การฝึกพลังจักรวาลและการรักษาความเป็นหนุ่มเป็นสาว สมุนไพรที่จะใช้ในยุคปัจจุบัน

อยากได้จริงหรือท่าที่ 6 มันเป็นท่าที่ง่ายๆ แต่คุณจะหมดอารมฌ์ทางเพศไปเลยนะครับ

มีบางท่านนั่งสมาธิไปแล้วเกิดการหมุนวนของจักระ แล้วมันจะแสดงออกมาทางร่างกายทำให้เรามีอาการหมุนหรือโยกในขณะที่นั่งสมาธิก็ไม่ต้องสนใจมากนะครับปล่อยให้มันหมุนไปเพราะว่าจักระมันหมุนครับ บางคนอาจจะสั่นไปเลย ถ้าอยากให้หายตรงนี้เพียงแค่สูดลมหายใจลึกๆ แค่นั้นนะครับ

 

ถ้าคุณเคลื่อนพลังจาก 7 ลงไป 1 จนชำนาญแล้วจากนั้นให้เคลื่อนพลังจาก 1 ขึ้นมาที่ 6 สัก 3-4 รอบช่วงแรกอาจจะปวดหัวเล็กน้อยนะครับ จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าเคลื่อนพลังจาก 6 ขึ้นไป 7 แล้วกำหนดให้พลังไล่อาบจาก 7 ลงทั่วร่างกายจะรู้สึกเหมือนเราอาบน้ำมันจะเย็นวาบไปทั่วร่างกายแต่มันจะละเอียดมากครับต้องฝึกไปเรื่อยๆถึงจะจับตรงนี้ได้ทำสัก 3 ครั้ง จากนั้นก็เริ่มใหม่จาก 1 ขึ้นมา 6 แล้วต่อไป 7 ที่นี้คุณก็ทำไปเรื่อยๆ สลับกันจาก 7 ลงไป 1 แล้วจาก 1 ขึ้นมา 6 แล้ว 7 ช่วงจาก 1 ขึ้นมา 6 บางคนอาจจะๆๆๆๆเปิดตาทิพย์ได้เลยก็มี หรือบางคนอาจจะเห็นแสงสีต่างๆตามแต่ละจักระก็มี บางคนอาจจะเห็นเป็นนิมิตต่างๆ ตามแต่จิตใต้สำนึกมันจะสร้างขึ้นมาก็มีซึ่งเราก็อย่าไปยึดติดกะมันเพราะเราจะก้าวเดินต่อไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ในขณะที่เคลื่อนย้ายพลังอาจจะมีอาการเจ็บปวดอวัยวะบางส่วนในร่างกายซึ่งก็หมายความว่า ตรงส่วนนั้นเซลล์บางตัวอาจกำลังมีปัญหา พลังที่วิ่งเข้ามาจะไปกระตุ้นเชลล์ส่วนนั้นให้มันทำงานอีกครัง ที่นี้เมื่อเราออกจากการดึงพลังแล้วถ้ามีเวลา เราก็เอาศรีจักราไปวางตามจักระที่อยู่ใกล้ๆบริเวณที่เราเจ็บปวดในขณะเคลื่อนพลังนะครับ เพื่อให้จักระนั้นทำงานมากกว่าเดิมมันจะดึงพลังเข้าไปรักษาเชลล์ส่วนนั้นให้ครับ เราก็ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายครับ

 

พี่ ผมหมุนจักระ ปกติจะ765432 พอลอง7654321 มันจะร้อนซาบซ่าตรง1
ผมลองย้อน1234 บ้าง กลับเย็นวาบ ทั้งที่อากาศรอบข้างร้อนมาก(ถามคนใกล้ๆ)

ตกใจเปลี่ยนมาเป็น สมาธิแบบ1-1 1-2 1-3 ไปเรื่อยก็กลับมาร้อน
ที่นี้กลับจุกจักระ4ลิ้นปี่ เอาคริสตอลปิรามิดมาวางก็หาย พอเลิกวางจุกอีก
พอเจ็บป่วยเลยไปไล่อ่านกระทู้อ.suwi ไปอาบน้ำแข็งลองอาบไปวันเดียวหายจุกเลยครับ
แต่ทีนี้หมุน1234 มันไม่หนาวแล้วอ่ะ
พอดีไม่ได้ฝึกอาบน้ำแข็งยุคเดียวกับพี่ๆเค้า
อยากเล่าไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง มันส์ครับ

