หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ วัดเงินบางพรหม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย benay, 14 กรกฎาคม 2008.

  1. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ✅เหรียญรุ่นแรก ปี 2506 หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง

    บล๊อคนิยม เก่าเก็บ แทบไม่ได้ใช้ 9,500 บาท

    บูรพาจารย์ยอดขลัง แห่งเมืองวิเศษฯ

    วิชา มหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพัน มหาอุตม์เลื่องลือมากสมัยนั้นครับ เสกก้อนเนื้อเป็นต่อแตน บังฟัน ข้าวสารเสกมัดหุ่นพยนต์ ถ่ายรูปไม่ติด ปล่อยวิชาด้วยลูกไฟ ลงทอง 300 แผ่น เสกกะโหลกสุนัขเฝ้าบ้าน ตระกรุดมนุษย์ยักษ์เลื่องลือ ลงสาริกาที่ฟันฟันไม่ผุ ลงแผ่นทองติดกะโหลก เสกควายธนูฝุ่นตลบ ฯลฯ เรื่องราวต่างๆ มาจากผู้คนที่ทันยุคหลวงพ่อ และได้ถ่ายทอดเรื่องราวไว้ และหลายท่านยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน cr.เบ็น วิเศษฯ

    สภาพน่าสะสม ยันต์ติดครบทุกตัว

    ปิดให้พี่ j999 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6344.jpeg
      IMG_6344.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      302.9 KB
      เปิดดู:
      193
    • IMG_6346.jpeg
      IMG_6346.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      251 KB
      เปิดดู:
      186
    • IMG_6347.jpeg
      IMG_6347.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      113.5 KB
      เปิดดู:
      189
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2024
  2. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,986
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ขอปิดครับ
     
  3. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ราคา 4,500 บาทพอ เบี้ยแก้ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ปรอทเต็ม เขย่าดัง เขย่าดังฟังชัด เบสิคง่ายๆ แผ่นทองแดงปิดท้องเบี้ยหลุดไป ประหยัดไปเป็นหมื่นใช้บูชาได้


    เบี้ยชั้นครู ที่เลื่องลือแต่โบราณ

    ถอนคุณไสยเวท กันกระทำ เป็นมหาอุตม์ แม้แต่หมอฆารวาสผู้เรืองอาคมสมัยนั้นนามว่าโต๊ะราม ยังต้องพกเบี้ยแก้หลวงพ่อ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ พระอาจารย์ที่เสือมเหศวรให้ความเคารพมากๆ หลวงพ่อคำ เขียนยันต์ หนุมานเชิญธงไว้ให้ติดตัว ผ้านี้มีอานุภาพมาก ใช้เวลาขี่ม้าออกปล้น จะโบกสะบัดไปมา ให้แคล้วคลาด

    เบี้ยแก้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ ต้นสายตำราก็มาจากหลวงพ่อพักตร์. วัดโบสถ์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบ ซึ่งการสร้างเบี้ยแก้ในสายตำรานี้ สำคัญมากคือการเสกเบี้ยให้เป็น ส่วนปรอทนั้นถ้าว่ากันจริงๆไม่ต้องใส่ก็ยังได้ เบี้ยแก้ในสายนี้จะต้อง บูชาเทวดาประจำเบี้ยซึ่งสำคัญมาก และขั้นตอนมาก หลังจากนั้นจึงจะทำการเสกเบี้ย ส่วนปรอทที่นำมาใส่ด้วยเพราะเหตุว่าปรอทนั่นมีฤทธิ์ถ้าเสกเป็นแล้วใช้ได้สารพัดอย่าง ท่านจึงมาใส่ไว้คู่กัน ซึ่งเป็นการผสมผสานวิทยาการของบรมครูยุคโบราณ ซึ่งตามตำราที่หลวงพ่อพักตร์ท่านได้มาแต่ครูวาตนั้นเป็นตำราการเสกเบี้ย ให้เป็น ส่วนวิธีเรียกปรอทให้ได้ดั่งใจนึกนั้นท่านได้มาแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยสมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อคำท่านก็เรียกปรอทให้วิ่งเข้าเบี้ยได้ดุจมีชีวิตเช่นกัน แต่ท่านจะทำในยุคแรกๆไม่มาก ในตอนหลังใช้จับกรอกทั้งหมด เพราะเบี้ยแก้ท่านเลื่องลือมาก ไม่พอต่อความต้องการ จริงๆแล้วจะเรียกให้วิ่งเข้าหรือจับกรอกก็ไม่แตกต่างกันนัก เพราะใจความสำคัญอยู่ที่เสก ส่วนปรอทใส่เบี้ยของหลวงพ่อคำ ก็เป็นปรอทซัดด้วยว่านยาตามตำรา จนปรอทแข็งเป็นเม็ด ซึ่งต้องหุงเคี่ยวและผสมเติมว่านยาลงไป จนกว่าจะได้ที่ เพื่อฆ่าพิษปรอท เวลาเขย่าจึงดังแซ๊กๆ วิชาเบี้ยเป็นวิชาที่กัน และถอน แก้คุณไสยมนต์ดำ ของคนอื่นเขาที่ทำมา ผู้เสกต้องเก่งจริง และคัดของเขาได้ ไม่อย่างนั้นอายเขา หลวงพ่อคำ ถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลือมากด้านนี้ เล่าแล้วจะยึดยาวมาก เอาเป็นพอสังเขปเพียงเท่านี้ครับ cr.เบ็น วิเศษฯ

    IMG_7396.jpeg IMG_7393.jpeg IMG_7395.jpeg IMG_7394.jpeg
     
  4. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    อีกหนึ่งบูรพาอาจารย์ผู้วิเศษแห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ สภาพน่าสะสม 8,500 บาท

    ✅เหรียญรุ่นแรก ปี 2506 หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง บล๊อคนิยม

    บูรพาจารย์ยอดขลัง แห่งเมืองวิเศษฯ

    วิชา มหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพัน มหาอุตม์เลื่องลือมากสมัยนั้นครับ เสกก้อนเนื้อเป็นต่อแตน บังฟัน ข้าวสารเสกมัดหุ่นพยนต์ ถ่ายรูปไม่ติด ปล่อยวิชาด้วยลูกไฟ ลงทอง 300 แผ่น เสกกะโหลกสุนัขเฝ้าบ้าน ตระกรุดมนุษย์ยักษ์เลื่องลือ ลงสาริกาที่ฟันฟันไม่ผุ ลงแผ่นทองติดกะโหลก เสกควายธนูฝุ่นตลบ ฯลฯ เรื่องราวต่างๆ มาจากผู้คนที่ทันยุคหลวงพ่อ และได้ถ่ายทอดเรื่องราวไว้ และหลายท่านยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน cr.เบ็น วิเศษฯ

    สภาพน่าสะสม ยันต์ติดครบทุกตัว

    IMG_7402.jpeg IMG_7400.jpeg IMG_7401.jpeg
     
  5. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    IMG_7463.jpeg

    ✅นานๆมีเข้ามา ราคา 1550 บาท ผืนใหญ่ ขนาด 15x14 นิ้ว

    ♦️ผ้ายันต์หนุมานเชิญธง (นิยมมาก หายาก) เสก 7 วัน 7 คืน เสกกลางวันต้องให้พระอาทิตย์ทรงกลด เสกกลางคืนต้องให้ดาวตามตำราขึ้น จึงจะถือว่าสำเร็จ ผ้ายันต์ท่านจึงมีอานุภาพมากตาม ตำรา เครื่องสูงอันเป็นตำราชั้นครูของสายวัดโบสถ์ หลวงพ่อภักตร์ ซึ่งหลวงพ่อกร่ายท่านได้รับถ่ายทอดมาโดยตรง

    หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี วิเศษฯ จ.อ่างทอง

    ♦️หลวงพ่อกร่ายท่านเป็นลูกศิษย์สายตรง หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ เจ้าของเหรียญหลักเบอร์ 1 ของอ่างทอง ท่านมีวาจาสิทธิ์และหลังจากท่านมรณะภาพสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย

    ♦️เป็นผ้ายันต์ของท่านที่มีชื่อเสียงมากครับ นิยมมากว่าพระพรหมสี่หน้า ความหายากก็ยากกว่ามากครับ ประสบการณ์และความนิยมในท้องทีมีอย่างมากด้านคงกระพัน มหาอุตม์ กันกระทำย่ำยี โบกสะบัดไล่ลมฝน เป็นที่ชะงัดนักถ้าทำด้วยใจมั่น เพราะหนุมานเป็นลูกพระพาย คือลม และการเล่นหามีมานานแล้วครับ

