เหรียญหล่อหลวงพ่อเก๋วัดแม้น้ำรูปลป.จันทร์ศรีหลังจีวรเกษาเหรียญหลังคาระเบิดลพแช่ม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่าน ขอส่งมอบ คำอวยพรอันเป็นมงคลของครุบาอาจารย์พระสงฆ์
    1704120911099.jpg 1704078531357.jpg 1704081597758.jpg 1704077361901.jpg 1704061873007.jpg 1704061787367.jpg 1704044104372.jpg 1704044033138.jpg 1704122719992.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้จัดส่ง
    1704268589483.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1704291595532.jpg

    ประวัติ ของหลวงปู่คลี่ วัดประชาครับ
    พระครูสมุทรวิจารณ์(คลี่) วัดประชาโฆสิตาราม สมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งพระเกจิเมืองแม่กลอง อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณ๊ และ หลวงพ่อสาย วัดจันทร์เจริญสุข แต่ชื่อเสียงในวงการพระเครื่องหลวงพ่อตลี่ อาจจะไม่รู้จักแพร่หลายเหมือนหลวงพ่อเนื่อง แต่คนในพื้นที่และส่วนกลางก็รู้จักท่านพอสมควร หลวงพ่อคลี่ เกิดวันที่ 7 กันยายน ปี2447 เป็นชาวอำเภออัมพวา สมุทรสงคราม ได้บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่ปี2462 ที่วัดประชาโฆสิตาราม โดยมีหลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆสิตาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ สำหรับหลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆสิตาราม เป็นพระเกจิร่วมยุคสมัยเดียวกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ ชาวบ้านในสมัยก่อนก็ให้ความนับถือหลวงพ่อทองอยู่ แม้แต่หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม ยังกล่าวยกย่องในด้านความเก่งกล้าด้านพุทธาคม ในฐานะที่หลวงพ่อคลี่ เป็นญาติกับหลวงพ่อทองอยู่ จึงมิต้องสงสัยเลยว่าวิชาต่างๆหลวงพ่อคลี่ ต้องได้เรียนมาจากหลวงพ่อทองอยู่ แบบเค็มๆไม่มีปิดบัง เมื่ออายุครบบวช หลวงพ่อคลี่ ได้บวชเป็นพระที่วัดประชาโฆสิตาราม ปี2467 โดยมีหลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งหลวงพ่อช่วง ท่านนี้ก็เป็นพระเกจิที่อาวุโสแก่กว่าหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม อยู่หลายปี หลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ เชี่ยวชาญทั้งด้านวิทยาคมและวิปัสสนากรรมฐาน เชื่อว่าหลวงพ่อคลี่ เมื่อบวชเป็นพระก็คงได้รับการถ่ายทอดวิชามาบ้างไม่มากก็น้อย หลวงพ่อคลี่ เป็นพระที่มีความขยันใฝ่เรียนรู้ ท่านได้ศึกษาปริยัติจนสำเร็จนักธรรมเอก ในปี 2477 หลังจากที่หลวงพ่อทองอยู่ ได้มรณภาพลงเมื่อปี 2487 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งเป็นทางการปี 2490 หลวงพ่อคลี่ เป็นพระที่มีความเก่งกล้าด้านอาคมมากรูปหนึ่ง แต่ไม่ค่อยมีคนเขียนประวัติลง อาจเป็นเพราะว่าในสมัยมีชีวิตท่านคงจะไม่อยากเปิดเผยตัวเหมือนกับพระเก่งๆในอดีตหลายองค์ ที่ไม่ชอบให้ลูกศิษย์เขียนประวัติเผยแผ่ หลวงพ่อคลี่ ได้รับสมณศักดิ์ เป็นพระครูสมุทรวิจารณ์ และเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 5 มิย 2533 สิริอายุ 86 ปี สำหรับวัตถุมงคลที่สร้างไว้สมัยท่านมีชีวิต มีจำนวนไม่กี่สิบรุ่น สังเกตได้ว่าไม่ค่อยมีหมุนเวียนออกมาตามสนามบ่อยนัก ส่วนใหญ่คนที่รู้จักจะแอบเก็บกันหมด เหรียญที่สร้างชื่อให้หลวงพ่อคลี่ มากที่สุดก็คือ เหรียญ รุ่น ด.ใหญ่ สร้างปี 2519 เพราะมีคนที่แขวนเหรียญรุ่นนี้ถูกฟันแทงด้วยมีดสปาต้า ผลปรากฏว่าไม่มีแผลให้แมลงวันได้กินเลือดเลยครับ ชาวบ้านในพื้นที่เมื่อทราบต่างตามเก็บกันหมด เหรียญ ด.ใหญ่ หลวงพ่อคลี่ หายากทำให้ตอนหลังๆของเก๊ออกมาร่วมแจมด้วย ใครที่สนใจอยากได้เหรียญสุดยอดประสบการณ์ของหลวงพ่อคลี่ รุ่น ด.ใหญ่ ควรศึกษาให้ดีก่อนครับ

    1704292433667.jpg
    พระของหลวงปู่จะมีครบทุกด้านเเต่ที่เด่นนำออกมาคือลาภเเละเมตตาร่มเย็น ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปกราบหลวงปู่หลายวาระพระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชานุญาติให้ใช้ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. บนวัตถุมงคลของหลวงปู่คลี่อีกด้วย
    *ครั้งหนึ่งพระอาจารย์บ๊ะเคยพูดว่า “ของพ่อคลี่ใครไม่เก็บกูเก็บหมด ท่านปิดบังความเก่งตัวเอง ทั้งลาภทั้งเมตตาเย็นนำออกมาก่อนเลย” บนโต๊ะพระอาจารย์บ๊ะจะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อคลี่วางอยู่ชิ้นหนึ่ง หลายคนคงเคยเห็นเเต่ไม่รู้จักกัน ท่านบอกว่า”ลาภโคตรดีเลยนะของพ่อคลี่เนี่ย”
    #ใครไม่เอาตูเอา
    หลวงพ่อเอเคยถามพระอาจารย์บ๊ะว่า ความเมตตาของหลวงปู่คลี่ต่างจากเมตตาของอาจารย์ชุม ไชยคีรีอย่างไร ท่านตอบว่า “ ของหลวงพ่อคลี่ท่านจะเป็นในด้านของผู้ใหญ่ให้ความเมตตา เจ้านายเมตตา เพื่อนร่วมงานเมตตา ไม่มีเรื่องของชู้สาว”
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหลวงพ่อคลี่หลังภปรยันต์นะพระสีวลี กะไหล่ทองให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240103_221238.jpg IMG_20240103_221305.jpg

    เหรียญหลวงพ่อคลี่หลังภปรยันต์นะพระสีวลี รมดำ ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ คุณ sunmk)
    IMG_20240103_221339.jpg IMG_20240103_221433.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2024
  4. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,979
    ค่าพลัง:
    +6,888
    -ขอจอง1 เหรียญ (เนื้อกะหลั่ยทอง) ครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343

    หลวงพ่อบัวเผื่อนท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหมวัดช่องแคหลวงพ่อโอดวัดจันเสนเมื่อมรณภาพแล้ว สังขารไม่เน่าเปื่อย
    ไปตามกาลเวลา ลองหาอ่านประวัติหลวงพ่อก่อนครับ
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    1704298325606.jpg

    รูปหล่อหลวงพ่อบัวเผื่อนนั่งเสืออุดตะกั่วให้บูชาองค์ละ 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับมี 2 องค์
    องค์ที่

    IMG_20240103_231330.jpg IMG_20240103_231354.jpg IMG_20240103_231421.jpg


    องค์ที่


    IMG_20240103_231446.jpg IMG_20240103_231521.jpg IMG_20240103_231540.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    https://www.posttoday.com/lifestyle/491451

