ธรรมะไม่เคยทำร้ายใคร

ผมนับถือคริสต์ครับ นิกาย โรมันคาทอลิค แต่ผมชอบนั่งสมาธิ และสวดลูกประคำครับ ชอบตื่นมานั่งสมาธิและ สวดลูกประคำประมาณ ตี 3 ทุกคืนครับ ช่วงปีที่แล้ว ขณะนั่งสมาธิอยู่ ผมหลับตานั่งครับ แต่ดวงตาผมกลับมองเห็นทุกอย่างในห้อง โดยไม่ต้องลืมตาครับ และขณะเดียวกัน ผมรู้สึกเสียวสันหลัง และเห็นผู้หญิงมานั่งข้างหลังผม โดยที่ผมไม่ต้องหันหน้ากลับหลังไปมองครับ ผู้หญิงคนนั้น ตาโบ๋ ปากและจมูกกลวงครับ ผิวซีด ชุดสีเทา มอมอ ผมสะดุ้งลืมตาเลยครับ ผมเลยอุทิศผลบุญที่ทำมาให้เธอไป
แต่เมื่อประมาณ เดือนที่แล้วนี้เอง ผมนั่งสมาธิเหมือนเดิม + สวดลูกประคำ พอมีอยู่ในสมาธิทีไร จะได้ยินเสียงผู้หญิงมากระซิบข้างหู ให้ตั้งใจทำความดี บำเพ็ญภาวนา แล้ว อีกไม่นาน เขาจะมาพบผม และยังบอกอีกว่า ที่เคยดำเนินชีวิตมาให้ละทิ้งเสีย เพราะชะตาผมต้องคอยช่วยผู้อื่น อีกมากมาย ผมสับสนนะครับ และยิ่งกลัวมากขึ้นทุกที ทุกวันนี้ ผมกลัวจนไม่กล้านั่งสมาธิแล้วครับ ตอนแรกผมนึกว่าผมบ้า คิดไปเอง แต่เป็นแบบนี้เป็นเดือนเลยครับ ปรึกษาเพื่อนที่ชอบไปวัด ชอบทำบุญ เขาบอกว่า เป็นสัญญาณที่ดีครับ รบกวนผู้รู้ตอบผมด้วยครับ ว่าผมต้องดำเนินชีวิตอย่างไรครับ ;aa25

 

ดูจิต
รู้แล้วละวางไงครับ
ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกันไม๊ครับ

 

มีไฟเผาคนวอดวาย น้ำท่วมคนตาย แต่คนตายด้วยเมตตาธรรมนั้นยังไม่เคยมี

 

พยายามเข้านะ การที่พวกเขามาพบมาบอกมาแสดงว่าพวกเขาให้กำลังใจ นับว่าคุณเดินมาถูกทางแล้ว ดังคำโบราณที่ว่า "คนดีผีคุ้ม" เป็นกำลังใจให้นะ สัมพเวสีบางที่ก็น่ารักนะ

 

南無觀世音菩薩
<!-- / message --><!-- attachments -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>
อนุโมทนาครับ.... พระธรรมเป็นสิ่งสากล พุทธองค์ทรงแสดงธรรมเพื่อโปรดสัตว์โลกหาใช้แสดงธรรมเพื่อชาวพุทธเท่านั้น หากตั้งใจจริงและเปิดรับ ลองศึกษาพระธรรมแล้วจะได้คำตอบ...แต่ในการฝึกสมาธิในระดับที่สูงขึ้นไปแนะนำว่าควรหาครูอาจารย์หรือผู้รู้เพราะบ้างครั้งอาจจะไปยึดมั่นในภาพนิมิตหรือมายาคติได้.....อนุโมทนาและเป็นกำลังใจ ครับ

 

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น และทุกกำลังใจครับ ผมตัดสินใจเลือกเดินทางแห่งการบำเพ็ญภาวนาครับ ผมต้องการหาทางดับทุกครับ ตอนนี้ ศึกษาพระธรรมอยู่ และกำลังหาที่วิปัสสนากรรมฐานครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ ผมตั้งใจจริง ขอบคุณครับ

