้เรื่องจริงจาก...ผลบุญของผู้ที่ยอมถูกไฟคลอกตาย เพื่อช่วยเด็ก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 1 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    วีรสตรีผู้กล้าแห่งเทวภูมิ -- หลินจิ้งเจวียน



    [​IMG]


    เธอพยายามช่วยเหลือชีวิตเด็กให้รอดพ้นจากกองเพลิง จนตัวเองต้องมาจบชีวิตลงพร้อมกับเด็กนักเรียนที่เหลืออีก 22 ชีวิต การเสียสละครั้งนี้มิได้สูญเปล่า ด้วยแรงปณิธาน เธอได้รับความเมตตาจากเบื้องบนให้ไปจุติ ณ เทวภูมิและได้รับสมญานามว่า...

    "วีรสตรีผู้กล้าแห่งเทวภูมิ หลินจิ้งเจวียน"

    หลินจิ้งเจวียน เป็นอาจารย์โรงเรียนอนุบาลเจวี่ยนคังเมืองไทเป ไต้หวัน เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโรงเรียนที่นำเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลไปทัศนศึกษานอกสถานที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2535 เวลา 11.45 น. เธอถูกไฟคลอกพร้อมเด็กนักเรียนอนุบาลจำนวน 22 ชีวิต

    ( 6 เดือนต่อมา...)

    เรื่องราวก็ถูกเปิดเผยขึ้นอีกครั้ง โดยที่วิญญาณของเธอได้ยืมร่างสามคุณที่พุทธสถานเต๋อจง ประเทศไต้หวัน ขณะที่ทางพุทธสถานมีการบรรยายธรรมอยู่ เธอได้เล่าว่า..

    " ท่านผู้ทรงคุณอย่าได้ตกใจ ฉันคือ อาจารย์โรงเรียนอนุบาลเจวี่ยนคังได้พานักเรียนพร้อมผู้ปกครองไปทัศนศึกษาแล้วเกิดอุบิตเหตุขึ้น ฉันคือ.... หลินจิ้งเจวี่ยน "

    " ท่านผู้ทรงคุณที่อยู่ในพุทธสถานแห่งนี้ ต้องเชื่อมหาธรรมชึ่งมีคุณค่ายิ่ง การที่ฉันได้มีบุญสัมพันธ์ลงมาปรากฏในวันนี้นั้น ก็เพราะเบื้องบนได้ทรงเมตตาประทานโอกาสมาให้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงการโปรด 3 ภพ ในขณะนี้นั้นเป็นเรื่องจริง

    " ยังไม่ลิขิตการเกิด แต่ได้ลิขิตการตายไว้แล้ว.... "

    พวกเราได้ผ่านการหมุนเวียนเกิดตายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งได้สั่งสมบาปกรรมมาหลายชาติ กรรมที่ส่งให้มาเกิดในครอบครัวเดียวกันและกรรมร่วมกับผู้อื่นอีก ล้วนต้องรับการชำระหนี้กรรมในกัปสุดท้ายนี้แน่นอน โลกปัจจุบันทั่วทุกแห่งจึงวุ่นวายกันไปหมด ภายใต้การผูกรัดจากแรงกรรม เวไนยสัตว์จึงได้รับเคราะห์ภัยมากขึ้นที่เมืองนรกมีผู้วายชนม์เข้ารายงานตัวไม่ขาดสาย


    ( เล่าประวัติของตนเอง)

    ฉันเอง.. โชคดีในขณะที่มี่ชีวิต ก็ได้ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความระมัดระวัง ภายหลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยครูในวิชาเอกอนุบาลศึกษา ก็ตั้งใจเข้าทำงานในโรงเรียนอนุบาลเพราะฉันเองเป็นคนรักเด็กๆ มาก ฉันจึงทำตัวเป็นเหมือนแม่ของพวกเด็กๆ คอยให้ความรัก คอยดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนอนุบาลเพาะหน่อกล้าที่ยังอ่อนอยู่ เพื่อให้พวกเขาค่อยๆ เติบโตขึ้น

    ฉันได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเด็กชั้นกลาง มีหน้าที่คอยพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจและปัญญาให้สมบูรณ์ ต้องอดทนดูแลเด็กๆ ด้วยความรัก พวกเด็กๆ ชอบเรียกฉันว่า "คุณแม่หลิน" ปกติฉันจะปฏิบัติต่อเด็กๆ เหมือนเป็นลูกของฉันเลยทีเดียว


    (เกิดอุบัติเหตุ )

