การปฏิบัติต้องเอาชีวิตเข้าแลก ประเภทตายเป็นตาย

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +26,376
    B4F5A70B-0DCC-470B-85EA-FEA8BBE3A8FE.jpeg

    การปฏิบัติต้องเอาชีวิตเข้าแลก ประเภทตายเป็นตาย ตายตอนนี้เราทำความดีอยู่เราต้องไปดีแน่อยู่แล้ว พอถึงเวลาจะนอนทำอย่างไร เหนื่อยมาทั้งวันแล้วให้ไปนั่งภาวนาก็จะหลับท่าเดียว นอนหงายโครมลงไปเลย คิดว่านอนลงแล้วก็เหมือนกับคนตาย จะฟื้นขึ้นมาตื่นกลับขึ้นมาได้เห็นตะวันขึ้นหรือเปล่าก็ช่างหัวมันเถอะ ถ้าหากว่าตายคืนนี้เราก็ขอไปพระนิพพาน ทำกำลังใจง่าย ๆ อย่างนี้แล้วก็จับภาวนา ถ้าหากว่าได้มโนมยิทธิส่งใจไปกราบพระบนพระนิพพาน หลับไปทั้งอย่างนั้นแหละ

    ถ้าหากว่าไม่ได้มโนมยิทธิก็ตั้งใจนึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งสักองค์ที่เรารักเราชอบ ว่านั่นคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน เราเห็นท่าน เราอยู่กับท่านก็คืออยู่บนพระนิพพาน แล้วก็ภาวนาให้หลับไปเลย คิดว่าถ้าตายขอไปอยู่กับพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน

    ใช้วิธีง่าย ๆ ตอนเช้าทำให้เยอะเข้าไว้ ตอนเย็นเหนื่อยแล้วผ่อน ๆ ลงบ้างก็ได้ ถ้ากำลังใจทรงตัว นิวรณ์ ๕ ไม่ได้รับประทาน เราก็จะอยู่สุขอยู่เย็นทั้งวัน ขอให้รักษาให้อยู่ รักษาให้ได้ มีใครกล้ารับรองได้ว่าตัวเองทรงฌานได้บ้าง ? เอาแค่ปฐมฌานก็ยังดี พอไหวไหม ? เอาไม่มากเอาแค่นั้นแหละ

    การที่เราทรงแค่ปฐมฌานไว้ได้นั้น กำลังของฌานจะกด รัก โลภ โกรธ หลง ๔ ตัว ดับลงชั่วคราว สี่ตัวนี้เป็นไฟ เขาเรียกว่าโลภัคคิ ไฟคือความโลภ โทสัคคิ ไฟคือความโกรธ ราคัคคิ ไฟคือราคะ โมหัคคิ ไฟคือความหลง ไฟสี่กองนี้เผาเราอยู่ตลอดเวลา ทันทีที่กำลังใจก้าวเข้าถึงปฐมฌาน ไฟสี่กองจะโดนกำลังของปฐมฌานกดดับลงชั่วคราว เราจะสุขเยือกเย็นอย่างที่บอกไม่ถูก คนโดนไฟเผาแล้วอยู่ ๆ ไฟดับ รู้สึกอย่างไรอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้หรอกต้องเจอเอง

    คราวนี้ถ้ามีปัญญาเสียหน่อยก็จะนึกออกว่า โอหนอ..ขนาดแค่ปฐมฌานเท่านั้นยังมีความสุขขนาดนี้ คนที่เขาทรงฌาน ๒ ได้จะขนาดไหน ? ฌาน ๓ จะขนาดไหน ? ฌาน ๔ ได้รู้สึกเหมือนกับเป็นพระอรหันต์เลยจะขนาดไหน ? และขนาดฌานโลกีย์ยังขนาดนี้ แล้วคนที่ได้เป็นพระโสดาบันพ้นจากอบายภูมิแน่ ๆ แล้วท่านจะมีความสุขขนาดไหน ? พระสกิทาคามีที่เหนือพระโสดาบันจะมีความสุขขนาดไหน ? พระอนาคามีจะขนาดไหน ? พระอรหันต์จะขนาดไหน ? แล้วพระพุทธเจ้าที่เป็นจอมอรหันต์ที่เป็นศาสดาของเราท่านจะขนาดไหน ?

    ถ้ากำลังใจมองเห็นตรงจุดนี้ ความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็จะเต็มอยู่ในหัวใจ ประเภทตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนีแล้ว เห็นชัดแล้วว่าคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นอย่างไร ถ้าเราเห็นชัดแบบนี้ ความเป็นพระอริยเจ้าอยู่ใกล้แค่มือเอื้อม เพราะกติกาของคนเป็นพระโสดาบันคือเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จริง ๆ ไม่ล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

    คราวนี้เราเห็นขนาดนี้แล้วเราเคารพสุดจิตสุดใจจริง ๆ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ คิดว่าเราตายแล้วเราไปพระนิพพาน ตอนนั้นอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้หรอก ต้องรู้เอง กราบพระต้องกราบด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ สมัยก่อนสักแต่แปะ ๆ ให้ครบ ๓ ครั้ง กราบทีอย่างกับลิงล้างก้นแผล็บเดียวเสร็จ ตอนนี้กราบจริง ๆ กราบด้วยกาย คือร่างกายน้อมลงไป ด้วยวาจา คืออะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภควา พุทธัง ภควันตัง อภิวาเทมิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระอรหันต์ ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เคารพจริง ๆ ไม่ได้เคารพแต่ปาก พอกราบแล้ว กาย วาจา ใจ เราไปพร้อมกันหมด

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...