 

เข้ามาฟังแล้ว 555555555555555555555

แต่อาการจักร 1 ที่เล่ามา มันยังไม่ตื่นตัวดีนะ แค่เบาะ ๆ

ถ้ามันตื่นขึ้นมาจริง จะหนักหนาสาหัสไม่น้อย บางคนถึงเสียสติไปก็มี

อยู่ที่ว่า ควบคุมเป็นหรือไม่ ครูบาอาจารย์หลายท่าน แม้แต่อาจารย์

มงคลเอง น่าจะยังไม่เคย ๆ ๆ เจอะกับพลังที่แท้จริงของมัน ก็เลย

สอนตามเรื่องราว ตามภูมิรู้ของท่าน ที่ผ่านมา

และมีน้อยเหลือเกินจากผู้ฝึกฝน ที่ขุมพลังแห่งนี้จะตื่นขึ้น เลยหยวน ๆ ให้ฝึกไป

 

มารโลกันต์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1284184", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 87
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 20


<!-- message --> [FONT=&quot]ผมได้เข้ารับการฝึกพลังกายทิพย์ หรือพลังคอสมิค ซึ่งน่าจะเป็นสายเดียวกับพลังจักรวาลจาก
คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค ในรุ่นปฐมจักกระ เมื่อวันที่ 5 [/FONT]–[FONT=&quot] 10 พ.ค. 2551 ทีโรงพยาบาลวชิระและ
ได้ลองใช้รักษาผู้เจ็บป่วยอย่างได้ผลเป็นที่น่าพอใจ[/FONT]
[FONT=&quot]
ในระหว่างรอการเรียนรุ่นที่สูงขึ้น ในระดับพัฒนาจักกระ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 [/FONT]–[FONT=&quot] 29 มิ.ย.[/FONT] 2551
[FONT=&quot]ผมไม่มีครูบาอาจารย์สั่งสอน จึงได้หาข้อมูลจากเว็บต่าง ๆ โดยเฉพาะเว็บพลังจิต เรียกว่า[/FONT]
[FONT=&quot]เรียนแบบลักขโมยวิชาว่างั้นเถอะ จำได้ว่าตอนที่ผมเรียนไม่มีการสอนเพ่งจุดไปตามจักกระ[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ผมรู้สึกชอบฝึกไปในแนวนี้ จึงเริ่มทดลองทำ[/FONT]
[FONT=&quot]
เวลาทำสมาธิแถวกระหม่อม รู้สึกร้อน,ชา, เต้น, หน่วง ,บางครั้งเหมือนมีลมพัดผ่าน[/FONT]
[FONT=&quot]เอาจิตมาจับที่จักกระ 5 แถวกระดูกต้นคอ รับรู้ถึงอาการแสบ ,ปวด ไม่ว่าจะเอาจิตไปจับไว้[/FONT][FONT=&quot]ที่ใด
จะรู้สึกถึงอาการหน่วงหรือตึง ไปทุกจุด บางทีกำหนดจิตที่หน้าอก จะคล้ายกับมีลูก[/FONT]
[FONT=&quot]ปิงปองกระเด้งจากหน้าอก ไปที่หัวแม่มือ ไปที่ไหล่ ไปที่คอ เด้งไปเด้งมา ชัดเจนมาก[/FONT]
[FONT=&quot]รู้สึกจั๊กกะจี้ชอบกล