    ขณะที่จะไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์ รถทัศนาจรก็ได้เกิดเพลิงลุกขึ้น ฉันไม่ห่วงชีวิตตนเองได้กระโจนเข้าไปท่ามกลางเปลวไฟเพื่อช่วยชีวิตเด็กๆ ตอนนั้นฉันได้ละทิ้งโอกาสที่จะหลบภัยเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ในใจคิดแต่จะช่วยเด็กๆ เป็นเรื่องสำคัญในขณะนั้น....จิตจึงมีอานุภาพยิ่งใหญ่ จึงเกิดพละกำลังกล้าหาญ ถีบกระจกทน้าต่างรถจนแตก แล้วส่งเด็กๆ ซึ่งกำลังร้องเรียกหาพ่อหาแม่ร้องไห้ระงมไปหมด ให้ออกทางหน้าต่างออกมาทีละคนๆ ขณะที่ไฟกำลังโหมลุกท่วมรถอยู่นั้น ฉันก็ ได้รีบใช้ตัวกันไฟให้เด็กๆ ฉันคิดว่าฉันมีภาระหน้าที่ปกป้องพวกเขา ด้วยเพราะหนีออกมาไม่ทันเสียแล้ว ฉันกับเด็กๆ ที่เหลือรวมทั้งผู้ปกครองบางคนที่ยังติดอยู่ในรถ จึงถูกไฟคอกตายทั้งหมด

    โอ้...ฟ้าไม่อาจคาดคะเนลมและเมฆได้ มนุษย์ก็มีโชคและเคราะห์ได้ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน ตอนเริ่มออกเดินทางทุกคนยังดีใจกันอยู่ จะคาดเดาได้อย่างไรว่าเคราะห์ภัยจะมาถึงตัว ฉันอายุเพียง 32 ปี ก็ต้องจากโลกไป จะไม่ให้คนผมหงอกที่เป็นพ่อแม่ต้องปวคร้าวใจอาลัยอาวรณ์คนผมดำได้อย่างไร แต่ว่าฉันได้อุทิศตนเพื่อช่วยชีวิตคน ก็รู้สึกคุ้มค่าที่เกิดมาแล้ว พวกเราตายกันทั้งหมด 23 ชีวิต


    ( ชีวิตหลังความตาย )

    ภายหลังการตาย วิญญาณที่ได้หลุดจากกายเนื้อที่ถูกไฟเผา พวกเด็กๆ ในตอนนั้น ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นได้ตายแล้วพวกเขาได้เห็นร่างกายของตนเองถูกไฟเผา จึงรู้สึกตกใจกลัวแล้วก็ร้องไห้ หมดโอกาสที่จะกลับเข้าร่างได้อีกแล้ว อีกทั้งยังร้องเรียกหาพ่อหา แม่ เด็กๆ ร้องไห้อย่างน่าเวทนายิ่ง ฉันกับผู้ปกครองเด็กอีก 2 คน ซึ่งตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยศึกษาธรรมะเพราะฉะนั้นก็ยังอาลัยอาวรณ์อยู่กับกายเนื้ออยู่ จึงโศกเศร้าและหวาดกลัวต่อการตายในครั้งนี้

    ในขณะนั้นมีพนักงานดับเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการท้องที่ และหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ค่อยทยอยกันมาถึงที่เกิดเหตุ และยังมีประชาชนที่มามุงดูสภาพการตายที่น่าเวทนาจนรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่พวกเขาไม่ได้ยินเสียงเรียกของพวกเราเลย

    ในสถานที่เกิดเหตุ จะเห็นวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรละพวกยมทูต ซึ่งกำลังจะมาลากพวกเราไปเมืองนรก เมื่อตรวจผลบุญผลกรรมพวกเรา 23 ดวงวิญญาณ ต่างก็มีหนี้กรรม บ้างก็มีเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาช่วย ในเคราะห์ภัยครั้งหนึ่งต้องมีไครตายบ้าง ในชะตาชีวิตล้วนมีลิขิตไว้ แม้แต่เด็กๆก็เป็นเวไนยสัตว์ทีมีกรรม พวกเขาได้สั่งสมวิบากกรรมไว้ซึ่งรอคอยโอกาสที่จะมาตอบสนอง พูดขึ้นมาแล้วยังมีผู้ปกครองบางคนไม่ยอมรับในจุดนี้

    ตอนมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเหล่านี้นัก เมื่อตายแล้ววิญญาณไม่อยู่กับกาย หลุดออกจากกายเนื้อที่ขัดขวางจึงได้เห็นสภาพของโลกวิญญาณ

    ไฟที่ลุกท่วมอย่างรุนแรงและรวดเร็วครั้งนี้ ก็เกิดจากวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ ช่วยกระพือให้ไฟลุกไหม้เร็วขึ้น จึงทำให้พวกเราหนีไม่ พ้น ควันที่หนาทึบก็ทำให้คนที่อยู่นอกรถหมดโอกาสที่จะเข้าช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถได้ จึงทำให้พวกเราเสียชีวิตท่ามกลางทะเลเพลิง เอาชีวิตชดใช้หนี้กรรมไป


