เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 31 ธันวาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ สิ้นปี ๒๕๖๔ แล้ว เมื่อสักครู่นี้กระผม/อาตมภาพก็ไปร่วมงานเปิดถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ ๑๓ แล้ว

    เจตนาของการเปิดถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ส่วนที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ให้ชาวบ้านสามารถจำหน่ายสินค้ากับนักท่องเที่ยวได้ จะได้มีรายได้เข้าพื้นที่ของตน

    อีกส่วนหนึ่งนั้นก็คือ เป็นการระลึกถึงวัฒนธรรมประเพณีเก่า ๆ ของทองผาภูมิ ที่ก่อนหน้านี้การซื้อขายก็คือการนั่งยอง ๆ ซึ่งถ้าหากว่าใครเคยเห็นรูปที่กระผม/อาตมภาพไปพม่ามา ที่เรียกว่า ยองยองเหลา ก็ไม่ผิดหรอก ก็จะมีโต๊ะเตี้ย ๆ สูงสักคืบกว่า ๆ ให้วางของ แล้วก็มีเก้าอี้เล็ก ๆ ที่เตี้ยกว่าโต๊ะอีกให้หย่อนก้นลงนั่งได้ ก็เลยกลายเป็นครึ่งนั่งครึ่งยอง

    ทองผาภูมิของเรา ในอดีตทำอย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งมีถนนสายใหม่ขึ้นมา ถึงได้เปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตไปจากเดิม

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ ญาติโยมที่มางวดนี้จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพให้พระช่วยกันประดับไฟสารพัดสีที่สะพานแขวนหลวงปู่สาย แล้วก็ลามเข้าไปถึงสวนสาธารณะตรงหัวสะพานด้วย ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเป็นการเสริมของเก่าให้ดีขึ้น ถ้าว่ากันตามหลักบริหารก็คือ ถ้าไม่ขายของเก่าก็ต้องขายของใหม่

    แต่คราวนี้ของเก่า ถ้าหากว่าขายแต่ความเก่าอย่างเดียวก็ไปไม่รอด จึงต้องมีการเพิ่มเติมอะไรที่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ก็เพิ่มเติมในส่วนของแสงสีขึ้นมา แล้วก็จะมีงานแสดงของเด็ก ๆ ให้ดูอีกชุดหนึ่ง ก็จะแสดงตอนทุ่มครึ่ง ถัดจากนี้ไปหลังจากเราทำวัตรเสร็จแล้ว

    ตรงส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นการเอากิเลสมาล่อใจคน คือในส่วนที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย อายุ อาหาร ไออุ่นหรือว่าปราณชีวิต และวิญญาณ
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    ในส่วนของอาหารนั้น ประกอบไปด้วยกวฬิงการาหาร อาหารก็คือข้าว กับ น้ำ ขนมทั่ว ๆ ไปที่เรากินลงไป ผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจเข้าออก มีทั้งลมหยาบและลมละเอียด ถ้าหากว่าลมหยาบทั่วไปก็หายใจเข้าทางจมูก ทางปาก ถ้าเป็นลมละเอียด สามารถหายใจเข้าทางท้องแบบเด็กทารกในครรภ์ หรือหายใจเข้าทางรูขุมขนทั่วร่างกายได้

    ข้อสุดท้ายคือวิญญาณาหาร อาหารที่สัมผัสด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตาเห็นรูปสวย ๆ ชอบใจ กระชุ่มกระชวย คึกคัก หูได้ยินเสียงเพราะ ๆ ชื่นใจ อยากฟังอีก กระตือรือร้น จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด ก็แบบเดียวกัน

    คราวนี้ในเมื่อเอาส่วนของกิเลสมาหลอกล่อให้ญาติโยมมากัน ไม่เป็นการดึงให้ญาติโยมตกหล่มกิเลสหรือ ? ก็ต้องบอกว่า ถ้าเป็นญาติโยมทั่วไปเขาอยู่ในหล่มกิเลสถอนตัวยากอยู่แล้ว ก็เหมือนกันคนเปียกน้ำแล้ว จะให้เปียกฝนซ้ำก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว

    ส่วนนี้เอาไว้สำหรับพวกเราต่างหาก ก็คือบุคคลที่เข้าวัด ถ้าหากว่าปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง ต้องมีการทดสอบ ถึงจะรู้ว่าตนเองทำไปได้แค่ไหน ของทดสอบที่เห็นชัด ๆ อยู่อย่างนั้น เราชอบใจ ติดใจ หรือไม่ ? สามารถขับไล่ออกจากใจของเราได้เร็วช้าแค่ไหน ? เดี๋ยววันนี้เราไปวัดกัน...!

