ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

คัดลอกมาจากหนังสือธรรมะของ ท่านพุทธทาสภิกขุ <O</O
<O</O

ยาระงับสรรพทุกข์

ต้น"ไม่รู้ไม่ชี้"นี่เอาเปลือก
ต้น"ช่างหัวมัน"นั้นเลือก เอาแก่นแข็ง
"อย่างนั้นเอง"เอาแต่ราก ฤทธิ์มันแรง
"ไม่มีกู-ของกู"แสวง เอาแต่ใบ

"ไม่น่าเอา-น่าเป็น"เฟ้นเอาดอก
"ตายก่อนตาย"เลือกออก ลูกใหญ่ ๆ
หกอย่างนี้อย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้
"ดับไม่เหลือ"สิ่งสุดท้าย ใช้เมล็ดมัน

หนักหกชั่ง เท่ากับ ยาทั้งหลาย
เคล้ากันไป เสกคาถา ที่อาถรรพณ์
"สัพเพ ธัมมา นาลัง อะภินิเวสายะ"อัน
เป็นธรรมชั้น หฤทัย ในพุทธนาม

จัดลงหม้อ ใส่น้ำ พอท่วมยา
เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้ หนึ่งในสาม
หนึ่งช้อนชา สามเวลา พยายาม
กินเพื่อความ หมดสรรพโรค เป็นอุดร ฯ

พุทธทาสภิกขุ
<O</O
<O</O
ดังนั้น ข้างฝาห้องจึงมีตัวหนังสือตัวใหญ่ติดไว้เพื่อให้จำได้ง่ายและนำมาใช้ทันท่วงที<O</O
<O</O

มี 6 คำ ดังนี้<O</O
<O</O

ยาระงับสรรพทุกข์<O</O
<O</O

ไม่รู้ไม่ชี้ <O</O
ช่างหัวมัน
อย่างนั้นเอง
ไม่มีกู - ของกู
ไม่น่าเอา-น่าเป็น <O</O
ตายก่อนตาย<O</O
<O</O

และสุดท้ายจะ<O</O
<O</O

ดับไม่เหลือ<O</O
<O</O

นั่นเอง<O</O
<O</O

จะเห็นว่าในความฝันของคุณชยุตนั้น ผู้ที่ฝึกทุกคนจะตั้งใจทำบททดสอบนั้นด้วยความอดทนอย่างยิ่ง มีความเพียรอย่างยิ่ง และไม่มีใครบ่น หรือถอดใจเลยแม้แต่น้อย มีแต่ตั้งหน้าตั้งตาพยายามที่จะสอบผ่านให้ได้ในทุกแบบทดสอบ นอกจากพยายามเต็มที่แล้ว และไม่ผ่านเท่านั้นก็ต้องออกไปก่อน<O</O
<O</O

เพราะระบบบอกว่า มีเวลาจำกัด ต้องฝึกไปให้จบตามเวลา เหลือแค่ไหนเอาแค่นั้น<O</O
<O</O

ที่เหลือค่อยมาซ่อมทีหลัง เพราะรอไม่ได้<O</O
<O</O

การฝึกจึงต้องดำเนินไปเรื่อย จนจบครบการฝึก และปิดการฝึกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2543
<O</O
<O</O
ดังนั้น คนที่ได้ออกไปก่อนในช่วงฝึกนั้น ตอนหลังได้มีการเรียกเข้ามาเรียนเพิ่มเติมอีกหลายท่าน <O</O
<O</O
<O</O

 

มีบททดสอบหนึ่งที่ผมจำได้ในฝันคือเขาให้เอาด้ายสีขาวเหมือนฝ้ายผูกแขนนี่แหละ
ให้ผู้เข้าสอบเอาคอหนีบด้ายไว้กับไหล่ตัวเองแล้วโยงปลายอีกข้างไว้กับเพดานคือให้แขวนคอตัวเองไว้กับเพดานว่างั้นเถอะ
แต่แขวนแบบไม่ได้ผูกเชือกไว้นะ ใครทำขาด หรือตกลงมาก่อนจะครบกำหนด 7 วัน ก็เป็นอันว่าสอบตก<O</O

ข้าว น้ำก็กินเองไม่ได้ต้องให้ญาติๆ เพื่อนฝูง ที่ผู้สอบแต่ละคนจะมีญาติ พี่น้องเพื่อนฝูงมากมาย
คอยห้อมล้อม คอยลุ้นคอยให้กำลังใจอยู่รอบๆ มาป้อนน้ำให้ โดยค่อยๆเอาน้ำใส่ในหลอดดูดแล้วค่อยๆหยอดลงไปในปากให้ เป็นเวลา 7 วัน

<O</Oจะเห็นว่า รูปแบบการฝึกนั้น เป็นการฝึกในรูปแบบที่ไม่มีอยู่ในกรอบที่จะคิดได้เลย ทำก็ไม่ได้ด้วย เพราะนอกระเบียบแบบแผนที่มีการฝึกโดยทั่ว ๆ ไป เป็นการแจ้งให้ทราบว่า

