อยากรู้ว่าบิดา(เสียชีวิตแล้ว)อยู่ไหน ใครรู้วิธีบ้าง

เนื่องจากบืดาเพิ่งเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ป่วยเป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางรถที่โคราชมา 1 ปี ก่อนนั้นนอนรักษาตัวอยู่ที่ กทม. กับพี่ชายดิฉัน(เช่าอพาร์ตเม้นท์อยู่) และได้เสียชีวิตลง น้องสาวจึงนำรูปและจุดธูปเชิญวิญญาณไปอยู่บ้านภรรยาของแก(แม่เลี้ยงดิฉัน)ที่จ.ร้อยเอ็ด

แต่ทั้งนี้ดิฉันอยากทราบว่า ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใด ไปร้อยเอ็ดหรือยัง หรือยังอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์ หรือยังอยู่ตรงไหน หรือว่าไปสวรรค์แล้ว

รบกวนผู้มีวิธีแนะนำด้วยค่ะ

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ สำหรับการสูญเสีย
แต่ นั่นแหละคือธรรมชาติ
ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไปอยู่ที่ใดหรอกครับ คนตายก่อนหน้าพ่อของคุณมีเป็นอนันต์ เขามีวิถีของเขาที่ดีแน่ คอยทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานอุทิศ ไปให้ท่านบ่อยๆ ท่านได้แน่นอน

ส่วนเรื่องท่านจะไปอยู่ไหน นี่ลำบากมากที่จะเจอ เพราะเปรียบเหมือน โยนเข็มไปในมหาสมุทรแล้วควานหา เพราะดวงจิตในจักรวาลนี้มีอยู่มาก เว้นแต่จะได้คนมี จุตูปปาตญาณจริงๆ แล้วเร็วและแม่นยำจริงๆ จึงจะทราบได้

แต่ไม่ต้องกังวลหรอกครับ คนที่เคยใกล้ชิดกัน เวลานึกถึงกันมันถึงกันได้แน่นอน มันไม่ไกลกันหรอกครับ มันอยู่ใกล้ๆ แต่เพียงแค่ อะไรสักอย่างกั้นนิดเดียว คอยทำความดีแล้วอุทิศให้ท่าน รับรองครับ

 

ขอทดสอบสัญญาณค่ะ

เท่าที่ดิฉันเห็น
คุณพ่อของคุณ ท่านมีอายุ ประมาณ 55-65 ปี ก่อนเสียชีวิต

เมื่อตอนที่ท่านปกติสุขภาพแข็งแรงดี ท่านเป็นคนผิว 2 สี ไม่ขาวมาก เป็นคนรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซ.ม. ต้นๆ ลักษณะผมบาง ใส่แว่น

เท่าที่เห็น ท่านใส่เสื้อผ้าฝ้ายสีขาว กางเกงผ้าแพรสีแดง

*ถ้าใช่แสดงว่า สัญญาณชัดเจนดี เท่าที่เห็น ท่านอยู่ในห้องเล็กๆ สีหน้าของท่านแลดูเฉย ๆ ผนังห้องทาสีฟ้า เปิดไฟแล้วก็ยังดูทึมๆ ในห้องนั้นมี เตียงไม้ขนาด 3 ฟุต อยู่ 1เตียง โต๊ะ นั่งเล่นหรือทานข้าวขนาดไม่ใหญ่มาก มีเก้าอี้ไม่น่าจะเกิน 3 ตัว อยู่ในห้องนั้นค่ะ

*ช่วยบอกที ว่าใช่หรือไม่ใช่ ใกล้เคียงมากน้อยแค่ไหนบอกด้วยนะคะ

คุณคะ การที่เราจะรู้ว่าคนที่ตายไปแล้วอยู่ที่ไหนนั้นยากมาก ถ้าจะรู้มันจะรู้เองเห็นเอง

ถ้าถามว่ามีวิธีอื่นไม๊....ตอบยากมากค่ะ บางคนฝึกมาเกือบทั้งชีวิต แต่ก็ไม่สามารถรู้หรือเห็นได้ ขึ้นอยู่กับหลาย ๆสิ่งประกอบกันค่ะ อย่างดิฉันเคยฝึกสมาธิมานิดหน่อยค่ะ แต่ก็เคยไปรู้ไปเห้นเรื่องของคนอื่น...บางเรื่องรู้แล้วสบายใจ บางเรื่องรู้แล้วไม่สบายใจ บางทีอยากจะปิดไม่ให้รับรู้ แต่มันก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะมันไปรู้เองเห็นเองค่ะ

