เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    แหม่ อยากเป็นลูกหลานคุณพีจัง (ผมอายุน้อยได้ที่เลยครับ)
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    แหะๆ จะไม่พูดเอ่ยอะไรก็จะว่าหยิ่ง .......กราบขอบคุณในปิยวาจาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2008
  3. Maha Jakkraput sutta

    Maha Jakkraput sutta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +915
    อยากให้น้าพี ช่วยรวบรวมพระที่หลวงพ่อได้ร่วมเสกนอกวัดศาลาดิน หน่อยได้
    ไหมครับ เอาที่น้าพีได้รู้และสัมผัสนะครับเพื่อจะได้ตามเก็บไว้บูชานะครับ [​IMG]
    หากผมเราลูกศิษย์หลวงพ่อท่านใดมีโอกาสได้แวะผ่านแถววัดที่หลวงพ่อเคยปลุกเสกจะได้เสาะหาบูชากันครับ[​IMG]
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระพุทธสัจจธรรม VS วัตถุเพื่อการมงคล

    ผมขอใช้ช่องความเห็นนี้แสดงความเห็นอีกหน่อยน่ะครับ อาจจะกระโดดเปลี่ยนอารมณ์ไปหลายช่องหน่อย แต่ตามอารมณ์จากคุณหนุ่มทิพย์มาพอได้ อยากจะพูดเรื่องธรรมะและวัตถุบ้าง แต่ขอเล่าตัวอย่างของจริง ตามสไตล์ผม ว่าไม่ได้อ่านมาอ้าง ไม่มั่วอ้างอิงเอา แต่เอาของจริงๆมาพูดกันจะดีกว่า การใช้จินตนาการของเราๆท่านๆนี่ดีในการทำงานบางประเภท แต่การใช้จินตนาการหรือ การอ่านมาเป็นสัญญาแล้วมาประเมินเล่าเรื่องจิตจากมาตรฐานของตัวเอง จะมีข้อโต้แย้งเยอะ เอาประสบการณ์มาเล่ากันฟังดีกว่า แล้วให้คนอ่านพิจารณาเอาโดยวิจารณญานของพวกท่านๆที่มาอ่านกันเอง

    ในช่วงหนึ่งของชีวิตผม น่าจะประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๒๒/๒๓ ผมยังหนุ่มอยู่มาก....แหะๆ รับราชการใส่เครื่องแบบตามหน้าที่ชายไทยตามเกณท์ อยู่เมืองชายแดนอำเภอฝาง ติดประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ในพ.ศ.นั้น สามสิบกว่าปีมาแล้ว จัดว่าภูธรมากพอสมควรน่ะครับ เป็นทุ่งนา และป่าเขียวๆทั้งนั้น ชีวิตจะเป็นแบบเรียบง่ายซ่ะส่วนใหญ่ แต่ตัวผมน่ะไม่เดือดร้อนมากมายเพราะเป็นคนติดดินคลุกฝุ่น และชอบเรื่องเครื่องรางของขลังมาตั้งนานก่อนหน้านั้น พระสงฆ์ดีๆแถวอำเภอฝาง หรือ ในบริเวณจังหวัดเชียงใหม่นั้น ผมมีเวลาผมจะไปหาหมด ตอนนั้นที่ดังๆ ผมไปมาหมดหลายๆครั้งทุกองค์ เช่น หลวงปู่แหวน ( กำลังดังแบบสุดๆใน พ.ศ. นั้น ) หลวงพ่อเกษม ( กำลังเริ่มดังมาส่วนกลาง ) หลวงพ่อวัดพระบาทตากผ้า ( องค์นี้เป็นพระดีมากๆๆๆๆๆๆครับ มหาสติดีเยี่ยม ตาท่านเป็นวงสีฟ้า พระองค์นี้ผมชอบแบบติด อันดับท็อบเทนในใจของผม ในความเห็นความชอบส่วนตัวของผมน่ะครับ ) หลวงปู่หล้าตาทิพย์ ( องค์นี้ใจดีมากๆ ) หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ( องค์นี้ก็ใจดี นักแจก แจกของฟรีแหลก ผมเลิกเหล้า ถือศีลข้อ ๕ เคร่งครัด เพราะพระองค์นี้นี่เอง ) หลวงพ่อบุญจันทร์ วัดถ้ำผาผึ้ง ( พระธรรมยุต ใจเด็ด ท่านสอนสมาธิเบื้องต้นให้ ) ท่านถา ลูกศิษย์หลวงพ่อบุญจันทร์ ( ท่านนี้พอจำได้ว่าทำผ้ายันต์ แล้วตัดต้นกล้วยขาดกลางแล้วเอาผ้ายันต์วาง ต้นกล้วยจะไม่งอกขึ้นมาอีก ) ครูบาคำเหมย ( องค์นี้ ตชด ชอบไปขอตระกรุดพอกครั่ง ตะกรุดเก้ากลุ่ม ยิงไม่ออก พูดน้อย นั่งยิ้มซ่ะส่วนใหญ่ สำเนียงเหนือมากๆฟังยาก ) และอีกหลายองค์ ที่ดังในพื้นที่ แถวแม่อาย และท่าตอน ผมลืมชื่อไป เช่น หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอฝาง ( เก่งทางโหราศาสตร์มาก ) ท่านเจ้าคณะแม่อาย ( มีบารมีสูงในการก่อสร้างวัด ) และคณาจารย์ไทยใหญ่และไทยเหนือ ในอำเภอฝางอีกหลายองค์ พระพวกนี้บางองค์หนักไปทางคาถาอาคม และเก่ง แต่อาจจะไม่ดังเข้ามาในพื้นที่ส่วนกลาง บางองค์อยู่แต่บนดอย ไม่ชอบลงมาสุงสิงคนทั่วไป เช่น หลวงปู่ครูบาสุทธิเป็นต้น

