ได้ไปเจอ "ซัน" ผู้มีญาณทิพย์

พี่ครับ ....

เอาความจริงเถอะครับ อย่าพิมพ์ให้มันดูดี เพื่อสร้าง.....เลยครับ คนอื่นเค้ารู้ดี

ว่าสิ่งที่พี่แสดงออกมามันคืออะไร จะเปลี่ยนความหมายในตัวพี่เองทำไม

กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิครับ

แอ่นอกรับเลยครับ ว่าเป็นของเรา ทำไมต้องบอกว่าไม่ใช่ของพี่ และผิดที่พี่

เหมือนจะดูดีนะครับ แต่ผมคิดว่า มันไม่ใช่แล้วครับพี่

ผมว่า ....

พี่ต่างหากที่พยายาม เบี่ยงประเด็นตัวเอง ครับ

แค่นั้น

*************
แต่ก็ไม่ได้นำพา

 

ผมดูแล้วฟันธงว่า ข้างๆคูๆจริงๆ ผมรู้แล้วละว่าที่บ้านยังไหว้เจ้าอยู่

 

อยู่ที่น้องกำหนด เพราะ เขาก็เป็นผู้หนึ่งที่เห็นผิดใช่ไหมในสายตาน้อง

น้องก็ควรทำให้เขาเห็นถูก เห็นในสิ่งดีๆ ที่น้องมี เช่น ยกไตรสรณะมา

นีพี่ก็ลงเลย ส่วนอีกคน เขายังขึ้นอยู่ เขาก็ไม่เห็นสิ เพราะตัวเราสูงเกิน
สายตาเขาที่ยังมองในทางต่ำอยู่

เป็นพี่นะ พี่จะลงไปต่ำๆก่อน แล้วค่อยชวนเขาดูสิ่งที่เรามี แล้วเขาจะเห็น
สิ่งที่สูงกว่าในเราได้

 

อะนะ ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่ถูกใจแล้วละ ต่อให้กล่าวขอโทษ น้องก็คง
คิดว่าพี่ปั้นขึ้นมา จริงไหม เนียะ พี่หาทางลงไม่ได้ เพราะเราไล่ขึ้น

 

ผมว่าไปนอนกันเถอะแค่นี้ก็มองทะลุปรุโปร่งแล้วว่าใครทำอะไรกันอยู่ บังคับให้คนอื่นตอบคำถามแต่ตัวเองไม่กล้าตอบความจริง ไอ้เรื่องที่บอกว่าน้องซันเป็นพระพิฆเณศร์ก็มั่วจริงๆ ทำไปเพื่ออะไร บาปมันติดตัวนะครับ

 

กระทู้นี้มาไกลแล้วครับ เป็นกระทู้ที่ขึ้นต้นด้วยความชื่นชมแล้วลงท้ายด้วยการทำลาย

 

อืม ไปทบทวนมาละ ไม่ใช่ พระพิฆเณศร์ แหะ ผมมั่วไปจริงๆ

ที่แท้ เขาว่าเป็น พระศิวะ เลย

refer : http://palungjit.org/showpost.php?p=1120195&postcount=35

อันนี้เริ่มมีการชี้ผิดเข้าไปอีก แต่คนชี้เขาก็ผลิกกลับไปชี้ถูก

refer : http://palungjit.org/showpost.php?p=1175056&postcount=163

หลังจากจุดนี้ก็มั่วแล้ว กลายเป็นกรณีของเทพขันธ์

ก่อนจะกลับมายังจุดที่เข้าใจผิด ที่ไม่มีการแก้ต่าง

ทั้งหมดก็ ขาดตกบกพร่องไม่ชัดในไตรสรณะ

 

พระธรรมกว้างใหญ่ไพศาล เกินจะรู้ทั่ว

ท่องพระธรรมได้ 84000 พระธรรมขันธ์หาใช่ปิดอบายได้เมื่อไหร่

เปิดจิตรับฟังกันและกันบ้าง เสริมสร้างความรู้ ได้กัลยาณธรรม

ขอธรรมะรักษาทุกท่าน

 

