ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

อยากบอกทุกคนครับว่า
คุณ ศศิริยะ น่ารักมาก
ตอบ mail ผมด้วยครับ
ผมคิดเหมือน คุณ ญ ครับ
แต่ว่า ตอนนี้ ปัญหา หนัก เลย อยากให้น้องเขาช่วยครับ
ขอ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ กำลังมีปัญหาครับ

 

....แก้ไข...

 

เป็นคนนึงที่เปิดมาอ่านอย่างมารทอนเช่นกันค่ะ แต่ตายังไม่ทะลักนะคะ

ขอบคุณกับความรู้ที่คุณพี่ศศิริยะ และน้องมอบให้ ต่อไปนี้คงไม่กล้าทำกรรมอะไรเพิ่มแล้วแม้เพียงนิด

ถ้ามีโอกาสภายภาคหน้าคงได้ส่งอีเมลล์ไปปรึกษาปัญหาธรรมที่สงสัย เพื่อการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากๆเลย ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

หากคุณเชื่อว่า.....

- พระพุทธเจ้า...
- ปาฏิหาริย์...
- สิ่งศักดิ์สิทธิ์...
- เรื่องเร้นลับ...
- แรงบุญแรงกรรม...
- ชาติภพ การเวียนว่ายตายเกิด...
- กฏแห่งกรรม...

ทุกสิ่ง....มีจริง

หนังสือเล่มนี้ ก็เหมาะสำหรับคุณและคนที่คุณรัก.....
และคุณจะได้รู้ว่า....พญานาค....น่าจะมีจริงหรือไม่....
เด็กอภิญญา อายุ 13.....มีที่มา...และสามารถติดต่อกับ
พญานาคได้อย่างไร....เพราะเหตุใด......




รวมเรื่องราวเร้นลับ เล่าสู่กันฟัง...จากชีวิตจริง
และเรื่องจาก
เด็กอภิญญา อายุ 13
ที่อาจทำให้ทุกท่าน ไม่สามารถหลงลืม
ความหมายของคำว่า " กฏแห่งกรรม "
ไปตราบนานเท่านาน

โดย....ศศิริยะ

จัดทำโดย....อชิรญาณ์กรุ๊ป

วางจำหน่ายทั่วประเทศ 12-11-51

โดย บริษัท อมรินทร์บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด

( ร้าน นายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศ)

หากไม่พบหนังสือ ท่านสามารถติดต่อสอบถามสั่งซื้อได้จาก
แคชเชียร์ทุกร้าน และสอบถามได้ว่าเหลืออยู่ที่ร้านสาขาใดบ้าง


ส่งท้ายปีเก่า....ต้อนรับปีใหม่....ให้สิ่งดี ๆ กับชีวิต
คิดดี...พูดดี...ทำดี...เริ่มต้นวันนี้...ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป.



( ขออนุญาตทางเว็ปและทีมงาน ลงประชาสัมพันธ์ที่บอร์ดนี้ก่อนนะคะ ทาง อชิรญาณ์กรุ๊ป กำลังจะดำเนินการติดต่อโฆษณาที่เว็ปเข้าไปภายหลังค่ะ ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ )

 

