จัดการกับกำหนัด และความคิดที่ไม่ดียังไง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jokerpalm, 15 มีนาคม 2009.

  1. jokerpalm

    jokerpalm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +46
    ผมเองประสบปัญหาคือว่า เป็นคนมีความกำหนัดมาก
    และจิตยังคิดแต่สิ่งสกปรกมากมากอยากถามผู้รู้ว่า
    บางครั้งก็คิดว่าฆ่าคนนั้นก็ดีไอ้นั่นก็ดี หรือไม่ก็เป็นห่วงคนจนเกินเหตุคิดว่าจะเกิดอย่างโน้นอย่างนี้กับคนคนนั้นบ้างหละ
    จะกลายเป็นพวกวิตกจริตไปอยู่แล้ว
    ผมจะจัดการนำมันออกไปได้อย่างไรดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2009
  2. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ สติ ที่รู้ตัวว่าจิตใจตนเองนั้นกำลังคิดกำลังฟุ้ง
    บ้างก็ พยาบาท บ้างก็เมตตา สรุปคือสองสิ่งนี้ทำให้เป็นทุกข์ ทุกข์ที่ได้รับจากสัมผัสภายนอก
    พลานให้จิตเตลิดติดไปด้วย ปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ ทั้งเป็นกุศลและอกุศล กลับเก็บเอามาให้เป็นทุกข์
    ฉนั้นทุกข์นี้เกิดขึ้นที่ไหน ที่ใจเราใช่ไม๊ ?
    เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดับทุกข์ ดับโดยการปล่อยให้จิตมันคิดไป และตามรู้อารมณ์นั้นๆไปด้วยตัวรู้ หรือตัวสตินี่แล..
    ถ้ามันยังกรู่ไม่กลับอีก ต้องเอาจิตไปจับไว้ราวเกาะซักแห่ง อาจจะกำหนดอริยาบท
    หรืออาจจะกำหนดรู้ลมหายใจไปเรื่อยๆ ..เมื่อใจมันนิ่งแล้วก็พิจารณาด้วยปัญญาว่าของเหล่านั้น เหล่านี้ มันไม่เที่ยงเลยซักอย่าง
    มันควบคุมไม่ได้ เมื่อคุมไม่ได้ ย่อมไม่ใช่ของๆใคร ไม่ใช่ของๆเรา มันเป็นของมันอย่างนั้นอยู่แล้ว..
    อ่านและทำความเข้าใจ สุดท้ายนี้กำหนดรู้เสียนะครับ

    ขออนุโทนากับคำถามครับ
     
  3. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    เอาจิตเกาะภาพพระเอาไว้ แล้วอาการแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นครับ
     
  4. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ใช้พรหมวิหาร 4
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ธรรมแต่ละตัวจะทำให้ละความขุ่นมัวของจิตได้
     
  5. Add-on

    Add-on Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +64
    สู้ต่อไป!!
     
  6. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    อย่างที่คุณ Mr.Boy_jakkrit บอกนั่นแหล่ะครับ ขนาดความคิดเรายังสั่งไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของของเรา ตามหลักอนัตตา ครับ
    ลองเข้าไปอ่านบทความธรรมะดีๆของคุณชัชวาล เพ่งวรรธนะดูครับ แต่ว่าบทความเยอะนิดนึงนะครับ จะมีท่านสมาชิกในเว็บถามและคุณอ้องก็จะตอบครับ ติดตามให้ครบ ได้สาระมากครับ เป็นข้อคิดจากนักปฏิบัติมากท่านหนึ่งครับ
    http://palungjit.org/showthread.php?t=151647 ตามลิงค์นี้ครับ
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พี่เข้าใจ...ดูจากหน้าแล้ววัยแล้ว.......ช่วงนี้....พยายามอย่าหมกหมุ้นอะไรมากเกินไป......บ้างครั้งถ้ามีอาการคิดมากเรื่องกาม....ถ้าแก้ไม่ตกอะไรมากๆ...ก็หากิจกรรมอะไรดีๆหนักๆหน่อย....เช่นออกกำลังกายไป....สาธารณะประโยชน์ไป.....เล่นดนตรีที่เราชอบ.....ช่วงมัธยมน่าจะมีชมรมอะไรให้เข้าอยู่นะ.......พยายามอย่างหมกหมุ้นอยู่คนเดียว.....ไอ่สื่ออะไรไม่ค่อยจะดีก็เพลาลงมาบ้างนะน้อง........คบเพื่อนที่ดีนะครับ.....

