พระพุทธวัดพระธาตุเสด็จ ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง

[FONT=Tahoma,]พระพุทธวัดพระธาตุเสด็จ ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง

คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ

ภูษณิศา สัญญารักษกุล



<table width="20%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>"พระพุทธรูปวัดพระธาตุเสด็จ" เป็น พระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่ แห่งวัดพระธาตุเสด็จ ตั้งอยู่เลขที่ 638 หมู่ 5 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดคู่แฝดกับวัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง

ห่างจากตัวเมืองลำปางไปตามถนนสายลำปาง-งาว ประมาณ 17 กิโลเมตร โดยมีทางแยกเข้าสู่วัดด้านซ้ายมือประมาณ 1.5 กิโลเมตร

พระ พุทธรูปวัดพระธาตุเสด็จ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียง แสนผสมสุโขทัย ทำด้วยสำริด มีขนาดหน้าตักกว้าง 290 เซนติเมตร สูง 370 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่ในวิหารสุวรรณโคมคำ หรือวิหารพระพุทธ

ตาม ตำนานพระธาตุนครลำปาง เล่าว่า วัดในจังหวัดลำปางที่เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่ 2 วัด คือ วัดพระธาตุลำปางหลวง และวัดพระธาตุเสด็จ

ตามตำนานเมืองละกอน หรือเมืองเขลางค์ อันอยู่ในตำนานพื้นเมืองและตำนานจามเทวีวงศ์ ก่อนที่จะสถาปนาสร้างนครเขลางค์คู่กับนครหริภุญชัย โดยพระนางจามเทวี

ใน อดีตเชื่อกันว่าพระธาตุทั้งสองเป็นพระธาตุที่ปกปักรักษาเมืองเขลางค์นครที่ อยู่ตรงกลางระหว่างพระธาตุทั้งสอง ซึ่งพระธาตุจะตั้งอยู่เหนือเมืองและใต้เมือง

สำหรับพระพุทธรูปวัด พระธาตุเสด็จ ประดิษฐานอยู่ในวิหารสุวรรณโคมคำ สร้างขึ้นพร้อมกับวิหารสุวรรณโคมคำ ในปี พ.ศ.2366 สมัยเจ้าหอคำดวงทิพย์ เป็นเจ้าผู้ครองนครลำปางลำดับที่ 3 ซึ่งพงศาวดารเจ้าเจ็ดตนกับหอคำมงคล กล่าวถึงตอนที่พระเจ้าหอคำดวงทิพย์ สร้างวิหารสุวรรณโคมคำวัดพระธาตุเสด็จว่า

"ตราบต่อเท้าอักขระป๋าเว ณีเดือนห้าเป็งมารอดแล้ว เจ้าก็เอารี้พลโยธาอากะราชเทวีราชมนตรีภายใต้ ทั้งภายนอกและภายในเสด็จออกจากเวียงไป ไปรอดสารจอดตำหนักหลวงในวัดเสด็จแล้ว เจ้าก็แต่งห้างเครื่องครัวทาน มีมหาอัตถะบริขารตานตุงแป้นสองผืน ปูชายังภะคะวาต๋น สร้างใหม่ภายมหาวิหาร เจ้าก็เปิกบาย แลจำศีลกิ๋นตานโอกาสหยาดน้ำยังมหาวิหารอันต๋นได้สร้างใหม่ จิ่งใส่จื่อว่า วิหารโคมคำ พระพุทธรูปเจ้าต๋นสร้างใหม่ ใส่จื่อว่า พระพุทธรูปพระธาตุเสด็จก็มีวันนั้นแล"

เดิมวิหารสุวรรณโคมคำ สถานที่ประดิษ ฐานพระพุทธรูปวัดพระธาตุเสด็จ เป็นวิหารโถงโล่งไม่มีฝาผนัง ได้รับการบูรณปฏิ สังขรณ์ครั้งใหญ่ใน พ.ศ.2500 โดยแม่เลี้ยงเต่า จันทรวิโรจน์ ได้สร้างฝาผนังขึ้นและเจาะช่องระบายลม ฐานวิหารเป็นฐานปูนเรียบยกสูงจากพื้นโดยรอบ ช่อฟ้าวิหาร และคันทวย หรือนาคทัณฑ์ทั้งหมดต่างก็มีลวดลายงดงามต่างๆ กัน

เสาวิหารแต่ละ เสามีการตกแต่งลายคำ คือ ลงรักปิดทองเขียนลวดลายพื้นเมืองผสมลายจีน เช่น ลายดอกประจำยาม ลายดอกไม้พุทธมงคลจีน ลายบุคคล นอกจากนี้ ลวดลายตามส่วนต่างๆ ของวิหารล้วนหมายถึงสิ่งบ่งบอกถึงศิลปกรรมในสมัยพระพุทธศตวรรษที่ 20-24

