" นิมิต นาคา " ความผัน..หรือสัมผัสอัศจรรย์?

ก็ดีนะ

ฝันว่าพญานาคมาเยือนเรือนตน น่าจะเป็นเรื่องดี ว่าแต่ว่าอยากจะบูชาท่านไว้บ้างไหมล่ะ ?
นี่ก็เอามาจากกระทู้ พญานาคในแม่น้ำเจ้าพระยา ของคุณ The Third Eyes เค้า ว่าด้วยการบูชาพญานาค
สำหรับคนที่ฝันว่ามีพญานาคมาเดิน ( เลื้อย ) อยู่ในบ้านนะ ให้หารูปปั้นพญานาคขนาดเล็ก หรือตามแต่เห็นสมควร
หาอ่างดินเผาหรืออ่างเซรามิคก็ได้ ใส่หินกรวดสีขาว มีขายตามร้านจัดตู้ปลา ใส่น้ำไว้สักครึ่งตัวของพญานาค
ถึงวันพระก็ซื้อมะพร้าวอ่อน เจาะเอาน้ำมะพร้าวใส่ชาม เอาตัวพญานาคลงแช่ ให้เค้าได้กินน้ำมะพร้าวอ่อน
ต้นมะพร้าวมันสูง กว่าจะได้เป็นน้ำมะพร้าวก็ต้องผ่านการกรองอยู่หลายชั้น จึงถือว่าเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด
ถ้าทำได้ตามนี้ บ้านนั้นก็เจริญ เพราะนาคเป็นผู้ที่ถูกสวรรค์กำหนดมา ให้รักษาวัดวาอาราม และบ้านผู้มีบุญต่อพระศาสนา

นี่ก็ว่าตามที่คุณเจ้าของกระทู้เค้าว่ามานะ พรเองก็อยากจะมีแบบนี้บ้าง แต่คิดดูแล้วเราก็ยังไม่สะดวกอยู่หลายประการ
เอาที่เห็นๆก็คือ ถ้าลูกมาเห็นรูปปั้นพญานาคที่แช่น้ำอยู่ เค้าต้องเอาไปเล่นแน่ๆเลย นั่นอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
ลูกของพรยังเล็กนัก เล่นอะไรได้ไม่นานก็พัง อืมม์ คืนนึงลูกไม่สบาย ไข้ขึ้นสูงจนเพ้อ ร้อง งู งู !? แล้วดิ้นพรวด ร้องไห้จ้า
พอถามเค้าก็บอกว่ามีงูตัวใหญ่เลื้อยขึ้นมาบนที่นอน ซึ่งเราพ่อแม่ลูกนอนด้วยกัน อืม! หรือลูกจะฝันเห็นงูที่ตามพรมานะ ?
ก็ได้แต่พูดในใจ ลูกของพรกำลังไม่สบาย ไม่ว่าใครก็ตามที่มาเยี่ยมมาเยือน อย่าแกล้งหยอกเล่นกับลูกของพรเลยนะ
เด็กๆมักจะยังขวัญอ่อน ดวงตาของเค้ายังใส จิตใจยังบริสุทธิ์ บางทีเค้าก็เห็นอะไร...แปลกๆ แล้วนำมาเล่าให้เราฟัง
ฟังแล้วก็ได้แต่แอบขนลุก ^^'' และทุกครั้งที่เค้าเห็นอะไร อย่างที่ผู้ใหญ่เราไม่เห็น เค้าก็จะเจ็บไข้ได้ป่วยทุกครั้งไปสิน่า

 

ท่านปู่

เมื่อคืนฝันเห็นปู่ภุชงค์ อันที่จริงเวลาพญานาคท่านอยู่ในร่างนาคราช รูปกายภายนอกท่านก็จะเหมือนๆกันไปหมด
ประเภทพิมพ์นิยม ถ้ามาอยู่รวมกันแล้วก็จะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ยกเว้นท่านจะอยากให้เรารู้
ฝันเห็นท่านแว๊บๆ ไม่ได้คุยกัน ใจบอกว่าท่านนี้คือปู่ภุชงค์นาคราชนะ แล้วก็ผ่านเลยไป
ก็อย่างที่บอก ถ้าพญานาคท่านนั้นเป็นนาคชั้นผู้ใหญ่แล้ว ( มีอาวุโสมาก ) ท่านก็จะมองดูอยู่ห่างๆ
ถ้าท่านไม่มีธุระกับเรา ท่านก็จะไม่เข้ามายุ่งด้วย ว่าแต่ว่าทำไมจู่ๆถึงได้ฝันถึงท่านได้นะ ?
หรือพรุ่งนี้ก็เป็นวันลอยกระทงแล้ว ท่านเลยอยากจะเตือนให้คนระวังเรื่องภัยทางน้ำหรือไร ? นี่ก็เดาเอานะ

 

เหมือนนู๋เลยแหะ แต่นู๋ฝันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วง่าส์

ในฝันนู๋นอนตัวแข็งทื่อเลย ตื่นมายังหยึ๋ย ๆ ที่แขน

 

พูดถึงปู่ภุชงค์นาคาราช พอดีมีรูปปั้นท่านอยู่ที่บ้านหน้าตักประมาณ 9 นิ้ว ออกพรรษา เพิ่งอุ้มท่านไปถวายพระที่วัดป่าฯ ที่ถวายท่านก็มีเหตุนะครับ เพราะท่านมีส่วนเกี่ยวพันกันเลยถวายท่านครับ ท่านยังมีมณีนาคาราชของปู่ภุชงค์ด้วยครับ และยังมีมณีฯของท่านอื่นๆอีก ไม่ขอกล่าวแล้วกัน เท่าที่รู้มาปู่ภุชงค์ฯเป็นเจ้าผู้ปกครองนครปาตาล ชั้น 5

 

อ้อมกอด...

แหม ^^ ฝันว่าโดนงูเลื้อยผ่านเนื้อตัวไปก็กลัวกันซะแล้ว แล้วถ้าฝันว่าโดนงูรัด น้องๆจะตกใจมากซักขนาดไหน !?
สำหรับพรที่ฝันถึงงู ฝันถึงนาคบ่อยๆแล้ว ก็ดูว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ฝันเห็นสิ จึงให้ความรู้สึกว่าคิดถึงจังเลย

ช่วงนึงฝันว่าโดนนาค หรืองูใหญ่รัดเอาบ่อยๆ ทั้งๆที่แต่งงานแล้ว จึงไม่น่าที่จะแปลว่าได้พบเนื้อคู่ได้อีก
ครั้งนึงนอกจากจะฝันว่าโดนงูใหญ่กอดรัดแล้ว เราก็ยังกอดเค้าด้วยอีกตะหาก !?
เป็นงูใหญ่สีขาว...ท่านเดียวกันหรือเปล่านะ ? พอรู้ตัวก็โดนงูรัดซะแล้ว รัดจากเท้ามาถึงปั้นเอว เหมือนงูรัดเหยื่อ
แต่ก็ไม่ได้รัดแน่นจนรู้สึกอึดอัดอะไร พอรัดเสร็จท่านก็จ้องมองเรา มีแววหัวเราะๆในดวงตาคู่นั้น
เหมือนกับจะหยั่งว่า พอเราฝันว่าโดนงูรัดแล้ว เราจะตกใจมั้ย ? พรไม่ได้รู้สึกกลัวท่านเลย
ในอ้อมกอดนั้น เรารับรู้ได้ถึงความรัก มีความเมตตาและอบอุ่น อ่อนโยน เป็นกระแสความรู้สึกที่เขาส่งมาให้
พรรู้สึกดีกับท่านมากๆเลย พรก็เลยกอดตอบท่านบ้าง ท่านตัวใหญ่เสียจนเต็มอ้อมแขนของพร ท่านก็พอใจ...
เราโอบกอดกัน แบ่งปันภาษารักทางกาย ถ่ายทอดความรู้สึก มีความรัก ความเมตตา เป็นภาษารักที่อบอุ่นอ่อนโยน
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ห้ามคิดลึก !? ( หรือคนอ่านไม่คิด แต่เราคิดแทนซะเองหว่า !? 555 [Embarrass
ว่าแต่ว่าพรกอดใครกัน !? ท่านไม่ได้บอกชื่อของท่านให้พรรู้ เพราะท่านเข้าใจว่าพรรู้อยู่แล้ว !? )

 

ลูกงู !?

