เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 สิงหาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อวานที่เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนหายไป เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไปงานศพของนางละออ พุ่มน้อย โยมแม่ของท่านเจ้าคุณพระเมธีปริยัติวิบูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งบ้านของท่านเจ้าคุณอยู่ถึงบ้านพนมนาง อำเภอห้วยกระเจา จากที่วัดท่าขนุนนี่ก็วิ่งไปหลายชั่วโมง ถ้าหากว่าอยู่ฟังสวด ก็ไม่ต้องหวังว่าจะกลับทันเคอร์ฟิว จึงจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตบอกลาพวกเราไปโดยสัตตาหะกรณียะ

    วันนี้ยังมีภารกิจที่พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้นำต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ๖๐๐ ต้น ก็ประมาณหนึ่งคันรถกระบะ ไปมอบให้กับพระเดชพระคุณพระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ท่านจะได้นำไปปลูกและแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้ในระดับหนึ่ง

    ต้องบอกว่าในเรื่องของงานศพนั้น ไม่ว่าจะโดยตำแหน่ง หรือโดยมารยาท กระผม/อาตมภาพก็ต้องไป พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านเคยให้หลักการในการดำเนินชีวิตของฆราวาสเอาไว้ว่า คนเราถ้า"เจ็บเยี่ยมไข้ ตายเยี่ยมผี มีแบ่งปัน" ไปไหนก็มีแต่คนรัก ซึ่งตรงนี้ผมลองเปรียบเทียบดูแล้วกับสังควัตถุ ๔ ก็ลงกันได้พอดี


    สังคหวัตถุ ๔ ประกอบไปด้วยทาน คือการให้ ก็คือ มีแล้วแบ่งปัน

    ปิยะวาจา พูดดี พูดไพเราะ เวลาเขาเจ็บป่วย ไปเยี่ยมไข้ สอบถามอาการ เวลาเขาตาย ไปเยี่ยมศพ พูดจาให้กำลังใจแก่ญาติที่อยู่ข้างหลัง
    อัตถจริยา เป็นการทำประโยชน์ต่อผู้อื่น ซึ่งในส่วนนี้ก็คือการช่วยในเรื่องของกำลังใจจริง ๆ

    และสมานัตตตา ที่คนอื่นมักจะแปลกันว่า ทำตนเสมอต้นเสมอปลายแล้วคนจะรัก ผมบอกว่า ถ้าหากว่าเขาทำชั่วเสมอต้นเสมอปลาย คนจะรักหรือไม่ ? เพราะว่าสมานัตตตาตัวนี้ต้องแปลว่า เสมอด้วยตนเอง ก็คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาชอบอะไร เราทำแบบนั้น เขาไม่ชอบอะไร เราอย่าทำแบบนั้น โดยที่วัดจากตัวเราเองโดยสามัญสำนึก อะไรดีอะไรชั่ว
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    อย่างเช่นว่า เราไม่อยากให้คนอื่นมาฆ่าเรา มาทำร้ายเรา เราก็อย่าไปฆ่าใคร อย่าไปทำร้ายใคร ไม่อยากให้คนอื่นมาลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิงสิ่งของของเรา เราก็ต้องไม่ไปลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิงสิ่งของของคนอื่น ดังนั้น...ส่วนใหญ่แล้วสังคหวัตถุ ๔ ข้อสุดท้าย คนมักจะแปลความผิด ก็คือไปแปลว่าเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้

    คราวนี้ในการที่นำเอาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรไปมอบให้กับหลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ ที่ผมเรียกแบบเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นอัตถจริยา ก็คือทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะสมุทรสาครเป็นพื้นที่น้ำเค็ม ปกติแล้วต้นฟ้าทะลายโจรขึ้นไม่ได้ เอาไปให้ท่าน ก็ต้องบำรุงรักษากันเป็นพิเศษ แต่ท่านก็จะลองสู้ดู ว่าจะสามารถทำให้ฟ้าทะลายโจรไปเจริญงอกงามใกล้ทะเลได้หรือไม่ ?

    สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ติดอันดับหนึ่งในการระบาดรอบแรก ๆ ของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ปัจจุบันนี้หลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ท่านบอกว่า "น่าเสียดาย ตกอันดับไปแล้ว โดนกรุงเทพมหานครแย่งอันดับหนึ่งไปแล้ว สมุทรสาครกลายเป็นอันดับสอง" ซึ่งตรงนี้ผมฟังแล้วรู้สึกว่าน่ากลัวมาก

    ถ้าบอกว่ากรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่แออัดที่สุดในประเทศไทย ก็น่าจะว่าได้ และความแออัดนี่แหละ ที่จะเป็นต้นเหตุให้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่กระจายได้ดีที่สุด ยังดีที่ว่ารัฐบาลของเราบริหารได้ถูกต้อง อย่าเพิ่งด่าอาตมา..! คำว่า บริหารได้ถูกต้อง ก็คือ ปล่อยคนที่มาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้มีที่ทางให้รักษากลับไปตายที่บ้าน ก็เลยทำให้จำนวนคนที่แออัด ลดน้อยถอยลงไปเยอะเลย..!

    ถ้าหากว่าจะระบาด ก็คงจะไม่ได้มากมายเหมือนก่อนนี้ เพราะว่าคนกรุงเทพฯ จริง ๆ มีอยู่ประมาณ ๔ ล้านเศษเท่านั้น แต่อีกเป็น ๑๐ ล้านนั้น มาจากต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำมาหากินทั้งสิ้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    คราวนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถ้าหากว่าเราทำตามที่ทาง ศบค.หรือว่าทางด้าน อสม. หรือแพทย์พยาบาลแนะนำ ก็คือใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ก็น่าจะพอช่วยได้ในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ เพียงแต่ว่า ต้องประกอบไปด้วยสติ ก็คือต้องไม่เผลอ และต้องประกอบไปด้วยความไม่ประมาท ถ้าหากว่าขาดสติแล้วประมาท เราจะกลายเป็นเหยื่อของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทันที

    ดังนั้น..พวกท่านจะเห็นอย่างชัดเจนว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้นสำคัญในทุกที่ ถ้าหากว่าขาดหลักธรรมเมื่อไร เราไม่ได้เป็นเหยื่อของกิเลสอย่างเดียว แม้กระทั่งเป็นเหยื่อของคน เป็นเหยื่อของสัตว์ เป็นเหยื่อของเชื้อโรค ก็สามารถที่จะเป็นได้หมด
    คราวนี้การที่ทุกท่านล้างมือบ่อย ๆ อย่าล้างเสียเปล่า ที่ผ่านมาอาจจะล้างเสียเปล่า เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยบอกกล่าวก็ได้ ว่าโบราณเขามีคาถาล้างมือ

    เหตุที่ต้องมีคาถาล้างมือ ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว บรรดาท่านที่เล่นไสยศาสตร์ อย่าลืมนะว่า คาถาอาคมทุกอย่าง เขาจัดเป็นไสยศาสตร์ทั้งหมด ท่านที่เล่นไสยศาสตร์จะมีกฎเกณฑ์ที่ยึดถือ มีข้อห้ามมากมาย ฉะนั้น...เขาถือว่ามือสองข้างของเราสัมผัสจับต้องสิ่งสกปรกอยู่เรื่อย ถ้าจะหยิบจะจับอะไรที่เป็นวัตถุมงคล หรือว่าชิ้นงานที่จะนำมาเสริมสร้างเป็นวัตถุมงคล เขาก็ต้องมีคาถาล้างมือ เพื่อทำให้มือสะอาดเสียก่อน