ตามอ่านอยู่นาน เมื่อวานท่าทางจะดุเดือด
ท่านขันธ์ก็ตามจี้ซะ แกว่งกันไปเป็นทิวแถว
ท่านขันธ์ไป ท่านเอกรับหน้าที่ต่อ
พยายามปรับทิฏฐิให้ตรง
ตามความเห็นผม คิดว่าหลุดทางไปแล้ว
ท่านอาจารย์ต้องเข้าใจว่า ภูมิมันต่างกัน
ความเชื่อเดิมก็มีอยู่
คงเป็นการยากที่จะนำพาให้ผู้ฟังเข้าใจแก่นธรรมและความหลงทางที่กำลังเดินอยู่
ในเมื่อเขาเหล่านั้นมีความเชื่ออยู่แล้วว่า ได้ทำให้สิ่งที่ถูกต้อง
เห็นทีคงต้องปล่อยเลยตามเลย
คงสมควรแก่เวลาที่จะวาง อุเบกขา ได้แล้ว
คุณซันเองอาจจะมีญาณทิพย์หรือไม่ ผมไม่ทราบ
แต่ที่แน่ๆ วิปัสสนาญาณยังไม่มีเลย
เป็นธรรมดาที่เมื่อเราถูกโลกธรรมกระทบ ก็ย่อมต้องหวั่นไหวไปตามกระแส
เท่าที่เห็นคือ พยาบาทมันก่อตัวขึ้นมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่ได้ประโยชน์มากกว่าใคร ก็น่าจะเป็นผู้ชมขอบสนาม เช่น กระผม
กิเลสในใจคนช่างล้ำลึก หลอกได้แม้กระทั้งเจ้าของของมันเอง
น่าเห็นใจมากนะ โมหะนี่ร้ายที่สุด เห็นได้ยากที่สุด มันเนียนจริงๆ
ท่านอาจารย์ทั้งหลายก็เพลาๆมือหน่อย
คุณซันและผู้สนับสนุนก็อย่าปล่อยให้ปฏิฆะครอบงำจิต
ควรพิจารณาถึงประเด็นของการสนทนาอย่างแท้จริง
อย่าขุ่นหมองใจกับแค่คำพูดบางคำ ถ้าคุณข้ามพ้นสมมติบัญญัติได้
คำพูดเหล่านั้น จะไม่มีผลต่อใจคุณได้เลย
ส่วนประเด็นนั้นมีนิดเดียวคือ
ฝึกตนดีแล้ว จึงค่อยฝึกผู้อื่น
มันก็แค่นั้น
ถ้าตนยังเอาตัวไม่รอด
แล้วจะสอนใครได้
ธรรมะไม่ใช่ว่ารู้ได้จากการอ่าน การฟัง
ปัญญาที่แท้ คือ วิปัสสนาปัญญา หรือ บ้างก็เรียกว่า ญาณทัสนวิสุทธิ หรือ ปัญญาญาณ ก็แล้วแต่จะเรียก ซึ่งก็มีอยู่หลายลำดับชั้น กว่าจะแจ้งในทางสายกลาง
นี่คือเป้าหมายแห่งการดับทุกข์อย่างแท้จริง
การแก้วิธีอื่น เป็นเพียงรักษาตามอาการ
อาจไปผิดทางก็ได้...

 

โอ้โห มีตั้ง 29 หน้า อ่านไม่ไหว ปวดตามาก

แต่ผมได้ไปหาซื้อหนังสือเล่มล่าสุดที่ ซีเอ็ด ( ไม่รู้เล่มล่าสุดหรือเปล่า ) มาเมื่อวานเย็นหลังจากได้อ่านกระทู้ต่างๆ นี้

อ่านรวดเดียวเกื่อบจบ ในหนังสือน้องเขาเขียนดีมาก ไม่ได้เขียนตัวเองเป็นผู้วิเศษ แต่เล่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อยที่คนมาขอให้ช่วย

หลังจากอ่านแล้ว เริ่มมีความกล้วมาก ..... กลัวเจ้ากรรมนายเวรของเรา และไม่รู้ว่าอดีตเราทำอะไรไว้ด้วยบ้าง