เย็นวันนึง ขณะที่นำจานชามออกไปหลังบ้านเพื่อจะได้ล้าง ก็มองเห็นอะไรสีเขียวแว๊บๆที่หางตา
รู้สึกว่าจะเป็นงู งูอะไรสีเขียวหว่า ? มันเลื้อยไปซุกอยู่ตรงข้างโอ่งน้ำ ตรงนั้นมีของเหลือใช้วางเอาไว้รกๆอยู่
พอจะยื่นมือไปหยิบเอาของเหล่านั้นออกเพื่อจะดูงูให้ชัดๆ ใจก็ร้องบอกว่า อันตราย อย่าเอามือเปล่าๆไปใกล้เชียว
มองหากิ่งไม้ ได้ไม้เล็กๆอันนึงเอามาเขี่ยออก พอที่ซ่อนถูกยกออก เจ้าตัวที่ซ่อนอยู่ก็แผ่แม่เบี้ยส่งเสียงขู่ฟ่อๆ
555 เจ้างูบ้า !? ตัวเล็กแค่นี้ทำเป็นขู่ไปได้ มันเป็นลูกงูเห่าที่มีสีเขียวตองอ่อน ตัวเล็กเท่านิ้วก้อย
งูเห่ามีสีเขียวด้วยเหรอ ? พรนึกว่าจะมีแค่สีน้ำตาลกับสีดำซะอีก คงจะเป็นงูสายพันธุ์ท้องถิ่นทางภาคอีสาน จึงมีสีเขียว
ทำไมถึงมีงูเห่าโผล่มากลางหมู่บ้านนะ ? ป่าละเมาะชายทุ่งก็อยู่ไกลออกไป ป่าไผ่ริมห้วยก็ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านพร
พรไม่ได้กลัวงู แต่พรเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในบ้าน กลัวมันจะแอบเลื้อยเข้าบ้านน่ะสิ
ก็เลยใช้ไม้นั่นแหละเขี่ยเบาๆ ไล่ให้มันออกไปจากบริเวณบ้าน ใจก็แผ่เมตตาไปด้วย อย่ามาอยู่แถวนี้เลยนะ
ถ้ามีใครมาเจอเข้า เจ้าจะถูกฆ่าเอาง่ายๆ จงกลับไปอยู่ยังป่า อยู่ในที่ๆเจ้าควรจะอยู่ อย่าเข้ามาในหมู่บ้านอีกเลย
ลูกงูยังแผ่แม่เบี้ยและส่งเสียงขู่ แต่เมื่อโดนไม้ช้อนตัว เขี่ยออกจากที่ซ่อนก็รู้ตัวว่าที่ซ่อนไม่ปลอดภัย
มันจึงยอมเลื้อยออกไปจากบริเวณหลังบ้านของพร หวังว่าพรคงไม่ได้คิดผิดที่ได้ไว้ชีวิตมันหรอกนะ
คนเราน่ะ ถ้าไม่ถึงที่ตาย ก็ไม่ใช่ว่าจะตายกันได้ง่ายๆหรอกนะ น้อยคนนักที่มีชะตาที่จะต้องตายด้วยพิษงู
ในหมู่บ้านที่พรอยู่ หรือหมู่บ้านใกล้เคียง ไม่เคยมีใครตายเพราะถูกงูพิษฉกกัดเลยสักคน ไม่มีข่าวว่าใครโดนงูกัด
อีกอย่าง พรก็รู้สึกพิลึกๆพิกล กลัวว่าเจ้าตัวนี้จะเป็นอะไรสักอย่างปลอมแปลงมา ถ้าไปทำร้ายหรือฆ่าเขาเข้า...อืม !?

 

เมื่อคืนก่อนก็ฝันแปลก ฝันว่าเราสั่งงูได้ งูตัวเล็กหลายตัวเลย แต่ละตัวมีสีหลายสีออกส้มๆทองๆ ในฝันเราไม่กลัวงูเลย เหมือนเล่นกัน แล้วพวกงูก็เชื่อฟังคำสั่งดี รู้สึกสนุกมาก
ปล ถึงคุณพรหมพร เรื่องแปลกที่จะเคยเล่าให้ฟัง ท้อใจ ที่จะส่งแล้ว เลยคิดว่าไม่เล่าดีกว่า

 

ใครคนนึง...

มีอยู่ 2-3 ครั้งที่ฝันเห็นการแข่งเรือ และมีพญานาคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นฝันซ้ำๆกันเหมือนดูหนังเรื่องเก่า
ฝันเห็นการแข่งเรือ คล้ายแข่งเรือยาวประเพณี มีคนมาดูกันล้นหลาม ตอนที่เรือ 2 ลำกำลังแข่งด้วยความเร็วอยู่นั้น
มีพญานาคตนนึงโผล่มาข้างๆลำเรือ และดูเหมือนจะร่วมในการแข่งเรือด้วย คือว่ายแข่งกับเรือเหล่านั้น
แต่ในฝันก็ไม่มีใครมองเห็นพญานาคสักคน ยังคงเชียร์เรือกันอย่างสนุกสนาน เราเห็นของเราอยู่คนเดียว
พญานาคมองเห็นเราเป็นหลักชัยรึไงไม่รู้ จึงว่ายมาทางเรา แล้วพญานาคอีกตนนึงก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ว่ายแข่งกัน
พอว่ายทันเท่านั้นแหละ พญานาคตนที่มาทีหลัง ซึ่งมีร่างกายใหญ่โตกว่า งดงามกว่า ก็ฉกกัดพญานาคตนแรก
ดูเป็นการโรมรันพันตู สู้กันดุเดือด แล้วพญานาคตนแรกก็พ่ายแพ้ มุดลงน้ำไปตามเดิม ส่วนพญานาคตนนั้นก็ว่ายน้ำตรงมา
ก่อนที่พรจะทันได้คิดอะไร พญานาคตนนั้นก็เข้ามา งับ คาบเอาพรติดปากไปด้วย พาลงสู่แม่น้ำ
ตอนที่โดนงับนี่แหละที่สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ จินตนาการถึงปากอันใหญ่โตที่อ้ากว้างและงับลงมาโดยเร็วเถอะ ^^''

ถ้าจะให้เดาความหมายของความฝันก็คือ แข่งเรือแข่งพาย ยังแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนา มันแข่งกันไม่ได้หรอก
( คิดแล้วก็งงซะเอง ตอนนั้นเรากำลังแข่งอะไรกับใครอยู่หรือเปล่านะ ? แบบว่าแอบแข่งในใจมั้ง ? แข่งกันทำความดี )
ส่วนอีกเรื่องก็คือ ในวันนึงข้างหน้า เราอาจจะพบใครสักคน คนที่เป็นคู่แท้ของพร แต่เค้ามาช้าไป เวลาไม่เอื้อซะแล้ว
การได้พบใครสักคน และมีความรู้สึกรักใครผูกพันกัน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะตัดใจนะ คงเหมือนเชือดเฉือนหัวใจตัวเอง

แต่พรก็ปลงซะแล้วในเรื่องคู่ครอง มันเป็นเรื่องของคู่เวรคู่กรรมกันโดยแท้ ใครมีบุญวาสนาได้พบกับคู่แท้และได้ครองคู่กัน
คงจะมีความสุขมากอย่างแน่นอน ความรักที่ล้นเปี่ยม ออกมาจากจิตวิญญาณ แต่ก็มีโอกาสเป็นแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้น

