จิตบังคับบัญชาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้...จะอบรมจิตได้อย่างไร???

คุณเกสท์ครับ เจตนาหํ กมฺมํ อยู่แล้วครับ

คุณเกสท์ครับ ผมไม่ได้ใส่ใจกับคำเหน็บของคุณหรอก
เป็นเพียงความคะนองของคนที่อยากเอาชนะเท่านั้น
แถมยังไม่รู้ตัวอีกว่าถูกกิเลสอุ้มอยู่ กล่าววาจาลบหลู่ธรรมะของบรมครู

ผมก็ได้บอกไปแล้วในคคห.ก่อนว่า
คุณจะเหน็บอะไรผมก็เป็นความพอใจของคุณเอง

 

คุณขันธ์ คุณใช่มั้ยครับที่ชอบมาเหนือธรรมเหนือความถูกต้อง???
เก่งยิ่งกว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายเสียอีก??? คุณนี่เนียนจริงๆ

คุณลองบอกหน่อยสิครับว่าถ้าเป็นอธรรมคุณจะลงให้มั้ย???
ส่วนใหญ่ผมยกพุทธพจน์มารองรับในสิ่งที่ผมพูด
แบบนี้ไม่เรียกว่าลงให้ธรรมจะเรียกว่าลงให้อะไรครับ???

คุณขันธ์ คุณเองก็ไม่ต่างไปจากคุณเกสท์สักเท่าไหร่
คุณชอบที่จะกล่าวหาคนอื่นไว้ก่อนเป็นประจำ!!!
ส่วนคุณเกสท์ชอบที่จะเหน็บแนมไว้ก่อนเป็นประจำ!!!

คุณขันธ์ คุณว่าผมชอบตีความ ไหนคุณลองยกมาสิครับ???
ตรงไหนว่าผมตีความพุทธพจน์ อย่าเดาสวดครับ(ชอบทำเป็นประจำ)
อย่าใช้วิธีกล่าวหาคนอื่นแบบลอยๆเป็นประจำ(สันดาน)ไปแล้ว

ผมบอกไว้ก่อนครับว่าพุทธพจน์นั้นไม่ต้องตีความเลยครับ
มันชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้วครับ เพียงนำมาแจกแจงให้เขาใจเท่านั้นพอ

ส่วนคุณกล่าวหาผมว่าเป็นคนพาลนั้น พูดผิดพูดใหม่ได้ครับ ผมให้อภัย
คุณลองพิจารณาตนเองดูบ้างสิครับ อย่างคุณนั้นเค้าเรียกว่าอันธพาลครับ
ไม่ถูกใจใครก็มีคำว่า โง่บ้างหละ ปัญญาอ่อนบ้างหละ พูดเพ้อเจ้อบ้างหละ!!!

มีแต่พวกอันธพาลเท่านั้นที่ สุดท้ายชอบทำลายตนเอง....กรรม

;aa24

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=173863<O</O<O</O

คุณผีฯ คุณถ้าจะต้องพูดแบบแปลไทยเป็นไทยอีกคนแล้วครับ
ผมให้คุณไปขึ้นกระทู้เพื่อถกธรรมกับผม เพราะคุณคิดว่าคุณเก่งพอที่จะสั่งสอนผม
คุณก็ควรระบุให้ชัดเจนว่ากระทู้นี้ต้องการสั่งสอนธรรมภูตให้รู้จักธรรม

คุณเล่นขึ้นมาลอยว่าธรรมเป็นของใคร???
ในเมื่อมันไม่ใช่ของผมๆควรเข้าไปยุ่ง(เสือก)หรอกเหรอ!!!

