หาก บุญนี้ ยิ่งให้ยิ่งหด คุณจะยัง แจกบุญ อยู่ไหม น๊อออออ ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย 5th-Lotus, 14 กรกฎาคม 2009.

  1. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    เคยอ่านเจอข้อความที่ว่า
    อธิฐานส่วนบุญให้ผู้อื่น
    ก็เหมือนต่อเทียนให้ผู้อื่น
    ไม่ได้ทำให้ไฟเราหดหายไปได้

    PANTIP.COM : Y7997139 ͸԰ҹ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ให้อย่างไรก็ไม่หมดครับ.....อุทิศบุญก็คือการให้...ได้บุญต่อ....ภาษาบาลีท่านเรียกอะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว....แต่ได้บุญต่อครับ.....
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2009
  4. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    ก็ยังคงให้
     
  5. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ถ้าผมจะบอกว่า..ยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม..คุณจะรีบแจ้นให้อย่างเร็วไหม? อยากรู้
     
  6. dhamaskidjai

    dhamaskidjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,855
    ค่าพลัง:
    +5,727
    ให้ครับ
    ถ้าให้แล้วบุญเราหายก็ไม่เป็นไร
    แต่คนรับมีความสุขสบายขึ้นก็ให้
    เรายังมีชีวิตอยุ่ ทำใหม่ก็ได้


    แต่ยังไงมันก็ไม่หายอะ
    ตามพุทธศาสนาอะนะ
     
  7. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    ให้หมดเลย เอาไปเลย
     
  8. มาตรมณี

    มาตรมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +555
    ให้แล้ว"หด" ดีกว่าให้แล้ว"หมด" นะ แต่ถึงจะให้แล้ว "หด" หรือ "หมด" ก็ยังควรต้องให้ผู้ที่ด้อยกว่า ให้ไปแล้วเราก็สร้าง-สะสมใหม่ซิ จะกลัวไปทำไมถ้าเราเป็นผู้บำเพ็ญสม่ำเสมอ ยังไงก็ต้องมีบุญใหม่มาเติมอยู่ดี

    เปรียบได้กับการทำทานด้วยทรัพย์นะ ทำแล้วถึงเงินในกระเป๋าจะเหลือน้อยลง แต่ถ้าเป็นคนขยันหมั่นเพียร ไม่เกียจคร้านในการทำมาหากิน ก็จะมีเงินใหม่เพิ่มขึ้นมาไม่ขาดสายแน่นอน

    แต่จริงๆ แล้วยิ่งให้ยิ่งเพิ่มตะหากนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  9. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    บุญยิ่งให้ยิ่งเพิ่มครับ ไม่เหมือนการจ่ายเงินครับ ยิ่งจ่ายยิ่งหมดครับ เเต่ถึงถ้ามีข้อสมมุติอย่างที่ จขกท กล่าวมาว่า ให้เเล้วหด ผมก็ยังคงยืนยันจะให้ต่อไปครับ การให้เป็นเรื่องที่ดีครับ ยิ่งให้ได้มากเท่าไหร่ เรายิ่งละได้มากเท่านั้นครับ
     
  10. เพชรแก้ว

    เพชรแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +874
    ให้หมดเลย ไม่ห่วง ไม่หวง หาไหม่ก็ได้ ง่ายจัง
     
  11. อวิปลาส

    อวิปลาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +353



    เค้าเรียกทำบุญ ทำทาน ถ้าใช้กับพระสงฆ์องค์เจ้า...มันถึงจะออกมาจากใจ...ลดความตระหนี่...ความเห็นแก่ตัว...ความใจแคบ...ความงก.


    แจก...ใช้กับคนที่ส่งซองเปล่าหรือกล่องเปล่า สินค้าที่เป็นสปอนเซ่อร์รายการเกมส์โชว์ หรือรายการต่างๆทาง ทีวี เช่น ชิงร้อยชิงล้าน เป็นต้น .ติดแสตมป์พร้อมชื่อที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ .
    แจก...ใช้กับคนตกทุกข์ได้ยาก ยากจนค้นแค้น หรือ จากเหตุ ต่างๆที่เกิดจาก ภัยธรรมชาติ.

