คนรักของผมมองโลกในแง่ร้าย พยายามแนะนำแล้วแต่ไม่ดีขึ้น ขอคำแนะนำด้วยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สามโลก, 28 พฤษภาคม 2008.

  1. สามโลก

    สามโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +70
    ปกติอ่านมาตลอด ไม่เคยตั้งกระทู้เลย ถึงคราวต้องขอคำแนะนำจากท่านทั้งหลาย

    ถ้าคนที่เรารักคนหนึ่งมีพฤติกรรมที่เอาแต่ใจตัวเอง มองโลกในแง่ร้าย ขี้หงุดหงิด ชอบทำประชด โกรธปึงปัง ทั้งที่เป็นเรื่องขัดใจเพียงเล็กน้อย ไม่ฟังคนอื่น ทั้งๆที่คนในครอบครัวพยายามเข้าใจ และเอาใจ แต่เหมือนไม่เห็นความดี เป็นแบบนี้มานานแสนนาน ดีได้ไม่กี่วันก็เป็นแบบเดิม ได้สำรวจปัจจัยต่างๆที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ พยายามแก้ไขโดยใช้เหตุผลแบบทางโลกแล้วก็ไม่ดีขึ้น เพราะเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ จนทำให้บรรยากาศในครอบครัวแย่ลงทุกวัน หาความสบายใจไม่ได้ ขอวิธีแก้ไขในทางธรรมด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2008
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุโมทนากับคำถามนะครับ

    อย่างไรก็ดี ขออนุญาตแนะนำเรื่องการตั้งชื่อกระทู้นิดนึงนะครับว่า อยากให้สื่อถึงกฎแห่งกรรม และสื่อให้อ่านแล้วเข้าใจถึงเนื้อหาในกระทู้ครับ

    ยังไงรอบนี้ขอเตือนทางโพสต์นะครับ แต่คราวหน้าจำเป็นต้องให้ใบเหลืองนะครับ แต่ถ้าโดนเตือนก็อย่าคิดมากนะครับ กัลยาณมิตรย่อมตักเตือนกันครับ

    โมทนาครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    ในครอบครัวผมว่าถ้าสมาชิกถือ"พรหมวิหาร4"เป็นหลัก
    คงจะทําให้บ้านเป็นวิมารของทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    เข้าไปลิ้งค์นี้ครับhttp://www.dhammathai.org/sounds/life.php
    เป็นเสียงธรรมะบรรยายเรื่อง"ธรรมะกับการครองเรือน"
    ผลงานของ พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ดาวน์โหลดได้ด้วยครับ
    ฟังแล้วได้แง่คิดมากมายเลย
    ถ้าคุณหาวิธีให้แฟนคุณฟังได้นะ
    ผมคิดว่าบ้านคุณจะอบอุ่นมากขึ้นกว่าเดิมครับ

    ขอให้คุณโชคดีครับ
    กัลยาณมิตรครับ
     
  4. Composure

    Composure สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +7
    ผมก็ประสบปัญหานี้อยู่ เป็นกับคนใกล้ตัว

    และผมก็ได้ใช้ตรรกะส่วนตัว คิดหาทางออกดู
    ทางที่ดีที่สุดคือให้เค้ารู้ตัว ให้เค้ายอมรับ และถือ พรหมวิหารสี่ อย่างที่ข้างบนกล่าว ก็ดีมากครับ แต่มันเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่คนประเภทนี้จะยอมรับ

    เท่าที่ศึกษามา (ในเวปนี้ล่ะ) มีกระทู้นึง มีคำถามคำตอบว่า อยากให้คนที่ไม่สนใจในธรรม(แบบพูดอย่างไรก็ไม่สนใจ) ศึกษาธรรมทำอย่างไร

    พระท่านตอบว่า เอาน้ำรดตออย่างน้อยตอก็เปียก


    และเคยอ่านเจอในหนังสือพลังจิต เดือนนี้หรือ เดือนที่แล้ว

    บอกว่า พระพุทธเจ้า ไม่เคยตำหนิใคร เพราะไม่มีใครอยากทำผิด ที่ทำผิดเพราะวิบากกรรม (จำใจความได้ประมาณนี้น่ะครับ) ดังนั้นเราก็ไม่ควรว่าความผิดของคนอื่น ควรจะปรับปรุงแต่ความคิดตัวเอง