    ( พวกเขาได้เห็นอะไรกันบ้าง )

    ในขณะนั้น ก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมาช่วยเหลือ มีอยู่องค์หนึ่ง คือ พระพุทธจี้กง ขณะนั้นพวกเราที่ตายไป มีอาการประหวั่นพรั่นพรึงหมดที่พึ่ง กำลังหวาดกลัวบรรดายมฑูตและเจ้ากรรมนายเวร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านทรงเมตตาต่อพวกเรามาก ท่านได้พูดกับเหล่าเจ้ากรรมนายเวรนั้น ยมฑูตก็ได้นำพวกเราไปจากที่นั่น วิญญาณไม่ค่อยดีนักก็จะถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์นำจากไป

    แต่มีอยู่องค์หนึ่ง.... ที่เคยเห็นในจอทีวี คือ พระพุทธจี้กง ก็มาพูดกับฉันว่า ท่านรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าตนเองเป็นอย่างไร และก็ฟังไม่สู้เข้าใจในคำพูดของท่าน เหมือนกับว่าท่านพูดว่า ท่านไร้รูปลักษณ์แต่ชาวโลกคิดว่าท่านมีลักษณะอย่างนี้ ท่านจึงปรากฏให้เห็นในรูปลักษณะอย่างนั้น เพื่อให้พวกเราจะได้รู้ว่าท่านเป็นพระพุทธจี้กงอย่างที่ชาวโลก รู้จัก

    ท่านบอกว่า " ฉันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ " ท่านเห็นว่าในใจฉันห่วงใยถึงบ้านและเรื่องอื่นๆ ใจฉันกำลังว้าวุ่นกระวนกระวาย ฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดของท่านท่านเลยไม่พูดต่อ... ท่านเห็นว่าฉันมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ได้ชื่อว่าเป็นลูกที่ดี เป็นเพราะฐานะครอบครัวมีเศรษฐกิจไม่ดีนัก จึงอดทนทำงานมาจุนเจือครอบครัวอย่างจริงใจ จึงไม่ได้แต่งงาน

    ในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ฉันเป็นผู้กล้าหาญช่วยชีวิตคนท่านบอกว่า การที่ฉันได้มาสอนหนังสือเด็กอนุบาลนั้น เพราะมีกรรมสัมพันธ์กัน แล้วกาลเวลาแห่งกรรมร่วมมันได้ที่แล้วจึงได้รับเคราะพ์ภัยร่วมกัน โดยไม่แบ่งแยกอายุขัย

    แต่ละคน ชะตาชีวิตจะมีผ่านเคราะห์กรรม ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะผ่านพ้นเคราะห์ครั้งนี้ไปได้ แต่ฉันก็ยังมีอายุยืนยาวต่อไปได้อีกนิดหน่อย ด้วยเพราะฉันมีกุศลจิตช่วยเหลือเด็กๆจนเอาชีวิตไม่รอด ถึงแม้จะไม่พ้นเคราะห์กรรม แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านว่า...การอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือคน มีบุญกุศลมาก


    ( วิญญาณออกจากร่าง )

    ก่อนที่คนจะตาย ชั่วขณะจิตที่มีกุศลและอกุศลจับจิตอยู่นั้นสำคัญมาก พลังจิตจะสูงมาก วิญญาณจะสามารถผ่านทะลุขึ้นไปสู่สวรรค์ได้ ถ้าพลังจิตอ่อนแอ ก็จะถูกแรงกรรมดึงลงสู่นรก สู่การรับโทษ

    ท่านว่าสังคมที่เห็นแก่ประโยชน์เช่นปัจจุบันนี้ คนที่ยอมสละตนเพื่อผู้อื่นอย่างฉันนี้ ได้สร้างแรงสะท้อนอย่างใหญ่หลวงจนกระทั่งผู้มีแรงศรัทธาในวงสังคม ล้วนนำเอาเหตุการณ์ครั้งนี้มาเป็นหัวข้อ ในการรณรงค์กล่อมเกลามวลชน เพื่อเผยแพร่ความรักอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ชาติ

    ท่านพระพุทธจี้กงกล่าวว่า... การณ์ครั้งนี้ฉันทำได้อย่างดีเยี่ยม แต่เป็นเพราะยังไม่เคยรับวิถีธรรม วิญญาณจึงไม่ได้ออกทางญาณทวาร จึงยังต้องไปเวียนว่ายตายเกิดอีก