    ที่ถามมานั้น คนถามหมายถึงอย่างใร.

     
  12. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    อืม...มีคนใจดี มา อนุโมทนา
    กับกระทู้แกว่งปากหาเท้า เอ๊ย กระทู้ โยนหินถามทาง ของอิฉันด้วยหรือนี่ ?
    จริต 6 ชนิด ในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน( แต่ละคน ) มัน ต่างกันจิง ๆ ด้วย แฮะ อิอิ

    อืม...จิง ๆ ที่ตั้งกาทู้นี้ขึ้นมา
    ก็ด้วยอารมณ์ประมาณ ลูกหมาที่มันคันเขี้ยว อยากแทะกระดูกมั้ง
    ( ช่วงนี้โดนพันติ๊ป เจี๋ยนอมยิ้ม เลย เฉาปากนิดหน่อย แหะ ๆ ^ - ^ )
    นี่ก็เลยกะว่า จะ งดพันติ๊ป เข้าพรรษา แล้วสงบปากสงบคำสักเล็กน้อย

    แต่ในเมื่อมีผู้ให้เกียรติมาแจม
    ก็ขออนุญาต ตอบกาทู้รายหัว ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ของอิฉันละกัน
    แต่คงไปก๊อปข้อความบางส่วน
    ที่เคยโพสฟัด เอ๊ย เสวนาธรรมกับชาวบ้าน
    มาตอบ ก็แล้วกันนะเจ้าคะ ( เพราะดูแล้วประเด็น มันคล้าย ๆ กัน )

    คุณ Phanudet
    ปัตติทานมัย งั้นหรือ ?
    เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่า
    บุญมันแบ่งให้กันได้
    เหมือน ข้าวสารอาหารแห้ง และ บัตรเติมเงิน อิอิ
    อะไร คือ บุญ อะไร คือ บาป
    ตามที่จริตคุณมันปรุงแต่งล่ะเจ้าคะ ?
    โดยส่วนตัวอิฉัน คืดว่า
    "ข้าวช่วยคนได้ลิ้มให้อิ่มเอง" อะนะ
    แต่ เจ้าสสารที่เรียกว่า บุญ
    มันแบ่งสรรปันส่วนกันไม่ได้หรอกนะ
    ถ้าอยากได้คุณต้องขวนขวายหามาเอง
    อ่ะ ส่วนอันนี้ แถมมมมมม
    ในฐานะที่เข้ามาเปิดซิง เอ๊ย เข้ามาแจมในกาทู้อิฉันเป็นคนแรก
    (ก็ไม่รู้จะเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนไหมนะ )
    http://www.prachasan.com/bookread/jarit6people.pdf