วันหลังก็อย่าพล่ามลอยๆครับ ระบุไปเลยสิครับ กล้าหน่อย ว่าคุณกำลังพูดถึง
สุภาพชนคนพุทธศาสนาที่เค้าตรงไปตรงมา กล้าพูด(อาจหาญ) กล้าทำ(ลงมือปฏิบัติ)
ผิดถูกแยกแยะด้วยเหตุ ถ้าผิดระลึกได้ก็ควรที่จะกล้าขออภัย
ไม่ใช่กล่าวหาแล้วก็วิ่งหนีครับ

ธรรมไม่มีของใครครับ เป็นของสากลที่ทุกคนทุกชาติภาษามีสิทธิ์เข้าถึงได้
ไม่มีลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้นไว้เพื่อสำหรับหากิน จะมีก็แต่พุทธบุตรนอกรีตเท่านั้น

พระพุทธองค์ทรงค้นพบอมตะธรรมด้วยพระองค์เอง(เป็นของมีอยู่แล้ว)
ด้วยความเมตตาธรรมที่ต้องการจะช่วยสัตว์โลก(ผู้ข้องในอารมณ์)ให้พ้นทุกข์

พระองค์ท่านจึงได้ยอมลำบากพระวรกาย ออกเผยแผ่สั่งสอนพุทธบุตรทั้งหลายเหล่านั้น
เพื่อให้นำคำสอนเหล่านั้นไปสมาทานลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง
ไม่ใช่ให้นั่งดูความคิดตนเองทั้งวัน
ขนาดพระอรหันต์๖๐รูปในครั้งนั้น พระองค์ท่านยังให้ออกไปเผยแผ่ทิศละรูปเท่านั้น
อย่าไปในทิศทางเดียวกัน๒รูปครับ ถ้าในครั้งนั้นพระองค์ทรงมีลิขสิทธิ์แล้ว
อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราชาวพุทธในปัจจุบัน???

;aa24

 

ตอบดีนะเนี้ย ขอโทดด้วยที่เข้ามากวนในกระทู้ของพี่ภูต ถ้าเข้ามาคุยไม่ได้ก็ให้แจ้งด้วยว่ากระทู้ส่วนตัวห้าม เข้ามา ส เอือก นะพี่ กระทู้ที่เราเขียนจะเข้าไปเขียนก็ได้นะไม่ว่ายินดีด้วย

 

ผมขอบอกรู้กันถ้วนหน้าครับ
ในระยะหลังมานี้ ผมเข้าบอร์ดไม่ค่อยจะได้
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อวาน ผมได้ลองพยายามอยู่นานกว่าชั่วโมงก็ไม่สำเร็จ
อาจเป็นเพราะใช้เนทเต่า ขณะเดียวกันยังเล่นเนทฟรีขององค์การ
ระยะหลังมานี้เนทองค์การสามวันดีสี่วันไข้ ผมก็ทำใจอยู่แล้ว
ที่บอกให้รู้กันเพราะจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดว่า
ผมต้องคิดหลายวันก่อนตอบ คิดว่าผมหลบลี้หนีหน้า ฯลฯ

เอาน่า อย่าคิดมาก เดี๋ยวรากผมตายหมด จะหาว่าไม่บอกครับ


;aa24

 

หุหุ เหมือนในโฆษณาเลย อย่างนี้พี่ต้องเอาเฒ่าไปปล่อยแล้วหละ ล้อเล่นนะ

 

"โก นุ หาโส กิมานนฺโท นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ อนฺธกาเรน โอนทฺธา ปทีปํ น คเวสถ. ก็เมื่อโลกสันนิวาสนี้มันร้อนด้วยอำนาจแห่งกิเลสตัณหาเผาลนเป็นฟืนเป็นไฟทั้งวันทั้งคืน ยืนเดินนั่งนอนหาเวลาว่างไม่ได้แล้ว พวกท่านยังมีแก่ใจมาหัวเราะรื่นเริงบันเทิงกันหาอะไร
โก นุ หาโส หัวเราะรื่นเริงบันเทิงกันหาอะไร ทำไมไม่เสาะแสวงหาที่พึ่ง"

อยากจะบอกอย่างนี้เลยนะ
"มาเป็นบ้าหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันอยู่นี้ ทำไมไม่หาความสงบให้แก่จิตใจ ทำไมไม่เสาะแสวงหาที่พึ่งของใจ"

"ใครอยากจะบ้างหลงโลกหลงสงสารทะเลาะเบาะแว้งต่อไปก็ตามเถอะ ผมไปแล้ว"