 

ฟังจากครูบาอาจารย์ พอทราบแล้ว แยกย้ายกันไปเพื่อปฏฺิิิบัติ
แถว ๆ กรุงเทพ ไม่ทราบเหมือนกันครับ แนะนำวัดไหนดีอ่ะ

หลวงปู่ดูลย์
http://www.geocities.com/pudule/

พระอาจารย์ ปราโมช
http://www.wimutti.net/pramote/

 

ขอบคุณครับ

ดีใจครับ ที่สังคมที่เลวร้ายนี้ ยังมีคนดีที่เลื่อมใสพระศาสนาอยู่ครับ ;aa14

 

Yeah,go kikdo,Finally choose the right way(I guess) ...Wat Thasung,U-Thaithani.You will learn more because there are many people who see and know like you there.Go find out.See a lot of friends.
Sathu.

 

ดีแล้วครับ
บางคนที่เค้าปฏิบัติ เค้ายังไม่ได้ผลแบบคุณเลย เพราะคนเราได้ผลแตกต่างกันคล้ายกันบ้างแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
บางคนใจยังไม่นิ่ง สมาธิยังไม่ได้ สมถะไม่ก้าวหน้า วิปัสสนาไม่เดินต่อ
แต่เค้าก็ยังพยายามทำอยู่ ตามดูจิต ฝึกปฏิบัติตามสติกำลัง
เพราะผู้ไม่มีบุญอยู่ก่อนต้องใช้เวลา
ผู้ที่จุดเริ่มนำหน้าเพราะมีบุญเก่า ก็มิควรวางใจและมีอัตตา
เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์ย่อมฝึกตน
อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ

 

ขอบคุณครับ

ดีครับ ขอบคุณครับ สำหรับข้อความดี ๆ ครับ ตอนนี้ ผมพยายามติดตามดูจิตผม พยายามให้นิ่งให้มากที่สุดที่ทำได้ บอกตรง ๆ ครับ ผมเบื่อเรื่องทางโลกมากเลย มีแต่ปัญหามากมาย ไม่รู้จักจบจักสิ้น เมื่อไหร่หลุดพ้นเรื่องทางโลก ปัญหาทางใจ ผมคงพบสันติสุขที่แท้จริง ครับ เป็นกำลังใจให้ผมนะครับ ทุกทุกคน ;aa12

 

การดูจิต นี้ไม่ใช่เพื่อไปทำอะไรนะครับ

จะเห็นว่า คำกริยาของประโยคคือ การดู ดูไม่ต้องทำ ดูเฉยๆ อย่าทำอะไร

ดูเฉยๆ อย่าคิดแก้อะไรหลังการดู หลังการเห็น

ดูเฉยๆ อย่าคิดว่าจะรู้อะไร เราแค่ดูสิ่งที่เป็น ไม่ใช่ดูไปเพื่อเป็น

ดู มันต้องมีของเกิดขึ้นอยู่แล้ว ตั้งอยู่ให้ดู เราก็ดู

หากเราไป ทำขึ้นมาดู ก็ผิด

หากเราไปคิดแปลงเป็นความรู้ เอามาดู ก็ผิด

หากเราไปคิดแก้ไขในสิ่งที่เห็น สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ก็ผิด

การดูจิต จึงคือ ดูสภาวะของอารมณ์ หรือ พฤติจิตตามที่มันเป็นอยู่

หากเราไปเผลอปรุงเพิ่ม มันก็มีของให้ดูเพิ่มโดยใช่เหตุ

หากเราเผลอไปทำอะไร จะแก้อะไร เราก็สร้างงานขึ้นมาดูโดยใช่เหตุ

* * * *

ดู เฉยๆ แล้วได้อะไร

ดู เฉยๆ แล้วจะพบว่า จิตมันทำงานของมันเอง มันคิดของมันเอง มันทำของมันเอง
มันปรุงของมันเอง เราห้ามไม่ได้สักอย่าง อะไรที่เราห้ามไม่ได้ มันก็คือสิ่งที่ไม่ใช่เรา
คำบาลีตรงนี้ใช้คำว่า อนัตตา ในความหมาย มันบังคับบัญชาไม่ได้ มันจึงไม่ใช่เรา

