คำสดุดีเทิดพระคุณ พระเดชพระคุณ หลวพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย sungsungwan, 2 เมษายน 2009.

  1. sungsungwan

    sungsungwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +276
    คำสดุดีเทิดพระคุณ พระเดชพระคุณ หลวพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธ

    คำสดุดีเทดพระคุณ
    "ตามที่ได้ทราบกันแล้วว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน นับตั้งแต่สมัย
    "สมเด็จองค์ปฐมฯ" เป็นต้นมา เมื่อเห็นว่าองค์สมเด็จพระพุทธบิดาเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงเป็นอัจแรยมนุษย์ที่เลิศประเสริฐกว่าใครในโลก ทรงมีพระรูปพระโฉมงดงามสมพระพุทธลักษณะมหาบุรุษ พระพุทธองคืทรงประดับประดาด้วยฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ พวยพุ่งออกมาจากพระวรกาย เมื่อเสด็จไปที่ใดจะมีเหล่าพระสาวกทั้งหลายแวดล้อมเป็นบริวาร
    ด้วยเหตุนี้เอง หลวงพ่อจึงได้บำเพ็ญพระบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ประเภทวิริยาธิกะ ต้องใช้ "ความเพียร" ตลอด ๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป นับชาติไม่ถ้วน ซึ่งจะเต็มกำลังครบถ้วนในชาตินี้
    แต่ด้วนนำใจอันเสียสละของท่าน จึงได้อธิฐานลงมาเพื่อขอลาจากพุทธภูมิ หวังที่จะช่วยสืบสานต่ออายุพระศาสนา ในระยะเวาลากึ่งพุทธกาล ณ บัดนี้ พระพุทธศาสนาได้รุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง ท่านได้ทำให้ชาวพุทธทั้งหลายได้รู้จักคำว่า
    " พระสุปฏิปัณโน" "การถวายสังฆทาน" และ"ชำระหนี้สงฆ์"
    เป็นต้น ทั้งได้ยืนยันด้วยตัวท่านเองว่า "นรกสวรรค์ มีจริง นิพพานไม่สูญ " ดังที่เขาสอนกัน พร้อมกับวางหลักสูตรไว้เพื่อปฏิบัติซึ่งจะสามารถพิสูจน์จากวิชา " มโนมยิทธิ" นี้ได้
    นอกจากจะสงเคราะห์พระภิกษุสามเณรและญาติโยมพุทธบริษัทในด้านธรรมะ ทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ในทางโลก ท่นก็ได้สร้างสาะรณประโยชน์นานัปการ เช่น สร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน ขุดบ่อน้ำ ตั้งธนาคารข้าว สงเคราะห์คนยากจนในถิ่นทุรกันดาร และเยี่ยมเยีนทหาตำรวจชายแดน
    ท่านได้ปฏิบัติศาสนกิจอันประโยชน์ต่อชาวโลกมานานนับสิบปี จนกระทั่งวาระสุดท้ายของสังขาร ท่านได้จากลูกหลานอันเป็นที่รักยิ่งทั้งหลาย ไปสู่ดินแดนที่เป็นเอกันตบรมสุข
    เพราะฉะนั้น ตลอดชีวิตของท่าน ทั้งในชาติปัจจุบันนี้ หรือที่จะย้อนกลับไปถึงในอดีตชาติ ท่านก็ได้สร้างชาติสร้างแผ่นดิน หวังให้ชาวไทยที่เป็นลูกหลานทั้งหลายได้อยู่อย่างสงบสุข ไม่เป็นข้าทาสของชาติใด ได้สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่ออุทิศให้ นับตั้แต่ สมัยโยนกบุรีศรีเชียงแสน มาจนถึง สมัยรัตนโกสินท
    ครั้นมาถึงชาติปัจจุบัน อันเป็นชาติสุดท้ายนี้ พระพรหมโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง ผู้ประทับนั่งอยู่เหนือบัลลังก์ในวิมานแก้ว อันสถิตแล้วอยู่ในพรหมโลก เมื่อเห็นว่าพระพุทธศาสนาในระยะนี้ จำต้องมีพระโพะสัตวืลงมาช่วยกอบกู้สถานการณ์
