เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 13 พฤศจิกายน 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ได้ทำการอุปสมบทหมู่พระภิกษุไป ๑๐ รูป เพื่อฉลองงานหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อเงินและเนื้อทองคำ ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นี้

    ในการหล่อพระพุทธรูปครั้งนี้นั้น ต้องใช้เม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัมและทองคำ ๓๖ กิโลกรัม ในส่วนนี้ทางวัดได้เตรียมไว้พร้อมมูลแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของทองคำที่ต้องซื้อเป็นทองคำแท่งชุดเดียวกันทั้งหมด เพื่อที่ถึงเวลาหล่อแล้ว เนื้อทองจะได้ประสานกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในช่วงที่ซื้อทองคำนั้นก็ได้จ่ายเงินไป ๕๐ กว่าล้านบาท


    คราวนี้การที่ญาติโยมทั้งหลายได้นำทองคำมาถวายก็ดี ส่งมาถวายทางไปรษณีย์ก็ตาม ตรงส่วนนี้ก็ต้องรอในการที่ "ธรรมะจัดสรร" แล้วแต่ว่าพระหรือว่าครูบาอาจารย์ท่านจะสั่งว่าให้จัดการอย่างไร กระผม/อาตมภาพก็จะดำเนินการไปตามนั้น แต่ว่าทุกชิ้นที่ท่านทั้งหลายส่งมา ไม่ว่าจะเล็กน้อยจนกระทั่งไม่สามารถที่จะคิดเป็นน้ำหนักได้ หรือว่าหนักเป็น ๕ บาท ๑๐ บาท ทางกระผม/อาตมภาพลงบัญชีไว้ทั้งหมด

    บางทีเป็นคณะใหญ่ เขียนชื่อมาเป็นหน้ากระดาษ กระผม/อาตมภาพก็มักจะเลือกเอาชื่อแรกขึ้นมา แล้วลงบัญชีว่าเป็นคณะของท่านเจ้าของชื่อนั้น ก็แปลว่าบุคคลใดที่เป็นผู้นำคณะ ถ้าหากว่าต้องการที่จะตรวจสอบ ก็สามารถที่จะบอกได้ว่าท่านทั้งหลายถวายทองคำมาเมื่อไร โดยใช้ชื่อใคร ทางเราก็เปิดบัญชีตรวจสอบให้โดยสะดวก

    ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ที่กระผม/อาตมภาพจัดทำโครงการหล่อพระพุทธรูปเนื้อเงิน เนื้อนาก และเนื้อทองคำ เป็นต้นมา ปัจจัยที่ได้จากกิจนิมนต์ทั้งหมดนั้น กระผม/อาตมภาพนำลงในการหล่อพระพุทธรูปทุกครั้ง ไม่เคยเก็บไว้เป็นส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่เจ้าภาพถวายมาก็ดี หรือที่ท่านทั้งหลายแอบใส่ย่ามมาในระหว่างที่เดินทางไปและกลับก็ตาม ตรงส่วนนี้ขอให้ทุกท่านโมทนา และถือว่าพวกเราทุกคนมีส่วนในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ร่วมกัน

    ในเรื่องของการหล่อพระพุทธรูปนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สมัยก่อนจะมีแต่ผู้ที่มีอำนาจ อย่างเช่นเจ้าพระยามหากษัตริย์ หรือว่าผู้ที่ร่ำรวยเงินทองชนิดเหลือกินเหลือใช้ คือบรรดามหาเศรษฐี จึงสามารถที่จะทำได้ เพราะว่าสมัยก่อนเรื่องของเทคนิค ตลอดจนกระทั่งฝีมือในการหล่อต่าง ๆ นั้น ไม่ได้มีความสะดวกสบายเหมือนกับสมัยนี้ แล้วช่างฝีมือที่มีความเป็นเลิศในการปั้นแบบ ในการหล่อ ในการผสมโลหะ ก็หาได้ยากมาก ๆ โดยเฉพาะโลหะศาสตร์หลายอย่างได้สาบสูญไปแล้ว
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เมื่อไม่นานมานี้ กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะไปเจอเพื่อนพระรูปหนึ่ง ที่มีความรู้ในการผสมโลหะต่าง ๆ ซึ่งท่านก็ได้ปวารณาเอาไว้ว่า ถ้าต้องการจะสร้างพระพุทธรูป หรือว่าสร้างพระเครื่องก็ขอให้บอก ส่วนที่กระผม/อาตมภาพจะต้องลงทุนก็คือเนื้อเงินกับเนื้อทองคำ ในส่วนของโลหะอื่น ๆ ท่านยินดีที่จะเสาะหามาให้ ตรงจุดนี้ยังไม่เปิดเผยว่าท่านเป็นผู้ใด เพราะเกรงว่าจะมีผู้ไปรบกวนท่านมาก แต่ดูจากผลงานของท่านที่ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์และเปิดให้ดูแล้ว ต้องบอกว่าประทับใจมาก