ดวงของพร เมื่อดูจากตัวเลข 7 ตัว หรือเค้าเรียกยังไงก็ไม่ได้จำ ด้วยวันเดือนปีเกิดนี้ เป็นดวงหญิงหม้าย
เรียกว่าถ้าไม่เป็นกำพร้าตั่งแต่ยังเล็ก ก็จะเป็นหม้ายล่ะ สามีตกกลุ่มศัตรู เป็นเรื่องน่าเศร้าของลูกผู้หญิง
แต่ถูกทดแทนด้วย เพื่อนที่แสนดี ญาติที่ประเสริฐ เพื่อนจะนำพาแต่สิ่งดีๆมาให้ ญาติก็สามารถพึ่งพาอาศัยได้ในยามยาก
ด้วยดวงชะตานี้ พรจะหวังหาความสุขจากชายผู้เป็นสามีได้ยากยิ่ง ดังนั้น หากวันใดวันนึง พรได้พบใครคนนั้นที่ ใช่
ด้วยศีล ที่เราได้พยายามรักษา ด้วยดวงชะตา ที่ทำให้ต้องคิดให้จงหนักสำหรับการเลือกใครสักคนมาเคียงข้างกาย
ได้แต่สำรวมกายใจ อบรมตัวเองเสียตั่งแต่เดี๋ยวนี้ ชีวิตนี้ หากหวังความก้าวหน้า และความสุข ความสงบร่มเย็น
ก็อย่าได้มองหาใครมาเป็นคู่เคียงกายอีกเลย ไหนๆเราก็ดูดวงให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว จะแกว่งเท้าหาเสี้ยนไปทำไมกัน

เมื่อปีที่แล้ว เดือนธันวา สามีต้องเดินทางไปต่างจังหวัด มีลางไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น พานพระเครื่องหล่นลงมาจากหิ้งบูชา
ประกอบกับพรเองก็ฝันไม่ดี ฝันว่ามีคนสวมชุดดำมาเต็มบ้าน เหมือนจะมีงานศพ พรจึงแอบดูดวงให้สามี
สามี มีดวงเรื่องอุบัติเหตุ ดวงของพรก็เป็นดวงหม้ายก่อนวัยอันควร อะไรมันจะเหมาะเหม็งกันขนาดนี้ !?
แล้วพรก็อธิฐาน ทำการเสี่ยงทาย ขอให้มีฝันทำนาย ในค่ำคืนนั้นพรก็เข้านอนตามปกติ
พรแน่ใจว่าตัวเองยังไม่หลับ เพราะหัวเพิ่งถึงหมอน เพียงแค่หลับตาลง ภาพบางอย่างก็ปรากฏให้เห็น
เหมือนความฝัน แต่ภาพนั้นชัดเจนมาก เห็นสามีติดอยู่ในบ้านหลังเล็กที่ไฟกำลังลุกท่วม ไม่มีทางออก
มีเพียงหน้าต่างกระจกบานเล็กๆพอให้มองลอดเข้าไปด้านใน เหมือนช่องกระจกหน้าประตูเมรุเผาศพไม่มีผิด !?
พรรีบลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจจากภาพที่ได้เห็น มองเพดานห้องตาปริบๆ ฝัน !? เราแค่ฝันไป
แต่จะฝันได้อย่างไรในเมื่อยังไม่หลับซักหน่อย ? เพียงแค่หลับตาลงเอง ยังไม่ได้นอนหลับนะ

พรรู้ความหมายของนิมิตนั้น...ในวันที่สามีออกเดินทาง พรจึงขอกับท่าน ขอให้สามีเดินทางโดยปลอดภัย
พรขออย่างเศร้าๆ ถ้าดวงของพรจะต้องเป็นหม้าย ก็ขอให้เป็นการหม้ายด้วยการหย่าร้างเถิดหนา
อย่าให้สามีต้องมาตายเพราะเพื่อให้พรเป็นหม้ายตามดวงชะตาเลย สงสารแม่ย่า ท่านแก่มากแล้ว
อย่าให้คนหัวหงอกต้องส่งศพคนหัวดำเลย...แล้วสามีก็ปลอดภัยกลับมาตามที่ได้ขอ และแล้ว เราก็ทะเลาะกัน
เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่แหละ แต่เค้าออกปากไล่พร อืม! แต่พรไม่แปลกใจเลยล่ะ ก็พรเตรียมใจเอาไว้แล้วนี่นา
แต่ตอนเย็น เค้าก็กลับมาขอคืนดี พรตัดสินใจเล่าให้เค้าฟังถึงเรื่องลางสังหรณ์และความฝัน
เค้าว่าพรคิดมากไปเอง เห็นมั้ย เค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เค้าไม่เชื่อพรเลยสักนิดเดียว
...หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน พรก็ป่วย ไม่สบายมากเลย ป่วยอยู่เป็นเดือนด้วยเหตุผล 2-3 ประการ
หนึ่งคือพรคิดทะลึ่ง คิดถึงอนาคตของตัวเอง ในวันนึงข้างหน้าที่...พรจะเรียกเก็บเงินค่าครูสักเท่าไหร่ดี ?
พรคิดตอบแบบหัวเราะๆว่า สัก 30 บาทรักษาทุกโรคเลยเป็นไง แล้วพรก็หัวเราะในใจ ไม่ได้คิดอะไรมาก
ผลก็คือได้รับความเจ็บป่วยทันตาเห็นเลยล่ะ ถูก...ครู ทำโทษเข้าให้ ค่าที่คิดอะไรแผลงๆไม่เข้าท่า^^''
เหมือนครูจะให้บทเรียนว่า ความเจ็บป่วยน่ะ มันทุกข์ทรมานเพียงใด อย่าทำเป็นเล่น อย่าเรียกเก็บเงินทองแพงๆ
อีกเหตุผลนั้นก็คือ พรได้เปลี่ยนแปลงดวงชะตาของสามี ขอแลกเปลี่ยน แต่ไม่ได้ทำตามที่ได้ให้สัญญาไว้
พรเลยเจอวิบากกรรม ได้รับผลกระทบจากการหักเหดวงชะตาของสามีเข้าอย่างจัง พรป่วย ทรมานมาก...

จากนั้นเป็นต้นมา จนถึงทุกวันนี้ พรไม่ชอบขี้หน้าคุณสามีเอาซะเลย ทำงานใกล้กันแล้วรู้สึกอึดอัด
อยู่ใกล้เค้าแล้วเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง อึดอัด มีความโกรธคุกรุ่นอยู่ในอก รู้สึกโมโหเค้าอย่างไม่มีเหตุผล
โกรธที่เค้าทำให้พรร้องไห้บ่อยๆ ยามอยู่ชิดใกล้...ตัวเค้าร้อนจัดเหมือนคนไม่สบาย เราไม่อยากให้เค้าอยู่ใกล้...
เฮ้อ~พรเป็นภรรยาเค้านะ...การที่เรารู้สึกกับเค้าแบบนี้ มันไม่เป็นเรื่องที่ดีเลย จะอยู่ด้วยกันลำบาก ^^''
วิธีแก้ไข ปรับเปลี่ยนเรื่องดวงหม้ายของพรก็มีอยู่ และพรก็ได้บอกเค้าแล้วตั่งแต่ตอนแรกที่เราคุยกันในครั้งนั้น
คือต้องแยกกันอยู่ เลิกกันสักพักนึง ให้พรได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหม้าย แล้วค่อยกลับมาคืนดี กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เมื่อกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหลังจากแยกทางกัน จะทำให้ทุกอย่างลงตัว ชีวิตคู่จะดีขึ้น มีความสุขความเจริญตามมา
อีกอย่าง พรก็ต้องเปลี่ยนชื่อด้วย ชื่อของพร ( ชื่อที่ใช้มาตั่งแต่เกิด ) เมื่อบวกกับนามสกุลสามี ให้ตัวเลขที่ไม่ดีคือ 31
พรเกิดวันจันทร์ ชื่อต้องไม่มีสระทั้งหมด ชึ่งชื่อเดิมมี ด้วยความฝันบางอย่าง พรจึงเลือกใช้ชื่อ พรพรหม เป็นชื่อตัว
เมื่อรวมกับนามสกุลแล้วจะได้เลข 55 พลังแห่งความสุขสมหวัง แต่ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน เพราะต้องรอเวลาให้เหมาะสมก่อน

แต่เรื่องแยกกันอยู่ ทำทีเหมือนเลิกกัน กลับได้รับการคัดค้านจากสามี ( ซึ่งจะเป็นผู้สูญเสียผลประโยชน์ในเรื่องนี้ )
พรเป็นผู้หญิงนะ จะให้ไปเย้วๆร้องท้าขอหย่ากับสามี มันก็ไม่ด๊าย ^^'' ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเป็นหม้ายนักหรอกนะ
พรจะมีคราวเคราะห์อีกครั้งตอนที่อายุ 30 คนในครอบครัวจะทำให้ความเดือดร้อน สงสัยจังว่าจะเป็นสามี ?
ทีนี้ เราจะไม่ช่วยแล้วนะ ในเมื่อเค้าไม่เชื่อถือเรา เราก็จะวางอุเบกขา ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏของมัน !?