    ทางออกที่ผมทำอยู่คือ ปล่อยวาง (บางครั้งก็อึดอัด - -) พยายามไม่ทำให้เค้าโกรธ โมโห
    คิดซะว่านี้คือธรรมดาของโลก
    ก็ต้องเป็นตัวเองแหละ ที่ถือ พรหมวิหาร 4



    แค่หนึ่งความคิดเห็นน่ะครับ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยด้วยครับ
     
  5. แม่ลูกตาล

    แม่ลูกตาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,206
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
    ปลง..ปล่อยวาง...ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง..
    เมื่อเวลาของกรรมมาถึง..ใครก็หยุดยั้งไม่อยู่...แต่เมื่อเวลาผ่านไปใช้กรรมหมด..ทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอาศัยความ..อดทน..อดกลั้นต่อการโต้ตอบ..แล้วจะพบทางสว่างค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  6. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    พรหมวิหาร ๔ เป็นคำตอบสุดท้าย ครับ

    เพราะถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง คงต้องวางอุเบกขา ไม่พูด ไม่คุยด้วย
    จะให้มานั่งเอาอก เอาใจ ในอายุปูนนี้คงไม่ใช่

    แต่ก็ไม่รู้น่ะ ว่าเข้าสู่วัยทองหรือเปล่า เพราะอาการใกล้เคียงกัน

    หรืออาจจะยังมีกรรมเยอะอยู่ ก็เป็นไปได้อีก
     
  7. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    รักเค้าแล้วก็คงต้องทำใจ เปลี่ยนคนอื่นยากค่ะ ขนาดตัวเราอยากเปลี่ยนแปลง(มาก) ยังทำไม่ค่อยได้เลย แต่ก็ลองชวนคนรักไปทำบุญ ฟังธรรมดูค่ะ อาจจะช่วยให้คนรักคุณอารมณ์ดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงตัวของเค้าเองได้ค่ะ

    เราพูดไปเค้าก็คงไม่ค่อยฟัง ต้องให้เค้าเห็นและเข้าใจด้วยตนเองค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมแต่ละคนด้วย ถ้าเราทำเต็มที่แล้วก็วางอุเบกขาค่ะ ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    ลองดูนะคะ รักและตัดสินใจเลือกเค้าแล้ว ก็ต้องอดทนค่ะ ^-^
     
  8. chocolatus

    chocolatus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +58
    พรหมวิหาร 4 ค่ะ (แผ่เมตตาให้บ่อย ๆ บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางไม่ให้ทำความดี)

    นำมาปฏิบัติกับคนรอบข้างเช่นกันค่ะ ได้ผลนะ แต่จะให้เห็นผลทันตาคงไม่ได้ ต้องใช้หลักความอดทนด้วย สักวันคนที่คุณรักต้องสังเกตได้อย่างแน่นอน

    การที่บรรยากาศในครอบครัวแย่ลงเป็นเพราะตัวคุณจิตใจเริ่มเศร้าหมองด้วยรึเปล่าค่ะ? ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนที่ตนเองก่อน ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ ตามที่ผู้รู้ด้านบนได้กล่าวไว้ ฝึกไปวันละนิด แล้วคนรอบข้างก็จะสัมผัสได้ถึงพลังเมตตาอย่างแน่นอน

    ส่วนทางโลก มีข้อแนะนำ คือ บางครั้งการที่พูดเหตุผลมากไปทำให้คนฟังสับสนค่ะ (เนื่องจากไม่มั่นใจในตนเอง) ลองเปลี่ยนมาพูดน้อย ๆ ลองปฏิบัติหลาย ๆ ทางค่ะ

    สิ่งสำคัญ แสดงความรักให้คนที่คุณรักเห็นเยอะ ๆ ค่ะ อาจจะกอดบ่อย ๆ ทำนองเนี้ย ให้มีความเปลี่ยนแปลง ให้เค้ามีความมั่นใจว่าคุณรักและหวังดี หลังจากนั้นค่อยขอให้เค้าเป็นผู้รับที่ดีโดย...... (ว่าไป)

    เป็นกำลังใจค่ะ ดีขึ้นอย่างไรแจ้งผลด้วยนะค่ะ อิอิ
     
  9. สามโลก

    สามโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +70
    ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำครับ

    และขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำในการตั้งกระทู้ครับ
     
  10. od2499

    od2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +532
    ผมไม่มั่นใจว่า ที่คุณพูดถึงนั้น เป็นแฟนหรือว่าเป็นภรรยา การคิดจะไม่เหมือนกัน แต่ดูจากที่เขียนแล้ว น่าจะเป็นแฟน

    จากที่เคยเจอกับตัวเองมา ยิ่งเอาใจยิ่งตามใจ ยิ่งมากเรื่องครับ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่องจนได้ เหมือนกับว่าแต่ละวันมันแล้วแต่เขาว่าจะทำให้วันนี้บรรยากาศดีหรือว่าให้ขุ่นมัว รู้สึกกดดัน วันไหนอารมณ์ีดีก็มาเอาใจเรา แต่สักพักคงเห็นว่าเราอารมณ์ดีมากเกินไป ก็ทำหน้าบูดหน้างอ สร้างเรื่องสร้างราวมาใหม่ พออารมณ์ดีนั่งคุยกันได้ เราก็ถามว่าทำแบบนั้นทำไม ก็ตอบว่าต้องการลองใจเราว่าเรารักเขามากแค่ไหน ถ้าเขาเป็นอย่างนั้นจะทนเขาได้ไหม ลองได้ทุกวี่ทุกวันโดยไม่เคยคิดในทางกลับกันเลยว่า เขาเคยทนเราสักนิดหรือเปล่า เคสของคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ

    ผมคิดว่าคุณคงพยายามที่จะอธิบายเหตุผลจนปากเปียกปากแฉะ หรือว่าอ่อนอกอ่อนใจไปแล้วนะครับ ก็ลองทำตามเพื่อนสมาชิกแนะนำ พาเข้าวัดฟังธรรม ดูว่าจะดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าลองทุกวิธีแล้ว ผ่านไปหลายปีแล้ว อะไรก็ไม่ดีขึ้น คุณต้องมานั่งถามตัวเองครับว่าคุณจะยอมรับสภาพเป็นทาสอารมณ์แบบนี้ได้ตลอดชีวิตไม๊ ให้ความสุขในชีวิตคุณขึ้นอยู่กับเขาว่าเขาต้องการให้เป็นแบบไหน กับคนอื่นที่คุณเคารพ คุณเคยยอมขนาดนี้ไม๊ คิดช้าๆ คิดให้ดีๆครับ ถ้าคุณมั่นใจว่ายอมเขาได้ตลอดชีวิต ผมก็ขอยอมรับนับถือใจคุณ แต่ถ้าคิดว่าคงไม่ไหว ก็ต้องวัดใจกันล่ะครับ เป็นไงเป็นกัน เขาสร้างเรื่องสร้างราวอะไร ไม่ต้องเอาใจไม่ต้องถาม เดินหนีไปทางอื่น ถ้าเขาถามว่าทนเขาไม่ได้เหรอ ไม่รักเขาเหรอ ก็บอกไปตามตรงเลยว่า ถ้าไม่มีเหตุผลแบบนี้ คงจะไม่มีใครทนได้ ให้คิดถึงใจเขาใจเรา เขาถามอะไร ก็ย้อนให้เขาคิดว่าถ้าเป็นเขา เขาจะทำยังไง ทำนองแบบนี้แหละครับ ต้องคิดนะครับว่าโอกาศแตกหักสูง คุณต้องเลือกเองครับว่าจะเอาแบบไหน ถ้าจะหวังว่าวันหนึ่งฟ้าใสเขาคงจะดีขึ้นเอง อย่าไปหวังมากเลยครับ ก็เหมือนกับผู้หญิงที่มีแฟนเจ้าชู้ สูบบุหรี่กินเหล้า หวังไว้ว่าถ้าแต่งงานกันแล้ว แฟนเขาจะเลิกพวกนี้หมด

    ขอให้โชคดีครับ
     
  11. สามโลก

    สามโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +70
    ขอบคุณครับ คุณ od2499 ตอนนี้คิดว่าพอมองเห็นทางบ้างล่ะครับ
    ขออนุโมทนาในคำแนะนำของทุกท่านอีกครั้ง
     
  12. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    รอวันไหนอารมณ์ดีๆ
    กราบขอขมากันและกัน
    ให้อโหสิกรรมต่อกันในกรรมที่เคยผูกพันธ์กี่ชาติก็ตาม
    แล้วจากนั้นก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้กันทุกวัน [​IMG]
     
  13. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    คุณสามโลกคะ คุณเป็นคนที่ดีและน่าชื่นชมมากคะ