หนังสือพี่เค้าออกแล้วครับพี่น้อง(ที่ห้องกระทู้นี้) ใครเป็นแฟนๆ หรือเคยได้คุยกับพี่กับน้องเค้า คราวนี้ท่านคงได้รับรู้เรื่องราวต่างๆที่ท่านแม้เพียงอ่านไปได้ไม่กี่บรรทัด ท่านก็อาจมีอาการที่เรียกว่า ตาลุก! หวอ! คิ้วขมวดแบบชนกันจนลืมตัว! จนทำให้บางทีนึกว่าตัวเองอ่านผิดไปหรือเปล่า ต้องกลับมาอ่านทวนแต่ละบรรทัดใหม่ อ่านอย่างช้าๆพยายามนึกตามให้ทัน แล้วสุดท้ายท่านจะได้รับอรรถรสของความตื่นเต้น ความพิศดาร มหัศจรรย์ ความลี้ลับ และอื่นๆที่ท่านจะหาอ่านจากที่ไหนไม่ได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญท่านจะได้มีความเข้าใจมากขึ้นถึงเรื่องกฏแห่งกรรมว่ามีอยู่จริงๆ และข้อธรรมะต่างๆที่อ่านแล้วชวนให้อยากศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้น กว่าการที่อ่านแล้วก็จบกันมิได้นำมาปฏิบัติ เพราะเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นอุทาหรณ์ ข้อเตือนใจท่านได้เป็นอย่างดี โดยท่านไม่อยากทำบาป หรือผิดศิล อีกต่อไปโดยไม่รู้ตัวและไม่เป็นการฝืนตนเองเพื่ออยากจะเป็นคนดี หรือท่านยังสามารถนำมาเป็นเครื่องชี้นำให้ชีวิตของท่านพบเจอกับทางสว่าง ไม่ลุ่มหลงอยู่ในความไม่รู้ หรือหลงผิด ที่อาจจะนำไปสู่หนทางวิบากที่จะต้องประสบทั้งชาตินี้และชาติหน้า ผมมิได้เป็นนายหน้าของพี่เค้ามาช่วยขายหนังสือครับ แต่อยากให้ท่านๆพบทางสว่าง ดังที่พระพุทธองค์ท่านทรงพบ ดังเช่นผมที่เมื่อได้รับคำแนะนำจากพี่เค้าไปปฏิบัติ ทำให้ตนเองไปพบกับหนทางสว่าง เพิ่มเติมขึ้นมามากกว่าการที่จะมานั่งคอยกังวลถึงเรื่องการแก้กรรม และที่ซึ่งไม่เคยคิดว่าเรานะหรือจะมาสนใจศึกษาเรื่องธรรมมะ? ผมรับรองว่าหนังสือเล่มนี้จะมีคุณค่ามากกว่าของขวัญใดๆในโอกาสปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะสำหรับท่านเอง หรือเพื่อมอบให้ผู้อื่น อนุโมธนากับพี่และน้องด้วยครับ.

 

ขอบคุณมากนะคะ ว่าแต่จะมีใครได้ยินไม๊เนี่ย น้อง Polar bear.........

 

ของดี ของแรงอย่างนี้เดี๋ยวดังด้วยตัวเองแน่นอนครับพี่ศศิ!!! เล่มอื่นๆ เล่มใหนๆที่ว่าขายดี ลองมาเจอเล่มของพี่ศศินี้หน่อยก่อน แล้วจะรู้ว่า "หนังสือฮอตฮิตติดซุปเปอร์ เทอร์โบคู่ " นั้นเป็นยังไง!!!!!

 

จะต้องหามาอ่าน ครับ
เพราะ
ผมเชื่อ ทุกข้อ ที่คุณ ศศิริยะ เขียน ครับ

 

อ่านไม่หมดครับ กระโดดข้ามมาหลายหน้า แต่ก็จะพยายามอ่านใหม่อีกรอบครับ

ส่วนเรื่องหนังสือก็จะลองไปหามาอ่านดูครับ

ส่วนตัวผมก็อยากจะรบกวนคุณ ศศิริยะ กับน้องเค้านะครับ

ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแต่อย่างใด แค่อยากรู้ว่าชาติที่ผ่านๆมา

ผมเกิดเป็นอะไร มีกรรมอะไรที่บันดาลให้ชาตินี้ ผมมีความรู้สึก

ว่าชอบเรื่องเกี่ยวกับธรรมะมากครับ เผื่อว่าจะได้ช่วยให้ผมมีความ

เจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆขึ้น

suthipong_nuy@hotmail.com

 

ดีใจมากเลย อยากอ่าน

ซื้อแน่นอนค่ะ

 

จะติดตามหามาอ่านค่ะ..ขอเป็นกำลังใจให้พี่และน้องน่ะค่ะ

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุก ๆ น้ำใจ กำลังใจ และมิตรไมตรี ที่ทุก ๆ ท่านในบ้านแห่งนี้มอบให้ มาด้วยใจจริง ๆ ค่ะ