<O</Oแบบทดสอบแต่ละแบบนั้น ต้องใช้ความอดทน ความพยายามอย่างยิ่งยวด ซึ่งไม่ได้แค่อดทนธรรมดา แต่ต้องคูณสอง คูณสาม เลยทีเดียว นอกจากต้องอดทนทางร่างกายแล้ว ต้องอดทนทางจิตใจด้วย เสียดทานต่อความรู้สึกที่คอยแต่จะหลอกล่อว่าพอเถอะ ไม่ไหวแล้ว อยู่ตลอดเวลา<O</O
<O</O

ดังนั้น การฝึกจึงต้องให้เรียนรู้เรื่องการปล่อยวาง ปล่อยวางความคิด ปล่อยวางอารมณ์ ปล่อยวางอุปาทานขันธ์ห้าว่าเป็นตัวเราของเรา จะเหนื่อยก็ตัวมันเอง จะหิวก็ตัวมันเอง น้อยใจก็ตัวมันคิดเอง คิดว่าไม่ไหวไม่สู้ ก็มันคิดของมันเอง อารมณ์หดหู่เบื่อหน่าย หวาดกลัว ก็เป็นอารมณ์ของมันเอง อยากเบื่อ อยากกลัว อยากหนี ก็เรื่องของมันไม่ใช่เรื่องของเรา ดังนั้นเราจึงไม่เกี่ยวในความทุกข์ ของทุกสถานการณ์ แม้ในขณะที่ร่างกาย หรือจิตใจกำลังถูกกดดันบีบคั้นอยู่ก็ตาม
<O</O

เพราะไม่มีตัวเรา เป็นผู้ทุกข์นั่นเอง<O</O
<O</O

จึงต้องเอายาระงับสรรพทุกข์มาใช้ในขณะนั้น ไม่รู้ไม่ชี้ ช่างหัวมัน อย่างนั้นเอง ไม่มีกู-ของกู มากำกับทันที ก็จะมีสติ ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น เพราะทั้งหลายทั้งปวง มันไม่ใช่ตัวเรา มันเป็นของธรรมชาติ ถ้าธรรมชาติ จะแกล้งกันเอง ก็เป็นเรื่องของมัน มันอยากคิดเอง มันอยากทุกข์เอง ก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวกับเรา
<O</O
ดังนั้น สถานการณ์กดดัน บีบเค้น และตึงเครียดเหล่านั้นใช้ขันติ หรืออดทนอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีปัญญาเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง แล้วปล่อยวางความคิด ความรู้สึกเหล่านั้นด้วยความเข้าใจ จึงจะเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ที่กล่าวมา

 

ญาตินี่ก็มีส่วนสำคัญนะ เพราะถ้าญาติใคร เกิดใจอ่อนให้ความช่วยเหลือมากเกินไป ผู้นั้นก็จะถูกไล่ออกจากห้องทันที
ยังไม่พอแค่นั้นะครับ ผู้ช่วยครูฝึกนี่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันในฝันรู้สึกพวกเขาจะเป็นเทวดานะเขาก็จะคอยมาแกล้งผู้เข้าสอบด้วยนะ
ไม่ใช่ว่าผู้เข้าสอบจะทำได้ดีๆแล้วจะผ่านทุกคนนะบางคนเทวดาตนไหนแกล้งมากๆ ก็จะแกล้งให้สอบตกก็มีนะ
ผมกับญาติๆของเด็กผู้หญิงคนนั้นยังซุบซิบกันอยู่เลยว่าทำไมเทวดาพวกนี้ขี้โกงจัง

ตอนท้ายๆของการสอบแต่ยังไม่ท้ายสุด เด็กผู้หญิงที่ผมไปช่วยลุ้นอยู่นั้นถูกไล่ออกจากห้องสอบเพราะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ครูฝึกถามว่าเขาปากเหม็นไหม๊ ดันไปตะโกนตอบว่า"ปากเหม็นค่ะ"คนเดียวซะอย่างงั้นแหละ
ครูฝึกเลยบอกว่า "มึงออกไปจากห้องเลยไป!!" ก็เลยออกมานั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าห้อง
พร้อมผมและญาติๆคนอื่นๆ แต่เสียงครูฝึกพูดเข้ามาในหัวผมว่า "พาน้องเขาออกไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ"
"เดี๋ยวจะต้องโดนซ่อมก่อน" ซ่อมในทางทหารนี่คือถูกทำโทษก่อนหนะครับก็เลยไม่แน่ใจว่าน้องเขาถูกไล่ออกมาจริงๆหรือยัง
<O</O
<O</O

