ปกิณกธรรมสัปดาห์วันวิสาขบูชา วันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ (ช่วงค่ำ)

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 12 มิถุนายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    จุดผางประทีปกันไปกี่ดวงจ๊ะ ? ไม่ได้จำ ? เห็นหรือยังว่าของแค่นี้เรายังไม่จำเลย แล้วจะไปจำอะไรได้..! ผางประทีปวันนี้แปรรูปเป็นเบบี้บุ๊ดด้า แล้วก็รูปพระพุทธเจ้าปางสมาธิ

    พรุ่งนี้ปฏิบัติธรรมเต็มวัน..ตายแน่..! แล้ววันจันทร์ที่ ๕ ภาวนาพระคาถาเงินล้านเสร็จก็จะได้แยกย้ายกันกลับ ใครเขาจะบอกว่า "พระคาถาเงินล้านไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ทำไปก็เสียเวลาเปล่า..!" ก็แล้วแต่เขาจะพูดไป เพราะว่าอาตมาทำแล้วไม่เสียเวลาเปล่า

    เหลืออีก ๓๐ นาที ฟังเรื่องอะไรดี ? นินทาชาวบ้านไหม ? เมื่อเช้านินทาพรรคก้าวไกลไปหน่อย พรรคก้าวไกลเขาลืมไปว่า สังคมบ้านเราเป็นสังคมผู้สูงอายุ แม้แต่อาตมภาพก็เป็นผู้สูงอายุแล้ว คนสูงอายุมีประสบการณ์มาก แต่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีให้กลายเป็นไม่ดี เราลองดูนโยบายเขาทีละอย่าง

    ประการที่หนึ่ง ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ หรือถ้าไม่ยกเลิกก็ให้มีโทษเท่ากับหมิ่นประมาทธรรมดา เราจะเห็นว่าทุกประเทศในโลกมีกฎหมายคุ้มครองผู้นำประเทศ มาตรา ๑๑๒ ก็เป็นแค่กฎหมายคุ้มครองผู้นำประเทศของไทยเท่านั้น มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปยกเลิก ? ก็คือถ้ายกเลิกแล้วจะสร้างความเจริญอะไรให้กับประเทศเราบ้าง ?

    ประการที่สอง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ศึกเสือเหนือใต้มาเมื่อไรแล้วใครจะออกรบ ? ถ้าจะปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย กะทัดรัด มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อะไรอย่างนี้จะถือว่าตรงประเด็นมากกว่า เพราะกระผม/อาตมภาพเองก็เห็นว่าบ้านเรามีนายพลเยอะเกินไป เปลืองงบประมาณ..!

    ประการที่สาม ยกเลิกพระพุทธศาสนาเพราะทำให้ขัดกับพี่น้องอิสลาม แล้วทำไมถึงไม่ยกเลิกศาสนาอิสลามจะได้ไม่ขัดกับพี่น้องชาวพุทธ ? เนื่องเพราะว่าบุคคล ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์กับบุคคล ๕ เปอร์เซ็นต์ เราไปเอาเสียงส่วนน้อยเป็นใหญ่ แล้วยกเลิกสิ่งที่เสียงส่วนใหญ่เขายึดถือกัน ตรรกะแบบนี้เพี้ยนสุด ๆ..!

    นี่เราว่าตรงไปตรงมานะ ไม่ได้เชียร์ทีมไหน แต่พูดกันในลักษณะของผู้เจริญแล้ว ก็คือดึงตัวเองออกมาจากความขัดแย้ง วิพากษ์วิจารณ์กันแบบตรงไปตรงมา
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ประการต่อไป การขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำเป็น ๔๕๐ บาท ดำเนินการทันที อาตมภาพเจอมาแล้วที่ประเทศพม่า เงินไทย ๑ บาทแลกเงินพม่าได้ ๙ จั๊ด ทันทีที่ขึ้นค่าแรงปุ๊บ เงินไทย ๑ บาทแลกเงินพม่าได้ ๒๒ จั๊ด..!

    บ้านเราค่าแรงยังไม่ทันจะขึ้นเลย แค่ปรารภว่าจะขึ้น ของก็ขึ้นราคาไปดักไว้แล้ว..!

    เพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีก็อยู่ลักษณะเดียวกัน เนื่องเพราะว่าทุกอย่างจะวิ่งไปดักหน้า ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ไม่เพิ่มเงินเดือนเสียยังจะดีกว่า

    โดยเฉพาะนโยบายไปในลักษณะของการแจก เคยได้ยินกันไหมที่เขาบอกว่า "นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด" ก็คือในหลวง ร.๙ ของเราพยายามสอนให้ชาวบ้านหากินด้วยตนเอง จะได้ยืนหยัดได้มั่นคง

    แต่นักการเมืองต้องการคะแนนเสียง จึงแจกอย่างเดียว แล้วถ้าหากว่าถึงเวลาคนเคยชินกับการรับแจก แล้วงอมืองอเท้ารอรับอย่างเดียว พวกเราคิดว่าประเทศชาติของเราจะไปได้ไหม ?

    อย่าให้ว่ามากกว่านี้ เพราะดูแล้วไม่เข้าตาสักนโยบายหนึ่ง ยังสงสัยว่าจบต่างประเทศมาได้อย่างไร ? คือสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถที่จะวางเป็นนโยบายได้ แต่ในทางปฏิบัติสารพัดอุปสรรคจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะบุคคลถ้าเคยชินกับความสบายแล้ว ต่อไปจะไม่ยอมลำบากอีก

    รุ่นอาตมภาพแบกข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัม ปัจจุบันนี้เต็มที่ ๓๐ กิโลกรัม ๕๐ กิโลกรัมยังไม่มีเลย อ้างว่าแบกน้ำหนักมากเกินไปเสียสุขภาพ ถ้าอย่างนั้นรุ่นปู่ย่าตายายของเราก็คงไม่มีจับกังเหลือรอดมาจนถึงรุ่นเรา ตายหมดก่อนพวกเราเกิดแน่นอน..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    นโยบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างความสบาย แต่ว่าสบายแล้วทำให้ลำบากไม่เป็น

    ดูแค่ตลาดทองผาภูมิของเรา ปัจจุบันนี้พี่น้องมอญพม่าเป็นเจ้าของกิจการไปเกือบครึ่งแล้ว โดยเฉพาะร้านลัดดาวัลย์ซึ่งก่อนนี้เป็นร้านขายส่งที่แทบจะใหญ่ที่สุดในทองผาภูมิ ปัจจุบันโดนพี่น้องมอญรับช่วงกิจการไปเรียบร้อยแล้ว ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ๗ - ๘ ร้านในทองผาภูมิ ประมาณ ๕ ร้านเป็นของพี่น้องมอญพม่าไปแล้ว

    ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าคนไทยเราเลี้ยงลูกทะนุถนอมเกินไปไม่ยอมให้ลูกลำบาก จนทำมาหากินไม่เป็น แล้วก็โง่ขนาดต้องถามคนอื่นว่า "มึงรู้ไหมว่ากูเป็นลูกใคร ?" ถ้าโง่ขนาดนั้นก็ไม่ควรที่จะเกิดมา ตัวเองเป็นลูกใครยังไม่รู้เลย..!

    การศึกษาไม่พยายามเรียนให้รู้ แต่เรียนให้จบเท่านั้น เพราะว่ากฎหมายเอื้อให้ทุกอย่าง ยึดไม้เรียวไปจากครู เด็กเรียนแล้วห้ามตก ตกก็ซ่อมได้ แล้วจะเอาความรู้ที่แท้จริงมาจากไหน ?

    รุ่นของกระผม/อาตมภาพ วันหนึ่งสอบ ๕ - ๖ วิชา ๔ - ๕ วันติด ๆ กัน ยังทำคะแนนได้เต็มร้อยเกือบทุกวิชา สมัยนี้สอบหนึ่งวิชาแล้วหยุดดูหนังสือ ๒ - ๓ วันแล้วไปสอบอีกวิชาหนึ่ง อาตมภาพบอกกับเด็กรุ่นนี้ว่า "ถ้าหลวงตาไปสอบแข่งกับเอ็งนะ คะแนนเต็มหนึ่งร้อยคะแนน หลวงตาต้องได้ประมาณห้าร้อยคะแนน..!" เพราะว่ามีเวลาหยุดดูหนังสือนานขนาดนั้น

