การตักบาตรแบบถูกต้องได้อานิสงส์มาก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 29 พฤษภาคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    [​IMG]
    การตักบาตร


    การตักบาตร เป็นการทำบุญที่ชาวพุทธทั่วไปรู้จักและปฏิบัติมากกว่าการทำบุญประเภทอื่น ๆ การตักบาตรนั้น
    ยังถือว่าเป็นการทำบุญประจำวันของชาวพุทธ และชาวพุทธไทยเชื่อว่า การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์เป็นการช่วย
    โปรดสัตว์ที่อยู่ในอบายภูมิ เช่น เปรตวิสัย ให้ได้รับส่วนบุญ ด้วยเหตุผลทางจิรยธรรม ในการทำบุญตักบาตรนั้น พอ
    สรุปได้ดังนี้


    ๑.เป็นการสั่งสมบุญในแต่ละวัน เพราะการสั่งสมเป็นเหตุนำความสุขมาให้

    ๒.เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำบุญทำให้จิตใจแจ่มใส เพื่อให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพราะผู้ที่ไม่มีบุญ
    เกื้อหนุนอยู่ในใจ ย่อมพ่ายแพ้ต่อบาปได้ง่าย

    ๓.เป็นการทำที่พึ่งคือบุญให้แก่ตนเองในอนาคตถ

    ๔.เป็นการช่วยรักษาพุทธประเพณี เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตและที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต
    ด้วนแต่ดำรงพระชนม์ชีพด้วยอาหารบิณฑบาต

    ๕.เป็นการช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ศึกษา ปฏิบัติพระธรรมวินัย
    แล้วนำมาสั่งสอนให้ประชาชนไดรับรสแห่งพระธรรมด้วย อีกทั้งยังดำรงตนเป็นตัวอย่างด้านความประพฤติ ิดีงามของสังคม ฉะนั้น ชาวพุทธควรทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการสั่งสมบุญให้แก่ตนเอง
    ที่จะต้องนำไป ดุจเสบียงเดินทาง ในการท่องเที่ยวเวียนเกิดและเวียนตายอยู่ในวัฏฏสงสาร อันไม่ปรากฏ
    เบื้องต้นและที่สุด และบุญที่สั่งสมไว้นี้ จะช่วยเกื้อกูลให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

    อนึ่ง ประโยชน์ส่วนรวมที่จะเกิดขึ้น คือ เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เพระพระสงฆ์ซึ่งเป็น
    ผู้นำของพุทธบริษัท ที่เป็นฐานกำลังสำคัญแห่งกองทัพธรรมนั้น ท่านดำรงชีพอยู่ได้ด้วยปัจจัยที่คฤหัสถ์จัด
    ถวาย ท่านจึงสามารถมีกำลังกาย กำลังใจที่จะศึกษาพระพุทธพจน์ คือ พระไตรปิฎก ให้เข้าใจ ทรงจำ นำมาประพฤติปฏิบัติ และกล่าวสอนมวลมนุษย์ได้



    การทำบุญตักบาตรจะสมบูรณ์ได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้

    ๑.ต้องเตรียมใจให้พร้อม ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะบุญที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจของผู้ถวาย ท่านแนะนำให้รักษาเจตนาให้บริสุทธิ์ทั้ง ๓ ขณะ คือ
    ๑.๑ ก่อนถวาย ตั้งใจเสียสละอย่างแท้จริง
    ๑.๒ ขณะถวาย ก็มีใจเลื่อมใส ถวายด้วยความเคารพ
    ๑.๓ หลังจากถวายแล้ว ต้องยินดีในทานของตัวเองจิตใจเบิกบานเมื่อนึกถึงทานที่ตนเองได้ถวายไปแล้ว
    การทำใจให้ได้ทั้ง ๓ ขณะดังกล่าวนี้ นับว่ายากมาก เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้จิตใจของเรา
    เศร้าหมองในขณะใดขณะหนึ่งได้
    ๒.ผู้รับ คือ พระภิกษุสามเณร เป็นผู้สำรวมระวัง มีข้อวัตรปฏิบัติที่ดีงามตามพระธรรมวินัย ใฝ่ศึกษาเล่าเรียน
    พระพุทธพจน์ ทรงจำ นำมาบอกกล่าว สั่งสอนได้ และเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติเพื่อบรรเทาราคะ โทสะ โมหะ
    จนสามารถละขาดได้อย่างสิ้นเชิง
    ๓.สิ่งของที่ถวาย จะต้องได้มาด้วยวิธีที่สุจริต ไม่เบีดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน และที่สำคัญคือสิ่งนั้นต้องเหมาะสม
    แก่พระภิกษุสามเณรด้วย