ก็ไม่มีอะไรมากมาย แค่ขีด ๆ เขียน ๆ เรื่องจริงจากชีวิต ที่ผู้คนต่างสงสัยกันหนักหนาว่า ทำไม เพราะอะไรถึงมาเดินตรงจุดนี้ มาชอบมาใฝ่ศึกษาปฏิบัติทางธรรมได้อย่างไร ตอบมามาก เล่าไปเยอะ จนชักลมจะจับตามสังขารวัย เลยขอรวบรวมเล่าสู่กันฟังไปทีเดียวคงจะดีกว่า อ่านจบทุกตัวอักษรคงได้คำตอบกันไป รับประกันทั้งเล่มไม่มีการก๊อปตัดแปะยกข้อความของใครมาประกอบอ้างอิงเพื่อประหยัดพลังงานสมอง ทุกตัวอักษรมาจากรอยหยักน้อย ๆ ในสมองศศิริยะทั้งหมดทั้งสิ้น หากอ่านแล้วไม่ถูกใจคงต้องขออภัยกันล่วงหน้า เพราะ แค่มือสมัครเล่นค่ะไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพระดับขายดีติดอันดับ

ไม่เคยคิดค่ะ ว่าวันนี้ตัวเองจะมีหนังสือเล่มนี้ออกมา เพราะเป็นนักเขียนอาชีพก็ไม่ใช่ มือสมัครเล่นก็ไม่ใช่อีก ชีวิตก้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีสังกัดทางธรรม วันไหนยามว่างอยากเดินเข้าวัดนั่งสมาธิก็ไป อยากขับรถไปขึ้นเขากราบผู้ทรงศิลก็ไป อยากไปนั่งเล่นในถ้ำเมืองกาญจน์ก็ไป อยากนั่งสมาธิที่ไหน ตอนไหน เวลาอะไรก็ทำได้ทุกเมื่อที่ใจต้องการ แม้เวลาทานอาหาร ก็เป็นชีวิตง่าย ๆ แค่ทำอะไรแล้วสบายใจ จบ ถึงได้ตอบคำถามหลาย ๆ ท่านที่ถามกันมาเสมอว่า ควรปฏิบัติสายไหนดีถึงเจริญก้าวหน้า คำตอบก็ไม่ยากอย่างที่กล่าว เพราะทุกสายก็ดีทั้งนั้น มีเป้าหมายเดียวกันทั้งนั้นคือ นิพพาน เพียงแต่วิธีการสอนกุศโลบายในการสอนเขาคิดวิธีแตกต่างกันแค่นั้น ก็เลือกเอาที่ปฏิบัติแล้วถูกกับจริตของตนเองที่สุด ทำแล้วรู้สึกสบาย ๆ ไม่อึดอัด นั่นแหล่ะค่ะ ถูกต้องและดีที่สุดแล้ว

พูดแบบนี้นักปฏิบัติใหม่บางท่านอาจยังไม่เห็นภาพ ก็อย่างเช่น บางสาย เขากำหนดพุทโธ บางสายยุบหนอ บางสายสัมมาอะระหัง หรืออื่น ๆ อีกมาก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกุศโลบายให้เราภาวนาเพื่อให้จิตนิ่ง ไม่ฟุ้งซ่าน ฉะนั้น บางคนบอกพุทโธแล้วมันหายใจไม่ทันบ้าง อึดอัดบ้าง บางคนยุบหนอพองหนอท่องแล้วมันสบาย จิตไม่เตลิด พอดีกับจังหวะลมหายใจ สรุปกำหนดคำใดสายใดแล้วจิตสบาย ก็เลือกฝึกแบบนั้นล่ะค่ะ ดีที่สุด อย่าไปฝืนตามใคร ๆ เขา หากไม่ถูกจริตเรา การฝึกก็ไม่ก้าวหน้า