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ ญาติโยมที่มาสะพานแขวนหลวงปู่สาย จะรู้ว่านี่เป็นสะพานของวัดท่าขนุน ก็จะเลยเข้าวัดท่าขนุนมาทำบุญ มากราบพระพุทธรูปทองคำ นาก เงิน มากราบสังขารหลวงปู่สาย ตรงนี้ได้ทั้งพุทธานุสติ สังฆานุสติ ทำบุญก็ได้จาคานุสติ ได้ทานบารมี

    ดังนั้น...เมื่อพิจารณาแล้วว่าลงทุนไปแล้ว กำไรมีมากกว่าก็ลงทุนได้ ส่วนคนที่จะหลงติดอยู่ตรงนั้นมีไหม ?...มี แล้วจะทำอย่างไร ?...ก็อุเบกขา มองเขาดิ้นเป็นแมลงวันติดใยแมงมุมไป เพราะว่าถ้ากำลังไม่พอ ต่อให้เราไม่ทำให้เขาติดอยู่ตรงนี้ เขาก็จะไปติดที่อื่น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    อีกส่วนหนึ่งของหลักการบริหารก็คือ ต้องสร้างของใหม่ ฟังจนลืมไปแล้วใช่ไหม ? เมื่อสักครู่นี้พูดถึงหลักการบริหารว่า อันดับแรกเลยคือ เสริมของเก่า ของเก่าที่ดีอยู่แล้ว ทำให้ดียิ่งขึ้น ของเราสร้างของใหม่

    วัดท่าขนุนมีพระพุทธรูปทองคำ นาก เงิน มูลค่าหลายร้อยล้าน สร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่าจังหวัดกาญจนบุรีไม่มีพระพุทธรูปสำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ แล้วเราจะปล่อยให้ไม่มีอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ หรือ ?

    พอถึงเวลาเมื่อพูดถึงพิษณุโลก คนก็จะนึกถึงหลวงพ่อพระพุทธชินราช พูดถึงเชียงใหม่ หลวงพ่อพระพุทธสิหิงค์ พูดถึงสมุทรสงคราม หลวงพ่อวัดบ้านแหลม พูดถึงเพชรบุรีก็หลวงพ่อวัดเขาตะเครา พูดถึงฉะเชิงเทรา หลวงพ่อโสธร พูดถึงกาญจนบุรี ใครนึกออกบ้าง ?

    เมื่อไม่มีก็สร้างขึ้นมา ถ้าไม่เกินกำลัง กระผม/อาตมภาพถึงได้ปรึกษากับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะเทศบาลตำบลทองผาภูมิว่าวัดจะลงทุนสร้างพระให้ ส่วนทางเทศบาลลงทุนจัดขบวนแห่ มั่นใจว่าแห่ไม่เกิน ๓ ปี ติดตลาดแน่นอน ปรากฏว่าแห่ได้ครั้งเดียว โควิดระเบิดตูม หายเงียบไป ๒ ปี ปีนี้จะเริ่มแห่ใหม่

    ครั้งแรกจัดแบบฉุกละหุกมาก ถ้าจำไม่ผิด หล่อพระวันที่ ๙ มีนาคม พระทองคำเสร็จเรียบร้อย นำมาส่งวัดวันที่ ๑๘ มีนาคม พอ ๑๕ เมษายน เราก็จัดขบวนแห่หลวงพ่อทองคำ ขนาดจัดแบบฉุกเฉิน ขบวนยังยาวเกือบ ๓ กิโลเมตร แล้วถ้าหากว่าเรามีเวลาเตรียมตัว คาดว่าน่าจะมากกว่านั้น เสียดายว่าไม่ได้ทำต่อเนื่อง เป็นการทำที่ทิ้งช่วงไป ๒ ปี

    ปีนี้เชื้อไวรัสมีพัฒนาการในด้านดี ไม่ได้พูดเล่นนะ หมออาจจะหนักใจแต่อาตมาสบายใจ ไวรัสพัฒนาการในด้านดี โดยเฉพาะเชื้อใหม่ "โอไมครอน" เข้าไปแล้วไม่ลงปอด ไปนอนเล่นแถว ๆ ลำคอพอแล้ว กินยาอะไรลงไปก็รักษาได้ แกงส้ม ต้มยำ ส้มตำ ผัดพริกอะไรก็ได้ ก็จะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันหมู่

    การระบาดอาจจะรุนแรงมาก น่ากลัว แต่คนจะตายน้อยมาก บอกล่วงหน้าให้เลย ไม่ต้องกลัวมาก ใครเป็นก็ไปตำส้มตำ ใส่พริกสักกำมือหนึ่ง กินลงไป เชื้อโรคตายหมดแล้ว หรือไม่ก็ไปสั่งต้มยำ ใส่มะนาวเยอะ ๆ ซดเข้าไป เหงื่อแตกพลั่ก...! เรียบร้อย ช่างเป็นเชื้อโรคที่น่าสงสารเสียนี่กระไร...!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในหลักการบริหารงานที่กระผม/อาตมภาพยึดถืออยู่ก็คือ ถ้ามีของเก่า ของเขาดีอยู่แล้ว เสริมให้ดียิ่งขึ้น ถ้าไม่มีของใหม่ สร้างของใหม่ขึ้นมา แม้กระทั่งเรื่องการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมของที่นี่ อาตมภาพก็ทำให้เกิดมีใหม่ขึ้นมา สร้างพระพุทธรูปทองคำ นาก เงิน ก็ของใหม่ สร้างบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทก็ของใหม่ จัดตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ๒๐,๐๐๐ ดวงก็ของใหม่ เราจะเห็นว่าตอนนี้กลายเป็นงานที่เขารอกัน

