เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕

​

 

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นการทดลองบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถยนต์เป็นครั้งแรก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าได้เดินทางออกจากวัด มางานต่าง ๆ ต่อเนื่องกันเกือบจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว วันนี้อย่างไรเสียก็จะต้องวิ่งกลับไปให้ถึงวัดท่าขนุน แต่ก็คงจะเลยเวลาบันทึกเสียงไปมาก ทำให้ต้องทดสอบในการบันทึกเสียงธรรมฯ บนรถยนต์ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นไปด้วยดี ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลว่ายังไปไม่ถึงที่พัก แล้วบันทึกเสียงไม่ได้อีก

สำหรับวันนี้ภารกิจตั้งแต่ช่วงเช้าก็คือ การเดินทางไปยังสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ทำการบวงสรวงและปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับพระจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร. หลังจากการปลุกเสกแล้ว ทางดร.หนึ่ง ท่านถวายปัจจัยมา ๑ ล้านบาทถ้วน แจ้งว่าร่วมบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อ ซึ่งทำให้กระผม/อาตมภาพสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องเพราะว่าสิ้นเดือนนี้จำเป็นต้องจ่ายค่าก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนงวดแรกจำนวน ๘ ล้านบาท และต้องจ่ายค่าก่อสร้างตลาดชุมชนริมฝั่งแควน้อยของเดือนนี้อีกเกือบ ๒ ล้านบาท

ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าหากเราทำพระคาถาเงินล้านขึ้นได้อย่างใจแล้ว เงินทองทั้งหลายเหล่านี้จะมีที่มาเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งญาติโยมไม่จำเป็นที่จะต้องไปกังวลใจเลย แต่ด้วยความที่ท่านทั้งหลายยังไม่สามารถที่จะวางกำลังใจได้ถูกต้องประการหนึ่ง ศรัทธาอย่างเต็มที่เต็มทางยังไม่มี หรือว่ามีไม่พออีกประการหนึ่ง ก็มักจะทำให้เกิดความเครียด คิดอยู่ตลอดเวลาว่า เงินจะเข้ามาทางไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ทำให้ผลของพระคาถานั้นมีน้อยลงไปโดยอัตโนมัติ

หลังจากเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตรงไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเทพประทานบันดาลทรัพย์ ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่กระผม/อาตมภาพเรียกด้วยความเคารพนับถือและคุ้นเคยว่า หลวงปู่สมเกียรติ ท่านเป็นประธานในการเจิมและจุดเทียนชัยให้

 

ในพิธีวันนี้มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั้งสิ้น ๓๘ รูป ตามเลขมงคล ๓๘ กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า ทางเจ้าภาพใจถึงมาก เพราะว่าการนิมนต์พระเกจิอาจารย์จำนวนมากนั้น รายจ่ายก็ย่อมมากตามไปด้วย เนื่องเพราะว่าบางท่านเดินทางมาไกล หากทางเจ้าภาพคิดเผื่อแล้วเผื่ออีก ว่าการเดินทางของท่านมาแล้วจะต้องไม่ให้ขาดทุน ก็จำเป็นที่จะต้องเผื่อค่ารถค่าเดินทางให้กับท่านด้วย ๓๘ รูปนี้ค่าใช้จ่ายก็ต้องมากมายอยู่ทีเดียว

แต่จากการที่ได้รับฟังพิธีกรบอกกล่าวแล้วว่า การสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อที่จะนำปัจจัยมาถวายแก่หลวงปู่สมเกียรติ เพื่อช่วยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชวราราม ซึ่งในปัจจุบันนี้ หลายครั้งหลายคราวเมื่อฝนตกแล้ว ก็เกิดน้ำท่วมขัง ระบายไม่ทัน หวังปัจจัยจากวัตถุมงคลรุ่นนี้ประมาณ ๗๐ ล้านบาท ซึ่งแปลว่าจะต้องออกวัตถุมงคลได้ครบถ้วน ไม่เหลือเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะใช้งาน เพราะว่าจากประมาณการณ์นั้น งบประมาณที่ต้องใช้ถึงระดับเป็น ๑๐๐ ล้านบาท..!