    ส่วนในเรื่องปฏิบัตินั้น.......พยายามเน้นเรื่องศีลนะ....พยายามมีศีล 5 ........เรี่องสมาธินั้น...เอาอันที่เราถนัด..........ถ้าจะเอากรรมฐานเพลากามจริง.....มีครับ....เบรกได้เลยหนะ.......คืออสุภกรรมฐานนะน้อง(เพ่งศพ).......ถ้าเราใช้กรรมฐานเบาๆรับรองเอาไม่อยู่.......ของหนักต้องเอาของหนักเข้าปราบ......เอาของเบาเข้าปราบมันเอาไม่อยู่หลอก.....

    เมื่อไรเจอสาวๆ...ก็จับผ่าซะเลย.....ไอ่ที่ว่าสวยๆ...ลองเอาหนังมันออก.....ความสวยอยู่ไม......ถ้ายังไงผ่าไม่ได้....คิดภาพมันนั่งขี้...ทนได้ไม.....ถ้ามองไม่ออกชอบดูหนัง....ดูคริป.....ก็ลองเอามันผ่าดู.....ต้องผ่านะ....ผ่าจริงๆ......ลองดูว่าจะชนะมันไม.......ถ้าคิดว่าจะแพ้ตั้งแต่ต้นแล้ว....อย่าไปสนองมันนะ........ทนไม่ได้...หาอย่างอื่นทำ.....
    (เอาไปเอามาไม่รู้จะอ้อมไปทำไม).....
    ถ้าแพ้มันไม่เป็นไรเอาใหม่(แต่ไม่ใช่ยอมแพ้มันนะ).....พยายามอย่าให้ร่างกายมันชนะเรานะ......

    เวบหลายเวบนะที่เกี่ยวกับกรรมฐานกองนี้.....เอากระทู้นี้ไปก่อนนะพี่...พี่ตั้งเอง.....แล้วหาดูของท่านอื่นๆด้วยเรื่องนี้นะน้อง.....
    http://palungjit.org/showthread.php?t=171900
    ขอให้เราชนะ..........
     
  8. foundman

    foundman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +734
    ถ้าเกิดกำหนัดมาก ก็ เพ่ง อสุภะกรรมฐาน สิ จิตจะได้ไม่ยึดติดกับ รูป รส กลิ่น เสียง

    ถ้าเกิด โมโห จงดับโกรธด้วยกสินสี นิลกสิน(สีเขียว) เป็นต้น

    จงอย่าเอาใจไปไว้กับผู้อื่นจะทำให้เราเป็นทุกข์ ว่างใจให้เป็นกลางสิ
     
  9. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    สวดมนต์ นั่งสมาธิ เเละศึกษาธรรมะครับน้อง เเก้ได้เเน่นอน อนุโมทนา http://www.buddhism-online.org/ ที่นี่ครับน้อง ลองมาอ่านดู ได้ผลชะงัดนักเเล
     
  10. ritta

    ritta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +228
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    [​IMG]

    ถ้ารูปนี้เป็นตัวจริง และ กำลังมีสภาวะธรรมรวมๆ ดั่งกริยาในภาพ ก็จะแยก
    รูปนาม ที่เกี่ยวของกับ จขกท ในเวลานี้ได้ดังนี้

    1. อายุประมาณ 17-20
    2. กำลังอยู่ในห้วงของอัตตาแรงกล้าโดยมีเหตุปัจจัยมาจาก ฮอร์โมนตามวัย
    3. กำลังหาวิธีรักษาอัตตาที่มันเกิดเพราะฮอร์โมนให้ถูกวิธี

    ดังนั้น ควรทำความเข้าใจเบื้องต้นว่า เรามีอะไร และเป็นอะไร แต่ไม่ใช่เพื่อ
    เป็นอย่างนั้น ถือมั่นอย่างนั้น

    สิ่งที่คุณมีคือ ภาวะวัยรุ่นวุ่นรัก

    สภาวะที่ไม่ควรยึดมั่นว่าต้องเป็น คือ ภาวะวัยรุ่นวุ่นรักนี้คือฉัน

    เพราะ มันเป็นสภาวะธรรมตามกายสังขารของมนุษย์ตามจังหวะของสังขาร
    จะมีเป็นช่วงๆ 17 ปีบ้าง 25 ปีบ้าง 32 ปีบ้าง 47 ปีบ้าง 52 ปีบ้าง ...

