เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 กรกฎาคม 2024 at 22:52.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,729
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +26,177
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,729
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +26,177
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ทุกวันอาทิตย์ ทางวัดท่าขนุนจัดโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" แต่ว่าอาทิตย์นี้พระพิรุณท่านเมตตา เกรงว่าพระจะร้อน ก็เลยเทฝนลงมาค่อนข้างจะหนัก ทำเอาบรรดานักท่องเที่ยวต้องหลบเข้าไปในชายคาของร้านค้าชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน แล้วก็ใส่บาตรพระที่เดินเลาะชายคาอยู่ด้านนอก ให้น้ำฝนหล่นใส่หัวเต็ม ๆ ญาติโยมบางท่านก็ยังใจเย็นมาก ค่อย ๆ บรรจงใส่ เกรงว่าจะได้บุญน้อย พระจึงยิ่งเปียกหนักเข้าไปอีก..!

    ครั้นรับบาตรแล้ว กลับมาถึงวัดท่าขนุน ก็ต้องรีบเปลี่ยนผ้าเป็นการด่วน แต่งตัวใหม่ยังไม่ทันจะเสร็จ ทางด้านคณะญาติโยมที่มาจากจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะต้องนำโดยรักษาการเจ้าคณะจังหวัด แต่เนื่องจากว่าท่านติดภารกิจอย่างกะทันหัน จึงให้เจ้าคณะอำเภอพนมไพรนำญาติโยมมาแทน

    ท่านพระครูสิริสีลวัตร รักษาการเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญนั้น ท่านได้เดินมาถึงวัดท่าขนุนด้วยตนเองแล้ว และก็ได้นัดแนะวันเวลาในการที่จะเดินทางมาถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งครั้งนี้ท่านก็นำญาติโยมมาถึง ๔๐๐ คน ร่วมกันถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนแล้ว ยังมีปัจจัยที่ร่วมกันมา ๑๘,๐๐๐ บาทเศษ

    กระผม/อาตมภาพนึกถึงตนเองที่ญาติโยมชาวทองผาภูมิหลายท่านเรียกร้องว่า "เมื่อไรหลวงพ่อจะจัดไปทำบุญที่วัดอื่นบ้าง ?" กระผม/อาตมภาพได้ฟังก็ได้แต่ยิ้มแบบอ่อนใจ เนื่องเพราะว่าเวลาจะหายใจยังไม่มี..! ถ้าญาติโยมอยากจะทำบุญที่อื่นก็ต้องเดินทางไปเองก็แล้วกัน

    สมัยก่อนนั้นขบวนทำบุญที่ใหญ่ ๆ โต ๆ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นอยู่บ่อย ๆ ก็คือขบวนของหลวงพ่อภาวนาพุทโธ วัดสามพราน ซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ยังได้เจอะเจอกัน อีกขบวนหนึ่งก็คือขบวนของท่านอาจารย์ยันตระ วัดป่าสุญญตาราม ไปกันทีก็จะมีรถบัส หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า "รถโดยสารไม่ประจำทาง" ๔๐ - ๕๐ คัน วิ่งกันไปที ถ้าเป็นวัดเล็ก ๆ ก็แทบจะหาที่จอดไม่ได้ แล้วญาติโยมถ้าหากว่าช้ากันคนละนาที ก็เป็นอันว่าตารางกำหนดการต่าง ๆ พังบรรลัยหมด..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,729
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +26,177
    แม้กระทั่งวันนี้ก็เช่นกัน ญาติโยมส่วนหนึ่งออกไปขึ้นรถ รอพรรคพวกอยู่ ๑๕ - ๒๐ นาทีแล้ว อีกหลายท่านก็ยังเดินเอ้อระเหยลอยชายถ่ายรูปอยู่ภายในศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพยังชี้ให้พระของเราดูแล้วบอกว่า "ถ้าเป็นผมเอง แบบนี้โดนทิ้งไปแล้ว..!" เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า กระผม/อาตมภาพเคยทำสถิติ ทิ้งญาติโยมมาหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะที่เชียงใหม่หรือที่ลำพูน คนอื่นขึ้นรถไปนั่งรอกันแล้ว แม่เจ้าประคุณก็ยังช็อปปิ้งไม่เลิก จึงสั่งให้รถออกเลย เดี๋ยวเขาหาทางกลับของเขาเอง..! โดนเข้าไปไม่กี่ครั้งก็เข็ดไปตาม ๆ กัน