สิ่งที่ดีที่สุดคือการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ท่านค่ะ ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพไหนภูมิไหนท่านจะได้รับอย่างแน่นอนค่ะ แม้กระทั้งคนที่มีชีวิตอยู่ก็ยังได้รับเลยนะคะ

 

คุณต้องมนต์

ทำไมไม่ถามจิตวิญญาณดวงนี้เลยละ
หรือไม่ก็ถามท่านท้าวยมทูต น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
แต่หากสื่อสารกับท่านได้นะครับ
เพราะว่าบางครั้ง หากจิตวิญญาณดวงนั้นไม่มีความสัมพันธ์กับเราโดยตรง
อาจทำให้ทิพย์จักขุญาณไม่แจ่มชัดก็ได้ครับ

 

ก็เห็นแค่นั้น และยังไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็น

แล้วก็กลัวว่าจิตมันจะปรุงแต่งขึ้นมาเอง ดิฉันจึงต้องถามคุณเจ้าของกระทู้เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เราเห็น กับ ความเป็นจริงมันตรงกันหรือเปล่า เพราะว่าในบางครั้งมันก็ชัดเจนดี แต่ในบางครั้งก็กลัวเรื่องของอุปาทานค่ะ

 

จขกท

เท่าที่อ่านมีใกล้เคียงแต่ไม่มากค่ะ บิดาเสียอายุอยู่ที่ 60 แต่ท่านเป็นคนเตี๊ยค่ะน่าจะไม่เกิน 160 ผิวสองสี ออกทางคล้ำ(เป็นคนใต้น่ะค่ะ)และอพาร์ทเม้นท์ของพี่ชายจะไม่มีโต๊ะทานข้าวหรือเก้าอี้ค่ะ แต่เตียงที่บิดานอนรักษาตัวเป็นเตียง 3.5 ฟุตค่ะ
ยังไงก็ขอขอบพระคุณนะคะที่ทุกคนมีน้ำใจเข้ามาอ่าน ตอนแรกดิฉันคิดว่าคงจะไม่มีคำตอบจากใครซะอีก(ซึ้งทุกคำตอบค่ะ)
ขอบคุณจากใจ

 

ว่าแล้ว แค่นี้ยังเพี้ยนเลย แล้วจะไปคุยกะท่านยมได้ยังไงล่ะ สงสัยจะเอาความรู้คืนอาจารย์ไปหมดแระ

 

ลองเข้าไปห้องกฏเเห่งกรรมสิคะ
มีกระทู้แผ่เมตตาหรือไงเนี่ยแหละค่ะ เป็นกระทู้ปักหมุด
เจ้าของกระทู้จะช่วยแผ่เมตตา แล้วก็ดูให้ว่าอยูภพภูมิไหนน่ะค่ะ

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=122402
ลิงค์นี้อ่ะคะ

 

คุณไปอยากรู้ทำไมตอนนี้
ตอนท่านอยู่ทำไมไม่ถามว่าท่านต้องการอะไรบ้าง แล้วปรนนิบัติท่านให้ดี
พอท่านตายไปแล้วดันมาอยากรู้ขึ้นมาซะเฉยๆ ซึ่งถ้าหลงทางอาจโดนหลอกหรือเสียทรัพย์หรือเพ้อเจ้อไปเรื่อย
หลักการคือคุณต้องหักใจในเรื่องเกิดแก่เจ็บตายของธรรมดาโลก หมั่นทำบุญทำทานสวดมนต์ภาวนา
รักษาศีล5 รักษากายวาจาใจ ปฏิบัติฆารวาสธรรม ประกอบสัมมาอาชีวะที่สุจริต
เป็นคนดีของสังคม คุณพ่อถ้าท่านสามารถรู้ได้ ท่านก็คงปลื้มใจในตัวคุณเอง
ซึ่งในทางกฏแห่งกรรม คุณพ่อของคุณอาจจะวนเวียนอยู่รอบๆตัวของคุณ อาจเกิดเป็นแมว อาจเกิดเป็นโอปาติกะสิงอยู่ ณ ศาลพระภูมิ อาจเกิดเป็นเทวดาอยู่ในต้นไม้ข้างบ้านคุณเป็นต้น ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้ ยกเว้น เช่นพระป่า ระดับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นต้น ซึ่งถึงท่านรู้ ท่านก็ไม่บอกคุณ เพราะมันไม่มีประโยชน์ใดๆเลยในทางธรรม แต่มันจะเป็นโทษทางโลกด้วยซ้ำไป เช่น ท่านบอกคุณพ่อคุณเกิดเป็นแมว เท่านั้นคุณก็จะถูกโลกประณามแล้วว่า บ้า คนอะไรรักผัว(ถ้ามี)น้อยกว่าแมวซะอีก เอาแมวนอนมุ้ง ปรนนิบัติแมวยิ่งกว่าลูกกว่าผัว เปลืองตัวเหลือหลาย อย่ารู้นะดีที่สุดแล้วโยม