    ♦️ประสบการณ์ด้านคงกระพัน เจอกันมากในสมัยก่อน เลื่องลือมากครับผ้ายันต์นี้ พี่ชายของคุณสาคร บ้านสวนกล้วย มหาดไทย พกผ้ายันต์หนุมานเชิญธงใส่ในกระเป๋าเสื้อ ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. ไม่เข้า ตอนนี้ทั้งพี่ชายและคุณสาครก็ยังมีชีวิตอยู่ ได้เคยเล่าประสบการณ์ตรงให้ผมฟังมาเอง และที่สำคัญวิชานี้เป็นสายวิชาที่แรง ถ้าไม่ศึกษาให้ดีจริงแล้วจะยุ่ง เพราะต้องใช้การปลุกเสกหนุนธาตุสูง คนทำอาจจะอายุสั้นได้ใช้เพราะใช้กำลังมาก ดังนั้นพระคณาจารย์ที่ศึกษามาดีแล้ว
    ♦️จะสร้างผ้ายันต์ตอนอายุมากๆ หรือไม่ก็ 60 ปีแล้วครับ หรือขึ้นอยู่กับพระคณาจารย์ท่านนั้นๆพิจารณา หลวงพ่อกร่ายท่านทำผ้ายันต์นี้ พิถีพิถันมาก ต้องเลือกวันเสกที่เป็นการหนุนกับยันต์ และต้องเสกในพระอุโบสถ

    ♦️หากจะถามว่าวัตถุมงคลใดที่เป็นความประสงค์โดยตรงของหลวงพ่อสั่งเอง จ่ายสตางค์เอง เสกแบบอยู่ในกุฏินานๆ วัตถุมงคลนั้นคือ ผ้ายันต์ ท่านมักจะแจกพระเครื่อง ห่อผ้ายันต์ไปให้ บางบ้านได้ผ้ายันต์พรหมสี่หน้าหนึ่งถึงสองผืน ในห่อผ้ายันต์ จะมีพระเครื่อง อีกหลายองค์ที่ท่านห่อไว้ให้ เช่น พระเนื้อผง เนื้อดินของท่าน พระหล่อโลหะ เป็นต้น แต่ผ้ายันต์หนุมานนี้ท่านจะเลือกให้เป็นคนๆไป ไม่ได้ว่า ขอแล้วท่านจะให้ทันที ผ้ายันต์หลวงพ่อสั่งมาครั้งละเป็นตั้งๆ ท่านชอบมาก หมดก็สั่งอีก …cr.เบ็น วิเศษฯ

    IMG_7460.jpeg
     
  6. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    นานๆจะมีแท้มาให้เห็นสักตัว ครูเบี้ยที่พรรษาสูงสุด ในครูเบี้ยแก้สายอ่างทอง สร้างราวปี 2490
    หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ และถือว่าหาที่แท้ดูง่ายๆยากที่สุด เจอเบี้ยสามสิบตัว อาจมีแท้แค่ตัวเดียว หายากไม่แพ้ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ท่านที่ชอบของแรงและหายาก บอกเลยครับว่าเงินหาง่ายกว่า แนะนำเลย ครับ

    ตัวนี้ดูง่ายรับประกันแท้ตลอดชีวิต สวยกริ๊บ 17,500 บาท ปรอทเต็มปริบไม่มีรั่ว

    .................. ประวัติปฏิปทา............. อ่าน ....

    #เบี้ยแก้หลวงพ่อซำราคาสอบถาม วัดตลาดใหม่ จ.อ่างทอง ครูเบี้ยมากด้วยบารมีอีกรูปหนึ่งที่ ประสบการณ์วัตถุมงคลไม่ได้แพ้เบี้ยหลักแสนหลักล้านเลยแม้แต่น้อย

    เบี้ยชั้นครูที่หาชมยากมาก แทบจะไม่ค่อยมีหมุนเวียนกันเลยครับ ยอดนิยมเช่นกัน ตัวนี้ ปรอทวิ่งดี

    อิทธิคุณเบี้ยแก้อาถรรพณ์ของท่านนั้นก็คล้ายๆกับเบี้นแก้สายอ่างทองทั่วไป คือ ถอนคุณไสย ยาสั่ง ยาเบื่อ ไข้ป่า หนุนดวงและยังมีอิทธิคุณ ทางมหาอุตม์ นับว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของท่าน ที่นับวันยิ่งหาดูตัวจริงยาก เพราะบางคนดูไม่ออก เพราะอาจไม่ได้เห็นบ่อยๆ หลวงพ่อซำท่านมีพรรษากาลมากกว่าครูบาอาจารย์ที่อยู่ในช่วงสร้างเบี้ยแก้ทั้งหมด คือ แก่กว่าหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ราว 15 ปี แก่กว่าหลวงพ่อนุ่ม 15 ปี แก่กว่าหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ราวๆ 20 ปี ซึ่งหลวงพ่อพักตร์กับหลวงพ่อซำ และหลวงพ่อองค์อื่นๆที่กล่าวนามท่านมา นั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน และเป็นพระสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมากทั้งหมด และหลวงพ่อทุกรูปก็เคารพหลวงพ่อซำมากเช่นกัน

    สำหรับการสร้างเบี้ยแก้ของหลวงพ่อ ตามข้อมูลเดิม ท่านจะทำทุกๆ วันอาทิตย์ วันอังคารและวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันแข็ง หากใน 3 วันนี้มีวันใดที่ตรงกับวันพระ ก็จะหยุดสร้างหนึ่งวัน แต่ข้อมูลไหม่คือ ท่านจะสร้างตามกำลังวัน แต่ต้องเป็นกำลังวันที่ตรงกับวันพระ เช่น วันอาทิตย์มีกำลัง วัน 6 สร้าง 6 ตัว วันอังคารมีกำลังวัน 8 สร้าง 8 ตัว และวันเสาร์มีกำลังวัน 10 สร้าง 10 ตัว หรือบางคราวท่านก็ลงไปยืนเรียกปรอทในน้ำ หน้าวัด ซึ่งผมเองได้สอบถามจากคนละแวกนั้นได้ความราวๆนี้ และหลวงพ่อท่านจะบรรจุปรอทเองทุกตัว จึงทำให้เบี้ยหลวงพ่อซำมีจำนวนน้อยจริงๆ และคนที่มีต่างก็หวงแหน ยิ่งเป็นคนท้องถิ่นตลาดไหม่ยุคเก่าล่ะก็ ไม่ต้องไปถามเช่าให้เสียเวลา เพราะไม่มีทางขาย ก็เพราะเขารู้ถึงอิธิคุณเป็นอย่างดี ช่วงหลังๆที่พอจะมีเก็บได้บ้างตามท้องถิ่น จะเป็นในยุครุ่นหลานเหลนเอาออกมาขายกันเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นเครื่องรางโบราณในสายหลวงพ่อซำที่ปัจจุบันหาแท้ชมได้ยากแล้ว ยิ่งเป็นยุคแรกๆราวๆปี 2480 ยิ่งหายากไปใหญ่

    หลวงพ่อซำได้มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2509 รวมอายุได้ 94 ปี 71 พรรษา ซึ่งนับว่าเป็นพระเถระที่มีอายุยืนยาวรูปหนึ่งของ จ.อ่างทอง สำหรับพระคาถาต่างๆที่หลวงพ่อท่านบริกรรมในการอุดชันโรงและปิดแผ่นฟอยล์นั้น ท่านมักจะใช้บท พระคาถามงคลนิมิตหลวงพ่อซำ โดยบริกรรมคาถาอาคมว่า

    อะวิชา ปัจจะยา ปิดจะยา ปัจจะยา
    อะวิชา ปัดจะยา ปัจจะยา ปิดจะยา
    อะวิชา ปัจจะยา อุอะมะตัง พุทธังอัดธะอุด

    ซึ่งจริงๆแล้วคาถานี้ท่านได้จากนิมิต ตามชื่อคาถา ท่านได้คาถานี้ในเรือแดง ระหว่างทางที่นั่งเรือไป กทม สมัยนั้น มีแม่ย่านางเอาคาถามาให้ท่านตอนท่านหลับ คาถานี้ศักสิทธิ์มากๆ ใช้ได้ตามอธิฐาน และหลวงพ่อซำท่านก็เชื่อถือมาก

    .... เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง ผมมิใช่ผู้รู้ แต่เป็นผู้ชอบศึกษาค้นคว้า และเอามาเล่าสู่กันฟัง

    ปิดให้พี่ j999 ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7505.jpeg
      IMG_7505.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      239.8 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_7501.jpeg
      IMG_7501.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      276.5 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_7503.jpeg
      IMG_7503.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      111.2 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_7500.jpeg
      IMG_7500.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      104.1 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_7502.jpeg
      IMG_7502.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      116 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_7504.jpeg
      IMG_7504.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      137.2 KB
      เปิดดู:
      47
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2024
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,986
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ขอปิดครับ
     
  8. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    พระหูร้อย ปางปาฏิหาริย์ หลวงพ่ออ้าว วัดสนามชัย ของขลังเมืองอ่างทอง หายาก แต่เราหาได้ พระอายุร้อยปี อักขระจารได้งดงามดูขลังอย่างยิ่งยวด คลาสสิคที่สุด

    ราคา 4,500 บาท พร้อมส่ง

    พระเครื่องของหลวงพ่ออ้าว วัดสนามชัย เป็นหนึ่งในตำนานพระเครื่องที่ใกล้สาบสูญ ท่านเป็นพระเกจิเก่า โบราณ ด้วยพระเครื่องของท่านปัจจุบัน พอมีหมุนเวียนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ชำรุด ใช้สึก รักหลุดร่อนไปมาก ประวัติของหลวงพ่อ ก็ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่เป็นพระเครื่องที่เล่นหาตกทอดกันมาหลายรุ่น

