รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ithai

    ithai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +154
    รบกวนถามผู้รู้

    ขออนุญาติ ถามผู้รู้ คะ นั่งสมาธิที่บ้านด้วยตัวเอง โดยฟังจากmp3 ของ อ.คณานันท์ ในความคิดลึก มีจิตลึก ชนิดหนึ่ง แนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อ โสธร คะ เราควรจะไปตามที่จิตบอกหรือไม่คะ

    และอยากทราบ อีกข้อคะ เคยนั่งสมาธิ แล้วเข้า ไปอยู่ในญาณ เมตตา และได้ปักหมุด สักระยะหนึ่งได้เข้า ภาวะจิต มีความรู้สึกร่มเย็น และชุ่มชื่น อิ่มเอิบใจ จะรู้สึก คล้าย คล้าย กับ การที่เราไปทำบุญ หรือให้ศิลให้ทาน เข้าไปในภาวะนี้ แล้วก็ปักหมุด

    แต่สี่วัน มานี่ เข้าไปในภาวะ นั้น อีกไม่ได้แล้ว เลยอยากทราบผู้รู้ ว่า ควรทำอย่างไร ต่อไป เพราะ ก่อนทำสมาธิ จะสวดมนต์ ก่อน ประมาณ สามสิบนาที และ อีกสามสิบนาที ทำสมาธิ

    ตอนนี้ จิตนั่งไม่ติด และสวดมนต์ ไม่ทน เราควรจะไปทำบูญเพิ่ม หรือถวายสังมทาน หรือว่าต้องฝึกกับครูบาอาจารย์ กรุณาบอกทางแก้ไขด้วยคะ
     
  2. sawasdeebangkok

    sawasdeebangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +100
    สวัสดีครั้งแรก คุณ Xorce

    สวัสดีครับ คุณ Xorce เพิ่งเข้าในกระทู้วันแรก ไว้อ่านตั้งแต่หน้าแรก เพราะสนใจสอบถามเกี่ยวกับการนั่งสมาธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในโอกาสต่อไป

    แต่อาการเบื้องต้นตอนนี้เวลาอยู่บ้านหลังจากกลับจากทำงาน เช่นตอน อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ แล้วรู้สึกปวดหน่วงๆ หน้าผากแรง บางทีก็ร้าวไปถึงบริเวณคาง (แต่ไม่มีความรู้ไม่ดีกับอาการนี้ แต่ก็โอเคกับมัน) ทุกครั้งมีความรู้สึกอยากนั่งสมาธิดีกว่า ก็นั่งสัก 15-20 นาที ก็มาดูโทรทัศน์ต่อ แต่อาการตึงหน้าผาก ขนลุกบริเวณไหล่ แขน โดยเฉพาะมือและปลายนิ้วทั้ง 10 ต่อ --> ขออนุญาตถามว่ามีสาเหตุจากอะไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  3. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    ฌาณ 4 หยาบ กับ ฌาณ 4 ละเอียด

    แตกต่างกันอย่างไรคับ

    และการเข้าถึงฌาณ 4 ไม่จำเป็นต้อง เข้าฌาณ 1 - 3 ก็ได้ใช้มั๊ย คับ
     
  4. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    โอ่วคุณ Maxzimon หันมาปฏิบัตินั่งสมาธิแล้วหรือขอรับ ดีครับ ^^; นึกว่าจะไม่นั่งสมาธิซะแล้ว (ผมแซวเล่นหน่ะ )ดีแล้วคับ จริงๆ ทำสมาธิไม่จำเป็นต้องนั่งอย่างเดียวนะครับ อนุโมทนาครับผม ส่วนอาการเกร็งที่ลำคอเป็นเหมือนผมเลย ลองกลั้นหายใจดูสิครับสัก5วิ10วิ แล้วค่อยๆผ่อนหายใจช้าๆ แล้วลองตั้งสมาธิใหม่ มันจะช่วยได้เยอะครับ และอีกวิธีนึงแผ่เมตตาครับเราจะรู้สึกอะไรบางอย่างแบบว่าขนลุกหน่ะคับมันก็แล้วแต่บางคน แล้วขอบารมีองค์พระด้วยนะครับ สักพักขนลุกและนำความรู้สึกที่มีความสุขนั้นแผ่เมตตาออกไปจะผ่อนคลายมากๆและยังได้กุศลผลบุญอีกด้วยช่วยเหลือผู้อื่นอีกทางเลยด้วยครับ^^ อาการนี้อาจจะเป็นเพราะเครียดโดยไม่รู้ตัวครับ หรือ จะนอนทำก็แล้วแต่สดวก ก็แนะนำได้ไม่มากเพราะยังไม่ถึงขั้นนั้นแต่ผมก็เคยเป็นมาก่อน ^^; อนุโมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤษภาคม 2009
  5. vichayo

    vichayo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอเรียนถามด้วยคนนะคะ
    ก่อนอื่น..ถ้าหากหนูใช้คำพูดไม่ดีหรือไม่ถูกตรงไหน ก็ขออภัยด้วยค่ะ

    หนูเพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้ไม่นานนี้เองค่ะ
    แล้วเวลาทำครั้งนึง ก็แค่10-15นาที
    หนูก็ไม่ทราบว่าหนูทำถูกวิธีหรือเปล่า เพราะส่วนมากจากที่หนูได้ศึกษามา
    มักจะบอกว่า ให้รู้ลมหายใจเข้าออก
    แต่พอหนูทำมันเหมือนกับจงใจให้รู้มากกว่าอ่ะค่ะ แต่มันไม่ได้มาจากการกำหนดจิตเลย
    หรือบางครั้งหนูจะรู้สึกปวดๆที่ตา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่หนูพยายามเพ่ง
    พยายามใช้สายตากำหนดจิตไปอยู่ที่จุดเดียวมากกว่า
    หนูควรจะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ
    แล้วหนูขอเรียนถามอีกเรื่องนะคะ เท่าที่อ่านในกระทู้นี้มา
    เห็นพวกพี่ๆจะพูดเรื่องของปีติกัน ปีติคืออะไรหรอคะ?
    หนูไม่ค่อยรู้ศัพท์ รู้คำทางธรรมเท่าไรน่ะค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  6. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    สวัสดีครับ พอดีผมอ่านเจอในหน้าที่ 15 จึงมาเข้าใจว่าเมื่อก่อนจิตผมทรงอยู่ในขั้น อรูปฌาณนี่เอง คืออาการเป็นอย่างนี้นะครับ
    ผมกำหนดด้วยการนึกลมหายใจเข้าออก และควบด้วยการภาวนา พุทโธ
    พอจิตเริ่มสงบจะรู้สึกว่าคำภาวนาหายไป และผมเองก็กำหนดรู้ลงที่ลมหายใจไปถ่ายเดียวไม่นานนักก็เกิดอาการปีติ คือ ตัวค่อยๆลอยขึ้นๆๆ และก็ทำจิตไม่สนใจในปีตินั้นๆ
    ผมหมั่นตามรู้ลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆจนอาการปีติมันหายไปเองและวินาทีนั้น จิตก็รวมเหมือนตกเหวตกบ่อคล้ายเรากำลังลงลิฟไปเรื่อยๆ ในสภาวะระหว่างนี้ จิตจะแช่มชื่นเบิกบานมาก มีความสูขอย่างบอกไม่ถูกเหมือนเราเข้าไปในมิติๆหนึ่ง จนในที่สุดเหมือนหลุดออกจากช่องว่างแล้วลมหายใจก็ดับ ร่างกายตัวตนก็ดับเหลือแต่สภาวะรู้ๆๆเด่นมากและสภาวะที่เป็นอยู่ก็ว่างสุดลูกหูลูกตา หาประมาณไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกว่ามีร่างกายตัวตน และวัตถุสิ่งของเลยในขณะจิตนั้นครับ เมื่อจิตตั้งอยู่สักพักจิตต้องการรู้ว่าความว่างนี้มันอะไรกันแน่ มันมีที่สิ้นสุดมีขอบเขตหรือไม่ สักพักจิตก็พุ่งไปแหวกความว่างไปเรื่อยๆและสงบมากๆจนในที่สุดจิตมันยอมบอกว่า ความว่างไม่มีที่สิ้นสุดหรอก แล้วจิตก็หยุดนิ่งไร้ตัวตนอยู่อย่างนั้นจนถึงเวลาเค้าถอนออกมารู้สึกที่กายเอง....สภาวะที่เป็นอยู่นี้ใช่ อรูปฌาณหรือป่าวครับ.............
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto ครับ

    เรื่องรูปนั้น เดี๋ยวผมจะทำออกมาให้ชมกันนะ แต่ถ้าจะให้อธิบายคงลำบาก เพราะไม่ค่อยเห็นภาพ จะทำมาให้ชมกันในภายหลังอันนี้เอาไว้ก่อน

    อธิบายเป็นคำพูดก็พอแล้วครับ แค่อยากจะทราบว่าเห็นอะไรบ้างนะครับ

    เออพี่ชัด วันนี้มีคำถามมาถามอีกสัก2ข้อ ตอนขากลับผมยืนบนรถเมย์ ผมได้นึกคิดและจิตนาการ
    คำถามคือว่า 1.ผมเคยไปบวชที่วัดๆนึง และมีพระพุทธรูปองค์ที่เค้าสร้างขึ้นมาไว้ประทับอยู่ที่แท่นหน้า สถานที่ปฏิบัติธรรม ผม ยึดและนึกเอาพระพุทธรูปองค์นี้แล้วจิตนาการเพิ่มเติมให้เป็นประกายเพรช แต่ มันยังจำสถานที่ของพระพุทธรูป ปางนี้อยู่ อย่างนี้ใช้ได้ไหมครับ