    และ

     
  13. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    คุณ coolz / คุณ hura /คุณงูขาว /คุณมาตรมณี /คุณวิญญาณนิพพาน/คุณเพชรแก้ว
    คิดเหมือนกันนะเจ้าคะ
    รู้ป่ะ กระทู้นี้ อิฉันได้แต่ใดมา ?
    เมื่อปีที่แล้วมั้ง ช่วงที่หลวมตัวเข้าสู่วงการปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ
    วันหนึ่งขณะที่กำลัง ทวนจิต ทวนศีล ต่อศีล และ แผ่เมตตานั้น
    พออิฉันพูดตามไดอะล็อค ที่ตั้งใจไว้ ว่า
    " ข้าพเจ้าขอยกกุศลกรรม"ทั้งหมด"ที่ได้กระทำ
    ให้กับเจ้ากรรมนายเวร และทุกชีวิต "
    จู่ ๆ เจ้า อัตตาในตัวมันก็เกิดอาการงกบุญ หวงบุญ
    โวยวายแว่บขึ้นมาทันที ประมาณว่า
    เฮ้ย นังนู๋บี ถ้าหล่อนยกบุญกุศลให้ชาวบ้านหมด
    เอ็งก็ไม่เหลืออะไรไว้ให้อุ่นใจเลยดิ หมดกั๊น สูญ ๆๆๆ
    ก่อนที่ อิฉันจะถูกเจ้าอัตตา มันล่อลวง
    ตอนนั้นแม่ ผจก.ส่วนตัว อย่างเจ้าหิริโอตัปปะ
    มันก็รีบมาเลคเชอร์เทศนา เอ๊ย เจรจาหว่านล้อมอิฉันใหญ่ ประมาณ
    " มีโอกาสนั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้ทำบุญมากกว่าคนอื่นฯลฯ "
    ก็คล้าย ๆ ที่คุณคิดนั่นแหล่ะ
    ช่วงแรกกว่าจะทำใจคล้อยตามได้
    กว่าจะตะล่อม เอ๊ย สลัด ตัวกูของกู ได้ ก็หลายอาทิตย์อยู่นะ
    ถึงขนาดต้อง สร้างไดอะล็อค คำอุทิศส่วนกุศล ซะยาวเฟื้อยยยยยย ให้มันเคลิ้ม
    " อนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกชีวิต
    ล้วนหาโอกาสในการสร้างกุศลกรรมได้ยากยิ่ง
    ในขณะที่ข้าพเจ้าหาโอกาสในการสร้างกุศลกรรมได้เสมอ
    ดังนั้นข้าพเจ้าขออุทิศกุศลกรรมทั้งหมดที่ได้กระทำ
    ให้กับเจ้ากรรมนายเวรและทุกชีวิต
    ส่วนข้าพเจ้าจะไปหาเอาใหม่ในดาบหน้า
    เพราะข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่า
    ข้าพเจ้าหาโอกาสในการสร้างกุศลกรรมได้เสมอ "
    ตอนหลังพอเริ่มชำนาญมีทักษะ ขว้างตัวกู-ของกู ออกไปจากตัวเอง มากขึ้น
    ก็คำพูดเลยเริ่มหด เหลือแค่
    " อนึ่งข้าพเจ้าขออุทิศกุศลกรรมทั้งหมดที่ได้กระทำ
    ให้กับเจ้ากรรมนายเวรและทุกชีวิต
    ส่วนข้าพเจ้าจะไปหาเอาใหม่ในดาบหน้า
    เพราะข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่า
    ข้าพเจ้าหาโอกาสในการสร้างกุศลกรรมได้เสมอ "
    ก็ไม่รู้ว่า บุญที่ทำนี้ มัน ยิ่งให้ ยิ่งหด หรือเปล่านะ
    แต่เวลาทำงี้แล้ว ก็รู้สึกดี รู้สึกว่า จิตมันแจ่มเจรียง อ่ะ
    ก็เลยต้องมานั่งแจกบุญอุทิศส่วนกุศลพร่ำเพรื่อ อยู่บ่อย ๆ ไง้
    อืม...แต่จะว่าไป บุญที่ทำนี้ มัน ยิ่งให้ ยิ่งหด จิง ๆ นั่นแหล่ะ
    รู้สึกว่า ตัวกู-ของกู มันหดเหลือนิดเดียวเองนิ
    เหอะไว้ครึ้ม ๆ อิฉันจะตั้งกาทู้
    " ทานบารมี ท่านทำสิ่งนี้เพื่ออะไร " มาให้อ่านนะเจ้าคะ ^ 0 ^
     
  14. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    คุณ อวิปลาส
    โอ๊ะ โอ๋ ทำบุญ กับ แจกบุญ มันไม่เหมือนกันหรอกหรือนี่
    โปรดอภัยให้คววามอ่อนด้อยทางภาษาของอิฉันด้วย
    แต่ฟังที่คุณพูดมา อิฉันก็ยังจะ ปรุงแต่งตัวหนังสือ
    และใช้คำว่า แจกบุญ อยู่ดีแหล่ะ มันเห็นภาพดี
    บังเอิญเส้นแบ่งทางภาษา ของคุณกับอิฉันมันไม่เหมือนกันกระมัง
    จริตของคุณเป็นตัวขีด เส้นแบ่งนั้น ขึ้นมา
    แต่จริตของอิฉันมันขี้เกียจเกินกว่าจะ ขีดเส้นแบ่งแยกทางภาษา
    และ อิฉันก็ใช้สิ่งนี้แหล่ะ ปรุงแต่งตัวหนังสือ เพื่อ สนองอัตตาของตน