    ในเมื่อเรื่องของพระพุทธรูปเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องที่ยากที่จะทำได้ ในสมัยของเราเมื่อสามารถที่จะทำได้โดยไม่ยาก โดยเฉพาะในการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการสละเม็ดเงิน ทองคำ หรือว่าเป็นเงินสดก็ตาม พวกเราเองก็ต้องบอกว่าให้รีบทำเอาไว้ เนื่องเพราะว่าถ้าดูจากตัวอย่างของสุปติฏฐิตเทพบุตร ซึ่งทั้งชีวิตทำแต่ความชั่วมาโดยตลอด ละเมิดศีล ๕ เป็นอาจิณ แต่ว่าก่อนตาย ระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้แค่ชั่วลมหายใจเดียว ก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์

    ถ้าหากถามว่ายุติธรรมหรือไม่ ? ก็ยุติธรรมดี เนื่องเพราะว่าทำชั่วมาทั้งชีวิต แค่ระลึกถึงพุทธานุสติเล็กน้อยก่อนตาย ไปอยู่บนสวรรค์จึงมีอายุแค่ ๗ วันมนุษย์เท่านั้น โชคดีเหลือเกินที่ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปโปรดพุทธมารดา เมื่อสุปติฏฐิตเทพบุตรได้มาฟังเทศน์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์อุณหิสวิชยสูตรให้ฟัง สุปติฏฐิตเทพบุตรหมดอายุขัยการเป็นเทวดา จุติตอนนั้น เกิดใหม่ตอนนั้น กลายเป็นเทพบุตรสุดโสภา อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันไปแล้ว

    ดังนั้น...บรรดาโบราณาจารย์ถึงได้ใช้บทอุณหิสวิชยสูตรในการ "สวดต่อนาม" ก็คือในการสวดให้กับคนป่วยฟัง โดยเฉพาะคนที่ป่วยหนักถึงระดับที่ตรีทูต ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า โคม่า ตรงนี้กลายเป็นสิ่งที่ยึดถือว่าศักดิ์สิทธิ์ไป


    แต่อย่าลืมว่าสุปติฏฐิตเทพบุตรที่สามารถรอดจากอบายภูมิไปได้อย่างหวุดหวิดนั้น ก็เพราะว่าในอดีตชาติเคยสร้างพระพุทธรูปมาก่อน แม้ว่าชาตินี้จะทำความชั่วมาตลอดทั้งชีวิต อานิสงส์ความดีในอดีตก็อุตส่าห์ตามมาทัน ทำให้ท่านสามารถรอดพ้นจากอบายภูมิไปได้อย่างหวุดหวิด

    ดังนั้น...ญาติโยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะได้เป็นเจ้าภาพด้วยตนเองก็ดี หรือว่าแค่รู้ข่าวแล้วโมทนาก็ตาม ถือว่าพวกเราทั้งหลายมีส่วนในบุญในกุศลนั้นร่วมกันทั้งหมด
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทู้ที่เปิดให้ทำบุญในเว็บวัดท่าขนุนก็ดี ในเฟซบุ๊กก็ตาม ตรงส่วนนั้นที่จะเปิดให้ร่วมหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อทองคำ ตลอดจนกระทั่งพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อเงิน ก็จะปิดลงช่วง ๒ วันนี้ ก็คือปิดลงภายในเที่ยงคืนวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่จะมาถึง แล้วหลังจากนั้นถ้าหากว่าท่านทั้งหลายร่วมบุญหล่อพระมา ก็จะกลายเป็นสังฆทานไปทั้งหมด ตรงส่วนนี้ก็ต้องบอกว่า เราเปิดโอกาสให้ท่านทั้งหลายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากที่จะได้ร่วมบุญด้วยกัน ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ มาถึงปี ๒๕๖๔ เป็นระยะเวลาถึง ๘ ปีเศษ..!