( เกี่ยวข้าวเสร็จพรก็มาพิมพ์ข้อความเพิ่มเติมทันทีเลย ^^ แต่ยังไม่ได้มัดและ 'โฮมลาน' เพื่อจะได้ทำการนวดข้าว
กว่าข้าวจะขึ้นสู่ยุ้งฉาง เสร็จสิ้นทุกกระบวนการก็คงจะราวๆวันที่ 26-27 นั่นแหละ นี่ยังต้องไปเกี่ยวข้าวช่วยญาติอีกด้วย )

 

เกี่ยวข้าว

หลายวันมานี้กำลังยุ่งอยู่กับงานในท้องนา ข้าวกำลังแก่จัด ต้องรีบเก็บเกี่ยวก่อนที่เมล็ดจะร่วงมาก
ตอนที่เกี่ยวข้าวอยู่นี้ก็ฝันเกี่ยวกับพวกนาคนะ ^^ เมื่อหลายวันก่อน คืนนึงฝันว่าตนเองกำลังเกี่ยวข้าวอยู่
ในฝันก็เป็นเวลากลางวัน พรกำลังเกี่ยวข้าวอยู่ที่นาดอน แล้วเห็นนาคกลุ่มนึง ไม่น้อยกว่า 10 ตน
ตัวของพรที่อยู่ในความฝันก็เกี่ยวข้าวไปเรื่อยๆ มองไม่เห็นพวกเค้า แต่เราเห็นจากในความฝันเหมือนกำลังดูหนังอยู่
พวกเค้าโผล่ศีรษะพ้นพื้นดินขึ้นมา ถ้าเป็นคนก็คงจะอยู่ในระดับอก ต่ำกว่าอกลงไปยังอยู่ในพื้น
พวกเค้าแอบซุ่ม บังตอซังข้าวเอาไว้ในลักษณะด้อมๆมองๆ ไม่ได้แสดงตนให้พรเห็น พวกเค้ามาแอบดูพรทำไมกันนะ ?

คำตอบในใจก็คือ ระยะนี้พรแผ่เมตตาครอบคลุมยิ่งขึ้น สวดมนต์ไหว้พระแล้วแผ่เมตตา อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้
'...ขอกุศลผลบุญนี้จงถึงแก่โอปาติกะและสัมพเวสีทั้งหลาย ตลอดจนชาวนาคพิภพทั้งหลาย
ท่านที่เป็นทั้งญาติและมิใช่ญาติของข้าพเจ้า ท่านที่ยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์นี้ก็ดี
หรืออยู่ยังภพภูมิของท่านก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับในกุศลผลบุญนี้ด้วยเทอญ...'
...คงเหมือนได้รับของขวัญล้ำค่า ของที่ถูกใจ จึงเกิดความรู้สึกอยากจะเจอ อยากจะเห็นหน้าค่าตาของผู้ให้
จึงได้ชักชวนกันมา ก็คงว่าจะมาแอบดูล่ะนะ แต่บังเอิญพรรับคลื่นของเพื่อนต่างมิติในกลุ่มนาคได้เร็ว
ก็เลยฝันเห็น ว่าพวกเค้าได้มาแอบดูในวันนึง แหม !? พรอยู่ในชุดชาวนาเต็มยศ เหงื่อออกท่วมตัว สุดแสนจะมอมแมม
ไม่ได้ผัดหน้าทาปาก จะมาดูอะไรกันตอนนี้ !? นี่ถ้ามาตอนที่พรแต่งตัวสวยๆตอนกลับจากไปทำบุญ พรจะไม่บ่นเล๊ย ^^''

 

แดนฝันที่สุดปลายฟ้า

เมื่อหลายปีก่อน มีอยู่คืนนึง ฝันว่าเดินทางไปขอเข้าเฝ้าพระนารายณ์ที่วิมานที่ประทับของพระองค์ท่าน
เมื่อไปถึงที่แห่งนั้น...เป็นที่ๆสวยงามมาก...สงบและร่มเย็น ที่นั่น ท่านพราหมณ์ฤษี พระอาจารย์ ท่านดักรออยู่
พ่อครู...ท่านทำหน้าที่คล้ายๆเลขาหน้าห้อง พ่อครูบอกกับพรว่า ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลา เอาไว้วันนึง เมื่อถึงเวลาที่กำหนด...
พรก็จะได้พบกับท่านเอง จงกลับไปเสียเถิด แล้วพ่อครูก็เดินมาส่งพรที่ริมธาร เป็นลำธารสายเล็กไหลผ่านหลังตำหนัก
พรเดินลงน้ำ เมื่อลงน้ำลึกถึงคอ พรก็หันกลับไปมองพ่อครูอีกครั้ง ที่นั่น ผู้ซึ่งประทับยืนอยู่ข้างๆพ่อครู
คือผู้ที่พรมาขอเข้าเฝ้า...ช่างงามเหลือเกิน...ในใจรู้สึกเต็มตื้น...ดีใจเหลือเกิน การมาในครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวเปล่า
แม้จะไม่ได้เข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการ แต่อย่างน้อยก็ยังได้เห็นพระองค์ท่าน เพียงครู่เดียวก็ยังดี แล้วก็จมน้ำจนมิดศีรษะ

น้ำในลำธารเชื่อมต่อกับพิภพนาค เมื่อจมลงมาจากลำธารสวรรค์ ก็เหมือนลอยลงมาจากท้องฟ้า ลอยลงมาอย่างช้าๆ
ที่ก้นลำธารเป็นเมืองใหญ่ ขณะนั้นกำลังมีขบวนแห่แหน พญานาคในร่างเทพบุตร เครื่องทรงแบบพระราชา งามมาก ^^
มีข้าราชบริพารตามเสด็จเป็นขบวนยาว ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม มองดูก็รู้ในใจ ท่านเหล่านี้เพิ่งกลับจากไปฟังธรรม
แล้วพญานาคก็หยุดกึก มองพรที่ค่อยๆร่วงลงมา พรหล่นลงมานั่งแหมะอยู่ตรงหน้าท่านเลยทีเดียว ท่านมองอย่างรู้ทัน
พรยิ้มแหย๋ เหมือนเด็กที่ถูกผู้ใหญ่จับได้ว่าไปเล่นซนมา แหะแหะ ^^'' ท่านยิ้มและหัวเราะหึหึในคออย่างอารมณ์ดี
แล้วท่านก็นั่งคุกเข่าลงโดยชันเข่าข้างนึง ' ท่าทางเจ้าคงจะเหนื่อยนะ เอาอย่างนี้ เจ้าไปพักที่วังของเราสักพักก่อน '
ว่าแล้วพญานาคท่านนั้นก็ช้อนตัวพรขึ้นมาอุ้มได้อย่างสบายๆเหมือนไร้น้ำหนัก ( บริวารมีตั่งมากก็ไม่สั่งให้ใครมาอุ้มแฮะ )
ท่านอุ้มพรเข้าวัง พาไปยังศาลาหลังน้อยกลางอุทยาน สวนนี้อยู่ฝ่ายในและมีความเป็นส่วนตัว ไม่มีใครเข้ามารบกวน
พรได้ใช้ที่นั่นในการนั่งสมาธิพื้นฟูพละกำลัง...ที่ๆพรไป...คลื่นจิตต้องละเอียดมาก เป็นที่ประทับของเทพชั้นผู้ใหญ่
คลื่นจิตของพรในตอนนั้นยังไม่ละเอียดพอ อยู่ที่นั่นแค่แป๊บเดียวก็หมดพลังไปมาก นี่ก็อธิบายตามความเข้าใจของพรนะ
( ในกรณีนี้ยกเว้นท่านจะเรียกใช้ - ให้เข้าเฝ้า พลังของท่านจะคุ้มครอง ทำให้อยู่ในสภาวะอันเป็นทิพย์นั้นได้นานหน่อย )
จำได้ว่านั่งสมาธิอยู่ที่ศาลาแห่งนั้นอยู่ตลอดทั้งคืน - ในเวลาของนาคพิภพ แต่ในเวลาของโลกมนุษย์ มันก็แค่แป๊บเดียว