    แต่ทั้งนี้ไม่ใช่สภาวะที่ควรยึดมั่น มันเพียงมาแล้วก็ไป เหมือนดั่งรอบเดือน
    ของผู้หญิง เหมือนดังวัยทองของคนสูงอายุ เหมือนดังมายาที่มาลวงเรา
    ไปตามกาลอันมีต่างจากภพภูมิอื่น โดยที่ไม่มากเกินไปเหมือนสัตว์เดรัจฉาน
    ที่มีตลอดเวลา มีตลอดเดือน หรือ ทุกปี ไม่เหมือนสัตว์ชั้นสูง(เทวดา พรหม)
    ที่ถือว่าไม่ต้องอิงอาศัยอาการเหล่านี้เลย

    สิ่งที่ควรทำ คือ เข้าใจไปตามสภาวะ

    การจัดการ นั้น ทำไม่ได้ในตอนนี้ในส่วนของการเอาธรรมะเข้าจัดการ แต่สามารถ
    ใช้วิธีของโลกเข้าจัดการ ได้แก่การสมาทานรักษาศีล5 ด้วยสัตย์ปฏิญาณออกวาจา
    แล้วยึดวาจาเป็นสัจจยิ่งชีพ หรือ ออกกำลังกายด้วยกีฬาที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่ห่างจาก
    เพศตรงข้ามให้มากๆ กีฬาที่เล่นต้องใช้เวลา 1 คอสยาวนานไม่ต่ำกว่า 30 นาที
    ถ้าได้เป็นชั่วโมงขึ้นไปจะดีกว่ามาก เพราะความสุขที่ได้จากความเหน็ดเหนื่อยใน
    การประกอบกิจกรรมที่มีระยะเวลายาวนานจะเป็นตัวดึงความสนใจไปจากความสุข
    จากกิจกรรมที่กินเวลาสั้นๆ

    เมื่อออกกำลังทางกายแล้ว ก็จะรับมือกับเรื่องสังขารธรรมได้ แต่ยังเหลือส่วนนาม
    ที่เป็นอัตตา ที่มันเกิดพร้อมกันด้วย

    ช่วงนี้จะโหยหา ความเป็นตัวตน ความโดดเด่น ความเชื่อมั่น ความมีประโยชน์
    ในการ มีตนอยู่บนโลก เรียกว่า อยู่ในชาวงแสดงวาทะอุปทานว่า ฉันคือคนๆหนึ่ง
    ที่เธอๆทั้งหลายควรหันมามองเพราะฉันเป็นคนมีคุณค่า

    ให้ระลึกรู้ในยามที่จะแสดงออก กวักมือเรียก เข้าหาคนเพื่อช่วย เข้าหาคนเพื่อให้เขา
    มาช่วย การระลึกรู้ให้สังเกตุคำที่เกิดขึ้นในห้วงความคิดที่ปรากกฏบ่อยๆ เช่น ขาน
    ชื่อตัวเอง เช่น โจ๊กเกอร์ ปาล์ม ฯลฯ หรือบางทีก็ไม่ใช่ชื่อเรียกแต่เป็น ท่าทาง เช่น
    ง้ามนิ้วหนีบคาง ยักคิ้ว กระดิกหู หรือบางทีก็เป็นอาการรูปแบบอื่นๆ แล้วแต่เราจะปรุง
    ขึ้นมาเพื่อเป็น Symbol สัญลักษณ์แทน วาทะอุปทาน(ตัวตน-อัตตา) ระลึกรู้ไป
    เหมือนกรรมการข้างสนามที่คอยยกธง แต่ไม่มีสิทธิเป่านกวีดเพื่อแทรกแซงเกมส์ เป็น
    เพียงแค่ Line-Man ที่ยกธงเพียงชั่วครู่ ในยามที่เห็นอาการ Symbol เหล่านั้น แล้ว
    เอาธงลง ยกเว้นได้ยินเสียงกรรมการในเกมส์(ศีล5ที่สมาทาน) เป่านกวีดดังขึ้น Line-
    Man จะต้องชี้ไปยังจุดเกิดเหตุให้ถูกต้อง ไม่ล้าหลัง ไม่เกินเลย ต้องพอดี ต้องถูกเหตุ
    ของมันจริงๆ ไม่เช่นนั้น กรรมการก็ตัดสินผิดได้ ไม่เป็นกลางจริง