ในแต่ละสถานการณ์ ญาติพี่น้องจะมีส่วนในแบบทดสอบตลอดเวลา ซึ่งในความฝันสื่อความหมายให้เห็นว่า ญาติพี่น้อง พ่อแม่ พี่น้อง หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิด รอบ ๆ ตัวเรานั้นจะมีส่วนร่วมกับบททดสอบเสมอ
<O</O
ในความฝันนั่นคือ ความห่วงใย ความใส่ใจ ความสงสาร ซึ่งอาจเป็นการกลายเป็นโทษก็มี
<O</O</O
ดังนั้น ผู้กำลังทำบททดสอบ จะเริ่มเรียนรู้ว่า คนในครอบครัว ญาติพี่น้อง รอบ ๆ ตัวเรานั่นแหละ เป็นผู้ที่จะคอยทดสอบเรา ไม่ว่าจะเป็นการขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง การดุด่าว่ากล่าวกัน การเอารัดเอาเปรียบกันแม้เป็นเพื่อน เป็นญาติ การทำให้เสียใจน้อยใจ การปลอบใจ ให้กำลังใจ หรือการผิดหวังสมหวังต่าง ๆ <O</O
<O</O
หรือบางครั้ง พอเราเดือดร้อนแทนที่จะช่วยเหลือ แต่กลับซ้ำเติม อย่างนี้เป็นต้น<O</O
<O</O
นี่แหละบททดสอบของจริงเลยละ <O</O
<O</O
คนเราเมื่ออยู่กับคนอื่น สถานการณ์อื่น เรามักจะคอยมีสติ คอยดูอารมณ์ คอยจับจ้องว่าเราจะถูกใครทดสอบบ้าง ดังนั้น จึงไม่ค่อยทุกข์เท่าไรกับคนอื่นเพราะรู้ว่าเขาต้องมากระทบจิตเราแบบนี้อยู่แล้ว เรียกว่า ตั้งหลัก เมื่อตั้งหลักได้ จึงไม่ค่อยทุกข์ เท่าไร<O</O
<O</O
แต่พอเข้าบ้าน ก็ลืมว่าคนที่บ้านน่ะแหละ ผู้ช่วยการฝึกโดยแท้จริง แต่เรากลับมองไม่เห็นว่าเป็นการฝึก เขาว่าอะไรนิดก็โมโห น้องถามอะไรหน่อยก็รำคาญ ภรรยาทำอะไรช้าก็โมโห ญาติมาหาก็เบื่อหน่าย ไม่พอใจ<O</O
<O</O
เพราะลืมไปว่า นี่ก็คือการฝึกกระทบจิต ที่แนบเนียนเหมือนไม่ได้ฝึกนั่นเอง<O</O
<O</O
เพราะบางคนอยู่นอกบ้านใจเย็น อารมณ์ดี มีเมตตา ให้ความช่วยเหลือคนอื่นได้ทั่วไป<O</O
<O</O
แต่พอกลับเข้าบ้านก็คอยแต่จะอารมณ์เสีย ไม่ได้ดังใจ และความทุกข์ก็เกิดขึ้นได้ง่ายเพราะความไม่เข้าใจนั่นเอง<O</O
<O</O
เพราะลืมไปว่า คนใกล้ชิดรอบตัวเรานั่นแหละ เป็นผู้ที่ทดสอบเรา อย่างที่เราอาจนึกไม่ถึงนั่นเอง
<O</O
ถ้าตั้งหลักให้ดี แล้วมองให้รอบ และเห็นว่าเป็นการทดสอบอารมณ์ทั้งนอกบ้านและในบ้านแล้ว ก็จะมีการปล่อยวางอารมณ์เหล่านั้นได้ จะเท่าเทียมกันไม่ว่าจะกระทบกับคนนอกบ้าน ที่ทำงาน เพื่อนบ้าน ก็จะเห็นว่ามันก็เป็นอย่างนั้นแหละ ไม่มีอะไร ปัญญาก็จะเกิด หากมีปัญหาใด ก็แก้ปัญหานั้น ๆ ไป โดยไม่ทุกข์นั่นเอง<O</O

 

ดังนั้นในความฝันของคุณ Chayutt นั้น สื่อความหมายให้รับรู้ว่า ความไม่มีรูปแบบในการฝึกนั้นก็คือ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าจะมีได้ ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะไม่ได้มีการพบเจอมาก่อนนั่นเอง
<O</O
เหมือนเช่นในความฝัน การเอียงคอเกี่ยวเชือกโดยไม่ผูกนั้น เป็นไปไม่ได้ แล้วการแขวนยังต้องให้ได้ตั้ง 7 วัน และไม่ได้กินอะไรจะอยู่ได้เหรอ แต่ทำไมผู้ที่กำลังทดสอบในความฝันจึงคิดว่าทนได้ ทำได้ และบางคนก็ผ่านได้ นั่นก็คือ การไม่จำกัดรูปแบบ แม้ผู้อื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจ แต่ผู้ฝึกจะเป็นผู้รู้เอง เข้าใจเอง และต้องเพียรเอง โดยอาศัยจากความเข้าใจ ที่พี่เลี้ยงคอยให้ข้อมูลผ่านมาในความคิดนั่นเอง(พี่เลี้ยงก็คือผู้ที่สื่อสารตรงกับบุคคลนั้น เป็นผู้คอยมาดูแล 1 ต่อ 1 หรือดูแลตัวต่อตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทพ เป็นเทวดา หรือเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ตาม ก็แล้วแต่งานของแต่ละท่าน โดยพี่เลี้ยงก็จะมีทั้งมาช่วย และสร้างกลไกให้ทุกข์ เพื่อให้เกิดกระบวนการทางจิต โดยหาทุกข์มาให้ ทำให้เห็น แล้วก็อธิบายให้ปล่อยวาง)
<O</O