    ตรงจุดนี้หลายท่านก็มีโอกาสทำบุญทุกครั้งที่ทางวัดท่าขนุนหล่อพระ หลายท่านก็มีโอกาสทำตามวาระ ตามเวลาที่ตนเองเหมาะสมและมีความสะดวก ตรงจุดนี้ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่..ผลบุญของใครก็ของคนนั้น เรื่องของบุญกุศลนั้น ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างได้ ใครทำก็เป็นของบุคคลนั้น ดังนั้น..ในการที่ท่านทั้งหลายบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน หรือว่าในเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับวัดท่าขนุนก็ตาม ถือว่าท่านมีส่วนร่วมในบุญใหญ่ครั้งนี้ทั้งหมด

    อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้กระผม/อาตมภาพได้ไปตรวจรับรางรถไฟที่ผู้รับเหมาจัดทำให้ ซึ่งต้องบอกว่าราคาค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากว่าผู้รับเหมามีความชำนาญ ก็เลยทำเสร็จภายในระยะเวลาแค่ ๔ - ๕ วัน ตรงจุดนี้จากการที่ต้องรอมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ว่าจะมีใครที่มีความสามารถทำให้ ปีแล้วปีเล่าที่ผ่านไปก็ไม่มี แต่เมื่อวาระเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง ทุกอย่างก็ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งของ หรือว่าแรงงานช่าง ตลอดจนกระทั่งเงินทองที่จะเป็นค่าจ้างก็พร้อมมูล ทุกอย่างจึงลงตัวเอาง่าย ๆ แบบที่คิดไม่ถึง

    ตอนนี้ก็รออยู่อย่างเดียวว่าหัวรถจักรที่สั่งเขาสร้าง ซึ่งเขาจะทำให้เหมือนของโบราณทุกประการ ยกเว้นว่าไม่มีเครื่อง เพราะไม่จำเป็นจะต้องใช้นั้น จะเสร็จสิ้นลงเมื่อไร ซึ่งทางผู้รับเหมากำหนดระยะเวลาเผื่อไว้ถึง ๘ เดือน แต่ถ้าหากว่า ๘ เดือน ก็จะเข้าสู่ฤดูฝนของปีหน้า ดังนั้น...ถ้าเป็นไปได้ คาดว่าผู้รับเหมาจะเร่งทำให้เสร็จก่อนพ้นฤดูแล้ง จะได้ทำการติดตั้งหรือว่ายกเข้าออกได้สะดวก ไม่เช่นนั้นถ้าหากว่าเข้าหน้าฝนแล้ว สิ่งของที่หนักเป็นร้อยตันอย่างนั้น ก็คงจะนำเข้าออกได้ยากมาก ต้องเรียกว่าเกิดความทุลักทุเลทีเดียว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ในส่วนอื่น ๆ นั้น ทางวัดท่าขนุนของเรา ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ต้องบอกว่าอยู่ในฐานะเป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ทั้งประเทศก็ว่าได้ เนื่องเพราะว่าเมื่อสักครู่นี้ ท่านเจ้าคุณพระสุธีวชิรปฏิภาณ หรือว่าท่านเจ้าคุณวีรพล เจ้าของรายการธรรมะอารมณ์ดี เพิ่งจะมาดึงกระผม/อาตมภาพเข้าไปในกลุ่มไลน์ของ อ.ป.ก. ซึ่งเป็นหน่วยควบคุม อ.ป.ต. อีกทีหนึ่ง

    คำว่า อ.ป.ต. คือหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งตั้งขึ้นตามตำบลบ้านเมือง ไม่ว่าตำบลนั้นจะมีกี่วัดก็ตาม จะมีหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลแค่ ๑ แห่งเท่านั้น ซึ่งวัดท่าขนุนได้เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ซึ่งเป็นตำบลที่ใหญ่โตมาก

    แล้วอ.ป.ก. หน่วยอบรมประชาชนกลางนั้น อยู่ภายใต้การดูแลของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งปัจจุบันนี้ท่านได้มอบหมายให้ท่านเจ้าคุณวีรพล เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ที่คอยดูแลในส่วนของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งท่านคงเห็นประโยชน์ว่า วัดท่าขนุนนั้นทำงานทั้ง ๘ ด้านของหน่วยอบรมประชาชนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะการส่งรายงานให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีทุกปี และมักจะได้รับรางวัลหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่นของจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกปีเช่นกัน