 

อยู่ในใจตลอดไปไม่มีวันลบเลือน

ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 22 ไม่เคยเจอญาติพี่น้องหรือคนบ้านใกล้เรือนเคียงเสียเลยครับ

แต่ก็เริ่มจาก 4 ปีก่อน พี่ข้างบ้านครับ ลำไส้อักเสบหรือไงนี่เหลาะ ช๊อคตาย ทิ้งลูกทิ้งเมีย
อีกไม่นานพี่ข้างบ้าน พี่สาวของคนที่พึ่งตาย ก็ตายเพราะเป็นเอดส์ (ไปทำงาน กทม)
ต่อมา ยายหลังบ้าน ไปงมหอยในสระหลังบ้าน จมน้ำตายสงสัยเป็นลมในน้ำ
ต่อมา ยายหน้าบ้าน เบาหวาน ติดเชื่อในกระแสเลือด
ติดๆมาด้วย ป้าหน้าบ้านด้านซ้าย เป็นลม เบาหวานขึ้นตาย

และล่าสุด สองปีก่อน ยายผมเอง ติดเชื้อในกระแสเลือด กลับไปไม่ทันดูใจ อายุขัย 80
และ ปีที่แล้ว ตาก็ตามยายไปด้วยโรคเดียวกัน อายุขัย 98 ปี (กลับไปเยี่ยมบ้านพอดี เลยได้เป็นคนอุ้มศพ ลงมาอาบน้ำ)

แต่ผมไม่เสียใจที่ท่านเสียครับ คิดว่าท่านพ้นทุกข์หมดเวรหมดกรรม
ไม่เสียใจแต่คิดถึงมากๆ

นึกขึ้นมาทีไร น้ำตาก็จะไหล

ตาจ๋า ยายจ๋า

 