ผู้ที่ฝึกเป็นกลุ่มฯ ก็ยังถูกฝึกในความไม่มีรูปแบบเช่นกัน <O</O
<O</O
มีอีกหลายอย่างที่กดดันจิตใจอย่างมาก เรื่องทำให้อับอายมีอยู่ตลอดเวลา มีหลายวาระอย่างเช่น โกนศรีษะทั้งชายหญิงแล้วออกไปตลาด ผู้ชายแต่งหน้าทาปากไปซื้อของ บางครั้งไปคุ้ยในถังขยะ บางทีก็ทาแป้งขาววอกแบบงิ้ว แล้วเดินรำวงข้างถนนที่รถวิ่งมากมายคนเขาก็มองเหมือนคนบ้า บางทีก็เดินเข้าแถวไปไหว้คนเดินผ่านหน้าบ้าน คนถูกไหว้ก็งง หรือนั่งกินข้าวอยู่แล้วเอาข้าวราดศรีษะ วิ่งเอาหน้าไปจิ้มขนมเค้ก บางครั้งให้ทำกับข้าวอย่างดี น่าทานมาก พอเตรียมจะทานก็เอาไปเททิ้ง เลยอดข้าวกันไป หรือไล่ออกไปนอนนอกบ้านบ้าง ตากยุงตากน้ำค้าง อย่างนี้เป็นต้น ที่เล่ามาเพียงเล็กน้อย มีอีกมากมายที่เล่าไม่หมด ถูกกดดันอย่างมากในทุกสถานการณ์ ที่เรียกว่า....<O</O
<O</O
ถ้าอยู่ไม่ได้ .... ออกไป

<O</O
ถ้าอยู่ได้ ... ก็สอน<O</O
<O</O

ดังนั้นการฝึกจึงไม่มีรูปแบบ ก็เพื่อให้มีการลดทิฐิมานะ อัตตาตัวตน จากคนที่เคยเป็นหัวหน้าคน มีงาน มีเงิน ก็จะต้องถูกกดดันเช่นกัน จะปล่อยวางได้มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่แต่ละบุคคลที่จะเอาปัญญาทางธรรมะมาพิจารณาประกบคู่ไปด้วย คนจบปริญญาตรี เรียนมาก หรือคนที่เรียนน้อย ก็จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เท่าเทียมกัน มีแต่มุ่งที่จะปฏิบัติเพื่อลด ละ เลิก และปล่อยวางในการอุปาทานขันธ์ห้า เท่านั้น<O</O
<O</O

 

ที่เล่ามาตั้งยาวก็เพราะผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับ "ผู้ที่กำลังถูกทดสอบ" ทั้งหลาย
5000 คนทั่วโลก 100 ครอบครัว และ 60 หมายเลข อย่างที่พี่สุดใจว่า เพราะบรรยากาศที่ผมเล่ามานั้น
อาจจะพอทำให้มองเห็นได้ว่า และผมก็เชื่อว่ามันเป็นแบบนี้ คือ


ต้องขอขอบคุณ คุณChayutt เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้นำความฝันนี้มาเล่าให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบด้วย

เพราะคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานในเรื่องของภัยพิบัติ ดังนั้น การที่ถูกฝึกเดี่ยวด้วยทุกข์อย่างเข้มข้น และผ่านมาได้อย่างเข้มแข็ง จนเข้าใจได้ถึงสภาวะธรรมของทุกสรรพสิ่งที่เป็นธรรมชาติแล้วนั้น พี่สุดใจขออนุโมทนาด้วยค่ะ

ธรรมชาติ มันก็เป็นของมัน...อย่างนั้นเอง...มาก่อนอยู่แล้ว และมันก็ยังเป็น...อย่างนั้นเอง...ในขณะนี้ และก็จะยังคงเป็น...อย่างนั้นเอง...ต่อไปในอนาคต

มันจึงไม่ได้มีตัวใคร ของใครโดยจริงแท้ เพราะทุกอย่างเป็นธรรมชาติทั้งสิ้น

แม้ในอดีตที่ผ่านมา

แม้ในขณะนี้

หรือแม้แต่ในอนาคตข้างหน้าก็ตาม

 

จินตวดีถูกฝึกจนแทบจะชินชา แม้ได้สิ่งใดมาก็ไม่ลิงโลดดีใจ แต่จะมีสติระลึกเสมอ เมื่อได้มาได้ ก็เสียได้เช่นเดียวกัน ตามกฏ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่ยั่งยืนและจีรัง ไม่วาดหวังในอนาคต และ ไม่ย้อนกลับไปคิดถึงอดีต มีสติอยู่แต่ปัจจุบัน เพราะถ้าหวังมากมักจะโดนหักมุม ส่วนเรื่องคนใกล้ตัวพอจะรู้เหมือนกัน บางทีอดกลั้นแต่ที่ทำงาน พอกลับถึงบ้านจะอารมณ์เสียกับคนที่บ้าน ตอนนี้ก็พยายามระวังอารมณ์เป็นพิเศษ บททดสอบเกี่ยวกับความตายที่ทุกคนกลัวที่สุด อย่ากลัวเลย จิตวิญญาณเป็นอมตะ เราเกิดและตายอยู่ทุกขณะจิตโดยที่เราไม่รู้ตัวอยู่แล้ว ตัวเรานี้ก็ไม่ใช่ของเราอย่างที่คุณสุดใจว่า จะอยู่ จะตายช่างมัน ตัวจินตวดีเองเหมือนโดนทดสอบแล้วนะ แต่จินตวดีเลือกที่จะตายแต่ไม่ยอมผิดสัจจะตัวเอง

 

