ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549

ความเป็นหนุ่ม

 

ความเป็นสาว

 

ชีวิตที่อมตะ

 

สมบูรณ์แบบ

 

โลกที่ใสสะอาด
เผ่าพันธ์เดียว
อาหารที่ไม่ผิดศีล
รักกันจริงๆ

 

ของจริงจะปรากฏปี 2552 เป็นต้นไปครับ รักษาเนื้อรักษาตัวกันไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ ถึงตอนนั้นใครดี หรือไม่ดีจริง จะสามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่นอนครับ

มนุษย์ต่างดาว หรือยานต่างๆ ที่ปรากฏนั้น ส่วนใหญ่เป็นยานของพวกบังบด ใครจะเรียกชื่อมิติคู่ขนาน หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นมิติที่ซ้อนๆกันอยู่กับโลกมนุษย์แหละ

ส่วนพวกมนุษย์ต่างดาวนั้น เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง แต่ยังไม่เปิดเผยมากนัก แต่อีกไม่นานก็จะสามารถคุยกับผู้รู้หรือผู้ที่ปฏิบัติถึงได้อย่างเป็นปกติ

 

มนุษย์ต่างดาวไม่เคยมีเลย
ดาวอังคารที่ว่ามี ทำไมยานอวกาศถ่ายทอดมาไม่เห็นมีอะไรเลย
ผู้รู้หรือผู้ที่ปฏิบัติถึงหาอะไรมายืนยัน
เอาจิตในอภิญญามาเป็นหลักฐานหรือ
เหมือนฟิล์มหนังที่ถ่ายไม่ติด หรือล้างไม่ได้
เพราะจิตสร้างภาพขึ้นมาเอง

 

เชื่อก็รีบสร้างกรรมดี ไม่เชื่อก็ขอให้สร้างกรรมดี



ขอบคุณ คุณเกษม มากครับที่ค้นคว้าหาข้อมูลมาให้พวกเราได้รับรู้

 

คงไม่ได้หมายความว่าเป็นคุณ WebSnow หรอกนะ เอ๋ หรือว่าใช่ จะกลางคนแล้วอีก10ปี ไหน ว่าอีก9 ปีเดี้ยง มันยังไงกันแน่???

 

อยากเจอจัง จะได้รู้ว่าเราเกิดมาเพื่อพบท่าน ไม่งั้นก็หาคำตอบยังไม่ได้ว่าเกิดมาทำไม
จากคนไม่เคยระลึกชาติได้

 

จะรอ

 

เหอะๆ ไปหาความจริง หรือว่าอะไรดีๆ ดูที่เว็ปนี้ดูกันจิครับ
www.dmc.tv ท้าคิดจะหา ถ้าอยากจะรู้ ก็ลองเข้าไปฟังเข้าไปดู กันนะครับ

 

โม้นี้หว่า5555555555555555555555

 

ภาวนาสิยุ่งอะไรกะใคร

 

ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์

เรียนคุณ WebSnow

อยากให้ข้อความของคนคนหนึ่งที่โพสต์ถามอาจารย์ ระวี ภาวิไล ใน manager.co.th เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมาดังนี้
<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 70%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="70%"><TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 96%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width="96%">วิทยาศาสตร์กับพระศรีอาริย์จากเรื่องจริงfficeffice" /><O></O>

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 2%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="2%"><O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE><O></O>

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 30%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width="30%"><TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent">ผู้เขียน: vincent308 (vincent308 สมาชิก)<O></O>