    โชคดีที่ขณะนี้ ทางโลกกำลังมีการโปรดเวไนยสัตว์ทั้ง 3 ภพอยู่ ท่านบอกฉันว่า วันหลังถ้าเบื้องบนอนุญาตให้โอกาสแก่ฉันได้ขอยืมกายมนุษย์เพื่อไปเกื้อหนุนกล่อมเกลา ช่วยเหลืองานธรรม มีบุญกุศลจากการช่วยเหลืองานธรรมแล้ว ก็จะมีโอกาสมาขอรับวิถีธรรมได้ ตอนนั้นฉันก็ยังไม่เข้าใจเรื่องการถ่ายทอดวิถีธรรม ฉันไม่เข้าใจคำพูดของท่านที่ว่า ให้ยืมกายเนื้อมาปรากฏได้ว่าคืออะไร

    ท่านยังบอกต่อไปว่า ฉันเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาที่ผ่านชีวิตไปชาติหนึ่ง เมื่อตายไปแล้วก็เป็นวิญญาณที่ดีไนยมโลกเท่านั้น เป็นเพราะการอุทิศชีวิตเพื่อคนอื่นในครั้งนี้มีผลกระทบไม่น้อยเลย ได้สร้างสรรค์ให้ผู้มีคุณธรรมเกิดความกล้าที่จะจรรโลงความดีงาม และให้ผู้รับผิดชอบหาทางป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมในอนาคตอีกด้วย

    ผลกระทบโดยตรงในครั้งนี้ มีผู้คนจำนวนมากได้สรรเสริญการกระทำครั้งนี้ของฉัน ทั้งยังต้องการเจริญรอยตามเพราะความดีงามเช่นนี้ จึงสามารถนำมาสั่งสอนกล่อมเกลาชาวโลกให้รู้จักการอุทิศเพื่อสังคม เพราะฉะนั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงลงมานำวิญญาณขึ้นสู่เทวภูมิ

    โดยเฉพาะมีอยู่ท่านหนึ่ง มีลักษณะเหมือนท่านกวนอูสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกว่าท่านคือ องค์เง็กเซียนฮ่อเต้ ท่านมีลักษณะสง่างามน่าเกรงขาม ท่านได้จดผลบุญผลกรรมของฉัน ท่านบอกว่า การตายครั้งนี้ของฉัน ตายอย่างมีคุณค่า สามารถเป็นวีรสตรีแห่งเทวภูมิได้ ท่านอนุญาติให้ฉันอยู่ในเทวภูมินี้ได้ 500 ปี แล้วรอหาโอกาสขอรับวิถีธรรมภายหลัง


    เมื่อฉันตายแล้วฉันจึงรู้ว่าโลกวิญญาณนี้อัศจรรย์นัก ขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่ พื้นฐานจิตจะดีหรือชั่ว ตนเองเท่านั้นที่รูแต่นี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั้งผี ทั้งเจ้า ต่างรู้หมด พุทธานุภาพไร้ขอบเขตเสียจริงๆ ท่านได้บันทึกควาดี-ความชั่วที่เราได้ก่อขึ้นอย่างชัดเจน เพื่อตอบแทนความดี-ความชั่วและเป็นเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิดของครั้งต่อไป

    ท่านได้มาชี้แนะฉันให้เข้าใจ แต่หลักธรรมอื่นๆ อีกมากฉันยังไม่เข้าใจนัก เพราะขณะที่ฉันมีชีวิตอยู่นั้นฉันเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่เหมือนท่านทรงคุณทั้งหลายในที่นี้ที่มีธรรมสัมพันธ์ดีอย่างนั้น ได้มีโอกาสมาศึกษาสัจธรรม ทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมาประทับทรงช่วยสั่งสอนชี้แนะอีกด้วย

    ฉันขณะมีชีวิต ก็สัมผัสแต่ธรรมเนียมโลก ผ่านชีวิตไปชาติหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้น หลักธรรมมากมายฉันจึงยังไมค่อยเข้าใจ สิ่งสักดิ์สิทธิ์ต้องการถ่ายทอดวิถีธรรม และให้โอกาสแก่วิญญาณฉันได้รับวิถีธรรมเร็วขึ้น จึงได้ช่วยร้องขอเบื้องบนให้โอกาสฉัน เบื้องบนก็เมตตามาก จึงอาศัยโอกาสประชุมธรรมในวันนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทานได้พาฉันมาปรากฏที่นี่ ทั้งยังแนะให้ฉันเล่าถึงจิตตนเอง และประสบการณ์ภายหลังการตาย เพื่อเน้นการยืนยันว่า คนตายแล้ววิญญาณไม่ได้ดับสูญ เพื่อบอกคนให้รู้ว่า อยากรู้เพียงชาตินี้ชาติเดียวเท่านั้น คนที่มีชีวิตอยู่ถ้าไม่ได้รับการฉุดช่วย ไม่ได้บาเพ็ญธรรม เมื่อตายไปแล้ววิญญาณก็จะถูกวิบากกรรมที่ทำไว้พาไปเวียนว่ายตายเกิดอีก


    ( ความจริงปรากฏ หลังความตาย )