    ใช้ได้ครับ เอาแค่พระพุทธรูปอย่างเดียวก็ได้ครับ ไม่จำเป็นจำต้องมีสถานที่ก็ได้ครับ

    2.คือตอนที่อยู่บนรถเมย์นั้นผมก็ยืน และได้จิตนาการถึงพระตามข้อ1 จนเหมือนกับอารมณ์ตกภวังแบบว่า จะวูบๆ แต่แขนผมจับราวมันวูปแขนเลยตึงเลยสะดุ้ง(ตัวนะไม่ใช่จิต)ดึงกลับ ตอนนั้นคล้ายๆมันจะพุ้งออกไปไหนไม่รู้เลย แต่มันก็แว๊บกลับมาเหมือนดึงกลับเพราะร่างมันสะดุ้งมั้ง ความรู้สึกแปลกๆ ^^; ตอนนั้นผมหลับตาและ โมโนภาพพระขึ้นมาและขอบารมีเป็นระยะๆ และจิตนาการภาพพระให้มีประกายเพรชตามที่พี่บอก

    จะกำหนดลมก็แล้วมันไม่มีให้กำหนดอ่ะครับ ตอนนี้ผมเลยกำหนดจิตมีเพียงแค่จิตที่มาอาศัยขันต์5ชั่วคราว บางทีผมมองทุกคนที่อยู่แถวๆนั้นด้วยแล้วก็มองตัวเองด้วยมีเพียงแต่จิตอ่ะครับขันต์5เป็นเพียงเปลือกหุ้ม

    อันนี้ผมไม่รู้ว่าอยู่นอกสถานที่ควรจะกำหนดแบบไหนดี ผมเคยอ่านเรื่อง คนทอผ้าก็ยังบรรลุธรรมโดยสมัยก่อน ทำงานก็ยังสามารถบรรลุธรรมได้

    อยู่ที่ไหน ก็กำหนดจิตไว้กับสมาธิได้ตลอดครับ จะเป็นลมสบาย เมตตา หรือภาพพระพุทธรูปเป็นเพชรก็ได้หมดครับ

    อนุโมทนากับความก้าวหน้าในการปฏิบัติด้วยครับ
     
  8. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Maxzimon ครับ

    ศึกษาผ่านการปฏิบัตินี่ใช่ให้ฝึกนั่งสมาธิไปเรื่อยหรอครับ ช่วงนี้นั่งแล้วจะปวดบริเวณช่วงคอพอสมควรเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร (ไม่ได้นั่งมาเกือบๆ 2เดือนแล้วครับ พยายามนั่งบ้าง แต่มันไม่ไหว) ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นนอนมันก็หลับไปเลย

    นอนทำสมาธิก็ได้ครับ ถ้าเราหลับในสมาธิ เวลาเราตื่นขึ้นมา
    จิตจะมีความสดชื่น ต่างจากการนอน ที่เราง่วงหรือเหนื่อยจนหลับ
    และถ้าเราหลับในสมาธิ ตลอดเวลาที่เราหลับ ยังถือว่าเราทรงสมาธิไว้ตลอดด้วยครับ

    นอนกี่ชม. ได้อานิสงค์ตามนั้นครับ

    เช่น ถ้าเราจับลมหายใจจนหลับไป พอตื่นขึ้นมา จิตเราจะจับลมหายใจ ต่อจากก่อนที่เราจะหลับทันทีครับ
    ถ้าเราพุทโธจนหลับ พอตื่นมาจิตเราก็จะจับ พุทโธ ทันที เช่นกันครับ

    ช่วงนี้สงสัยผมคิดอะไรมากเกินจริงๆ ลองหันมองตัวเอง ก็เลยเข้าใจว่าทำไมถึงสับสน ก็เลยปล่อยให้ตัวเอง ว่าง ไม่มีอะไรในหัวเลย ช่วงนี้อารมณ์ผมก็สงบนะครับ มันนิ่งๆ ไม่โกรธ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ แปลกดีครับ ปกติเวลาอะไรขัดใจด่าตลอด พึ่งรู้ว่าตัวเองนิสัยเสีย

    ลองแผ่เมตตาด้วยสมาธิดูสิครับ
    ให้เราทำจิตให้สงบก่อน จากนั้น ตั้งจิตนึกถึงความสุข ความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี ให้เต็มดวงจิตของเรา จนเรารู้สึกมีความสุขกายสุขใจ
    จากนั้นก็แผ่เมตตา แผ่คลื่นแห่งความสุข ความรักความเมตตา ไปยังผู้อื่น
    จนจิตใจของเรามีแต่ความเบิกบานสุขกายสุขใจ
    เมตตาเป็นอารมณ์ที่ใช้ในการปราบความโกรธ ได้อย่างดีครับ

    ขอให้มีความสุขกายสุขใจ และเข้าถึงซึ่งความสงบได้ อย่างง่ายดายนะครับ
     
  9. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ ithai ครับ

    ในความคิดลึก มีจิตลึก ชนิดหนึ่ง แนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อ โสธร คะ เราควรจะไปตามที่จิตบอกหรือไม่คะ

    ถ้ามีโอกาส ก็ควรครับ เพราะท่านก็เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ครับ