แต่ว่าสำหรับวัตถุมงคลท้าวเวสสุรรณในระยะนี้ โดยเฉพาะถ้ามีเส้นสายอยู่ในวงการพระเครื่อง ก็น่าจะสามารถออกได้หมดอย่างที่ต้องการ ยกเว้นว่าจะเป็นแบบวัดท่าขนุน ซึ่งไม่อาศัยเส้นสายในวงการพระเครื่อง หากแต่ว่าให้ญาติโยมส่วนใหญ่ได้บูชากันเอง จึงปล่อยออกเฉพาะในเว็บวัดท่าขนุน และทางเพจเฟซบุ๊กวัดท่าขนุนเท่านั้น แล้วก็ยังมีญาติโยมอีกจำนวนหนึ่งที่บูชาไม่ทัน เนื่องจากว่ามีบรรดาเซียนพระไปเหมาทีละจำนวนมาก ๆ นำไปจำหน่ายเอากำไรต่อทีหนึ่งหลายเท่าตัว

โดยเฉพาะล่าสุด คือพระยอดขุนพลกาญจนบุรี ซึ่งราคาถ้าหากว่าเป็นพิมพ์เล็ก ออกจากวัดองค์ละ ๕๐๐ บาท ล่าสุดที่พบก็คือจำหน่ายองค์ละ ๑,๘๕๐ บาท รวมค่าส่ง ก็แปลว่าเอากำไรไป ๓ เท่าเศษ แต่เราก็ไม่ว่ากัน ถือว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความสามารถในการทำมาหากิน

แต่ก็เกรงใจญาติโยมจำนวนหนึ่ง ซึ่งถามมาว่า ทำไมถึงไม่จำกัดว่าให้บูชาได้เท่านั้นองค์ เท่านี้องค์ ? การจำกัดนั้น เราสามารถทำได้ แต่จะไปเพิ่มงานจำนวนมหาศาลให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะว่าสมมติว่าให้บูชาคนละ ๑ องค์ ถ้าจำนวนสร้าง ๑๐,๐๐๐ องค์ ก็แปลว่าทางเจ้าหน้าที่ต้องจัดส่งไป ๑๐,๐๐๐ กล่อง ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุประการหนึ่ง

 

อีกประการหนึ่งก็คือ ทางเราถ้าเห็นว่าเหมาทีละหลายร้อยองค์ บางทีทางเจ้าหน้าที่ก็ตัดให้เหลือ ๑๐๐ องค์หรือว่า ๒๐๐ องค์เท่านั้น ไม่ได้ให้ไปรวดเดียวมากมายทั้งหมดอย่างที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นต้องการ

และอีกประการหนึ่งก็คือ เคยมีการจำกัดจำนวนในการจอง ก็มีการเหมารถ นำผู้คนมาทีละ ๕๐ คน แต่ละคนเข้าไปทำการจองคนละ ๑ องค์ เมื่อจองแล้วก็รับค่าจอง ค่าเดินทาง จากทางด้านผู้ที่นำตนเองมา แล้วเขาก็เอาไปขายทำกำไรต่ออยู่ดี

ไม่ว่าเราจะมีวิธีการใดก็ตาม ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งมีความฉลาดในการคดเคี้ยวเลี้ยวลด หลีกเลี่ยงข้อกฎหมายไปได้ทุกประการ ก็จะสามารถหาช่องทางเอากำไรจนได้ และโดยเฉพาะบางท่านแนะนำว่า ให้ทางวัดออกในราคาสูง ๆ ไปเลย เขาจะได้ไปกำไรน้อยหน่อย แต่ว่าถ้าออกในราคาสูง ญาติโยมจำนวนหนึ่งก็จะสิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ

ดังนั้น..เมื่อพินิจพิจารณาโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่ทางวัดท่าขนุนทำอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว คือแบ่งสันปันส่วนกันไป ท่านใดที่เข้าบูชาในเว็บไม่เป็น หรือว่าท่านใดที่ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บวัดท่าขนุน ก็ไปบูชาต่อจากบรรดาท่านทั้งหลายที่นำไปหากำไร ซึ่งถ้าราคาอยู่ในจุดที่เขารับได้ ก็ย่อมเป็นการสมประโยชน์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพ อย่างไรเสียก็ต้องเดินทางกลับให้ถึงวัดท่าขนุน เพราะว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ทอดทิ้งพระภิกษุสามเณรให้อยู่กันเอง ปกครองกันเองเป็นเวลาหลายวัน แม้ว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นจะอยู่ได้ และมีเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้เข้าไปขวนขวายฟังกันเอาเองก็ตาม แต่ก็ไม่เหมือนกับตัวตนของกระผม/อาตมภาพอยู่วัด เพราะว่าถ้าหากว่าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น ทุกท่านก็จะรู้สึกดีว่ามีหลวงพ่ออยู่ใกล้ แต่ว่าอีกหลายท่านก็ยังบ่นว่า กระผม/อาตมภาพเหมือนกับดวงอาทิตย์ ห่างเกินไปก็หนาวเย็น ใกล้เกินไปก็ร้อนจนแทบจะอยู่ไม่ได้..!

ต้องบอกว่าไม่สามารถที่จะทำตามสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นต้องการได้ แปลว่าจะต้องมีใครสักคนหนึ่งที่จะต้องเดือดร้อนในยามที่กระผม/อาตมภาพไม่อยู่วัด และก็ต้องมีใครอีกหลายคนเดือดร้อน เมื่อกระผม/อาตมภาพอยู่วัด เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นปกติของโลก เราไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนพอใจโดยพร้อมเพรียงกันได้ แต่เราต้องทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความพอใจก็แล้วกัน

 

อีกงานหนึ่งที่อยากจะบอกกล่าวล่วงหน้าแก่ญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสุภาพบุรุษ คือ กระผม/อาตมภาพจะทำจัดงานบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา ต้องการผู้เข้าบวชในรุ่นนี้ ๙๐ คนด้วยกัน

ถ้าหากว่าได้ ๙๑ คน ซึ่งถือว่าเป็นการบวชเกินอายุได้ยิ่งดี แต่ถ้าเกินไปมาก ก็จะพิจารณาว่ารับเอาไว้เป็นการสำรองเสียก่อน แล้วหลังจากนั้น ถ้ามีใครขาดก็จะได้เข้าไปเสียบแทนในตรงนั้น

แต่ขอร้องท่านทั้งหลายว่าอย่าได้ขาดเลย คือเรามีระยะเวลาที่จะพินิจพิจารณาว่า ในช่วงนั้นเราเองสามารถที่จะบวชได้หรือว่าไม่ได้ ถ้าหากว่าสามารถบวชได้ก็สมัครไปแต่เนิ่น ๆ และขณะเดียวกัน เมื่อสมัครไปแล้ว ด้วยความมั่นอกมั่นใจ เราก็ไม่ควรที่จะไปยกเลิกภายหลัง เพราะว่าการทำอะไรเด็ดขาดนั้น เป็นวิสัยของบุคคลที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลได้

เนื่องจากว่าการเข้าถึงมรรคผลทุกระดับ ต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด อย่างเช่นว่าเมื่อฟังธรรมไปแล้ว เราสามารถที่จะทำได้ตรงจุดไหน เราก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าจุดนี้เราทำได้ เราจะทำด้วยชีวิตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าอย่างนี้โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะเข้าถึงความดี จะเข้าถึงมรรคถึงผลก็จะมีได้

แต่ถ้าท่านละล้าละลัง ตัดสินใจไม่ขาดเสียที อย่างเช่นว่าบางท่านแม้บวชเข้าไปแล้ว ก็ยังเปิดกว้าง ๓๖๐ องศา พร้อมที่จะสึกได้ทุกเวลา เนื่องเพราะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพมีการบวชฟรีถึงปีละ ๔ ครั้งเป็นอย่างน้อย ถ้าอย่างนั้นการตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาดของท่าน ก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมมากนัก เพราะว่ายังการขาดความมั่นใจและความเด็ดขาดอยู่มาก ไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคคลที่บรรลุมรรคผล

ท่านทั้งหลายจึงควรที่จะมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อแสดงออกซึ่งบารมีของท่านว่าเข้มข้นเพียงพอ สมควรต่อการจะได้มรรคได้ผล จึงจะตัดสินใจที่กระทำสิ่งหนึ่งประการใดลงไป เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องเด็ดขาด ไม่เปลี่ยนแปลง เราทั้งหลายจึงจะมีโอกาสได้ดีตามที่หวัง

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่รับฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)