มีมติให้ดำเนินคดี พระเกษม

ลืมถาม ว่าพระวัดนี้ มีการเข้าพรรษา ทำอุโบสถร่วมกับวัดอื่นหรือไม่

มีการสอนที่ เน้นไม่ให้ชาวพุทธ ไหว้พระสวดมนต์

การเสพเมถุน ความสุขในเวลานั้น สามารถโอนบุญให้คนอื่นได้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูก

มีการทำลาย พระพุทธรูป อันเป็นสัญลักษณ์ของชาวพุทธที่นับถือกันต่อๆมา โดยการใช้เท้าเหยียบ การทำลายโดยการใช้น้ำกรดลาด และขุดฝังทำลาย

พระพุทธรูปห้ามเอาไว้ในบ้าน เพราะเป็นอันตรายต่อผีบ้าน ผีเรือน เบียดเบียน ภูมิผี วิญญาณต่างๆ


มัวแต่สนในเรื่องเหล่านี้ .....ลืมถาม ว่า

พระวัดสามแยกนั้น มีการร่วมทำอุโบสถกับวัดอื่นๆ หรือไม่

ถ้าร่วมทำอุโบสถแล้ว จะกราบไหว์พระพุทธรูปไหม

มีการแสดงอาบัติต่อกันหรือไม่..

พระผู้มีพรรษามาก พรรษาน้อย มีการปฎิบัติต่อกันแบบไร

สื่อ หรือ การเผยแพร่ อย่างเช่น อินเตอร์นี้ ที่ใช้กันในวัด มีการเปิดเข้าชม เวปไซด้ที่มีรูป อันชวนให้เกิด กามราคะ หรือไม่ มีการป้องกัน ไม่ให้เข้าเวปไซด์ที่ส่อไปในทางเสื่อมแห่งธรรม วินัย มีการสมัครเล่นเกมส์ กับคฤหัสถ์ หรือ มีการใช้อินเตอร์เพื่อประโยชน์เป็นการส่วนตัวของวัดนี้หรือไม่.

มีการเรียน การสอนนักธรรม ชั้นต่างๆหรือไม่.

อยากรู้ว่า ทางวัดสามแยก มีการปฎิบัติอย่างไรในข้อสงสัยของผม เรียนเชิญ ท่านสมาชิกที่ ได้เข้าไปสัมผัส และได้ศึกษาธรรมคำสั่งสอนของพระเกษม ได้ตอบข้อข้องใจ เป็นความไม่รู้ของผม (อย่าถือสาเลย เป็นเพียงความสงสัย)หรือว่าทางวัดสามแยกจะให้คำตอบเองเลย ยิ่งดี เพื่อผมจะได้หายสงสัย ว่าการปฎิบัติเป็นเช่นไร...

 

เขาก็บอกอยู่ปาวๆ ว่าพระพุทธรูปเป็นสื่อน้อมใจไปเพื่อระลึกถึง แค่นี้ก็น่าจะเข้าใจ จริงอยู่พระพุทธรูปเป็นทองเหลืองย่อมไม่ใช่พระวรกายพระพุทธเจ้าเป็นแน่ แต่ที่คนโบราณเขาสร้างขึ้นเขาไม่ได้คิดตื้นๆเพียงเพื่อให้คนเข้าวัดอย่างคุณคิดหรอก เขาสร้างขึ้นเพื่อเป็นการบูชาน้อมระลึกถึง อย่างกับรูปถ่ายพ่อแม่เรา มันก้เป็นแค่กระดาษ คุณจะคิดแค่นั้นก็ได้ ไม่ผิด ไม่เคารพไม่ไหว้ก็ได้ แต่คนที่เขาไหว้รูปถ่ายพ่อแม่ตนเองเขาก็ไม่ได้ผิดเช่นกันแต่ถ้าคุณเอารูปพ่อแม่ ไปเหยียบไปเผา เอานำกรดไปราด ไปเขียนป้ายว่าอย่าไปไหว้ มัน!!!! คนที่เป็นลูกจะรู้สึกเช่นไร เพราะเขาใช้เป็นเครื่องระลึกถึงพ่อแม่เขา ถึงแม้มันจะเป็นแค่ภาพบนกระดาษ ฉันใดก็ฉันัน้น พระพุทธรูปก็เช่นเดียวกัน ซึ่งชาวพุทธถือเป็นเป็นเจดีย์(ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงไว้แล้ว)

อย่างหนึ่งเป็นเครื่องเข้าน้อมระลึกในพุทธานุสติ และการที่เขาก็บอกอยู่แล้วว่า กำลังใจคนต่างกัน บัวยังมี 4 เหล่าเลย กุศโลบาย ที่ใช้ในการสอนก็ต่างกัน ไม่อย่างงั้นพระธรรมจะมีทำไมตั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ ทั้งๆที่ที่สุดแล้วมันก็คือรวมที่อริยสัจ 4 ทั้งหมด

และการที่เขาปลุกเสกวัตถุมงคลถ้าคุณคิดแค่นั้นถือว่าคิดน้อยเกินไป การที่ปลุกเสกวัตถุมงคลเขาถือเอาพุทธานุภาพพระบารมีแห่งองค์พระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ ถึงแม้พระองค์จะปรินิพพานไปแล้วแต่พระพุทธบารมียังอยู่ ไม่ได้หายไปไหน คุณก้ทราบไม่ใช้เหอรเพียงแค่ใจเราน้อมระลึกถึงก็สำเร็จแล้ว การที่พระเข้าไปพุทธาภิเสก พวกท่านก็ระลึกถึงพุทธคุณเป็นสำคัญ ดังนั้น เมื่อเทวดาท่านรู้ท่านจึงเต็มใจที่จะมาอภิบาลรักษาวัตถุมงคลนั้นๆ เพราะเทวดาท่านซาบซึ้งในพุทธานุภาพและก็นับถือพุทธเหมือนกัน เเพราะฉะนั้นไม่แปลกเลยที่ท่านจะมา และการที่ท่าน มา ก็เพื่อให้เราระลึกถึงอยู่แล้ว เป็น เทวตานุสติ