    ในเมื่อมีตัวอย่างเช่นนี้ ท่านเองก็คงอยากจะให้เป็นแบบอย่างแก่หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลอื่น ๆ ถึงได้เมตตาดึงกระผม/อาตมภาพเข้ากลุ่มไลน์ของหน่วยอบรมประชาชนกลางไปด้วย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเกียรติและเป็นชื่อเสียงของทางวัดท่าขนุน ที่ได้มีโอกาสไปปรากฏให้คนอื่นเขาได้รู้ได้เห็นถึงผลงานที่ได้กระทำมาหลายปี

    ช่วงนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่เกิดดอกออกผล เพราะว่ามะรืนนี้กระผม/อาตมภาพก็จะต้องไปรับรางวัลที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) กรุงเทพมหานคร และร่วมงานสัมมนาของพระสงฆ์ต้นแบบพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์ ซึ่งตรงจุดนี้วัดท่าขนุนเป็นตัวแทนของภาค ๑๔ ที่มีวัดในภาคจำนวน ๑,๕๐๐ กว่าวัด โดยเป็นวัดเดียวในภาคที่ได้รับรางวัลนี้
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    อีกรางวัลหนึ่งที่ระบุว่าได้อย่างชัดเจนแล้ว แต่ว่าให้รอรับในเดือนธันวาคม ก็คือรางวัลพระสงฆ์ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สังคม และจิตอาสาดีเด่น ซึ่งยังไม่ชัดเจนเท่าไรว่าเป็นหน่วยงานใดที่มอบรางวัลนี้ให้ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพเองก็ยินดีที่เขาเห็นผลงานแล้วก็มอบรางวัลให้ ผลงานนี้แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะเป็นผู้รับ แต่ว่าเกิดจากการร่วมมือของทั้งพระภิกษุสามเณร ทางหน่วยราชการ ทางโรงเรียน ตลอดจนญาติโยมในวัดแล้วก็ชุมชน ร่วมกันกระทำและสรรค์สร้างขึ้นมา จนกระทั่งกลายเป็นผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ตรงจุดนี้ก็ต้องขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่ได้เหนื่อยยากกับทางวัดท่าขนุนตลอดมา

    ในงาน อ.ป.ต.ทั้ง ๘ ด้านนั้น มีด้านหนึ่งที่เรียกว่า ด้านกตัญญูกตเวทิตาธรรม ซึ่งอีกสักครู่หนึ่ง ทางเราจะได้กระทำในด้านนี้ ก็คือมีการสวดพระพุทธมนต์ถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งมรณภาพมา ๒๙ ปี ย่างเข้าปีที่ ๓๐ แล้ว

    ทางวัดท่าขนุนนำเอาวันมรณภาพของท่าน คือวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ เป็นหลัก โดยมีการทำบุญถวายท่านมาทุกเดือน คือทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ยกเว้น ๓ เดือนในช่วงเข้าพรรษา ก็จะทำบุญในวันพระที่ใกล้เคียงกับวันที่ ๑๔ ให้มากที่สุด เพราะว่าในพรรษานั้น ทางวัดเรามีการทำบุญวันพระทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่แล้ว ตรงจุดนี้จึงรวบงานเข้าไปรวมกับวันพระที่ใกล้เคียงกับวันที่ ๑๔ มากที่สุด

    จนกระทั่งทุกวันนี้ เวลาบิณฑบาตเช้าวันที่ ๑๓ เมื่อแจ้งแก่ญาติโยมว่า "พรุ่งนี้ขออนุญาตหยุดบิณฑบาต ๑ วัน" โยมก็มักจะถามทันทีว่า "วันที่ ๑๔ อีกแล้วหรือ ?" ก็แปลว่าทุกคนรู้กันว่า ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือนนั้น ทางวัดท่าขนุนจะมีการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบูรพาจารย์ ก็คือหลวงปู่สาย อคฺควํโส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ โดยการทำบุญถวายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ต้องบอกว่าจากเด็กก็แทบจะเป็นคนแก่เลย คือทำมา ๒๙ ปี ย่างเข้าปีที่ ๓๐ แล้ว

    ตรงจุดนี้ขอให้ญาติโยมที่ฟังอยู่ ทั้งที่อยู่ทางบ้านและทั้งที่อยู่ในประเทศก็ดี ต่างประเทศก็ดี ขอให้ทุกท่านได้โมทนาบุญตรงนี้ร่วมกัน อาตมภาพเองบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนตรงนี้แล้ว ก็จะไปดำเนินการสวดพระพุทธมนต์ถวายหลวงปู่สายต่อไป

    จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...