 

คุณผีฯ คุณอย่าเข้าใจผิดสิครับว่าผมห้ามเข้ามาคุย<O</O
ที่ผมไม่ได้ตอบคุณไปเรื่องธรรมเป็นของใครนั้น<O</O
ผมไม่รู้จะเข้าไปยุ่งในกระทู้คุณ(เสือ...ก) เพื่ออะไร???<O</O
<O</O

ผมได้เข้าไปอ่านดูแล้ว เห็นผู้รู้ตอบไว้มากมายหลายทัศนะ<O</O
ซึ่งคุณเองก็ไม่ได้เจาะจงว่าผมต้องเข้าไปตอบ<O</O
ผมจึงเห็นว่าไม่ควรไปทำให้กระทู้ดีๆของคุณต้องเสียหาย(เห็นคุยกันเองสนุกสนาน)<O</O
ก็เท่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ครับ<O</O
<O</O

ส่วนกระทู้ผมนั้น ผมเปิดกว้างอยู่แล้วครับ<O</O
ขอแต่เพียงให้ยืนอยู่บนหลักเหตุผลเท่านั้น ไม่มีการแพ้-ชนะ<O</O
ถกธรรมเพื่อหาแก่นธรรม เพื่อน้อมนำมาสมาทานให้บังเกิดผลมากกว่าครับ

;aa24

 

ไม่เป็นไรครับ ผมชอบของผมแบบนั้น<O</O
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการพูดคุยมากมายในเนท <O</O
เอาเวลาไปทำสิ่งอื่น ที่คิดว่ามีประโยชน์บ้าง<O</O
เช่นทบทวนดูว่าวางจิตอย่างไร?จึงจะตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็ว

;aa24

 

ดีครับคุณเกสท์ ที่ยกบาลีมาให้พิจารณากัน
ทั้งที่พวกเรารู้อยู่ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นของร้อน(อาทิตตปริยายสูตร)
ผู้คนส่วนใหญ่ที่เกียจคร้านยังอ้างว่า ไม่มีเวลา ขนาดเดินยืนนั่งนอนยังหาเวลาไม่ได้เลย
แต่กลับมีเวลาเที่ยวเล่นสนุกสนานไปวันๆ

คุณเกสท์ การสนทนาธรรม(ถกธรรม) เป็นธรรมดาอยู่นั้นเองที่จะมีความเห็นไม่ลงกัน
เนื่องจากความเชื่อศรัทธาที่ได้รับมาแต่เก่าก่อนแตกต่างกัน
ฉะนั้นเมื่อมีการกระทบกระทั่งกันบ้างก็เป็นธรรมดา
ของผู้ที่ยังต้องสดับ ยังต้องกระทำให้ตื้น
ทำใจได้ก็อภัยกันไป ทำใจไม่ได้ก็ควรหยุดสักพัก(สงบจิตใจ)

ที่คุณบอกไว้ว่า

 

พี่ภูตว่าเราคูยกับพี่เพื่อที่เอาชนะไหมหละ มีใครบ้างที่อยากให้คนอื่นเกลียด มีใครชอบให้คนอื่นมาด่าว่าไหม ธรรมอันใดที่พี่หวังไว้ขอให้สำเร็จเป็นไปตามทางแห่งสัมมาทิฏิ ขอให้พี่เจริญในธรรม

 

เช่นกันครับคุณผีเสื้อราตรี ขอให้เจริญในธรรม
มีใครบ้างที่อยากให้คนอื่นเกลียด !!!
การถกธรรมกันนั้นถึงขั้นต้องเกลียดกันเลยหรือครับ??? งง
นอกจากว่าเค้าไม่ยอมรับเหตุผล ก็ทางใครทางมัน(รองเท้าคอนเวอร์ส)
ถึงจะถกกันหน้าดำหน้าแดง เมื่อสรุปโดยเหตุและผลแล้ว
รู้จักน้อมนำสิ่งเหล่านั้นมาสมาทานดู มีแต่ได้ไม่มีเสียครับ