    ทำบุญตักบาตรให้หมั่นอธิษฐาน
    เมื่อองค์ประกอบ ๓ อย่างข้างต้นบริบูรณ์ สิ่งที่จะต้องทำก่อนตักบาตร คือ "การอธิษฐาน" การอธิษฐานนี้นับว่า
    เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะจะทำให้บุญของเราหนักแนน่ ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นมากขี้น และยังทำให้เราทราบเป้าหมาย
    ในการทำบุญด้วย นอกจากนี้ การอธิษฐานยังสามารภสร้างพลังขึ้นในจิตใจให้มากขึ้น เป็นการสั่งสมกำลังแห่งความ
    บากบั่น อดทน เพื่อเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้เราก้าวไปสู่สิ่งที่ปรารถนาได้ การอธิษฐานในขณะที่บำเพ็ญบุญนั้น ผลบุญย่อม
    หนุนส่งให้สำเร็จตามที่ปรารถนาไว้ ถึงแม้จะขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาสบ้างก็ตาม แต่ความดีที่ทำไว้ย่อมไม่เสียหายไป
    แน่นอน
    ฉะนั้น ก่อนตักบาตร ควรอธิษฐานโดยนั่งหรือยืนก็ได้ แล้วแต่สถานที่จะอำนวย ยกสี่งของที่จะถวายขึ้นเสมอ
    หน้าผาก แล้วอธิษฐานตามที่ต้องการที่ชอบธรรมเป็นภาษาใดก็ได้ จะว่าในใจหรือออกเสียงเบา ๆ ก็ได้ จากนั้นจึงถวาย
    อาหารบิณฑบาตด้วยความเคารพ ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนให้ถวายหลังจากที่ถวายอาหารบิณฑบาตเสร็จแล้ว ถ้าเป็นสตรี
    ให้วางดอกไม้ธูปเทียนไว้บนฝาบาตร เมื่อพระท่านปิดบาตรแล้ว

    คำอธิษฐานก่อนตักบาตร
    ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา มีเป็นหมายเพื่อให้มนุษย์ปลดเปลื้องตนเองจากทุกข์ มีจิตใจเป็นอิสระ
    เหนือทุกข์ทุกอย่าง (พระนิพพาน) หลักการดำเนินชีวีตของชาวพุทธนั้นต้องสอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งพระ
    โบราณาจารย์ท่านจึงบัญญัติคำ อธิษฐานที่เป็นสากลนิยมไว้ว่า
    อิทัง ทานัง สีละวันตานัง ภิกขูนัง นิยยาเทมิ สุทินนัง วะตะ เม ทานัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ อะนาคะเต กาเล ฯ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายทานนี้แด่พระสงฆ์ผู้มีศีล ขอท่านที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้ว จงเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ
    อีกบทหนึ่งเป็นคำอธิษฐานถึงพระสังฆรัตนะ ว่า
    นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สังจะวัชเชนะ, โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา ฯ ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยคำสัตย์ นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อ เทอญ ฯ



    [​IMG]
    ........................
    บทความจาก
    http://www.geocities.com/watthasai
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ
     
  3. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    การกล่าวคำอธิษฐานก่อนใส่บาตร จำเป็นมั้ยคะ ว่าต้องเป็นภาษาบาลี อธิษฐานเป็นคำพูดเราเอง ต่างกันหรือไม่ อย่างไร
    วานท่านผู้รู้ ช่วยให้ความกระจ่าง ด้วยค่ะ
     
  4. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    อนุโมทนาสาธุค่ะ [​IMG]----ตักบาตรเป็นประจำ แต่ไม่ค่อยได้อธิษฐานก่อนตักบาตรสักเท่าไหร่ จะได้นำไปปฏิบัติค่ะ[​IMG]
     