    พระเครื่องของท่าน สร้างด้วยเนื้อดิน โดยล้อพิมพ์พระกรุพระเก่าสมัยโบราณ อายุพระประมาณร้อยปี สังเกตุได้ว่าพระหลวงพ่อ จะมีจารเสียเป็นส่วนใหญ่ (จารเปียก) ซึ่งจากการจาร ละเอียดละออ ตั้งใจ สม่ำเสมอ หลวงพ่อท่านตั้งใจและมีความอุตสาหะมาก พระเครื่องท่าน มีรูให้คล้องพระ เป็นลักษณะ เนื้อดินนูนออกมาจากองค์พระด้านหลังเรียกพระหูไห ส่วน พิมพ์พระหูร้อยจะเจาะรูร้อยเข้าไปในเนื้อองค์พระสองรู ในสมัยโบราณ เป็นพระที่นิยมสร้างแจกในสมัยสงคราม ด้วยประสบการณ์ที่เห็นกันอย่างชัดเจน คนในสมัยนั้นในพื้นที่รอบบริเวณวัด ต่างหวงแหนพระของหลวงพ่ออ้าวมาก ถึงขนาดเคยได้ยินเรื่องเล่ากันว่า ขนาดต้องเอาควาย (กระบือ) ๑ ตัว มาแลกพระของท่าน ๑ องค์ สะท้อนให้เห็นว่าพระเครื่องของท่าน สูงค่ามากเพียงใด

    พระองค์นี้เป็นพระหูร้อย ของหลวงพ่ออ้าว วัดสนามชัย ด้านหลังมองเห็นอักขระยันต์ชัดเจน แท้ดูง่าย หายากสุดๆสภาพนี้ เหมาะแก่การเก็บสะสมบูชาเป็นอย่างมาก

    ปกติแล้วจะห้อยใช้กันจนสึกและชำรุดแตก บิ่น

    IMG_7557.jpeg IMG_7556.jpeg
     
  9. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    #เหรียญรุ่นแรก บล๊อค ยันต์เล็ก หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ท่านที่เอาไว้ใช้บูชาแบบเบาๆ

    ราคา 9,500 บาทพอ

    #หลวงพ่อท่านเคยบอกว่าเหรียญเล็กพริกขี้หนู...ประสบการณ์เด่นมากด้านคุ้มครองป้องกันภัย

    ..........

    .......รายละเอียด เกล็ดประวัติ.........

    พระคณาจารย์ร่วมสมัยหลายรูป ที่นับถือในองค์หลวงพ่อ ที่พอจะชัดเจนหน่อยก็มีหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ซึ่งท่านมีความเคารพในองค์หลวงพ่อนุ่มอย่างมาก แม้แต่ในเอวของหลวงพ่อกร่ายเองท่านจะคาดตระกรุดมหารูด ของหลวงพ่อนุ่มไว้ตลอด

    เพราะท่านเองก็ทราบในอานุภาพขององค์ลวงพ่อมิได้น้อยกว่าผู้ใด ท่านกล่าวถึงหลวงพ่อนุ่มอยู่บ่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า มีพระคณาจารย์เรืองวิชาจากชลบุรีชื่อว่า หลวงพ่อเณร มาทำการเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างวัด ตั้งปรัมอยู่ที่บริเวณวัดนางใน แต่จะมีการแสดงวิทยาคมบางอย่างให้ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน เพื่อให้เกิดความศรัทธา ซึ่งสมัยนั้นอาจารย์ท่านนี้โด่งดังมาก จากการที่ท่านสามารถ

    แสดงวิทยาคมลงไปอาบน้ำในโหลได้ แต่ทว่าจริงๆแล้ววิชานี้เป็นวิชากำบังตาชนิดหนึ่ง หรือเรียกว่าวิชามายาศาสตร์ คือการสะกดจิตหมู่ ใช้กระแสจิตควบคุมคนบริเวณนั้น ให้เห็นว่าท่านนั่งอาบน้ำในโหล แต่จริงๆแล้วท่านก็นั่งข้างๆโหลนั่นแหละครับ คนที่จะทำแบบนี้ได้ก็ต้องเก่งจริงเช่นเดียวกัน หลวงพ่อกร่ายท่านเล่าต่อว่า ครั้งนั้นหลวงพ่อนุ่ม กับ หลวงพ่อเณร ได้ลองวิชากัน โดยที่หลวงพ่อเณรจะของลอง หรือชาวบ้านจะขอหลวงพ่อให้ลองอันนี้ไม่ยืนยัน แต่เหตุการณ์เป็นดังที่หลวงพ่อกร่ายท่านเล่า คือ หลวงพ่อนุ่มท่านให้เสกพระเพื่อลองกัน โดยเอาพระใหม่ๆ กดพิมพ์กันและเสกกันคนละคืน และเอามาลองยิง ผลปรากฏว่า ของหลวงพ่อเณร กระจาย

    ส่วนของหลวงพ่อนุ่มท่าน ยิงไม่ออก เรื่องยิงไม่ออกนี้มีอีกหลายเรื่อง สำหรับพระเครื่องของหลวงพ่อนุ่ม ผมบอกแล้วว่าท่านผู้อ่านอ่านแล้วอย่าเพิ่งเชื่อผม ถ้าท่านยังไม่ได้เจอกับตัวท่านเอง อันเรื่องราวต่างๆตรวจสอบ และสอบถามได้ ไม่หวง มาติดตามกันต่อครับ เรื่องนี้ มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยพระมหามณเฑียร พ้นภัย เอกสารนี้ยังอยู่ที่วัดนางในจนปัจจุบันนี้

    เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยการปฏิรูปดินแดนเขมร สมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ทหารเคยถูกยิงล้มกลิ้ง และลุกขึ้นมาได้ กระสุนปืนไม่ระคายผิว บางพวกก็ว่าเป็นทหารผี ยิงไม่ถูก ฟันไม่เข้า พวกเขาเหล่านั้นมีพระเครื่องของหลวงพ่อนุ่มอยู่กับตัว เรื่องต่อมาเป็นเรื่องของกำนันบ๋ง

    ท่านกำนันจัดงานโกนจุกให้ลูกชาย ที่บ้านในตำบลยี่ล้น ครั้งนั้นท่านได้นิมนต์หลวงพ่อนุ่มไปเป็นประธาน และสวดมนต์ ครั้งนั้นหลวงพ่อวนสายสิญจน์เอง รอบประรำพิธี แล้วท่านก็มานั่งสวดมนต์ พอถึงช่วงที่จะลงมีดเพื่อโกนจุก ก็มีคนลุกขึ้นยิงปืนในบริเวณ วงสายสิญจน์ แต่ปรากฏว่า ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ออก หลวงพ่อท่านเห็น คงจะรำคาญ ท่านก็บอกว่า ให้ไปยิงข้างนอกโน่น ผลปรากฏว่า พอออกไปลั่นไกด้านนอกสายสิญจน์ มีลูกเท่าไหร่ ออกหมดทุกนัด เป็นที่ฮือฮามาก ครั้งนั้นหลังจากเสร็จพิธี สายสิญจน์ บริเวณงานทั้งหมด เจ้าภาพเก็บเรียบ

    ..เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง

    IMG_7634.jpeg IMG_7632.jpeg IMG_7633.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2024
  10. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ️มีเข้ามา 1 องค์ หาชมยากมาก พระปิดตาปรอทหุงไฟ 7 เดือน ราคา 1,500 บาท

    ✅พระปิดตาเนื้อปรอท พระอาจารย์มหานพพร วัดวิเศษไชยชาญ จัดสร้างเมื่อปี 2565 จำนวน ไม่ถึง200 องค์