    เรื่องการชอบพระเครื่องรางของขลัง ไม่ต้องกลัว มีแนวร่วมเพียบ เก็บมาเพียบอีกเหมือนกัน ทั้งของกรุก็มี พวกพระลบ พระคง พระดอยไซ ผมชอบมาก แต่อย่างหนึ่งที่ผมกลับอยากได้มาก อยากได้มานาน กลับอยู่ที่จังหวัดธนบุรี ( พ.ศ. นั้น ) เป็นพระของขวัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เคยได้มาก็ไม่แน่ใจ เอาแห่ก็คาบลูกคาบดอก เก็ก็เจอเพียบ ของเก่าที่มีคุณยายเคยได้มาจากมือหลวงพ่อแท้ๆ น้องสาวมันก็ยึดไป เอาไปใช้อยู่ที่เมืองนอก หายเงียบ ผมก็หาไปเรื่อยๆ อยากได้แบบถูกใจสักองค์ ก็อธิฐานกับท่านเรื่อยมา

    จนมาวันหนึ่ง ผมได้รับโทรเลขจากคุณแม่ผม ว่าให้กลับกรุงเทพด่วน คุณอาทวี ( น้องสาวแท้ๆของคุณพ่อผม ) จะให้พระวัดปากน้ำกับผม พ.ศ.นั้นไม่มีมือถือ ไม่มีโทรน่ะครับ แถวที่ผมอยู่ ถ้าจะมีก็โทรศัพท์ของหลวงและวิทยุ ของส่วนตัวต้องโทรเลข หรือ จดหมายอย่างเดียว

    พอได้รับโทรเลขผมดีใจสุดขีด รีบไปลานาย ลาเสร็จก็โดดขึ้นรถประจำทางเข้า กทม ทันทีในคืนนั้น อา(ท)วีเป็นน้องสาวแท้ๆคุณพ่อผม ไปป่วยที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎ เจอคุณแม่ผมที่เป็นหมอ เลยคุยกันเพราะสนิมสนมกันดี อาวีตอนหลังเคร่งครัดด้านธรรมแบบจริงจัง ไปเรียนพระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์พุทธทาส ท่านอาจารย์พุทธทาสสอนว่า วัตถุมงคลไม่ต้องใช้หรอก พระอยู่ที่ใจ อาวีท่านนับถือท่านอาจารย์พระพทธาสมาก หลังจากนั้นการปฏิบัติอยู่กับท่านพุทธทาส ก็ถอดเอาพระวัดปากน้ำองค์นี้เก็บไว้ เพราะใจมันเลยไปแล้ว คุณแม่ผมรู้แกวเลยดักคอขอให้ผม เพราะอาวีไม่มีคนสนใจรับต่อไป คุณแม่ผมไปบอกว่า บอกว่าหลานมันรับราชการอยู่ไกลจังหวัดชายแดน ขอให้หลานเถอะ อาวี เสียดายก็คงเสียดาย ( มั้ง ) แต่ตัดใจให้ แต่บอกให้ผมไปเอาเองกับมือ เพราะท่านจะมีคำสั่งเสียให้ จึงไม่ฝากใครไว้
    ผมมาถึงกรุงเทพตอนเช้ามืด ไปปลุกแม่ผมว่ามาแล้ว หลังไหว้แม่ผมเสร็จ ก็บึ่งรถจากบ้านผมไปบ้านอาวีทันที ตอนเช้ามืดนั่นแหละ ไปถึงอาวีกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ เห็นผมก็ยิ้มให้ ไปหยิบพระมาให้ทันที อาวีบอกว่าพระองค์นี้ อาไปหาหลวงพ่อวัดปากน้ำตั้งแต่ยังสาว ประมาณ พ.ศ. ๒๔๙กว่าๆ ผมจำไม่ได้ น่าจะประมาณ ๒๔๙๓/๙๔ แต่ที่แน่ๆผมยังไม่เกิด...อิอิ อาวีทำบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำไปสามสิบบาท สมัยนั้นคงมากพอสมควร เพราะตอนเด็กๆผมยังทันกินไอติมน้ำแข็งไส ราดน้ำหวานแท่งล่ะสิบสตางค์อยู่ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้พระองค์นี้มากับมือ เลี่ยมกรอบทองเหลือง ( ไม่ใช่เงิน ) เป็นรุ่นหนึ่งไม่เคลือบ ตอนนั้นยังไม่มีเคลือบ อาวีใช้เข็มกลัดติดตัวทุกวันมาตลอดกว่าสามสิบปี นั่งสมาธิแนวสัมมาอรหังตามคำสั่งหลวงพ่อมาตลอด เป็นของดีมาก มีอภินิหารหลายอย่างกับอาวี จากสาวจนกระทั่งแก่ ผ่านเหตุการณ์มาหลายอย่างมากในชีวิต ที่หนักเลือดตาแทบกระเด็นก็มี และ ผ่านพ้นมาได้ทุกอย่าง จนมาถึงบทสุดท้ายของชีวิต และจนมาเจอท่านพุทธทาสเลยตัดใจให้ผม แต่อาวีขอผมอย่างดียว คือ อย่างไปเอาพระเครื่องไปทำเป็นเครื่องประดับ ( พวกท่านคงเข้าใจว่าบางคนใส่พระ หรือ เครื่องรางทำไมน่ะครับ ) ผมรับคำ และติดตัวพระองค์นั้นมาจนถึงบัดนี้