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE><O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<O> </O>
<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 3.7pt; mso-padding-alt: 3.75pt 3.75pt 3.75pt 3.75pt" cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 3.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 3.75pt; BACKGROUND: #f6f6f6; PADDING-BOTTOM: 3.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 3.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8">เรียน อาจารย์ระวี และท่านอาจารย์รวมทั้งนักคิดนักวิทย์ทั้งหลายครับ ผมอยากเล่าเรื่องบางอย่างให้อาจารย์ฟังครับ ก่อนที่ผมจะไปพบจิตแพทย์เร็วๆนี้ ก่อนอื่น ..ผมไม่ฝักไฝ่ลัทธิใด ผมนับถือพุทธแบบไม่ค่อยไปวัด ถือศีลไม่ครบ5 เคยบวชเณรแค่เดือนเดียวตอนเด็กๆ (ไม่เคยชกใคร แต่ครั้งเดียวในชีวิต ผมชกเพื่อนเณร) ผมเป็นแค่คนธรรมดา เข้าผับ เที่ยวบ้าง แต่ไม่ค่อยดื่มเพราะเมาไว 10เดือนกว่าแล้ว ที่ผมต้องรับรู้เรื่องราวบันลือจักรวาลอันพิสูจน์ไม่ได้ และผมทิ้งเรื่องพวกนี้หนีไปไม่ได้เพราะมันมีแต่ผมคนเดียวที่ปกป้องคนกำความลับของจักรวาลนี้ไว้ได้ (บ้าจริงๆ) หนึ่งในร้อยเรื่องมันคือเรื่อง ความลับของลูน่า luna ผมได้ยินคนนอนหลับคนนึงเล่าให้ผมฟังว่า ลูน่า เกิดมาแล้ว46ชาติ ทุกชาติเค้าเกิดเป็นกษัตริย์ เป็นผู้ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมด สร้างอาณาจักร สร้างพยัญชนะ อะไรต่อมิอะไรมากมายสารพัด เกิดเมื่อไรจารึกชื่อเมื่อนั้น อเลกซานเดอร์ จูเลียสซีซาร์ อาเธอร์ ซงซัน กัมโป(ธิเบต) สุริยะวรมันที่2 ชัยวรมันที่7 จิ๋นซีฮ่องเต้ เจงกิสข่าน พ่อขุนราม ตองเจ(พระนเรศวร) พระพุทธยอดฟ้า พระจอมเกล้า นิกกี้(เคนเนดี้) และอีกมากที่เรา นึกชื่อไม่ออก ผู้สร้างกามสูตร ทัชามาฮาล ปีรามิด กำแพงเมืองจีน .....เยอะมาก ลูน่าไม่เคยเกิดเป็นคนธรรมดา เค้าเป็นผู้นำมนุษย์ทั้งหมดตลอดกาล และเค้าเป็นผู้ที่นอสตราดามูสเอ่ยชื่อไว้ เป็นบุคคลในพุทธทำนายที่ว่าจะปรากฏกายขึ้นเมื่อกึ่งพุทธกาล (พ.ศ.2500 +) บ้าที่สุดที่ตอนนี้เค้าเกิดมาแล้วในชาติที่47 เค้าเองคือพระศรีอาริยเมตไตรกับอมิตาภา ผู้นำพาโลกเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ทุกประเทศมีผู้นำจากการเลือกตั้ง แต่ทุกผู้นำต้องอยู่ใต้การปกครองของลูน่า ลูน่าจะเป็นผู้กำหนดพลังงานของโลก ซึ่งไม่ใช่น้ำมัน เป็นพลังงานที่ทุกเผ่าพันธ์ทั้ง46เผ่าของจักรวาลใช้กันอยู่ เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนยานให้บินข้ามกาแล๊กซีเป็นระยะทางหน่วยที่เรียกว่า โคโด (1โคโค=10,000ปีแสง)พลังงานนี้รีชาร์จกับแสงอาทิตย์ได้เหมือนโซลาร์เซลล์แต่มันประจุได้เกือบจะล้านส่วนต่อล้านส่วน คือรับแสงอาทิตย์ได้พลังงานที่มหาศาลดุจดั่งมันเป็นดวงอาทิตย์เอง และมันไม่มีวันหมด มีมากพอให้ทั้ง47เผ่าพันธ์(รวมมนุษย์ด้วย)ใช้ได้อีกเป็นล้านปี การมีและครอบครอง ไม่มีคำว่าค้าขายหรือเก็งกำไร แต่เราก็ไม่มีทางเดินทางไปเอามันมาใช้ได้ มีแต่รอเวลาที่เค้าจะเอามาให้ เวลาที่ว่ามีทางออกแตกต่าง2ทาง คือเราได้ใช้ถ้ามนุษย์ถึงเวลาและสามารถทลายกำแพงความคิดของเราเองได้ หรือเราได้ใช้เพราะเค้ามารับเราบางคนไปจากโลกที่กำลังดับสลาย เค้าจะรับเราบางคนเท่านั้นไปเพื่อรักษาเผ่าพันธ์มนุษย์ไว้ ใครที่คิดว่าเคยเห็นยูเอฟโออันนั้นเค้ามาร์คคุณแล้ว มนุษย์เป็นสิ่งที่แตกต่างที่สุดในจักรวาล