สาธุ สาธุ สาธุ พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก นับว่าประเสริฐแล้วที่นึกถึงท่านและอยากรู้ว่าท่านไปอยู่นะแห่งใดภพใด ตามประสบการณ์นะครับ มันก็เป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธานะครับ คุณอาผมท่านเป็นครูนะครับ แต่กิจวัตร ไม่ธรรมดาเช่นเราท่านครับ ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ก็เห็นอาสนใจเรื่องพระธรรม ศึกษาพุทธธรรม มาตลอด ขนาดยุงกัด อาแกไม่เคยตบตีเลย จะบอกอิ่มแล้วก็ไปซะ มดกัด ก็เป่าออก บัดจุบันท่านสามารถติดต่อจิตวิญญาณได้ หากเล่าไปคุณจะเชื่อไม่เชื่อก็สุดแต่ตนเองนะครับ ก่อนที่ท่านจะติดต่อได้ มีแสงประหลาดพุ่งมาหาแก เป็นแสงสีเขียวจัด แต่เย็นเหมือนมีเมตตานะครับ ต่อมาภายหลัง ก็มีวิญญาณ ล่องลอยมาขอความช่วยเหลือ ให้ท่านช่วยส่งไปสวรรค์ให้ด้วย ท่านก็ถามว่า ใครบอกให้มา วิญญาณเหล่านั้นตอบเหมือนกันว่า เทวดา บอกมา ตั้งแต่นั้นมา มาทุกวันเลย ณ วันนี้อาบอกผมว่า 100 ล้านดวงที่ส่งไปสวรรค์ 1 แสนดวงที่สามารถส่งไปเป็นเทพได้ เมื่อต้นปีนี้ ท่านปู่ ท่านย่า เสด็จลงมาขอให้ยกจุฬามณี ให้จะยกสวรรค์ทั้งหมดมาอยู่ให้หมด อาแกก็ปรับที่ปรับทางที่บ้านเตรียมสร้าง ก็เห็น ก้อนกรวดหัวแม่มือ สีขาว สวย อาบอกว่าสังหรณ์ใจจึงหยิบขึ้นมาดูและเก็บไว้ที่ สมเด็จองค์ปฐมของหลวงพ่อฤษีลิงดำที่ท่านเป็นลูกศิษย์ บูชามาตั้งแต่ปี 2528 (ประมาณ) แล้วนั่งฌาณดูจึงรู้ว่าเป็นพระธาตุเสด็จมา ต่อเรื่องจุฬามณี อาแกถามท่านปู่ท่านย่าว่า จะให้สร้างให้ตนเองสร้างไม่เป็น ท่านตอบว่า ท่านนั้นแหละเหมาะสมที่สุด ดีที่ ทำเองได้ เดี๋ยวจะช่วย อาท่านแกก็สามารถทำได้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้น ทุกวันพระอาจะต้องถวายน้ำมะพร้าวน้ำหอมทุกวันพระ และวันพระใหญ่ จะต้องถวายน้ำมะพร้าวน้ำหอม 9 ลูก แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมได้ให้อาดูปู่และย่า ว่าอยู่ที่ไหน อาบอกว่า ส่งให้ไปเป็นเทวดาแล้ว มาแต่ก่อนเขาเลย ญาติพี่น้องที่ล่วงไปแล้วอาแกจะส่งไปสวรรค์ เพื่อรอพระสมเด็จพระพุทธเจ้าไปโปรด แม้แต่ที่บ้าน ท่านก็สามารถตรวจให้ได้ บางวันอาแกจะเดินไปถามต้นไม้คุยกับต้นไม้ ว่าสามารถใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคอะไรได้บ้าง เป็นประจำ แม้แต่ร่างกายท่านก็สามารถเพ่งจิตตรวจหาโรคได้ครับ ท่านบอกว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน ต้องการนิพพานอย่างเดี๋ยว ตอนนี้บารมี ท่านเต็มแล้วครับ เพราะมีผู้ฌาณแก่ มาหาประจำ และบอกว่า มาขอคารวะ แม้แต่พระเครื่องท่านก็สามารถตรวจได้ว่า พระอาจารย์ท่านใดปลุกเสก โดยเฉพาะสมเด็จนะครับ ท่านจะถามหลวงพ่อโตเองเลยครับว่าท่านได้ทำเองหรือไม่ ทุกวันนี้ องคฺอินทร์และท้าวมหาพรหม จะลงมาประจำครับ แต่อาผม ไม่ใช่ร่างทรง แต่ยิ่งกว่านั้น ท่านมีมารมาผจญตลอดครับ แต่ท่านทั้ง 2 ที่กล่าวมา จะช่วยเหลือตลอด หากสนใจก็โทรติดต่อผมได้ครับไม่คิดค่าบริการ ยินดีช่วยเหลือครับ 08-5017-8198 สาธุ สาธุ สาธุ

 

PRINCESS BOWค่ะ ลองเข้าไปศึกษาในเวป วัดถ้ำเมืองนะ ดูสิค่ะ พี่ๆในเวปเค้าให้ความรู้ ความกระจ่างได้ค่ะ

 

ตามหลักกฎแห่งกรรม หลวงพ่อฤษีท่านเคยสอนไว้ ก็สังเกตเห็นว่าจริงตามที่ท่านกล่าวคือ

กรณีผู้ตาย มาเข้าฝันญาติได้แสดงว่าอยู่ภพภูมิที่สามารถรับบุญกุศลได้ ก็ทำบุญอุทิศกุศลไปถึงท่าน

หากเสียชีวิตไปแล้วเงียบหาย อาจด้วยเหตุ 3 ประการ 1 เกิดใหม่แล้ว 2 ไปทุกคติ 3 ไปนิพพาน ซึ่งจะไม่สามารภมาเข้าฝันญาติได้

และเราผู้มีชีวิตพึงสังวรว่าวิญญาณมีบุญกุศลเป็นอาหารเมื่อญาติทำบุญอุทิศให้อนุโมทนารับได้เพียงน้อยนิด
พระท่านเปรียบไว้ นำบุญมาแบ่งเป็น 16 ส่วน ส่วนสุดท้ายมาแบ่งอีก 16 ส่วนผู้ตายได้ 1 ส่วน..
เท่ากับแบ่งบุญ 256 ส่วน ผีอนุโมทนาได้ 1ส่วน
เพราะฉนั้นขณะเรามีชีวิตควรสั่งสมบุญไว้ให้มากดีกว่า