    PICT2772.JPG PICT2774.JPG
    พระตามรูป เคลือบยูริเทน ผมเคลือบเอง ใครจะดูแล้วตีเก็ก็ว่ากันไปน่ะครับ

    พระองค์นี้ พอได้มาชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปทันที ขึ้นมาตลอด ถูกหวยทันทีในงวดนั้น ได้สองขั้นในปีนั้นอีก ได้ไปฝึกงานที่เมืองนอกในปีนั้นอีกด้วยไปเป็นเดือนๆ เบี้ยเลี้ยงเพียบ...แหะๆ ได้เที่ยวอเมริกาอีกหลายรัฐอีกตอนขากลับ ( ผมอยู่หลังเขาแท้ๆแต่ เจ้านายที่กรุงเทพดันมาจิ้มเลือกผมไปแทนที่จะเอาพวกในกรมที่กรุงเทพที่อาวุโสกว่าผมมากไป มีคนอยากไปหลายคน เพราะได้เที่ยว ได้กระตังค์...แหะๆ)

    เล่าแบบรวบรัดและต่อมาผมออกจากราชการเพราะเบื่อระบบ หลังจากอยู่มา หกปีกว่า ผมก็ได้งานใหม่ ก็เจริญเจริญรุ่งเรืองมาเรื่อยๆ เฮง เฮง เฮง ( กราฟชีวิตขึ้นมาตลอดตามอรรถภาพ ตามความสามารถของผม แต่ทำงานหนักมากน่ะครับ) จนได้มาทำงานในทะเล พระวัดปากน้ำติดคอตลอด และสมบุกสมบันมาก ผมเลยตัดใจเอายูริเทนเคลือบเพื่อป้องกันแบบถาวร เผื่อมีอุบัติเหตุตกทะเลลงไป....แหะๆ ตามรูป
    ตามประสบการณ์ของผม แบบใช้บูชาติดตัว และติดบ้านมา พวก พระเครื่อง พระบูชา และเครื่องราง ไม่ใช่ประสบการณ์ในการเขียนหนังสือขาย เพราะไม่เคยเขียนเชียร์ใคร จนกระทั่งมาเขียนในเว็บทุกวันนี้หรือ ทางค้าขายพระก็ไม่เคยค้าขายพระ พระเครื่องที่มีประสบการณ์กับผมมากที่สุด ชัดเจน เป็นรูปธรรม ไม่ฟลุ้ค ไม่เชียร์ ไม่มีให้เอามาขาย เพราะมีแค่อย่างล่ะสององค์ คือ พระวัดปากน้ำ และพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ทั้งเนื้อว่าน ๙๗ และเตารีด ๐๕ ส่วนของพระเกจิอาจารย์ก็ของหลวงปู่พระครูบุญศรี และหลวงพ่อทรงครับ ของท่านเหล่านี้ดีจริงๆ ส่วนพระบูชาคือหลวงพ่อโสธร ที่วัดท่านทำ และพระพุทธสิหิงค์ ที่อาจารย์หลวงปู่ของผมหล่อไว้ให้บูชา เล่าเรื่องวัตถุแค่นี้แหละครับ ถ้าจะเล่าต่อต้องเปิดอีกกระทู้ เพราะจะออกนอกเรื่องที่ผมอยากกล่าว เพราะมีพระกรุ เช่นพระถ้ำเสือ ของดีสุดยอด มาเล่าด้วย

    แต่ประเด็นของเรื่องที่นำมาเล่านี้คือ ของพวกนี้จะดีแค่ไหน ก็เป็นวัตถุน่ะครับ จะดีอย่างไรก็เป็นแค่ ก้อนโลหะ ก้อนหิน ก้อนดิน ก้อนปูน ท่านจะเอาไปเทียบกับธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้เด็ดขาด ไม่มีทางถึงกัน ไม่มีทางเถียงได้ และผมไม่มีกำลังขวัญไปกล้าเถียง เพราะคุยกันคนล่ะเรื่องครับ
    ถ้าพวกท่านจะไปสายตรงๆ แบบอาวีของผม ( ตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปแล้ว ) พวกวัตถุมงคลที่เคยเป็นตัวช่วยท่านให้โน้มน้าว ไปให้ในทางพุทธานุสสติ ช่วยให้มีสมาธิ มีอิทธิฤทธิ์คุ้มครองได้บางระดับ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง อาจจะเป็นตัวถ่วงท่านเมื่อถึงจุดที่ท่านจะต้องตัดกิเลส ของพวกนี้จะเป็นตัว ห่วง ถ่วงกิเลสของท่าน ให้ล่ะไม่ได้ ตัดไม่ขาด ไม่ใช่ตัวช่วย น่ะครับ
    ท่านจะไปทางธรรม อาจจะต้องมาแนว ลด ละ เลิก อย่างเคร่งครัด จึงจะไปในทางธรรมที่ถูกต้อง ถ้าท่านจะฆ่ากิเลสของท่าน ท่านจะต้อง ลดกิเลส ละกิเลส เลิกกิเลส เพื่อให้ใจของท่านผ่องใสไร้ตัวหน่วงเหนี่ยว ท่านต้องเลิกพวกพระเครื่อง และเครื่องรางครับ อย่าเอาไปปนกัน อย่าไปนึก อย่าไปสนใจ อย่าเอาติดตัว เอาทิ้งไปเลย เหมือนจะเลิกสูบบุหรี่ ให้เลิกซื้อบุหรี่ เลิกพกหรือเลิกเก็บไฟแช็ก ขว้างไฟแช็ก ทิ้งเข้าป่าไปเลยเหมือนผม ผมทำอยู่สามครั้งถึงเลิกบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด แบบเลิกเลย เมื่อจะตัดแล้ว ต้องตัดให้ขาด แบบตัดบัวให้สิ้นใย