    และอยากทราบ อีกข้อคะ เคยนั่งสมาธิ แล้วเข้า ไปอยู่ในญาณ เมตตา และได้ปักหมุด สักระยะหนึ่งได้เข้า ภาวะจิต มีความรู้สึกร่มเย็น และชุ่มชื่น อิ่มเอิบใจ จะรู้สึก คล้าย คล้าย กับ การที่เราไปทำบุญ หรือให้ศิลให้ทาน เข้าไปในภาวะนี้ แล้วก็ปักหมุด

    สาธุครับ อนุโมทนาด้วยครับ ที่สามารถเข้าถึงซึ่งอารมณ์ของเมตตาได้

    แต่สี่วัน มานี่ เข้าไปในภาวะ นั้น อีกไม่ได้แล้ว เลยอยากทราบผู้รู้ ว่า ควรทำอย่างไร ต่อไป เพราะ ก่อนทำสมาธิ จะสวดมนต์ ก่อน ประมาณ สามสิบนาที และ อีกสามสิบนาที ทำสมาธิ

    ตอนนี้ จิตนั่งไม่ติด และสวดมนต์ ไม่ทน เราควรจะไปทำบูญเพิ่ม หรือถวายสังมทาน หรือว่าต้องฝึกกับครูบาอาจารย์ กรุณาบอกทางแก้ไขด้วยคะ<!-- google_ad_section_end -->

    ขณะที่เรานั่ง เราสามารถจะขยับขา เปลี่ยนท่านั่งได้นะครับ
    ถ้าปวดขาหรือเมื่อย ก็ไม่จำเป็นจะต้องทนเมื่อยนะครับ สามารถจะขยับได้ครับ
    แต่ให้เราประคองจิตไว้ในสมาธิ ตลอดเวลาครับ

    ลองหันมาปฏิบัตินอกรูปแบบดูนะครับ
    คืออารมณ์สมาธิเนี่ย เราควรจะต้องฝึกจนสามารถจะทรงอารมณ์ได้ตลอดเวลาครับ
    ไม่จำกัดว่าเราจะต้องนั่งเท่านั้น

    ทั้งลมสบาย และเมตตาอัปปมาณฌาณ ให้เราลองฝึก แผ่เมตตาให้ได้ทุกๆที่ที่เราต้องการ และ
    ฝึกจนกระทั่งสามารถจะทรงเมตตาได้ตลอดเวลาดูครับ
    ไม่เราจะเดิน นั่ง นอน หรือทำงานอะไรก็ตาม เราสามารถจะทรงเมตตาเอาไว้ได้ตลอด ทุกๆอิริยาบถ
    ดังนั้นจะเท่ากับว่า ทุกๆลมหายใจเข้าออกนี้ เรากำลังปฏิบัติธรรมอยู่ตลอด
    ไม่จำกัดเฉพาะเวลา ที่เราสวดมนต์ครับ
    เวลาในการปฏิบัติก็จะมากกว่า และเราก็จะไม่ติดกับรูปแบบด้วยครับ

    ขอให้เจริญก้าวหน้าในการปฏิบัตินะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2010
  10. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    ไม่เห้นตอบอาการที่ผมเล่ามาเลยครับ...ว่าจิตอยู่ในสภาวะ อรุปฌาณหรือป่าว
     
  11. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ sawassdeebangkok ครับ

    สวัสดีครับ คุณ Xorce เพิ่งเข้าในกระทู้วันแรก ไว้อ่านตั้งแต่หน้าแรก เพราะสนใจสอบถามเกี่ยวกับการนั่งสมาธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในโอกาสต่อไป

    แต่อาการเบื้องต้นตอนนี้เวลาอยู่บ้านหลังจากกลับจากทำงาน เช่นตอน อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ แล้วรู้สึกปวดหน่วงๆ หน้าผากแรง บางทีก็ร้าวไปถึงบริเวณคาง (แต่ไม่มีความรู้ไม่ดีกับอาการนี้ แต่ก็โอเคกับมัน) ทุกครั้งมีความรู้สึกอยากนั่งสมาธิดีกว่า ก็นั่งสัก 15-20 นาที ก็มาดูโทรทัศน์ต่อ แต่อาการตึงหน้าผาก ขนลุกบริเวณไหล่ แขน โดยเฉพาะมือและปลายนิ้วทั้ง 10 ต่อ --> ขออนุญาตถามว่ามีสาเหตุจากอะไรครับ<!-- google_ad_section_end -->

    อนุโมทนา กับความสนใจในการเจริญพระกรรมฐานด้วยครับ
    อาการปวดนี้ เกิดจากอารมณ์หนักขณะที่ทำสมาธิครับ
    และหลังจากที่ออกจากสมาธิแล้ว อารมณ์ที่หนักก็ยังค้างอยู่ครับ

    ต้องพยายามทำใจให้สบายกว่านี้เวลาทำสมาธิครับ
    ก่อนที่จะทำสมาธิ ให้ลอง หายใจเข้าลึกๆ แล้วกักลมหายใจเอาไว้
    จากนั้นภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา ประมาณ 10วินาที จากนั้นจึงหายใจออก ทำซ้ำประมาณ10ครั้ง
    เสร็จแล้วค่อยเริ่มทำสมาธิ ตามที่ถนัด จะเป็นการสลายอาการได้ครับ
    แต่ถ้าจะสลายให้หมดจริงๆ จะต้องแผ่เมตตา จากในสมาธิครับ
    ถ้าแผ่เมตตาอัปปมาณฌาณได้ อาการนี้ก็จะหายไปเลยครับ