    แล้วยังลดเวลาเรียนของเด็กลงอีก โดยที่ไม่ได้ดูบริบทของบ้านเรา คุณไปลอกนโยบายโง่ ๆ ของต่างประเทศเขามา เพราะเห็นว่าเขาทำแล้วได้ผล รู้ไหมว่าเขาวางแนวทางแบบนั้นมากี่ชั่วคนแล้ว ?
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ส่วนบ้านเรามาถึงก็จะเปลี่ยนให้เป็นอย่างนั้นเลย แต่บริบทของเด็กเราไม่เหมือนเด็กฝรั่ง

    เด็กฝรั่งทันทีที่เดินได้พ่อแม่จะจูงให้เดินตาม ไม่เดินก็อยู่ตรงนั้นแหละ เด็กก็รู้ว่าถ้าไม่เดินพ่อแม่ก็ทิ้ง ถึงเวลาเด็กจับช้อนเล่นได้ พ่อแม่ก็ส่งจานอาหารให้เลย จะละเลงให้เละไปทั้งบ้าน โปะใส่กบาลตัวเองพ่อแม่ก็ไม่ว่า หมดเวลาอาหารก็จัดแจงเก็บล้าง อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ถ้าเอ็งไม่กินตั้งแต่ตอนนั้นก็รอไปเถอะ เดี๋ยวมื้อหน้าค่อยเจอกัน โดนไปแค่ครั้งสองครั้งเด็กก็จำแล้วว่า ถ้าไม่ตักใส่ปากจะหิวไส้ขาด..!

    ส่วนบ้านเราบางคนจะสิบขวบแล้วยังต้องไล่ป้อนข้าวกันอยู่เลย..! แล้วบริบทอย่างนี้นะจะไปเอาแบบอย่างของเขามา ? กำลังใจเทียบไม่ได้กันอยู่แล้ว เด็กฝรั่งพออายุ ๑๓ - ๑๔ ปี พ่อแม่ไล่ออกจากบ้านแล้ว ไปทำมาหากินเอง อยากเรียนมากกว่านี้ก็ไปหาเงินเรียนเอง..!

    แล้วบ้านเราทำอย่างนั้นได้ไหม ? แต่ดันไปลอกแบบเขามา ฟังแล้วต้องบ่นว่า "กูจะบ้า..!" ก็คือเสียแรงที่มีการศึกษาจากต่างประเทศมา แต่ไม่ได้ดูเลยว่าบ้านเขาเมืองเขาเป็นอย่างนั้นเพราะอะไร ? คิดว่าตรงไหนดีก็จะลอกแบบมาให้บ้านเราทำแบบนั้น

    ในเมื่อบริบทของสังคมไม่เหมือนกัน แล้วจะให้เด็กเราทำได้แบบเขามันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งก็มี ๕ - ๑๐ เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้ นอกนั้นก็เละหนักยิ่งกว่าเดิม

    ดังนั้น..นโยบายการศึกษาที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของบ้านเรา ทำให้การศึกษาเราปัจจุบันนี้ล้าหลังที่สุดในอาเซียน เขาบอกว่าในอาเซียน ๑๐ ประเทศ การศึกษาของไทยเราอยู่อันดับที่ ๙ แต่อาตมภาพยืนยันว่าอยู่อันดับที่ ๑๐..!

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาบอกว่า ประเทศพม่าการศึกษาสู้บ้านเราไม่ได้ แต่อาตมภาพยืนยันว่าการศึกษาพม่าเหนือกว่าเรามาก เพราะว่าไปเห็นเองมาหลายปี เพียงแต่ว่าบ้านเราไม่สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลของบ้านเขาได้เท่านั้นเอง
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    (พระครูสังฆรักษ์วิฑูรย์ จนฺทวํโส เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ประเทศพม่า มากราบลาพระอาจารย์) พระครูน้อยหายหัวไปหลายปี พอด่าฝากไป ค่อยนึกได้ โผล่หน้ามาหาอาจารย์บ้าง ก็คือพอเป็นเจ้าอาวาสแล้วเข้าใจบทบาทตัวเองผิด ไปเข้าใจว่าเป็นนายชาวบ้าน..!