และที่ชอบฝึกคือ เอาจิตไปจับแถวกึ่งกลางหน้าผาก มีอาการต่าง ๆ [/FONT][FONT=&quot]มากมาย
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเห็นลูกตาคนโผล่ขึ้นมา เห็นชัดเหมือนลืมตาดู[/FONT][FONT=&quot] เวลาใช้มือ[/FONT]
[FONT=&quot]จับเม้าท์เพื่อเล่นคอม คล้ายกับถูกไฟดูดจิ๊ด ๆ[/FONT]
[FONT=&quot]
ผมได้พบปัญหาจากการฝึกคือ
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 51 ที่ผ่านมา ผมลองสูดลมปราณ โดยการยืนแยก[/FONT][FONT=&quot]ขาออก มือเท้าที่สะเอว
แล้วหายใจเข้า และเป่าลมออกทางปาก จิตกำหนดไว้ที่กลางกระหม่อม (จักกระที่ 7)
ทำทั้งหมด 3 ครั้ง ต่อจากนั้นจึงมากำหนดจิตที่จักกระ 6 โดยใช้วิธีเดียวกัน ไล่ลงมาเรื่อย ๆ
จนถึงจักกระที่ 2 ( กระดูกก้นกบ) พอมาถึงจักกระที่หนึ่ง (ฝีเย็บ)[/FONT][FONT=&quot] จำได้ว่าเขาห้ามฝึก
แต่ตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่เป็นไร ขอแค่กำหนดผ่านไปเฉย ๆ คงไม่มีปัญหา
และได้ลองทำ
........ผมรู้สึกถึงกระแสบางอย่างที่ฝีเย็บ แสบร้อนชอบกล[/FONT]
[FONT=&quot]
วันที่ 15 มิ.ย. ช่วงบ่ายผมกำหนดจิตที่หน้าผาก รู้สึกตึงหน่วงแถวหน้าผากและ
ฝีเย็บพร้อมกัน จึงออกจากสมาธิ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]พอตกกลางคืน นอนกำหนดจิตที่หน้าผากอีก คราวนี้เด้งขึ้นมาทั้งตัว คล้ายกับมีแท่งอะไรตรง ๆ
วิ่งเสียบขึ้นมาจากที่ฝีเย็บ ยาวประมาณ 1 ฟุต [/FONT]
[FONT=&quot]
วันนี้คือวันที่ 16 เมื่อตอนเย็น ผมกำหนดจิตที่หน้าผาก กะเวลา 15 นาที เพราะมีงานที่ต้องทำ
ในระหว่างทำสมาธิอยู่ ผมรู้สึกร้อนทั่วบริเวณใต้ก้น และฝีเย็บ รู้สึกมีความร้อนแถว
เสื่อที่ผมนั่งด้วย รู้สึกกลัว รู้สึกหวาดหวั่น ถึงสิ่งที่เขาเรียกว่าพลังกุณฑาลิณี หรืองูไฟ

ผมอยากเรียนถามท่านผู้มีความรู้ว่า ผมควรฝึกปฎิบัติอย่างไร
และที่ฝึกอยู่นี้มีคุณหรือโทษมากน้อยแค่ไหน
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง สำหรับผู้แนะนำ[/FONT]

 

มารโลกันต์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1336904", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 87
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 20