เฮ้อ~เรื่องแบบนี้ไม่กล้าเล่าที่กระทู้ คนมีองค์ฯ หรอก เพราะถ้าพูด ก็ต้องพูด ต้องเล่าแต่ความจริง ระวังให้ไม่ผิดศีล
เรื่องที่เพื่อนๆพี่ๆเล่าที่นั่น ส่วนใหญ่มาจากเรื่องจริง จากประสบการณ์จริงในชีวิต สัมผัสท่านเหล่านั้นได้ระหว่างทำสมาธิ
แต่เรื่องที่พรได้รับรู้มา...ส่วนใหญ่ก็จะได้รู้จากในความฝัน ซึ่งพอพูดว่ามันเป็นความฝัน มันก็ดูช่างเลื่อนลอยเสียเหลือเกิน
พรก็เลยเล่ามันซะที่นี่แหละ ก็เรากำลังพูด เล่าในหัวข้อ นิมิตฯ ไม่ใช่หรือ เล่าเรื่องความฝันที่มีเทพปนมาบ้าง จะเป็นไรไป

 

น้ำทิพย์

ปีที่แล้ว มีอยู่คืนนึง ฝันว่าไปดูพิธีกรรมของชาวทะเล หรือชาวเล ส่วนจะเผ่าใดนั้นก็สุดจะรู้ได้
ชาวเผ่าจะทำเรือลำเล็กๆขึ้นมาลำนึง ตกแต่งอย่างสวยงาม ประดับประดาด้วยดอกไม้สด บรรจุเครื่องไหว้
แล้วพวกเค้าก็นั่งลงพากันพนมมือ มีหัวหน้าเป็นผู้บริกรรมคาถา คือพูดด้วยภาษาดั้งเดิมของชนเผ่า
สักการะบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และบูชา ขอขมาปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว
ก่อนจะนำเรือนั้นไปปล่อยที่ชายหาด บริเวณที่น้ำพัดพาออกไปสู่ท้องทะเล ไม่ใช่พัดเข้าหาฝั่ง

ตัวพรที่อยู่ในความฝัน ยืนดูพวกเค้าเหล่านั้นจากลำธารของน้ำตก ยืนอยู่บนผิวน้ำ ไม่มีใครมองเห็นพร
เมื่อดูพวกเค้าปล่อยเรือแล้ว ก็เดินทวนน้ำไปเรื่อยๆจนถึงเชิงเขา เงยหน้าขึ้นก็มองเห็นแม่กำลังเดินอยู่บนเขา
เมื่อพรเห็นดังนั้นก็เดินไต่หน้าผาขึ้นไปเพื่อดักหน้าท่าน พรถามแม่ว่าแม่จะไปไหน แม่ว่าจะไปเที่ยวที่ถ้ำนาคราช
ถ้ำที่ว่านั้นอยู่ที่เขาลูกนี้เอง เดินไปอีกไม่ไกลก็ถึง พรจึงเดินไปกับแม่ด้วย พอใกล้จะถึง พรก็เหนื่อย
จึงนั่งพักที่ขอนไม้ริมทาง แม่ว่าจะไปหาน้ำมาให้ดื่ม บางทีที่หน้าถ้ำนาคราชอาจมีบริการน้ำดื่ม รออยู่นี่นะ
ตรงนั้นเป็นทางโค้งหักศอก พ้นโค้งนี้ไปไม่ไกลก็จะถึงถ้ำแล้วล่ะ พอแม่เดินลับตาไป ก็มีชายหนุ่มคนนึงเดินเข้ามาหา
เขาถือน้ำมาด้วยแก้วนึง มายืนอยู่ตรงหน้าพร ท่าทางเธอจะเหนื่อยนะ ดื่มน้ำนี่สิ แล้วจะดีขึ้น
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเขา มีความห่วงใย พรรับแก้วน้ำจากเขามาดี่ม น้ำมีสีเขียวใสเหมือนน้ำใบเตย ยังอุ่น และมีกลิ่นหอม
พรดื่มจนหมดแก้ว รู้สึกดีขึ้น มีกำลังวังชาและสดชื่น เมื่อเห็นพรมีสีหน้าดีขึ้น เขาก็ยิ้มอยู่ในสีหน้า เอาอีกสักแก้วไหม ?
ได้อีกสักแก้วก็ดีค่ะ พรคืนแก้วให้เขา แล้วเขาก็เดินกลับไปทางเดิม แม่กลับมาพอดี น่าจะสวนทางกับแม่
แต่แม่บอกไม่เห็นมีใคร พรสงสัยบางอย่างก็เลยเดินไปที่ถ้ำกับแม่ ในถ้ำมีแสงสว่างไม่มากนัก แต่ในฝันกลับเห็นชัด
เรามองเห็นสมบัติ แก้วแหวนเงินทองกองอยู่ในซอกมุมนึงของถ้ำ เป็นที่ลับตา มีรูปปั้นพญานาคที่สวยงามมากอยู่กลางถ้ำ
ที่หน้ารูปปั้นพญานาคมีแก้วน้ำวางอยู่ มีน้ำบรรจุอยู่เกือบเต็ม น้ำยังอุ่นจัดอยู่เลย น้ำที่เขานำมาให้พร...
เขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยนะ แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็น คือพรในความฝันไม่เห็น แต่เราเห็น ??
พรจิบน้ำในแก้วไปครึ่งนึงแล้วเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาสมทบในถ้ำ เธอบ่นหิวน้ำ และขอแบ่งปันน้ำในแก้วจากพร
พรก็จะให้เธอดื่มน้ำด้วย แต่พอดีมีเสียงพูดเปรยๆดังขึ้นในโสตประสาท น้ำทิพย์แต่เมืองบาดาล ใช่ว่าใครก็จะดื่มได้
แปลว่าเขาห้ามพรสินะ พรจึงไม่ได้ให้น้ำแก่เธอ เธอบ่นกระฟัดกระเฟียดแล้วก็เดินจากไป ส่วนพรก็ต้องดื่มน้ำในแก้วให้หมด
เมื่อดื่มจนหมดแล้ว เหลือน้ำติดก้นแก้วอยู่หน่อยนึงก็เท ใช้มือรองเอาน้ำนั้นมาลูบ ประพรมศีรษะ
แค่นั้นแหละ ตัวพรที่อยู่ในความฝันก็หน้ามืดจะเป็นลม ตอนที่จะล้มฟุบก็พอดีเขา,ท่านเข้ามาพยุงและช้อนตัวขึ้นมาอุ้มไว้
แม่รีบเข้ามาถามด้วยความห่วง พรเป็นอะไรไป ท่านบอกว่า คงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล
พอได้รับน้ำทิพย์เข้าไปถึงสองแก้ว ร่างกาย ( กายทิพย์ที่อยู่ในความฝัน ) ก็เลยรับไม่ไหว ถึงกับหมดสติไป
ไม่เป็นไรหรอกนะ นอนหลับสักตื่นแล้วก็จะดีขึ้น เราจะอุ้มพาเธอไปส่งที่บ้านเอง ไม่ต้องเป็นห่วง
( ตอนนี้แหละที่แปลก เพราะตัวพรที่อยู่ในความฝันก็ได้หมดสติไปแล้ว แต่ทำไมเราจึงยังเห็นภาพต่างๆอยู่เลย
เหมือนดูหนังสักเรื่องที่เราเป็นผู้แสดง แล้วก็ถูกปลดออกมาให้เป็นแค่คนดู ดูหนังที่เราเป็นผู้แสดง ?? )

ก็เล่าสู่กันฟัง ^^ พรก็ไม่รู้หรอก ว่าเจ้าของถ้ำนาคราช มีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร ถ้ำนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
เอาเข้าจริงๆก็คือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีถ้ำชื่อนี้อยู่จริงหรือเปล่า ถ้ามีถ้ำชื่อนี้อยู่จริง แล้วมันอยู่ที่จังหวัดไหนของประเทศไทย
( มาปีนี้จึงได้รับความรู้จากพี่ชาย ว่ามีถ้ำชื่ออยู่จริงๆเสียด้วย ก็ต้องขอบพระคุณพี่ชายที่ได้ส่งภาพมาให้ได้ดูด้วย )