    การเดินทางไปยังเมืองจีนครั้งล่าสุด ที่ไปอุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกวและตามตารางต่าง ๆ นั้น ทางด้านเอ็นซีทัวร์ ซึ่งนำโดยคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานกรรมการบริษัทนั้นได้บอกว่า "คณะของหลวงพ่อตรงเวลามาก จึงทำให้สามารถไปได้ครบถ้วนทุกที่ ถ้าเป็นคณะอื่นก็คงต้องมีการตัดโปรแกรมออกบ้าง" แล้วคณะของเราตรงเวลาจนถึงขนาดที่ว่ามีเวลาเหลือ ทำให้ทางเอ็นซีทัวร์ต้องจัดโปรแกรมแถมให้ขึ้นมาอีก จึงได้แวะสถานที่อื่นเพิ่มขึ้นเป็นการคืนกำไรไปในตัว

    เรื่องของการตรงเวลานั้น เป็นเรื่องของบุคคลที่มีสัจจบารมี ถ้าสัจจบารมีเต็ม ไม่บกพร่อง จะเป็นคนตรงต่อเวลา มีแต่ไปก่อนไม่มีไปหลัง กระผม/อาตมภาพเองในสมัยฆราวาสก็เช่นกัน ถ้าหากว่านัดใครก็จะไปก่อนเวลา ๓๐ นาที ถ้าเลยเวลานัดไป ๑๕ นาทีแล้วเขายังไม่มา กระผม/อาตมภาพก็ไปทำงานอื่นต่อ ถือว่าเรามารอแล้ว ไม่ใช่ความผิดของเรา เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เลยทำให้ต้องมาบวช เพราะว่าผู้หญิงเขามักจะไปช้าอยู่เสมอ ในเมื่อไปช้า กระผม/อาตมภาพก็เลิกคบไปทีละราย จนกระทั่งท้ายสุดก็ไม่เหลือใครไว้เลย จึงทำให้ต้องมาบวชอยู่จนทุกวันนี้..!

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการจัดงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวไปตั้งแต่วันก่อนแล้ว งานนี้ต้องบอกว่าเป็นงานที่ญาติโยมรอมานาน หลายต่อหลายท่านก็คิดไม่ถึงว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรนั้นเป็นการเป่าทีละศาลา โทรศัพท์มาถามว่า "ถ้าหากว่ามาหลายคน จะได้รับการเป่าทุกคนหรือไม่ ?" ประมาณว่ากระผม/อาตมภาพต้องเป่าใส่หัวทีละคน..! ซึ่งหลายเรื่องนี้มีความรู้อยู่เต็มกูเกิ้ลไปหมด แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมท่านถึงไม่ค้นคว้ากันบ้างเลย ?

    หลายคนทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากระผม/อาตมภาพจะจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรในวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๗ ก็ยังอุตส่าห์โทรมาถามย้ำว่า "วันที่ ๗ แน่นะ ?" ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ก็คงถวายหลังมือให้ไปเรียบร้อยแล้ว..! เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพถือว่าเราพูดเรื่องจริง พูดครั้งเดียวจบ ถ้าใครมางี่เง่าสอบถามเพิ่มเติมหลายครั้ง ถ้าไม่มีงานด่วนก็จะอธิบายให้ฟัง แต่ถ้ามีงานด่วนก็อาจจะโดนด่า หรือว่าตัดบทตัดสายไปเลย..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,729
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +26,177
    แล้วอีกประการหนึ่งก็คือ มีผู้คนไปลือว่ากระผม/อาตมภาพรับรักษาโรคทางไสยศาสตร์ด้วย ขอยืนยันว่าตั้งแต่เกิดมา กระผม/อาตมภาพไม่เคยรับรักษาโรคทางไสยศาสตร์เลย แต่ว่าบุคคลที่โดนไสยศาสตร์แล้วมาเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ทำให้บรรเทาเบาบางอาการลงไปบ้าง ทำให้หายขาดไปบ้าง นั่นเกิดจากวาระบุญวาระกรรมของท่านทั้งหลาย ถ้าหากวาระบุญมาถึง วาระกรรมถอยห่างไป อาการหนักก็เป็นเบา อาการเบาก็เป็นหาย

    แต่หลายท่านก็ไม่ฟังเสียง ตั้งใจจะพาญาติพี่น้องของตนเองมาให้รักษาอย่างเดียว อธิบายไปแล้วก็ยังอ้อนวอนถึงขนาดว่าช่วยเมตตาเขาหน่อย ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร มีอยู่ท่านหนึ่งบอกว่าภรรยาโดนไสยศาสตร์มาเหมือนกัน กระผม/อาตมภาพบอกให้รองานเป่ายันต์เกราะเพชร แต่ว่าผู้ป่วยอาการหนัก ก็เลยทำให้เสียชีวิตไปก่อน..!

    ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา อันดับแรกเลย ท่านทั้งหลายต้องนึกถึงแพทย์แผนปัจจุบันเสียก่อน ถ้าหากว่ารักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน จนกระทั่งหมดความสามารถแล้ว ไม่สามารถรักษาได้ ค่อยไปรักษาแพทย์แผนโบราณ ถ้าทั้งแผนโบราณ แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้ ค่อยไปหาหมอพระ - หมอผีกันทีหลัง ไม่เช่นนั้นแล้วบางทีเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคปกติ ถึงเวลาอายุมาก ฮอร์โมนบกพร่อง มีอาการป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ก็ไปคิดว่าโดนไสยศาสตร์บ้าง โดนผีเข้าบ้าง ซึ่งความจริงถ้าไปหาหมอแผนปัจจุบัน จ่ายฮอร์โมนให้ไม่กี่ครั้งก็หายแล้ว..!

    จึงเป็นเรื่องที่อยากจะเตือนสติท่านทั้งหลายว่า การเคารพเลื่อมใสนั้นเป็นการดี แต่ควรที่จะเคารพเลื่อมใสแบบคนมีปัญญาด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วท่านทั้งหลายอาจจะไปเจอบุคคลที่เขาโกหกหลอกลวง ทำให้ท่านต้องเสียประโยชน์ไปทีละมาก ๆ แล้วในขณะเดียวกันโรคที่รักษาก็อาจจะไม่หาย หากว่าโรคกำเริบขึ้นมา ญาติพี่น้องของท่านอาจจะถึงกับเสียชีวิตไปด้วย

    หลังจากที่เขาแบ่งสันปันส่วนงานกันแล้ว ก็ต้องมีการเบิกจ่ายงบประมาณ อย่างเช่นว่าซื้อวัสดุในการทำความสะอาดเพิ่มเติม ซื้อเครื่องขยายเสียงมือถือ หรือที่เรียกกันว่า "โทรโข่ง" เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการขอความร่วมมือจากบรรดาท่านผู้เจริญทั้งหลาย ที่เข้ามาถึงก็ถ่างแข้งถ่างขา นั่งสบายอยู่คนเดียว ขณะที่คนอยู่ข้างนอกอีกเป็นร้อยอาจจะต้องตากฝนอยู่..! แล้วถ้าหากว่าเราขอร้องด้วยเสียง ท่านก็อาจจะทำเป็นหูทวนลม จึงต้องใช้เครื่องขยายเสียงช่วย ทำให้รายจ่ายของทางวัดเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,729
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +26,177
    อีกประการหนึ่ง เรื่องของงานต่าง ๆ ที่เคยติดขัด อย่างเช่นว่ามีญาติโยมแนะนำมาว่า "อย่าเพิ่งจำหน่ายน้ำมนต์ในรอบแรกของการเป่ายันต์ เนื่องเพราะว่าพอหลังบวงสรวงเช้าแล้วจำหน่ายน้ำมนต์ หลายท่านก็ไปซื้อตุนเอาไว้ แล้ววางไว้ข้างหน้าตัวเอง ทำให้ที่นั่งคนอื่นโดนเบียดบังหายไปด้วย"

    เรื่องพวกนี้เราก็นำมาปรับปรุงแก้ไข ตามที่ท่านทั้งหลายได้แนะนำแจงมา อีกหลาย ๆ ประการที่จะต้องแก้ไขและต้องมีการประชุมกัน จนกว่าจะใกล้ถึงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๗ ก็คาดว่าการแบ่งสันหน้าที่ ตลอดจนกระทั่งจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ น่าที่จะครบถ้วนสมบูรณ์

    ขณะเดียวกันทางวัดท่าขนุนได้รับความเมตตาจากทางคณะโมทนาบุญสัญจร ซึ่งจัดรถตู้มาเพื่อร่วมงานเป่ายันต์เกราะเพชรทุกปี ในระหว่างงานเขาจะเอารถตู้วิ่งวนอยู่ในวัด กับหน้าวัดซึ่งเป็นสถานที่จอดรถ ท่านทั้งหลายจอดรถแล้ว เห็นรถตู้ที่วิ่งเข้าวัด สามารถขึ้นฟรีได้ทุกคน เมื่อหมดธุระภายในวัดแล้ว ท่านก็นั่งฟรีออกไปหน้าวัดเช่นกัน

    อย่าได้ไปนั่งบรรดาสามล้อที่ฉวยโอกาสเข้ามาหาเงิน โดยที่ตอนขึ้นก็ไม่ได้บอกอะไร แต่ตอนลงอาจจะเก็บแพงกว่าที่คิด เรามีรถตู้ฟรีให้แล้ว โปรดใช้ของฟรีให้เป็นประโยชน์ด้วย..!

    อีกหลาย ๆ อย่างที่อยากจะเตือนญาติโยมทั้งหลาย แต่ว่าวันนี้เวลาไม่พอ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะต้องบรรยายในรายการ "เสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม" ต่อไป จึงได้มาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในเวลานี้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...