สิ่ง ที่น่าอัศจรรย์ของวิหารนี้ คือ เสาต้นแรกด้านซ้ายมือที่มีบัวคว่ำบัวหงายจะเงาเลื่อมเป็นมันและใหม่อยู่ตลอด เวลา ทั้งๆ ที่ไม่มีใครทำความสะอาด นี่คือคำบอกเล่าของ พระครูโสภิตพัฒนานุยุต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ รูปปัจจุบัน

วัด พระธาตุเสด็จยังมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระเจดีย์พระธาตุเสด็จ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมฐานสี่เหลี่ยม ศิลปะสมัยเชียงแสน กว้าง 7 วา สูง 15 วา

นอกจากนี้ ยังมีวิหารจามเทวี ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า พระนางจามเทวี กษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย ได้เคยเสด็จมายังดอยเขางาม หรือเขลางค์บรรพต เพื่อจะสร้างพระนครขึ้นใหม่ให้เจ้าอนันตยศ พระโอรสพระองค์เล็กทรงปกครอง โดยสร้างพระนครใหม่บริเวณที่ราบลุ่มของดอยเขางาม และตั้งชื่อพระนครว่า ศรีนครชัย

เนื่องจากเป็นนครที่มีชัยภูมิดี และเป็นเมืองที่พระธาตุของพระพุทธเจ้าตั้งอยู่สองข้างของตัวเมือง คือ พระธาตุลัมภกัปปะนคร (พระธาตุลำปางหลวง) และพระธาตุดอนโพยง (พระธาตุเสด็จ) พระนางจามเทวีได้เสด็จไปนมัสการพระธาตุทั้งสอง และได้ทอดพระเนตรพระธาตุแสดงปาฏิหาริย์ ทรงเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก จึงได้มีการสร้างวิหารจามเทวีหลังนี้ขึ้น ปัจจุบันเป็นวิหารศิลปะรุ่นตระกูลสล่า บูรณะในปี พ.ศ.2476 โดยคณะอุบาสิกาในจังหวัดลำปาง

ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปาง มารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สร้างด้วยสำริด หน้าตักกว้าง 153 เซนติเมตร สูง 212 เซนติเมตร มีพระพักตร์อิ่มเอิบตามลักษณะของประติมากรรมเชียงแสนทุกประการ

ภายในวัดยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ วิหารหลวง พระเจ้าแก้วหยก พระพุทธรูปปางลีลา พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุเสด็จ เป็นต้น

วัดพระธาตุเสด็จ จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์และตำนานอันน่าสนใจ

ที่มา : ˹ѧ

 

ยังไม่เคยไปเลย ... ถ้ามีโอกาสจะไปให้ได้...

 

บ้านป้าบุษอยู่งาวด้วยล่ะแม่สร้อย หุหุหุ

 

เหรอ ไปทานข้าวบ้านคุณบุษฯ ก่อน แล้วค่อยมาแวะบ้านป้าคุณบุษฯ ....

 

หมายถึงบ้านป้าบุษอยู่ใกล้วัดนี้ไง แต่จะไปกินข้าวบ้านบุษก็ไปได้เลย พ่อกะแม่อยู่

 

อ้าวไปถึงจะไปขอข้าวกินดื้อๆ จะโดนไล่ตะเพิดออกมาหน่ะสิ...

 

แม่สร้อยฯ ดูหมิ่นน้ำใจคนเหนือซะแล้ว รู้ป่าวสมัยก่อนยายบุษเล่าให้ฟังว่า ถนนหนทางยังไม่สะดวกสบายแบบนี้ มีพ่อค้าเร่เดินทางไปขายของตามหมู่บ้านต่างๆ แล้วเมื่อก่อนจะไม่มีร้านขายข้าว หรือร้านขายของแบบเซเว่น เหมือนเดี๋ยวนี้ ค่ำที่ไหนเค้าก็เข้าไปทำความรู้จักกับชาวบ้าน แล้วชาวบ้านก็ให้ที่พักที่กินด้วยนะแม่สร้อย บางทีมีอาหารจำกัด ก็ยังชวนเค้ามาทานเลย มีแค่ไหนกินแค่นั้น แล้วแขกจะได้กินของดีๆ ก่อนลูกเมียที่บ้านซะอีกนะรู้ป่าว

 

ขอโทษจ้า ก็กลัวว่าไปคนเดียวคุณพ่อคุณแม่คุณบุษฯไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาจู่เข้าไปหา มาดีมาร้ายก็ไม่รู้อ่ะ ฉะนั้น ก็ต้องไปพร้อมกับคุณบุษฯ นั่นแหล่ะ....

 

ไปหลายคนยังได้เลยแม่สร้อย พ่อแม่บุษเค้าใจดีเลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่

 

ไปหลายคนยังได้เลยแม่สร้อย พ่อแม่บุษเค้าใจดีเลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่

อ่านไปอ่านมาชักหิว...ขอไปกินด้วยคนนะเจ้า.
คนเมืองเหนือน้ำใจงามเหมือนหน้าจริง ขอคนใต้ตัวดำๆฝากท้องด้วยคน.

 

ได้จ้า