<!-- message --> ทักทายครับท่าน Little yoda ว่าง ๆ อยากคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครับ เดี๋ยวผมหาจังหวะดี ๆ โทรไปคุยด้วย แต่ตอนนี้อยากเล่าเกี่ยวกับการฝึกพลังเกศา,โลมา ของท่านอาจารย์ SUWI ครับ เริ่มจากภาวนาเกศา เกศา พร้อมกำหนดความรู้สึกไปที่เส้นผม ..........................รายละเอียดและวิธีการฝึก ผมว่าให้ท่านอาจารย์ SUWI อนุญาตก่อนดีกว่าครับ ขอข้ามตัดตอนไปเลย............................หลังจากภาวนาเกศาอยู่ได้พัก หนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนมีลูกคลื่น วิ่งไปวิ่งมาอยู่แถวกลางตัว และบริเวณแถวแก้มและข้างหู มีความรู้สึกว่ามันขยับขึ้นขยับลงได้ ผมนั่งดูไปได้พักใหญ่ ๆ จึงรู้ว่ามาผิดทาง เพราะตำรากล่าวไว้ว่า หากทำได้ ความรู้สึกจะเหมือนมีครอบแก้วที่หัว ตกลงวันนั้น ล้มเหลวครับ
อีก 2 วันต่อมา เริ่มฝึกใหม่ ภาวนาเกศา ส่งความรู้สึกไปที่เส้นผมเหมือนเดิม เกศา เกศา เกศา ไม่รู้จะเอาจิตไปจับไว้ที่ส่วนไหนของเส้นผมดี งงเหมือนกัน มาเผลอสติตอนไหนไม่ทราบ ...........รู้สึกหัวมันเริ่มโตหรือขยายออก แต่พอนั่งดูมันไปอีกหน่อย หัวไม่ได้โตครับ แต่มันเป็นอะไรผมบอกไม่ถูก คล้าย ๆ กับมีรัศมีหยุ่น ๆ มันพองออกมาจากรอบหัว แล้วล้อมหัวผมไว้อยุ่ อันนี้กระมังที่ อาจารย์ SUWI เรียกครอบแก้ว พอได้เจ้าตัวเกศาแล้ว ตำราเขาบอกว่า............ต่อไปฝึกโลมา โลมา โลมา ภาวนาไปไม่ถึง 2 วินาที (ถ้าทำความรู้สึกที่เกศาได้แล้ว อันอื่นจะมาเร็วมาก) รู้สึกเส้นขนตั้งชันขึ้นมา และมีรัศมีหยุ่น ๆ ค่อย ๆ พองออก ๆ ๆ ล้อมรอบตัวผมไว้ พอเอาใจนึกให้มันพองใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง ก็ทำได้ครับ มหัศจรรย์มาก ต่อไป...ในตำราบอกว่าต้องคงความรู้สึกที่เกศาไว้ให้ได้ด้วย ก็เลยนึกกลับไปที่เกศาใหม่ อิอิ ความรู้สึกพองที่เกศาชัดเจน แต่ความรู้สึกที่ โลมา กลับน้อยลงไป..........ภาวนานขา นขา นขา เป็นคำที่สาม รู้สึกแถวหัวแม่มือ และบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง มีอะไรแปล๊บปล๊าบ ๆ อยู่ พอมาดูที่ท้องน้อย รู้สึกเสียว ๆ ร้อน ๆ ตำำราบอกว่า ต้องคงความรู้สึกที่ เกศาและโลมาไว้ด้วย ฮ่า ๆ ๆ
เสดครับ อิอิ หงายท้องเก๋งเลย ความรู้สึกที่พองอยู่ตรงเกศา โลมา หายวับไปกับตา .............ศิษย์มารโลกันต์ ไม่เอาถ่านจริง ๆ ครับ ท่านอาจารย์ SUWI

 

suwi <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1337222", true); </script>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jun 2007
อายุ: 58
ข้อความ: 873
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 284


<!-- message --> อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มารโลกันต์
[/b][/u]นอก จากข้อความด้านบนแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างครับท่านอาจารย์ SUWI แต่ที่จำแม่นคือ อาการแสบร้อนที่สันหลังแถวเอว แสบร้อนที่ฝีเย๊บ และคล้ายกับมีก้อนเนื้อก้อนใหญ่อัดกันอยู่แถวหลังศรีษ่ะ ปวดและมึน (จากใบหูถึงกลางกรหม่อม) ประมาณครึ่งหัว เวลานั่งสมาธิทุกครั้งจะแสบฝีเย็บขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่จิตกำหนดที่กระหม่อม หรือหน้าผาก ผมนำพลังคอสมิคไปรักษาผู้ป่วย 3 ราย (ภายในวันเดียว) และมือจับต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ความปวดแสบปวดร้อน มันไม่หาย
ในช่วงนั้นผมนึกอยากบอกคืน วิชาทั้งหมดที่ฝึกมา ไม่ว่าจะเป็นพลังชนิดไหน ๆ ไม่เอาล่ะ พอละ มีแต่ทุกข์ มีแต่ร้อนรุ่มทรมาน หมดกะลังใจจิงเจง
</td> </tr> </tbody></table>
ข้อความของท่านอาจารย์ SUWIนันท์