 

หายไปนานเลย

 

ขี้เกียจนิดๆน่ะ

ความฝันที่ชัดเจนเป็นเรื่องเป็นราวยังกะดูหนังสักเรื่อง ก็เล่ามาจนหมดแล้ว เหลือแต่เรื่องสั้นเล็กๆน้อยๆ
เลยขี้เกียจเล่าขึ้นมาซะงั้น :d เอาไว้วันไหนว่างมากหน่อยค่อยมารวบรวมกันอีกที ที่ฝันใหม่ๆก็มีบ้าง
เอาไว้วันหลัง ( อีกสักหลายๆวัน ) ค่อยมาเล่าต่อก็แล้วกันนะ ช่วงนี้ใครๆเค้าก็ฉลองปีใหม่กัน

สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน ขอให้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขนะคะ ( อย่ากินเหล้าเลยนะ เมาตั่งแต่หัวปีเชียว !? )

 

สวัสดีปีใหม่ทุกคนเช่นกันค่ะ เราไม่ดื่มอยู่แล้ว หุหุ
แล้วอย่าลืมมาเล่านะจ๊ะ จะรอ

 

เรื่องชวน ( ขน ) หัว ( ลุก )

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกะเรื่องนิมิตนาคาเลยซักกะติ๋ดเดียว :d แต่คิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกสนุกดี แบบว่าขำๆ จะเล่าให้ฟัง

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พรยังไม่ได้แต่งงาน ยังเป็นลูกสาวที่อาศัยอยู่รวมกันกับพ่อแม่ และน้องชาย
เป็นค่ำคืนกลางฤดูร้อนที่ร้อนตับแล๊บ ห้องนอนของพรอยู่บนชั้นสองของบ้าน หลังคาสังกะสีนี่ยังกับเตาอบเลย
ดึกมากแล้ว ราวๆตีสอง คนเค้านอนกันหมดแล้ว พรทนร้อนไม่ไหวก็ลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
แล้วก็เลยยืนดูดาวอยู่ที่ริมหน้าต่าง คืนนั้นท้องฟ้าเปิดเห็นดาวพราวระยับ ดวงจันทร์คล้อยไปทางทิศตะวันตก
กำลังชมจันทร์เพลินๆสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นจุดสว่างเล็กๆ มันกระพริบวูบวาบเหมือนหิงห้อย
แสงออกเขียวนวล ลอยมาจากทางทุ่งนา พรก็คิดว่า เออ หิงห้อย แล้วเราก็มองตามมันไปเรื่อยๆ มันลอยเข้ามาหาหมู่บ้าน
แล้วพรก็เริ่มผิดสังเกตุ เพราะจากจุดแสงเล็กนิดเดียวนั้น พอลอยเข้ามาในระยะที่ใกล้เข้า มันก็ดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ทีนี้มันลอยเข้ามาในหมู่บ้าน ลอยผ่านหลังคาของเพื่อนบ้าน เหมือนจะใหญ่เท่าลูกมะพร้าว !?
เมื่อสิ่งนั้นลอยผ่าน เห็นเป็นรูปเงาชัดเจนด้วยแสงจันทร์ ประกอบกับแสงวูบวาบของตัวมันเอง ทำให้เห็น...
...เงาดำๆเพราะตัดกับดวงจันทร์ดูเป็นพุ่มเป็นพวงรุงรังชอบกล เหมือนหัว...เหมือนไส้...เรากำลังเห็นอะไรกันแน่ว๊ะ !?
:boo: ส่วนในตอนนั้นพรเป็นยังไงน่ะเหรอ ^^'' พอผิดสังเกตุว่าดวงแสงมันใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น อ้าว ? เฮ้ย !?
ก็มีอาการคล้ายกับตกตะลึงจนตาค้าง 555 แหม ก็มันจริงนี่นา เหงื่องี้แตกพลัก รู้สึกเหมือนขนหัวลุกทั้งหัว
พอเห็นว่าอะไรเป็นอะไรตอนที่สิ่งนั้นทาบตัดกับแสงจันทร์ ก็ค่อยๆงับหน้าต่างลงกลอนอย่างแน่นหนา หัวใจเต้นรัวแรง
เดินแข้งขาสั่นกลับมานอนคลุมโปง ฮูย !? ทีนี้กลับไม่รู้สึกว่าร้อนอะไรเลย มีแต่หนาวอย่างเดียว ปากคองี้สั่นเชียวล่ะ !!??

555 จนถึงทุกวันนี้พรก็ยังไม่รู้เลยว่าไอ้ที่พรเห็นในคืนนั้นน่ะ มันเป็นของจริง !? หรือว่าพรตาฝาดฟางขี้ตากันแน่ ^^''
แต่ที่แน่นอนของแท้ คือหลังจากคืนนั้น พรก็จับไข้ไม่สบายอยู่เป็นหลายวัน ผมงี้ร่วงจนบาง รู้สึกเบาหัวไปเลย ^^''
แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ถึงกับจับไข้หัวโกร๋นไปทั้งหัว รึเพื่อนๆว่ายังไง ฮา :d

 

เรื่องสั้น ที่ไม่ค่อยจะสั้นเลยแฮะ

ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีนี่นา พอเรียกอย่างนี้แล้วเหมือนกับเป็นนิยายเรื่องสั้นเลยเนอะ ^^
ไม่เรียงลำดับตามวันเวลา เพราะมันนานมาแล้ว จำวันเดือนปีที่ฝันไม่ได้ ที่ใหม่สุดคือเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

ครั้งนึง ฝันว่าไปเที่ยวกับครอบครัว พ่อกับแม่ก็ไปด้วย ไปเที่ยวจนถึงวัดแห่งหนึ่งอยู่บนภูเขา
พรอยากขึ้นไปไหว้พระประธานในอุโบสถ์ คนในครอบครัวไม่มีใครไปด้วย ขอรออยู่ที่เชิงเขา
พรก็ไปไหว้พระคนเดียว เหมือนถูกเรียกมา แล้วก็มีพระสงฆ์ชราเดินออกมาจากหลวงพ่อที่เป็นพระประธาน !?
พระสงฆ์รูปนั้น-หลวงพ่อท่านอยู่ในลักษณะกายทิพย์หรือวิญญาณนั่นเอง หลวงพ่อมีเรื่องจะให้เราช่วย
ท่านเล่าว่าบ่อน้ำในวัดมันแห้งขอดเป็นน้ำโคลนขุ่น ทั้งๆที่ปกติจะมีน้ำใสเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดทั้งปี
ท่านเลยจะเดินทางไปขอน้ำจากเหล่าพญานาคที่ดูแลสถานที่นี้อยู่ แต่ตัวท่านไปเองไม่ได้
ต้องให้คนที่เคยเดินทางไปนาคพิภพมาแล้วเป็นผู้พาไป ( เค้าไม่อยากให้คนแปลกหน้าเข้าไปในเมืองเค้าน่ะ )
ท่านเลยเรียกพรมาพบท่านในคืนนั้น แล้วท่านก็เข้าแทรก เหมือนพรเป็นภาชนะรองรับ-ห่อหุ้มจิตวิญญาณของท่านเอาไว้
แล้ว...เหมือนเดินทางผ่านมิติ-ภพภูมิต่างๆด้วยความเร็วสูง เห็นภาพภพอื่นผ่านสายตาเพียงแว๊บๆ
แป๊บเดียวเองก็มาถึงเมืองแห่งนึง ใจบอกว่าไม่ใช่เมืองบาดาล แต่จะเป็นเมืองใดในนาคพิภพก็สุดจะรู้ได้
ท่านถอนออกมาจากร่างพร แล้วเดินเข้าไปในท้องพระโรงเพื่อเข้าพบกับเจ้าเมือง คุยกันอยู่ครู่นึงก็กลับออกมา
แล้วก็กลับมาที่วัดนั้นอีกครั้ง หลวงพ่อพาพรไปที่บ่อน้ำของวัด ท่านว่าพญานาคบอกว่ามีของสกปรกอยู่ในบ่อน้ำของวัด
ถ้าเอาของสิ่งนั้นออกไป เหล่าพญานาคยินดีจะดูแลให้มีน้ำท่าบริบรูณ์ดังเดิม พรก็เลยมองหาของที่ว่า
ควานหาอยู่ครู่นึงก็เจอ ขวดเหล้า !? ใครที่ไหนมันบ้าถึงขนาดเอาขวดเหล้ามาทิ้งน้ำในวัดวาอารามวะ !?
ตามความเข้าใจก็คือ บ่อน้ำนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบ้าน เลยมาตักน้ำเพื่อเอาไปทำน้ำมนต์
แล้วก็มีคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เอาขวดเหล้ามารองน้ำ แล้วก็ทำขวดหลุดมือ สุรานี่มันผิดศีลข้อ 5 นะ
น้ำในบ่อก็เลยสกปรกและแห้งเอาดื้อๆ พอพบต้นตอแล้วก็เอาขวดพวกนั้นขึ้นมา น้ำในบ่อก็กลับมาใสสะอาดดังเดิม