    และ ที่ตั้งกระทู้ แกว่งปากหาเท้า เอ๊ย เสวนาธรรม หนนี้
    ก็หมายความตามที่เขียนนั่นแหล่ะ
    ถ้าคุณตอบ เรื่องสมมุติ ในกระทู้อิฉันด้วยความจริงใจในจริตคุณ
    โดยไม่มัวมานั่งงมโข่งกับตรรกะ และ สิ่งที่คุณคิด(ว่า) คือ ความจริง
    คุณก็จะได้รับรู้ถึง อัตตาแห่งตน ว่า
    คราบไคลของ ความโลภ ความตระหนี่ ที่เกาะติดในดวงจิตคุณนั้น
    มันตื้นลึกหนาบางแค่ไหน
     
  15. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    ถึง ทุกท่าน ( ที่ หลวมตัวเข้ามาอ่าน ^ 0^ )
    เคยโพสกาทู้ ทำนองนี้ไว้ที่พันติ๊ปเมื่อ หลายอาทิตย์ก่อน
    แล้วมันเก๊าะ ดับสูญ ไปแล้ว ตามหลักของไตรลักษณ์ ^ - ^
    วันนี้เลยเอาข้อความบางส่วนที่มีคนมาแจมกระทู้นั้น
    มาให้อ่าน โดยเลือกเอาเฉพาะส่วน( ที่ ถูกจริตของตน )
    ลองอ่านดูได้นะเจ้าคะ
    ความคิดเห็นที่ 3
    ดิฉันเองก็ไม่ได้กล้าหาญแบบคุณนู๋บีหรอกนะคะ
    แต่ดิฉันถูกใจคำถามแบบนี้ไม่น้อยเลยค่ะ
    เวลาดิฉันทำบุญ เป็นอย่างไรก็ไม่รู้
    ใจมันไม่ค่อยอยากได้บุญเลย
    มันไม่อยากจบ ไม่อยากอนุโมทนา
    มันอยากให้ออกไปเฉยๆ อย่างนั้นแหละ
    มันอยากได้กุศลกระมัง
    คือความที่กิเลสมันหมดไป หายไป
    หมดไป หายไป คือมันจะคอยรู้สึกอย่างนั้น
    แต่นี่ก็ไม่ใช่กิเลสดิฉันมีน้อยแล้วนะคะ
    ยังมากอยู่ค่ะ ยังมีอยู่ไม่น้อยเลย
    แต่พอเข้ามาอยู่ในแวดวงธรรมะ
    เห็นเขาสาธุ เขาอนุโมทนากัน แต่ละคนหน้าตาผ่องใส
    ดิฉันเป็นโรคชอบเห็นคนผ่องใส ก็เลยเอากับเขาบ้าง
    แต่ถ้าถามว่า อยากได้บุญไหม อยากไปสวรรค์ไหม
    กระทั่งอยากไปนิพพานไหม ดิฉันก็ยังบอกไม่ถูกเหมือนกัน
    บอกถูกแค่ว่าปฏิบัติธรรมแล้ว ใจเบาสบายขึ้น โลกน่าอยู่ขึ้น
    อันนี้ก็เล่าสู่กันฟังค่ะ อยากบอกว่าชอบกระทู้คุณนู๋บีนะคะ
    เปรี้ยว เฉี่ยว สะเด็ดยาด แต่มีอะไรลึกๆ เสมอ
    จากคุณ : oDaineo - [ 21 มิ.ย. 52 17:46:31 ]
    ความคิดเห็นที่ 10
    ยิ่งให้ ยิ่งหด ทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นเดือดร้อน คงไม่เรียกว่าบุญกระมังครับ
    การที่เราคิดจะทำบุญ นั่นหมายถึงเราไม่หวังสิ่งตอบแทน นอกจากความรู้สึกดีดี หรืออาจจะมีของแถมเป็นวัตถุกลับมา ก็ถือเป็นโชคสองชั้นก็เป็นได้ครับ
    ทำบุญไม่จำเป็นจะต้องทำด้วยเงิน หรือวัตถุจับต้องใด ๆ ให้เป็นเพียงแค่ความรู้สึก หรือการกระทำจากเรา ด้วยความเต็มใจ ^^ แค่นี้ก็เรียกว่าบุญแล้วครับ
    เตะก้านคอโจรวิ่งราวกระเป๋า คุณคิดว่าได้บุญ หรือบาป เอ่ย ... ลองคิดดูนะครับ
    จากคุณ : ฝันที่13 - [ 21 มิ.ย. 52 18:15:39 ]