    และอธิบายเพิ่มมานะครับ ว่ากำลังฝึกสมาธิแบบใดอยู่ณ ขณะนี้
    และมีความสงบแค่ไหนครับ จะได้แนะนำให้ละเอียดกว่านี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ oze ครับ

    ฌาณ 4 หยาบ กับ ฌาณ 4 ละเอียด

    แตกต่างกันอย่างไรคับ

    ฌาณ4 หยาบ จะรู้สึกว่าลมหายใจหยุด หรือลมหายใจหายไป จะไม่หายใจครับ

    ฌาณ4ละเอียดนั้น นอกจากลมหายใจจะหายไปแล้ว ยังรู้สึกว่าหูมีอาการดับ คือจะไม่ได้ยินเสียงโดยสิ้นเชิง
    และตัวเราจะคล้ายกับรวมเป็นดวง หรือรวมเป็นก้อน แล้วลอยอยู่นิ่งๆ หรืออาจจะรู้สึกว่าร่างกายของเราหายไป แบบนี้ก็ได้ครับ

    และการเข้าถึงฌาณ 4 ไม่จำเป็นต้อง เข้าฌาณ 1 - 3 ก็ได้ใช้มั๊ย คับ<!-- google_ad_section_end -->

    จิตจะผ่าน ฌาณ 1 2 3 อย่างรวดเร็ว จนเราไม่รู้สึก ถึงอารมณ์ของฌาณนั้นๆครับ
    หรือจิตอาจจะผ่านฌาณแต่ละขั้น ไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ
    แต่ส่วนมากที่ผมเจอ จะทีเดียวเข้าเป็นฌาณ4เลยครับ
    คือนั่งๆอยู่ๆ พจิตสงบได้ที่ ก็รู้สึกว่าร่างกายหายไปเลย
    ทั้งนี้แล้วแต่บุคคลด้วยครับ
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ vichayo ครับ

    ขอเรียนถามด้วยคนนะคะ
    ก่อนอื่น..ถ้าหากหนูใช้คำพูดไม่ดีหรือไม่ถูกตรงไหน ก็ขออภัยด้วยค่ะ

    หนูเพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้ไม่นานนี้เองค่ะ
    แล้วเวลาทำครั้งนึง ก็แค่10-15นาที
    หนูก็ไม่ทราบว่าหนูทำถูกวิธีหรือเปล่า เพราะส่วนมากจากที่หนูได้ศึกษามา
    มักจะบอกว่า ให้รู้ลมหายใจเข้าออก
    แต่พอหนูทำมันเหมือนกับจงใจให้รู้มากกว่าอ่ะค่ะ แต่มันไม่ได้มาจากการกำหนดจิตเลย

    อันนี้น่าจะคล้ายๆ กับเรารู้สึกว่า เราบังคับลมหายใจครับ

    หรือบางครั้งหนูจะรู้สึกปวดๆที่ตา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่หนูพยายามเพ่ง
    พยายามใช้สายตากำหนดจิตไปอยู่ที่จุดเดียวมากกว่า

    อย่าพยายามใช้ดวงตาของเราเพ่งนะครับ เพราะจะเกิดความทรมาน และจิตจะไม่เป็นสมาธิครับ

    อาการที่เกิดขึ้นทั้งหมดนะครับ
    เกิดจากเราวางอารมณ์หนักเกินไปครับ หรือเราอาจจะอยากสงบมากเกินไปครับ
    วิธีแก้นะครับ
    ก่อนที่จะทำสมาธิ ให้ลอง หายใจเข้าลึกๆ แล้วกักลมหายใจเอาไว้
    จากนั้นภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา ประมาณ 10วินาที จากนั้นจึงหายใจออก ทำซ้ำประมาณ10ครั้ง
    เสร็จแล้วค่อยเริ่มทำสมาธิ ตามที่ถนัด จะเป็นการสลายอาการได้ครับ

    หนูควรจะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ

    แนะนำให้เริ่มจาก การจับลมหายใจครับ
    ในกระทู้มีไฟล์ สมาธิ ให้โหลดด้วยครับ ประมาณ 2-3หน้าก่อน
    อยากจะให้ลองฟังและปฏิบัติตามนะครับ คิดว่าน่าจะช่วยได้ครับ
    และถ้ามีข้อสงสัย หรืออยากจะให้ผมนำสมาธิให้ สามารถติดต่อผ่านทางmsn มาได้นะครับ
    อันนี้อีเมลของผมครับ saturndg@hotmail.com

    แล้วหนูขอเรียนถามอีกเรื่องนะคะ เท่าที่อ่านในกระทู้นี้มา
    เห็นพวกพี่ๆจะพูดเรื่องของปีติกัน ปีติคืออะไรหรอคะ?
    หนูไม่ค่อยรู้ศัพท์ รู้คำทางธรรมเท่าไรน่ะค่ะ