สวัสดีครับพี่สุดใจ
ระหว่างที่ผมอยู่ที่หิมาลัย
มีประสพการณ์แปลกแปลกหลายอย่าง
ผมขอเล่าในประเด็นสาระสำคัญครับ
...
ระบบในร่างคงโดนเพิ่มเข้ามา
ผมสังเกต ที่นาฬิกาของผมที่ใส่ตลอดเวลาบนภูเขานั้น
จะเดินแบบไร้ทิศทาง
ถอยหน้า ถอยหลัง
วันเดือนปี ไปข้างหน้า หรือ ย้อนกลับ
(นาฬิกา tissot รุ่นที่ ลาร่า ครอฟท์ ใส่ในหนังเรื่อง ทูมบ์ ไรเดอร์)
นาฬิกาจะเดินเหมือน เข็มทิศ ในหนังเรื่อง ดิ โกลเด้น คอมพาสส์ครับ
(ก่อนจะเดินทาง ผมไปเช่าหนังเรื่องนี้ มาดู เห็นแล้ว อยากได้ เข็มทิศแบบนี้บ้างเพราะสามารถ ใช้ไปค้นหาคำตอบที่เราต้องการได้ โดยใช้เข็มทิศที่ว่านั่นบอก)

...
การเห็นด้วยตาเนื้อจะชัดขึ้นมาก
ตัวอย่างเช่นการเห็นเงาบนพื้นดิน
โดยปราศจากวัตถุใดมาบังแสง
การเห็นภาพอนาคต ซ้อนทับกับภาพที่เห็นด้วยตาเนื้อปัจจุบัน
(แต่ผมเองก็ไม่รู้อนาคตเมื่อไหร่)
เป็นภาพอนาคตที่เห็นชัดด้วยตาปล่าวครับ
...
การเห็นอนาคตล่วงหน้าในความฝัน
ที่ระบุสถานที่และสิ่งที่ผมกำลังจะทำ
(ผมเล่าความฝันให้คนที่บ้านฟัง
และสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นภายใน7 วันหลังจากนั้น
เป็นกรณี ที่ไม่ใช่ เดจาวู ครับ)
...
มีทั้งเรื่องระบบไฟฟ้า และระบบแม่เหล็ก
เล่าสู่กันฟังครับพี่สุดใจ
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายเหมือน
ที่พี่เคยบอกผมนะครับ
...

 

อยากรู้ว่าภัยพิบัติมีเรื่องเกี่ยวกับ ซึนามิ นากีส และแผ่นดินไหวที่จีนหรือเปล่าครับ



Sakunadeo from Phyra

 

ขอให้คุณ ASTRO NEEMO ช่วยตอบทีค่ะ..
รออ่านอยู่นะคะ .. (deejai)

 

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน

พี่สุดใจขอนำเรื่องราวที่คุณ ธนิตศักดิ์ ได้พบเจอมา และฝากให้พี่สุดใจช่วยโพส เพื่อให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับทราบด้วยนั้น

คุณธนิตศักดิ์ได้โทรมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พี่สุดใจฟังเมื่อคืนที่ผ่านมาคือ วันที่ 21 พฤษภาคม 2551 เวลา 22.34 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย

ขอเล่าในโพสถัดไปค่ะ

 

เมื่อคืนนี้เวลา 22.34 นาฬิกา มีโทรศัพท์เรียกเข้ามาหาพี่สุดใจ มองหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียกเข้ามา เป็นหมายเลข 020000000 พี่สุดใจก็งงว่า หมายเลขของใคร และหมายเลขอย่างนี้มีด้วยหรือ พอรับสาย<O</O
<O</O
เสียงปลายทางเป็นเสียงผู้ชาย สวัสดีครับจำผมได้ไหมครับ ผมธนิตศักดิ์ โทรมาจากอิตาลีครับ
<O</O</O
อ๋อ... จำได้แล้วค่ะ คุณธนิตศักดิ์นั่นเอง สบายดีไหมคะ?<O</O
<O</O
เป็นการทักทายในครั้งแรกที่รับสาย เพราะจำได้ว่าผู้ที่โทรมาคือคุณธนิตศักดิ์ หรือคุณ ufo no.356 สมาชิกคนหนึ่งของพลังจิต จากอิตาลีนั่นเอง<O</O
<O</O
มีการสอบถามความเป็นอยู่กันเล็กน้อย จากนั้นคุณธนิตศักดิ์ได้กล่าวว่า<O</O
<O</O
ผมมีเรื่องแจ้งให้ทราบครับ อยากให้พี่สุดใจช่วยโพสแทนผมด้วย คอมฯที่อิตาลีไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทย จึงไม่สามารถพิมพ์เรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ จึงขอแจ้งให้พี่สุดใจทราบ และฝากพี่ช่วยโพสแทนผมด้วยนะครับ<O</O
<O</O
จากนั้น ก็เป็นการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ หลายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้ฟัง ซึ่งพี่สุดใจก็พยายามจดจำเพื่อนำมาเล่าต่อ แต่อาจจะตกหล่นไปบ้างก็ต้องขออภัยคุณธนิตศักดิ์ไว้ด้วยนะคะ เพราะอาจจำได้ไม่ครบ แต่ส่วนใดที่ตกหล่นไปบ้าง หากนึกได้จะนำมาโพสเพิ่มเติมค่ะ<O</O
<O</O
ในหลายครั้งที่ผ่านมา คุณธนิตศักดิ์ ได้เคยโทรมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นการพบเห็นจานบินจำนวนมากที่อิตาลี และยังมีการเห็นอย่างต่อเนื่องมาตลอด รวมถึงมีการรับข้อมูลจากระบบฯ ที่สื่อสารกับคุณธนิตศักดิ์โดยตรง และอีกหลายเรื่องราวที่ได้นำเสนอไปแล้วในโพสก่อน ๆ นั้น <O</O
<O</O
จะเห็นได้ว่า ความชัดเจนในการติดต่อสื่อสาร แบบตัวต่อตัวเริ่มปรากฏชัดเจนมากขึ้น มีการทดสอบทดลองในหลาย ๆ ครั้ง ก็เป็นไปดังข้อมูลที่แจ้งมา จึงทำให้เริ่มตระหนักว่า สิ่งที่พี่สุดใจได้เคยบอกไว้หลาย ๆ เรื่อง ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศนั้น ได้เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้น จึงได้โทรมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ในขั้นตอนของงานที่ได้รับมอบหมาย<O</O
<O</O
คงต้องขอแยกเล่าแต่ละเรื่อง ก็แล้วกันนะคะ