    ✅ท่านที่ชอบเล่นในสายวิชาปรอท วิชาลึกลับ และชื่นชอบวัตถุมงคลในแบบของปรอท ท่านอย่าได้พลาดเด็ดขาด ท่านทำไว้และเสกเดี่ยวทับถมมาหลายวาระ ทำที่วัดเทพิมพ์เข้าเบ้าที่วัดทั้งหมด ทุกขั้นตอน พระปิดตา เนื้อปรอทหุงนี้ ทำด้วยกรรมวิธีหุงไฟหลายขั้นตอนตามสูตรของท่าน ตามตำราหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ช่วงสำคัญต้องนำมากวนกับมหาหิงและตัวยาสำคัญตามตำรา และหุงต่อไปเรื่อยๆ จนได้ตามสูตร ด้วยความอุตสาหะมากครับ ต้องหุงติดต่อกันต้องคอยดูอยู่เรื่อยๆเป็นเวลาหลายเดือน เมือได้ที่แล้วจึงซัดด้วยว่านยาอีก จนเนื้อปรอทได้ที่เป็นกายสิทธิ์สำเร็จมีฤทธิ์ในตัว จึงนำมาเทเข้าพิมพ์พระปิดตา ปรอทผสมกับตะกั่วบางส่วนเป็นตัวประสาน กะทะนี้สามารถทำพระปิดตาได้เพียงสองร้อยกว่าองค์เท่านั้น หุงเคี่ยวกรำเสกทับถมมาเป็นเวลาถึง 7 เดือน กว่าจะได้เนื้อปรอทที่ได้ที่
    การหุงปรอทแต่ละครั้งใช้ต้นทุนค่อนข้างสูงหลักหลายหมื่นบาท และใช้เวลาเคี่ยวกรำอุตสาหะอีกหลายเดือน ปรอท 10 กิโลกรัม เมื่อหุงแล้วอาจจะเหลือแค่เพียง 7 กิโลกรัม ตัวยาบังคับในการเปลี่ยนตัวยาแต่ละครั้งในช่วงจังหวะการหุงปรอทนั้น ตัวยาบางตัวมีราคาแพง ปัจจุบันจะหาพระคณาจารย์ที่ได้รับสืบทอดวิชาการหุงปรอท และมีความเข้าใจ ทำจริงและทำได้จริงแบบพระอาจารย์ คงมีน้อยมากเต็มที บางครั้งเห็นท่านหุง ท่านเปลี่ยนตัวยา ล้างยา ล้างปรอทในแต่ละครั้ง บอกได้เลยว่า ถ้าไม่อุตสาหะจริงๆ และไม่มีความรู้ความเข้าใจในการหุง ยังไงก็ทำไม่ได้ หุงปรอทละเหยหมดแน่10กิโลก็หมด 10 กิโลครับถ้าหุงไม่เป็น ท่านเคยเล่าให้ฟังว่ามีคนเคยนำไปหุงโดยไม่มีความเข้าใจปรอทสิบกิโลละเหยไปหมด

    ✅กว่าจะเป็นพระปิดตาเนื้อปรอทพระอาจารย์
    ต้องอุตสาหะมากครับ ต้องนำปรอทที่หุงหลายเดือน ซึ่งครั้งนี้หุง 7 เดือน แค่หุงเจ็ดเดือนนี้ก็ว่ายากลำบากแล้ว ขั้นตอนก่อนจะเทพิมพ์พระก็ไม่แพ้กัน เมื่อปรอทหุงเจ็ดเดือน ได้ที่แล้ว ต้องทำ

    1.นำปรอทมาผสมกวนกับว่านยาตามสูตรกวนจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกับว่านยา
    2. เมื่อกวนแล้ว จะต้องนำไปหุงในเตาไฟ โดยจะหุงภายในปี๊บในภาพ
    3.นำปรอทใส่ในผ้าขาวห่อปิดปากให้สนิท
    4. แล้วนำไปใส่ในถังเล็ก ปิดฝาให้สนิท
    5.นำถังเล็กนี้ใส่ลงไปในปี๊บใหญ่
    6.หลังจากนั้น เอาดินสอพองผสมน้ำได้ที่ เทลงไปในปี๊บ ดังที่เห็นในปี๊บ
    7. แล้วจึงนำปรอทที่อยู่ในปี๊บที่มีดินสอพองนี้ไปตั้งไฟเคี่ยวต่อ

    เมื่อตั้งไฟพอสมควรแล้ว ต้องเอาปรอทออกมาจากปี๊บ แล้วย้อนทำตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 -7 ใหม่
    ทำแบบนี้อีกนับเป็นสิบรอบ จึงจะได้เนื้อปรอทมาเคี่ยว และเทลงในเบ้าพิมพ์ ออกมาเป็นพระปิดตา

    ขั้นตอนยังมีความยุ่งยากกว่านี้อีก แต่ท่านบอกมาแค่นี้นะครับ ปัจจุบันจะหาพระที่มีมีความรู้ความทำงานด้านนี้แล้วลงมือทำจริงๆยากเต็มที่แล้ว

    Cr.เบ็น วิเศษฯ

    PhotoRoom_25660413_101420.jpeg Photoroom_25671210_180122.jpeg Photoroom_25671210_180212.jpeg
     
  11. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    เหรียญอาร์ม เนื้อเงินลงยา วัดเกษไชโย ปี 2495 นิยม เหรียญดีพิธีใหญ่ ราคาช่วงนี้ น่าสะสม ราคา 3,000 บาท
    IMG_7722.jpeg IMG_7724.jpeg IMG_7723.jpeg
     
  12. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    #มรดกอันทรงคุณค่าที่หลวงพ่อได้ทิ้งไว้ให้ น่าสะสมสุดๆ ราคายังเบามากๆ พระสมเด็จผสมปรอทซัด ปรอทชั้นครู
    ราคาเบาๆ 1,550 บาท
    พระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชานิ้วเพชรให้หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ พระท่านทรงคุณค่ามากๆ

    อยากแนะนำเลยครับของดีจริง ใช้ได้ผลมากไม่แพ้เบี้ยแก้ ลูกค้าผมท่านหนึ่งอยู่กาญจนบุรี เคยถูกของ มีอาการคั่นเนื้อตัว หาสาเหตุไม่ได้ เหมือนมีอะไรหยุบหยับเหมือนต่ายตามตัว เห็นผมลงพระสมเด็จเนื้อปรอท จึงเช่าไปใช้บูชา ตอนหลังมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคล้องพระแล้ว ความรู้สึกเหมือน มีกระแสอะไรบางอย่าง แทรกไปทุกอณู รูขุมขน หลังจากนั้น อาการที่เป็นก็ไม่มีอีกเลย ... เป็นประสบการณ์จากลูกค้า ที่เล่าสู่กันฟัง

    พระสมเด็จผสมปรอทเสก ท่านที่ชื่นชอบในสายวิชาปรอท นี่ถือว่าเป็นวิชาปรอทชั้นครู ที่ราคาสะสมยังไม่แพง สร้างราวปี 2490กว่าๆ พระหนาดีครับองค์นี้

    หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ เนื้อปรอทชั้นครู ทรงคุณค่าด้วยอิทธิคุณแห่งปรอท ของดีมีคุณค่า แต่ราคาถูกเกิน


    ....เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง

    IMG_7719.jpeg IMG_7720.jpeg IMG_7721.jpeg
     
  13. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ✅พระชุดเล็ก #พระพิมพ์เนื้อว่านยาคลุกรักผสมชันยาเรือ พิมพ์พระรอด ขนาดองคุลีนิ้วชี้ ขลังๆ ไม่เจอบ่อย องค์ที่ 2 ของร้าน เวลาจะเก็บครบพิมพ์จะขาดพิมพ์ที่หายากแบบนี้ และองค์นี้ลึกดีซะด้วย
    ราคา 1,500 บาท ราคายังถือว่าโคตรถูก อยู่แค่หลักร้อยหลักพัน ผงยายุคเดียวกันแค่ย้ายจังหวัด เป์นหมื่น☺

    หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ พระพิมพ์ชั้นครู ที่คนรู้ก็ต้องเก็บ เนื้อผงว่านยา ล้วนๆ

    ว่านยาก็มาจากตำรับยาโบราณที่หลวงพ่อท่านมีความชำนาญมาก มีคุณด้านคงกระพันและแคล้วคลาด อย่างยิ่ง หลวงพ่อถือว่าเป็นผู้มีความชำนาญ และรอบรู้ด้วยเวทย์วิทยาคมที่ผมบอกได้เลยว่า หาผู้ใดเทียบได้ยากอีกรูปหนึ่ง ความโด่งดังในสมัยนั้นด้านถอนคุณกระทำ และยารักษาคนวิกลจริตนั้น มิได้เป็นรองผู้ใด แม้แต่โต๊ะราม ผู้มีชื่อเสียงด้านคุณกระทำซึ่งเป็นแขก หรือเรียกง่ายๆว่า ของแขก ยังต้องยอมสิโรราบ ยอมรับนับถือในบารมีหลวงพ่อ ถึงกับยอมห้อยเบี้ยแก้หลวงพ่อติดตัว

    การถอนคุณกระทำของหลวงพ่อ ขนาดตอนกำลังจะถอน คนทำมันยังทำย้อนมาเล่นงานหลวงพ่อ เสียงกราวยังห่าฝน บนหลังคาศาลาวัด เสียงตะปูครับ มายังกับห่าฝน คนส่งมาทำร้ายหลวงพ่อ แต่ว่าท่านใช้อาคมปัดขึ้นหลังคาไปหมด คนที่หลวงพ่อใช้ขึ้นไปเก็บตะปูยังมีชีวิตอยู่ ว่านยาที่ทำพระก็ส่วนหนึ่งมาจากว่านยาที่ได้จากการซัดยา คือซัดปรอทด้วยว่านยา ให้ปรอทนั้นรวมตัวและไม่เกิดโทษต่อผู้ใช้ เรื่องนี้ยาวครับ ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ต้องรู้จริงจึงจะทำได้ สมัยนี้แทบไม่ต้องไปหา ยกเว้น ที่วัดนางในปัจจุบันนี้ เบี้ยแก้ เป็นเบี้ยแก้ปรอทซัดด้วยว่านยาตามตำราโบราณ ของดีมีคุณค่าอย่างยิ่ง ไปเช่ากันเองที่วัด บอกให้แค่นี้ครับ ย้อนมาที่พระพิมพ์นี้ เป็นของเก่าแก่ของหลวงพ่อคำท่านทำ และเสกไว้อย่างมั่นใจ เป็นของดีน่าบูชา ราคาแสนจะถูกเมื่อเทียบกับสำนักอื่นๆ ราคากำลังน่าสะสม