การด่าทอกันที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด ยังพออภัยกันได้ครับ
ถ้าด่าทอเพราะเอามันเข้าว่า อันนี้อาจเกิดการเกลียดชังขึ้นได้ครับ

ผมยังเชื่ออยู่ตลอดเวลาว่า คนที่หันมาสนใจพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นคนดีมีความรับผิดชอบทั้งนั้น
แต่ความเชื่อของแต่ละคนนั้น
ต้องอาศัยเหตุและผลในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ถูกต้องตรงกัน

เพราะพระพุทธองค์ท่านเองยังวางหลัก กาลามสูตร
เพื่อให้พิจารณ์ธรรมะโดยรอบคอบ เอาเหตุเอาผลเป็นที่ตั้ง
อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ฟังโดยดี แล้วลองนำมาสมาทานดู
ถ้าเป็นกุศล ดี มีประโยชน์ ผู้รู้ไม่ติเตียน ค่อยเชื่อก็ยังไม่สายครับ

1. มา อนุสสเวนะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
2. มา ปรัมปรายะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
3. มา อิติกิรายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้
4. มา ปิฏกสัมปทาเนนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยอ้างตำรา
5. มา ตักกเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยเดาเอาเอง
6. มา นยเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยคาดคะเน
7. มา อาการปริวิตักเกนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยความตรึกตามอาการ
8. มา ทิฏฐินิชฌานักขันติยา อย่าได้เชื่อถือ โดยชอบใจว่าต้องกับทิฐิของตัว
9. มา ภุพพรูปตายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
10. มา สมโณ โน ครูติ อย่าได้เชื่อถือว่าสมณะนี้คือครูของเรา

;aa24

 

http://www.learntripitaka.com/scruple/muck8.html

 

กระทู้อะไรนี่เจ้าคะ อิฉันตามอ่านไม่ไหว

แต่ดูเผินๆ ยังกะบทละคร ใช่ไหมค่ะ

ไม่มีใครพูดตามจริงเลย เหมือนสร้างบทบาทกัน

ใช่ไหมเจ้าคะ

 

ครับคุณป้าฯ เพราะคุณดูเพียงเผินๆเท่านั้น ไม่ได้ดูอย่างจริงจังอะไร
สิ่งที่คุณคิดจึงเป็นเรื่องเผินๆเล่นๆ เห็นคนอื่นเป็นเช่นนั้นไปด้วย

คุณป้าฯก็ลองสมาทานเอาแบบจริงๆจังๆดูสิครับ
คุณก็สามารถจะจำแนกส่วนที่สร้างภาพกับส่วนที่เป็นจริงออกจากกันได้ครับ

คุณถามว่าไม่มีใครพูดจริงเลยเป็นเพียงสร้างบทบาทให้กับตนเองนั้น
คุณเอาเหตุผลอะไรครับในการจำแนกว่าเป็นเพียงการสร้างบทบาทเท่านั้น???

โดยเฉพาะเรื่องศาสนาด้วยแล้ว ผมคิดว่าคงไม่มีใครกล้าสร้างภาพ
หรือบทบาทขึ้นโดยความจงใจหลอกลวงครับ
อันนี้อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากการอ่าน ฟัง คิดนึก จนกระทั่งตกผลึก
และเข้าใจว่าตนเองเป็นเช่นนั้นมากกว่าครับ

คุณก็ช่วยจำแนกด้วยสิครับว่าใครเป็นยังไง
หรือสร้างบทบาทตนเองเพื่ออะไร???

และช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวหัวข้อกระทู้ที่ตั้งขึ้นด้วยครับ
จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

;aa24

 

คุณธรรมภูตอย่าพึ่งมั่นใจในสิ่งที่คุณรู้แจ้ง

ความจริงคือมันไม่ใช่

เพราะมันจะถอนตัวยาก

ทรงแสดงว่า คนพาลปฏิบัติผิด ในบุคคล ๔ ประเภท คือมารดา, บิดา,พระตถาคต, สาวกของพระตถาคต. ส่วนบัณฑิตตรงกันข้าม.