    FB_IMG_1704299890761.jpg
    พระสมเด็จปรกโพธิ์เนื้อผงใบลานเจ้าคุณเที่ยงวัดระฆังปี๒๕๐๗ ด้านหลังปั๊มตราคณะ ๑๑ ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    img_20231121_115928-jpg.jpg img_20231121_114641-jpg.jpg img_20231121_114608-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2024
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1704280673391.jpg FB_IMG_1704280676569.jpg FB_IMG_1704280682745.jpg FB_IMG_1704280679446.jpg
    พระสมเด็จหลังดอกบัวบาน เจ้าคุณนรรัตน์ วัดเทพศิรินทร์จัดสร้าง ยุคหลัง
    ให้บูชา 200 บาท ค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240104_123317.jpg IMG_20240104_123347.jpg IMG_20240104_123257.jpg IMG_20240104_123419.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2024
  9. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,185
    ค่าพลัง:
    +954
    จองพระผงพุทธชินราชปี15/เหรียญลป.คลี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2024
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    images-201-jpg-jpg.jpg
    พระครูวิชัยบุญสาร นามเดิม บุญมี (เม็ด) นามสกุล จันทรสุวรรณ์ เกิดวันอังคารที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๔๔๙ ที่บ้านบึงกระจับ หมู่ที่ ๑๐๐ตำบลหนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา บิดาชื่อ เฉย มารดาชื่อ ชม นามสกุล จันทรสุวรรณ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา รวม ๔ คนคือ ๑ นางเหลี่ยม ทัพมงคล ๒. นายล้วน จันทรสุวรรณ์ ๓. พระครูวิชัยบุญสาร (บุญมี หรือ เม็ด) ๔ นายหนู จันทรสุวรรณ์ ในวัยเด็กหลวงพ่อได้ศึกษาหาความรู้จนอ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุครบเกณฑ์ได้เข้าอุปสมบท ที่วัดบึงกระจับในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๖๙ พระสมุห์ก้อย วัดมหาเจดีย์ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วได้เริ่มการทำวัติปฏิบัติ ฝึกการเจริญสมาธิ ใช้จิตภาวนาและเรียนวิปัสสนากัมมัฎฐานได้ออกธุดงค์วัตรเพื่อเสาะแสวงหาอาจารย์และสถานที่อันสงบวิเวก
    จวบจนกระทั่งปี ๒๔๘๐ ได้รับอาราธนาให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงกระจับ ซึ่งขณะนั้นจัดได้ว่าวัดกำลังอยู่ในช่วงต้องการผู้ดูแล เนื่องจากทรุดโทรมลงเป็นอย่างมาก เมื่อท่านได้เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแล้ว ได้สร้างผลงานเอาไว้เป็นอันมาก
    เป็นพระดังแบบเงียบๆไม่มีนักเล่นพระมาเชียร์ เพราะวัตถุมงคลของท่านสร้างน้อยมีไม่กี่สิบรุ่น ไม่มีนายทุนที่เป็นพุทธพาณิชย์มาจัดสร้างพระของท่าน หลวงพ่อเม็ด หรือ หลวงพ่อบุญมี ถ้าท่านเป็นพระไม่ดีจริง เชื่อว่า หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร คงไม่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านแน่ โดยเฉพาะหลวงพ่อจำเนียร ไปที่วัดนี้บ่อยมากเพื่อขอเรียนวิชา ในสมัยที่ท่านมีชีวิต หลวงพ่อเม็ด ก็มักจะได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมปลุกเสกพระเครื่องตามวัดต่างๆโดยเฉพาะในเขตตะวันออก เช่น พิธีปลุกเสกพระกริ่งพุทธวิชิตมาก ของวัดท่าเกวียน ปี ๒๕๑๔ พิธีปลุกเสกเหรียญนวมหาราชปี๒๕๓๐ เป็นต้น

    สำหรับวิชาลูกอมนี้ นอกจากจะมีพุทธคุณทางคงกระพันแคล้วคลาดกันเขี้ยวงาแล้ว อาถรรพ์ในป่าลึกหรือสถานที่มีวิญญาณมาก ยัง กันพรายน้ำ และ กันสิ่งแปลกปลอมอาถรรพ์ที่ปะปนมากับสายน้ำด้วยการทำวิชาทำคุณไม่ได้ทำกันมาตามอากาศทางเดียว ใครที่ว่าแน่ๆเสร็จทางน้ำกับพวกพรายและวิชาที่ทำมาทางน้ำทั้งนั้น เพราะเมื่อหมดสติก็จมน้ำ ขาดอากาศหายใจน้ำแค่คืบก็ตาย



    เรื่องพรายน้ำหลวงพ่อเม็ดดังมาก มีหนังสือพระรายเดือนหลายปีก่อนเขียนประวัติท่านไว้ด้วย ว่าท่านสามารถจับ พรายน้ำ ขึ้นมาได้ โดยนำสายสิญจน์มีดินเหนียวเป็นลูกตุ้มหย่อนลงน้ำ ท่านอยู่บนแพแล้วลากแพไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสายสิญจน์ มีอาการเหมือนปลาติดเบ็ด เมื่อดึงขึ้นมาปรากฏ มีสิ่งมีชีวิตตัวใสเหมือนแมงกะพรุน หน้าตาเหมือนเด็กเหี่ยวๆมีฟันแหลม ดิ้นไปมาปรากฏพ่อเด็กที่ถูกพรายน้ำตัวนั้นเล่นงานตรงเข้ามากระทืบเละคาเท้าเลย อาการเมื่อโดนพรายน้ำทำร้ายคือ ขาจะชาไม่มีแรงจมน้ำเข้าใจว่าพรายน้ำพวกนี้จะดูดเลือดเป็นอาหาร เพราะใครจมน้ำเสียชีวิตถ้าไม่นานตัวจะไม่ซีดมาก แต่ถ้าโดนพรายน้ำเล่นงานว่ากันว่าเลือดไม่รู้ไปไหนหมดไม่มีเอาเสียเลย ตัวจะซีดและเขียวมากทั้งที่จมน้ำไปไม่เกิน ช.ม. (ใช้วิจารณญาณในการอ่าน) สาเหตุที่ท่านเชี่ยวชาญวิชานี้เป็นพิเศษ เพราะหลังวัดท่านเป็นบึงชื่อ บึงกระจับ

    วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๓๕ ตรงกับวันขึ้น ๗ ค่ำเวลา ๒๒.๒๐ น. ท่านได้มรณะภาพลง สิริอายุรวมได้ ๘๗ ปี พรรษานับได้ ๖๗
    ที่มา : ศรัทธา หลวงพ่อเม็ด (บุญมี) วัดบึงกระจับ / g-pra.com
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จหลวงพ่อเม็ดวัดบึงกระจับรุ่นแรก ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    img_20231228_174449-jpg.jpg img_20231228_174511-jpg.jpg img_20231228_174410-jpg.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้ จัดส่ง
    1704441374255.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  13. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,979
    ค่าพลัง:
    +6,888
    ขอจองครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    fb_img_1683763123776-jpg.jpg
    ประวัติโดยสังเขป

    หลวงพ่อสุพัฒน์ เตชะพะโล วัดป่าประชานิมิต อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เจียม อติสโย วัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว)
    ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เเละได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ อาทิ การเสกน้ำมนต์ เขียนแผ่นทอง เป็นต้น
    หลวงพ่อสุพัฒน์ปรนนิบัติรับใช้และได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เจียม ขอรับถ่ายทอดวิทยาคม อาทิ การเขียนอักขระลงแผ่นทอง ทำตะกรุด วิชาเสริมสิริมงคล ให้อย่างครบถ้วน เพื่อคอยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ชาวบ้านในถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี เเละจะงหวัดใกล้เคียง

    หลวงพ่อสุพัฒน์ เตชะพะโล ท่านมีวิชากสิณไฟด้วยนะครับ เพราะผมอ่านในบอร์ดภายในวัด อย่างคร่าวๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

    -หลวงพ่อท่านเก่งเรื่องยาสมุนไพรด้วยครับ ใครเจ็บป่วยไม่สบายก็ขอยาท่านได้
    -ใครอยากเเค้วคลาดปลอดภัยก็ ขอพระ พร้อมสร้อยตะกรุดท่านได้
    -ท่านหลวงพ่อสุพัฒน์ ท่านสามารถดูดวงในน้ำมนต์ได้ ใครที่ต้องการดูดวง ต้องเตรียม เทียนตั้งธาตุ (เทียนดูดวง)เป็นเทียนขี้ผึ้งที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ เทียนจำนวน 2 เล่มต่อ 1 คน สำหรับผู้ที่จะอาบ น้ำมนต์เฉพาะตัวเฉพาะกรณี (ดวงตก ปีชง) ผู้ที่จะดูดวงต้องนำถังไปตักน้ำเอง
    -ใครดวงไม่ดี หรือดวงตก ท่านก็บอกวิธ๊สะเดาะเคราะห์ สวดบังสกุล เเละอาบน้ำมนต์ เพื่อเสริมศิริมงคล
    -ใครออกรถใหม่อยากได้ศิริมงคล ท่านก็เมตตาเจิมเเป้งที่รถให้

    วันจันทร์-เสาร์ ท่านรับกิจเช้า 8.00 -12.00 12.00-13.00 พักเที่ยง ท่านรับกิจช่่วงบ่าย
    วันอาทิตย์ ท่านรับกิจเช้า 8.00 -12.00 (เรื่องเวลายังไม่ชัวร์นะครับ เเต่ท่านรับกิจครึ่งวัน)

    ***คุณควรมีค่าปัจจัยให้ท่านด้วย โดยนำใส่ซองสีขาว หรือข้าวของเครื่องใช้ อาหารตามกำลังศรัทธา หลวงพ่อท่านไม่ได้เรียกร้องสิ่งทั้งหมดที่ผมกล่าวมานะครับ เเต่ผมเเค่เเนะนำเท่านั้น เพราะพระ ตะกรุด ยา ที่หลวงพ่อท่านเเจกฟรี หลวงพ่อท่านใช้ปัจจัยทั้งนั้น เราควรเเบ่งภาระค่าใช้จ่ายให้ท่านบ้าง อย่างที่เราเคยได้ยินนั้นเเหละครับว่า เข้าห้องน้ำวัด ควรช่วยบริจาคค่าน้ำค่าไฟฟ้าช่วยวัด จะได้ไม่เป็นบาป

    [​IMG]

    เดินทางจากตัวจังหวัดตามเส้นทาง อุบลราชธานี - กัณทราลักษ์ ประมาณ 30 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวมาทางที่ว่าการอำเภอสำโรง แล้วเดินทางไปตามแผนที่ ข้างบน

