เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

วันแรก2 กพ.52 ที่เมืองทองคงยังทำเม็ดมะรุมไม่ทัน ขอเป็นวันที่3นะไปชิมกัน

อบไม่ทันเด้อ

 

(^_^)วันนี้ไปที่บู๊ทมาแล้วครับ พี่น้อง
ถึงกับเหงื่อออกเลยเรา

ขอบคุณนะครับ

 

เยี่ยมกองถ่ายทำภาพยนต์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร"

วันนี้ว่างครับ เลยไปเยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนต์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" มาครับ

 

ก่อนที่เราจะเข้าไป ต้องทำการเซ่นไหว้เจ้าที่ก่อนครับ


นี่แหละครับ "คนเลี้ยงช้าง" ตัวจริง

 

สถานที่แรกที่จะพาไปรู้จักคือ "วัดพระมหาเถรคันฉ่อง"

ถ้าใครได้ดูในภาค 1และ 2 มาแล้วคงพอคุ้นตากับภาพนี้ดีนะครับ

 

ภายในกุฏิของพระมหาเถรคันฉ่องครับ

 

ถัดจากวัดพระมหาเถรคันฉ่อง ผมจะนำทุกคน(กลับ) ไปเหยียบแผ่นดินหงสากันครับ

 

มือใหม่หัดถ่ายภาพ panorama ครับ ให้เห็นมุมกว้าง ๆ ครับสำหรับกำแพงเมืองหงสา


ทางเข้าครับ

 

ก่อนจะเข้าประตูเมืองบังเอิญผมดันเจอ "นายทองเหม็น" เข้าครับ

 

หลังจากเหยียบแผ่นดินหงสาแล้ว ส่ิงแรกที่สะดุุดตาก็คือ สิงต์โตคู่ นี้ครับ

 

เบื้องหลังผมคือ ''สีหสาสนบังลังก์" หรือ บังลังก์ของพระเจ้าบุเรงนอง นั่นเองครับ โดยพื้นที่ข้างในกำแพงเมืองส่วนใหญ่จะถ่ายในภาคที่ 1 ครับ ฉากสำคัญ ๆ เช่น ฉากชนไก่,ฉากตัดสินประหาร ฟ้าเสือต้าน เจ้าฟ้าเมืองคัง

 

ภายใน สีหสาสนบังลังก์ครับ

 

คุกใต้ดินเมืองหงสา ที่พระราชมนู เข้าไปช่วย นางเลอขิ่น เจ้าหญิงแห่งเมืองคัง


เลอขิ่นทำไม อ้วนจังหว่า

 

สุดท้ายครับ พระที่นั่งสรรเพ็ชรปราสาท เป็นพระที่นั่งที่พระมหากษัตริย์ไทยในสมัยอยุธยาออกว่าราชการครับ และจะมีห้องข้างหลังสำหรับฝ่ายในครับ ปัจจุบันเราไม่มีโอกาสได้สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการ ของพระที่นั่งองค์นี้ เนื่องจากถูกพม่าเผาตอนเสียกรุงครับ






หมดดแล้วคร๊าบ คุยเรื่องการเมืองมาก ๆ เดี๋ยวปวดหัวแย่เลย คราวหน้าจะนำรูปสวย ๆ มาฝากอีกคร๊าบ

 

ขอขอบคุณ "คุณชยา มารุติ " ที่ นำภาพ สถานที่ประวัติศาสตร์ (ที่ทำใหม่ ย้อนหลัง) มาให้ พวกเราได้ ชม..เพื่อให้เข้าใจเรื่อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช..มาให้คนรุ่นหลังได้ ชมกัน...จากจิตเปรียบเทียบ..เหมือน ของจริง ในอดีต 42 %

 

ใครที่ไม่เคยเข้าใจ คำว่า "มือถือสาก ปาก ถือศีล."
มีตัวอย่าง เข้ามาแล้ว..ไม่รู้ใคร เข้ามาสอน หลักธรรมอย่างสวยงาม
สมาชิก ก็อ่านเพลิน..สาธุ อนุโมทนา กันเพียบ
...............................................................
แต่พอ ส่งสาวพันปี แก่หง่อม มาให้...บอกว่า ไม่เอา..จะเอาสาว พริตตี้
คนส่ง เขา ปราถนาดี..เพื่อมาสอน ธรรม เรื่อง สังขารไม่เที่ยง
สาวพริตตี้ คนสวย ที่เต้นเร่าๆๆ...อีก 50 ปี ก็คงไม่ต่าง กับ ป้า สอง จุ๊บ คนนั้น
...................................................................
คุณ เม้าท์..คนมีธรรม ใส่แว่นตา..เลยมีสี่ตา
มองเห็นใหม ว่า ใคร.."ถือ สาก ปาก ถือ ศีล.." คนที่ ว่า
เออ..ไม่บอก ก็ได้..เดี๋ยวเขาก็กินปูน ร้อนท้องเอง
...................................................................