    ผมเคยจำได้ที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ แห่งวัดเทพศิรินทร์ ท่านได้กล่าวไว้ เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านว่า ท่านใช้การอธิฐานจิต เชิญคุณพระรัตนตรัย และ คุณ ศีล สมาธิ ปัญญาของพระเดชพระคุณ พระอุปัชฌาย์ของท่าน เข้ามาสถิตย์ในของที่ท่านอธิฐานจิต ให้เกิดศิริมงคลแก่ผู้ที่ได้นำไปสักการะบูชา และ เข้าถึงคุณพระรัตนตรัย ท่านเจ้าคุณนร นี้เป็นที่ทราบดีว่า เป็นพระสายธรรมยุต สายตรง แห่งมรรคผลนิพพาน เป็นพระที่ดีสุดยอดที่สุดกลางกรุงเทพทีเดียว แต่ท่านก็สรุปว่า การทำดีนั้น ดีกว่าการขอพรใดๆ เพราะฉนั้น ดี หรือ ไม่ดี ไม่อยู่ที่สิ่งภายนอกครับ อยู่ที่ตัวเราทำตัวเองนี่แหละ

    ผมเคยนั่งคุยกับพระเดชพระคุณหลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี หลวงปู่องค์นี้บารมีสูง แต่ทำตัวเป็นหลวงตาแก่ๆ แต่มีสติดี ไม่มีหลง ตอนนี้ท่านอาวุโสสูงสุดในนนทบุรี อายุ ย่างเข้า ๙๗ แต่ยังพอแข็งแรงโปรดญาติโยมด้วยเมตตา ท่านบอกผมเองว่า ของดีอยู่กับตัวเรานี่แหละ

    ใจของเราถ้ามีสติดีซ่ะแล้ว ไม่ไขว้ ไม่เขว๋ ได้แล้ว ท่านไม่ต้องการวัตถุมายึดถือหรอกครับ
    อย่าเอาพระเครื่องไปอ้างกันเทียบกันกับธรรมชั้นสูงแบบชนิดที่ล่ะกิเลสเพราะว่าไม่ใช่ครับ ไม่มีคำว่าใช่เลยครับ บางวิชาที่เอามาทำรูปเทพ และเครื่องรางเป็นวิชาของศาสนาอื่นซ่ะอีกด้วย เช่น พราหม์ เขมร ทิเบต อิสลาม ยังมี ฯลฯ ไม่ใช่พุทธซ่ะอีก เช่น พวกปลัด พวกตะกรุด พวกเบี้ย พวกรูปเคารพ เทพ เครื่องรางรูปต่างๆ สัก เสก เลข ยันต์ ฯลฯ เพียงแต่บางอย่างพระคุณเจ้าท่านคณาจารย์ยุคเก่าท่านดัดแปลง เอาแค่เค้าโครงมา ใส่หัวใจพระพุทธคุณ เข้าไปแทนที่ แล้วอ้างครูบาอาจารย์ ใช้พลังจิตด้วยสมถะ หรือ วิปัสสนา ณานที่หนุน ให้เกิดความขลัง เป็นเอกลักษณ์ของพุทธแบบไทยๆ ครับ

    ซึ่งในสมัยพระพุทธกาล ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน เพราะสมเด็จองค์พระทศพล ท่านทรงเมตตาอุบัติมาโปรดสั่งสอนเหล่าสรรพสัตว์ ก็เพื่อมาสอนให้ล่ะความเชื่อทางวัตถุแบบนี้แหละครับ งั้นจะว่าไป สิ่งเหล่านี้ ถ่วง ขวาง หน่วงเหนี่ยว พระนิพพานแน่นอน ไม่สามารถทำพระนิพพานให้แจ้งได้ถ้ายังติดอยู่
    การใช้พลังจิตด้วยสมถะแบบนี้ พวกนอกศาสนาก็ทำได้น่ะครับ ถึงณานสี่ด้วย เกิดมาก่อนมีพระพุทธศาสนาซ่ะอีก พระฤาษีบางท่าน อดข้าว อดน้ำ เป็นเดือนๆโดยการเข้าสมาธิก็ไม่ตาย แสดงอิทธิฤทธิ์แนวกสินได้บางประการซ่ะอีก ในพุทธกาลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านยังไปเรียนวิชามาจากพระฤาษีมาเป็นพื้นฐานก่อนจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วยพระองค์เอง

    แต่ที่แตกต่างคือ ในทางพระพุทธศาสนาคือ การถือศีลให้ตัวบริสุทธิ์ ( ต้องบริสุทธิ์น่ะครับ ) เอาสมาธิ ( ระดับหนึ่งแค่ อุปจารสมาธิ ) ซึ่งเมื่อจิตสงบได้ระดับหนึ่ง มาเดินวิปัสสนา เพื่อพิจารณากาย สังขาร ไม่เที่ยง เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อนุโลม ปฏิโลม และพิจารณา มรณานุสสติ ว่าตาย แน่ๆ น่ะเรา โน้มเอามาประหาร ฆ่ากิเลสในจิตใจ การจะทำอย่างนั้นได้ ต้องล่ะวางสิ่งที่มาถ่วงจิตใจทั้งหมดที่ห่วงกังวลให้ได้อย่างเด็ดขาด ขอโทษครับ ลูกรัก เมีย พ่อ แม่ ของรัก ยังต้องทิ้ง ต้องตัด อย่าว่าแต่พระเครื่องเลย เพราะงานนี้ใช้จิตตัวเดียว เมื่อล่ะได้เด็ดขาด ถึงไปได้ครับ ที่จะไปก็ไปแต่จิตล้วนๆ