    ***สามารถสอบถามทางเข้าวัดป่าประชานิมิตกับ ชาวบ้านใน อ.สำโรงได้ครับ เพราะทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญปราบมารตะกรุดคู่ ละ.สุพัฒน์ เตชพะโล ให้บูชา500 บาทค่าจัดส่งด่วน30บาครับ
    img_20230511_062642-jpg.jpg img_20230511_062404-jpg.jpg
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    %E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%94_1-jpg.jpg
    #ประวัติ หลวงปู่บัวทอง จารุวัณโณ 92 พรรษา 72
    พระครูนิทัศน์ธรรมรส (หลวงปู่บัวทอง จารุวัณโณ)
    เจ้าอาวาสวัดลาดทิพรส เจ้าคณะตำบลลาดทิพยรส กิตติมศักดิ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    ชาติภูมิ
    พระครูนิทัศน์ธรรมรส หรือหลวงปู่บัวทอง ฉายา จารุวัณโณ นามเดิมชื่อ นายคำพา นามสกุล สุดามาตย์ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายบัวทอง สุดามาตย์ แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อบัวทอง" ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๕ เดือน กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ตรงกับวัน อังคาร ขึ้น/แรม.... ค่ำ เดือน ๙ ปี........ ณ บ้านเลขที่........ หมู่ที่...... ตำบลไร่ขี อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ(เดิมเป็นจังหวัดอุบลราชธานี) บิดามารดาของท่านชื่อ นายวา นางเปลือย สุดามาตย์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม ๕ คนคือ
    ๑. นายลา สุดามาตย์
    ๒. นางผา สุดามาตย์
    ๓. พระครูนิทัศน์ธรรมรส
    ๔. นางนา สุดามาตย์
    ๕. นายปา สุดามาตย์
    การศึกษาเบื้องต้น
    ๑)ท่านสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านไร่ขี อ.ลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๒)บรรพชา บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ และได้ฝึกการเทศน์ตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี ขณะเป็นสามเณร จนอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบท
    อุปสมบท
    เมื่อวัน......ขึ้น/แรม..... ค่ำ เดือน......ปี.... ตรงกับวันที่.......เดือน พฤษภาคมพ.ศ. ๒๔๙๒ ณ พระอุโบสถ วัด ไร่ขี อำเภอ เมือง จังหวัด อำนาจเจริญ โดยมี
    ๑. พระอาจารย์สอน ถาวโร เป็นพระอุปัชฌาย์
    ๒. เจ้าอาวาสวัดหนองยาง จ.อุบลราชธานี
    เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    ๓. เจ้าอาวาสวัดนาโศก จ.อุบลราชธานี
    เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    วิทยฐานะ
    พ.ศ.๒๔๘๕ สอบได้นักธรรมตรี จากสำนักเรียนวัดไร่ขี
    งานด้านปกครอง
    ๑) พ.ศ. ๒๔๘๙-๒๔๙๙ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนองคูน้อย อำเภอ ตาคลี จ.นครสวรรค์
    ๒) พ.ศ. ๒๕๐๐ ทางคณะสงฆ์ได้ย้ายท่านให้มารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดลาดทิพรส
    ๓) วันที่......เดือน................พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดลาดทิพรส
    ๔) วันที่......เดือน................พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะตำบลลาดทิพรส
    ๕) วันที่......เดือน................พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์
    ๖) ........................................................................
    สมณศักดิ์
    ๑) พ.ศ. ๒๕..... ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น ตรี
    ๒) พ.ศ. ๒๕..... ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น โท
    ด้านการศึกษาของภิกษุ-สามเณร
    - เป็นครูสอนนักธรรม ของวัดลาดทิพยรส และทุกวัดของตำบลลาดทิพยรส
    - เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดลาดทิพยรส
    - เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง
    การก่อสร้างและการพัฒนา
    ๑) ศาลาการเปรียญ (ศาลาประชานุสรณ์)
    ๒) พระอุโบสถ พ.ศ. ๒๕๒๔
    ๓) เมรุ
    ๔) กุฏีสงฆ์
    ๕) โรงเรียนวัดลาดทิพรส พ.ศ. ๒๔๗๘
    ๖) โรงเรียนลาดทิพรสพิทยาคม พ.ศ. ๒๕๓๔
    ๗) ขุดสระน้ำขนาดใหญ่เพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภคและบริโภคของชุมชน
    การสร้างวัตถุมงคล
    สำหรับวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของท่านคือ สร้างตามตำรับของหลวงพ่อโอด มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพัน กันคุณไสย รุ่นแรกออกปี พ.ศ. ๒๕๒๐
    ๑) รูปหล่อพิมพ์ห่มดอง ปี พ.ศ. ๒๕๒๐
    ๒) เหรียญกลม ปี พ.ศ. ๒๕๒๔
    ๓) รูปหล่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙
    ๔) เหรียญรูปไข่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙
    วัตถุมงคลที่ได้รับการอุปถัมภ์
    เนื่องจากหลวงปู่บัวทอง จารุวัณโณ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดลาดทิพรสมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งในสมัยนั้นวัดลาดทิพรสและตำบลลาดทิพรสยังไม่มีความเจริญเหมือนในปัจจุบัน เป็นชุมชนทุรกันดาร ขาดแคลนน้ำ ไฟฟ้า ถนนหนทาง ทางติดต่อและสื่อสารกับภายนอกเป็นไปอย่างยากลำบากมาก
    หลวงปู่บัวทองจึงเป็นทั้งผู้นำทางด้านศาสนาและผู้นำของชุมชน จำเป็นต้องพัฒนาทุกๆด้าน เช่น ด้านการสร้างโรงเรียนทั้งระดับประถม และระดับมัธยมศึกษา การขุดสระน้ำขนาดใหญ่เพื่อการอุปโภคและบริโภค การสร้างศาลาการเปรียญ การสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร กุฎีสงฆ์ การสร้างเมรุเผาศพ สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ชาวบ้านในชุมชนล้วนแต่มีอาชีพเกษตรกรรมและอาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติรายได้ไม่สู้ดีนัก ดังนั้นหลวงปู่บัวทอง พระนักพัฒนา จึงได้รับการอุปถัมภ์จากพระเกจิอาจารย์ที่มีเมตตาช่วยเหลือ เช่น หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงพ่อโอด วัดจันเสน หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เมตตาอุปถัมภ์โดยจัดทำวัตถุมงคลมาให้เพื่อนำไปหารายได้มาพัฒนาทั้งด้านการศาสนา การศึกษา ฯลฯ
    ๑.๑)วัตุถมงคลที่หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นำมามอบให้หลวงปู่บัวทองเพื่ออุปถัมป์การพัฒนาวัด
    ๑) เหรียญอาร์มพระครูนิสัยจริยคุณพิมพ์ที่ระลึกคล้ายวันเกิด ๓๑ ธ.ค. ๑๔ มอบให้เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔
    ๒) เหรียญโล่ห์ใหญ่หลวงพ่อพรหม ปี ๒๕๑๙ มอบให้เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙
    ๓) รูปหล่ออุดกริ่งพระครูนิสัยจริยคุณ เสาร์ ๕ ปี ๒๕๒๖ มอบให้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖
    ๔) พระผงพิมพ์หยดน้ำ ปี ๒๕๓๑ มอบให้เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๑
    ๑.๒)วัตุถมงคลที่หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อธิษฐานจิตพทธาภืเษก นำมามอบให้หลวงพ่อบัวทองเพื่ออุปถ้มป์การพัฒนาวัดและสร้างโบสถ
    ๑) รูปเหมือนปั้มหลวงพ่อคูณ ปี ๒๕๓๖
    ๒) เหรียญแจกทาน(อิกคิวซัง) ปี ๒๕๓๖
    ๓) เหรียญเสมา ปี ๒๕๓๖
    ๔) เหรียญมหาลาภ ปี ๒๕๓๖
    ๕) เหรียญรูปไข่ ปี ๒๕๓๖
    ๖) พระผงพิมพ์สมเด็จ ๗ ชั้น ปี ๒๕๓๖
    ๗) พระผงพิมพ์เจ้าสัว เสาร์ ๕ ปี ๒๕๓๖
    ๘) พระผงพิมพ์นั่งหลังช้าง ปี ๒๕๓๖
    ๙) พระพิมพ์จอบ ๑๐๐ ล้าน ปี ๒๕๓๖
    ๑๐)พระพิมพ์เตารีดเฮงคูณเฮง ปี ๒๕๓๖
    ความสัมพันธ์กับหลวงพ่อพรหม และหลวงพ่อโอด
    หลวงปู่บัวทอง ท่านมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อโอด แห่งวัดจันเสนและหลวงพ่อพรหม แห่งวัดช่องแค สองพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของอำเภอตาคลี ในฐานะที่หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และหลวงพ่อโอด วัดจันเสน เป็นพระอาวุโสพรรษา และเป็นครูอาจารย์ที่คอยแนะนำสั่งสอนในทุกๆเรื่อง ทั้งหลวงพ่อพรหมและ หลวงพ่อโอด เป็นเจ้าอาวาสวัดที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกันและอยู่ในความปกครองดูแลของหลวงพ่อโอดซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอตาคลี การไปกราบนมัสการและปฏิบัติหน้าที่ในกิจกรรมของสงฆ์จึงมีอยู่เป็นประจำ ระยะทางจากวัดลาดทิพรสถึงวัดจันเสน ประมาณ ๑๐ ก.ม. และถึงวัดช่องแคประมาณ ๑๕ ก.ม.
    การศึกษาด้านพุทธาคม
    พ.ศ. ๒๔๘๕-๒๔๘๖ เดินธุดงค์ฝั่งประเทศลาวและติดตามพระอาจารย์ฝั้นธุดงค์ออกจากวัดป่าศรัทธารวมไปเขาพนมรุ้ง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุรินทร์
    พ.ศ. ๒๔๘๗-๒๔๘๙ เดินทางธุดงค์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้กราบนมัสการพระธาตุพนมด้วย ออกจากพระธาตุพนมมุ่งเดินธุดงค์ภาคอีสาน ภาคเหนือจนเดินทางมาถึง วัดลาดทิพยรส ต.ลาดทิพยรส อยู่จำพรรษาและเริ่มพัฒนาวัดอยู่มาจนถึงวันนี้
    พ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๑๘ เรียนวิชากับหลวงพ่อพรหม
    พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๓๑ เรียนวิชาและปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อโอด วัดจันเสน
    เรียบเรียงโดย กรรมการวัดลาดทิพรส
    ปัจจุบันหลวงปู่มรณภาพแล้ว สังขารในโลงแก้ว ให้ศิษย์ได้กราบไหว้บูชาระลึกถึงคุณความดีของท่านครับ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    หลวงปู่บัวทอง
    เหรียญรุ่น 2 ปี 2529
    ให้บูชา คู่กัน 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    มี 4 เหรียญครับ
    img_20230525_214855-jpg.jpg img_20230525_214907-jpg.jpg img_20230525_214840-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2024
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    get_auc1_img (12).jpeg
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่าน มรณะภาพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2549 สิริอายุ 86 ปี
    ประวัตท่านบางส่วนครับ
    ฝึกวิชา
    พระอาจารย์บุญยังได้พยายามถ่ายทอดวิชาต่างๆ ด้านพุทธคุณให้ ตอนแรก ๆ หลวงพ่อไม่สนใจ แต่เมื่ออยู่กับท่านนาน ๆ ไปหลวงพ่อเริ่มมีความสนใจขึ้น เห็นพระอาจารย์ท่านทำอะไร ๆ แปลกๆ ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น ทำควายธนูด้วยตอกสาน โดยสานมือเดียวแล้ววางไว้ ควายธนูก็มีการขยับเขยื้อนได้ เสกน้ำมันจนเดือดเหมือนน้ำร้อน ฟองเดือดขึ้นมา แต่เมื่อไปสัมผัสด้วยมือกลับไม่ร้อน ทำให้ท่านอยากจะเรียน พระอาจารย์ของหลวงพ่อก็ถ่ายทอดให้ทั้งคาถาปลุกเสก และวิธีฝึก
    วิชาเกราะเพชร
    วิชาหนึ่งที่ท่านชอบและฝึกมาตั้งแต่ต้น คือ “ยันต์เกราเพชร” หรือตาข่ายเพชร โดยหลวงพ่อบุญยังได้เล่าให้ท่านฟังว่าสมัยหลวงปู่ศุข ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลองวิชาเกราะเพชรกับพระะรูปหนึ่ง ที่แก่กล้าวิชาที่เดินทางผ่านวัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยบอกหลวงปู่สุขว่าจะขี่ม้าพยนต์เข้ามาในโบสถ์ให้ดู หลวงปู่ศุขท่านได้เอาผ้ายันต์เกราะเพชรขึงไว้หน้าประ ตู ปรากฎว่าม้าพยนต์ไม่สามารถผ่านยันต์เกราะเพชรหรือตาข ่ายเพชรไปได้ พระรูปนั้นเมื่อแพ้วิชาของหลวงปู่ศุข ก็ได้เดินทางกลับไปจากวัดปากคลองมะขามเฒ่าเมื่อหลวงพ ่อมหาโพธิ์ได้ฟังจากหลวงพ่อบุญยังเล่าท่านจึงสนใจและ เล่าเรียนวิชาเกราะเพชรลงตระกรุด และผ้ายันต์เกราะเพชรมาตลอดอายุของท่าน
    การลงยันต์เกราะเพชร ต้องท่องสูตรคาภาพระอิติปิโสรัตนมาลา ๕๖ บาท ให้ได้จนขึ้นใจทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้รวมทั้งบทปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ในการลงยันต์เกราะเพชร ท่านบอกว่ายันต์เกราะเพชร เป็นยันต์ที่ค่อนข้างยากผู้เรียกจะต้องมีความขยันหมั ่นเพียร กับความอดทน และการประสิทธิ์ประสาทจากครูบาอาจารย์ น้อยคนนักที่จะลงยันต์เกราะเพชรได้ บางคนมาขอเรียนเห็นพระคาถา ๕๖ บาท ก็ท้อแล้วไม่อยากจะท่องจำ ความเพียรพยายามไม่มี การลงยันต์ก็ต้องหายใจลงตามสูตรพระคาถา ๕๖ บาท ผู้ที่ฝึกฝนใหม่ ๆ ต้องใช้เวลาเรียนเกือบทั้งวันกว่าจะลงยันต์เสร็จ อย่างตัวของหลวงพ่อเองใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่งโมง ถือว่าลงได้เร็วมากแล้วเพราะท่านฝึกมา ตั้งแต่อายุยังรุ่นอยู่
    ในสมัยก่อนยามว่าง ท่านมักลงตระกรุดเกราะเพชรและทำผงพุทธคุณเกราะเพชรทั ้งชนิดป้องกันตัว และถอนคุณถอนของคนที่ถูกผีเข้า ท่านจะเอาตะกรุดเกราะเพชรที่เป็นแผ่นแบบยังไม่ได้ม้ว นเป็นตะกรุด ตบหัวคนถูกผีเข้า ผีจะทรุดลง และออกจากตัวคนไข้ไปทันที ตะกรุดส่วนใหญ่ท่านจะใช้แผ่นทองแดงมาลงยันต์เกราะเพช ร ยกเว้นแผ่นถอนของท่านจะใช้แผ่นตะกั่ว ส่วนตะกรุดเนื้อเงินท่านจะลงให้เฉพาะกับศิษย์ใกล้ชิด เท่านั้น เกี่ยวกับประสบการณ์ในตะกรุดเกราะเพชร มี ส.ส.ท่านหนึ่งใน จ.ชันนาท ที่เคารพนับถือหลวงพ่อมากได้ขอตะกรุดท่านไปใช้พกติดต ัว ขณะหาเสียงถูกผู้ที่ปองร้ายใช้ระเบิดปาใส่ ปรากฏว่า ส.ส.ท่านนั้นไม่เป็นอะไรเลย วิชาลงตะกรุดใต้น้ำ
    หลวงพ่อบุญยังได้เรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำจากหลวงปู่ศุข โดยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลงให้กับลูกศิษย์ทุกปี แม้กระทั่งพระสมุห์กลับ แสงเขียว ก็ยังขอให้ท่านช่วยลงตะกรุดใต้น้ำที่วัดดอนตาลให้ โดยก่อนที่จะประกอบพิธีจะต้องตั้งเครื่องบูชาครูริมแ ม่น้ำ และต้องตอกเสาหลักไว้ในน้ำสำหรับผู้ที่จะลงตะกรุดเกา ะไว้ ไม่อย่างนั้นจะถูกน้ำพัดลอยไปตามกระแสน้ำ ตะกรุดจะลง และปลุกเสกใต้น้ำเสร็จแล้วจะปล่อยให้ลอยขึ้นมาบนผิวน ้ำ พวกลูกศิษย์ก็จะแจวเรือคอยเก็บอยู่ข้างบน หลวงพ่อบุญยังเล่าให้หลวงพ่อบุญยังฟังว่าน้ำที่