ตอนน้องอายุสามขวบครึ่ง เขาจะเป็นเด็กที่แปลกดี คือสามารถนั่งสมาธิตัวตรงดิก ไม่มีการเปลี่ยนท่าได้เป็นชั่วโมง ๆ ซึ่งผิดวิสัยวัยสามขวบกว่าส่วนมากจะนั่งนิ่งได้ไม่เกินสองนาทีต้องมีอาการยุกยิกนั่งไม่อยู่สุกแล้ว เพราะอะไร อ่านหนังสือที่เขียนออกมาแล้วคุณจะรู้คำตอบด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเฉลย สหายธรรมของศิเคยถามน้องตอนสามขวบกว่านี่แหล่ะว่า อยากนั่งสมาธิเก่ง ๆ แบบน้องจัง สอนวิธีให้หน่อยได้ไหม ทำอย่างไร
น้องก็จะตอบด้วยวัยสามขวบกว่าว่า " ก็แค่นั่งหลับตาเฉย ๆ แล้วไม่ต้องคิดอะไรทั้งฉิ้นค่ะ " (ทั้งสิ้นยังเป็น ฉ .ฉิ่งอยู่เลยนะ 555)
เพื่อนศิก็ เออ..ตอบเหมือนนักปฏิบัติมีระดับเลย สั้น ง่าย ได้ใจความ เขาเล่าให้ศิฟังว่า ตอนนั้นมีช่วงที่จิตมันฟุ้งมาก นั่งอย่างไรก็ไม่ได้ พอนึกคำน้อง ทำตาม ได้ผล ๆ ( สหายธรรมท่านนี้ไม่ธรรมดา ๆตั้งแต่ตอนนั้น ) เขาเล่าว่าส่วนใหญ่เวลาเขาถามครูบาอาจารย์ระดับสุด ๆ แล้วเรื่องการปฏิบัติ ส่วนใหญ่ท่านก็มักตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ แบบนี้แหล่ะ ศิว่าบางครั้งเราคิดไม่ออกไม่เข้าใจเอง เพราะมัวไปยึดติดตำรามากมายมาบรรจุไว้ในสมองน้อย ๆ เก็บไว้จนพื้นที่ในสมองมันเออเร่อ ไปหมด เลยไปกันไม่ถึงไหนสักที นี่แหล่ะคือปัญหาสำคัญ

อ่านตำรา ทำความเข้าใจ อย่าท่องจำ ปิดตำรา ลงมือปฏิบัติ แค่นั้น จบจริง ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งฉิ้น.....สาธุ


เกร็ดความรู้ง่าย ๆ สบาย ๆ สไตล์..ศศิริยะ


http://palungjit.org/showthread.php?t=129821&page=30

 

ชอบอ่านที่พี่ศศิริยะตอบจัง ภาษาอ่านเข้าใจง่าย

คิดว่าหนังสือเล่มนี้ คงเป็นหนังสือธรรมมะเล่มโปรดของจ๊อบแจ๊บแน่ๆเลย

ขออนุโมทนากับบุญใหญ่ครั้งนี้ด้วยนะคะ

 

ได้รับเมตตาจิต จาก Mail พี่ศศิริยะแล้ว

และติดตามอ่านหนังสือของพี่แน่นอนค่ะ

ราคา 175 บาท ไม่แพงหรอกค่ะ

ถ้าเทียบกับสาระที่ได้จากหนังสือเล่มนี้

อยู่ต่างจังหวัด จะซื้อได้ที่ไหนคะเนี่ย

อยากอ่านไว ๆ จังเลย

 

เห็นด้วยค่ะว่าคุณศศิริยะ ใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย จะหาซื้อหนังสือเล่มนี้แน่นอน ขออนุโมทนา สาธุ ที่แบ่งปันธรรมะค่ะ
ขอให้เจริญทั้งในทางธรรมและทางโลกค่ะ

 

น่าไปออกรายการทีวีบ้าง จะได้มีคนทำดีกันมากๆ

แนะนำควรเปิดเผยตัวเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของแท้ และหากเป็นจริงคนจะได้หันมาปฏิบัตธรรมสร้างแต่กรรมดี คงกลัวนรกกันเป็นแถว ไม่กล้าแม่แต่จะคิดชั่วแล้วละ.....คงมีรายการติดต่อมาเยอะแน่นอน อยางอาจารย์วาริน โหร คมช.ก็ดังระเบิดไปแล้วครับ ว่าแต่ว่าท่านชอบทำนายผิดตลอด ก็เลยชักยังไงเสียแล้ว....คงต้องพิสูจน์คำทำนายกันต่อไป