    โม้มาหลายตอน ผมมาเขียนเรื่องหลวงพ่อทรง ก็เฉพาะเรื่องของขลังน่ะครับ ไม่ได้เอาธรรมมะมาเขียน ไม่ได้มาเขียนเรื่องจิต เรื่องการล่ะกิเลส ที่ไม่เขียน เพราะผิดสถานที่ และผมไม่มีธรรมมะนั้นในตัวครับ ผมล่ะกิเลสไม่ได้เลย ยังห่วงกิเลสอีกหลายอย่างด้วย ว่าผมติดวัตถุ ติดรสสัมผัส ชอบพระเครื่อง ชอบส่อง ชอบคุยกับคนคอเดียวกัน การไปทางธรรม ผมยังไม่ไปครับ เพราะทิ้งของพวกนี้ยังไม่ได้ ยังสนุกอยู่ ขอแวะริมทางไปเรื่อยๆ....แหะๆ

    สรุปน่ะจ้ะ พระเครื่องและเครื่องราง เป็นเรื่องของคนมีกิเลสครับ สำหรับพวกสติยังอ่อน ต้องยอมรับกันครับ พวกเราถึงมาพึ่ง มาชอบของพวกนี้ เพียงแต่พระท่านออกอุบายตะล่อมให้กิเลส มาในแนวมงคล ดีกว่าไปในแนวไม่มงคลพวกอบายมุขต่างๆครับ แค่นั้นจริงๆ เพราะถ้ามาทางนี้จริงๆ ถึงจุดแล้ว พระท่านก็แนะนำให้เลิก และทิ้งวัตถุพวกนี้ครับ และเข้ากระแสแห่งพุทธะล้วนๆ

    ถ้าจะคุยเรื่องล่ะกิเลส สร้างพระในตัว ก็น่าจะไปคุยกันในเว็บแนวนั้นน่ะครับ ในเว็บนี้ เราควรมาคุยกันเรื่อง พิมพ์ ทรง เนื้อ โค้ด ประวัติ เก็ แท้ ซื้อ ขาย ประสบการณ์อย่างไรจะดีกว่า ตรงๆ ตามหัวข้อของบอร์ด แล้วคุยกันสบายใจด้วยว่าคุยกันในระดับอนุบาลเดียวกันครับ....แหะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2008
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ไอติมน้ำแข็งใสราดน้ำหวานแท่งล่ะสิบสตางค์............. ใช่เมื่อเร็วๆนี้เองป่าวครับ...(อิอิ) อย่าบอกนะ....สตางค์รู!
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    มีรูเดียว ดีบุกด้วยอ่ะ
     
  7. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีศิษย์หลวงพ่อทรงทุกท่านครับ
    ก็เพิ่งจะว่างนะครับ ก็ขอเล่าเรื่องหลวงพ่อทรงที่ผมได้สัมผัสมาต่อกันนะครับ เวลาว่างจากงานผมก็จะหาโอกาสไปกราบนมัสการ หลวงพ่อ หลวงปู่ ที่ผมศรัทธาครับ ปกติแล้วผมจะไปกราบนมัสการหลวงพ่ออั้น วัดธรรมโฆษก จ.อุทัยธานี ก่อนก็ขับรถไปแต่เช้าครับ และผมก็ไปกราบนมัสการ หลวงปู่นะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท ครับ หลวงปู่นะ ท่านเก่งมากนะครับ เป็นศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ครับ จากนั้นผมก็ไปกราบนมัสการ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ครับ พอไปถึงวัดศาลาดิน ผมก็เข้าไปบนศาลาตรงไปกราบนมัสการหลวงพ่อทรง ก่อนเลยครับ จากนั้นก็เหมือนกับทุกครั้งครับ ผมตรงไปที่ตู้วัตถุมงคล ที่หลวงพี่วิโรจน์เฝ้าอยู่ครับ ( ถ้าบอกว่าศิษย์จากอุทัยธานี หลวงพี่วิโรจน์ จะจำผมได้ครับ ) ก็เลือกวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง ที่ถูกชะตากับผมน่ะครับ แล้วก็เอามาให้หลวงพ่อทรง เสกเป่าให้อีกครั้งนึงครับ แต่ผมมักจะมีของแถมให้หลวงพ่อทรง ท่านเสกเพิ่มให้อีกครับ ( วัตถุมงคลของหลวงพ่อ หลวงปู่ วัดอื่นๆ ที่ผมเก็บสะสมไว้ครับ ก็ตามภาษาคนที่ยังยึดติดกับวัตถุมงคลอยู่น่ะครับ ) หลวงพ่อทรง ท่านก็เมตตาครับ รับเอาวัตถุมงคลทั้งหมดไปเสกให้ครับ ที่ผมสังเกตคือ ถ้าวัตถุมงคลชิ้นไหนที่เป็นของท่าน ท่านจะนำไปจารให้ก่อนครับ แล้วเอามารวมกับวัตถุมงคลอื่นๆ ก่อนที่จะเสกเป่าให้พร้อมกันครับ ระหว่างที่เสกให้ ผมก็จะอธิษฐานไปด้วยครับ ว่าขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และหลวงพ่อทรงเป็นที่สุด เสกวัตถุมงคลนี้ให้เป็นแก้วสารพัดนึก สามารถอธิษฐานได้ตามความปรารถนาครับ ระหว่างที่หลวงพ่อทรงเสกวัตถุมงคล ดูเหมือนว่าท่านจะใช้สมาธิอย่างมากเลยครับ ดูท่านนิ่งมากครับ เหมือนกับว่าจะมีกระแสบางอย่างไหลไปสู่วัตถุมงคลที่อยู่ตรงหน้าท่านเลยครับ บางครั้งผมรู้สึกได้เลยครับว่า เย็นมาก ถึงกับขนลุกเลยครับ พอท่านเสกเป่าให้เสร็จผมก็รับวัตถุมงคลคืนมาพร้อมกับมีความปิติครับ คิดว่าหลวงพ่อทรงท่านเก่งมากครับ และผมก็รู้สึกว่า ผมมีบุญที่ได้มากราบท่านครับ
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    คุณ joke_k9 นำรูปวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่มีรอยจารมาโชว์กันบ้างซิครับ