    พระองค์จึงรับอาสาพร้อมทั้งกับได้รับการอาราธนาจาก ท้าวผกาพรห จุติลงมาเกิดในโลกมนุษย์อีก เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และหวังจะลาพระโพธิญาณ ปรารถนาช่วยนำบรรดาลูกหลานทั้งหลายในอดีต ที่ได้เคยร่วมทัพจับศึกและบำเพ็ญบารมีติดตามกันมานานนับ ๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป ให้ได้พบหนทางอันเป็นแดนอมตมหานฤพาน
    พระพรหมโพธิสัตว์พระองค์นี้ เป็นผู้ที่ได้สร้างสมอบรมบารมีมาดีแล้ว จนกระทั่วจวนจะเต็มครบถ้วนทั้ง ๓๐ ทัศ จัดอยู่ในระดับปรมัตถบารมี หวังที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพิชิตมาร ในอนาคตกาลพระองค์หนึ่ง จนได้รับการพระพุทธพยากรณ์ในสำนักพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ อันปรากฏอยู่ใน บันทึกพิเศษ ของท่าน
    ตอนหนึ่งว่า
    "ถ้าเธอยังไม่ละพุทธภูมิ จะได้เป็นพระพุทธเจ้า มีนามว่า "พระพุทธอริยมุนี" ต่อจากพระศรีอาริย์ไปเป็นองคืที่ ๒๐ แต่สงสัย ว่าจะคลายตัวเสียตั้งแต่พระสมณโคดม
    ถ้าคลายตัวตอนนั้น ก็จะเป็นกำลังใหญ่ของลูกหลาน ให้เข้าถึงธรรมได้อย่างแน่นแฟ้นคือ "พระโสดาบัน" เป็นต้น ทั่วกันทุกคน เพราะผลที่ตนบรรลุ...."
    ผลสุดท้ายการพุทะภูมิก็เกิดขึ้นจริงๆ แล้วท่านก็เร่งรัดปฏิบัติตน จาสามารถจบกิจในพุทธศาสนา ตามที่ท่านบันทึกไว้เมื่อ วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๐๖ ว่าองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาแจ้งว่า
    "เจ้าเจริญธรรมให้แจ้ง ถึงไม่รัก..มนฐานะที่ควรรัก ไม่เกลียด..ไม่โกรธ..ในฐานะที่ควรโกรธ ไม่ขัดเคือง..ในฐานะที่ขัดเคือง อย่างนี้ชื่อว่า...ได้อริยผลบริบูรณ์แล้ว เจ้าเป็น"พระขีนาสพ" ตั้งแต่เวลา ๔ นาฬิกา..วันนี้ ซึ่งตรงกับกลางเดือน ๙ พอดี.."
    ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะในที่สุด สมความปรารถนาที่ได้อธิฐานลงมา การออกบวชของท่านในชาตินี้ จึงถือว่าได้เลือกทางเดินเป็นพระอริยสาวกอย่างแน่นอน ด้วยการกำจัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน
    แต่ถึงจะหมดภาระสำหรับตนเองแล้วท่านก็ยังต้องมีภารกิจสำหรับลูกหลานที่ติดตามกันมา ที่เรียกว่า "เป็นผู้ที่เคยช่วยสนับสนุนพระโพธิญาณกันมาในกาลก่อน" จึงมีข้อแม้ว่าจะต้องอยู่เพื่อทำกิจของพระโพธิญาณต่อไปอีก ๑๒ ปี ครั้รนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๕ หนังสือประวัติหลวพ่อปาน ก็ปรากฏออกมาพร้อมกับอาการป่วยหนักของท่าน เมื่อจะขอลาเข้าสู่แดนพระนิพพาน ท่านปู่พระอินทร์ ก็มายับยั้งว่า
    "ก่อนลงมาเกิด คุณตั้งใจจะมาช่วยบรรดาลูกหลาน อย่างน้อยก็ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงสื เวลานี้คนของคุณก็ยังมาไม่หมด คนของโยมก็ยังไม่ครบ แล้วยังมีคนของสมเด็จองค์ปัจจุบัน แลของหลวงพ่อปานอีก..."