    Cr.เบ็น วิเศษฯ

    IMG_7771.jpeg IMG_7768.jpeg IMG_7769.jpeg IMG_7770.jpeg
     
  14. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    พระชุดเล็กพิมพ์นาง พุทธคุณไม่เล็ก พระพิมพ์ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน เนื้อผงว่านยา ไม่เจอบ่อย สร้างก่อนเหรียญรุ่นแรกแน่นอนนับสิบปีครับ

    พระพิมพ์ชั้นครู แต่ราคาเบาเกิน สวยๆ ขนาดกระทัดรัดน่าสะสม พระเก่าราคาตามความนิยม พระใหม่ยุคหลังยังราคาสูงกว่า น่าดีใจเพราะเรายังค่อยๆเก็บได้ ถ้าราคาสูงๆ ตามเหนื่อยครับ ราคาน่าสะสมมาก 1,500 บาท สวยๆตามรูป

    IMG_7767.jpeg IMG_7764.jpeg IMG_7766.jpeg
     
  15. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ✅แหวนเสือ เนื้อเงิน นิยม
    หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ของแรงๆครับ มีประสบการณ์ วงจริงสวยวี๊ดพร้อมซองเดิมๆจากวัด ชุดนี้เจ้าของเก่าเก็บ
    ท่านที่กำลังตามหา สวยเดิมๆ
    สำหรับท่านที่ทราบว่าเด็ด คงทราบดี ประกันแท้ตลอดชีพ
    ราคา 2,500 บาท ไซด์ 58

    IMG_7866.jpeg IMG_7868.jpeg IMG_7867.jpeg IMG_7869.jpeg
     
  16. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ปลุกเสก ราคา 8,500 บาท
    ️️️️️️️️️️️️️️️

    สมเด็จหู หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 2482 สมเด็จหู(พิมพ์มน)นิยม หล่อโบราณ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง สร้างปี 2482
    รุ่นนี้มีเก๊มานานครับ แต่เป็นทองเหลือง ของแท้เป็นโลหะผสมหรือเรียกว่าทองผสมครับ ถ้าให้ผมพูดถึงพระหล่อโบราณของเมืองวิเศษชัยชาญ ที่มีประวัติพิธีที่ชัดเจนที่สุดและมีพระคณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทยและระดับครูบาอาจารย์ของเมืองวิเศษฯที่อัดแน่นที่สุดก็เห็นจะเป็นสมเด็จหูหล่อรุ่นนี้ครับ เพราะประวัติการสร้างนั้น สร้างเมื่อปี 2482

    โดยมีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกเป็นประธานปลุกเสก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก(หลวงพ่อจงท่านมาแน่นอนครับหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวานเคยได้รับสมเด็จหูหลวงพ่อคำ จากหลวงพ่อจงมาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อเสียนท่านเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าท่านไปกับหลวงพ่อเล็ก วัดมะนาวหวาน (อาจารย์ท่าน) หลวงพ่อซำ วัดลาดไหม่ และพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯที่ไม่ได้เอ่ยนามในสมัยนั้นอีกคับคั่ง ขณะเททอง มีพระพิธี สวดอิติปิโส 108 จบ สมัยนั้นยังไม่มีบทสวดพุทธาภิเษก (เรื่องนี้หลวงปู่เล็ก วัดทำนบได้เคยเล่าไว้ เหตุด้วยท่านเป็นผู้ที่นั่งนับจำนวนจบ ของบทสวด โดยใช้นับจำนวนด้วยก้านธูป)

    เหรียญหล่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมมานานมาก มีประสบการณ์โชกโชน ทั้งแคล้วคลาดและมหาอุตม์ ช่วยคุ้มตัวคนมามากต่อมาก เพราะเมืองวิเศษชัยชาญสมัยนั้น ถ้าจะให้กล่าว โดยที่ไม่เกินความจริงนักจะเรียก ว่าดงนักเลงก็ไม่ผิด เมื่อก่อนหลวงพ่อแต่ละรูปที่จะออกของนั้นถ้าไม่แน่จริงแล้วไม่ออกกัน เพราะเมื่อก่อนผู้เรืองอาคมมากมาย ฆานวาสเก่งๆหมอคุณกระทำมีเยอะ ถ้าออกของวัตถุมงคลมาช่วยเขาไม่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำให้เสียชื่อตัวเอง
    ดังนั้นพระคณาจารย์สมัยก่อนจึงได้รับความนิยมเป็นอมตะในหลายๆพระคณาจารย์เหตุเพราะทำได้จริงเห็นผลจริง ถ้าเอ่ยถึงสมเด็จหูแล้ว สมัยก่อนหลายคนต้องร้องอ๋อ เพราะชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเรื่องประสบการณ์และความนิยมบอกได้คำเดียวว่า แน่น ลองคิดเล่นๆ ว่าการจัดการพิธีหล่อพระสมัยก่อนนั้น ไม่มีการทำออกมาแบบเล่นๆหรือโปรโมท ขายของ ของที่ทำทำจริง เสกจริงครูบาอาจารย์ที่มาเสกก็ระดับปรมาจารย์ของยุคนี้

    อาจมีการออกทำบุญก็เพื่อการพระศาสนาโดยตรง ไม่มีนายทุน ไม่มีกำไรทำด้วยใจและศรัทธาล้วนๆ ในการหล่อนั้นพิธีโบราณมีความยุ่งยากมาก ไม่ใช่นึกจะหล่อก็หล่อกันได้ง่ายๆ พระอาจารย์ที่มาจับสายสูตรเททองต้องคุมพิธีเป็นด้วยวิทยาคม คุมธาตุ ปรุงธาตุ ถ้าไม่แน่นด้วยกสินแล้วขลังยาก และวิทยาคมระดับไม่ธรรมดา พระจึงจะออกมาได้บริสุทธิ์ และเข้มขลังจริง

    การหล่อในครั้งนั้น มีชาวบ้านและประชาชนมากันเนืองแน่น ก่อนการเททอง ได้ให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา บริจาค สร้อยแหวน เงิน ขันเงิน ทองเหลือง ทองคำ ช้อนแสตนเลสหรืออะไรต่างๆตามกำลังศรัทธาของประชาชน พิธีครั้งนั้นจัดได้ยิ่งใหญ่และเข้มขลังอย่างยิ่ง ในการหล่อที่มีการนำโลหะผสมจำนวนมากต่างชนิดกัน มาผสมกันนั้น ทำให้เนื้อหาของพระมีความไม่เข้ากัน มีหลายสีในบางองค์และส่วนมากจะมีพลายเงิน ที่เกิดจากการผสมปรอทและดีบุก สมเด็จหูนั้นอย่างที่บอกสมัยก่อนโด่งดังมากด้วยพิธีดี และมีประสบการณ์แบบไม่ต้องเชียร์ หลวงพ่อท่านก็ได้ทำการแจกไปเรื่อยๆจนหมด

    มีอยุ่ครั้งหนึ่ง มีคนไปขอพระจากหลวงพ่อ โดยเข้าไปที่วัด เมียงๆมองๆ เห็นหลวงพ่ออยู่ก็คลานเข้าไปกราบหลวงพ่อและกล่าวกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาขอพระหลวงพ่อครับจะเอาไปใช้ หลวงพ่อท่านมองหน้า แล้วมือหลวงพ่อพลันไปคว้ากระโถนด้านหลังท่าน ขว้างใส่ลุงท่านนั้นพร้อมไล่ตะเพิด พร้อมกับหลวงพ่อได้กล่าวว่า มึงนี่ไม่รู้กาละเทศะ มึงเป็นใครจะมาใช้พระ ถ้ามึงเอาไปใช้ไม่ต้องเอาไป ถ้าเอาไปบูชาค่อยมาเอา ลุงแกหน้าจืดหนีออกมาแทบไม่ทัน จะเห้นได้ว่าหลวงพ่อท่านเคร่งครัดและยึดถือในองค์พระรัตนตรัยอย่างยิ่ง

    เล่าเรื่องสมเด็จหูแล้วไม่เล่าเรื่องประสบการณ์ก้จะเป็นการขาดอรรถรสไป สมเด็จหุของหลวงพ่อนั้นสมัยก่อนคนที่ได้ไปเข้าจะห้อยคอกันทันที เพราะนับถือในองค์หลวงพ่อ สมัยก่อนนั้นหลวงพ่อท่านเป้นพระอุปัชฌาย์ บวชลุกศิษย์ลูกหาทั่วอำเภอเหรียญรุปท่านรุ่นแรกก็เช่นกัน ส่วนมากพบเจอแต่แบบสึกเลี่ยน เตียนโล่งทั้งนั้น หาสวยๆยากมากครับ

    สมเด็จหูนั้นหล่อหูในตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพกพาติดตัว หรือห้อยคอได้ทันทีไม่ต้องไปเสียเงินเลี่ยม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการตามจับโจร ไปท้ายตลาดวิเศษ เมื่อก่อนท้ายตลาดจะมีบ่อน้ำอยู่ ไล่จับตามไปจนถึงที่นั่นยุคผู้กองยอดยิ่งกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มีการตามจับและใช้อาวุธปืนยิง กลุ่มโจร แต่อัศจรรย์ครับ โจรมิได้ระคายผิวหนัง ได้แต่นอนกลิ้งด้วยความจุก ได้จังหวะก็เข้าชาจประชิดตัว แต่ก็ยิงไม่ออกตีจนน่วมก็ไม่ตาย จึงค้นตัวอ้าปากออกไปเจอสมเด็จหูหลวงพ่อคำเพียงองค์เดียว พอเจอพระโจรถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายเรียบร้อย...