(ล่าง) คุณธนิตศักดิ์ (หน้าสุดขวามือ) นัดสนทนากับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก่อนเดินทางไปอิตาลี

<O</O
<!-- / message -->
<O</O

 

เรื่องแรก ก็คือ หลังจากที่มีการเห็นจานบินที่อิตาลีอย่างสม่ำเสมอ คือมีการมาปรากฏให้เห็นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเดินทางไปทีใด ก็มักพบเห็นเสมอ หรือแม้ในวันหยุดงานแล้วออกไปทำธุระก็ตาม
<O</O
จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง จู่ ๆ ก็คล้ายกับว่ามนุษย์ต่างดาวได้พาคุณธนิตศักดิ์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ไปด้วยจิต สถานที่ไม่คุ้นตา ไม่เหมือนบนโลกมนุษย์ น่าจะเป็นดวงดาวอื่น แล้วคุณธนิตศักดิ์ได้สอบถามผู้ที่พาไปหลายเรื่องที่เคยสงสัย ว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องทำอะไร ต้องฝึกอะไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อจะทำงานช่วยเหลือภัยพิบัติของโลกนี้<O</O
<O</O
ผมต้องฝึกอะไรบ้าง ? <O</O
<O</O
คำตอบก็คือ

 

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ตอนไปถึงอิตาลีใหม่ ๆ ก็สมัครสมาชิกโดยใช้ชื่อ ufo no.356 เข้ามาอ่าน เข้ามาโพสในระยะแรก แต่อยากจะเปลี่ยนชื่อใหม่ ก็สมัครใหม่เป็นชื่ออื่น แต่พอจะล็อคอินเข้าระบบ กลับปรากฏว่าเข้าไม่ได้ เครื่องคอมฯไม่ยอมรับ ลองมาหลายครั้ง ลองมาหลายชื่อ แต่ก็เข้ามาโพสไม่ได้ แปลกใจมาก จนสุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้ ufo no.356 อย่างเดิม จึงสามารถเข้ามาโพสได้ตามปกติ ก็บอกว่าแปลกมาก สงสัยไม่ให้เปลี่ยนชื่อ
</O
อีกเรื่องหนึ่ง ก็คือได้รับข้อมูลว่า ให้รวบรวมผู้ที่สนใจจะฝึกด้านพลัง เพื่อใช้ในการรักษาเพื่อนมนุษย์ในเวลาวิกฤตข้างหน้า ซึ่งคุณธนิตศักดิ์บอกว่า เขากล่าวไว้ชัดเจนเลยว่า ต้องใช้ทำงานในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งหากคุณธนิตศักดิ์ได้กลับมาประเทศไทยแล้ว จะมารวบรวมผู้สนใจฝึกพลังในการรักษานี้ ซึ่งเขาจะถ่ายทอดพลังนี้ให้กับมนุษย์โลก ซึ่งในบางส่วนคุณธนิตศักดิ์ได้มีการนำพลังที่ได้รับมาไปทำการทดลองรักษาคนอื่นและได้ผลมาแล้ว<O</O
<O</O
อีกเรื่องหนึ่ง คือการเห็นเลข 11 บอกว่าตัวเองไม่ได้คิดไปเอง พยายามที่จะตรวจสอบความเป็นไปได้ตลอดเวลา แต่ไม่ว่าจะทำอะไร มองไปทางไหน จะเห็นแต่เลข 11 ตลอดเวลา ซื้อของท้ายบัตรลงท้ายเลข 11 เสมอ ไม่ว่าที่พัก หรือแม้บัตรอะไรก็ตามที่ได้รับ จะลงท้ายด้วย 11 ตลอดเวลา จนเริ่มแปลกใจว่าเพราะอะไร ยิ่งได้มาอ่านและรู้ว่าคนอื่น ๆ ก็จะเห็นเลข 11 อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเหมือนกัน จนผมคิดว่า มันไม่ใช่การบังเอิญ เหมือนมีการจงใจให้เห็น อ้อ.. ลืมบอกไป ผมก็เกิดวันที่ 11 ด้วย
<O</O
(ค่ะ ความบังเอิญรึเปล่า? .... เวลาที่คุณธนิตศักดิ์โทรเข้ามาก็เป็นเวลาของไทย 22.34 (2 + 2 + 3 + 4 = 11 ) มีหลักฐานคือการบันทึกเวลารับสายของเครื่องโทรศัพท์ 22.34 น.)
<O</O
คุณธนิตศักดิ์แจ้งว่า ที่คาดว่าจะได้เดินทางกลับมาประเทศไทยในเดือนตุลาคมนั้น สรุปว่ากลับไม่ทัน แต่จะมาในช่วงปีใหม่ และยังบอกว่าอาจจะได้ขึ้นเขากะลาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์อีกครั้ง เป็นรอบที่ 2 ก็เป็นได้ <O</O
<O</O
ซึ่งพี่สุดใจกล่าวตอบไปว่า ยินดีต้อนรับค่ะ <O</O
<O</O
ยังมีเรื่องเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ อีกอย่างละเล็ก ละน้อย พี่สุดใจจำไม่ได้แล้ว หากขาดตกบกพร่องเรื่องใดไปบ้าง ต้องขออภัยคุณธนิตศักดิ์ด้วย<O</O
<O</O
ขอขอบคุณ และอนุโมทนาด้วยค่ะ <O</O</O