เรามีจิตใจ มีอารมณ์ความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง หัวเราะ ร้องให้ เกลียดชัง หลงไหล ส่วนพวกเขา มีแต่เกิดมา โตไป ดำเนินไป ตามกัน จัดสรร ทำตาม และตายลง เค้าไม่มีอารมณ์ ไม่ต่างจิตต่างใจ ใครเกิดมาเป็นอะไรก็เป็น เดินไปอย่างไม่มีแบ่งดีเลวผิดถูก มีแต่เส้นๆเดียวที่ให้เดิน เหมือนมด ผึ้ง แต่ร่างกายกับสมองมีการทำงานและวิวัฒนาการสูงกว่ามนุษย์มากนัก เราเลยแตกต่างทั้งชีวิต ความคิด บนนามธรรมแห่งจักรวาล เราเหมือนจักรวาลมากที่สุดด้วยรูปธรรม ด้วยความที่เรามีจิตใจ ทำให้เรามีชั่วดีผิดถูก และทำให้เราเป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มีศาสนามารองรับความคิด รวมถึงมีพระเจ้า มีซาตาน พวกเค้าไม่เคยต้องการพระเจ้า เพราะไม่มีปรัชญาหรือสิ่งใดที่ทำให้เริ่มนึกถึงพระเจ้า มนุษย์จึงเป็นสิ่งเดียวที่เหมือนจักรวาลที่สุดคือมีด้านมืดและด้านสว่างในที่ๆเดียวกัน พวกเขารวมตัวกันมานานแล้วทั้งหมดในจักรวาลมี 46 เผ่าพันธ์ เค้ารอเวลาที่เราจะเข้าร่วมเป็นเผ่าพันธ์ที่ 47 นั่นทำให้เค้าไม่เคยแสดงท่าทีใดๆกับโลกว่ามาทำใม มาเยือนก็ไม่มาพูดคุย มาหาแบบไม่แสดงเจตนามิตรหรือศัตรู ไม่ได้มาครอบครองแล้วมาทำใมในเมื่อเราเองก็ไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่จะต่อต้านเค้าได้เลยทำใมไม่บุกเราและจับเราเป็นทาษ เพราะ..เค้ากำลังรอลูน่า ลูน่าจะเป็นผู้เจรจากับประมุขของจักรวาล ถ้าไม่ใช่การขออพยพคนออกไป ก็เป็นการเจรจาเรื่องพลังงานในอนาคต เราสูบน้ำมันไม่ได้แล้ว นี่คือความจริง เพราะเมื่อมันหดหายไป มันทำให้เกิดแอ่งใต้ผิวโลก เกิดอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นจากใต้โลก ความแห้งแล้งจะเป็นตัวตอบโจทย์ เมื่อเราแก้ไขวิกฤติการณืนี้ไม่ได้ ภูเขาไฟจะประทุทีละลูก น้ำจะท่วมโลกภายในเวลา 24ชั่วโมงของวันโลกดับ ภายในวงกลมการหมุนรอบตัวเอง1รอบน้ำจะขึ้นมาหมดทั้งจากทะเลทั้งจากใต้ดินที่แตกระแหง โลกหมุน1รอบน้ำล้างได้รอบโลกพอดี ซึ่งเราหยุดยั้งการใช้น้ำมันไม่ได้ ถ้าหยุด โลกจะมืดในพริบตา การที่เรามีพลังงานแค่น้ำมันนั่นก็มีเหตุผล เราหาพลังงานอื่นมาใช้ในระดับมหภาคแทนน้ำมันไม่ได้หรอก นิวเคลียร์ ไฮโดรเจน โซลาเซลล์ ล้วนแต่มีข้อจำกัดในตัวเอง ในเวลาอันควร โลกต้องหยุดการใช้น้ำมัน ประเทศมหาอำนาจก็จบสิ้นอำนาจ ไม่มีมหาอำนาจอเมริกา โอเปค ไม่มีคนวางระเบิดสู้เอาบ่อน้ำมันคืน จบสิ้นผู้นำโลก ระบบปลาใหญ่ปลาเล็กหายไป ประมุขจักรวาลจะยื่นข้อเสนอเจรจา และผู้เจรจาไม่ใช่ผู้นำโลกอย่างอเมริกา จะไม่มีการเจรจาเพื่อให้ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพลังงานนี้ไปใช้หาประโยชน์หรือสร้างความเป็นมหาอำนาจข่มประเทศด้อยกว่า แม้แต่ประธานาธิบดีอเมริกายังต้องนั่งทำตาปริบๆถ้าเค้าส่ายหน้าไม่คุยด้วย พลังงานนี้ ต้องเป็นไปเพื่อมนุษยชาติทั้งมวลจริงๆ ไม่มีซื้อขาย กักตุน เก็งกำไร ลองนึกดูนะครับว่าถ้าพลังงานมีให้ใช้ฟรีอย่างพอเพียงและไม่ขาดแคลนตลอดกาล โลกใบนี้จะเปลี่ยนไปยังใง ซึ่งการนำมาใช้มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่นอน อาจจะเป็นข้อบังคับมากกว่าด้วยซ้ำ นั่นคือ หมดสิ้นขั้วมหาอำนาจกันซะที อำนาจเดียวที่จะปกครองทุกผู้นำเป็นอำนาจของลูน่า ลูน่าคือผู้เจรจาครับ ไม่เจรจาเพื่ออพยพก็เจรจาเพื่อได้มา การที่เรามีพลังงานแค่น้ำมันนั่นก็เพราะ เผ่าพันธ์ของเราถูกจักรวาลกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว เราเหิมเกริมที่สุด เราดีเราเลว เราผูกไมตรีและเราก่อสงคราม เรานึกว่าเราฉลาดมีปัญญา แต่หารู้ไม่เราเหนือกว่าเขาอยู่เรื่องเดียว คือ อารมณ์ มนุษย์มีอารมณ์เป็นใหญ่ การทำให้มนุษย์ต้องอยู่ใต้กติกาของจักรวาลนั่นคือ กำหนดให้เรามีพลังงานแค่นี้ มีสสารที่สร้างสรรพสิ่งได้ดีที่สุดแค่ยานอวกาศ คล้ายๆกับว่า เจ๋งนักก็ให้มันเท่านี้แล้วกัน เมื่อมันไม่มีทางออกมันจะมาก้มหัวยินยอมเอง เราเลยหาสสารใดๆที่สร้างยานให้พ้นจากแรงโน้มถ่วงได้ดีกว่านี้ไม่ได้ หาพลังงานที่จะพาเราหลุดออกจากระบบสุริยะไม่ได้ และเรายังตั้งอยู่ในที่ๆไม่มีวันเดินทางไปถึงเผ่าพันธ์อื่นด้วยพลังงานของเราแบบตลอดกาล ออกเดินทางวันนี้ ไปอีก5พันปียังไม่เจอใครเลย ซึ่งนั่นก็ไม่พ้นลูน่าต้องมาทำหน้าที่ เธอว่า ลูน่า นอกจากเป็นผู้นำโลกยุคใหม่แล้ว ลูน่ายังเป็นผู้ที่มอบอำนาจไว้ให้กับประมุขของจักรวาลทำงานแทน แท้ที่จริงลูน่ากำลังทำงานก่อเจดีย์ด้วยเม็ดทรายเพื่อให้มนุษย์เดินทางไปถึงวันฟ้าใส เมื่อถึงวันนั้น อำนาจใดๆในจักรวาลจะถูกส่งมอบกลับมาคืนลูน่า และทุกเผ่าพันธ์จะดำเนินชีวิตไปตามกติกาของจักรวาล ลูน่า เกิดเป็นคนแต่ไม่ใช่คน เป็นสิ่งที่สถิตย์มาในวิญญานของเค้าเองนับแต่เกิด มีรูปแบบเซลล์ที่แบ่งตัวได้ เหมือนสัตว์เซลล์เดียว แต่เซลล์สมองของลูน่าก็แบ่งตัวได้เรื่อยๆเช่นกัน ไม่มีกติกาว่าเซลล์สมองหยุดแบ่งตัวตอน5ขวบเหมือนมนุษย์ทั่วไป นัยตาของลูน่า มีแสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาขาวข้างขวา นั่นทำให้มีแสงส่องเข้าไปในเรติน่าเกิดเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ครอบครองจี้หินที่เป็นรูป3เหลี่ยมด้านไม่เท่า หินนั้นไม่ได้มาจากบนโลก ลักษณะคล้ายโอปอลแต่ละเอียดในเกล็ดสียิ่งกว่านัก ส่องหินนั้นดูแล้วจะรู้ว่านั่นคือแกแลกซีทั้งหมดในจักรวาล(หยั่งกะหนังเรื่องเมนอินแบลค) และบนแผ่นหลังของลูน่ามีไฝสามเม็ดที่ลากเส้นต่อกันจะกลายเป็นรูป3เหลี่ยมแบบเดียวกันกับจี้ของเขา เค้าคือประมุขของมนุษย์ในชาติที่ 47 พามนุษย์เข้าร่วมกับเอกภพเป็นเผ่าพันธ์ที่ 47 เค้าเริ่มประสพชะตาชีวิตพลิกผันวันที่ 4 เดือน 7 ปี 2547รู้ตัวว่าเค้าคือลูน่าในปี 2547 ปีที่เกิดซึนามิและเริ่มต้นภัยธรรมชาติที่จะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะถึงวันนั้น ยอดคนตายเฉพาะคนไทยจากซึนามิ 7,447 คน หนักที่สุดที่ จ.พังงา จังหวัดที่มีเนื้อที่ 4,170ตารางกิโลเมตร เดินทางด้วยถนนสาย 4 ไปต่อสาย 4147และที่พูดถึงพังงา เพราะลูน่าเริ่มเรียนรู้ชีวิตและความตาย พลังของธรรมชาติจากที่นี่ และเพราะลูน่าเกิดมาแล้ว เค้าเป็นคนไทย บ้าดีมะครับ นี่คือ 1 ใน100เรื่องที่ผมกำลังได้รับรู้ ไม่ใช่จากวัด พระ หรือ หมอดู แต่ผมรับรู้จากผู้หญิงคนนึง สวย เซ็กซี อินเทรนด์ ฉลาด ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ชอบใช้ของแบรนเนม หรู ฐานะดี ไม่สูบ ไม่เล่นยา สุขภาพจิตเฮฮา แต่เวลาเธอหลับ เธอนอนน้ำลายไหล แล้วผมก็คุยกับเธอตอนเธอหลับ บางครั้งเธอกลายเป็นเด็กอายุ9ขวบ บางครั้งเธอเป็นคนทรงอำนาจในท่าทาง ผมไม่รู้ว่าเธอแกล้งบ้าหรือเธอเป็นโรคจิต แต่ผมกำลังจะพาเธอไปหาจิตแพทย์แล้วหละ ผมเองด้วยก็ต้องไปหา เพราะผมก็รับไม่ไหวแล้ว ยังมีเรื่องบ้ากว่านี้อีกเยอะครับ ที่เล่าไม่ไหว แต่ที่ผมส่งสารนี้มาเพราะผมคิดว่า อาจารย์ระวี น่าจะได้ฟังนิยายเรื่องนี้ บางทีมันก็มีอะไรให้เอะใจดีเหมือนกันน่ะครับ ผมเองไม่สามารถผูกโครงเรื่องได้ขนาดนี้หรอกครับ ภาคผนวก..