    มีอีกเรื่องหนึ่งเอาคร่าวๆเพื่อประกาศ ให้คนรู้ว่าสมเด็จหูนั้นของจริง รุ่นนี้คนนิยมมากนิยมมายันหัวตะพานบ้านผม เพราะสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะเดินลัดทุ่งมาบวชพระถึงหัวตะพาน วัดกลาง วัดหัวตะพาน คนที่บ้านผมเจอด้วยตนเอง คนเล่าก็ยังไม่ตาย เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จ.ส.อ วันชัย กลิ่นบุหงา ได้ถูกเรียกตัวไปลาดตระเวนชายแดน เมื่อทางบ้านรู้ข่าว พ่อของจ่าวันชัย ด้วยความเป้นห่วงลูกที่จะต้องไปชายแดนสิ่งที่ให้ได้และเพื่อความสบายใจและหวังว่าจะช่วยให้จ่าวันชัย กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คือ สมเด็จหูพิมพ์มน ที่พ่อของจ่าวันชัยรับมากับมือหลวงพ่อคำ พ่อของจ่าแกหวงพระองค์นี้มาก เพราะอะไรถึงหวงทราบไหมครับ สมัยนั้นก็มีประสบการณ์เรื่องมีดๆปืนๆมาไม่ใช่น้อยแล้ว พ่อจ่าจึงหวงมาก แต่ก็ให้ลูกชายไป และกำชับว่ากลับมาจากราชการให้เอามาคืน...จ่าออกเดินทางไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวแจ้งจากราชการว่า ชุดลาดตระเวนที่จ่าวันชัยประจำการอยู่นั้น เหยียบกับระเบิด เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ที่ผมว่าเกือบทังหมดนั้น เหลือจ่าแกรอดตายมาคนเดียว นอกนั้นอีก 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในตัวจ่าแกก็มีสมเด็จหูเพียงองค์เดียวที่พ่อจ่าให้ไว้ พอจ่าแกรอดมาคนเดียวก็ทำให้จ่าแกดังมาก มีคนมารุมล้อมถามแกว่ามีอะไรดีจึงรอดมาได้คนเดียว จ่าแกก้เอาพระให้ดู เป็นเรื่องธรรมดาที่มีของดีใครๆก้อยากได้ครับ ผู้บังคับบัญชาจ่าแกเลยเรียบเคียงขอพระองค์นั้นจ่าวันชัย สุดท้่ายจ่าแกให้ไป พอกลับมาบ้านเมื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พอจ่าก็ถามถึงพระสมเด็จหูที่ให้ไป พอจ่าบอกว่าให้หัวหน้าไปแล้วเท่านั้นหละครับ พอแกเคืองมาก ถึงกับให้จ่าพาเข้ากรุงเทพ ไปเอาพระคืน นี่พ่อของจ่าแกนับถือจริงๆ ชาวบ้านเขานับถือกันขนาดนั้น สรุปว่าพ่อจ่าแกเข้ากรุงเทพฯไปรอ และขอพระองค์นั้นคืน ไปรอถึงเจ็ดวัน เพราะหัวหน้าติดราชการ ถ้าไม่ได้พระ พ่อจ่าแกไม่กลับ

    เพิ่มเติมนิดครับ สมเด็จหูนั้นที่เรียกสมเด็จหูก็เพราะว่า การหล่อนั้นหล่อแบบมีหูในตัว ในเหรียญที่หล่อนั้นเป็นรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีหน้าหนึ่ง และ หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโย อีกหน้าหนึ่ง การห้อยพระหลวงพ่อท่านให้ห้อยเอาหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ออกหน้าครับ วันนี้ลงเพื่อเผยแพร่พระคณาจารย์ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญครับ ประวัติการสร้างชัดเจนมากครับพระคณาจารย์ระดับประเทศสมัยนั้นมากันแน่ครับ... พระไหม่ๆ เดี๋ยวนี้ยังแพงกว่า น่าเสียดายครับ ...เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง
    IMG_7886.jpeg IMG_7884.jpeg IMG_7885.jpeg
     
  17. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    เนื้อแก่กล้วยหอม #ว่านร้อยแปดสยบมีดหมอ พิมพ์ปรกโพธิ์
    ♦️สวยลึกคม ประสบการณ์เทียบได้กับพระหลักล้านบาท #ราคา 4,500 บาท เขาหากันให้ควั๊ก

    ผมซื้อทุกสภาพคนเช่าก็เช่าทุกสภาพครับ เนื้อว่านทรงคุณค่า แก่ว่านจัดๆเข้มๆ

    ...
    รายละเอียด

    พระสมเด็จเนื้อว่านร้อยแปด หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม เรื่องเหนียวและแคล้วคลาดนั้น ยืนยันด้วยประสบการณ์จริงล้วนๆ ปืน มีด ขวด ระเบิด แม่กระทั่งมีดหมอ ก็เคยโดนกันมาหมดครับ ผู้คนยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าไม่ระคายผิว แต่ก็อาจจะมีช้ำบ้างเป็นเรื่องธรรมดา. แม้แต่ระเบิดถึงโดนแล้วจะตายแต่ผิวหนังก็ยังไม่ฉีกขาด ด้วยประสบการณ์เหนียวจริง รถยนต์ชนประสานงา ขับมาด้วยกันสามคน สองคนที่มาด้วยตายคาที่อัดก๊อบปี้กับรถ ปอเต็กตึ๊งัดซากรถ พบสามศพอัดกัน พองัดศพออก ปรากฏว่า คนที่ห้อยหลวงพ่อแพ รอดแถมอยู่ตรงกลางระหว่างสองศพ ปอเต็กตึ๊งถึงกับตกใจอุทานว่า รอดมาได้ยังไง มีแค่รอยช้ำ เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องผลักเบาๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่า เสียการทรงตัวหรือเป็นอะไรหรือปล่าว ปรากฏว่ารอดครับ เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของ ผู้อำนวยการเขตการศึกษาท่านหนึ่งนับถือหลวงพ่อมากๆ ในคอมีพระหลักล้าน แต่หนึ่งในนั้นต้องมีหลวงพ่อแพ วัดกลางราชครู

    เรื่องสยบอาคมมีดหมอ พระว่านของท่านขนาดมีดหมอยังไม่ได้แอ้ม เหนียวขนาดไหนคิดดูเอง พระสมเด็จนี้คนท้องที่หวงกันมากครับ เจอกันมาทุกรูปแบบ แต่เหนียวนั้นเป็นหลักเชื่อขนมกินได้แน่นอน ผมเองได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ว่านที่ทำพระนี้หลวงพ่อท่านปลูกเองและเสกน้ำมนต์รดทุกวัน ท่านจะมีวันตัดของท่านและท่านจะเป็นคนกำหนดเอง นอกจากสมเด็จแล้วท่านยังมีเม็ดว่านเสก เนื้อเดียวกับสมเด็จ คนสมัยนั้นเขาเอาไปให้ไก่กินและออกตี ต่อให้คู่ต่อสู้เดือยยาวขนาดใหนไม่ได้กินเลือดแน่นนอน เจอกันมามากแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลก คุณปู่สำรวย กลับทวี ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อท่านยังทรงสังขารอยู่ ก็มีนักเกรงเยอะและลูกศิษท่านที่แสบๆก็เยอะ ศิษย์หลวงพ่อแพได้ไปเที่ยวงานรำวงที่บ้านม่วงเตี้ย เลยวัดหลวงพ่อทรงไปหน่อย เกิดมีปากเสียงกันขึ้นในงานแถวนั้น ลุกศิษย์หลวงพ่อชื่อ ตาธรรม เกิดเดินขึ้นไปประกาศไมค์บนคณะรำวง คงจะไปกวนเจ้าถิ่นเขาเข้า ฝ่ายเจ้าที่ก็เดินดุ่มๆมาไกล้ๆแบบไม่ทันตั้งตัว ได้ชักมีดหมอด้ามงา ออกมาจ้วงแทงประมาณสามครั้ง ตาธรรมตกใจ หันซ้ายหันขวา หนีออกมาได้ พอหนีออกมาก็มาคลำที่ตัวเพื่อที่จะดูแผลเพราะกะว่าโดนเต็มที่ แต่แปลกที่มีดหมอไม่สามารถแทงทะลุหนังของตาธรรมได้ ทั้งๆที่มีดหมอ ใครที่ว่าเหนียวๆถ้าได้เจอเข้าไปล่ะก็รับรองได้เห็นเลือดกันแน่เพราะเกียรติศักดิ์เลื่องลือ แต่กับศิษย์หลวงพ่อแพนั้นแทงไม่เข้าครับ แต่ก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันด้วยฤทธิ์อาคมมีด และร้อยช้ำ ผม (เบ็น วิเศษฯ) ถามความเห็นของปู่สำรวยท่านว่าทำไมถึงแทงไม่เข้า ท่านบอกว่า อาคมท่านข่มกันได้ อันนี้ผมเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของปู่สำรวยที่อยู่ในเหตุการวันนั้น เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณปี 2490 กว่าๆถึง 2500 ......โดย เบ็น วิ เศษฯ