 

จินตวดีเห็นเลข 11 ติดกันทุกคืนเลยค่ะ มันคืออะไรคะ เมื่อคืน เป็น N11

 

เอ...เคยได้ยิน เค้าว่าให้จับตาดูเดือน 11 ไว้ November น่ะค่ะ
ไม่รู้ว่าจะใช่รึปล่าว

 

นานๆมาทีมีเรื่องแปลกๆที่ไม่แปลกจากฝันมาเล่าให้ฝังครับ ไม่รู้จะโพสห้องไหนดี(ห้องพี่สุดใจกะห้องพี่นักเขียน ก็เลย โพสไว้ 2ห้อง)

ช่วงนี้ฝันบ่อยๆซ้ำเนื้อหาเดียวกันแต่ คือ ส่งข้อสอบช้า ส่งการบ้านช้า ค้างส่งข้อสอบ ทำให้เพื่อนๆต้องมารอเราคนเดียว บวกกับ งงกับตัวเองในฝันว่า แอะฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ประมาณว่ารู้ว่าตัวเองฝันอยู่ แต่อีกความคิดรู้สึกว่ามันจริงแล้วฉันมาทำอะไรที่นี่ แล้วช่วงนี้มีความฝันที่ซำเรื่องราวเดี่ยวกันหลายครั้ง (เนื้อหาเดิม)

ฝันอีกอย่างหนึ่งคือ มีเพื่อนๆจากต่างมิติมาเยี่ยมบ่อยๆในฝัน ในฝันไม่ได้เห็นตัวแต่รู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆ ส่วนมากจะมาหาที่ห้องนอน (เมื่อคืนมา 2 คน)
รู้สึกว่าเหมือนรู้จักกันแต่จำไม่ได้ ถามคนหนึ่ง บอกว่ามาหา 2ครั้งแล้ว อีกคนบอกมา 3ครั้ง แล้วช่วงนี้ก้มีอะไรให้ประหลาดใจเล็กน้อย คือ ช่วงต้นเดือนพฤษภา ฝันเห็นราชวงที่สิ้นพระชนไป ในชุดข้าราชการ ในฝันเข้าในว่าท่านเป็นครูของเรา มาบอกว่า "วันที่ 15 น่ะ ไม่ใช่ วันที่ 12" ก้ไม่ได้เอะใจ จดสัปดาน์ที่แล้ว เดินออกไปนอกบ้านตอนดึกๆ ออกไปมองท้องฟ้า วันนั้นดาวสวยดี สักก้เห็นจานบิน (เหมือนดาวแว็บน่ะ) นับครั้งนี้ก้ 8 ครั้งแร้วที่เห็น วันที่เห็นวันที่ 15 ครับ ทุกครั้งที่เห็นคือกลางคืนดึกๆ แล้วเราอยากออกไปดูดาวเอง

ไม่รู้ว่าเขาจะมาบอกอะไร แต่ในฝันถามเขา เขาไม่ตอบอะไร แต่รู้สึกว่าเขาเป็นมิตรน่ะรู้สึว่าเขาใจดีมากๆ มาครั้งนี้ที่เพิ่งบอกว่ามากี่ครั้งแล้ว หรือเขามาเตือนเราหว่า (สับสนทางความคิดจังช่วงนี้ มึนๆ)

axzon ก้ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดีที่บ้านเขาไม่สนใจกัน ก้เลยมาโพสในบอร์ดนี้เผื่อใครมีความรู้บ้างครับ
<!-- / message -->

 

ขออ้างอิงคำตอบจากคุณ Astro Neemo ที่ได้เคยตอบไปแล้ว ค่ะ.. (||)