อันนี้เป็นของดีนะคับ การระลึกถึงเทวดานี่ เพราะท่านจะเป็นเทวดาได้ตอ้ง มีหิริ และโอตัปปะ และพุทธเจ้าพระองค์ท่านก็ทรงยกย่อง ถ้าคุณอ่านในพระไตรปิฎก คุณลองอ่านประวัติท่านพระอินทร์ดูนะคับ ว่าพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ไว้ว่าต้องบำเพ็ญธรรมขนาดไหนถึงได้เป็นพระอินทร์ อีกอย่างเทวดาหลายท่านก็เป็นพระอริยเจ้านับไม่ถ้วน (ไปอ่านดูเอาในพระไตรปิฎก)....อีกอย่างอย่างทีบอกคนเรากำลังใจไม่เท่ากันเขาอาจจะกำลังใจไม่ดีเท่าคุณจึงจำเป็นต้องมีวัตถุมงคลเป็นเครื่องสื่อ เพื่อเป็น พุทธานุสติ ธรรมมานุสติ สังฆานุสติ เทวตานุสติ เพราะว่าเขาอาจจะเผลอเรอไม่ได้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าตลอดเวลาอย่างคุณก็ได้คับ อย่าไปว่าเขาเลย

คนจะเข้าถึงพระศาสนามันต้องเข้าใจได้ทั้ง เปลือก กระพี้ และแก่นคับ ได้ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ สรุปแล้วในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ทางใครทางมันละกันคับ ไปวัดกันตอนตายแล้วกัน

 

ต่างคนต่างมุมมองและต่างความคิดครับ
คุยกันดี ๆ อธิบายด้วยเหตุด้วยผล น่าจะเข้าใจ เพราะยังไงก็ชาวพุทธด้วยกัน
ไม่ใช่นักการเมือง

 

เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ สาธุ

 

ปริศนาธรรม !!!!

 

เดือนก่อนผมได้รับหนังสือของหลวงพ่อเกษมเรื่องโอนบุญจากวัด
แห่งหนึ่งที่ อยุธยา
อ่านครั้งแรกก็รู้สึกว่าแปลกและไม่เหมือนกับคำสอนครูบาอาจารย์ที่เคยสั่งสอนมา
เช่นเรื่องผลกระทบของการสวดมนต์ และท่านแนะนำให้เลิกการสวดมนต์ ให้หันมา
ทำใจบริสุทธิ์นึกถึงบุญกุศลก็เพียงพอ
แต่ถ้ายังอยากสวดมนต์ท่านก็บอกให้เราแจ้งแก่วิญญาณชั้นต่ำที่อยู่รอบเคหะสถาน
ที่ไม่ชอบการสวดมนต์ไปสถิตที่อื่นก่อน เพราะอานุภาพการสวดมนต์นั้นมีผลกระทบ
ต่อวิญญาณสัตว์จำพวกเทวดาชั้นต่ำ และอสุรกาย ให้ได้รับความเดือดร้อน

ตอนแรกก็รู้สึกแปลกใจว่าจะเป็นไปได้หรือ...
แต่พอลองมานึกถึงตำราที่เคยอ่าน และประวัติครูบาอาจารย์ที่ผ่านมา
ก็มีหลายครั้งที่ท่านพบกับวิญญาณที่เป็นสัมมาทิฏฐิกลั่นแกล้ง เพราะวิญญาณ
พวกนี้จะไม่ชอบผู้ทรงศีล ถ้าหากมีผู้ทรงศีลอยู่ใกล้ ๆ เขาจะต้องเดือดร้อน
และต้องย้ายไปที่อื่นชั่วคราว

และก็ลองนึกย้อนกลับมาเทียบกับชีวิตประจำวัน
โดยส่วนตัวข้าพเจ้าชอบสวดมนต์และฟังเทศน์เสมอ
ก็เกือบทุกวันก็ว่าได้

แต่ส่วนใหญ่จะสวดมนต์หรือฟังธรรมในที่เงียบ ๆ หรือตอนอยู่คนเดียว
เพราะหลายครั้งที่ขับรถไปกับเพื่อน ๆ ที่เขาไม่ชอบธรรมะ
ข้าพเจ้าสังเกตว่าทุกครั้งที่เปิดธรรมะ เขาจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
ร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก

 

สื่อ หรือ การเผยแพร่ อย่างเช่น อินเตอร์นี้ ที่ใช้กันในวัด มีการเปิดเข้าชม เวปไซด้ที่มีรูป อันชวนให้เกิด กามราคะ หรือไม่ มีการป้องกัน ไม่ให้เข้าเวปไซด์ที่ส่อไปในทางเสื่อมแห่งธรรม วินัย มีการสมัครเล่นเกมส์ กับคฤหัสถ์ หรือ มีการใช้อินเตอร์เพื่อประโยชน์เป็นการส่วนตัวของวัดนี้หรือไม่.

มีการเรียน การสอนนักธรรม ชั้นต่างๆหรือไม่.