ที่ผมพอจะจำได้และอยากบอกผ่านนะครับ เธอบอกว่า ปราสาทหินพนมรุ้ง ถูกสร้างขึ้นด้วยมนุษย์ต่างดาว ด้วยศิลปะที่อยู่ในหัวของลูน่า กับผู้รับคำสั่งชาวต่างดาว เพื่อใช้ในการสร้างและวางรหัสสำหรับวันนี้ รหัสที่ลูน่าต้องตามไขเอาเอง สิ่งแรกที่ถูกสร้างในปราสาทก็คือ รูปศิวลึงก์ แล้วถึงได้วางส่วนอื่นครอบตามลงไป ปราสาทถูกขนย้ายมาด้วยยานรูปปีรามิดลำเดียว ใช้เวลาในการสร้าง 7ชั่วยาม จุดยอดของศิวลึงก์นั้นเป็นจุดหนึ่งที่จะเปิดมิติเหนือระยะทางในการติดต่อกับดาวอื่น และมันเชื่อมต่อกับปรางค์องค์กลางของปราสาทหินนครวัดได้ องค์พระนเรศวรมีพระนามตอนอยู่ที่พม่าว่า ตองเจ พระองค์ท่านทรงใช้เวลาทรงม้าตามไปง้อพระอัครมเหสีมณีจันทร์ จากอโยธยาถึงพิษณุโลก 4วัน ในขณะที่อัครมเหสีทรงม้าด้วยเวลา7วัน มเหสีมณีจันทร์มีบ่าวรู้ใจอยู่2คนคือ เนียน และ เย็น ทั้งคู่แอบรักแม่ทัพคนเดียวกัน เลยไม่ถูกกัน ทำให้โดนจับมาอยู่ด้วยกันจนกลายเป็นสหาย เมื่อเกิดขบถเมืองพิษณุโลก มเหสีมณีจันทร์นำพาทหารเข้าสู้ เพราะพระนเรศวรทรงออกทัพ ทั้งเนียนและเย็นต่างสู้จนตัวตายนอนเคียงข้างกัน นิกกี้(เคนเนดี้) เคยฆ่าแฟนคนที่3ของมาริรีน มอนโรด้วยการฟาดหัวเข็มขัดลีไวส์ ตายคามือ โทรศัพท์สายสุดท้ายที่มาริรีนคุยด้วยคือ นิกกี้ แล้วเธอก็กินยาตาย ผมไม่ได้ถามว่ายาอะไร คลีโอพัตรา ขึ้นนั่งบัลลังก์ตอนอายุ 14 ไม่ใช่ 17หรือ18 กองทัพของเตมูจินแทบไม่มีการล้มตายจากการรุกเข้าครอบครองดินแดนอื่นๆ เพราะแค่ทหารกับฝูงม้าก็มากมายละลานตาจนไม่มีใครกล้าสู้รบต่อกรด้วย เตมูจินใช้กลยุทธถึง 5รูปแบบในการเข้าตีจนข้าศึกไม่อาจต้านทาน เตมูจินเป็นผู้นำของผู้นำทุกเผ่า ได้รับเลือกเป็นผู้นำด้วยการโหวต(ยกมือให้คะแนน)จากหัวหน้าทุกเผ่า ชายาของเตมูจินมีลูก 7คน เธอไม่ใช่เจ้าหญิง เป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดาๆ เก่งงานบ้านเรือนมากๆ องค์หญิงเหวินเฉิงแห่งซงซัน กัมโป เคยโดนกริชของพระสวามีแทงเพราะเอาพระวรกายเข้าขวางไม่ให้ซงซันแทงมเหสีภริขุตี เหวินเฉิง มาจากคุนหมิง ยูนนาน ภริขุตีมาจากเนปาล ทั้งคู่เข้าร่วมพิธีอภิเษกกับกษัตริย์ซงซัน กัมโป พร้อมกัน เหวินเฉิงเป็นคนฉลาดมากๆ เลยเลือกให้ภริขุตีเข้าร่วมอภิเษกด้วย เพราะตัวเองร่างกายไม่แข็งแรง รวมทั้งภริขุตีจะต้องช่วยเลี้ยงดูให้นมแก่บุตรของเธอ (ตริซุก)ก่อนเธอสิ้นใจ เธอขอร้องให้ภริขุตีช่วยดำเนินการสร้างวัดต่อ ให้ประชาชนสรรเสริญและจดจำซงซันว่าเป็นพระธรรมราชาที่ดี ในขณะที่ความเป็นจริง(ที่เธอบอก)ซงซันเป็นคนโหดมาก มีอำนาจมาก แค่ในช่วงเวลาที่ซงซันก้าวขึ้นบัลลังก์ ธิเบตก็กลายเป็นมหาอำนาจทันที ทุกประเทศโดยรอบไม่กล้าต่อกรและไม่อยากรบด้วยจึงได้ส่งเจ้าหญิงมาให้ซงซันกันหมด ซงซันรักเหวินเฉิงมาก เคยให้เหวินเฉิงนอนหนุนตักตลอด3คืนที่เธอป่วยหนัก เพราะคิดว่าจะถ่ายพลังให้เธอรอดได้ ซึ่งเธอก็รอดจริงๆ ทุกวันนี้ยังมีรูปปั้นหญิงหนุนตักชายอยู่ในธิเบต กรุงรัตนโกสินทร์ มีเสาหลักเมือง 2ต้น ต้นแรกสร้างในรัชกาลที่ 1 เธอว่าพระองค์ท่านทรงกลับชาติมาเกิดอีกทีเป็น รัชกาลที่ 4 แล้วจึงได้มีการสร้างหลักเมืองต้นที่ 2เพื่อความมั่นคงของเมืองสยาม ( อันนี้ผมขอกราบประทานโทษนะครับที่ผมบังอาจพาดพิงเบื้องสูง ผมแค่เล่าให้ฟัง) เธอบอกผมว่า อลาสก้า....