แต่ที่สำคัญทำให้ผม มีความขยันและเห็นค่าของการสวดมนต์ไหว้พระ และทำบุญมากขึ้น และมีกำลังใจในการสะสมบุญแม้เล็กน้อย เพราะ สิ่งเหล่านี้
จากอ่านหนังสือน้องซัน .... จะช่วยเราได้ในยามดวงตก เจ้ากรรมนายเวรตามทัน ... แน่นอน

 

อีกอย่าง ........... น้องซัน แกเป็นคนหน้าตาดี รูปร่างดีด้วย และแววตา หน้าตา ของน้องเขา มีความจริงใจ บริสุทธิ์ และมีเมตตาดี .......
(น้องเขาคงทำกุศลกรรมดีมากมากมั้ง เลยได้ดี )
สิ่งนี้ สามารถบอกได้ เพราะหน้าตา หรือดวงตา คือประตูของใจ คิดว่า น้องเขาไม่ได้เป็นพวก หลอกลวงแน่นอน
( ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ )

 

โลกนี้มีอะไรที่ไม่มี และไม่มีอะไรที่มี

 

^-^ ผู้รู้ธรรม เถียงกันมา 2 วันและ เดี๋ยววันนี้คงมีต่อ
ธรรมมีให้ รู้ ให้ดู ถ้าจับก็จะทุกข์ จะวนเวียน ถ้า ปล่อย ก็ จะหลุด
เอาไปลองดูนะ พวกผู้รู้นักวิปัสนาทั้งหลาย

แล้วก็ระวังกรรมทางวาจานะครับ
ไปต่อว่าเค้า พอเค้าโต้แย้งขุ่นเคือง ก็ไปหาว่าเค้าไม่นิ่ง
แบบนี้ เรียกว่า เบียดเบียนผู้อื่น นะครับ ^-^

 

oh my god!!
this is not normal!!
ppl ve been trying to figure out who is who...
why dont look back and see who we are..instead of pointing on some other's..

 

5555ไม่ออกความเห็นครับบ

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=127446

รบกวนเข้าไปตอบในกระทู้นี้กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

ใครว่าผมไปสรุปและ ยัดเยียดครับ คุณไปอ่านก่อนว่า ซันเขาบอกว่า เอารายได้ส่วนหนึ่งไปเล่นฟิตเนส และ เขาไม่โง่พอที่จะเอาไปเล่นฟิตเนสอย่างเดียว คุณคิดว่าอะไรอย่างอื่นอีกหละ

ผมไม่ทราบแน่ชัด เพราะว่า การที่คนเขาเอามาพูดแสดงว่าสิ่งนั้นแน่ชัดที่สุด ซึ่งแน่ชัดที่สุด เฟ้นมาแล้ว มันก็แค่นี้ นี่คือจุดเด่น

ผมว่า คุณด่วนสรุปผมมากกว่า ตัวเขาเอง เขายอมรับว่าทั้งเล่นฟิตเนสเป็นประจำ ทั้งถ่ายรูปเปลือย


คุณเวบสโนว์ คุณแบนผม ด้วยข้อหา คำว่า ไอ้นี่ไม่ยอมเลิก
ผมขี้เกียจจะเถียงกับคุณ
คุณลองไปทบทวนให้ดี ก่อน คุณอย่ามีอคติ

ทั้งหมดเขายัดเยียดให้ตัวเองทั้งสิ้น

 

ขันธ์ เริ่ม แต๋วแตก เอ้ย! ขันแตก...

 

แต่ละคนล้วนมีความแตกต่าง ถ้ามองให้ดีก็จะเห็นถึงเจตนาที่ดีของแต่ละท่าน ธรรมมะนั้นสอนให้เห็นในความเป็นจริงเมื่อเห็นความจริงแล้วนั้น ก็จะเห็นว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดลวงทำให้หลง ท่านที่มีจิตเมตตาแต่ละท่านเปรียบเหมือนแสงไฟส่องทาง เรามีหน้าที่ส่องแต่ถ้าผู้นั้นเห็นแสงไฟที่ส่องแล้วไม่เดินตามแสงก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยต่างๆ ทุกสิ่งนั้นเป็นไปตามที่ควรจะเป็น