  5. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    "สวนะ" ตอบคุณน้ำใสไหลเย็นนะคะ (ก็มิใช่ผู้รู้กระจ่างนะคะ) ..แต่ทุกอย่างเราอาศัยจิตใจเป็นที่ตั้งเสมอ เมื่อใจกายพร้อมกระทำด้วยศีลอันบริสุทธิ์ขณะนั้น .. เมื่ออธิฐานจิตไปจะด้วยคำบาลี หรือเปล่งวาจาอธิษฐานด้วยใจอันบริสุทธิ์ เมื่อกระทำแล้วจิตไม่ตก ไม่เป็นทุกข์ก็เป็นพอค่ะ ได้ผลกุศลบุญและผลทางใจทั้งนั้น..อนุโมทนากับความตั้งใจนะคะ..
     
  6. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    สุทินนัง วะตะเมทานัง อาสะวัก ขะยะวะหัง นิพพานัง โหนตุ
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    สาธุ

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2008
  8. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอบคุณครับ
     
  9. อรรัชช์ฐาน์

    อรรัชช์ฐาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +437
    โมทนาสาธุค่ะ....ทำบุญทุกอย่างก็อธิษฐานขอพระนิพพานชาติปัจจุบันนี้เพราะไม่อยากเกิดอีก...แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม...เพียงแต่ให้เป็นอธิษฐานบารมีไว้ก่อนค่ะ
     
  10. Paravatee

    Paravatee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +2,970

    คิดว่าไม่ต่าง อธิษฐาน เป็นภาษาไทย หรือบาลี มันขึ้นอยู่กับจิต ระลึกรู้ ถึงความตั้งใจอธิษฐาน รู้ความหมายของคำอธิษฐาน และตั้งใจอธิษฐานมั้ย เพราะถึงอธิษฐานไำปเป็นภาษาบาลี แต่ไม่รู้ความหมาย ไม่ได้ตั้งใจ อะไรก็ไม่รู้ สวดไปงั้นๆๆ ก็ไม่มีไม่ได้อะไรอยู๋ดี สวดๆๆไปเป็นบาลีทุกครั้งหลังใส่บาตร แต่ไม่รู็ความหมาย แล้วอย่างงี้จะเรียกว่า อธิษฐาน ได้อย่างไร อธิษฐานไปรู้แต่ว่าเค้าให้สวดแบบนี้เป็นบาลีหลังใส่บาตรก็สวดไปทุกๆๆวันอย่างงั้น ใส่บาตรตื่นมางัวเงีย ง่วงนอนเบลอๆๆ ก็สวดไปหลังใส่บาตร อานิสงค์ไม่เท่าอธิษฐาน แบบตั้งใจ และรู้ความหมาย หรืออธิษฐานเป็นภาษาไทยหรอก ที่รู้ความหมาย และจิตที่ตั้งใจอธิษฐาน ย่อมได้อานิสงค์มากกว่าการสวดบาลีแบบงูๆๆปลาๆๆไม่รู้ความหมายของคาถา สวดไปงั้นๆๆ บอกต่อๆๆกันมาให้สวด (||)


    อิทัง ทานัง สีละวันตานัง ภิกขูนัง นิยยาเทมิ สุทินนัง วะตะ เม ทานัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ อะนาคะเต กาเล ฯ

    ข้าพเจ้าขอน้อมถวายทานนี้แด่พระสงฆ์ผู้มีศีล ขอท่านที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้ว จงเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ

    ขออนุโมทนาบุญกระทู้นี้ ได้สาระมาก


    *** ขอยกตัวอย่างฮินดูมาใช้นะครับ เคยเรียนกับคุรุ ท่านหนึ่งท่านสอนมาได้อย่างจับใจว่า คำว่า โอม ไม่ว่าเขียนในภาษาอะไรความหมายก็คือ คำว่า โอม ซึ่งเป็นหัวใจของพระเป็นเจ้า คุณจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ไทย อินเดีย ทมิฬ หรือ ญี่ปุ่น แต่เสียงที่เปล่งออกมาก็คือเสียงของคำว่า โอม ความศักสิทธิ์ ไม่ได้แตกต่างกันเลยในแต่ละทุกภาษา ก็คือ โอม ถึงคุณจะเขียน"โอม" เป็นภาษาอินเดีย แต่คุณอ่านมันไม่ออก แล้วมันจะมีความหมายอย่างไรเล่า