แล้ว3-4วันต่อมา อลาสก้า แผ่นดินไหว บอกตอนตี3ว่า ญี่ปุ่นนะ. 11โมงกว่าญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เธอบอก ตอนนี้บนโลกเรา มียานต่างดาวทั้งหมด ทุกมุมโลก 700กว่าลำ (อันนี้ผมว่าใครก็มั่วได้ ใครจะไปรู้ความจริง) ด้วยคำขอร้องจากทุกๆท่าน และด้วยพระปรีชา เจ้าจอมมารดาเปี่ยมทรงเป็นผู้จัดการกับแหม่มแอนนาให้ระเห็จจากเมืองไทยไปด้วยข้อหาใหญ่หลวง ที่เกี่ยวพันกับการพยายามทำให้ไทยกลายเป็นคริสต์ วิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทุกวันนี้ยังถือว่าอนุบาลมากๆเมื่อเทียบกับนานาเผ่า เมื่อไรที่เราเอาวิทยาศาสตร์กับจิตผนวกกันได้เมื่อนั้นเราจะทะลุขีดขั้นครับ เธอว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงแต่อยู่ห่างจากเราเกินระยะ 1โคโด (10,000ปีแสง) ครอปเซอร์เคิลแต่ละอันเป็นเครื่องหมายของแต่ละเผ่าพันธ์ครับ นั่นคือการประกาศทำความเคารพต่อลูน่า อาวุธที่เค้าใช้กันมันไม่ใช่ปืนแบบเราๆ อาวุธของเขาเป็นตัวครับ เป็นตัวอาวุธ มันมีชีวิตที่พร้อมรับคำสั่ง และไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่ง วิธีการณ์ปฎิบัติก็จะขึ้นอยู่กับระดับปฏิบัติการณ์ในความสมควรของประมุข อาวุธระดับสุดยอดของจักรวาลทั้งมวลมีลักษณะเป็นดาว ดาวดวงนึงที่สุกสว่างจากแสงของมันเอง แต่เมื่อถึงเวลาที่มันต้องทำงาน มันจะลุกใหม้โชติช่วงและเคลื่อนที่เข้าหาเผ่าพันธ์ที่แข็งขืนต่อกติกาของจักรวาล คำว่าแข็งขืนนั่นหมายถึงบางทีเผ่าพันธ์นั้นมีความจำเป็นที่ทำตามกติกาและคำสั่งได้ยาก ฟังดูเผด็จการแปลกๆ ดาวของประมุขแห่งจักรวาลอยู่ มีลักษณะเป็นวงเหมือนบวบ โคจรในแนวตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์สองดวง สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในดาว หมายถึงว่า เหมือนแมลงที่อยู่ในเนื้อบวบ แต่ในดาวนั้น มันเหมือนบวบที่ใส้ในกลวง และในใส้ในนั้น มันคืออวกาศที่อยู่ในดาวอีกที และมันเป็นอวกาศแน่นอนเพราะเค้าไม่ได้ใช้อ๊อกซิเจน ขนาดของใส้ในใหญ่พอจะเอาโลกของเราใส่ได้ถึง3ใบ เครื่องส่งสัญญานสื่อสารของนาซ่าขนาดเท่าตึก ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เค้าสื่อสารด้วยจิต ลูน่า พระศรีอาริยเมตไตร ศาสดาของ ศาสนาที่จะรวมเป็นหนึ่งบนตรรกะแห่งพุทธ ไม่ใช่เพื่อคำว่านิพพาน หรืออรหันต์ แต่ต้องเป็นตรรกะแห่งพุทธเพราะ นี่คือตรรกะแห่งธรรมชาติ เหตุและผลดำเนินไปตามธรรมชาติของตัวมันเอง และมีแต่วิถีแห่งธรรมชาติเท่านั้นที่จะนำพามนุษย์ไปถึงจุดศูนย์กลางแห่งความเข้าใจในทุกสรรพสิ่งหรือวิถีแห่งการรู้แจ้ง เอ่อ ..คุณคิดว่าลูน่าจะต้องมีลักษณะเป็นยังใงครับ นักบวช ทรงศีล มาจากป่า ไว้เครา ถือไม้เท้ารึปล่าวครับ ... ลูน่าก็เหมือนพวกเรา เกิดยุคนี้ ก็เหมือนๆกัน ดูทีวี ใช้รีโมต อาจจะขับรถสปอร์ต หรือบิดมอเตอร์ไซค์ ตีเทนนิส เล่นเกมส์เพลย์ กินพิซซ่า ดีดกีตาร์ หรืออะไรก็ได้ เค้าไม่แตกต่างกับเราเลย เค้าเหมือนเราๆทุกคน นี่แหละครับ คนไม่เคยคิดอะไรมากกว่าสนุกอย่างผมพอมาฟังอะไรแบบนี้ ก็เอ๋อกินเหมือนกันนะครับ คร่าวๆนะครับยังมีอีกมาก ผมจำไม่ไหว .... ขอบคุณอาจารย์ระวีนะครับ ผมดีใจที่ได้ระบายออกบ้าง อาจารย์ว่าเรื่องทั้งหมดน่าขำใหมครับ ผมเองยังต้องผจญกับเรื่องบ้าๆอีกมาก มากจนผมอยากจะบ้าแล้วหละครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ กรุณาส่งต่อข้อความนี้ไปยังคนที่คุณรักด้วย <O></O>
<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ffffff; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ffffff; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: transparent">

