่ชีฝึกวิปัสสนามาพอสมควร ได้รู้ได้เห็นก็มาก ก็อยากให้ผู้อ่านที่รักมาฝึก
    เจริญสติปัฏฐานสี่กัน เพื่อเตรียมจิตเตรียมใจ เมื่อวันที่ต้องหมดเวลาในโลกมนุษย์
    จะได้ไปสู่สุคติอย่างสงบ แลจะได้ไม่ต้องยึดในสังขารอีกต่อไป ถ้าเจริญวิปัสสนา
    อยู่อย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้รู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆที่ปรุงแต่งให้ทุกข์สุข ว่าไม่เที่ยงหนอ

    ก็อปปี้

    เรื่องการประกอบอาชีพ ทุกคนล้วนต้องการได้กำไรมาก มันเป็นเรื่องธรรมดามาก
    ที่ทุกคนจะทำให้ได้กำไรมากทุกคน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีทุกข์เกิดขึ้นกับครอบครัว
    หนึ่งที่เข้ามาเพื่อปรึกษาถึงความทุกข์ที่เกิดขึ้น

    แม่ชี “โยมเปิดร้านขายเสื้อผ้าส่งนอกหรือเปล่าค่ะ”
    โยม “ค่ะทำกางเกงยีนส่งนอก”
    แม่ชี “ทำนานไหมค่ะ”
    โยม “ทำมาเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ”
    แม่ชี “รวยไหมคะ”
    โยม “ถ้ารวยคงไม่มาหาแม่ชีหรอกค่ะ ยิ่งทำก็ยิ่งเป็นหนี้”
    แม่ชี “แม่ชีเห็นโยมก็อปปี้ยี่ห้อลีวาย และก็อีกหลายยี่ห้อ”
    โยม “เขาสั่งมาค่ะ หนูก็ทำตามใบสั่ง หนูไม่เข้าใจว่าเป็นกรรมได้อย่างไรค่ะ”
    แม่ชี “อะไรก็แล้วแต่ที่เขาจดทะเบียนลิขสิทธิ์ไว้แล้ว โยมทำผิดโยมก็ต้องรับผิดชอบ
    ทำมาตั้ง 20 ปี น่าจะร่ำรวย แต่เพราะมันเป็นการลอกเลียนแบบก็ถือว่าโยมทำผิดมา 20 ปี
    เงินทองที่ได้มามันก็จากไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันผิดกฎหมาย

    ???ǒ?/url]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กรกฎาคม 2009
  8. m@c

    m@c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ขอโมทนาค่ะ

    ศีลข้อ 2 นี้ คือ
    อทินนา ทานา เวรมณี สิกขาปทังสมาธิยามิ
    หมายถึง การไม่ลักขโมย
    ศึลข้อ 4 คือ
    ทุสาวาจา เวรมณี สิกจาปทังสมาธิยามิ
    หมายถึง การพูดปด พูดเพ้อเจ้อ ฯลฯ

    ขอความกรุณาตรวจสอบด้วยนะคะ ว่าคุณแม่ชีท่านพูดถึงเรื่องศีลข้อใด
    เข้าใจว่าท่านสั่งสอนไม่พลาด
    สาธุค่ะ
     
  9. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    เพื่อนๆสมาชิกโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะครับ ข้อมูลของเจ้า
    ของกระทู้ผิดนะครับ จขกททราบแล้วกรุณามาแก้ให้ถูกต้องด้วยครับ
    เดียวจะทำให้เข้าใจผิดในข้อศีล เห็นให้อนุโมทนาคุณตั้งหลายคนแล้วด้วย
    . แล้วกรุณาให้ความกระจ่างด้วยว่า ข้อมูลที่ไปเอามาผิดหรือเจ้า
    ของกระทู้พิมพ์ผิด
     
  10. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    กราบอนุโมทนาครับ ผมจะเป็นมนุษย์ที่พยายามรักษาศีลข้อที่ 2 ให้ได้มากที่สุดครับ ทั้งกาย วาจา ใจ
     
  11. oyoyo554

    oyoyo554 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +9,199
    ศีล 5 มีอะไรบ้าง
    <!--Main-->[SIZE=-1]ศีล ๕ ข้อ คือ
    ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
    ๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้ (ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์)
    ๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
    ๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ (พูดโกหก พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ พูดหยาบคาย)
    ๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
    [/SIZE]
     
  12. โลมาน้อยน้อย

    โลมาน้อยน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
    แต่ว่าทำไมเป็นศีลข้อ2ล่ะคะ กรรมของการพูดเป็นศีลข้อ4ไม่ใช่เหรอคะ
     
  13. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    สติจะรักษาศีลให้อยู่ตลอดเวลาจ๊ะ

    เช่นกำลังจะนินทาสติบอกว่ากำลังผิศีลน่ะ..เสียสัจจะต่อตัวเอง
    คนเราที่ทำผิดศีลที่ตัวเองตั้งใจจะรักษาเข้าสติมีไม่พอ(ไม่ใช้ว่าจะไม่มีน่ะ)
     
  14. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    จำผิดกันบ้างไม่ต้องเครียด
     
  15. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    เรื่องเกี่ยวกับการนินทาว่าร้าย เป็นศีลข้อที่ 4 ไม่ใช่เหรอครับ

    ถ้าจำไม่ผิดศีลข้อที่ 2 จะหมายถึง การไม่ลักทรัพย์ ไม่ลักขโมย...
     

แชร์หน้านี้

Loading...