พอ เห็นความเป็นจริงว่า จิตมันไม่ใช่เรา มันก็จะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายด้วยจิตมัน
เบื่อของมันเอง ไม่ใช่เราไปปรุงความเบื่อ หากเราปรุงความเบื่อขึ้นมาอันนี้จะไม่ใช่
ธรรมะ สิ่งที่เราปรุงขึ้นมามันเป็นกิเลส ตรงนี้จะเป็นส่วนที่ทำร้ายได้ทุกๆคน

ดังนั้น อย่าปรุงอารมณ์เบื่อขึ้นมาเองตามใจชอบ นั้นมันกิเลสทำให้เราปรุง จะเดือดร้อน
กัน จะแทรกแซงสภาวะชีวิตปรกติ ธรรมแท้ๆนั้นจะไม่ขัดขวางอะไร จะอยู่ได้ในทุกๆ
ฐานะ

หลังจากจิตมันรู้ความจริงว่าตัวมันเองเป็น ช่างปรุง พอมันรู้ความจริงเข้ามันก็คลาย
กำหนัด ความกำหนัดนั้นเป็นส่วนตัณหา พอมันคลายกำหนัดก็คือคลายตัณหา พอ
ตัณหาคลายกิเลสก็จางลง พอกิเลสจางลงเราก็เห็นทางสุขเกษมที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริง

จะเห็นว่า เมื่อภาวนาไป ชีวิตไม่ได้ขาดหายไป กิเลศต่างหากที่หายไป

เมื่อสิ้นกิเลส ก็พบ สภาวะธรรมที่แท้จริง สภาวะธรรม ณ จุดนี้ จะไม่มีวันทำร้ายใครได้

แถมยังอยู่เป็นเนื้อนาบุญให้ผู้อื่นได้เป็นที่พึ่งได้ด้วย ตรงนี้ก็แล้วแต่วาสนา
ซึ่งคุณจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องฟังมาจากสิ่งใดๆรอบๆตัว

แนะนำโหลด cd เสียงเทศน์พระ เป็นลักษณะการถามตอบปัญหา ของคนหัดเริ่ม
ภาวนาดูจิต จะทำให้พอได้พบทางที่คล้ายจริตตน ขอให้หมั่นฟัง ฟังเล่นๆ อย่าฟัง
จริงจัง เพราะแต่ละคนนั้นมีปัญหาไม่เหมือนกัน หากคนไหนมีจริตคล้ายเรา เราก็
จะได้รับธรรมอันเป็นวิธีปฏิบัติได้เอง

http://www.wimutti.net/pramote/cd.php?cd=19 < Click เพื่อโหลด

ให้โหลดไฟล์ชนิด wma และเวลาที่สั้น ไฟล์จะได้เล็กๆ โหลดไปสัก 4-5 ไฟล์เพื่อ
ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเล่นๆ แล้วจะพบทางเองครับ

อนุโมทนากับการใฝ่ธรรมะครับ ธรรมะไหนๆ ก็ดีทั้งนั้นแหละครับ

แต่ธรรมะที่ละโลภ ละโกรธ ละลุ่มหลงได้ ก็ดีไม่น้อย เนอะ

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำดีดีของกัลญาณมิตร ผมจะปฎิบัติตามคำแนะนำครับ หวังว่า คงมีคำแนะนำดี ๆ ให้ผมแบบนี้ เรื่อยไปนะครับ

 

ไม่เคยมีอะไรทำร้ายเรานอกจากเราทำร้ายตัวเราเอง

 

เห็นด้วย