วันที่ : 9 กุมภาพันธ์ 49 ffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com /><st1:time Minute=18:34</st1:time> <O></O>​

</TD></TR></TBODY></TABLE><O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ออกทะเลไปไกลแล้วครับ
เดี๋ยวกู่ไม่กลับ จมน้ำตาย

 

ที่เราทราบอยู่เดี๋ยวนี้พระองค์ยังใช้ชีวิตถือศีล 8 ไม่ได้บวชแต่ถือศีลเคร่งครัด เราไม่ได้เอารูปท่านมาโพสเรามีรูปท่านอยู่ อายุท่านประมาณ 60 ปีนี่แหล่ะ ท่านนั่งสมาธิ แล้วรู้อดีต อนาคต จนทราบว่าตัวเองเป็นพระศรีอารยะเมตไตย ท่านเลยเกิดความตกใจอย่างรุนแรง และท่านอยากทราบแน่ชัดว่าที่เห็นเป็นความจริงไหม ท่านเลยถามลูกศิษย์หลวงปู่มั่นองค์หนึ่ง ซึ่งตอนนี้ท่านอายุ 98 พรรษาแล้ว หลวงปู่องค์นี้ก็ตอบว่าเป็นความจริง อันนี้ที่เรารู้มา และเราเคยไปให้ท่านนั่งสมาธิดูอนาคตเราเมื่อ 12 ปี ที่แล้ว ท่านก็พูดถูกต้องทุกอย่าง เพราะเวลา 12 ปีได้พิสูจน์ว่าท่านรู้จริง เคยมีคนจากกรุงเทพไม่เชื่อ เลยพิสูจน์ เอาเงินใส่ซอง 7 ซองแล้วเอามาถามท่านว่าในแต่ละซอง มีเงินจำนวนเท่าใด ท่านตอบถูกหมด แต่ละคนที่ถามท่านจะเกี่ยวกับนรก สวรรค์ ญาติตายแล้วไปไหน อนาคตเป็นอย่างไร แค่บอกชื่อกับนามสกุลเท่านั้น ท่านจะนั่งหลับตา 1 นาที แล้วก็ตอบ ท่านเคยเล่าเรื่องเทวทัตว่าเดี๋ยวนี้อยู่นรก ขุมอเวจี ยังอีกหลายชาติอยู่ เทวทัตเป็นคู่อริท่านเมื่ออดีตชาติ เทวทัติเคยล่วงเกินท่าน เคยแม้กระทั่งเขกศีรษะท่าน อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เรารับรู้มาด้วยตัวเอง เวลาผ่านมาได้ 12 ปีแล้ว ทุกวันพระ วันสำคัญ เราไปวัดลูกศิษย์หลวงปู่มั่นเราก็พยายามมองหาท่านแต่ไม่เจอท่านเลย เรา มีครั้งนึง เรากำหนดจิตขอพบท่าน ก็เห็นท่านมายืนอยู่ตรงหน้าห่างกัน 5 เมตร ท่านมองมาที่เราแล้วยืนแผ่เมตตาอยู่ คนเยอะมากเราไม่กล้าเดินเข้าไปหาท่านเพื่อถามเรื่องอดีตชาติของตัวเองอีกเพราะเคยถามและทราบแล้วว่าชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร ยากจนแสนเข็ญแค่ไหน เพราะคำอธิฐานจิต ของเรา เราอธิฐานว่าขอให้เกิดชาติไหนให้พบพระพุทธศาสนาชาตินี้ถือว่าเรามีบุญมากแล้วที่เกิดมาเป็นคน สามารถสร้างความดีความชั่วได้ เรายืนยันว่าที่เราพูดมาเป็นความจริง