นี่คือหนึ่ง ในอาการที่เกิดขึ้น และผู้ฝึกยังไม่เข้าใจ การเดินปราณ ทำให้ปราณอัดกระจุกอยู่ในร่าง
ซ้ำนี้ยังมีพรสวรรค์ กระตุ้น กุลฑาลินีได้ อาการจึงทวีคูณ
อาการยังมีมากกว่านี้มากมาย ตะครั่นตะครอไปทั้งตัว เจ็บตรงโน้น ปวดตรงนี้ไม่มีที่ไปที่มา อยู่ๆก็เป็นขึ้นมา ฯลฯ ๆๆๆ
ทำไปทำมา เอ โดนผีเข้า หรือเทพเทวดามาขออยู่ด้วยหว่า ฯลฯ วิตกจริตร ไปต่างๆนาๆ
มันทรมารชนิดบนอกไม่ถูก เล่าบอกอาการให้ใครฟังก็บอกไม่ได้
บอกคืนวิชาได้ ก็อยากคืนๆไปซะให้พ้นๆตัว

นี่จึงเป็นที่มาของการขอปิดจักระ ตามที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ว

และเมื่อเข้าใจในเรื่องของพลัง เข้าใจการหมุนเวียนถ่ายเท ปัญหาต่างๆก็จบ

 

Little yoda <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1341501", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Aug 2007
ข้อความ: 550
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 303


<!-- message --> หลังจากที่ได้พูดคุยกับ คุณมารโลกันต์ ก็ทำให้ทราบว่า

เมื่อก่อนจากที่เป็นคนไม่ค่อยจะเชื่ออะไรง่าย ๆ

ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคนไปแล้วครับ หลังจากที่ได้พบกับ

ประสบการณ์หลายๆ ที่ตื่นเต้นหลายอย่างด้วยตนเอง จนไม่รู้ว่า

จะหาคำใดมาอธิบายได้หมด ทำให้เกิดความต้องการที่จะเรียนรู้

ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง

ก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับกับสิ่งดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ผมว่า

น่าจะเปลี่ยนชื่อจาก มาร เป็น เทพ ก็น่าจะฟังดูดีนะคราบบ

(sing)(sing)(sing)

 

มารโลกันต์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1351135", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 87
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 20


<!-- message -->

เสียเวลาเป็นอันมาก กับการพิมพ์เผยแพร่ ตัวข้าเองยังอยู่แค่แสงที่เรือง

มาจากหลอด ตัวหลอดที่เปล่งแสงเป็นอย่างไร ไส้หลอดที่กำเนิด

พลังงานเป็นอย่างไร ข้าอยากรับรู้ ขอทุกท่าน จงอย่าละจากศีล ,

ขอทุกท่าน จงอย่าละจากภาวนา , กำหนดแล้วดูไป สติตาม รู้พร้อม


ขออนุโมทนา กับผู้มีอุปการะธรรมทั้งหลาย ที่ไม่ได้เอ่ยนาม

หากจิตนี้ยังอยู่ที่เดิม ไม่ก้าวไปแล้วไซร้

มารโลกันต์ไม่หวนคืน ข้านี้ขอลา.

​

 

555555555 นาน ๆ สักครั้ง

ที่ได้หวนรำลึก ถึงน้องชายฝาแฝด งิงิ เข้าไปอ่านของเดิมแล้ว

อดขำไม่ได้.........สมัยนั้น อ้ายมารโลกันต์ มันบ้า ๆ บวม ๆ

กับพลังนินิหน่อย ๆ แต่..........ขณะนี้ มันก็ยังบ๊องๆ บวมๆ

แก้ไม่หายซักที อ่ะจึ๋ย ๆ

 

ขอบคุณครับ พี่มังกรบูรพา
เขียนซะคนอื่นอ่านแล้วกลัวไปเลย
การฝึกพลังตัวนี้ถ้าเราฝึกตามขั้นตอน ออกกำลังกายตามที่เขียนไว้ รับรองไม่มีบ้าๆบอๆ นะครับ แต่จะมีบ้างที่ซึมๆหรือง่วงนอน
ถ้าอาการที่ท่านพี่ก็อปปี้มาแสดงว่า แต่ละจักระเขายังไม่พร้อม คือยังเปิดไม่เต็มที่ กำลังกายก็ไม่ทำ ฝึกบ้างไม่ฝึกบ้าง ฝึกแบบมั่วๆไป
ขุมพลังตัวนี้ นอกจากจะมีพลังที่มากมายแล้ว แต่ละจักระมันยังมีประโยชน์อีกมาก ไม่ว่า จะใช้ เรื่องงานไม่มี
เรื่อง สามีภรรยา
เรื่อง ต้องการทำงาน
เรื่อง เอาคนออกจากคุก อะไรอีกมากมาย
ที่ผมอ่านๆดู ที่เขียนกันอยู่นี้ มันแค่เริ่มต้นการฝึกพลังเท่านั้น แต่การใช้พลังยังไม่มี.........