    เมื่อฉันตายแล้ว วิญญาณฉันได้กลับไปเยี่ยมคนในบ้านพวกเราที่ตายไปทั้งที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ ได้มีผู้มาประกอบพิธีศพให้ ตามพิธีศาลนาที่มีการ เผากระดาษเงินกระดาษทองมีการสวดมนต์ครบ 7 วัน แล้วทำพิธีคำนับศพ จากนั้นก็นำป้ายวิญญาณไปไว้ที่วัดเพื่อกราบไหว้บูชา

    รู้ไหมว่าฉันอยู่ในเทวภูมิ ไม่ได้ใช้กระดาษเงินกระดาษทองหรอก พวกวิญญาณผีที่อยู่ในยมโลกก็ไม่อาจใช้กระดาษเงินกระดาษทองของทางโลกได้ เพียงแต่วิญญาณผีได้อาศัยไอของการเผากระดาษเงิน กระดาษทองมากล่อมเกลาไอของยมโลกเท่านั้น ตลอดจนการสวดมนต์ครบ 7 วัน พวกเราทางโลกก็สามารถได้รับบุญกุศลมากบ้าง น้อยบ้าง แต่บุญกุศลเหล่านี้พวกเราทางยมโลกได้รับบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีประโยชน์กว้างไกลถึงเวไนยสัตว์อื่นๆ

    ท่านได้บอกว่าคนที่อยู่ทางโลก ถ้านำเงินมาสร้างบุญกุศลในนามของผู้วายชนม์ แล้วอุทิศไปให้ โดยเฉพาะเงินที่ใช้ไปโปรดวิญญาณเหล่าเวไนยสัตว์ทั้ง 3 ภพ ให้หลุดพ้นจากการเกิดการดับแล้ว บุญกุศลที่ได้นั้นจะช่วยผู้วายชนม์ได้มาก

    ท่านยังได้อธิบายถึงการโปรดเวไนยสัตว์ 3 ภพ ว่าคืออย่างไร ? ท่านบอกฉันว่า ก่อนรับวิถีธรรมถ้ามีโอกาสมาช่วยงานธรรมแล้ว ก็สามารถที่จะมาฟังการบรรยายธรรมยังสถานธรรมได้ จะได้เข้าใจถึงการโปรดเวไนยสัตว์ 3 ภพ เป็นอย่างไรฉันรู้สึกซาบซึ่งในพระคุณของเบื้องบนมาก

    คนในโลกต้องการโปรดผู้วายชนม์นั้น เพราะรู้ว่า ดวงวิญญาณยังมีอยู่ และหวังให้วิญญาณผู้ตายไม่ต้องไปรับทุกข์ ท่านบอกว่าโลกมนุษย์คือ ทะเลทุกข์ ต้องหยุดการเกิด การตายเท่านั้นจึงจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร

    พวกเราไม่รู้ว่าเกิดมาแล้วกี่ชาติ ได้สังสมเวรกรรมมาแล้วไม่รู้สักเท่าไหร่ เราอาจได้รับเคราะห์ภัยได้ทุกขณะ ในชีวิตจะได้รับเคราะห์ภัยเมื่อไหร่ เราไม่มีโอกาสรู้ การตายจึงเป็นเคราะห์ใหญ่ของมนุษย์ แล้วเคราะห์อื่นๆ มากบ้างน้อยบ้างไม่รู้สักเท่าไหร่


    ตัวอย่างที่ฉันกับเด็กๆ และผู้ปกครองที่ประสบเคราะห์กรรมในคราวนี้ ถูกไฟไล่ต้อนไปที่ท้ายรถจนหมดทางหนีถูกไฟเผาทั้งเป็น คิดแล้วก็เหมือนชาวโลกที่กำลังฆ่าสัตว์ ไล่ต้อนสัตว์ไปจนมุมแล้วจับมัน ต้มน้ำเดือดๆ นำไปลวก บ้างก็ใช้ไฟเผา ทำให้พวกมันตายอย่างเจ็บปวดทรมาน ท่านบอกว่า ชาวโลกได้สร้างกรรมที่ไม่ดีไว้ จึงได้รับกรรมตอบสนองอย่างเช่น เกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บล้มตาย ภัยจากสงคราม ล้วนมีความสัมพันธ์จากกรรมที่ก่อไว้ในโลกทั้งลิ้น ยกเว้นแต่สามารถประกอบการกุศล ดำรงคุณธรรมเพี่อต้านกับแรงกรรม มิฉะนั้นแล้ว ก็กลับมาเป็นคนอีก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับทุกข์มากกว่าสุข ถ้าหากไม่ยากแสดงละครหมุนเวียนอีก ก็ต้องบำเพ็ญธรรม บำเพ็ญจริงเพื่อชำระเวรกรรมให้หมดวิญญาณต้องสะอาดหมดจดจึงสามารถหลุดพ้นได้