 

**********************************

ขอบพระคุณมากค่ะ คุณ JobJab แต่ถ้าจะเรียกว่าหนังสือธรรมะ คงไม่ใช่ ยังไม่อาจหาญเขียนหนังสือธรรมะค่ะ ปัญญายังไปไม่ถึง ขอแค่ สาระธรรมเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะเหมาะกว่า เพราะเป็นเรื่องจริงในชีวิตที่ประสพมา ถือเป็นเนอร์สเซอร์รี่ขั้นต้น ที่จะทำให้ท่านผู้อ่าน ถามใจตัวเองดีกว่าว่า พร้อมที่จะเชื่อและมั่นใจที่จะเดินทางไปในเส้นทางกุศลกรรม กันหรือยัง เพราะหากท่านเชื่อว่าสิ่งที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นนั้นมันเป็นจริง ใจของท่านผู้อ่านก็จะเดินไปในเส้นทางความดีกันอย่างมั่นคง ไม่ต้องเดินไปรี ๆ รอ ๆ หันทางโน้นทีทางนี้ทีเพื่อหาคำตอบเพียงแค่ ทำดีแล้ว มันจะได้ดีจริงไหมหน๊อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธเจ้าจะมีจริงไม๊หน๊อ เพราะหากมัวคิดแบบนี้ เส้นทางมันก็ยาวไกล พิสูจน์ไม่ได้สักที ก็ไปกันไม่ถึงฝั่งฝันน่ะค่ะ

ขอให้อ่านตั้งแต่ตัวหนังสือแรกจนตัวสุดท้ายนะคะ อย่าอ่านข้ามบท เพราะเรื่องมันเชื่อมต่อกันตั้งแต่ผู้เขียนยังเด็กจวบจนปัจจุบัน แล้วท่านผู้อ่านจะได้ทราบในสิ่งที่ท่านอาจไม่เคยทราบ หรือเคยคิดว่า ไม่น่ามีจริง ได้จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นมาจากใจ เพื่อตอบแทนทุกกำลังใจ ทุกน้ำใจในกัลยาณมิตรที่นี่ทุกท่าน ขอฝากไว้สักเล่มนะคะ

หวังแค่ให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน อ่านแล้วเกิดหิริโอตัปปะ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทกันต่อไป และมุ่งมั่นสร้างความดีกันให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

http://palungjit.org/showthread.php?t=129821&page=30

 

****************************************

วันนี้แต่เช้าในเครือ ร้านนายอินทร์ ทั่วประเทศวางที่ร้านแล้ว หลังจากนี้ก็คงตามด้วยซีเอ็ดค่ะ (ที่นี่คงช้านิดเพราะของต้องไปค้างอยู่ที่คลังของซีเอ็ดก่อนค่ะ)

ต่างจังหวัด ลองตรวจสอบรายชื่อร้านหนังสือในเครืออมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ ดูนะคะว่าร้านมีที่ไหนบ้าง ที่ www.naiin.com ค่ะ

กัลยาณมิตรที่อยู่ต่างประเทศ ท่านสามารถสั่งซื้อได้จาก เวป นายอินดอทคอมได้เช่นกันนะคะ ลองสอบถามกันไปดูนะคะ


หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthread.php?t=129821&page=30

 

****************************************
ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะในคำแนะนำ
แต่ตอนนี้ศิยังแค่โนเนม ไม่กล้าอาจหาญไปเทียบขั้นความดังกับใครเขาหรอกค่ะ ให้ท่านอื่น ๆ ที่กำลังดังระเบิด ดังกันไปเถิดค่ะ เรามันแค่มดตัวน้อยตัวนิด ต้องอยู่แบบมดค่ะ

ขออนุญาตตอบรวมในที่นี้นะคะคุณตาแก่....