    เอาแค่นี้ก่อนนะ

    หมั่นระลึกรู้กาย รู้ใจตน ไว้เนืองๆ หยุดอยู่ที่เห็น(รู้) โดยไม่แทรกแซงการเห็น
    หรือเติมเรื่องที่รู้ไปกว่าเท่าที่เห็น ฝึกดูไปแบบนี้เนืองๆ แล้ว ความหนักใจ
    ที่เกิดขึ้นเพราะเห็นว่า อาการอัตตาเหล่านั้นลากเราไปทำนู้ทำนี่เหมือนคนวิกล
    จริตจะค่อยๆผ่อนคลายลง เพราะเรารู้ทันสภาวะธรรมของมัน พอรู้ทันเราก็
    หยุดมันได้ หรือไม่ก็ตามเกมส์ได้โดยยังรู้ทัน มันก็จะไม่ก่อความเสียหาย(หนักใจ)
    ให้เกิดขึ้นที่กลางอกเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2009
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ขอแก้คำผิดครับ

    * * * *

    กดแก้ไขแล้ว เครื่องมันเอาแต่หมุน หมุน หมุน .....!!!!
     
  13. nui_sirada

    nui_sirada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2008
    โพสต์:
    399
    ค่าพลัง:
    +371
    ความคิดไม่ดีก็มีบ้างค่ะ เวลานั่งสมาธิ แต่ก็พอรู้ว่าเริ่มคิดไม่ดีก้จะนึกถึงพระที่เรากราบไหว้บูชา กับสวดภาวนาไปเรื่อยๆ เราก็จะไม่คิดฟุ้งซ่านค่ะ พยายามเข้าน่ะค่ะ ดีจังยังเด็กอยู่แต่เข้ามาศึกษาธรรมะแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ อนุโมทนาสาธุน่ะค่ะ
     
  14. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    อาหารก็มีส่วนนะคะ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่จะไปเพิ่ม ความกำหนัด แต่อายุยังน้อย ก็เลี่ยงได้ยากเนอะ เด็กกำลังกิน กำลังโต สู้ๆต่อไปนะคะ
     
  15. jokerpalm

    jokerpalm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +46
    ขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยครับ ได้ข้อคิดมากมาย หลงผิดอยู่นานครับ
    อนุโมทนาครับผม
     
  16. แพ้สะกดยังงัย

    แพ้สะกดยังงัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +69
    คุณตามธรรมดาของจิตนะคุณมันก็ฟุ้งซานคุณหัดทำสมาธิบ้างสิไม่ใช้ปล่อยเวลาไปเปล่าๆ

    เปลี้ยๆไอ้ลมหายใจคนเรานี้นะเข้าออกทั้งวันปล่อยมันไปทำไมเอาจิตเราไปจำลมหายใจให้

    มันเป็นสุขดีกว่าเช่นนั่งอยู่ฟังเพลงก็จับลมหายใจไปด้วยว่างอยู่ก็จับลมหายใจเอาจิตเราไป

    จับลมหายใจบ้างอย่าปล่อยให้จิตเราไปคิดอะไรฟุ้งซานอยู่ได้ฝึกไว้ให้เป็นนิสัยไม่ใช้ปล่อย

    มันไปเรื่อยเปลื่อยไร้แก่นสานสาระให้มันล่องลอยคิดโน้นคิดนี่หัดดึงมันบ้างไม่ได้บังคับมัน

    แต่ดึงมันไว้ให้มันเกิดความชินให้จิตเราไม่ใฝ่ไปในทางที่ไม่ดีเข้าใจไหมคุณ เกิดในเขตพระ

    พุทธศาสนาแล้วไม่หัดทำจิตให้เป็นสมาธิแบบที่องค์สมเด็จพระสัมมามัมพุทธเจ้าทรงสอน

    ไว้จิตฝักใฝ่อยู่แต่สิ่งไม่ดีมัน ก็แล้วแต่คุณแล้วกันช่วยได้เท่าทีช่วยนะคุณ เอวังโหตุ
     
  17. อวิปลาส

    อวิปลาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +353
    ตามที่เคยได้ยินได้ฟังจากครูบาอาจารย์มานะ..
    ลดอาหาร ที่จะไปส่งเสริมกำลังกาย แยกกัน นะครับระหว่างอาหารกายกับอาหารจิต
    เราต้องลดปริมาณลงไม่ใช่ให้อดนะ
    ต้องใช้ความอดทนสูงมาก เมื่อร่างกายไม่มีแรงกระตุ้น ใจเราจะควบคุมร่างกายได้ง่าย ลองสังเกตเวลา เรากินอาหารประเภท..เนื้อ..นม..ใข่
    ตื่นนอนตอนเช้าๆ จะรู้สึกได้เลยว่า ไอ้นั่นเด่ ไอ้นี่โด่ นี่ความจริง
    พอร่างกายมีกำลัง จิตเราจะอ่อนแอลงมาก ความกำหนัดจะควบคุมเราได้ง่ายครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...