    เบื้องบนต้องการฉุดช่วยมนุษย์ให้พ้นจากเคราะห์ภัยจึงประทานมหาธรรมปกโปรด ฉันได้เห็นเหล่าวิญญาณในโลกวิญญาณมากมาย ทั้งผี ทั้งเจ้า ล้วนไม่ว่าง ฉันจึงถามท่านว่าทำไมพวกวิญญานจึงวุ่นกันนัก ท่านบอกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ฉันไม่รู้


    ( ปฏิบัติงานฟ้า มรรคผลยิ่งใหญ่ ช่วยเวไนย์กลับคีน )

    ตอนนี้กาลเวลากำลังเปลี่ยนแปลง เคราะห์ภัยมีมากมาย เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้า ผีทั้งหลาย กำลังช่วยงานธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังฉุดช่วยผู้มีบุญสัมพันธ์ พวกผีพวกเจ้าจำนวนมากที่กำลังช่วยงานธรรม ต้องการที่จะหลบเคราะห์ภัยเพื่อพ้นจากสภาพวิญญาณพเนจรที่น่าสมเพช !

    ฉันตายไปแล้วจึงได้เห็นเหล่าเวไนย์กำลังได้รับทุกข์ชาวโลกล้วนรู้ว่าชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งนัก ทั้งรู้ด้วยว่าการช่วยชีวิตคนนั้นร้อนรนมาก ท่านรู้ไหมว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยช่วยวิญญาณเหล่าเวไนยสัตว์ยิ่งร้อนรนกว่าเสียอีก กลัวว่าจะช่วยไม่ทัน เวไนยสัตว์จำนวนมากเมื่อพบกับเคราะห์ภัยแล้วจะกลายเป็นวิญญาณพเนจรไป

    ฉันได้ยินคำว่า "วิญญาณพเนจร" แล้วรู้สึกน่ากลัวมากฉันไม่อาจเข้าใจได้ถึงคำพูดของท่านว่าสภาพของมหาเคราะห์วินาศภัย แต่สิ่งที่ฉันได้เห็นหลังจากตายแล้ว ฉันเชื่อว่าสิ่งที่ท่านพูดจะเป็นความจริงยิ่งๆ ขึ้น ชาวโลกต่างก็รู้ดีว่าเคราะหภัยต่างๆ เช่น อุบัติเหตุทางเรือ ทางอากาศ ทางรถ นอกจากนี้ยังมีอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย และแผ่นดินไหว ปีหนึ่งเพิ่มขึ้นมากมายไม่รู้จักหมดลิ้น ขณะนี้ช่างเป็นวาระแห่งภัยพิบัตเสียจริงๆ


    ขณะฉันมีชีวิตอยู่ ฉันได้ใช้ร่างกายของฉันช่วยปกป้องเด็กๆ บนรถ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านกำลังช่วยเวไนยสัตว์ที่มีคุณธรรม พวกท่านได้ช่วยวิญญาณเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์พ้นภัยเมื่ยฉันเทียบกับท่านแล้วยังห่างไกลกันมากนัก ท่านเมตตาสละตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น จึงยิ่งใหญ่กว่าฉันมากมาย ฉันเพียงช่วยคนไม่กี่คน พวกท่านต่างช่วยเหล่าเวไนยสัตว์อย่างขะมักเขม้น

    การที่ชาตินี้ฉันได้สำแดงความรักช่วยผู้คน ฉันได้รับการยกย่องสรรเสริญ การกระทำของฉันได้รับการกล่าวขวัญแล้วเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ฉุดช่วยเวไนยสัตว์มาไม่รู้กี่ชาติ ไม่รู้ว่าได้ช่วยวิญญาณเหล่าเวไนยสัตว์มากสักเท่าไหร่แล้ว พวกท่านยิ่งใหญ่ต่อการฉุดช่วยโลกมาก ถึงแม้ว่ากาลสมัยของพวกท่านจะห่างไกลจากพวกเรามาก แต่ก็ยังคงได้รับการสดุดีและกราบไหว้บูชาจากชาวโลกมาโดยตลอด

    คุณความดีของท่านจารึกไว้ในโลกตลอดกาล เหนือกว่าฉันที่ได้รับการยกย่องในชาตินี้เพียงประเดี๋ยวเดียว ความรักอันยิ่งใหญ่ของท่านมากกว่าความรักของมนุษย์มากมายนัก


    ( ขอรับวิถีธรรมเป็นเรื่องยาก )

    ตอนนี้ฉันไม่มีกายเนื้อแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกว่าคนทีไม่มีกายเนื้อพอจะขอรับวิถีธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ความสำคัญของมหาธรรมก็อยู่ที่ว่า วิญญาณไม่มีกายเนื้อซึ่งจะต้องไปเวียนว่ายตายเกิด แล้วยังสามารถได้รับโอกาสให้รับวิถีธรรมได้ พระคุณฟ้ายิ่งใหญ่นัก เสียดายที่ขณะมีชีวิตไม่เคยบำเพ็ญ เมื่อตายไปแล้ว จะอาศัยคนอื่นสวดมนต์ไปให้ ยังไม่พอที่จะหลุดพ้น