    ปีตินะครับ มี5ประเภทครับ
    เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิ ระดับหนึ่ง ปีติทั้ง5นะครับได้แก่
    1.จะรู้สึกคล้ายกับมีแมลงมาไต่ตอมที่ใบหน้า หรือร่างกาย
    2.เราจะรู้สึกตัวเบา คล้ายกำลังลอยอยู่
    3.เราจะรู้สึกคล้าย ตัวเราพองขยายใหญ่ หรือหดจนเหลือนิดเดียว
    4.มีอาการตัวโยก ไปข้างหน้าหรือข้างหลัง
    5.รู้สึกคล้าย มีความเย็น หรือมีอาการขนลุกขนพอง

    เป็นอาการที่อาจจะเกิด หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แล้วแต่ แต่ละบุคคลครับ

    บางคนอาจจะเจอครบ หรือบางคนอาจจะไม่เจอเลยก็ได้ครับ


    อนุโมทนาด้วยครับ กับความสนใจการปฏิบัติธรรมครับ
    ขอให้ตั้งใจปฏิบัติต่อไป เก็บไปวันละเล็กละน้อย และเข้าถึงซึ่งความสงบสุขจากสมาธิได้อย่างง่ายดายนะครับ
     
  14. vichayo

    vichayo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณ คุณXorceมากนะคะ
    เดี๋ยวหนูจะลองโหลดไฟล์มาฟังเองก่อน
    ถ้ามีปัญหาอะไร จะค่อยแอดเมลล์ไปถามทีหลังแล้วกันค่ะ
     
  15. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ เชน ครับ

    ขอโทษด้วยครับ ที่ตอบช้าไปนิดนึง มาตอบให้แล้วครับ

    สวัสดีครับ พอดีผมอ่านเจอในหน้าที่ 15 จึงมาเข้าใจว่าเมื่อก่อนจิตผมทรงอยู่ในขั้น อรูปฌาณนี่เอง คืออาการเป็นอย่างนี้นะครับ
    ผมกำหนดด้วยการนึกลมหายใจเข้าออก และควบด้วยการภาวนา พุทโธ
    พอจิตเริ่มสงบจะรู้สึกว่าคำภาวนาหายไป และผมเองก็กำหนดรู้ลงที่ลมหายใจไปถ่ายเดียวไม่นานนักก็เกิดอาการปีติ คือ ตัวค่อยๆลอยขึ้นๆๆ และก็ทำจิตไม่สนใจในปีตินั้นๆ
    ผมหมั่นตามรู้ลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆจนอาการปีติมันหายไปเองและวินาทีนั้น จิตก็รวมเหมือนตกเหวตกบ่อคล้ายเรากำลังลงลิฟไปเรื่อยๆ ในสภาวะระหว่างนี้ จิตจะแช่มชื่นเบิกบานมาก มีความสูขอย่างบอกไม่ถูกเหมือนเราเข้าไปในมิติๆหนึ่ง จนในที่สุดเหมือนหลุดออกจากช่องว่างแล้วลมหายใจก็ดับ ร่างกายตัวตนก็ดับเหลือแต่สภาวะรู้ๆๆเด่นมากและสภาวะที่เป็นอยู่ก็ว่างสุดลูกหูลูกตา หาประมาณไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกว่ามีร่างกายตัวตน และวัตถุสิ่งของเลยในขณะจิตนั้นครับ เมื่อจิตตั้งอยู่สักพักจิตต้องการรู้ว่าความว่างนี้มันอะไรกันแน่ มันมีที่สิ้นสุดมีขอบเขตหรือไม่ สักพักจิตก็พุ่งไปแหวกความว่างไปเรื่อยๆและสงบมากๆจนในที่สุดจิตมันยอมบอกว่า ความว่างไม่มีที่สิ้นสุดหรอก แล้วจิตก็หยุดนิ่งไร้ตัวตนอยู่อย่างนั้นจนถึงเวลาเค้าถอนออกมารู้สึกที่กายเอง....สภาวะที่เป็นอยู่นี้ใช่ อรูปฌาณหรือป่าวครับ.............<!-- google_ad_section_end -->

    ถ้าเกิดว่า ความว่าง เป็นสีขาว ว่างเป็นสีขาวสุดลูกหูลูกตา แบบนี้เป็นอรูปฌาณแน่นอนครับ

    อนุโมทนาด้วยครับ

    ตอนนี้นะครับ ให้เรากลับเข้าสภาวะที่ผ่านมาแต่ละขั้นอีกครั้งนึง
    ตั้งแต่ตอนที่เกิดปีติ
    ตอนที่ร่างกายหายไป
    จนถึงตอนที่ความว่างสุดลูกหูลูกตา
    และให้เราตั้งจิต อธิษฐานปักหมุดลงไปในแต่ละขั้นครับ ดังต่อไปนีครับ

    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งอารมณ์สมาธิระดับนี้ ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกภพชาติ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องการตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ

    อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง ขณะที่อยู่ในสมาธิ
    จากนั้นก็ทรงสมาธิไปเรื่อยๆตามต้องการ จนกระทั่งจิตถอนออกจากสมาธิครับ