 

สนุกดี เหมือนสตาร์วอส์เลย

 

อุเบกขาคือการวางเฉย
กระทู้ ที่ดี อ่านแล้วจิตใจสงบ อ่านแล้ว ตัดกิเลสได้มากขึ้น อยากไปนิพพานมากขึ้น จะของจริง ของเทียม ผมว่าอย่าอุปาทาน อย่าอุปโหลกเองดีกว่านะครับ สู้ บำเพ็ญ ขยันทำบุญ แล้วไปดูเองจะดีกว่ามานั่งเถียงกัน ปรามาสกันจนเกิด โทษะ มีแต่ทุกข์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใ
นพระไตรปิฏกก็มีบอกไว้แล้ว พระศรีอานท่านก็ บอกผ่านพระมาลัยแล้ว ว่า ต้องทำยังไง อยากจะพบ อยากจะเจอกัน ดูถูกกันไป ดูถูกกันมา ปรามาสกันไป ปรามาสกันมา ท้ายสุด ก็ หลงกันหาทางออกไม่เจอ ติดกับ กิเลส ที่กำลังยิ้มเยาะดู พวกคุณ หลงผิดกันไม่สิ้นสุด ทั้งสงสัยเอย สับสนเอย โอ้ย ทุก สารพัด

 

แล้วท่านจะมาเกิดที่ประเทศไหนอะ