    IMG_7895.jpeg IMG_7893.jpeg IMG_7894.jpeg
     
  18. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    IMG_7997.jpeg

    เผยแพร่ของขลังเมืองอ่างทอง หลวงพ่อจ่าย วัดรุ้ง วัตถุมงคล มีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่ใครจะเห็น ราคาเป็นเพียงค่านิยม หาของดีไว้ใช้บูชา เชิญครับ 2500 บาท

    มหาอุตม์ เมืองอ่างทอง หลวงพ่อจ่าย วัดรุ้ง บล็อคเรียบหายาก

    เหรียญนรุ่นแรก รุ่นนี้ จัดสร้างประมาณปี 2499 และหลังจากนั้น ทางวัดสร้างออกมาอีกหลายครั้งแต่เหรียญจะมีกลาก บล็อคนี้บล็อคแรก หายากมาก ขนาดคนแถววัดยังหาห้อยคอกันยาก หลวงพ่อจ่ายท่านเป็นที่ยอมรับของคนท้องที่ เนื่องด้วยความศักดิ์สิทธิ์ คงกระพัน มหาอุตม์ นายพลตำรวจท่านหนึ่ง ขอสงวนนาม เอาเหรียญรุ่นนี้ไปลองจนมั่นใจ จนห้อยคอติดตัวมิได้ห่าง เรื่องบารมีทางด้านช่วยเรื่องคดีความ ไปหาหลวงพ่อก็ชนะกันมาหลายราย ท่านมีบารมีหลายแขนง ชาวบ้านวัดรุ้งทราบดี ว่า แม้แต่หลวงพ่อบัว วัดแสวงหาก็มาขอเรียนขึ้นกรรมฐานกับท่าน และได้วิชาสีผึ้งมหาเสน่ห์จากท่านไปพระคณาจารย์สหธรรมมิคสำคัญ ที่สนิทกับท่าน คือ หลวงพ่อจงวัด หน้าต่างนอก หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์

    เรื่องนี้จากคนบ้านวัดรุ้ง ... ครั้งหนึ่ง มีโจรขึ้นไปขโมยพระพุทธรูปที่วัด เห็นมีพระเดินมาจึงเอาปืนยิงแต่พระรูปนั้นหันหลังให้ โจรจึงยิงด้านหลังปรากฎว่า ปืนยิงไม่ออกเสียงดัง เชะ เชะ เชะ พระองค์นั้นก็คือ หลวงพ่อจ่าย นั่นเอง ท่าน จึงพูดกับโจรว่า เฮ้ยมึงทำไรวะรำคาญว่ะ โจรนั่งมือสั่น นั่งกราบหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงแตะไปหนึ่งที แล้วโจรก็รีบหนีไป

    Cr. เบ็น วิเศษฯ

    IMG_7994.jpeg IMG_7996.jpeg
     
  19. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    #ของดีควรมีแนะนำ กล่องม่วง

    #ตะโพนเนื้อไม้ตะเคียนทองรุ่นแรก หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ

    ลูกย่อม กล่องม่วง ราคา … บาท ผมบอกเลยว่าสุดๆ ใช้บูชาแทนของหลวงพ่อภักตร์ได้สบายหายห่วง ผมเองห้อยติดตัวตลอดเช่นกัน

    ........
    #รายละเอียดด้านล่าง
    ตะโพนตามตำรา หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ เล่าสู่กันฟัง ถึงจะเป็นตะโพนยุคไหม่ แต่ก็อิงตำราเล่มจริง (ไม่สามารถเปิดเผยได้)

    #รายละเอียดการจัดสร้างตะโพนหลวงปู่เล็ก จนฺทสโร ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่

    #ตะโพนชุดนี้ถือเป็นชุดต้นบุญ เนื้อไม้อาถรรพ์ คือไม้ตะเคียนทองครับ เพื่อเป็นต้นทุนในการหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง ของพระเดชพระคุณหลวงปู่เล็ก จนฺทสโร เพื่อประดิษฐาน ณ หอบูรพาจารย์ วัดนางใน จัดสร้างจำนวน 1,079 ลูก แบ่งเป็น สองขนาด ขนาดเล็ก 0.9x1.5. เซนติเมตร ขนาดใหญ่ กว้างยาว 1x1.8 เซนติเมตร

    ถ้ากล่าวถึงตะโพน ในแบบของวัตถุมงคล เครื่องรางชนิดหนึ่งที่นิยมมาช้านาน บางคนเรียกว่า ลูกกลอง ที่โด่งดังมากที่สุดก็คือ ตะโพน หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หนึ่งในครูบาอาจารย์ในสายวิชาของหลวงปู่เล็ก ซึ่งถ้าเป็นตะโพน ยุคที่ทันหลวงพ่อภักตร์ ปัจจุบันตะโพนหรือลูกกลองนี้ใบนึงหลายหมื่นครับ และหาชมยากมากซะด้วย และ ตะโพนถือเป็นสัญลักษณ์ แห่งบรมครูดนตรีคือ องค์พระปรโคนธรรพ ที่เหล่าศิลปินดนตรีไทย ให้ความเคารพบูชา และยำเกรงเป็นอย่างยิ่ง วิชาอาถรรพ์ในสายดนตรีจะไปอยู่ที่ตะโพนเป็นหลัก เพราะตะโพนถือเป็นเครื่องประกอบจังหวะหน้าทับประกอบบทเพลง และบางเพลง ทำหน้าที่ขึ้นต้นเพลง เช่น เพลงสาธุการ และ. เพลงตระพระปรโคนธรรพ สมัยโบราณในสายดนตรี ดินหน้าตะโพน ก่อนจะติดที่หน้าตะโพนเพื่อตั้งถ่วงเสียงให้เข้าที่ตามต้องการระหว่างปั้นก็ต้องภาวนาคาถากำกับ ระหว่างติดดินที่หน้าตะโพนก็ภาวนาคาถากำกับเพื่อเมื่อตีแล้วหวังผลทางมหานิยมใครได้ยินก็ต้องหลงไหลในเสียงดนตรี ส่วนน้ำล้างหน้าตะโพน บางท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง ครูบาอาจารย์ก่อนที่จะทำพิธีไหว้ครู ท่านจะล้างหน้าตะโพนด้วยน้ำสะอาดและบอกกล่าวพลีกรรมขอน้ำเทพมนต์ มาประพรมศิษย์ กันเสนียดจัญไรและเป็นเมตตามหานิยม ที่สำคัญ ตะโพนสามารถแก้อาถรรพ์บางประเภท ที่เกี่ยวกับยักษ์ได้ อาจจะรวมถึงพระราหูด้วยหรือไม่นั้น คงต้องใช้วิจารณญาณครับ

    สรุปว่า วิชาตะโพน เป็นวิชาที่อ้างอิงครู ในสายเทพ สายฤาษี เป็นวิชาโบราณ เป็นวิชาเย็น ใช้บูชาง่าย ส่วนมวลสารตามตำราที่บรรจุในตะโพนรุ่นนี้ซึ่งสร้างตามตำราหลวงพ่อภักตร์ บอกได้เพียงคร่าวๆ คือ ใบพลูร่วมใจ ดินเจ็ดป่าช้า ดินกลางตลาดเจ็ดตลาด และผงสำคัญตามตำราวัดโบสถ์เป็นผงที่ครูลิเกโบราณท่านใช้ผัดหน้าเวลาออกแสดง(ไม่สามารถเปิดเผยได้บอกได้เลยว่าแรงมากด้านมหานิยม) ซึ่งเป็นผงเด่นมากด้านเสน่ห์เมตตาให้คนรัก วิชาสายนี้เป็นวิชาสายที่จะเรียกว่ามหานิยมให้คนชื่นชอบก็ไม่ผิด เพราะครูลิเกโบราณหรือการแสดงต่างๆ ก็ต้องหวังผลทางให้คนชื่นชอบ การเจรจาขับร้อง หรือในทำนองว่าสะกดคนดู. การจัดสร้างครั้งนี้ถือเป็นวาระสำคัญ และเป็นวาระแรกครั้งแรก ของการสร้างตะโพนในยุคนี้ ที่เปิดตำราเดิมของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ บรมครูเจ้าของวิชาตะโพน แขวงเมืองวิเศษชัยชาญอันเลื่องลือ เพราะตำราอยู่ที่วัดนางในเพียงแห่งเดียว ซึ่งตำรานี้หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ได้จดบันทึกไว้ จากเมื่อครั้งหลวงพ่อภักตร์ท่านเรียกให้ไปรับวิชาสร้างตะโพน การบรรจุมวลสารมงคล วิธีสร้าง และ. การเสกทั้งหมด เมื่อก่อนปี 2485 ปัจจุบันตกทอดมาถึงวัดนางใน และด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่เล็ก ซึ่งท่านถือเป็นศิษย์ในสายวิชานี้ที่ได้ศึกษามา