    ต่อไปผมจะโชว์บ้าง เอาวันล่ะองค์ถ้าว่างๆจะมีโชว์ไปได้หลายเดือนครับ
     
  9. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    โอ้โห.....ใช้เงินรุ่นเก๋า ผมยังไม่ทันเลยแค่รุ่นก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓ บาท ไอติมตัดแท่งละ ห้าสิบสตางค์
     
  10. เมืองสมุทร

    เมืองสมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +5,767


    ผมว่าน่าจะหลายปีมากกว่านะครับ [​IMG]
     
  11. sridoi

    sridoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2006
    โพสต์:
    5,489
    ค่าพลัง:
    +19,352
    ผมทันก๋วยเตี๋ยว 5 บาท ไอติมตัด 1 บาท
    ขนมครก 8 คู่หนึ่งบาทครับ
     
  12. Maha Jakkraput sutta

    Maha Jakkraput sutta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +915
    ขอบคูณน้าพีมากครับ เขียนได้ใจจริงๆครับ แหะ แหะ แซวเล่นนะครับ
    ผมก็ชอบแนวนี้ครับ ถ้าวันไหนละ กิเลสได้ก็จะปล่อยวางแล้วครับสำหรับพระเครื่อง ยึดถือแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้าต่อไปครับ ตอนนี้ก็รักษาศีล 5 ให้ไม่ด่างพร้อยก่อนก็พอครับไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อนเ;aa19ป็นพอครับ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ครับ ยุคทองเงินแพงครับ ขอนอกเรื่องนิดน่ะครับ ผมต้องเอาของหลวงพ่อมาถ่ายรูปแล้วเอาโชว์หน่อย

    สตางค์รู แบบ ดีบุก และ ทองแดงจะเอามาเล่นล้อต็อกกัน ต้องเอาเหรียญใหญ่หน่อย เอาเหรียญเล็ก หรือแบบเหรียญเงิน กลิ้งได้ไม่ไกล จะถูกกิน ยายแกหวงด้วยเพราะมีราคา ยุคยายผมไปให้ ท่านจะเอาใส่ถุงแดงๆ แต่เก่างั้ก เหน็บไปด้วย ผมชอบตามท่านไป เพราะยายผมลูกเล่นเยอะ ซื้อของก็เก่ง เจอของกิน หรือ หนังสือการ์ตูนจะมีเฮ

    เรื่องของกินน่ะพอโตขึ้นมาหน่อย อันนี้กินมาหลายปี จะมีตังเมสีขาวใส่ถั่ว ( ผมชอบมาก....แหะๆ ) แบกใส่ถาดสังกะสี เทินบนหัวอาแป็มา ซื้อทีล่ะ สลึงเขาอาจจะตัดสองชิ้น ใส่กระดาษใสมาให้ โดยใช่สกัด และแท่งเหล็กอันเล็กๆตอก สกัดและแท่งเหล็กนี้ ใช่เคาะให้สัญญานหาลูกค้ามาด้วย พอได้ยินเสียงก็รีบไปบอกผู้ใหญ่ว่าตังเมมาแล้ว....แหะๆ อร่อย หากินไม่ได้อีกแล้ว เซ็งจัง

    ไอติมตัด รสโกโก้น่ะของโปรดของผมเลยล่ะ

    นอกจากนั้น ยังมีไอครีมกระติก คนขายจะแขวนบ่ามา มีกระดิ่งหนึ่งอัน คนแข็งแรงหน่อยแบกสองกระติก เดินขายก็สั่นกระดิ่งมาเรื่อย เป็นแท่งกลมๆบ้าง เหลี่ยมบ้าง ใส่ถั่วดำของโปรดของผม กินมาตั้งแต่ สองแท่ง สลึ่งหนึ่ง มาจนแท่งล่ะสลึง ถ้าเจอตอนนี้ เขายังทำอยู่ก็เอาเหมือนกัน

    มีก๋วยเตี๋ยวหลอด แบกหาบมาโดยอาซิ้ม มีหม้อก๋วยเตี่ยวหลอด หนึ่งหม้อ และหม้อ ข้าวเหนียวถั่วดำอีกข้างหนึ่ง จำราคาไม่ได้แน่นอน เพราะกินมาหลายปีมากจนโต เข้ามหาลัย...แหะๆ แต่อยู่หลักบาทต้นๆ เพราะมีราคาหน่อย แต่จำได้ว่า ตอนเด็กถ้าได้ตังค์แม่มาบาทหนึ่ง ได้ซื้อ หนึ่งบาทจะโก้มาก และกินจนจุก โดยอาซิ้มแกจะเอาใส่จาน จำได้ว่าบาทหนึ่ง สี่หรือ ห้าตัว ตัวแบนๆ ถ้าปะเหลาะแกดีๆ เพราะเป็นขาประจำ อาซิ้มเอากรรไกรตัด ตัวล่ะสามท่อน ใส่ซีอิ้วเปรี้ยวเยอะๆ ใส่น้ำส้มเยอะๆ ใส่พริกป่นอีกหน่อย บาทเดียวจุก วันไหนแจ็คพอร์ตมีผู้ใหญ่เลี้ยงอาจจะมีเฮ ได้กินข้าวเหนียวถั่วดำด้วย ...อิอิ วันอันแสนสุข