อยากรู้ว่า ทางวัดสามแยก มีการปฎิบัติอย่างไรในข้อสงสัยของผม เรียนเชิญ ท่านสมาชิกที่ ได้เข้าไปสัมผัส และได้ศึกษาธรรมคำสั่งสอนของพระเกษม ได้ตอบข้อข้องใจ เป็นความไม่รู้ของผม (อย่าถือสาเลย เป็นเพียงความสงสัย)หรือว่าทางวัดสามแยกจะให้คำตอบเองเลย ยิ่งดี เพื่อผมจะได้หายสงสัย ว่าการปฎิบัติเป็นเช่นไร...<!-- / message --><!-- sig -->



แค่คลิ๊กก็รู้แล้วครับ ไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่ศึกษา ก็ไม่รู้ครับ

อ่านที่นี่ครับ
http://www.samyaek.com/

ฟังที่นี่ครับ
http://www.samyaek.com/mambo/index.php?option=com_content&task=category&sectionid=7&id=126&Itemid=44




คำตอบที่คุณอยากรู้ คุณก็จะได้เองครับ
ไม่มีผู้ใดตอบให้คุณหายสงสัยได้หรอกครับ.........ถ้าคุณไม่ศึกษา
มันก็จะมีคำถาม(ในเชิงตรรกะ)เกิดขึ้นตลอดเวลาครับ ถ้าเรายังไม่เข้าใจบ้าง

เพราะคำถามไม่ได้เกิดจากการที่ศึกษาแล้วไม่รู้ ในคำสอนแล้วเราขอถาม
แต่คำถามเกิดจากไม่รู้ และไม่ยอมรับในการที่จะศึกษา
เพราะฉะนั้น คำตอบที่คุณได้ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถตอบให้คุณหายสงสัยได้หรอกครับ เพราะถึงมีผู้ตอบ คุณก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดี

 

ผมขอให้กำลังใจพระเกษมครับ ท่านทำถูกแล้ว

 

ท่านทำถูกแล้ว แต่เราจะเชื่อไหมเท่านั้นแหละ ผมขอยืนหยัดกับหลวงปู่ครับ

 

พระพุทธเจ้ามีคุณอนันต์ดังนั้น จึงสมควรแล้วที่เหล่าสาวกพุทธบริษัทจะกล่าวคำว่า "พุทธโธ" อันเป็นพุทธานุสสติอันประเสริญเป็นเหยื่อล่อ อันจะพึงติดคือมรรคผล อันเป็นคุณภายในคุณอันอริยะ
ถ้าสงฆ์ได้ไม่เห็นคุณลบหลู่ สงฆ์นั้นไม่ใช่พุทธบุตรองค์พุทธชิโนรส
ท่านกล่าวว่าสงฆ์นั้นคือ อรัชชี สมควรแล้วที่จะต้องไล่ออกจากเขตของร่มกาสาวพัส

ดังคำกล่าวของมหาวีระ(หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ)
ปัจจุบันนี้เราจะอยู่ร่วมกับคนชั่วไม่ได้แล้ว ต้องขับไล่อรัชชีให้ออกจากบวรพุทธศาสนาเพื่อให้ศาสนาทรงให้ได้ครบ 5000 ปี ตามพุทธทำนาย

 

สนับสนุนด้วยครับ

 

นี่หรอที่ทางวัดนำมาสอน ท่านไม่เห็นประโยชน์ของการเป็นพระภิกษุ และการเป็นพุทธศานิกชนเล

โปรดใช้วิจารณาญาณ ในการอ่าน บุคคลที่พิมพ์ข้อความนี้ออกมา ต้องการแสดงคุณหรือโทษ ของพระภิกษุหรือพุทธศาสนิกชน ต้องการตำหนิติเตียนพระภิกษุสงฆ์หรือพุทธบริษัท ต้องการให้เราเห็นโทษหรือประโยชน์

หมวดวินัยพระ
เงิน-ทองไม่ควรถวายภิกษุ
ภิกษุแสวงหาเงิน – ทอง ไม่ใช่...
พระอรหันต์ที่ศึกษาน้อย...ทำให้ผู้เกี่ยวข้องบาปมาก
สิ่งของอันไม่ควรถวายภิกษุ
เมื่อเห็นพระทำผิด...โยมก็เตือนได้
เมื่อเตือนพระไม่ฟัง...ไม่เลื่อมใสก็ได้
ต้องไม่ถือตามอุปัชฌาย์ – อาจารย์ที่ผิดวินัยและโง่เขลา
ความประพฤติของภิกษุในกาล..?
ภิกษุทุศีล....คือเสนียด...คือโจร
ภิกษุที่เลวทรามทำให้เทวดา – มนุษย์เดือดร้อน
พระที่เทศน์แหล่ – เทศน์ร้อง – เทศน์รำ…ผิด
พระที่ทำท่าสำรวม – สวดมนต์ เพื่อลาภ เป็นผู้มีความปรารถนาลามก
พระธุดงค์เพื่อโชว์ชาวบ้าน...ชั่ว
ภิกษุจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาพระวินัย
อานิสงส์การเรียนรู้พระวินัย
ประโยชน์อย่างยอดเยี่ยมของพระวินัย
เรียนธรรม – วินัย ของพระพุทธเจ้าดีกว่า
อธิบายคำว่าพระสงฆ์
จริงหรือเปล่า...ที่บอกว่าเคารพ...?
บอกว่าตนเองเป็นพระ (แต่ไม่ใช่พระ)
รู้จัก...เล่ห์เหลี่ยมมารยาของคนหัวโล้นห่มเหลือง (บางคน)
พระพุทธเจ้าสอนว่า...
พระประพฤติไม่ดีมีโทษหนัก
พระเถระนี่แหละเป็นหัวหน้าล่วงละเมิด
ใครที่คิดจะบวช เลือกดูสำนักที่จะบวชด้วยให้ดี
คบหาสมาคมกับพระทุศีล ก็เหมือนจับงูพิษเปื้อนขี้แหละนะ
จะมีใครกล้าเอาไปเตือนพระทุศีลบ้างนะ?
แต่งกายคล้ายพระก็จริง แต่เป็นพระนอกศาสนาพุทธ
ว่าด้วยเรื่องภิกษุผู้มีชื่อเสียง
พิจารณาดูพระว่าควรเคารพหรือไม่ควรเคารพ...อธิบายโดยพุทธเจ้า
จงกำจัดและขับไล่ผู้ที่หลอกลวงว่าเป็นภิกษุออกไปจากพุทธศาสนาเสีย
หมวดความรู้ทั่วไป