สำหรับศิ คำว่า ของจริง หรือของแท้ นั้น เราไม่สามารถพิสูจน์ได้เพียงแค่การเปิดเผยตัวหรอกค่ะ

มีหลาย ๆ ท่านที่ พีเอ็ม มา ส่งเมลล์มา ขอท้าลอง ท้าพิสูจน์ว่าน้องนั้น ของจริง หรือไม่จริง แน่จริงหรือไม่

สำหรับนักปฏิบัติใหม่ ตรงนี้คงต้องขอบอกกล่าวกันค่ะ ว่า ผู้มีญาณทัสสนะก็ดี ผู้มีอภิญญาก็ดี เขามีไว้เพื่อยังความไม่ประมาทในชีวิต และเพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฎ หาใช่เพื่อนำมาท้าพิสูจน์ ท้าประลองว่าใครแน่กว่าใคร หรือเพียงเพื่อนำมาพูดไปเรื่อยเปื่อยเพื่อสร้างกระแสความดังให้ตัวเอง.... ตรงนี้คงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ให้ถูกต้องนะคะ

ที่ผ่านมา น้องก้ได้ช่วยผู้คนสำเร็จไปมากหน้าหลายตา ฉะนั้นคนอื่น ๆ ต่อ ๆ ไป คงไม่ต้องพูดถึงว่า มันจะจริงไหม เพราะหากท่านบวกเลขตีโจทย์ถูกข้อหนึ่ง ข้อต่อไปก็ไม่ต้องพูดให้เหนื่อยแล้วว่าทำไม่ได้ จริงหรือไม่

น้องพูดเสมอว่า อภิญญา ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งพูดเล่น เฮกันสนุกสนานเวลาทำนายทายทักถูก เขามีไว้เพื่อให้หลุดพ้น ให้ไม่ประมาทชีวิต ไม่ใช่เห็นเป็นเรื่องสนุกเรื่องท้าทาย ว่าใครแน่กว่าใคร......

ก็ไม่มีอะไรมากมาย ช่วงเวลาที่ผ่านมา น้องพูดบอกอะไร ศิก็จะเมลล์บอกกัลยาณมิตรที่เมลล์มาคุยกันอย่างสม่ำเสมอ และบอกทีมงานเวปพลังจิตบางท่าน ซึ่งทุกอย่างที่น้องบอกล่วงหน้าไป ทุกท่านก็ได้พิสูจน์กันไปแล้วแบบเงียบ ๆ ว่า น้องพูดได้ถูกต้องหมดล่วงหน้า ไม่ว่า จะเป็นเรื่องการเมืองนองเลือดที่ร้อนระอุที่เกิดขึ้นผ่านมา ที่น้องก็ได้พูดไว้ล่วงหน้าก็เกิดขึ้นจริง เรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เรื่องจะมีธนาคารล่ม (อเมริกา ที่เพิ่งล่มไปสด ๆ ร้อน ๆ แต่น้องพูดล่วงหน้ามาหลายเดือน) เรื่องจะมีตึกถล่ม ซึ่งเรื่องนี้สด ๆ ร้อน ๆ น้องพูดไว้เมื่อสิบกว่าวันที่ผ่านมาก่อนหน้าเกิดเหตุ และศิก็เมลล์บอกกัลยาณมิตรและทีมงานเวปพลังจิตกันไป และเมื่อวันที่ 3-11-51 ไทยรัฐก็พาดหัวตึกโรงเรียนในเฮติถล่ม ตาย 700

หากถามว่าแล้วทำไม ไม่นำมาลงให้สาธารณะรู้กันไปเลย จะได้รู้ว่าแน่แค่ไหน ก็ต้องขอตอบว่า อย่างที่ได้กล่าวมา อภิญญา ไม่ได้มีไว้เพื่อนำมาพูดให้ผู้คนตื่นตระหนก หรือคอยนั่งเฮกันเวลาเกิดขึ้นจริง เพียงเพื่อให้ได้รับคำชมว่า เออ...มันแน่ มันของจริง ไม่ใช่..... บางเรื่องเช่นเรื่องการเมือง ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่เราจะนำมาพูดกันในที่แจ้ง แม้จะเชื่อมั่นว่าเกิดขึ้นจริงก็ตามที