    ตอนนี้ก็เลยมาประดับไฟหลวงปู่สาย เคยทำไปทีหนึ่ง ปรากฏว่าพระท่านเกรงใจหลวงพ่อ ก็เลยลงทุนไปเอาไฟราวระยิบระยับมาติด ปรากฏว่าไฟดับง่ายมากเลย โดนความร้อนหน่อย หลอดขาด เปลี่ยนกันไม่หวาดไม่ไหวก็เลยต้องเลิกไป

    รอบนี้มอบให้พระฝ่ายสาธารณูปการดูแลจัดการ โดยเฉพาะท่านตี้ ใจถึงมาก เบิกก่อน ๕๐,๐๐๐ บาท ถ้าเป็นคนอื่นนี่ คิดว่าคงสะดุ้งไปแปดตลบ แต่ไม่ใช่อาตมา เพราะคาดว่าต้องเยอะกว่านั้น แล้วก็จริง ๆ เพราะว่าได้คณะบุญเพื่อพระนิพพานของท่านโจ้มาช่วย หมดไปแสนกว่าบาทออกมาอย่างที่เห็น ตอนนี้ก็มีแต่คนเดินถ่ายรูปให้ว่อนไปหมด

    แต่ที่จะขอร้องพวกเราในวันนี้ก็คือ ตอนทุ่มครึ่งจะมีงานแสดง ห้ามอยู่บนสะพาน อันดับแรกเลยก็คือสะพานแขวนเก่ามากแล้ว ลวดสลิงหลายจุดกร่อน

    อันดับที่สองก็คือเสาสะพาน โดนน้ำพัด ท่อนซุง ท่อนไม้มากระทบกระแทกอยู่ตลอด ๓๐ กว่าปี ตอนนี้เสาบางต้น เหล็กโผล่ครบเกือบทุกเส้น ไม่รู้จะพังพาบลงไปกองเมื่อไร

    ประการที่สามก็คือเมื่อวานให้เด็ก ๆ ซ้อมไปรอบหนึ่ง เมาสะพานกันไปตาม ๆ กัน ถ้าถึงเวลารำแล้วสะพานแกว่ง ๆ คนไหนเมารถเมาเรือนี่เสร็จทุกรายเลย
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    ดังนั้น...เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเราและนักแสดง ก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะให้รำฉลองสะพาน ลงไปรำสักรอบหนึ่ง แล้วเดี๋ยวขึ้นมารำข้างบนให้บรรดาพี่ป้าน้าอาเขาดูอีกรอบหนึ่ง ถามว่าไหวไหม ? เด็กเขาบอกว่าไหว ไม่เป็นไรหรอก เพราะหลวงพ่อไม่เคยใช้ฟรี รำรอบหนึ่งจ่ายอัตราหนึ่ง รำสองรอบให้อีกอัตราหนึ่ง

    เดี๋ยวพวกเราไปชมกัน แต่โปรดระมัดระวังสิ่งที่เตือนไว้ ก็คือพวกเราปฏิบัติธรรมแล้ว รักษาอารมณ์ไม่ได้ ดูสิว่าจะรักษาได้กี่นาที ? ไม่หวังเป็นชั่วโมง เอาแค่นาที ทำอย่างไรที่เราจะไม่ไหลตามสิ่งที่เข้ามาทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจของเราได้ ? ทำได้แม้นาทีสองนาที จะทำให้ท่านทั้งหลายรู้เลยว่าวิมุตติรส รสชาติของการหลุดพ้นจากรัก โลภ โกรธ หลงเป็นอย่างไร แล้วจะไม่อยากได้รสอื่นอีกเลย จะเห็นว่านักปฏิบัติที่เข้าถึงแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่รู้จักเบื่อ ไม่รู้จักหน่าย


    อย่างกระผม/อาตมภาพเริ่มมาตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ตอนนี้ ๖๒ ปี ๖ เดือน กับอีก ๑๐ วัน ยังไม่เลิกเลย เพราะว่าคนเราที่โดนไฟ รัก โลภ โกรธ หลง เผาอยู่ตลอดเวลา พอกำลังใจทรงตัว กำลังสมาธิสูงขึ้น สามารถกดรัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว คนที่โดนไฟเผาอยู่ตลอดเวลา แล้วไฟดับ บอกไม่ถูกหรอกว่ามีความสุขแค่ไหน ลองพยายามรักษาใจของเราให้ได้


    วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ก็ไม่ขอร้องอะไรมากมาย ของขวัญปีใหม่ ขอแค่ว่าปฏิบัติธรรมแล้วรักษาใจเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ก็เพียงพอแล้ว ขอเจริญพรแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...