แม่ธรณีไม่ได้ช่วยพระโพธิสัตว์วันตรัสรู้
สายงานการปกครองของสวรรค์
นรกในท้องแม่
สัตว์ที่อยู่ในร่างกายคน
ผู้ที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน....หาได้ยากยิ่ง
เหตุแห่งการฝัน 4 อย่าง
พระพุทธ – พระธรรม – พระสงฆ์ เป็นของกลาง
ผู้ติดในรูป....อันตราย
กล่าวธรรม – วินัย ด้วยภาษาที่เข้าใจ
เส้นผมของพระพุทธเจ้าเมื่อได้ไปก็ต้องเอาไว้เป็นของกลาง
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก
ควรที่จะทำความดีด้วยความถูกต้องนะ พี่น้องทั้งหลาย
ผู้หญิงที่มีผัวและที่กำลังจะมี ...ควรรู้
หน้าที่ที่ดี...ของคนมีผัว
ลักษณะของการอยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนเป็นผัว – เมียกัน

หมวดทาน-อุทิศ

อุทิศบุญให้ผู้ล่วงลับ..ทันที
ให้อาหารสัตว์ก็อุทิศบุญได้
เมื่อทำบุญแล้วควรอุทิศให้ท่านเหล่านี้
อุทิศบุญไม่พอ...เทวดาไม่ช่วย
ถ้าไม่แน่ใจ...ก็ฝากบุญพญายมไว้ก่อนนะ
ทำบุญกับพระทุศีล....ไม่ได้บุญ
ทำบุญกับนักบวชที่ไม่มีศีล...ไม่ได้บุญ
สนับสนุนผู้ทุศีล...ย่อมถึงความพินาศ
การให้ทานของคนฉลาด
ภิกษุทุศีล...คือเสี้ยนหนามของชาวบ้าน
ทานที่เป็นบาป
อุทิศบุญบ่อยๆ เพื่ออนุเคราะห์แก่เปรตทั้งหลาย
เมื่อให้ส่วนบุญ...ได้บุญมากขึ้น
เมื่อให้ส่วนบุญ...ได้บุญมากขึ้น (2)
ทานที่เลือกให้พระพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญ
ทำบุญให้เทวดาบริเวณที่อาศัยอยู่
ทิ้งของโสโครกเพื่อให้สัตว์เล็กๆน้อยๆ ได้กิน ก็ยังได้บุญ
ความแตกต่างของผลทาน
นาคก็สามารถช่วยเราได้นะ ถ้าได้อุทิศบุญให้พวกเขา
การให้ทานของคนฉลาดพร้อมการอธิบายโดยพระพุทธเจ้า
เมื่อให้ทานอย่างถูกต้อง ผลของทานย่อมเป็นเช่นนี้
พวกให้ทานโดยไม่หวังผลนี้นะ ไม่บ้าก็เซ่อมาก ม๊าก มาก
พระอินทร์ก็ยังต้องการส่วนบุญเหมือนกันนะ
ท้าวเวสสวัณเองก็ต้องการส่วนบุญเหมือนกันนะ

หมวดการงานและอาชีพ

อาชีพที่ชาวพุทธไม่ควรทำ
อาชีพที่ลามก
เทวดาช่วยค้าขาย
ค้าขายธรรม เป็นบาป
ธรรมของพระพุทธเจ้าประเมินค่าไม่ได้
ผู้พิพากษา...ต้องรู้
ผู้ค้าขาย...ต้องรู้
อันตรายของวงการบันเทิง
ตีราคาสินค้าไม่เป็นธรรม มีนรกรองรับ
เทวดาก็สามารถช่วยทำการค้าขายได้