    หลวงพ่อท่านบอกว่า ก็รอมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไมมาอีกล่ะ นับตั้งแต่นั้นมาการหลังไหลมาตาม "ใบสั่ง" ก็เกิดขึ้นอย่างมากมายดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ (แต่ก่อนมรณภาพ
    พระศรีอาริย์ มาแถมฝากไว้อีกไม่มาก ประมาณ ๓ แสนคน เวลานี้มีคนมาเล่าให้ฟังหลายรายว่า หลวพ่อไปเข้าฝันให้มาวัด ทั้งที่ไม่เคยรู้จักวัดและไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน)
    ครั้นนั้จึงมีการต่อสัญญาอีก ๑๐ ปี เพื่อใช้หนี้ลูกหลานที่ติดตามกันมา จนถึงเวลาครบ ๑๐ ปี ตามสัญญา ท่านก็ต้องมาตายชั่วคราวในปี พ.ศ.๒๕๒๓ เพื่อตัดตอนก่อนที่จะครบในปี
    พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งมีการยืดเวลาไปอีก ๑๐ ปี ถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ท่านก็ได้ทำกิจพระศาสนาครบถ้วนมามดปณิธาน จนถึงวาระสุดท้ายของสังขาร
    เป็นอันว่า หน่อเนื้อพระบรมโพธิสัตว์องค์นี้ ที่ได้จุติลงมาเพื่อปฏิบัติภารกิจพระศาสนา หวังที่จะไดสนองพระคุณองคืสมเด็จพระบรมศาสดา ท่านจังได้ชื่อว่าเป็นผูมีความกตัญญูเป็นเลิศ ในระหว่างที่ทรงชีวิตอยู่ ท่านก็มีความเคารพต่อบิดามารดา ดังที่ท่านได้เล่าไว้ในเทปชุดสุดท้ายรื่อง "โปรดโยมบนสวรรค์"
    เป็นต้น
    ส่วนครูบาอาจารย์นั้น หลวงพ่อท่านมีความเคารพหลวงปู่ปานเป็นอย่างยิ่ง ดังจะเห็นป้ายซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ ซึ่งเป็นการสร้างวัดครั้งแรก ท่านก็ยังตั้งชื่อไว้ว่า"ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค "
    เพราะการสร้างคุณประโยชน์ต่อชาวโลกเป็นอันมา ท่านจึงเป็นที่รักและเคารพของเหล่ามนุษย์และเทวา โดยเฉพาะเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายต่างขนานนามท่านว่า "พ่อปู่" ทั้งองค์สมเด็จพระบรมครูทรงตรัสเรียกหน่อเนื้อพุทธางกูรพระองค์นี้ ตามที่พวกเราไทราบกันดีแล้วว่า "ท่านสัมพเกษีพรหม"นั่นเอง...."

    จากหนังสอ "ตามรอยพระพุทธบาท
    ฉบับรวมเล่ม ๑ หน้าที่ ๙๔ -๙๖

    พิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทาน
    โดย ไฟแช็คมีฤทธิ์ ตะเกียงมีเดช ปละ ผายันต์กัน (บู)
     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
  3. sungsungwan

    sungsungwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +276
    ขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับที่ประทู้นี้ปิด เพราะว่า ผมคลิ๊กปุ่มผิด และ ตอนนี้ผมคลิ๊กเปิดแล้วครับ
     
  4. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    ลิงค์ธรรมะในเว็บต่างๆของหลวงพ่อ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  5. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    ลิงค์ธรรมะในเว็บต่างๆของหลวงพ่อ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...