    ความคิดเห็นที่ 15
    ทำบุญ ก็เป็น "กรรม" อย่างหนึ่ง เป็นกุศลกรรม
    ใครทำกรรมอย่างไร ก็ได้ผลของกรรมอย่างนั้น
    หิว....ทำกรรม....คือกิน....ผลของกรรม.....กินมาก....จุก
    เอาความจุกไปแบ่งให้ใครได้ล่ะ กินคนเดียวก็จุกคนเดียว
    ใครทำบุญก็ได้แต่ผลบุญ รับไปเต็ม ๆ อุทิศให้ใครไม่ได้ แบ่งใครไม่ได้
    นอกจากผลของการทำบุญ ทำให้ผู้อื่นได้ประโยชน์
    กินมาก...จุก...อ้วก....สุนัขจรจัดมากิน...อิ่ม.. เอ...ใครได้บุญหว่า ??
    จากคุณ : ขอเป็นสมาชิกบัวเหล่าที่5ซักวัน (บุญเรือง) - [ 21 มิ.ย. 52 21:41:36 ]

    ความคิดเห็นที่ 25
    ความเห็นของ คห.๓ ตรงกับใจผมจริง ๆ ครับ จึงให้กิ๊ฟทันทีที่อ่านจบ
    และเมื่ออ่าน คห.ต่อมา ก็ดูเหมือนไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย
    เวลาผมทำบุญ ถ้าใส่บาตร
    ผมก็หวังว่าจะให้พระภิกษุองค์นั้นอิ่ม มีแรงปฏิบัติศาสนกิจต่อไป
    ถ้าบริจาคเงินช่วยสมทบบูรณะปฏิสังขรพระอุโบสถ
    ผมก็หวังว่าพระอุโบสถนั้นจะได้อยู่ถาวรให้ยืนยาวต่อไป
    ผมไม่ได้หวังอยากได้อะไห้มากมายจากการทำบุญนั้นเลย
    เพราะผมเชื่อว่า "ข้าวช่วยคนได้ลิ้มให้อิ่มเอง"
    ถ้าคนไหนกินข้าวคนนั้นก็ต้องอิ่มไม่ว่าจะอยากอิ่มหรือไม่ก็ตาม
    ผมจำมาจากคำคลอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ครับ
    เพราะฉะนั้น คำถามของ จขกท.ว่า
    ถ้าทำบุญและอุทิศให้ผู้อื่น แล้วบุญจะหด ยังจะทำกันอีกไหม
    ผมขอตอบว่าผมก็ทำเรื่อยไปครับ
    เพราะผมกล่าวอุทิศว่า
    ขอแบ่งส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำแล้ว ให้แก่.............................
    คงยังเหลืออยู่บ้างกระมังครับ.
    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 22 มิ.ย. 52 09:09:11 ]