หมวดเครื่องรางของขลัง, สวดมนต์, ที่พึ่ง, มงคลตื่นข่าว

รูปเหมือนพระพุทธเจ้าไม่มี
รูปเหมือนพระพุทธเจ้า...ไม่มี (อีกที)
ธรรม – วินัย ที่พระองค์ตรัสต่างหากเล่า คือตัวแทนพระศาสดา
ความหมายของอุทเทสิกเจดีย์ที่แท้จริง
แต่พระพุทธเจ้าให้ถือเจดีย์คือธรรม (คำสอนของพระองค์)
วัตถุทั้งหลายทั้งปวงพระพุทธเจ้าไม่ใ้ห้ท่านทั้งหลายเอาเป็นที่พึ่งหรอกนะ
พระพุทธรูปที่ทำกันเกร่ออยู่ตอนนี้ พระพุทธเจ้าไม่เคยบัญญัติ
รูปร่างทั้งหลายพระพุทธเจ้าติเตียนนัก รวมทั้งพระพุทธรูปในปัจจุบันนี้ด้วย
พระพุทธรูปจึงไม่ใช่พระรัตนตรัยโดยประการทั้งปวง
ชาวพุทธที่สกปรก
คุณสมบัติของพระรัตนตรัย ที่พระพุทธรูปไม่มี
วัตถุทั้งหมดไม่ว่ารูปอะไรก็เป็นอย่างนี้แหละ...ไม่มีข้อยกเว้น
บ่วงแห่งมาร
รักสิ่งใด...ตายแล้วก็จะไปอยู่กับสิ่งนั้น
อาลัยสิ่งใด...ตายแล้วไปเกิดอยู่กับสิ่งนั้น
ผู้พอใจในรูปร่างทั้งหลาย....ต้องรู้
ชะตากรรมในโลกหน้าของผู้ไม่มีพระรัตนตรัย...เป็นที่พึ่ง
พึ่งพุทธ – ธรรม – สงฆ์ (อย่างถูกต้อง) ยอดเยี่ยมนัก
พึ่งพระพุทธ – ธรรม – สงฆ์ (อย่างถูกต้อง) ...นี้...ดีนัก
เรียนรู้เรื่องการสวดมนต์
เรื่องเครื่องรางของขลังกับวัดสามแยก
เรื่องพระธาตุทั้งหลายเป็นของกลาง
อันตรายของน้ำมนต์
ผู้ชื่อว่าล่วงพ้นโทษแห่งการถือมงคลตื่นข่าว
ฤกษ์งามยามดีในพุทธศาสนา
ออกจากการบวงสรวงที่ผิด...สู่การบูชาที่ถูกต้อง
รู้จัก...การถือมงคลผิดๆ ของผู้ที่ไม่รู้จริงทั้งหลาย
ความยอดเยี่ยมที่สุดของศาสนาพุทธ
สาวกของพระพุทธเจ้าต้องมีความคิด - การกระทำเหมือนเจ้ามหานามศากยะนี้
การทำความดีในศาสนาพุทธ หาได้อย่างยากยิ่งนัก ท่านทั้งหลายจึงไม่ควรประมาทในการศึกษาศาสนา
เมื่อชาวพุทธเกิดความหวาดหวั่น
วิธีถึงพุทธ – ธรรม – สงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง
ตัวอย่างของผู้ถึงพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
ผู้ถึงพระรัตนตรัยแบบหลอกๆ ย่อมมีโทษแก่ตน
ภิกษุปลุกเสกเลขยันต์....ผิด
ประเพณีการเก็บกระดูกของบรรพบุรุษเช่นพ่อ – แม่ ไว้ ไม่มีประโยชน์เลย
เมื่อบรรพบุรุษเช่นพ่อ – แม่ ตายไปแล้ว ทำอย่างไรถึงจะมีประโยชน์
ผู้ชอบสวดมนต์...ห้ามพลาด


หมวดเตรียมพร้อมสู่ภาวนา

เรื่องนิพพาน..ตามคำสอนพระพุทธเจ้า
อธิบายเรื่อง "นิพพาน" โดยพระพุทธเจ้า (อีกครั้ง)
นิพพานมีชั้น – นิพพานเป็นของเรา เป็นคำสอนของพวกไร้สาระสิ้นดี
นิพพานปลอม – นิพพานนอกพุทธศาสนา จากผู้บอกกล่าวเลอะเทอะ มีอยู่เยอะนะ
พุทธเจ้าว่าไง พวกเราเอาตามนั้น
เมื่อมารแปลงกายเป็นพระพุทธเจ้า...เพื่อทำลายศรัทธาของชาวพุทธ
นาคผู้มีฤทธิ์ก็เนรมิตให้เป็นรูปร่างดั่งพระพุทธเจ้าได้..เหมียนกัน
ศีลยังไม่ดีไปทำกรรมฐาน...ผลคือบ้า
ศีลยังไม่ดี – กังวลยังมี ห้ามทำกรรมฐาน
ผู้ที่สมควรเรียนมหาสติปัฏฐานสูตร
โปรดระวัง....นิพพานทันใจ
คิดอีกที....นิพพานเป็นของเรา
เรื่องนิพพานของปุถุชน....จากพระโอษฐ์
เรื่องนิพพานของพระพุทธเจ้า....จากพระโอษฐ์
องค์ประกอบที่ทำให้ศีลขาด
บอกกรรมฐานผิด....ศิษย์เป็นบ้าได้
ควรเรียนกรรมฐานกับผู้แตกฉานพุทธพจน์
พระอรหันต์สาวกก็ยังมีสงสัย
ถ้าจะถือแต่จิต....อันตรายมาก
หลวงพ่อเกษมสอนว่า
ลำดับของศาสนาพุทธ
การศึกษาตามลำดับ
ข้อปฏิบัติเบื้องต้นให้ก่อนทำสติปัฏฐาน
พระพุทธเจ้าสอนข้อปฏิบัติเบื้องต้นก่อนทำสติปัฏฐาน
อานิสงส์ของศีล
ศีลคือพื้นฐาน
อริยะมรรค – ผล ไม่มีในคำสอนของศาสดาอื่น
พระพุทธเจ้าคือกัลยาณมิตรที่ดีที่สุด
เดินทางผิด...ก็ผิดตลอดสาย
บริขารของสมาธิที่ถูกต้อง
ธรรมะของพระพุทธเจ้านี้ง่ายจริงๆละหรือ ?
ผู้ที่จะเรียนธรรมของพุทธเจ้าให้เข้าใจได้ ต้องมีอุปนิสัยที่สั่งสมมานานแล้ว
ใครคิดจะผูกแพคืออริยะมรรคเพื่อข้ามวัฏฏะจักร สำรวจดูความพร้อมของตนเองให้ดีด้วยนะ
ชื่อว่า "นิพพาน" ย่อมไม่มีการมา – การไป ใดๆ ทั้งสิ้น
ฤทธิ์หรืออำนาจใดๆ ไม่สามารถบันดาลให้ใครๆ ไปนิพพานได้หรอกเด้อ
หลวงพ่อเกษมสอนเรื่อง อรหันต์ กับ พระอรหันต์์
ข้อปฏิบัติเบื้องต้นอีก 6 อย่าง ที่นักทำกรรมฐานทั้งหลายต้องรู้
ยุคสมัยที่ไม่สมควรทำความเพียร