    จากนั้นลองฝึกเข้าออกให้คล่อง และลองฝึกประคองสมาธิให้ได้เป็นระยะเวลานานๆดูครับ
     
  16. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    ขอบคุณครับคุณ Xorce สำหรับคำยืนยันที่ผมเองข้องใจมานาน ปัจจุบันนี้ผมทิ้งไปนาน และได้เริ่มมาฝึกใหม่ทุกวันนี้ผมทำจิตเข้าไประดับนั้นอีกไม่ได้เลยครับ อาการที่ปัจจุบันเป้นอยู่คือ

    1 พอกำหนดลมหายใจเข้าออกไม่นานจิตก็รวมแต่ไม่รวมวูปวาบเหมือนเมื่อก่อนเพราะอะไรครับ
    2 อาการของปีติที่เคยเกิดรุนแรงตัวพุ่งขึ้นฟ้าบ้าง ตัวลอยบ้าง ตัวพองโตคับโลกบ้าง มันไม่เกิดอีกเลย แต่มีอาการแค่วันวูปๆลงไปนิดหน่อยแล้วก็สงบ..ทำไมเป้นยังงี้ครับ
    3 พอปีติเล็กน้อยหายไป ใจจะเบาสบาย นิ่ง ลมหายใจแผ่วเบามากเหมือนว่าไม่ได้หายใจ อาการนี้ใช่ ฌาณ 3 หรือป่าวครับ
    4 พอสักพักจิตจะสงบละเอียดลงไปกายค่อยๆหดเข้ามาๆๆจนแน่นปั๋งครับคราวนี้ ลมหายใจไม่รู้สึกหรือไม่สนใจมันเป็นเอง แล้วร่างกายก็โล่งเหมือนเป็นปล้องๆแล้วเกิดแสงสว่างอยู่ข้างหน้าจ้าไปหมดแต่ยังไม่ถึงสีขาว เหมือน อรูปที่เคยได้นะครับ...จิตขณะนี้ถึงฌาณ 4 ขั้นไหนครับ...ขอบพระคุณครับ และมีคำแนะนำอะไรมั่งครับ

    สุดท้ายนะครับ ในชีวิตปะจำวันบางครั้งหูจะชอบแว่วเหมือนมีคลื่นความถี่วิ่งเข้ามาดัง วิ๊งค์ๆๆๆ อาการแบบนี้คืออะไรครับผม ขอบพระคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  17. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่อ ผมทำมาแล้วคับไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะรีบทำครับ เพราะผมจะอธิบายอย่างไรก็ไม่เท่ากับเห็นในแบบที่ผมเห็นดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ผมจับอารมณ์เย็นอย่างที่บอกได้แล้วครับเพียงแต่มันไม่นิ่ง แล้วผมก็เคย เป็นนะไอที่ว่า เป็นสีขาวๆสุดลูกหูลูกตาตอนนั้นไปนั่งสมาธิในถ้ำ ^^; ตอนบวชหน่ะครับ ส่วนตอนนี้ทำไม่ได้เหมือนตอนนั้นแล้วแต่อารมณ์มันก็ไม่ต่างกันครับ
    [​IMG]
    ทำแบบหยาบๆยังไม่ได้ทำแบบละเอียดอย่างจริงจังเท่าไหร่ เพราะ ตอนนี้ดึกแล้ว ^^; มันง่วงๆเลยปะติดปะต่อได้แค่นี้คับ พื้นเป็นแก้วมณีที่ สวยงานแม้แต่พื้นยังสวยขนาดนี้ ผมอาจจะผิดก็ได้ติชมได้นะครับ

    ผมมีแนวคิดถ้าหากผมได้ไปยังสถานที่ต่างๆ ผมก็จะจำในสิ่งที่ผมเจอได้พบได้ไปเห็นมา แล้วผมจะเนรมิตจำลองมันในรูปแบบ 3D เป็น animetion หรือทำเป็นหนังหรือไม่ก็เป็นภาพยนต์ไปเลย (ไม่ใช่การ์ตูนนะครับแต่จะทำให้สมจริงที่สุด) หรือภาพคล้ายๆแบบข้างบนนี้ เพื่อให้คนที่ไม่เคยเห็นได้เห็น พอเค้าได้เห็นเค้าก็จะเกิดแรงศรัทธาว่ามันมีจริงหรือก็อาจจะทำให้เกิดความสนใจและมาศึกษาธรรมและปฏิบัตธรรมกันมากขึ้น ผมถนัดด้าน 3D อยู่บ้างพอสมควรครับ แล้วอีกอย่าง คือผมได้แรงบันดาลใจมาจาก ที่ พระพุทธเจ้าท่านเปิด3โลกครับ คนเมื่ออดีตเค้าเห็นด้วยตัวเองแล้วเล่าต่อๆกันมาคราวนี้จะได้เห็นของจริงกันไปเลยแต่อยู่ในจอสีเหลี่ยมก่อนนะ^^ ไม่ต้องฟังปากต่อปากแล้วจิตนาการตามคำบอกเล่า ผมก็จะทำใส่ซีดีแจกครับ ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆเลยทั้งสิ้น เพื่อให้คนสนใจธรรมมะมากขึ้นเพราะผมชอบเรื่องไตรภูมิ มากๆ
    แต่ตอนนี้มีอยู่3อย่างที่ทำให้ผมยังไปไม่ถึงไหน คือ
    1.ผมยังปฏิบัติไม่ถึงไหนเลย ก็คงต้องภาวะนาว่าเมื่อไหร่ผมจะเข้าถึงพระธรรม
    2.ผมต้องแบ่งเวลามานั่งทำซึ่งทางโลกผมก็ทำงานอยู่แล้วเวลาก็ไม่ค่อยมีมากแต่ก็พอมีอยู่บ้าง
    3.ของอย่างนี้จริงอยู่คับ มันอยู่ที่ใจแต่มันก็ต้องใช้เงินเป็นปัจจัยในการสร้างสรรงานออกมา อิอิ ผมคงต้องเก็บเงินซื้อซีดี มาเยอะๆเพื่อเอาไว้แจกแต่ไม่รู้ว่าจะผิดศีลไหมนะ เพราะมันเป็นลิขสิทธิ์ของผมเองนินา ^^;(ข้อนี้ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่)