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกว่า เชิญคนมาสวดมนต์ให้กับผู้วายชนม์นั้น รู้ไหมว่าผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือ คนสวด ผู้ตายขณะที่มีชีวิตยังหลงอยู่ บำเพ็ญไม่พอ คนอื่นสวดมนต์ช่วยเขาก็มีจำกัด แต่ละคนที่สั่งสมเวรกรรมมาถ้าไม่ได้อาศัยตนเองบำเพ็ญแล้วก็ยังต้องจมปลักอยู่ในความหลงงมงายอยู่นั่นเอง

    เพราะฉะนั้น เป็นคนขณะมีกายเนื้อ ถ้าได้รับวิถีธรรมแล้วบำเพ็ญจริงตามหลักธรรม ดีที่สุด ครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาจากเบื้องบน ก่อนตายเวไนยสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวิถีธรรมหากเป็นคนดีก็ยังมีโอกาสให้วิญญาณได้รับวิถีธรรมเพื่อพ้นทุกข์วันนี้ฉันได้โอกาสมาปรากฏท่ามกลางประชุมธรรมนี้เพื่อพูดให้กระจ่างทั้งหมด ก็เพื่อที่วิญญาณฉันได้รับวิถีธรรมจะได้หลุดพ้นฟ้าเบื้องบนยังอนุญาตให้ฉันได้ทำงานช่วยงานธรรมอีกระยะหนึ่ง คนทั่วไปมักปลงไม่ตกในสายสัมพันธ์กับสิ่งธรรมดาโลกทั้งหลาย หวังว่าพวกท่านจะสามารถมองเห็นโลกมนุษย์ว่าเป็นภาพมายา อย่าได้อาลัยอาวรณ์ รีบๆ มาบำเพ็ญให้หลุดพ้นความทุกข์จากโลก คุณค่าของชีวิตอยู่ที่ประโยชน์ของสังคม ให้เหมือนดั่งเทียนไขที่เผาตัวเองเพื่อให้ความสว่างแก่ผู้อื่น

    ทุกคนควรแสดงสปิริตของการอุทิศ คนที่ยังมีชีวิตควรมีไจเมตตาธรรม รับภาระในการฉุดช่วยคน ให้ความสำคัญกับงานศักดิ์สิทธิ์กว่างานอื่นๆ เอาพลังสังคมมาช่วยงานธรรม เชื่อแน่ว่าจะสามารถช่วยให้มหาธรรมแผ่ขยายได้รวดเร็ว



    ฉันเมื่อมีชีวิตอยู่เป็นอาจารย์คนหนึ่ง แต่มีความกล้าหาญอุทิศตนเพื่อช่วยชีวิตคน เมื่อตายแล้วได้เป็นอาจารยตัวอย่าง ที่จริงแล้วฉันไม่กล้ารับเกียรติอันนี้หรอก เพราะฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉันควรทำ สปิริตในการอุทิศตนของเทพพุทธะอริยเจ้าทั้งหลายที่สังสอนกล่อมเกลาผู้คนนั้นสิ จึงเป็นสิ่งที่ชาวโลกพึงเจริญรอยตาม

    คิดถึงตอนที่เกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ เพราะทนต่อการร้องโหยหวนของเด็กๆ ไม่ไหว จึงฝ่าเปลวเพลิงกลับเข้าไปช่วยอีกเหมือนกับแม่ที่จะช่วยเหลือลูกที่กำลังตกอยู่ในอันตราย จึงทำให้ลืมนึกถึงตนเองว่าจะมีชีวิตรอดออกมาหรือไม่

    ดูอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้พ้นจากทุกข์แล้ว ก็ยังเข้าสู่ทะเลทุกข์เพื่อฉุดช่วยเหล่าเวไนย์อีก ชาวโลกต่างก็รู้ดีว่าต้องรักและปกป้องบุตรของตน แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกว่าพระเจ้าสูงสุดของเราคือ องค์ธรรมมารดา ท่านเป็นห่วงเป็นใยพวกเราซึ่งเป็นเวไนย์ที่มีมูลกำเนิดเป็นพุทธบุตร หวังให้ทุกคนนั้นสามารถกลับคืนสู่เบื้องบนอย่างปลอดภัย พวกเราต้องเอาความรักที่มีต่อลูกมาคิดคำนังถึงธรรมญาณแห่ง องค์ธรรมมารดา ที่มีใจรักพุทธบุตรบ้าง รีบๆสละแรงเพื่อฉุดช่วยคน