 

เรื่องเล่าก่อนนอน คืนนี้ ของ ตาที่สาม เรื่อง ที่ ยี่สิบสอง
มิติมหัศจรรย์
...................................................................
พอพูดถึง คำว่า มิติ
ทางวิทยาศาสตร์ สมัยใหม่ เขาจะหมายถึง กว้าง / ยาว / ลึก
ต่อมา คนฉลาดขึ้น ก็เพิ่ม มิติ แห่งเวลา..เข้าไป
เพราะ เมื่อ มีเวลา คนเราจึงต้องแก่ และ ตาย
...................................................................
และในปัจจุบัน..คนฉลาดขึ้นอีก..จึงเพิ่มมาอีก หนึ่งมิติ คือ พลัง จิต
เป็นมิติ พิเศษ ที่เกี่วข้องกับ การมีจิตรู้ การมีตาทิพย์ การมีหูทิพย์ ฯลฯ
เป็นมิติ ที่ไม่มีระยะทาง กว้าง ยาว หรือ เวลา
เพราะ มอง ไปไกล ดู อนาคตได้ / ย้อนเวลากลับไป ดู อดีตได้
นึกว่า จะไป ดาวเสาร์..แค่ 1 วินาที ก็ไปได้ แล้ว..ด้วยจิต
.......................................................................
ที่กล่าวมาทั้งหมด ข้างบน..คือ ความเข้าใจมิติ ในรูปแบบ หนึ่ง
แต่สำหรับ นักพลัง จิต แล้ว
เขาเห็น อีกมิติ ที่แตก ต่าง และมหัศจรรย์กว่า
..เรียกว่า " มิติ แห่งคู่ขนาน ""
....................................................................

 

"มิติ แห่งคู่ขนาน" ..เป็นอย่างไร
ถ้า อ่านตามตัวอักษร อาจจะเข้าใจยาก
จึงจะขอ อธิบายง่ายๆๆ..โดยขอให้ คิด ตามไปเรื่อยๆๆ
ก็จะเข้าใจ ได้ ง่ายมากๆๆ
............................................................
สมมุติว่า เช้า วันอาทิตย์ สุดสัปดาห์..วันว่างๆๆสบายๆๆ
เราตื่นแต่เช้า..ก็ออกมายืน ที่ ระเบียง ชั้นบน.เทอเรส ด้านหน้า บ้าน
เราจะเห็น สนามหญ้า ที่ ตัดเรียบ
เราจะเห็น แนวกระถางดอกไม้หลากสี..ตามแนวรั้ว
มีผีเสื้อ สวยงาม โบยบิน.โผไป โผมา..ปนๆๆไป กับ ผึ้งน้อย
เป็นโลก แห่งธรรม ชาติ ที่ คนปกติ..จะพอใจที่ได้ เห็น
..................................................................
ตอนบ่าย..เรานัด ครอบ ครัว พาลูกๆๆไปเที่ยวทะเล
เส้นทางสู่บางแสน..เราจะผ่าน ถนน บ้านเรือน ร้าน ค้า ผ่านสะพาน
เห็นวิถี การดำเนินชีวิต ของ ผู้คน ที่ หลากหลาย เพื่อ ความอยู่รอด
ตลอด สอง ข้างทาง
.........................................................................
เมื่อ ไป ถึง บางแสน เราก็ จะเห็น ทะเล..ที่ มีน้ำสีคราม กว้างไกล
ลมทะเล พัด เอื่ยๆๆ สะบายตัว หายใจได้ แน่น
เพราะ มีออกซิเจนกับ โอโซนมากกว่า ปกติ
พอกลับบ้าน..ก็จะได้ ความประทับใจไป อีก แบบหนึ่ง
และจะประทับใจอย่างยิ่ง สำหรับ สมาชิกในครอบ ครัว
ที่ได้ เห็น ทะเล เป็น ครั้งแรก ในชีวิต
..........................................................
อาทิตย์หน้า.จะไป เชียงใหม่
จะพบว่า เส้นทางไกล กว่า ไป บางแสน มาก
จากกทม ไป บางแสน..ประมาณ 1 ชั่วโมง
ไป เชียงใหม่..มากกว่า 10 ชั่วโมง
สอง อย่างนี้ ก็ จะรู้สึกว่า แผ่นดิน
ของ ประเทศไทย ช่างกว้างไกล นัก
..........................................................................