    คาถาเสกตะโพน ในสายวัดโบสถ์ เปิดเผยได้ แบบคร่าวๆ ตัดวรรคช่วงออกไปบ้าง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด เริ่มต้นคือ นะเฮ นะเหาะ นะหัวเราะ จำเพาะนะฮา นะฮานะเฮ นะพุทธ นะเส สัพเพชะนา.......หัวเราะให้ดังๆ. ประสิทธิสวาโหม ....นะลมนะเล่นหัวเราะรำเต้น.....มหาพิศสวง โอมหลงมหาหลง ฤ ฤา ฤ ฤา ชื่อให้ฤาชา....โอม นะโมพุทธายะ อะ อา อิ อี อึ อือ ....ฤ ฤา ฤาชื่อ ให้ฤาชา

    คาถาบทนี้สมัยก่อนปี 2500 อาจารย์ดอกดิน เสือสง่า ครูลิเกโบราณใช้เสกแป้ง เสกหมากพลูกิน มหานิยมชั้นยอด ซึ่งหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ท่านถ่ายทอดให้ไป (ไม่ขอกล่าวถึงมากเพราะยาว)

    ในสายวิชาวัดโบสถ์นี้ตะโพนต้องดัง หวังผลให้เลื่องลือครับ คนใช้ถ้าใช้ถึง ใช้เป็น เซ่นครูบูชาด้วยหมากพลูบ้างตามกาลสมควร(บอกกล่าวบูชาที่ตะโพน) ทำบุญอุทิศให้องค์หลวงพ่อภักตร์ ครูตะโพน คือองค์พระปรโคนธรรพ ก่อนใช้บูชาก็ระลึกถึงบารมีหลวงปู่เล็ก และครูบาอาจารย์ท่าน และอธิฐานเอาตามใจ ทำดี ทำเป็น ขยันด้วย รวยแน่นอนครับ จริงๆแล้วยังมีพิธีกรรมอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ทุกอย่างนั้น มาจบลงที่องค์หลวงปู่เล็กทั้งหมด เพราะท่านก็ถือเป็นศิษย์ในสายวิชาที่สืบทอดวิชามา ซึ่งผมคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากอีกแล้ว

    #เบ็นวิเศษฯเรียบเรียง

    IMG_8016.jpeg IMG_8013.jpeg IMG_8014.jpeg IMG_8015.jpeg
     
  20. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,287
    ค่าพลัง:
    +15,628
    ✅รับเข้ามาใหม่อีก 1 องค์ ✅ ถึงมีสตางค์ก็อาจไม่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ องค์แรกของร้าน เพราะแบบยอดธง มีแค่ 70 องค์ ราคา 6,500 บาท

    รับเช่าเข้าอยู่เรื่อยๆครับ ท่านใดมีส่งมาขายได้

    …………………..

    รูปหล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ

    จัดสร้างถวาย โดย ศิษย์กทม.

    บอกได้เลยว่าสุดยอดชนวนมวลสารอีกรุ่นหนึ่งครับ เพื่อเป็นเกียตริประวัติ และประวัติศาสตร์ สำหรับรูปหล่อโบราณรุ่นแรก อย่างเป็นทางการ ซึ่งหลวงปู่ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้าง งานนี้ได้ชนวนของทั้งพระกริ่งจนฺทสโร ที่ทางเจ้าภาพใหญ่ในการจัดสร้างพระกริ่ง เมตตามอบชนวนซึ่งตักจากเบ้าหลอมมาผสมและก้านชนวนจากเบ้าดินไทย(อยากทราบว่าชนวนพระกริ่งมี อะไรบ้างย้อนไปดูครับ) เพราะพระรูปหล่อโบราณทำพิธีเททองพร้อมพระกริ่งในวันเดียวกัน แต่รูปหล่อโบราณเทท้ายสุด ในวันนั้นมีการเทพระกริ่งพระชัย จนฺทสโร เทนำฤกษ์ ตามด้วย. พระพุทธชินราชวิฬุรโห ของท่านพระครูมานิตย์ วัดเงินบางพรหม ส่วนรูปหล่อหลวงปู่ซึ่งเป็นรูปพระสงฆ์ เททองท้ายสุด รูปหล่อหลวงปู่จึงรวมชนวนทั้งสามสายซึ่งเจ้าภาพแต่ละท่านได้ตักใบเบ้าหลอมมาผสมด้วย ในการหล่อครั้งนั้นทางเจ้าภาพจัดสร้างพระกริ่ง ได้นิมนต์บอกกล่าวหลวงปู่ที่ รพ ขอความเมตตาให้ท่านเดินญาณมาเสกที่พิธี หลวงปู่ท่านรับรู้แล้วถึงเวลาเททอง ในวันนั้นพระอาทิตย์ทรงกลด ถือเป็นพิธีสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์ที่หลวงปู่ท่านให้ทำได้เป็นครั้งแรก ถ้ากล่าวถึงรูปหล่อโบราณรุ่นแรกบางท่านอาจคิดว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะหลวงปู่หลวงพ่อรูปอื่นท่านก็ทำกัน แต่สำหรับผมความคิดส่วนตัวของผม และคนท้องที่ ผมว่าไม่ธรรมดา สำหรับหลวงปู่เล็ก แห่งวัดทำนบ เหตุเพราะหลวงปู่ไม่ส่งเสริมเรื่องการสร้างพระมาตั้งแต่ต้น แม้ว่าสรรพวิชาต่างๆนั้นคนท้องที่หรือคนอ่างทองทราบกันอยู่พอสมควรว่าหลวงปู่ท่านขลังนัก ขลังด้วยความดีและตบะบารมีที่ท่านสั่งสมบำเพ็ญมาในแนวทางของท่านในฐานะพระสาวกแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และอีกประการหนึ่ง เท่าที่ผมได้เคยพูดคุยกับลูกศิษย์หลวงปู่หลายท่านทั้งพระและฆารวาส หลวงปู่ท่านถือคติพระโบราณจารย์ เรื่องการสร้างรูปเคารพเกี่ยวกับพระสงฆ์หรือรูปท่านเอง ส่วนใหญ่แล้วหลวงปู่ท่านจะอนุญาตเพียงรูปพระพุทธเท่านั้นและก็เป็นครั้งคราวไป ในวาระนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่ท่านได้อนุญาติให้จัดสร้างรูปตัวท่านเองได้ และ ทางเจ้าภาพได้กราบเรียนถึงรูปแบบและรายละเอียดในองค์พระเพื่อทราบต่อองค์หลวงปู่เป็นระยะๆ ถือได้ว่าเป็นรูปหล่อโบราณครั้งแรกในรอบ 66 ปี เพราะตลอดมาตั้งแต่หลวงปู่ครองวัดทำนบ ตั้งแต่ 2492 ก็ยังมิเคยอนุญาติในการจัดสร้างรูปหล่อเลย และยิ่งเป็นการเทแบบพิธีแบบโบราณด้วยแล้ว ทำได้ยากครับ ทั้งขั้นตอนการ. เตรียมชนวน กำหนดฤกษ์ในการเทซึ่งสำคัญมากสอดคล้องกัน การบวงสรวง การหลอมชนวนซึ่งใช้เวลานานและต้องพิถีพิถันเพราะถ้าเทแล้วออกมาไม่สมบูรณ์จะยุ่ง คือทุกรายละเอียดต้องสอดคล้องเกื้อกูลกัน จึงจะสมบูรณ์แบบ และหลังจาก เสร็จพิธีเททองและตบแต่งอุดผงมวลสารและเกษาหลวงปู่แล้ว ทางเจ้าภาพใหญ่คือ ดร.นพพร บุญรงค์ และ ร้อยโท สันติ ศรีงาม กราบอาราธนานิมนต์หลวงปู่อธิฐานจิตเดี่ยว เป็นเวลา 46 วันเต็ม พร้อมกับเหรียญ "เจริญสุข" นอกจากนั้น ดร.นพพร ท่านยังได้กราบอาราธนาหลวงปู่ บรรจุสรรพวิชา ต่างๆที่หลวงปู่ท่านได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่หนุ่มๆ จนปัจจุบัน เพื่อบรรจุไว้ในองค์พระรูปหล่อและเหรียญเจริญสุข เพื่อมิให้วิชานั้นสูญหาย ไป คนที่ทราบต่างหวงแหนยิ่ง มีหมุนเวียนน้อยมาก cr.เบ็น วิเศษฯ

    ใต้ฐานบรรจุกริ่ง มวลสาร เกษาหลวงปู่

    IMG_8016.jpeg IMG_8017.jpeg IMG_8018.jpeg IMG_8019.jpeg
     

แชร์หน้านี้

Loading...