    วัดดอนตาลน้ำเย็นเหลือเกิน หลวงพ่อมหาโพธิ์เล่าว่า ท่านเคยขอเรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำนี้จากท่านอาจารย์บุญ ยัง ซึ่งอาจารย์ท่านก็รับปากถ่ายทอดให้แต่ต้องเรียนในวัน เพ็ญเดือน ๑๒ แต่ยังไม่ทันถึงเดือน ๑๒ หลวงพ่อบุญยังก็มรณะภาพลงเสียก่อนเมื่ออายุได้ ๕๕ เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก ที่หลวงพ่อท่านเรียนจากพระอาจารย์ไม่ทันจึงทำให้วิชา นี้สูญไป
    เกี่ยวกับวันที่หลวงพ่อบุญยังมรณภาพ ชาวบ้านแถบวัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้เห็นลูกๆไฟดวงใหญ่ลอยเดินทางไปยังวัดหนองน้อย และได้ลอยกลับมาโดยมีลูกๆไฟดวงเล็กตามมาด้วยเป็นที่ตื อันตาตื่นใจแก่ผู้คนในสมัยนั้นมากเล่าขานกันมาจนถึงปัจุบันนี้
    ชีวิตฆราวาส
    ท่านได้สมรสกับ นางสุขใจ เป็นผู้ที่ค่อนข้างจะมีฐานะดีในจังหวัดชัยนาท แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ได้มีร้านค้าขายของชำอยู่ในอำเภอวัดสิงห์ ยามว่างท่านก็จะไปศึกษาวิชาความรู้ทางไสยศาสตร์กับ พระสมุห์กลับ แสงเขียว วัดดอนตาล ซึ่งถือกันว่าเป็นศิษย์มือขวาของหลวงปู่ศุขเลยทีเดีย ว พระสมุห์กลับภายหลังท่านสึกจากพระเสียอีก
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงพ่อมหาโพธิ์ซึ่งตอนนั้นท่านอยู่ในเพศฆราวาส ท่านได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็น เทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ในวาระ ๔ ปำถึง ๒ สมัย รวมเป็น ๘ ปีถึง พ.ศ.๒๕๐๗ ท่านได้เล่าไห็ฟังว่าตอนหาเสียงท่านก็ไม่ค่อยได้ออกไ ปหาเสียงที่ไหนอยู่ในร้านค้าของท่านในอำเภอวัดสิงห์ ค้าขายของไปวัน ๆ หนึ่ง แต่อาศัยที่ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยศาสตร์จากหลว งพ่อบุญยัง และพระสมุห์กลับ ด้วยอานุภาพความศักดิ์ของวิชา นะฤาชา ที่หลวงพ่อบุญยัง ถ่ายทอดไห้มาเป็นพิเศษ จึงทำให้ท่านเป็นที่รู้จักเลื่องลือไปทั้งอำเภอวัดสิ งห์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน อำเภอวัดสิงห์ ท่านลอกว่าท่านไม่ต้องไปเหนื่อยกับการหาเสียงเลย ประชาชนทั่วไปเลือกท่านเป็นเทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ถึง ๒ สมัย จนในปี ๒๕๑๗ กระทรวงมหาดไทยมอบใบประกอบในประกาศนียบัตร ชมเชยในการทำงานของท่าน ที่พัฒนา อำเภอวัดสิงห์ ให้มีความเจริญก้างหน้าแก่ ท้องถิ่น หลังจากที่ท่านได้หมดวาระในตำแหน่งเทศมนตรีไปแล้ว ๙ ปี
    เหตุที่กลับมาบวช
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้เล่าว่า ชีวิตของท่านมีความผูกพันกับวัดเสมอห่างจากวัดไม่ได้ แม้จะครองเพศฆราวาสก็ต้องวนเวียนอยู่กับวัด ก่อนที่ท่านจะกลับมาบวชจิตใจก้รุดมร้อน ทำอะไรก็เหมือนคนเสียสติ จนต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวโดยไม่มีสาเหตุของโรค จนมีอยู่วันหนึ่งขณะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ท่านได้ลุกขึ้นมาเขียนยันต์ต่าง ๆ ตลอดจนยันต์ครูที่ท่านเคยเรียนมา ได้ทิ้งไปนานไม่ได้ทบทวนเลย ซึ่งในเพศฆราวาสท่านก็ไม่ได้ฝึกฝนทบทวนต่อ เพราะเวลาว่างใหญ่จะไปทางโลกหมด ต้องวุ่นวายกับครอบครัวเรื่องการทำมาหากินเวลาปฏิบัต ิทางธรรมทางวิชาคุณพระก็หย่อนยานไป ขาดการไหว้ครูทุก ๆ ปี ก็เลยทำให้ท่านผิดปรกติ แต่ก็ดลจิตให้นึกขึ้นมาได้ ว่าสาเหตุจากแรงครูนี้เองโดยไม่ต้องให้แพทย์รักษา ในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านก็ได้เข้ามาสู่สมณเพศ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้งที่วัดพานิชนาราม อำเภอวัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสิงหชยสิชฌน์ (เจริญ) พระกรรมวาจารย์ พระคูครูแบน เจ้าอาวาสวัดโคกสุข และพระแช่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๙ เวลา ๑๖.จ๕ น.และได้มาตำพรรษา สังกัดวัดโคกสุข ต.หนองน้อย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาม จนถึงปี พ.ศ. ๒ษ๕๑๓ ได้ย้ายมาตำพรรษาอยู่ ณ วัดคลองมอญ ในวันที่ ๒๖ กันยายน เพราะวัดคลองมอญในเวลานั้นเกือบจะเป็นวัดล้างอยู่แล้ วไม่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่เลย ชาวบ้านที่อาศัยแถววัดคลองมอญ ได้นิมนต์ท่านให้มาปกครองวัดคลองมอญอยู่หลายครั้ง จนท่านต้องมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดคลองมอญ ได้สร้างความเจริญให้กับวัดคลองมอญเป็นอันมาก
    กิตติคุณของหลวงพ่อ
    ซื่อเสียงของท่านล่ำลือไปไกลหลายจังหวัด ในเรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้ บางคนต้องมารักษาเป็นแรมเดือน ตอนนั้นท่านอยู่ในโบสถ์ รักษาคนไข้โรคแปลกๆ มีทั้งคนถูกคูณถูกของ ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลต่าง ๆ น้ำมันพรายฯลฯ บางคนป่วยปางตายท่านก็รักษาจนหายมีชีวิตอยู่รอดได้ ผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากต่างก็มานมัสการท่านขอความเมต รตาจากท่านๆก็ได้สงเคราะห์ให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหน ื่อย ไม่เลือกชั้น วรรณะ ให้ ความเสมอภาคกับทุกๆ คนเสมอมา จนถึงปี พ.ศ. ๑๔๒๖ ท่านก็ได้หยุดรักษาคนไข้ ประกอบกับอายุสังขารท่าน ก็ชราภาพมากแล้วจึงต้องได้รับการพักผ่อน บำรุงรักษาร่างกายให้มีสุขภาพดี เป็นเนื้อนาบุญให้กับลูกศิษย์ และญาติโยม จะได้พึ่งบารมีของท่านไปได้อีก นาน ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ.๒๕๔๔ ) หลวงพ่อมาหาโพธิ์ญาณสังวโร เป็นทายาทศิษย์สายตรงของหลวงปู่ศุข ที่ถ่ายทอดตำราคัมภีร์ด้านพุทธคุณในศิษย์รุ่นที่ ๓ ที่ได้รับมาแต่ผู้เดียว
    การรักษาโรค
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้สอนวิธีการรักษาให้กับผู้เขียนในตัวผู้ป่วยที่อยู่ในอาการต่างๆ อาการอย่างไรควรรักษาด้วยวิธีการใด บางคนเป็นแผลเน่าไปทั้งตัว เคยไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอปัจจุบันบอกว่าเป็นมะเร็ง รักษาอยู่หลายปีไม่หาย ได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาติพี่น้องได้พามารักษาที่ วัดคลองมอญ เมื่อหลวงพ่อดูอาการแล้วบอกว่า “โดนผีคุณ” ไม่ไช่มะเร็งหลวงพ่อท่านได้ใช้ปูนกับน้ำมนต์รักษาคนไ ข้ ใช้มีดหมอสับ และไม้เท้ากดตามตัวคนไข้ ก่อนทำการรักษาต้องมีดอกไม้ ธูปเทียน และเงิน ๖ บาทสลึงเป็นค่าบูชาครู และต้องบนครูด้วยว่า เมื่อหายจากอาการป่วยแล้วจะถวายครูด้วยไก่ ๑ ตัว, เหล้าขาว ๑ ขวด ,กล้วย ๑หวี, ข้าวสาร ๑ ถ้วย , และเงิน ๖ บาทสลึง เป็นสิ่งที่แปลกผู้คนส่วนมาก ที่มารักษาจากหลวงพ่อหายจากโรคร้ายทุกคน เมื่อถึงวันไหว้ครูจะมีผู้คนมามากมายถวายขวัญข้าวครู เต็มโบสถ์ไปหมดแทบจะไม่มีทางเดินเลย