    โดยส่วนตัวเราเองก็ไม่ทราบความเป็นไปของคุณหรอกนะคะ แต่ทว่ามีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นแบบนี้(ท่านเป็นโสดคะและเป็นคนเลี้ยงเรา)

    ท่านมองโลกในแง่ร้าย คิดอะไรเป็นลบเสียหมด ไม่ว่าใครจะแนะนำอย่างไรก็ไม่ทำ จนท่านเริ่มรู้สึกว่าคนรอบข้างท่านหายหน้าหายตาลงไปทุกที แต่ด้วยทิฐิท่านก็ยังคงมีทัศนคติแบบเดิม

    จนวันหนึ่งท่านมาคุยกับเราเรื่องที่ทำงานของท่าน(ท่านเป็นอาจารย์คะ) ท่านเล่าต่างๆนานา ว่าท่านทำงานหนักแต่ไม่เคยมีใครรู้ ท่านตั้งใจสอนแต่ทุกคนไม่เคยเหลียวมอง ท่านยังบอกอีกต่างๆนานาว่าโลกนี้คือละคร เราทุกคนสวมหน้ากากใส่กัน เราจึงบอกท่านว่า "อย่างน้อยก็มีคุณป้าอีกคนไม่ใช่หรือคะ ที่ไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ถ้าป้ายังจะอยู่ในโลกที่สวมหน้ากาก ป้าต้องปรับตัวไม่ต้องใส่หน้ากากให้ตัวเองหรอก แต่อย่างน้อยเรารู้แค่ว่าโลกนี้ยังมีเราอีกคนที่ไม่เล่นละครใส่ผู้อื่นก็พอ ถ้าคุณป้าไม่พอใจคำพูดหรือการกระทำอะไรก็ยิ้มไว้ เพราะคำพูดหรือการกระทำอย่างนั้น อาจจะเป็นที่ถูกใจของใครหลายคนก็เป็นได้"


    จากนั้นคุณป้าเริ่มออกสังคมมากขึ้น และสิ่งที่เราดีใจมากที่สุดคือเห็นรอยยิ้ม รอยยิ้มที่มาจากใจ จากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทั้งชีวิต คุณป้าสนุกสนานกับสิ่งรอบข้าง วันหนึ่งเราถามท่านว่าเป็นอะไรวันนี้ถูกหวยเหรอ ยิ้มไม่หยุด "ท่านบอกว่าเปล่า ปลงๆได้แล้วเรามัวแต่จับผิดคนอื่นจนจะกลายเป็นโรคจิต นึกแล้วก็ขำตัวเอง นี่กว่าจะหายเกือบ50ปีเชียว" แล้วท่านก็หัวเราะ

    ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ
    ประสบการณ์...เวลา..ความรัก..กำลังใจ
    จะทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้นคะ​
     