    พ.ศ.นี้ผมไปจ่ายตลาดกับ เมีย เจอก๋วยเตี๋ยวหลอดต้องซื้อ ยี่สิบบาทมีสองตัวตัวกลมๆ รสชาติสู้สมัยเด็กไม่ได้เลย ...เซ็ง
     
  14. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,264
    อธิษฐานขออย่างเดียว

    ผมเหน็บพระหลวงพ่อทรงอยู่ 2 อย่าง พระนักธรรม พระมอญแปลงเลี่ยมตะกรุด 8 มหาบุรุษฯด้านหลัง(ศูนย์สร้าง) แต่ได้มาจากวัดทางไปรษณีย์ อ่านกระทู้นี้มาตลอด อ่านพบว่าลองๆอธิษฐานขอหลวงพ่ออย่างเดียวเน้นๆเลย ผมเป็นคนชอบซื้อหวย สลากด้วย ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ช่วงนี้เว้นนาน 4 - 5 เดือน วันหวยออกก ก่อนออกไปทำงานต้องไหว้พระ เลยยกแหนบพระหลวงพ่อยกใส่หัว ขอหลวงพ่ออย่างเดียว ขอให้ถูกหวย แล้วจะทำบุญ (ผมคิดส่วนตัว ว่าการมีโชคลาภจากการถูกหวย สลาก เป็นการดูแลของครูบาอาจารย์และบุญกุศลที่เราทำมา ที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด มีผลทำให้จิตใจฟูอิ่มเอิบ เบิกบาน ทั้งที่เงินที่ได้ก็ไม่มากมาย ไม่พอทำให้รวย และเงินส่วนหนึ่งก็ทำบุญ) ปรากฏว่างวดนั้นผมถูกจริงๆ งวดก่อน ที่หวยออก 11 นั่นแหละครับ

    ส่วนงวดนี้ไม่ซื้อ ไม่คิดอยากจะซื้อ ยังอิ่มจากงวดที่แล้วอยู่
     
  15. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีศิษย์หลวงพ่อทรงทุกท่าน และสวัสดีคุณพี ด้วยครับ
    ขอประชาสัมพันธ์ก่อนเลยครับ ผมได้โทรคุยกับหลวงพี่วิโรจน์ เรื่องหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อทรง ครับ หลวงพี่วิโรจน์ได้ฝากผม มาบอกกับลูกศิษย์หลวงพ่อทรงทุกคนด้วยว่า ขอให้มาช่วยกันทำบุญหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อทรง ร่วมกันครับ ที่สำนักสงฆ์พุทธปราณี จ.สุพรรณบุรี ในวันที่ 23 ตุลาคม นี้ ส่วนเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ครับ ( เรื่องเวลายังไม่แน่นอนครับ เพราะผมยังติดต่อพระมหาแดง ยังไม่ได้เลยครับ โทรไปแล้วสายว่าง แต่ยังไม่รับสายครับ ) ผมก็สอบถามหลวงพี่วิโรจน์ว่า ใช้ทุนของใคร ท่านก็บอกว่า ใช้ทุนของส่วนรวม ทุนที่ลูกศิษย์หลวงพ่อทรงร่วมกันทำบุญถวายน่ะครับ ผมก็เลยบอกท่านว่าจะนำเรื่องหล่อพระนี้ ไปประชาสัมพันธ์ให้ลูกศิษย์หลวงพ่อทรง ในบอร์ดฯ ให้ทราบทั่วกันครับ
     
  16. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีครับคุณพี
    เรื่องให้ผมโชว์วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง ผมขอติดไว้ก่อนนะครับ แบบว่าเพิ่งหัดเล่นโพสต์อินเตอร์เน็ต ครับ ยังไม่คล่องครับ ไว้คล่องแล้วจะลองส่งรูปให้คุณพี และศิษย์หลวงพ่อทรงทุกท่าน ได้ดูกันนะครับ
     
  17. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีศิษย์หลวงพ่อทรงทุกท่านครับ
    ขอเล่าเรื่องการบูชาวัตถุมงคลติดตัว ก็แล้วกันครับ บังเอิญผมได้อ่านประวัติหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ครับ ในเรื่องได้พูดถึงการบูชาวัตถุมงคลไว้ได้ดีมากครับ ได้มีลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ ถามว่า การบูชาวัตถุมงคลดีหรือไม่ หลวงปู่ดู่ ก็เมตตาบอกว่า การบูชาวัตถุมงคลนั้นดี ดีกว่าการบูชาวัตถุที่ไม่เป็นมงคล เพราะปัจจุบัน คนเรายังมีความยึดติดอยู่มาก แล้วหลวงปู่ดู่ ก็เมตตาสอนว่า ถ้าพระองค์ไหนที่ดีจริง บริสุทธิ์จริง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือวัตถุมงคล ก็ดี ให้เราทำใจ ให้เป็นสมาธิ แล้วก็สัมผัสไปที่รูปภาพ หรือวัตถุมงคลนั้น เราจะรู้สึกถึงกระแสบางอย่าง ที่แผ่ออกมา ทำให้เราเกิดธรรมปิติ ( เกิดอาการที่เรียกว่า ขนลุก หรือ เย็น หรือ รู้สึกผมบนศีรษะตั้งได้ ) หรือที่กลุ่มลูกศิษย์สายหลวงปู่ดู่ บอกว่าเป็นการจับพลัง ( อย่างง่ายๆ ) นั้นแหละครับ ผมก็ลองทำตามครับ ผมเอาวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง มากำไว้ในมือ แล้วก็พนมมือจรดขึ้นเหนือศีรษะ ทำใจให้เป็นสมาธิ ( ก็แค่ 1 วินาทีเท่านั้นครับ ) ก็เกิดอาการธรรมปิติจริงๆ ครับ มันเป็นปัจเจตตังครับ ขอให้ลองดูก็แล้วกันครับ ไม่ยากครับ แล้วจะรู้เลยว่า หลวงพ่อทรงท่านไม่ได้ไปไหน ยังอยู่กับพวกเราเสมอครับ หลังจากนั้น ก่อนที่ผมจะเอาวัตถุมงคลติดตัว( ไม่ว่าของหลวงพ่อ หลวงปู่ องค์ไหนก็ตาม) ผมก็จะทำจิตให้เป็นสมาธิครับ เพื่อสัมผัสถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ที่หลวงพ่อ หลวงปู่ ได้อธิษฐานจิตไว้ดีแล้ว ผมก็จะเกิดธรรมปิติ ขึ้นมาทุกครั้งเลยครับ ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในบารมีของหลวงพ่อ หลวงปู่ ที่ผมจะบูชาติดตัวน่ะครับ ว่าท่านจะคุ้มครองให้ผมแคล้วคลาดปลอดภัยครับ
     