    เหรียญแซยิด ๗๖ หลังยันต์เกราะเพชร
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดสุวรรณโคตมาราม (วัดคลองมอญ) ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ปี ๒๕๓๙ เนื้อทองฝาบาตร ตอกโค๊ตใบโพธิ์ ๑ ดอก
    รายละเอียด : เหรียญแซยิด ๗๖ หลังยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดสุวรรณโคตมาราม (วัดคลองมอญ) ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ปี ๒๕๓๙
    ลักษณะ เป็นเหรียญสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ขนาดกว้าง ๑.๓ ซม. สูง ๒ ซม.
    ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสํวโร นั่งเต็มองค์ ขัดสมาธิบนนั่งตั่ง ด้านหลังประทับด้วยยันต์อิติปิโส เกราะเพชร ตามตำรับหลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า ใต้ยันต์เป็นอักษรสี่แถว จารึกข้อความ "แซยิก ๗๖ หลวงพ่อโพธิ์ วัดคลองมอญ จ.ชัยนาท ๙ พ.ย. ๒๕๓๙"
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดสุวรรณโคตมาราม (วัดคลองมอญ) ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท พระเถระผู้สืบทอดตำรับวิชาคาถาอาคมของพระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า อดีตเจ้าคณะอำเภอวัดสิงห์ ซึ่งได้รับการประสิทธิ์ประสาทตำราคัมภีร์ทางพุทธคุณมาจากหลวงพ่อบุญยัง คงคสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองน้อย ตำแหน่งฐานานุกรมที่ "พระใบฎีกา" ในพระครูวิมลคุณากร เจ้าคณะอำเภอวัดสิงห์ และพระอาจารย์กลับ แสงเขียว อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนตาล ตำแหน่งฐานานุกรมที่ "พระสมุห์" ในพระครูวิมลคุณากร เจ้าคณะอำเภอวัดสิงห์ จนสำเร็จเจนจบทุกวิชา นับเป็นทายาทศิษย์สายตรงรุ่นที่สามของหลวงปู่ศุข ที่ได้รับการถ่ายทอดตำราคัมภีร์ด้านพุทธคุณ มาแต่เพียงผู้เดียว
    พระคาถาอาราธนา หลวงพ่อมหาโพธิ์ ตั้งนะโม ๓ จบ "โย วโร สุปะฏิปันโน ญาณสังวโร สุสังวโร สุสีลา จาระสัมปันโน ตัง สิระสา นะมามิหัง ระตะนัตตะ ยานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม" ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมไหว้บูชา หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร ผู้ประเสริฐ ปฏิบัติดีแล้ว สำรวมดี ถึงพร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม ด้วยเศียรเกล้า ขอความสุขสวัสดี มงคลทั้งหลายทั้งปวง จงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพ คุณพระศรีรัตนตรัย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญสวยสภาพเดิมๆให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240108_053728.jpg IMG_20240108_053758.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2024
  17. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +1,774
    จองคับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1704692753490.jpg
    ประวัติ
    พระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย (พระอาจารย์โต) วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
    พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย (พระอาจารย์โต) สกุล อินทรานาคะไชย ผู้เป็นหน่อเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา หนึ่งในไตรลักษณ์ของศาสนา ที่จาริกเดินบนเส้นทางแห่งพระสุปฏิปัณโณ สืบทอดตามแนวทางของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดา ที่แตกหน่อชูช่อบานสะพรั่งพลิ้วไสวเล่นลม หมดหวนบน แผ่นดินล้านนา นับเป็นรูปล่าสุดในปัจจุบัน ที่เราสามารถสัมผัสรังสี แห่งธรรมได้ กับพระอาจารย์โต แห่งวัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
    พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย ถือกำเนิดเมื่อวันพุธที่ 28 ม.ค. 2519 (ปีมะโรง) ที่บ้านทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นบุตร ของโยมพ่อสันติ์ โยมแม่บัวผัด อินทรานาคะไชย เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 5 คนดังนี้
    - พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย
    - นายมนุญ อินทรานาคะไชย
    - นายพินิจ อินทรานาคะไชย
    - คุณศศิธร อินทรานาคะไชย
    - นายสุริยา อินทรานาคะไชย
    โยมแม่ของพระอาจารย์ โต เล่าให้ฟังว่า ขณะตั้งครรถ์แก่จวนคลอด ได้นิมิตเห็นมีดวงแก้วสีเขียว สดใสมากดวงหนึ่ง ดวงโตเท่าลูกมะพร้าวลอยมาหา และลอยหายไปในท้องจึงได้ตกใจตื่น และปวดท้องจะคลอด พอดีวันนั้นฝนตกหนักมากคุณพ่อจึงได้ไปตามหมอตำแยในหมู่บ้านมาดู และช่วยทำคลอด ในขณะที่พระอาจารย์โตคลอดนั้นก็ได้เกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้นคือ แผ่นดินไหวพอดี เหมือนเป็นปาฏิหาริย์ และปรากฏว่าพอพระอาจารย์คลอดออกมา มีสายรกนั้นพันอยู่เต็มรอบตัว ซึ่งชาวล้านนาส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเด็กที่เกิดมาแล้วมีสายรกพันตัวนั้นคือผู้มีบุญมาเกิด และจะได้บวชในพระพุทธศาสนา เมื่ออายุได้ 4 ขวบคุณพ่อได้พาไปหาคุณปู่ที่บ้านสองแคว อ.เมืองแพร่ ซึ่งคุณปู่ท่านก็บอกกับคุณพ่อว่า หลวงปู่พระเจ้าคุณดาบส สุมโณ ซึ่งได้มาจำพรรษาที่ป่ามะม่วง ของคุณปู่ที่บ้านสองแควและคุณปู่คอยอุปถัมภ์ท่านเสมอ ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ท่านได้บอกกับคุณปู่ว่าอีกไม่นานจะได้เห็นหลานชายเป็นผู้มีบุญมาเกิด คือฝนจะตก แผ่นดินจะไหว และที่สำคัญจะมีสายรกพันตัวด้วย และเมื่อเขาพอจะจำความได้ ให้มอบของพวกนี้ให้กับหลานคนแรก
    ที่ถือกำเนิดมาตอนแผ่นดินไหว และเมื่อเขา (ของเหล่านั้นที่หลวงปู่ดาบสมอบให้พระอาจารย์ขอปิดเป็นความลับ) โตขึ้นจะได้บวชในพระพุทธศาสนาจะเป็นคนมีชื่อเสียง และจะได้เป็นที่พึ่งของปวงชน แต่เมื่ออายุครบ 30 ปีแล้วก็จะหมดบุญแต่จะมีผู้มีบุญบารมีมากๆ มาช่วยขอต่ออายุให้ และขอให้ช่วยกันเลี้ยงให้ดีๆ จากนั้นท่านก็เดินจากไปจำพรรษาที่ถ้ำจักรพรรดิ์ อ.ลอง ก่อนจะไปอยู่จำพรรษาที่อาศรมไผ่มรกต จ.เชียงราย จนกระทั่งมรณภาพ และทิ้งหัวใจที่ไฟไม่ไหม้ไว้ให้ดูต่างหน้า ให้ผู้คนได้รำลึกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เป็นไปไม่ได้
    สัมผัสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ีครั้งแรก ชีวิตในวัดเด็กของพระอาจารย์โตนั้น ก็เหมือนเด็กชาวบ้านทั่วไป ที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งตักน้ำ ผ่าฝืน ทำอาหาร แต่เป็นที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ พระอาจารย์ไม่ชอบฆ่าสัตว์ วันหนึ่งพระอาจารย์เกิดป่วยอย่างหนักตัวร้อนเหมือนไฟเผา ทานยายังไงก็ไม่หายทานอาหารก็อาเจียนออกมาหมด มีอาการอ่อนเพลียมาก ตาแดงก่ำด้วยพิษไข้ จนรู้สึกเบลอๆ ไป ขณะนั้นเองก็มีความรู้สึกว่ามีผู้หญิงสวยมากคนหนึ่ง นุ่งห่มผ้าสีสันสวยงาม เดินเข้ามาหา ตรงหน้านั่งอยู่ข้างๆ และเอามือลูบศรีษะพระอาจารย์เบาๆ พูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า ไม่ต้องกลัวนะต่อไปนี้ จะคอยตามดูแลตลอดไป พักผ่อนนะเดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง พระอาจารย์ก็พูดไม่ออกในตอนนั้น ขยับเขยื่่อนก็ไม่ได้ แต่เธอก็ยิ้มให้อย่างมีเมตตา แล้วก็หายไป พอรุ่งเช้าอาการป่วยของพระอาจารย์ที่หนักเจียนตาย กลับหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ จึงได้ถามพ่อแม่ว่ามีใครมาหาบ้างตอนที่นอนป่วยอยู่ และแต่งตัวอย่างที่เห็น ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี พระอาจารย์จึงเก็บความสงสัยนั้นไว้ตลอดมา สำหรับส่วนตัวของพระอาจารย์เองนั้น มีนิสัยชอบที่จะไปพบหาพระธุดงค์หลายรูป จึงทำให้พระอาจารย์มีความผูกพันกับชีวิตพระธุดงค์ จึงได้ตั้งความปรารถนาว่า เมื่อโตขึ้นในภายหน้าจะต้องบวชเรียน และเดินธุดงค์ตามรอยครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ดังนั้นพระอาจารย์จึงติดนิสัยชอบปลีกหาความวิเวก ไปอยู่ตามป่าเขาเสียเป็นส่วนใหญ่
    ในปี 2531 ขณะนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดศรีดอนคำ ซึ่งเป็นวัดที่พระนางจามเทวีสร้างบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ ด้วยความเป็นคนที่ขอบในการปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้พระอาจารย์เคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สวดมนต์ไหว้พระเสมอๆ และรำลึกนึกถึงบุญคุณของพระนางจามเทวี ที่ได้สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไว้ให้ได้บูชาสักการะ คืนวันหนึ่งพระอาจารย์ได้นิมิตไปว่า มีสตรีวัยกลางคนมาหาแต่ไม่ใช่คนเดิมที่เคยเจอก่อนบวช เพราะดูมีอายุกว่ามาบอกว่า ท่านคือ พระนางจามเทวี ปฐมวีรกษัตริย์แห่งเมืองหริภุญชัย มาเพื่อจะบอกว่าในวันข้างหน้า พระอาจารย์โตนั้นจะเป็นผู้มีส่วนช่วยท่านเสริมสร้างบารมี ให้ขจรขจายไปทั่วสารทิศ เพราะเคยมีอดีตชาติที่เกื้อหนุนกันมาก่อน