ขอเสริมนิดๆ คนที่เข้าใจ คนไหนเข้าใจถูกก็ดี เข้าใจผิดก็โทษมหันต์ เพราะอะไร ก็เพราะถ้าเกิดเป็นการชี้โทษคนอื่น ถ้าเราไม่บริสุทธิ์แล้ว การแสดงหรือพิมพ์ข้อความนี้ออกมาจะแฝงไปด้วยอคติ การไม่ชอบ การขัดเคือง ก่อโทษต่อตัวเองมากกว่า เป็นการคิดมองคนอื่น ติเตียนคนอื่น เป็นการเพ่งโทษคนอื่น ..

 

เห็นด้วยครับ.......
คุณของพระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งใหญ่และบริสุทธิ์หาที่เปรียบมิได้
แต่คงมิได้หมายถึงหลวงปู่ใช่ไหมครับ.........เพราะท่านมิได้ลบหลู่พระองค์หรือผู้ที่มีความเคารพพระพุทธองค์ ท่านตำหนิความเชื่อเรื่องพระพุทธรูปครับ

 

นี้คือคำสอนของคริสเตียนครับ มันน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกท่านครับ
"จงอย่ากล่าวโทษผู้อื่น แล้วท่านจะไม่ถูกกล่าวโทษ"
"จงรักเพื่อนบ้าน เหมือนรักตนเอง"

 

ใจเย็นๆครับคุณคนตาบอด

แล้วคุณเข้าไปอ่าน ศึกษาในแต่ละหัวข้อยังครับ
ถ้ายัง......ก็ยังไม่เข้าใจครับ
ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนเรียนเชิญไปถามต่อในเว็บบอร์ดทางวัดได้เลยครับ
(แต่ได้โปรดอ่านกติกาก่อนตั้งกระทู้ถามด้วยนะครับ)


มิฉะนั้น ก็เหมือนกันกับในกรณีข้อความ "พบวัดพิลึก สมภารห้ามไหว้พระพุทธรูป"
เพราะทันทีที่เราอ่านข้อความนี้แล้ว เราจะเกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นในขณะแรกและบางทีก็ต่อเนื่องจนไปบดบังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้นด้วยครับ เพราะมันเป็นข้อความที่ขัดความรู้สึกทอีกทั้งไปขัดกับความรู้ ความเชื่อของเรามาตั้งแต่แรกด้วย แต่ถ้าเราไม่ศึกษาเราก็ไม่เข้าใจแนวคิด แนวคำสอนของทางวัดหรอกครับ

 

เป็นเรื่องของกรรมโดยแท้ นึกแล้วก็อดสงสารพระท่านไม่ได้ ตั้งใจสอนให้คนหลุดพ้น
ถ้าท่านไม่สุดโต่ง เดินสายกลางเสียหน่อย รับฟังเสียงพุทธศาสนิกชนเสียหน่อย แค่เอาป้ายออกตั้งแต่แรกก็คงไม่มีเรื่องมีราวจนถึงแบบนี้ ลูกศิษย์ลูกหาก็ตัวดียุยงส่งเสริม แบบว่า เอาสู้ตาย ..หลวงพ่อ ผลสุดท้าย.. ก็แบบที่เห็นนั่นแหละ..แต่ผมยังคิดว่าท่านยังมี ประโยชน์กับพระศาสนาอยู่มากถ้ายอมลดความสุดโต่งลงมาสายกลาง การกระทำหรือแนวสอนที่เสี่ยงต่อโลกะวัชชะ หรือกฏของพระศาสนาโดยทั่วไปให้งดเลิกเสีย คงจะทำให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเลิกกังขา และหันมาร่วมอนุโมทนากับท่านครับ

 

ผมเคารพพระภิกษุทุกรูปเพราะว่าผมรู้ว่าพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบมีอยู่ไม่ได้เพ่งโทษ.

ผมรู้ว่า พระเกษมเจตนาดี ไม่ได้ต้องการให้ศาสนาพุทธเสื่อมเสียเลย.. แต่พฤติการที่ใช้เท้าเหยียบ ใช้น้ำกรดรดองค์พระพุทธรูป ฝังพระพุทธรูป ทำลายพระพุทธรูปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผิดทางพระวินัย ผิดทั้งทางเจตนา เป็นการทำลายวัตถุ วัตถุซึ่งได้จากศรัทธาญาติโยม เป็นการทำร้ายน้ำใจ ของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใส เปรียบเหมือน การให้สิ่งของ ที่เด็กให้กับผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ให้กับเด็ก พอเราให้ปุ๊บ คนที่รับก็ทำร้ายลงทันที ต่อหน้าต่อหน้า ถ้าเป็นเด็กก็จะร้องไห้ภายในวินาทีนั้น ถ้าเป็นผู้ใหญ่ แทนที่เขาจะได้รับความปลามปลื้มจากการได้ให้สิ่งของ ที่ตัวเองคิดว่าดีสำหรับบุคคลที่เขาจะไห้ กับเป็นการทุกข์ใจไป เพราะการกระทำอันขาดสติของเรา..