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ JINTAWADEE
งั้นรบกวนผู้รู้ช่วยกันตีความ จินตวดีได้รับมา แต่ยังไม่คุ้นกับการตีความ เมื่อวานไปทำทัวร์ที่เกาะช้าง จ.ตราดมา 2 วัน 1 คืน (เสาร์ - อาทิตย์) ในคืนวันเสาร์ระหว่างพักที่โรงแรม เวลาประมาณ 12.00 - 01.00 น. ก่อนนอนแปลกเพราะจักระที่ 7 ที่ตั้งบนศรีษะหมุนตลอด แต่พอจะรู้จากประสบการณ์แล้ว ว่าถ้าหมุนแสดงว่ามีการติดต่อจากใครบางคน หรือบางสิ่ง หลับฝันไปได้สักนิด (ฝันเห็นวิญญาณมาเกาะขาขอส่วนบุญ) ก็ลืมตาขึ้นมามองเพดาน เห็นพัดลมบนเพดาน (ห้องเปิดแอร์) สักพักเห็นเป็นกลุ่มพลังงานสีดำปรากฏอยู่บนเพดาน แว้บเดียวเท่านั้น พัดลมบนเพดาน ประตูมุ้งลวด สั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนเกิดแผ่นดินไหว จนทัวร์ลีดเดอร์ที่นอนอยู่เตียงข้าง ๆ ตื่น เราจึงบอกว่า "แผ่นดินไหว" สักพักประมาณ 1- 2 นาที ก็หยุด ตัวเราเอง ณ ตอนนั้นไม่มีความกลัวสักนิดว่าเป็นการกระทำของอะไร คอยคิดแต่ว่าสึนามิจะมาหรือเปล่า เพราะถ้าเกาะช้างแผ่นดินไหวขนาดนี้ สึนามิต้องมาแน่นอน โรงแรมเราอยู่ติดชายหาดขนาดนี้คงไม่รอด ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หูนั้นยังแว่วได้เสียงเหมือนคลื่นตลอดเวลา จึงหลับต่อ แต่เพียงแค่หลับตาลงเท่านั้นเห็นเป็นเส้นสีขาวเขียนเป็นตัวหนังสือ " pen พร้อมเห็นเส้นสีขาวเป็นรูปประเทศไทย ถึง 2 ครั้ง ลืมตาทันทีพร้อมทั้งคิด แต่คิดไม่ออก หรือเขาให้เราจดกันแน่ มาเมื่อคืนเป็นเลข 11 สรุปไม่แน่ใจ ตอนเช้าได้เช็คกับทุกคน และคนอื่น ๆ สรุปว่า ไม่มีแผ่นดินไหวเลย ก็เลยงงเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ อีกเรื่องเราเป็นคนกลัวความสูงมาก ถึงขนาดคิดว่าถ้าเกิดภัยพิบัติจริง ๆ ต้องย้ายขึ้นที่สูง เราจะทำอย่างไร เพราะกลัวขนาดหนัก สรุปเมื่อวานเจอไฟล์ทบังคับ เมื่อลูกค้าขึ้น (วัดถ้ำเขาระฆังทอง) เราก็ต้องขึ้นไปด้วย ตอนขึ้นกลัวมากจะเป็นลมอยู่หลายรอบ พอขึ้นถึงจุดสูงสุดที่เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลา กลับรู้สึกสบายใจ ข้างบนศรีษะหมุนอีกแล้ว คงแสดงความยินดีกับเรา พลันคิดได้เลย เขาอยากฝึกให้ชินกับความสูงนั่นเอง พอคิดได้ขากลับเดินตัวปลิวลงมาเลย ทั้งที่บันได้ชันมาก ความกลัวกลับหายเป็นปลิดทิ้ง แปลกดีจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกันคือ เหมือนจะได้คำสอนมาว่า ความคิดในทางลบของมนุษย์มีพลังรุนแรงมาก พลังความคิดมวลรวมของมนุษย์ในทางลบมีผลทำให้เกิดภัยพิบัติได้ ดังนั้นความคิดที่เป็นประจุในด้านบวกจะหยุด หรือชะลอได้ แต่ถ้าไม่ทันการณ์เป็นหน้าที่ของพวกที่ถูกกำหนดหน้าที่ไว้ในการช่วยเหลือกันอีกทีหนึ่ง

</TD></TR></TBODY></TABLE>
คุณ จินตวดี ครับ คุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องมีหน้าที่ไปสำรวจพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติเพื่อนำข้อมูลมาประมวลผล ในการแจ้งเตือนภัยพิบัติครั้งต่อไป
และต่อไปคุณจะได้รับรหัสจากจักรวาลเป็นเลข 11.11 เป็นระยะ และแสดงให้เห็นรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็นเลขจากเอกสาร นาฬิกา ป้ายทะเบียนรถ ฯลฯ

 

คุณ JINTAWADEE

สังเกตุจากสิ่งรอบ ๆ ตัว คุณซิคะ ว่ามีเลข 11 เข้ามาเกี่ยวข้องกับคุณอย่างไรบ้าง .. อนูโมทนา สาธุ นะคะ(deejai)

 

เมื่อวานนี้ได้เอาชุดนักเรียน สมุด ดินสอ ดินสอสี เครื่องกีฬา ไปให้โรงเรียนบ้านท่าไม้ทอง อ.ศรีเทพ ตอนขับรถออกมามองดูนาฬิกาที่รถ เวลา 11.11 น.

ถึงเพชรบูรณ์ แวะเติมแก๊สรถยนต์ เป็นเงิน 133 บาท จำนวน 11.11 ลิตร