    ท่านยังบอกในนิมิตว่าพรุ่งนี้เช้าหากท่านไปบิณฑบาต จะมีคนนำสไบสีเขียวมาถวาย ให้ท่านนำไปห่มอนุสาวรีย์ของท่านที่วัดศรีดอนคำ อ.ลอง จ.แพร่ให้ด้วย จากนั้นท่านก็หายไป จนกระทั่งเช้า พระอาจารย์ก็ไปบิณฑบาิตเดินจนเกือบจะถึงวัด ก็ยังไม่มีใครเอาสไบสีเขียว มาถวายสักผืน จึงไม่ได้ใส่ใจคิดว่าฝันก็คือฝัน แต่ขณะกำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูวัดก็ได้ยินเสียงหญิงชาวจีน วัยกลางคนนิมนต์รับบาตร เขาหยิบข้าวและอาหารคาวหวานครบ และสิ่งที่ทำให้พระอาจารย์ตกใจมากก็คือผ้าผืนสีเขียวตองอ่อนผืนหนึ่งที่เขาบรรจงหยิบขึ้นมาพร้อมกับกล่าวว่า เมื่อคืนพระนางจามเทวี มาเข้าฝันให้เอาผ้าสไปสีเขียวมาใส่บาตรถวายเณรรูปร่างลักษณะอย่างนี้ๆ ก็เฝ้ารอตั้งนานแต่ไม่พบ จนมาพบพระอาจารย์จึงคิดว่าใช่ตามที่ฝัน จึงมาดังรอใส่บาตร พระอาจารย์จึงได้นำผ้าสไบชิ้นนั้นไปห่มถวายอนุสาวรีย์องค์ท่านทันที และเริ่มสนใจศึกษาเกี่ยวกับองค์เทพ พรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่? และเริ่มหักเหชีวิตจากฝักใฝ่ในการเรียนก็กลับเริ่มฝึกปฏิบัติกรรมฐานตั้งแต่นั้นมา
    ชีวิตหันเหจากเรียนเป็นธุดงค์ จากการที่พระอาจารย์ชื่นชอบการปฏิบัติกรรมฐานในพระธุดงค์เป็นอย่างมาก จึงได้แอบไปตามป่าเขาลำเนาไพร หรือที่เรียกว่าธุดงค์ จุดมุ่งหมายจุดแรกของการออกเผชิญชีวิตของสามเณร ซึ่งเมื่ออยู่ที่วัดก็ถูกเหยียดหยามจากพวกพระภิกษุสารเณรด้วยกัน หาว่าบ้าเพราะไม่ยอมเข้าสังคมเอาแต่นั่งสวดมนต์ หนังสือหนังหาไม่ยอมเรียน จึงคิดหลบไมหาที่สงบ ไปนั่งในป่าช้าบ้าง ตามชายป่าบ้าง แต่หาได้พ้นสายตาของผู้คน กลับพากันมารบกวนและเล่าลือกันไปต่างๆ นาๆ ว่า สารเณรโตนี้คงจะเพี้ยน เพราะสวดมนต์มากจนเกินไป
    จึงขอลาหลวงปู่เจ้าอาวาสคือหลวงปู่แก้ว (พระครูเกษมรัตนคุณ) วัดศรีดอนคำ โดยบอกว่าจะไปออกแสวงหาครูบาอาจารย์สอนกรรมฐาน มีจุดมุ่งหมายไปที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ฝึกสอนกรรมฐาน โดยได้รับคำแนะนำจากครูบาสมจิต จิตคุตโต วัดสะแล่งก่อนมาว่า ขอให้ตั้งใจบำเพ็ญเพียรให้ดี แล้วจะสำเร็จตามที่ตั้งใจ จึงตั้งใจไปหาพระอาจารย์วิชัย เขมีโย วัดถ้ำผาจม แต่บังเอิญช่วงนั้นท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ ทางวัดจึงจัดที่พักค้างคืนได้ 7 วัน พระอาจารย์จึงใช้สถานที่ในถ้ำผาจมนั้นบำเพ็ญภาวนา นี่เป็นช่วงชีวิตที่หักเหเริ่มธุดงค์ครั้งแรกในชีวิต
    วันต่อมาพระอาจารย์ได้พบภิกษุลึกลับที่จำพรรษาอยู่บริเวณเดียวกันกับวัดถ้ำผาจม ซึ่งท่านได้เมตตาสอนการปฏิบัติกรรมฐานอยู่อย่างพระธุดงค์ โดยเดินทางข้ามไปฝั่งพม่า เข้าป่าฝึกธุดงค์กรรมฐาน ด้วยการกำหนดจิตขั้นพื้นฐาน ด้วยการปล่อยวางไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น ในเหตุปัจจัยแห่งสัญญาของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทำให้อาจารย์ได้รู้สัจธรรมความจริงของชีวิต ทั้งด้านดี และเลวอย่างถ่องแท้
    นอกจากนี้อาจารย์ยังได้ศึกษาเรียนรู้การเจริญอาณาปานสติกรรมฐาน ด้วยการกำหนดสมหายใจเข้าออกที่สามารถกระทำการเจริญได้ 4 อัปกริยา ด้วยการยืนทำสมาธิ เดินจงกรม นั่งสมาธิและนอนทำสมาธิ
    พระอาจารย์ได้อยู้ศึกษาการเจริญสติกรรมฐาน พร้อมวิชาการต่างๆ อยู่ระยะหนึ่ง ก็ลาจากภิกษุลึกลับ กลับมาฝั่งไทย ที่อ.แม่สาย ก่อนลาจากภิกษุลึกลับกลับท่านได้เรียกเข้ามาพบ และได้ยื่นคัมภีร์เก่าๆ ให้อาจารย์ พร้อมกำชับให้ไปศึกษาคาถาในคัมภีร์ให้เข้าใจ เพื่อจะได้นำเอาไปสงเคราะห์ญาติโยมในวันข้างหน้า ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ห้ามนำเอาออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นภัยกับตัวเณรเอง
    เมื่อลาจากภิกษุลึกลับแล้วก็เดินทางกลับมาที่แพร่ และเตรียมเดินทางต่อไปภาคกลาง โดยมีจุดมุ่งหมายที่ จ.สิงค์บุรี คือที่ัวัดชูศรีเจริญสุข กราบฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่บุดดา ถารโร อยู่กับท่านเกือบสองเดือน ก็พอดีหลวงพ่อคง จตตมโล วัดเขาสมโภชน์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้มากราบหลวงปู่บุดดา ท่านจึงฝากให้ไปเรียนวิชาธรรมเปิดโลกกับหลวงพ่อคง พอฝึกจนคล่องพอตัว จากนั้นก็กราบลาท่านลงไปใต้ โดยมีคนแนะนำพาไป จ.สงขลา อ.นาทวี และได้รับใช้หลวงปู่พระครูประสูตโสภณ (อั้น คุณกาโม) ณ.วัดในวัง
    อุปสมบท (ในพระราชูปถัมภ์) ในปีนั้นสมเด็จย่าทรงประชวรบ่อย ทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงบอกให้อาจารย์อุปสมบทเป็นพระภิกษุเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลทางหลวงพ่อจึงได้นำเรื่องขึ้นทูลถวายสมเด็จย่าจึงได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จัดงานอุปสมบท ณ วัดในวังพระอารามหลวงในพระราชูปถัมภ์
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าที่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2538 โดยมีพระเดชพระคุณพระสุนทรราชมานิตเถร เจ้าอาวาสวัดในวัง (พระอารามหลวง ในพระราชูปถัมภ์) เจ้าคณะ อ.นนทวี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิธานธรรมรัตน์ เจ้าคณะตำบลนาทวี วัดในวังเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพิพัฒกิตติสุนทร เจ้าคณะตำบลคลองทราย วัดลำขิง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระครูประสูติโสภณ (อั้น คุณกาโม) วัดในวัง อายุ 98 พรรษา เป็นพระศีลาจารย์ พระธรรมกิจโกศล (นอง ธัมมภูโต) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน ได้รับฉายาว่าฐิตวิริโย แปลว่า ผู้มีความเพียรอันตั้งมั่น
    ฝึกเรียนวิชาอาคม ในด้านวิชาอาคม พ่อท่านนองบอกว่า "การเล่นวิชาอาคมมั้นใจต้องนิ่งและหนักแน่น" เพราะถ้าใจเป็นสมาธิจะทำให้การเรียนก้าวหน้าและสำเร็จดังใจหวัง ถ้าหากใจไม่มีสมาธิย่อมไม่บังเกิดความเข้มขลัง ก่อนเรียนคาถาอาคมให้จัดดอกไม้ ธูปเทียน ไปกล่าวขอขึ้นครูกับพระประธานในอุโบสถก่อน เป็นสิ่งที่เป็น "อนัตตา คือ ไม่มีตัวตน" เป็นเพียงศาสตร์แขนงหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านให้จัดพานครูแล้วก็ให้ห่มผ้า ไปนั่งสมาธิในอุโบสถ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยและเป็นการบูชาครูบาอาจารย์ให้ตั้งสัจจะอธิฐานว่า ข้าพเจ้าจะขอศึกษาสรรพวิชาต่างๆ นี้จากตำราโบราณและโอษฐ์ของครูบาอาจารย์ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ขอเดชะสิ่งศักดิ์สิทธ์ ด้วยดวงจิตและวิญญาณอันบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า
    ข้าพเข้าชื่อ...........ขอระลึกถึงเหล่าพราหมณ์และฤษีทั้งหลายทั้งปวงผู้รู้เวทย์มนต์ทั้งสิ้น และขอให้พราหมณ์และเหล่าฤษีทั้งหลายเหล่านั้น ได้เป็นสักขีที่ข้าพเจ้าจะได้ศึกษาพระเวทย์มนตราจากตำราและจากครูบาอาจารย์ ขอทุกๆท่านได้โปรดมาอำนวยพรเพื่อเสริมบารมีให้ข้าพเจ้าดุจประหนึ่งว่า พระอาทิตย์ผู้ให้แสงสว่างในเวลากลางวัน พระจันทร์ผู้ให้แสงสว่างในเวลากลางคืน แต่ด้วยอำนาจฤทธิ์เวทมนต์ของข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าจงมีอิทธิฤทธิ์ทั้งกลางวันกลางคืน ขอได้โปรดจงเกื้อหนุนด้วยชะตาของข้าพเจ้า หากข้าพเจ้าจะกระทำกิจการงานใดจงสำเร็จสมประสงค์ ด้วยเดชและอำนาจของท่าน จงทำให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าสัมฤทธิ์ผล บังเกิดสิริมงคลในกิจที่ทำ โอมสิทธิริ เอหิ เอหิ อาคัจฉามะ
    อนึ่งหลวงปู่อั้นนั้นเป็นที่นับถือของพ่อท่านนอง วัดทรายขาวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และได้ร่วมกันสร้างพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรก ปี 2497 ด้วย อนึ่ง อ.นาทวี จ.สงขลา และอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีห่างกันเีพียงแค่ 60 กิโลเมตร การสัญจรไปมาสะดวกสบายใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง เมื่อหลวงปู่อั้นได้ฝากตัวอาจารย์ไปศึกษาวิทยาคมต่างๆ กับพ่อท่านนอง พ่อท่านนองจึงไม่ขัดข้อง และยอมสอนวิชาให้แต่โดยง่าย ปกติพ่อท่านนองจะไม่รับใครเป็นศิษย์ แต่ด้วยความเคารพและความเกรงใจหลวงปู่อั้น พระอาจารย์จึงถือว่าโชคดีที่ได้ฝึกกรรมฐานและวิชาอาคมต่างๆ จากท่าน วิชาที่โดดเด่นที่สุดคือวิชา "สาลิกาเหินฟ้า" สุดยอดเมตตามหานิยมอันลือลั่นที่พระอาจารย์นำมาสงเคราะห์ญาติโยมพร้อมด้วยวิชาแก้กรรมพลิกดวงเสริมบารมี ตามตำราของพระภิกษุลึกลับในป่าผู้เป็นอาจารย์
    ของศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวเนื่องด้วยพระอาจารย์นั้นปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เด็กจึงทำให้พบปะกับพระเกจิเถราจารย์ต่างๆ มากมายรวมทั้งครูบาอาจารย์คฤหัสถ์จอมขมังเวทย์ทั้งหลาย ต่างก็มอบของวิเศษของศักดิ์สิทธิ์ให้ไว้คู่บารมีดังนี้
    1. ประคำเหล็กไหล
    2. ขวานฟ้าผ่า
    3. งากำจัด
    4. นาคบ่วงบาศ
    5. เขี้ยวหมูตัน
    6. เขี้ยวเสือ
    7. คตมะขาม
    8. คตขมิ้น
    9. คตสัมป่อย
    10. หงอนพญานาค
    11. เพขรพญานาค
    12. เก้ากวาง
    13. ไม้ไผ่ตันแทงทลุต้นไม้
    14. กะลาตาเดียว
    15. ปรอทกรอ
    16. ชานหมากกลายเป็นหิน
    17. ลูกอมเทวดา
    18. หินธิเยตแกะเป็นท้าวเวสสุวรรณอายุกว่า 1,000 ปี
    เส้นพระเจ้า
    (ปัจจุบันประอาจารย์โตยังคงเก็บรักษาของวิเศษเหล่านี้ไว้อย่างดี)
    #กราบเมตตาบารมีพระครูบาโต
    #วัดพระบาทปางแฟน
    #สาธุ
    #ใครไม่โตครูบาโต
    #ศิษย์แถวท้าย
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    https://palungjit.org/threads/ประวัติพระอาจารย์โต-ฐิตวิริโย-ครูบาโต-วัดพระบาทปางแฟน.228377/