และอีกอย่างการแสดงธรรมโดยอ้างอิงพระไตรปิฎก ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ท่านใช้ตัวเองเป็นหลัก ใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม ใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ตำหนิ พระภิกษุ ตำหนิพุทธศาสนิกชน ที่ทำตัวไม่ดี สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องสมควรที่จะกระทำได้ แต่การที่ตำหนิคนอื่นนั้น เรามีสติ สมบูรณ์หรือไม่ การแสดงออกของเรา ทางกาย วาจา ใจ บริสุทธิ์หรือไม่ มีความต้องการที่จะตำหนิให้เขาเหล่านั้น คิด และรู้สำนึกว่าเขาทำผิดไป..ให้กลับตัวกลับใจอย่าทำอย่างนั้นอีก นี่เป็นการตำหนิที่ผู้ตำหนิได้กุศล และผู้ถูกตำหนิได้รู้สึกตัว ว่ากำลังกระทำเรื่องที่ไม่ดีอยู่ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ไม่ได้สร้างขึ้นมาได้เพราะบุคคลคนเดียว แต่สร้างขึ้นมาได้ เพราะพวกเราชาวพุทธ ศรัทธาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวกัน ..จึงมีการรวมน้ำใจ สร้างวัด วา อาราม สร้างพระพุทธรูปขึ้นมา


สาธุ..........

 

มาอ่านความคืบหน้า ครับ...(||)

 

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? หลวงปู่เป็นผู้ที่ไม่มีใครสามารถมายุยงส่งเสริมได้ง่ายๆอย่างที่คุณคิดหรอก การกระทำของท่านคือการเสียสละตัวเองยอมให้คนปรามาสก่นด่า เพื่อจะเผยแพร่ศาสนาพุทธจริงๆ ของพระพุทธองค์ ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ จุดประสงค์เพื่อพาคนให้หลุดพ้น จากวัตถุที่พากันยึด พากันเช่ามาบูชา

สงสารแต่คนที่ปรามาสท่านโดยไม่ยอมลืมหูลืมตา เชื่อตามที่สื่อเสนอโดยไม่ยอมที่จะศึกษาธรรมมะจริงๆของพระพุทธเจ้า แล้วบอกว่าตัวเองหาทางหลุดพ้น มันพ้นไปไม่ได้หรอก....นรกรอกินหัวอยู่

 

ตอบทีละประโยคเลยนะครับ......

ผมรู้ว่า พระเกษมเจตนาดี ไม่ได้ต้องการให้ศาสนาพุทธเสื่อมเสียเลย..
ไช่....ครับ เห็นด้วยครับ

แต่พฤติการที่ใช้เท้าเหยียบ ใช้น้ำกรดรดองค์พระพุทธรูป ฝังพระพุทธรูป ทำลายพระพุทธรูปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผิดทางพระวินัย

ขอถามกลับว่า ผิดวินัย ข้อไหน ท่านเอาอะไรมาอ้างอิง
แม้แต่พระที่ไม่เห็นด้วยกับท่าน ยังบอกว่าท่านไม่ผิด ........แต่ก็แตกประเด็นเป็นไม่เหมาะสม

ผิดทั้งทางเจตนา

เจตนาของใครครับ

เป็นการทำลายวัตถุ วัตถุซึ่งได้จากศรัทธาญาติโยม เป็นการทำร้ายน้ำใจ ของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใส

ใช่ครับ.....ถือเป็นการทำร้ายน้ำใจ ทำลายชาวพุทธที่มีความเชื่อที่ผิดๆในศาสนาพุทธ
แต่วัตถุที่ท่านได้มาจากในข่าว ท่านทราบได้อย่างไรว่าผู้ที่นำมาบริจาคหรือถวายให้ท่านเพื่อให้ท่านหรือผู้คนในวัดเคารพบูชา แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า มีผู้เห็นตามเห็นชอบ ชอบในคำสอนของท่านนำ พระพุทธรูป พระเครื่อง พระบูชามาให้ท่านทำลายมามากต่อมากแล้ว


เปรียบเหมือน การให้สิ่งของ ที่เด็กให้กับผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ให้กับเด็ก พอเราให้ปุ๊บ คนที่รับก็ทำร้ายลงทันที ต่อหน้าต่อหน้า ถ้าเป็นเด็กก็จะร้องไห้ภายในวินาทีนั้น ถ้าเป็นผู้ใหญ่ แทนที่เขาจะได้รับความปลามปลื้มจากการได้ให้สิ่งของ ที่ตัวเองคิดว่าดีสำหรับบุคคลที่เขาจะไห้ กับเป็นการทุกข์ใจไป เพราะการกระทำอันขาดสติของเรา..


อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองเรื่องนี้ในแง่ไหน ในแง่ ความถูกใจ หรือ ความ ถูกต้อง
ถ้าในแง่ ความถูกใจ ก็ขอตอบว่า ในกรณีของเด็กอย่างที่คุณยกตัวอย่าง ถ้า เป็นกรณีเด็กเล็ก
ถ้าคุณเห็นเด็กทานหรือกำลังจะทานขนมใส่สี ใส่ผงชูรส ใส่วัตถุกันเสียฯลฯแถมมันยังหล่นลงพื้น นอกจากคุณไม่ให้เขาทาน ห้ามเขาทาน แถมคุณยังนำมันไปทิ้ง ไปทำลายด้วย เด็กคนนั้นก็ต้อง ร้องไห้ เสียใจ เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเขาไม่รู้โทษในขนมห่อนั้น
ถ้าเป็นเด็กโตหรือเด็กวัยรุ่น
ถ้าเค้าจะเสพยาหรือทานยาเสพติด เพื่อนๆเขาก็แนะนำว่าลองดิ ดีอย่างนู้นดีอย่างนี้
สบายอย่างนู้น สบายอย่างนี้ พอคุณทราบ คุณก็ห้ามและทำลายยาเสพติดนั้น เค้าก็ต้องโกรธ ต้องร้องไห้เสียใจเป็นธรรมดา

และก็คงไม่ต้องยกตัวอย่างไปในกรณีผู้ใหญ่อีกนะครับ
และทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของเราที่ขาดสติหรือ ครับ


และอีกอย่างการแสดงธรรมโดยอ้างอิงพระไตรปิฎก ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ท่านใช้ตัวเองเป็นหลัก ใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม ใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ตำหนิ พระภิกษุ ตำหนิพุทธศาสนิกชน ที่ทำตัวไม่ดี

อันนี้ คุณก็เข้าใจไปเองแต่คาดว่าน่าจะเป็นลักษณะเข้าใจผิดอยู่บ้าง
ใช่ครับ.......ถ้าเรื่องธรรม ท่านใช้พระพุทธเจ้า และตัวเองเป็นหลัก
ใช่ครับ......เรื่องภาษาที่ไม่เหมาะ ถ้าท่านมองในเรื่องคำไม่สุภาพสำหรับคนในสมัยนี้
แต่ท่านก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับ ธรรม ครับ
คุณอยู่กับว่าคุณมองท่านในแง่ไหน

แต่การที่ตำหนิคนอื่นนั้น เรามีสติ สมบูรณ์หรือไม่
คำว่าเราในที่นี่คุณหมายถึงท่านรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ขอตอบว่าสมบูรณ์...ครับ

การแสดงออกของเรา ทางกาย วาจา ใจ บริสุทธิ์หรือไม่
บริสุทธิ์.......ครับ


มีความต้องการที่จะตำหนิให้เขาเหล่านั้น คิด และรู้สำนึกว่าเขาทำผิดไป..ให้กลับตัวกลับใจอย่าทำอย่างนั้นอีก นี่เป็นการตำหนิที่ผู้ตำหนิได้กุศล และผู้ถูกตำหนิได้รู้สึกตัว ว่ากำลังกระทำเรื่องที่ไม่ดีอยู่ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

ใช่ครับ เห็นด้วยครับ

พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ไม่ได้สร้างขึ้นมาได้เพราะบุคคลคนเดียว

และใครเป็นผู้สร้างพระพุทธศาสนาครับ.....ถ้าไม่ใช่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า


แต่สร้างขึ้นมาได้ เพราะพวกเราชาวพุทธ ศรัทธาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวกัน ..

อันนี้ไม่เห็นด้วยครับ...... พวกเราชาวพุทธมีหน้าที่ปกป้อง ศึกษา เรียนรู้และปฏิบัติตามครับ ไม่ใช่พวกเราสร้างครับ

จึงมีการรวมน้ำใจ สร้างวัด วา อาราม สร้างพระพุทธรูปขึ้นมา

ก็อันนี้แหละครับ...... ที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้ วัดวาอาราม สร้างใหญ่สร้างโต เกินความจำเป็นและเกินในบัญญติพระวินัยในเรื่องขนาดด้วย เพราะศรัทธากับความรู้ในเรื่องศาสนาของชาวพุทธไม่สมดุลกันจึงเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องพระพุทธรูป ก็เช่นกันครับ

จึงเป็นที่มาของคำสอนแบบหลวงปู่เกษม.....เพราะท่านอยากจะให้พวกเราชาวพุทธได้เข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้(โดยท่านก็อ้างอิงพระไตรปิฏก) จึงได้เป็นที่มาของเรื่องราวที่ท่านเห็นอะไรไม่ตรงกันกับที่พระองค์สั่งสอน ท่านก็ถึงได้มาแสดงพฤติกรรมอย่างที่เราได้เห็นตามข่าวนะครับ





และที่อธิบายมาทั้งหมดนี้ก็มิได้หมายถึงว่า เก่ง หรือ ว่า ถูกนะครับ
แต่ตอบเพื่อยกเป็นกรณีตัวอย่างที่ ถาม-ตอบ คำถามในลักษณะตรรกะแบบนี้มันไม่จบครับ
กระผมถึงได้แนะนำให้ท่านทั้งหลายเข้าไปศึกษาเอง เรียนรู้เองตามธรรมในพระไตรปิฏกก็ได้ ไม่ต้องวัดสามแยกก็ได้ แต่ถ้าศึกษาที่วัดหรือที่เว็บวัดสามแยกก็สะดวกหน่อยเพราะทางวัดได้แยกเป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นเรื่อง สำหรับ พระ โยม อุบาสก อุบาสิกา ผู้ชาย ผู้หญิง
นักธุรกิจ พ่อค้า ฯลฯเราจะได้ประหยัดเวลาในการค้นคว้าด้วยครับ