    บทบาทของเจ้าอาวาสคือ ต้องนำชาวบ้านทั้งหมดเดินไปตามแนวที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ใช่เป็นนายชาวบ้าน พอทำตัวเป็นนายชาวบ้าน ถึงเวลาชาวบ้านทำอะไรไม่ถูกใจก็อารมณ์เสีย

    แล้วยิ่งเว้นวัตรปฏิบัติ สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ก็ยิ่งเละ เพราะว่าส่วนที่จะเป็นบุญเป็นกุศล ประคับประคองตนเองให้อยู่สุขอยู่เย็นก็ไม่มี มีแต่กิเลสคอยเผาคอยลนอยู่ทุกวัน แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองร้อนเพราะอะไรอีกด้วย..!?

    ปล่อยให้ไปเรื่อยเปื่อยหลายปี จนกระทั่งรำคาญ ก็เลยด่าฝากไป ไม่อย่างนั้นก็ยังไม่ได้เห็นหน้าหรอก อาตมาเป็นอาจารย์ที่ปากร้าย ไม่กลัวลูกศิษย์จะบ่น ด่าได้ด่าเอาไว้ก่อน..!

    ย้อนกลับมาเรื่องการศึกษาต่อ ลืมกันไปแล้วว่าพูดเรื่องอะไรใช่ไหม ? ไปสนใจแต่เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ทำไมหลงประเด็นกันเร็วจัง ?

    เวลามารหลอกเรานี่เขาแตกประเด็นมากกว่านี้อีก หัวข้อเดียวกันมาเป็นล้าน ๆ เลย ประมาณว่า ๑ + ๑ เป็นสองใช่ไหม ? ๓ - ๑ ก็เป็นสอง ๔ - ๒ ก็เป็นสอง ไล่ไปสิ..คำตอบเดียวกันหมดทั้งนั้น แต่คำถามใช่ข้อเดิมไหมล่ะ ?

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าสติไม่ว่องไว สมาธิไม่แกร่งกล้า ปัญญาไม่แหลมคม เราสู้มารไม่ได้หรอก ตายฟรีอย่างเดียว แล้วพวกเราก็ยื่นหัวไปให้เขาตีอีกต่างหาก..!
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ถามว่า "ทำไมถึงบอกว่ายื่นหัวไปให้เขาตี ?" ก็เพราะว่าทำกรรมฐานสักหน่อย พอกำลังเริ่มมีมาก มารรู้ว่า "ถ้าทำต่อไปกูตายแน่..เล่นมันซะเลย..!" เดี๋ยวตัวเองเดือดร้อน เดี๋ยวที่บ้านเดือดร้อน เดี๋ยวที่ทำงานเดือดร้อน แล้วเราก็เลิกปฏิบัติธรรม ไปวุ่นวายกับเรื่องพวกโน้นแทน

    นึกขึ้นมาได้ มาปฏิบัติธรรมอีกหน่อย โดนมารแกล้งอีกแล้ว แต่ไม่เคยรู้ทันมารสักครั้ง รู้อยู่อย่างเดียวว่าทำไมเราทำได้ไม่เกินสามวันสักที ? ยังไม่ทันวันที่ ๔ ที่ ๕ เลย พังอีกแล้ว..!

    อาตมาบ่นไปก็เท่านั้นแหละนะ ไม่เป็นไร..มาวัดกันดูว่าใครจะตายก่อน ? คนสอนตายก่อนหรือคนฟังตายก่อน ? คนสอนตายก่อนก็สบาย..ไม่ต้องเสียเวลาปากเปียกปากแฉะอีก คนฟังตายก่อนยิ่งสบาย..พวกเกาะมาก ๆ หลุดหายไปแล้ว

    มองแบบนักปฏิบัติธรรมจะเห็นแต่ส่วนดี เขาเรียกว่า Positive Thinking คิดในแง่บวก อะไร ๆ ก็ดีหมด รู้จัก "หลวงปู่ดีเนาะ" ไหม ? หลวงปู่พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ใครทำอะไรท่านว่าดีหมด

    ลูกศิษย์ชงกาแฟให้แต่เช้า แว่นก็ไม่ใส่ ดันเทเกลือลงไปแทนน้ำตาล เอาไปถวายหลวงปู่ หลวงปู่ซดฮวบ "เออ..ดีเนาะ กินกาแฟหวาน ๆ มานานแล้ว กินเค็ม ๆ บ้างก็ดีเนาะ"

    นั่งรถไป รถเสียเครื่องพัง หยุดซ่อมเครื่อง หลวงปู่บอกว่า "ดีเนาะ..ไม่ต้องเดินทางไกล ก็ไม่เหนื่อยเนาะ" แล้วก็นั่งดูเขาซ่อมเครื่องไป

    ขนาดโจรมาปล้นหลวงปู่ยังบอกว่าดีเลย ถามว่า "ทำไม ?"หลวงปู่บอก "ข้าวของมันเยอะแยะ ช่วยเอาไปบ้างก็ดีเนาะ" โจรบอกว่า "ผมจะฆ่าปิดปากด้วย" หลวงปู่ก็บอกว่า "ดีเนาะ..ไม่ได้อยากจะอยู่นี่..ตายก็ดีเนาะ" คนฟังเครียดไปเลย..!