  14. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    ผมว่าควรใช้วิธีตะล่อมเขาให้เขาได้เข้าใกล้ได้อยู่ในข่ายของบุญก่อนนะครับนะครับ โดยการค่อยๆทำทีละนิดทีละหน่อย ทำไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว เปรียบสมมติเหมือนการที่เราให้อาหารแมวคือตอนแรกเราอาจให้เป็นข้าวกับปลาแต่ต่อมาเราอาจจะคิดว่าเราจะลองเปลี่ยนมาให้เป็นอาหารเม็ดซึ่งหากเราเปลี่ยนเลยทันที อาจจะทำให้แมวไม่ยอมกินอาหารซึ่งเราก็ต้องใช้วิธีเอาอาหารแทรกผสมกับข้าวไปทีละหน่อย ต่อไปจึงจะเพิ่มอาหารเม็ดขึ้นเรื่อยจนเป็นการให้อาหารเม็ดอย่างเดียวในที่สุด ในกรณีนี้ก็เหมือนกันนะครับ ถ้าคุณสามารถดึงเขาให้อยู่ในข่ายของบุญได้ พาเขาเข้าวัด กราบพระ ให้อาหารปลา หรืออะไรก็แล้วแต่ให้ใจเขาเบิกบานเมื่อใจเขาเบิกบานแล้วทีนี้เราก็พยายามบอกเขา สอนเขา พูดคุยกับเขา โดยไม่ต้องรวบรัดให้เปลี่ยนแปลงในครั้งเดียว แต่พยายามพูดครั้งละน้อยๆพอให้เขาได้ฉุกคิด ได้มีสติโดยอาจจะพูดให้เขาเอาใจเขามาใส่ใจเรา เปรียบเทียบว่าถ้าเราเป็นเขาแล้วเขาเป็นเราเขาจะอยากให้เราทำอย่างนี้ไหม บอกเขาว่าเราเป็นห่วงเราหวังดีอยู่จึงได้พูดได้เตือน ที่เตือนที่พูดเพราะความหวังดีและความรัก แล้วก็ทำแบบเดิมซ้ำๆไปเรื่อยๆ เขาจะรู้สึกว่า เออ นี่นะ ทำบุญแล้วรู้สึกดีจิตใจมันเบิกบาน จะพูด จะคิดอะไรมันก็รู้สึกดีไปหมด ก็จะทำให้เขาเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ได้ ทีนี้เราก็พยายามสอนเขา บอกเขา ปรับความเข้าใจในขณะที่ใจเขาเบิกบานอยู่นั่นแหละ แล้วระดับจิตใจของเขาจะเกิดการพัฒนาขึ้นมาสามารถพูด สามารถบอกกล่าวตักเตือนอะไรได้ง่ายขึ้น ยอมรับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นมากขึ้น ซึ่งก็จะคล้ายๆกับการสั่งสอน แสดงธรรมของพระพุทธเจ้านะครับ ก็คือหลักการที่จะทำให้ผู้รับฟังธรรมนั้น มีจิตใจเบิกบาน แจ่มใส รื่นเริงในธรรมเสียก่อน คือให้ผู้รับเปิดใจเสียก่อน แล้วพระองค์จึงจะทรงแสดงธรรมป้อนเข้าไปๆ อย่างในกรณีของอาฬวกยักษ์ อย่างนี้จึงทำให้ผู้รับธรรมนั้น เข้าใจและซาบซึ้งในรสแห่งพระธรรมอย่างเต็มที่นะครับ กรณีของคุณก็เหมือนกัน ขอให้โชคดีนะครับ ไม่มีดีเลวอยู่ในใครอย่างถาวรครับ ขออนุโทนา

    ปล. ตอนนี้ผมก็ประสบปัญหาแนวเดียวกับคุณนี่แหละ ครับแต่จากวิธีที่ผมแนะนำไปนั้น ผมลองแล้วนะแล้วก็ได้ผลดีด้วย ตอนนี้เหมือนจะเชื่องเป็นลูกแมวเลย แต่ก็ไม่ตลอดหรอกนะ วันไหนผีเข้าก็เอาอีก ผมก็ใช้วิธีอุเบกขานะครับ วางเฉยซะบ้างไม่ง้อ ไม่อะไรเลยเพราะเราไม่ผิดเขาจะได้รู้ครับ ว่าครั้งไหนถ้าเราไม่ง้อแสดงว่าเราไม่ผิดแล้วใครจะผิดหล่ะ ก็เขานะสิ ทำอย่างนี้ตลอดเขาจะรู้ด้วยตัวเขาเองในแต่ละครั้งแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่บนหลักของเหตุและผลไม่ใช้อารมณ์คือแบบว่าเย็นเป็นน้ำตกเลยนะ แบบหน้าตาเฉยมากๆเลย ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงพูดแค่ในส่วนของเหตุผลอธิบายเสร็จแล้วเราก็วางเฉยเสียเพราะเราทำในส่วนของเราหมดแล้ว เขาจะรู้เองว่าอะไรเป็นอะไรแล้วจะให้ความยำเกรงกับเราในครั้งต่อไป การใช้วิธีนี้ให้อานิสงค์อีกอย่างคือเขาจะมองเราเป็นคนมีเหตุผล น่ายำเกรงและให้ความเคารพในการตัดสินใจของเราสูงมาก คนประเภทนี้สอนจากภายนอกไม่ได้หรอกครับไอ้ที่จะจับมาตีก้นหน่ะไม่หายหรอกนะ มันต้องสอนจากภายในทำโทษจากภายในอย่างนี้ ขอให้โชคดีนะครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2008
  15. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +505
    อนุโมทนาสาธุค่ะ^-^ ลองใช้วิธีการพูดโน้มน้าวเค้าดูนะคะ แต่ต้องค่อยทำที่ละนิดนะคะ เหมือนกับน้ำทีละหยดที่ค่อยๆเซาะโขดหินค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...