    ปัจจุบันคนจำนวนมากได้รับภัยพิบัติไม่ได้ตายดี ไม่มีปัญญาก็หลบไม่พ้นเคราะห์ภัย ชีวิตคนบอบบางนัก เกรงว่าเมื่อเคราะห์ภัยใหญ่มาถึง คนที่ไม่ได้บำเพ็ญ คงยากจะช่วยเหลือ

    เพราะฉะนั้น จึงหวังให้ชาวโลกรับๆ มาบำเพ็ญธรรมโปรดคน ยังจะได้หลบพ้นเคราะห์ภัยด้วย คนที่เป็นอาจารย์....ควรที่จะสั่งสอนเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้ฝึกหัดอย่างอริยเจ้า และดำรงคุณธรรม มีอุดมการณ์เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม อย่าเพียงแต่ให้ลูกศิษย์สนใจแต่การแสวงหาความเจริญแต่ทางโลกเท่านั้น ฉันมีสปิริตอุทิศตนชั่วประเดี๋ยวเดียวก็ยังได้ชื่อจารึกไว้ในแผ่นดิน


    วีรสตรีผู้กล้าแห่งเทวภูมิ....หลินจิ้งเจวียน​



    ขอบคุณที่มาค่ะ
    http://thai.mindcyber.com/modules.ph...id=277&page=18 <!-- / message --><!-- sig -->​
     
  2. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ท่าน หลินจิ้งเจวียน
    ท่านทำดี ทำชอบแล้ว
    สาธุ สาธุ ขอบุญที่ผมมีได้แด่วิญญาณ ดวงจิตท่านด้วยครับ
     
  3. poozaa

    poozaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +1,071
    มีประโยชน์มากจริงๆ อนุโมทนาบุญนะคะ
    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
     
  4. Sun smile

    Sun smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +366
    จิตที่ตั้งมั่นดีแล้ว ย่อมนำพาไปสู่ที่สุขติ
    ขอโมทนาสาธุการ
     
  5. Sun smile

    Sun smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +366
    จิตที่ตั้งมั่นดีแล้ว ย่อมนำพาไปสู่ที่สุขติ
    ขอโมทนาสาธุการ
     
  6. jeenus

    jeenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,513
    ค่าพลัง:
    +3,576
    อนุโมธนา คับ
     
  7. Omjai_N

    Omjai_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +174
    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ยิ่งได้รู้อย่างนี้ หลายๆ คนคงอยากที่จะปฏิบัติกันมากขึ้น เพราะตัวเราเองก็รู้สึกเช่นนั้น สาธุ
     
  8. chanitnant

    chanitnant Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +85
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ได้รับทราบกรรมดีมากมายจริงๆ ทำให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิตขึ้นอีกเยอะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
     
  9. yanaphat

    yanaphat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +3
  10. พระจิตวิณญาณ

    พระจิตวิณญาณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +82
    ขอบคุณสำหรับ ธรรมมะที่มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
     
  11. ฟลัฟฟี้

    ฟลัฟฟี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดี ๆค่ะ เป็นข้อเตือนใจในการปฏิบัติขณะมีชีวิตอยู่ได้อย่างดียิ่งค่ะ สาธุ อนุโมทนาค่ะ
     
  12. humanbeing

    humanbeing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +214
    อนุโมทนาค่ะ แต่จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้แล้วนะคะ ไม่ทราบตอนนั้นใครเอามาลง
     
  13. ขันติธรรม

    ขันติธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +372
    อนุโมทนา สาธุ
    ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำไว้ดีแล้ว โปรดดลบันดาลให้ วีรสตรีผู้กล้าแห่งเทวภูมิ
    หลินจิ้งเจวียน พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เข้าถึงซึ่งนิพพานด้วยเทอญ
     
  14. รักจันทร์

    รักจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +311
    อนุโมทนาบุญทั้งเจ้าของกระทู้
    และคุณครูวีรสตรีผู้กล้าแห่งเทวภูมิครับ

    สาธุ... สาธุ... สาธุ...
     
  15. เสวกะ

    เสวกะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +53
    สาธุ เป็นเรื่องดีจริงๆ อยากให้คนทั้งโลกได้มาเห็นความสำคัญตรงจุดนี้จัง ในท่ามกลางยุคสมัยที่ผู้คน ต่างดิ้นรนไปในสิ่งที่มีแต่ทุกข์เช่นนี้
     
  16. kean2442

    kean2442 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +16
    ทำดีย่อมได้ดี
     
  17. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เยี่ยมค่ะ ซึ้งมาก จิตใจกล้าหาญ เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ ขอให้เป็นสุข เจริญในธรรม
    สมดังตั้งใจ ขออนุโมทนา สาธุกับจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการให้ สาธุ
    ;aa8
     

แชร์หน้านี้

Loading...