    โปรเจกนี้ผมว่าเป็นไปได้นะ แต่มันใช้เวลานานเป็นปีๆหรือหลายปีเลยทีเดียว เพราะ ผมทำคนเดียวนินา ^^; แต่ก็หาแนวร่วมอยู่เหมือนกัน ^^ (บางคนก็ว่าผมขี้โม้ ทำไมผมย้ำคิดย้ำทำหว๋า แต่ก็เรื่องจริงที่ผมมักจะทำอะไรเกินตัวและก็จะพูดเป็นไกล์ลายไว้ก่อน เพราะยังงี้จึงถูกหาว่าเป็นคนขี้โม้อยู่บ่อยๆแต่จริงๆผมทำได้จริงนะครับ ถึงจะขี้โม้ก็เถอะ) เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่พูดมากนะ ~~ เพียงแต่มันอาจจะอัดอั้นถูกกดดันความคิดที่อยู่ก้นบึ้งก็เป็นได้ครับ

    ตอนนี้ผมคิดจะทำแดน นรกอยู่ กะจะวาดนายนิรบาลก่อน และก็เครื่องทรมาร แล้วก็สัตว์นรกที่กำลังถูกทรมาร เอานรกภูมิ ก่อนค่อยไปสวรรค์ทีหลังแล้วก็จะทำสถานที่ทุกสถานที่เลย ผมคงต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆกว่านี้ซะแล้วสิ ^^(ผมยังไม่ได้ทำหรอกคับได้แต่คิดเพราะผมยังไม่เคยไป :p )แต่ผมรู้ว่านรกชั้นสุดท้ายและก่อนสุดท้ายมันเป็นยังไงและผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่ารู้ได้ไงแต่ก็ไม่ชัดเจนง่ะคับ ~~;

    ผมคงจะคิดถูกนะที่จะทำสื่อซีดีธรรมะแจก

    ขอความคิดเห็นของพี่ชัดหน่อยครับ ว่ามันจะเป็นไปได้ไหมคับ ^^;

    การที่ผมทำแบบนี้คิดแบบนี้มันจะดีหรือไม่อย่างไรครับ

    (หาแนวร่วม อิอิ และผู้ที่สนใจครับ)
    ขอบคุณและอนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2009
  18. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณ Xorce มากคับ

    ที่ช่วยตอบคำถาม

    ตอนนี้รู้สึกว่าบางครั้งที่ทำสมาธิก็ไม่มีลมหายใจแล้วคับ

    แต่ยังได้ยินเสียงอยู่
     
  19. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    [​IMG]

    ทำภาพสวยจัง
     
  20. ithai

    ithai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +154
    khun Xorce,
    บุญกุศล ใด ใด ที่เราได้ทำ เรา ขอมอบให้คุณ Xorce ขอให้คุณ เป็นผู้สั่งสมพลังบุญ ตลอดไป และ มีแต่สิ่งดีดียิ่งขึ้นไป ขอบพระคุณมากสำหรับคำตอบ และอยากขอความกรุณา ถ้า คุณ คำกล่าวอธิษฐาน ขอให้อยู่ในอารมณ์ เมตตา และ คำแผ่เมตตา สั้น สั้น แบบใช้ได้ในทุกสถานะการณ์ คงเป็นพระคุณอย่างสูง คะ

    เอ่อ รบกวนขอถามอีกข้อ คะ การที่เราได้ เห็นพระพุทธรูปสีทองใกล้กับตัวเรามาก หรือเห็นหลวงพ่อโสธรแบบชัดเจน เป็นการแสดงว่าที่เราปฏิบัติ อยู่ ถูกทางแล้วใช่มั้ย คะ ต้องรบกวนคุณด้วยคะ เพราะ อยากจะเข้าใจให้ชัดเจน และถ้ามีโอกาสกลับเมืองไทย ก็อยากจะไปฝึกเพิ่มเติมคะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...