    พระบัวเข็มครูบาโตวัดพระบาทบางแซงรุ่นสำเร็จสมปรารถนา ๑
    ให้บูชา
    120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ มี องค์

    องค์ที่
    ๑(ปิดรายการ)
    IMG_20240108_124936.jpg IMG_20240108_124956.jpg IMG_20240108_124919.jpg

    องค์ที่

    IMG_20240108_125606.jpg IMG_20240108_125645.jpg IMG_20240108_125548.jpg

    องค์ที่

    IMG_20240108_130000.jpg IMG_20240108_130049.jpg IMG_20240108_125936.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2024
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1704696284071.jpg 1704696306249.jpg

    1704697546301.jpg
    พระผงรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณพระศีลขันธโสภณ เจ้าอาวาสวัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง ซึ่งนำไปเข้าพิธีวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค.2513 ณ อุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาสโดยเป็นการอธิษฐานจิตครั้งสุดท้ายของท่านเจ้าคุณนรฯ หลังยันต์จม รับประกันพระแท้พร้อมความพอใจแบบสุด ๆ ครับ สวยสมบูรณ์เดิม ๆ ครับ ไม่แพงด้วยครับนับวันพิมพ์นี้จะหายากแล้วครับพุทธคุณเยี่ยมเพราะอธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ
    (ก๊อปข้อความเขามานะครับ ผมไม่กล้าเล่าลึกซึ้ง ขนาดนี้ ) ขอภัยด้วย พรพไม่ได้สวย มากขนาดนั้น ของผม เอาแค่รายละเอียด พอครับ
    1704697527145.jpg 1704696306249.jpg 1704696470867.jpg
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนใบโพธิ์เจ้าคุณนรวัดศีลขันธ์ และพระผงรูปเหมือนห้าเหลี่ยมพิธีปี 2539 ให้บูชาคู่กันวันนี้วันครบรอบมรณภาพ 53 ปีเจ้าคุณนร 250 บาทค่าจัเส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240108_132508.jpg IMG_20240108_132439.jpg IMG_20240108_133137.jpg IMG_20240108_133159.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2024
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    fb_img_1694424442954-jpg.jpg
    ชาติภูมิ พระพิพิธพัฒนาทร (สมชาย ฉันทสโร) เจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ชื่อเดิม สมชาย แซ่ห่าน เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๔๙๖ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน ธนบุรี

    การศึกษา จบชั้นมัธยมปีที่ ๓ โรงเรียนไตรรัตน์ศึกษา ยานนาวา, พุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์
    บรรพชา ที่วัดปริวาส เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๑๓ โดย พระครูขันตยาภิราม (หลวงพ่อวงษ์) เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ ณ วัดปริวาส โดย พระครูขันตยาภิราม (หลวงพ่อวงษ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นได้อยู่จำพรรษา ณ วัดปริวาส มาโดยตลอด

    จนถึง พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส และในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ถึงปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๒)

    พระอาจารย์สมชาย ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์มาตามลำดับขั้นตอน จนถึง พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะที่ "พระพิพิพิธพัฒนาทร"

    การศึกษาด้านวิทยาคม พระอาจารย์สมชายชอบศึกษาวิชาวิทยาคม ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน โดยได้ศึกษากับหลวงพ่อเก็บ วัดสวนลำใย จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    ต่อมาเมื่อบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อวงษ์ ตั้งแต่พรรษาแรก โดยได้รับการอบรมวิชาต่างๆ โดยเฉพาะวิชาสร้างและปลุกเสกเสือ รวมทั้งได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อวงษ์ให้ร่วมปลุกเสกเสือรุ่น ๕ และรุ่น ๖ อีกด้วย

    จากการที่หลวงพ่อวงษ์มีความไว้วางใจมาก จึงได้ให้ท่านรับหน้าที่สงเคราะห์ญาติโยมแทนหลวงพ่อมาตลอด นับเป็นศิษย์ก้นกุฏิเพียงรูปเดียวที่หลวงพ่อวงษ์ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ให้จนหมดสิ้น

    ขณะเดียวกัน พระอาจารย์สมชายได้ไปศึกษาวิชากับหลวงพ่ออ่อน วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งท่านได้สำเร็จผงมหาราช

    เมื่อหลวงพ่อวงษ์มรณภาพ (พ.ศ.๒๕๒๓) พระอาจารย์สมชาย ได้ไปศึกษาวิชาต่างๆ กับอาจารย์ต่างๆ หลายท่าน อาทิ อาจารย์เทพ สาริกบุตร หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม จ.สมุทรสาคร แหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม

    หลวงพ่อสำเนียง ที่ อ.บางเลน และหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม (ศึกษาวิชาไหมเจ็ดสี ตะกรุดลูกอม ตะกรุดมหาปราบมหาระงับ) แลกเปลี่ยนวิชาการสร้างราหูอมจันทร์-อมสูรย์ กับ พระอาจารย์มานิตย์ เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง วิชาการสร้างหนุมาน กับพระอาจารย์ต๊ะ วัดช้าง จ.นครนายก (ศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา)

    นอกจากนี้ยังศึกษาวิชาการสร้างผงยาจินดามณี (ผงยาวาสนา) สายวัดกลางบางแก้ว อีกด้วย
    และที่สำคัญ ได้ศึกษาวิชาการจัดพิธีปลุกเสก หล่อพระกริ่ง การผสมโลหะธาตุให้เป็นเนื้อต่างๆ จาก อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร (อดีตพระครูหนู) ศิษย์รับใช้ใกล้ชิด สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ จนมีความชำนาญในการผสมโลหะให้เป็นเนื้อสัมฤทธิ์กลับดำสนิท และเป็นเนื้อสัมฤทธิ์สีต่างๆ ได้

    เมื่อมีความมั่นใจในวิชาต่างๆ แล้ว พระอาจารย์สมชายจึงเริ่มสร้างวัตถุมงคลแบบต่างๆ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ เป็นต้นมา จนเป็นที่นิยมของศิษยานุศิษย์ ขอขอบคุณท่านเจ้าของบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    FB_IMG_1704699575214.jpg FB_IMG_1704699588192.jpg FB_IMG_1704699593505.jpg FB_IMG_1704699597810.jpg FB_IMG_1704699609220.jpg FB_IMG_1704699612895.jpg FB_IMG_1704699622316.jpg FB_IMG_1704699625340.jpg
    ประวัติหลวงพ่อสมชายผมนำมาลงหลายรอบแล้ว
    เหรียญยอดขุนพลหลวงพ่อสมชายวัดปริวาสหลังพยัคฆ์เขี้ยวดาบรุ่นประสบการณ์พิธีใหญ่ ปี๒๕๕๙
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240108_144225.jpg IMG_20240108_144247.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2024

แชร์หน้านี้

Loading...