และที่ สำนักแต่ละสำนักสอนก็ยังเข้าไปไม่ถึงจุดนี้ซะด้วย สอนแค่นำไปรักษาตนเองและผู้อื่น แต่จริงๆแล้วความสำคัญของแต่ละจักระ มันมากมายเหลือเกิน มันสามารถนำเอาไปทำความดีหรือความชั่วก็ยังได้เลย โดยแค่เรานั่งอยู่เฉยๆ
ผมถึงพยายามบอกว่า อย่าข้ามขั้นตอน อย่าไปยึดติดกับสิ่งที่เห็น เพราะ้เราจะต้องเดินหน้าต่อไปอีกมาก มันเพียงแค่ เริ่มต้นเท่านั้นเอง ขุมพลังตัวนี้อย่าลืมว่าชื่อ พลังจักรวาล คุณสามารถควบคุมทั้งจักรวาลได้เลยถ้าคุณเดินหน้าต่อไป 555555555555

 

ตรงนี้มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ เพียงท่านฝึกให้กายแข็งแรงเพื่อรองรับพลังตัวนี้เท่านั้น ร่างกายคุณแข็งแรงจักระเปิดพร้อมเต็มที่ พลังตัวนี้มันจะค่อยขึ้นมา มันจะไม่พุ่ง ที่มีบางคนรู้สึกว่ามันพุ่งเพราะ
ท่อในร่างกายมันยังตันอยู่ พลังที่ขึ้นมามันจะไปเสีนดสีกับท่อจึงทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรง เพราะมันพยายามจะขึ้นมาทั้งๆที่ร่างกายยังไม่พร้อม พลังของจิตยังไม่พร้อม
ฝึกออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายพร้อม
ฝึกจักระที่ 6 เพื่อพลังของจิตพร้อม
ฝึกไล่จากจักระที่ 7-6-5-4-3-2-1 เพื่อทะลุทะลวงท่อในร่างกายผมถึงเขียนว่าถ้ายังไล่ลงไม่ชำนาญอย่าไปไล่สวนทางไงครับ
คนที่อ่านกับคนที่ฝึกมันจะต่างกันนะครับ อ่านมามากรู้มากจึงกลัวมาก อ่านบางตำราเขาก็ไม่ได้เขียนไว้อย่างนี้ หรือเขียนก็ไม่รู้ 555555555

 

พยายามฝึกไล่ 7 ลงมา 1 ก่อนนะครับที่เหลือก็ฝึก 6 อย่าเพิ่งไปอีกขั้นนะครับเดี่ยวมันควบคุมไม่ได้ คุณเพิ่งเริ่มฝึกการออกกำลังกายไม่กี่วันเอง ร่างกายคุณยังไม่พร้อมเท่าไหร่นะครับ

 

ถ้าฝึกมะเอาแบบหนุ่มสาวได้ปะคะ แหะๆ

 

ผมมองการสอนของคุณ ดูท่านอยู่นะครับ ทุกสิ่งสอนด้วยเจตนาอันดี แต่.......

สิ่งหนึ่งที่ยังกังวล นั่นคือ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของน้อง ๆ ที่เข้ามาฝึก

ใจร้อนบ้าง ลัดขั้นตอนบ้าง พลังไปไม่ถึงจุดบ้าง และเข้าใจตัวเองว่า ฉันถึง

แล้วบ้าง ฉันควรจะฝึกตรงนี้ได้แล้วบ้าง คือเข้าใจเอง เออเอง เสียหมด


จึงอยากเชิญชวนผู้ฝึกอยู่ มาแชร์ มาเล่า ว่าตอนนี้ ฝึกอะไรอยู่ ถึงไหน อาการอย่างไร

เพื่อจะได้ประเมิน วิเคราะห์ หาทางแก้ไข หรือแนะนำ ตามที่เห็นสมควร

 