น้องไม่ใช่หมอดูอาชีพ ฉะนั้น เขาจะไม่มานั่งพูดนั่งดูอะไรไปเรื่อยทุกวัน อย่างเรื่องตึกถล่มที่เฮติ วันนั้นศิไปรับเขาฝนตกหนัก ขับรถผ่านตึกธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง น้องเขาก็ชำเลืองมองตึกนั้น แล้วพูดว่า " รู้สึกว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีตึกแบบธนาคารถล่ม แต่ไม่รู้ที่ประเทศไหนสักประเทศนะ " ทุกคนที่ทราบก็นั่งใจเต้นลุ้นกันมาเป็นสิบวัน กลัวจะเป็นตึกธนาคารที่น้องมอง หรือตึกในไทย กลัวหนีกันไม่ทัน (555) ตอนนี้กัลยาณมิตรทุกท่านที่ทราบก็โล่งใจกันเป็นแถวแล้วที่ไม่ใช่ประเทศไทย

น้องจะพูดแบบนี้นะ เวลาที่มีอะไรส่งกระแสบอกให้เขารู้ให้เขาเห็นภาพขึ้นมา บางครั้งเขารู้เขาก็ไม่พูดไม่บอกศิ นอกจากเราจะไปแหย่ให้เขาพูดนั่นแหล่ะ ถึงได้รู้กัน เพราะน้องบอกเสมอว่า แม้รู้ละเอียดหมดแต่บางครั้งก็บอกหมดไม่ได้ เบื้องบนเบื้องบาดาลท่านลงโทษน้องเอา ที่นำความลับล่วงหน้ามาพูดบอกมาก ๆ

นี่จึงป็นที่มาที่ไม่สามารถนำมาพูดเล่นในสาธารณะ เพื่อหวังแค่ความดังให้ตัวเอง นั่นไม่ใช่สิ่งที่ศิ น้อง และคนที่มีอภิญญาจริงเขาทำกัน หากท่านลองย้อนมองดูบรรดาพระเกจิอรหันต์ หรือนักปฏิบัติระดับสูงดู ไม่มีท่านไหนหรอกค่ะที่ชอบออกมาท้าประลองกับใคร เพราะหากท่านเหล่านั้นทำแบบนี้ หนทางแห่งการหลุดพ้นยิ่งพบยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ยิ่งพระอรหันต์ท่านจะยิ่งพูดน้อย สำรวม แม้ท่านจะรู้ทุกอย่าง ท่านก็ไม่พูดสักเท่าไร พูดนับคำได้ ลองไปนึกดูว่าจริงหรือไม่ เพราะอะไร

เมื่อวานอยู่ ๆ น้องก็พูดเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น เกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ไว้ศิคงทยอยบอกทางเมลล์เหมือนเดิมนะคะ เพราะเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะนำมาเผยแพร่ในสาธารณะ

ก็ไหน ๆ ศิ ก็ตกบันไดที่นี่มาถึงขั้นนี้แล้ว (555) ก็คงไม่ขอทำตัวเป็นไม้ขีดไฟให้กับทุกท่านที่อุตส่าห์มอบความไว้วางใจให้มาโดยตลอด ขอเป็นเทียนที่จุดไว้ในถ้ำ ให้ทุกท่านไว้นั่งสมาธิในถ้ำได้อย่างปลอดภัย เงียบ ๆ สบาย ๆ น่าจะเข้าทีกว่า (555) ไม่มีอะไร ๆ อย่าคิดเยอะ แค่ชอบไปนั่งสมาธิในถ้ำ ก็เลยเขียนไปเรื่อย เพราะไม่รู้จะพูดอะไรแค่นั้น (555)

ก็ขอฝากหนังสือผลงานเล่มแรก ที่ทำแบบกระทันหัน ขาดตกบกพร่องก็ขออภัยกันมาล่วงหน้า ณ ที่นี้จากใจจริงนะคะ

ศศิริยะ


หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง By ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthread.php?t=129821&page=30

 

อนุโมทนากับคุณ Sasiriya มากเลยครับ
จะไปหามาอ่าน ...
ว่าแต่ว่า ที่ผมส่ง PM ได้รับมั้ย?
หากว่าได้รับขอเมตตาจากน้องให้ช่วยตอบคำถามให้ด้วยนะครับ
สาธุ