ฝันเป็นเรื่องเป็นราวดีเนอะ ฝันว่าเหาะได้ก็ยังเคย ^^ ดังนั้น พออยู่ในโลกของความฝัน อะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องสั้นก็เถอะ พอเอามาพิมพ์เล่าแบบนี้แล้วก็ยาวอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเรื่องที่เหลือ ค่อยเล่าทีหลังนะ ^^

 

ติดตามอ่านเรื่องของพรมานานแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ ตอนใครคนนึง..นั้น ความฝันนั้นน่าจะหมายความว่า พญานาคเบอร์ 2 น่าจะเป็นคู่แท้ของคุณตั้งแต่อดีตชาติ ไม่ได้ลงมาเกิดด้วย แต่ยังติดตามห่วงใยและเป็นเทวดาประจำตัว ส่วนพญานาค เบอร์ 1 คือ สามีของคุณ ต่อไปน่าจะมีเหตุให้ขัดแย้งกันรุนแรง ทัศนคติน่าจะไม่ตรงกัน แต่ถ้าหากยังต้องการใช้ชีวิตคู่กันต่อไป ขอแนะนำให้คุณสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตอนนั่งสมาธิก็แผ่เมตตาในสมาธิ อุทิศให้สามีชื่อ..สกุล และเทวดาประจำตัวสามี ขอให้เทวดาประจำตัวสามีช่วยตักเตือนสามีให้..... พอออกจากสมาธิก็แผ่เมตตาแบบเดิมอีกครั้ง ขอให้ทำบ่อยๆ ด้วยความตั้งใจ แล้วเขาจะค่อยๆ ดีขึ้น



ส่วนพญานาค เบอร์ 2 ให้คุณอุทิศบุญกุศลให้เขาทุกครั้งที่ทำบุญ และขอให้เขามาร่วมอนุโมทนาบุญด้วย หากมีวาสนาพอก็จะส่งผลให้เจอกันอีก

ขอให้อยู่กับปัจจุบัน ทำให้ดีที่สุด มีรักที่ใดมีทุกข์ที่นั่น ขอเป้นกำลังใจให้นะ จากคนที่มีชะตากรรมคล้ายๆ กัน

 

ขอบคุณค่ะ

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามกลับใฝ่ฝัน ถวิลหาซึ่งความรัก อยากจะมีรักแท้ ยอมแม้กระทั่งสูญเสียทุกสิ่ง
ปรารถนาที่จะมีใครสักคน อยู่เคียงข้างตลอดไป จนกว่าจะแก่เฒ่า ตายจากกันไปข้างนึง มิหนำซ้ำ ยังปรารถนาถึงชาติหน้า

ฟังคุณพูดแบบนี้แล้วก็คิดถึงจังเลยแฮะ :d ชายในฝันของพร ใครคนนึงซึ่งพรยังฝันถึงอยู่เสมอ...
พรรู้จักนามของเขาผู้นั้นด้วยนะ เคยใช้เรียกหา...ตอนที่จะพรากจากกัน เป็นความเศร้าที่บีบคั้นจิตใจ
วรุณเทพ...ส่วนนามของเรานั้น อรุณญาณี ชื่อนี้เค้าเรียกให้ได้ยินเพียงครั้งเดียว แล้วเราก็ไม่เอ่ยนามของกันและกันอีก
คิดถึงจังเลย * -- _ -- * ความรู้สึกถึงความรักที่ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจเป็นเช่นนี้เอง...
แล้วเราก็จะระลึกถึงกันอยู่เสมอ เป็นความรู้สึกดีๆที่ได้มอบให้แก่กัน แต่พรต้องรู้จักแบ่งแยก มันผ่านมาแล้ว...จบลงแล้ว
เมื่อก่อน มีอยู่บ่อยครั้ง พรฝันถึงบึงน้ำกว้างใหญ่ สถานที่ซึ่งงามประทับใจ ( น่าจะเรียกว่าทะเลสาปซะมากกว่า )
แม้จะรู้สึกกลัวต่อการเดินลงไปในทะเลสาป แต่เราก็รู้ ใครคนนึง จะรอคอยเราอยู่ที่นั่นเสมอ ในความฝัน
พอลงไปใต้น้ำแล้วก็จะได้พบกัน ที่นั่นเหมือนเป็นโลกอีกโลกนึง แล้วเค้าก็พาเราไปเที่ยวยังที่ต่างๆ
เพราะรักนี้ไม่ได้มีความใคร่เข้ามาเป็นอารมณ์ ทำให้พรมีความสุขเสมอในยามที่ได้คิดถึง เหมือนเพื่อน เหมือนพี่
ตอนนี้เราอยู่ในปัจจุบัน เราจึงต้องทำหน้าที่ในโลกนี้ ชาตินี้ของเราให้ดี อย่าหลงไปกับภาพมายานั้นนักเลย
ชาติภพแยกเราทั้งสองให้พรากจาก เมื่อพบกันในความฝัน ครั้งนึง...ผูกพันสัญญากันใหม่ เค้าจะคอยเรา ชาติหน้า...

555 คิดซะว่ากำลังอ่านนิยายรักฉบับแฟนตาซีอยู่ก็แล้วกันนะ โพสนี้ พอได้พูดแล้วมันก็เคลิ้ม ครึ้มอกครึ้มใจดีออก ^^

 

เรื่องสั้น ( อีกที )

ครั้งนึง เคยฝันว่าได้ไปเที่ยวที่นาคพิภพ เป็นเมืองใหญ่เมืองนึงที่ไม่ใช่เมืองบาดาลซึ่งเป็นนครใหญ่สุดของนาคพิภพ
บ้านเมืองของเค้าสวยงาม ผู้คนก็สวยๆหล่อๆ ปราสาทราชวังล้วนเป็นอัญมณีล้ำค่า ส่งแสงระยิบระยับอยู่ตัวของมันเอง
น่าแปลกที่ผู้ครองนครแห่งนี้กลับเป็นผู้หญิง เธอผู้งดงามและทรงอำนาจเยี่ยงนางพญา แต่เธอก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด
ถ้าจะให้เดานะ ที่เมืองนี้ปกครองโดยสตรี ถ้าพญานาคผู้เป็นพระสวามีไม่ได้จุติจิตไปสู่ภพภูมิอื่นแล้วล่ะก็
ก็อาจจะกำลังเข้าฌานอย่างลึกล้ำ คือไม่รับรู้ความเป็นไปของภายนอกอีกแล้ว นางพญาเลยได้ครองเมืองแทน

ที่ได้พบกันในครั้งนั้น บ้านเมืองของเธอกำลังประสบปัญหา ดวงแก้วประจำเมืองหายไป ทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในความมืด
( ที่รู้สึกก็ไม่เชิงว่ามืดเหมือนคืนเดือนมืด แต่มันสว่างได้เทียบเท่าแสงจัทร์ในคืนเพ็ญ ห่างไกลกับอาทิตย์นัก )
เธอขอให้เราช่วย...ท่านมีดวงแก้วที่ส่องสว่างยิ่งนัก โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วยเถิด
พรจำได้ว่า ที่ในความฝัน พรมีดวงแก้วอยู่สองลูก ดวงนึงเป็นวัชระธาตุ ดวงนึงเป็นมณีนาคราช ( เคยเล่าแล้ว )
พรก็เรียกออกมา ยกให้โดยไม่คิดเสียดาย ดวงแก้วที่มาแต่ฟ้า ควรคืนสู้ฟ้าไป ให้มันอยู่ในที่อันควรอยู่
เมื่อดวงแก้วได้อยู่ในที่อันควร ก็ส่องสว่างไปทั่วพระนคร ให้แสงที่อบอุ่นอ่อนโยนไม่บาดตา ดีแล้ว งามแล้ว
ชาวเมืองต่างก็ดีใจ ออกมาร่วมชื่นชม กระแสความรู้สึกที่ส่งมาที่พรจึง...อธิบายยาก เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเลย

เวลาที่อยู่ในความฝัน มักจะรู้สึกว่าเป็นจริงเป็นจังมากเลย เหมือนเป็นเรื่องจริง ไม่ค่อยมีใครรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
พรก็เป็นแบบนั้น คือเหมือนเราอยู่ที่นั่นจริง จนกระทั่งตื่นขึ้นมานั่นแหละ ถึงได้คิดได้ว่าเราแค่ฝันไป
ซึ่งตอนฝันที่อยู่ไม่ได้คิด เหมือนตอนที่ฝันว่าโดนผีหลอก ก็กลัวผีแทบตาย :d วิ่งหนีผีจนเหนื่อยเลย ฮา
แต่ก็มีบางทีนะ ที่พรรู้สึกตัวว่ากำลังฝันอยู่ คือตอนที่กำลังฝันร้ายมากๆ หรือเศร้าเสียใจเพราะความฝันนั้นมากมาย
พร หรือเสียงจากใจพร ก็จะปลอบใจว่า อย่าเศร้าเสียใจไป นี่เป็นแค่ความฝัน พอตื่นขึ้นมา ก็จะพบว่าแค่ฝันไปเท่านั้นเอง
แล้วความตกใจกับฝันร้าย หรือความเศร้าก็จะคลายลง แล้วความฝันที่ร้ายกาจก็จะจางหายไป จะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอ
จะมีบางครั้งที่ฝันว่าโดนผีหลอก ^^'' พอกลัวจนถึงที่สุด แต่ไม่ตื่นซะที พรอีกคนนึงก็จะ ตื่น ขึ้นมา พรคนนั้นเก่งแฮะ
ไม่กลัวผี สามารถอ่านโอมการ ใช้คาถายากๆที่พรคนนี้ไม่รู้เรื่องเลย จัดการกับผีที่มาหลอกในความฝันได้อย่างง่ายดาย
พอจัดการเสร็จแล้ว พรคนนั้น ก็กลับเข้าสู่ที่เดิม ข้างใน คงเพราะยังไม่ถึงเวลาที่ ? จะตื่นขึ้นมานั่นเอง
เหลือแต่พรที่เด๋อด๋าคนนี้แหละ ^^'' ที่ท่องเที่ยวเรื่อยไป ก็ ความฝันมันสนุกดีนี่นา มีอะไรต่อมิอะไรให้ดูเยอะแยะเลย

 

ปลามังกร

เป็นความฝันของเมื่อคืนนี้เอง เพราะเมื่อวานนี้ได้ดูดวงกับเพื่อนท่านหนึ่ง เลยฝันอะไรแปลกๆมั้ง !?
ฝันว่าฝนเพิ่งตกเสร็จใหม่ๆ น้ำยังเจิงนองบนถนนหนทาง ทางน้ำรอบหมู่บ้านกลับใสสะอาดจนมองเห็นตัวปลา
พรก็ว่าจะมาดักจับปลาที่ว่ายทวนน้ำขึ้นมานี่แหละ แต่มองดูแล้วมีปลาช่อนขนาดเขื่องแค่ตัวเดียวที่ว่ายทวนน้ำอยู่
เป็นการจับปลาด้วยมือเปล่า !? พอเข้าไปใกล้ หมายคว้าไว้ ปลากลับพุ่งตัวไปข้างหน้า แล้วว่ายทรงตัวนิ่งอยู่ รอให้จับ
เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง เหมือนกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันเลยล่ะ ชักเหนื่อยแล้วนะ แต่ปลาดูสนุกที่ได้หยอกล้อเราเล่น
พอคิดได้ว่าปลาตัวนี้มันแปลกๆแฮะ ตัวเป็นสีทอง !? ก็พอดีว่าปลากำลังจะว่ายจากไป พรจึงร้องเรียกเอาไว้
' เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไป ท่านคือมังกรทองใช่หรือเปล่าคะ ? ถ้าใช่ล่ะก็ ได้โปรดอยู่ก่อนเถิด
ขอให้พรได้เห็นท่านใกล้ๆ ให้เป็นบุญตาสักครั้งนึงก่อนเถิด ' เมื่อปลาได้ยินดังนั้นแล้ว ก็ดีดตัวพุ่งขึ้นมาจากน้ำ
มาอยู่ในอุ้งมือของพรที่รอรับอยู่ ปลาตัวใหญ่มากจึงอยู่ในลักษณะที่เหมือนกำลังอุ้มเด็กทารก เธอไม่ดิ้นรนแต่อย่างใด
ตัวเธออ่อนนุ่ม ( ถ้าใครเคยจับงูมาก่อน จะรู้ว่านุ่มยังไง ) แล้วเกล็ดแต่ละเกล็ด ล้วนเป็นทองคำเหลืองอร่าม มีไข่เต็มท้อง
พรได้ดูอย่างใกล้ชิดจนพอใจแล้ว ก็พาไปปล่อย แต่ยังเป็นห่วงเธออยู่ น้ำในทางน้ำรอบหมู่บ้านกำลังจะแห้ง
ถ้าน้ำแห้งแล้วเธอจะไปอยู่ไหน ? เธอมีไข่เต็มท้องพร้อมออกลูกออกหลาน จะลำบากนา ก็เลยอุ้มเธอไปยังท้องนา
ในฝัน ในท้องนามีน้ำเต็มเปี่ยม ถ้าน้ำในนาแห้ง ก็ยังมีสระน้ำ คงพอที่จะให้เธอได้อยู่อาศัย แล้วก็ปล่อยเธอลงน้ำไป
เพราะพรได้กล่าวคำสัญญาเอาไว้แล้ว พรจะขอแค่ดูเฉยๆ ไม่ใช่เอามาฆ่าแกงหรือครอบครอง เธอจึงมาอยู่ในมือเรา
เมือได้สัมผัสจับต้อง ได้ดูจนพอใจแล้ว ก็ต้องปล่อยเธอไปตามสัญญา สัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้แก่กันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
( แต่พรเจ้าเล่ห์กับเธอนิดหน่อย แม้จะเป็นเจตนาดีก็ตาม คือปล่อยเธอลงน้ำในที่นา เธอคงต้องอยู่ที่นี่ไปสักระยะอ่ะนะ )

ทำนายว่า ในการทำนาปีนี้ ข้าวกล้าจะอุดมสมบรูณ์ ให้ผลผลิตมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา จะกลายเป็นทุ่งรวงทองไปเลยทีเดียว
เพราะธรรมดาของมังกรทองนั้น จะมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่อยู่เสมอ ที่ใดมีมังกรทองสถิตย์ ที่นั่นจะเจริญรุ่งเรือง มีเงินทอง
นำความร่ำรวยมาสู่ผู้คนในชุมชนแห่งนั้น เพราะฝันเห็นปลา=เงิน แต่จะไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของมังกรทองตัวนี้ได้นาน
ผู้รู้วิธีจะใช้ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยมาสกัดทางมังกรเอาไว้ อัญเชิญมังกรมาสู่เรือนหรือที่ทำงานของตน เพื่อตักตวงผลประโยชน์

พรก็ดีใจอยู่หน่อยๆกับความฝันอันนี้ เพราะมันจะหมายความว่า พรได้จับปลามังกร ซึ่งเธอเต็มใจให้จับ จะได้รับพรข้อนึง
ต่อแต่นี้ไป สองมือของพรนี้ จะหยิบจับอะไรก็จะเป็นเงินเป็นทองไปซะหมด ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรืองว่างั้นเถอะ
อ๊ะ !? ดีใจจัง :d ว่าแต่พรยังไม่มีงานทำเลยอ่ะ ทำไงดี ? ยังเป็นแม่บ้านอยู่เลย ก็คงจะต้องทำนาไปพลางๆก่อนล่ะนะ