  18. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,280
    ค่าพลัง:
    +15,602
    งานหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อคราวนี้ผมคนนึงครับไปแน่นอน ไว้ไปพบกันที่วัดศาลาดิน วันที่ 23 ตุลาคม เวลา 6.30 น. เพราะพระท่านต้องไปฉันที่สุพรรณครับแล้วพบกัน รีบไปหน่อย
     
  19. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีศิษย์หลวงพ่อทรงทุกท่านครับ
    ก็เพิ่งนึกออกได้เรื่องนึงครับ ก็ขอเล่าสู่กันฟังครับ วันนั้นผมได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อทรง แล้วก็เหมือนเดิมครับเช่าวัตถุมงคลของท่าน แล้วก็มีวัตถุมงคลที่ผมเอามาจากบ้านด้วย ก็ให้หลวงพ่อทรงเสกอธิษฐานให้ครับ ( คงเหมือนกับคุณพี น่ะครับ ที่เอาวัตถุมงคลให้ท่านเสกบ่อยๆ ) จากนั้นหลวงพ่อทรง ก็คืนวัตถุมงคลให้ผม ผมก็ก้มกราบท่านครับด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบครับ แล้วผมก็นึกขึ้นได้ครับ ว่าอยากให้หลวงพ่อทรง จารกำไลข้อมือให้ด้วย ก็ถอดกำไลข้อมือ ให้หลวงพ่อทรง จารด้านในครับ อ่านแล้วเป็นตัวขอมว่า นะ โม พุท ธา ยะ มะ อะ อุ นะ ชา ลี ติ แล้วหลวงพ่อทรง ก็อธิษฐานให้อีกครั้งนึงครับ วันนั้นเลยให้หลวงพ่อทรง อธิษฐานให้ 2 ครั้งเลยครับ หลวงพ่อทรง ท่านก็ไม่ได้พูด หรือบ่นเลยครับ ผมเสียอีกที่มารบกวนให้หลวงพ่อทรง เสกเป่าอธิษฐานให้น่ะครับ หลวงพ่อทรงท่านมีเมตตามากเลยครับ หลังจากนั้นนานเท่าไร ก็จำไม่ได้ครับ มีประสบการณ์กับกำไลข้อมือที่หลวงพ่อทรงจารให้ครับ วันนั้น ผมนั่งรถเมล์มินิบัสไปธุระครับ ก็นั่งเบาะหลังสุด ด้านขวามือ ฝั่งเดียวกับคนขับ น่ะครับ แล้วผมเกิดเอะใจบอกไม่ถูกครับ ผมย้ายมานั่งที่เบาะหลังด้านซ้าย ฝั่งเดียวกับประตู จากนั้นผมก็ดูที่กำไลข้อมือครับ รู้สึกใจคอไม่ค่อยดีครับ แล้วอยู่ๆ กำไลข้อมือ ก็หลุดเองครับ ( ทั้งๆ ที่ตัวล็อกกำไล แน่นมาก ) ผมก็เลยก้มลงไปเก็บกำไลข้อมือ ที่ตกอยู่ที่พื้นรถ ตรงที่ผมนั่งแหละครับ จังหวะนั้นเองมีรถเมล์อีกคันหนึ่งพุ่งมาชนด้านขวามือ ตรงที่ผมนั่งอยู่เมื่อกี้นี้ครับ กระจกหลังแตกเลยครับ โครงรถด้านหลังขวามือ ( ฝั่งเดียวกับคนขับ ) ถึงกับยุบเลยครับ ดีว่าไม่มีใครนั่งที่ตรงนั้นน่ะครับ เลยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บครับ จากนั้นผมถึงกับเอากำไลข้อมือยกขึ้นท่วมหัว อธิษฐานขอบคุณบารมีหลวงพ่อทรงเลยครับ ที่ให้ผมแคล้วคลาดปลอดภัยครับ สรุปแล้วผมก็ต้องต่อรถเมล์คันใหม่ครับ แต่คุ้มที่ผมไม่ได้เป็นอะไร เพราะบารมีหลวงพ่อทรงคุ้มครองแท้ๆ เลยครับ
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    อันนี้ เขาเรียกว่าเปิดประตูรับลาภครับ ถ้าท่านไม่เล่นแบบงมงาย

    การเล่นทุ่มเงินแบบถ้าพลาดลำบากลูกเมียนี่ ไม่ดีแน่นอนครับ เพราะโอกาสพลาดมีเป็นล้านๆ โอกาสได้น่ะแค่หนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...