    ความคิดเห็นที่ 26
    ยังไม่เคยตอบกระทู้ คุณนู๋บีฯ ถือว่าวันนี้แนะนำตัวนะครับ
    อ่านกระทู้คุณบ่อย ไม่ติไม่ชมนะครับ ถือว่าคุณมีเอกลักษณ์ในการเขียนเฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร รู้สึกคุณมักจะเขียนกระทูในแนวเพื่อชีวิต...เวลาเขียนสงสัยโพกผ้าขะม้า
    มาตอบกระทู้คุณดีกว่า
    ผมทำบุญทำทานบ่อยมาก และบ่อยมากของบ่อยมาก ไม่เคยจบ ไม่เคยอธิษฐานเลย ไม่เคยคิดถึงการได้เลย ทำแล้วจิตใจว่างเปล่า รู้อย่างเดียวมันเป็นกุศล
    บางครั้งก็ได้รับสายตาเชิงคำถามว่า แล้วไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ ไม่ขออะไรบ้างเลยเหรอ....ไม่ขอครับ ไม่รู้จะขออะไร
    แล้วถ้าทำแล้ว ให้คนอื่นแล้วบุญมันสึกหรอ จะให้ไหม...ตอบว่าให้ครับ เพราะบ่อยครั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้อะไร จะให้ใคร มันก็คงไม่สึกหรอบกพร่องลงไปกว่าเดิมหรอก...จริงไหม
    จากคุณ : norapob - [ 22 มิ.ย. 52 11:03:16 ]
    ความคิดเห็นที่ 34
    ขอตอบให้ตรงกับคำถามของเจ้าของกระทู่ล่ะกันครับ
    ถ้าบุญยิ่งให้ยิ่งหด เหมือนเงินทองที่ใช้แล้วก็หมดไป ถามว่าจะเที่ยวแจกบุญไหม อันนี้ก็ขึ้นกับอุปนิสัยของแต่ละคนครับ ถ้าทำบุญแล้วยังมีความตระหนี่ ยังหวงของ ๆ ตน ไม่แบ่งปันใคร คน ๆ นี้ก็คงไม่เผื่อแผ่บุญไปให้บุคคลอื่นหรอกครับเพราะกลัวหมด แต่ถ้าเป็นคนที่ทำบุญเพราะเป็นการสละออกซึ่งความยึดมั่นถือมั่นจริง ๆ เขาย่อมมีความยินดีที่จะแบ่งส่วนบุญส่วนกุศลนั้นให้แก่บุคคลอื่นโดยไม่เสียดายแน่นอนครับ แถมยังจะคิดอีกด้วยว่าหมดแล้วก็ทำใหม่ได้
    ผู้ปฏิบัติธรรมจริง ๆ ย่อมไม่ยึดมั่นถือมั่น แม้แต่เรื่องบุญกุศลหรือความดี เมื่อทำแล้วก็ไม่ยึดติด เพราะจะกลายเป็นการ " ติดบุญ " หรือ " ติดดี " จะกลายเป็นว่าแทนที่จะสละออกกลับกลายเป็นยังยึดถืออยู่เหมือนเดิม
    จากคุณ : อุบาสก - [ 22 มิ.ย. 52 19:26:49 ]

    --------------------------------------------------
     
  16. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    อ้อ แต่ถ้าไผ อยากอ่าน ฉบับเต็ม
    ก็ ไปพยายามควานหาโดยเสิร์ช กูเกิ้ล คำว่า


    "การทำบุญ.....ยิ่งให้ ยิ่งได้ ? [ 2009-06-28 20:25:40 ]"



    ดูก็แล้วกัน ขี้เกียจโยงลิงค์ เพราะมันเสี่ยงกับการได้รับแจกใบแดง
    ตอนนี้ยังไม่อยากได้ใบแดงจากเวบนี้ มาสะสมในคอลเลคชั่น ^ - ^
    อ้อ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะเจ้าคะ
    ตัวหนังสือของอิฉันฉบับ ฟูล ออปชั่น
    มันค่อนข้างจะ ทิ่มแทงแสลงจิต
    บรรดาเหล่า ศรัทธาจริตชน ค่อนข้างมาก
    หากยังไม่มี พุทธจริต เพียงพอ
    ขอเตือนว่า อย่า พยามควานหามาอ่านเล๊ยยยยย
    เด๋วจาอกแตกตาย เอ๊ย ขุ่นมัว ซะเปล่า ๆ
    (เราเตือนคุณแล้วน๊าาาา หุหุ )
    เจริญในธรรม ... ( แค้ก...แค้ก... )
    ปล.
    เฮ้อออ เผลอเข้ามาพล่าม เอ๊ย เม้าส์แตกในนี้จนค่ำ
    วันนี้ อิฉันเลยอดเดินเตะฝุ่น เอ๊ย เดินจงกรมรอบโรงบาลเลยแฮะ ( หาเรื่องอู้ตามเคย อิอิ)
     
  17. บุตรพระแม่อนุตตรธรรม

    บุตรพระแม่อนุตตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +428
  18. อู๋ซิน

    อู๋ซิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +45
    ต่อให้เราให้บุญที่เรามีทั้งหมดไปให้เค้า บุญที่ตีกลับมามันเยอะกว่าเดิมอ่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...