    **** อาจารย์อธิบายได้ลึกซึ้งกว่านี้ เพียงแต่ ข้าน้อยเก็บมาได้เท่านี้อะ ยังเรียนยังไม่จบ
     
  11. vilawan

    vilawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,432
    อนุโมทนากับทุกท่านคะ
    สรุปแล้วขึ้นอยู่กับการตั้งจิตอธิฐาน ไม่ว่าจะเป็นภาษาใด ขอให้มีความบริสุทธิ์ของจิตใจและสิ่งของที่ถวายแด่สงฆ์
    ส่วนตัวข้าพเจ้า ขณะจบสิ่งของขึ้นก่อนถวายจะอธิฐานว่า
    "ข้าวของข้าพเจ้า ขาวดังดอกบัว
    ยกขึ้นเหนือหัว ถวายแด่พระสงฆ์
    จิตใจจำนง ตรงต่อองค์พระนิพพาน
    ขอให้ถึงเมืองแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร
    ขอให้ถึงเมืองพระศรีอาริย์ด้วยเถิด"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2008
  12. เส้นทางสายใหม่

    เส้นทางสายใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +360
    ที่บ้านอธิฐานต่างจากที่เห็นอะเป็นไรไม คืออธิฐานไม่เหมือนคนอื่นอะ

    ที่บ้านอธิฐานต่างจากที่เห็นอะเป็นไรไม คืออธิฐานไม่เหมือนคนอื่นอะ

    ที่บ้านแม่ใส่ท่อง นะโมฯ 3 จบ และ ท่องว่า

    สุขโขโหมิ สุทธิทานัง (อาจจะพิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ เคยแต่ท่องจำเอา)

    ตอนจบใส่ข้าวพระหรือจบเงินทำบุญ และ อื่น ๆ อะ
    มันต่างจากคนอื่น และต่างจากที่เคยได้ยินมา
    เป็นไรไมอะ และถ้าไม่เปลี่ยนเป็นไรไม แล้วความหมายแปลว่าอะไรอะสงสัย

    ช่วยแปลความหมายให้คนผู้ที่รู้
    ขอบคุณครับ
     
  13. อรวี จุฑากรณ์

    อรวี จุฑากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +188
    ขออนุโมทนาสาธุ

    คำถวายข้าวใส่บาตร
    อะหังภันเต โภชนัง สาลีนัง ปะริสุทธัง พุทธะ สาวะกะสังฆัง ปิณฑะปาตัง โส โหตุ ฯ

    คำจบขันข้าวใส่บาตร
    ข้าวของข้าพเจ้า ขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัว ถวายแด่พระสงฆ์ จิตใจจำนง ตรงต่อพระนิพาน นิพพานะ ปัจจะโย โหตุฯ
     
  14. บุปผาวดี

    บุปผาวดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +40
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุๆๆๆ
    โดยส่วนตัวทำบุญใส่บาตรอยู่แล้ว สาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ
     
  15. ปัจเจกพุทธะ

    ปัจเจกพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +121
    อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
    ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
    อนุโมทนาครับ.
    บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
    โทร.1900-222-200 6บาท/นาที
     
  16. phumphum

    phumphum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +67
    การทำทาน เป็นบุญอย่างหนึ่งที่สร้างบารมีใหกับผู้ทำทาน เรียกว่า ทานบารมี
     
  17. phumphum

    phumphum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +67
    พรุ่งนี้วันพระ นะครับ
    อยากจะเชิญชวนให้ทุกท่านผู้มีบุญมาก
    ร่วมกัน ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ครับ
     
  18. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    อนุโมทนา สาธู.......

    ทำ ทาน
    ถือ ศีล
    ปฏิบัติ ภาวนา
     
  19. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุ สุดธุ

    อย่าลืมแผ่บุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณด้วยเน้อ จะได้ไม่มีอุปสรรค เทวดาจะรักษา หากตั้งถึงพระนิพพานแล้ว ทางไปจะได้ไปสบายๆ

    หากท่านใดลำบากในภาษาบาลี ก็พูดภาษาไทย คิดภาษาไทย ได้ผลเท่ากัน อยู่ที่ใจทั้งนั้นเอง แต่ศึกษาไว้ก็ดี สืบทอดวัฒนธรรม

    อนุโมทนาจ้า
     
  20. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...