    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ยินกิตติศัพท์ ไปกราบ ทรงถาม "สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างหลวงปู่ ?" หลวงปู่ตอบ "ก็ดีเนาะ..หลวงเนาะ" พระองค์ท่านจึงพระราชทานสัญญาบัตร แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ดีอย่างเดียว..ไม่มีอะไรเสียเลย..!

    คนที่ปฏิบัติธรรมไปถึงระดับหนึ่ง เหมือนกับโลกพลิกกลับ..อะไรที่เคยไม่ดี..ดีหมด แม้กระทั่งความทุกข์ที่พวกเราโอดโอยกันอยู่ทุกวันนี้
     
  8. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    พระพุทธเจ้าสร้างบารมีมาต่ำสุด ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป หนึ่งมหากัปไม่รู้ว่าต้องเกิดกี่ร้อยล้านชาติ ตีเสียว่าหนึ่งชาติใช้งบประมาณแค่ล้านเดียว ตีเป็นตัวเงินได้ไหมว่าหมดงบไปเท่าไรกว่าที่จะเห็นทุกข์ ?

    แล้วของที่มีราคาขนาดนั้นอยู่กับเราตรงหน้าแล้ว แทนที่จะรีบไขว่คว้าเอาไว้ กลับไปผลักไสโอดโอยอยู่กับมัน สรุปว่าโง่หรือฉลาดก็ไม่รู้..!?

    พระพุทธเจ้าสอนให้เราดูทุกข์ เพราะว่าทุกข์เป็นสิ่งที่เราไม่ชอบใจ เราพร้อมที่จะไล่มันออกไป พร้อมที่จะเผ่นหนีมัน ถ้าพระองค์ท่านสอนให้เราดูสุข คิดว่าจะมีรอดสักคนไหม ?

    ฝรั่งบอกว่า "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มองโลกในแง่ร้าย อะไร ๆ ก็มีแต่ความทุกข์" ถ้าอยากจะหนีก็ต้องดูเรื่องที่ไม่ดีสิ..! ยกเว้นว่าอยากจะอยู่ก็ดูแต่เรื่องดี ๆ ไป แล้วเอ็งก็เวียนว่ายตายเกิด ทนทุกข์ไปอีกกัปกัลป์อนันตชาติ..เจริญ..!

    เดี๋ยวพวกเราทำวัตรค่ำแล้ว ก็ไปรอเวียนเทียนที่ข้างโบสถ์ ใครที่ยังไม่มีเครื่องมือเครื่องไม้ก็ไปดูแถว ๆ นั้น เจอก็หยิบเอาเลย ให้ตังค์หรือไม่ให้ตังค์เขาไม่ว่าอยู่แล้ว
    เราถือนิสัยแบบสัตว์เดรัจฉานก็ได้ คือสัตว์เจออะไรก่อนถือว่าเป็นของตัวเอง ถ้าตัวอื่นมาแย่งก็กัดกันแทบตาย..!

    แต่อย่าลืมว่ามนุษย์เรามีธรรมเป็นเครื่องรักษาที่ทำให้ต่างจากสัตว์ ดังนั้น..ถ้าเรามีหลักธรรมคือกตัญญูกตเวทิตาอยู่..ทำให้เราเป็นคน ถ้าเราไม่จำเป็นต้องกตัญญูกตเวทิตา ไม่ต้องสำนึกบุญคุณพ่อแม่ แปลว่าเราสละความเป็นคน ลงไปมีสภาพเท่ากับสัตว์เดรัจฉาน..! น่าสงสารนะ เอ้า..ทำวัตรค่ำกันเถอะ..!

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ปกิณกธรรมสัปดาห์วันวิสาขบูชา
    ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...