ชิชะนังหนู อายุแค่ 16 เลยไม่เห็นภัย แห่งโรค/แห่งความชรา 555555555

ริมาแซวคนใก้ล ๆ จะแก่ในกระทู้ เดี๋ยวเถอะ ๆ จะมอบไม้ตะพด ให้ 1 ที ดีไหม

 

อ้าว กำ เง้อ T^T ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยนะค่ะป๋ะป๋า

เรื่องแก่ๆปลาไม่กลัวหรอกค่ะ คนเกิดเราเกิดมาตายครั้งเดียวเหมือนกันหมด

บางคนยังไม่ทันแก่ด้วย ซ้ำงะ T^T

แค่เห็นเขาฝึกท่าทาง จะหนุกอะคะ ก็เลยอยากแจมด้วยเท่านั้นเอง

ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ ไม่มีเงื่อนงำ หรือเจตนาอย่างอื่นเลยจิงจิ๊งงงง


.

 

ท่าที่ 6

เป็นท่าที่ง่ายมากทำได้ทุกที่ แต่ผู้ฝึกควรหัดท่านี้ต่อเมื่อผู้ฝึกรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง

ทางเพศมากเกินไปหรือเมื่อรู้สึกเกิดกำหนัดเท่านั้น วิธีฝึกเป็นดังนี้ก่อนอื่นยืนตัว ตรง ค่อยๆระบายอากาศทั้งหมดออกจากปอดของคุณ ขณะที่ทำเช่นนี้ให้งอลำตัว ลง

โดยวางสองมือของคุณไปแตะเข่า จากนั้นขับอากาศก้อนสุดท้ายออกจาก
ปอดของคุณ จนปอดของคุณว่างเปล่า แล้วจึงยกตัวกลับมายืนตรงในท่าเดิม

ต่อไปเลื่อนมือมาแตะที่ตะโพกของคุณ กดมันลงไปมันจะยกไหล่ของคุณขึ้นมา
ขณะที่คุณทำเช่นนี้ให้หดช่องท้องของคุณเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะเดียวกันหน้าอกของคุณก็จะถูกยกขึ้นมา

" ขอให้คุณอยู่ในท่านี้ให้นานที่สุด
เท่าที่จะกระทำได้ เมื่อคุณจำต้องให้อากาศไหลเข้าสู่ปอดที่ว่างเปล่าของคุณ

ให้อากาศไหลเข้ามาผ่านรูจมูกของคุณ เมื่ออากาศเข้าไปจนเต็มปอดให้หายใจ
ออกทางปาก ขณะที่หายใจออกให้ผ่อนคลายแขนทั้งสองข้่าง ปล่อยมันวาง

ข้างลำตัวอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นหายใจลึกๆหลายครั้งผ่านปากหรือจมูก
และปล่อยให้มันไหลออกทางปากหรือจมูก เป็นการจบท่าที่หกนี้ ท่าที่หกนี้ควร

ทำซํ้า 3 ครั้ง เพือแปลงรูปพลังทางเพศของผู้นั้นและดึงพลังขึ้นข้างบน"

"กระบวนท่าที่ 6 เป็นกระบวนท่าสำหรับคนที่อิ่มแล้วในเรื่องเพศ เข้าถึงเรื่อง
เพศอย่างสมบูรณ์แล้ว จนเกิดความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะแสวงหาเป้าหมาย

ที่เป็นความสุขอย่างอื่นในชีวิตที่ไม่ใช่กามสุข สำหรับคนที่ยังไม่อิ่มในกามสุข
ยังต้องต่อสู้เพื่อข่มกลั้นมันอยู่ คนผู้นั้นยังไม่พร้อมที่จะแปลงรูปพลังทางเพศ

และดึงพลังทางเพศให้กลายเป็นพลังขั้นสูง การฝืนธรรมชาติในเรื่องนี้อาจทำให้พลังเดินผิดทาง เกิดความขัดแย้งภายในใจที่เก็บกดอย่างรุนแรงได้ ซึ่งจะ

เป็นอันตรายต่อคนผู้นั้นมากกว่า;aa41

 

ขอบคุณครับ