    ก็ต้องบอกว่า ข้อยึดถือพวกนี้ จริง ๆ แล้วเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ศึกษาทางคาถาอาคม เพราะว่าถ้าทำครบแล้วก็จะมั่นใจว่า ตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะใช้หรือว่าจะสร้างวัตถุมงคลนั้น ตามข้อที่ครูบาอาจารย์ท่านกำหนดมา
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    คาถานี้ผมได้มาจากหลวงปู่กลั่น วัดเขาอ้อ สมัยที่ลงไปขอวิชา เรียนวิชากับท่าน ถ้าหากว่าเป็นทางฝ่ายปกครอง หลวงปู่กลั่นก็คือพระครูอดุลธรรมกิตติ์ ท่านอยากได้ผมไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ..! ซึ่งตรงจุดนี้ เป็นเหตุที่ทำให้วัดเขาอ้อเจริญรุ่งเรืองมาได้เป็นร้อยเป็นพันปี เพราะว่าวัดเขาอ้อไม่ได้จำกัดว่าใครจะมาเป็นเจ้าอาวาส ไม่ต้องเป็นลูกหม้อก็ได้ แต่คุณต้องมีคุณสมบัติในการเรียนคาถาอาคมได้ "ขึ้น" เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นคนนอกเข้าไป แล้วท่านเห็นว่าเราทำคาถาขึ้น มีสมาธิ มีสมาบัติอะไรที่สมควร ท่านยอมมอบตำแหน่งให้เลย

    ตรงนี้ก็อยากให้พวกเราพิจารณาอยู่อย่างหนึ่งว่า ในเรื่องของการเป็นเจ้าอาวาส การเป็นผู้นำ จริง ๆ แล้ว ตำแหน่งนั้นมาพร้อมกับหน้าที่ จะเหนื่อยมากกว่าคนอื่น แต่ผมก็เห็นบางคนแย่งชิงตำแหน่งกันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แปลว่าอยากเหนื่อย อันนั้นเป็นเรื่องของท่าน

    คาถาล้างมือ เพื่อที่เราจะทำให้มือไม้บริสุทธิ์ สามารถหยิบจับวัตถุมงคลหรือชิ้นงานต่าง ๆ มา เพื่อใช้งานหรือว่าเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคล โดยที่ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ตัวคาถาเขาว่า คงคาสะระ คงคาสะระ คงคาสะระ

    ไอ้ตัวสะระ ก็คือ "สระ" แบบที่เราสระผมนั่นแหละ แต่ถ้าอ่านเป็นบาลี อ่านว่า สะระ ว่า ๓ จบไป ล้างมือไปด้วย
    หลังจากนั้น ก็เป็นการไล่ของไม่ดีออก ว่าต่อด้วยคาถาว่า พุทธังปัจจักขามิ ธัมมังปัจจักขามิ สังฆังปัจจักขามิ ว่าไปล้างมือไป ๓ จบเหมือนกัน เคล็ดลับอยู่ตรงคำว่า ปัด ก็คือเอาออก
    แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นการเสกมือ ก็ล้างมือแล้วว่าต่อไปว่า พุทธัง ปัจจุทะรามิ ปะริสุทโธ อธิษฐามิ ๓ จบเหมือนกัน

    ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่ส่วนใหญ่เป็นพระ ฟังดูก็รู้ว่า เป็นการดึงเอาบาลีจากส่วนต่าง ๆ มา แล้วก็ปนกับภาษาไทยด้วย
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    แต่ว่าเรื่องของคาถา เราต้องใช้ด้วยความเชื่อมั่น โดยปราศจากความลังเลสงสัยจริง ๆ ถ้าถามว่าเราจะรู้ว่าอย่างไรว่าทำคาถานั้นขึ้นแล้ว ? ก็ต้องทดลองดู..! เวลาหยิบจับวัตถุมงคลมา อธิษฐานใช้งาน ขลังกว่าปกติหรือเปล่า เหล่านี้เป็นต้น

    สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้คาถาต่าง ๆ แก่ผม ท่านมักจะกำชับว่า "ภาวนาคู่กับลมหายใจอย่างน้อย ๓๐ นาทีนะ แล้วอย่าลืมรักษาศีล ๕ ข้อให้บริสุทธิ์ด้วย" ผมเองไม่รู้หรอกครับ ว่าโดนหลวงพ่อท่านหลอกให้ภาวนา พอทำขึ้นก็วิ่งไปรายงานท่าน ว่าคาถามีผลอย่างนี้ ๆ ตามที่หลวงพ่อบอกมา ท่านก็ชมว่า "เออ...ดี ๆ ลูก เอาคาถาบทใหม่ไป บทนี้มีอานุภาพอย่างนี้"

    ก็ต้องไปนั่งทำต่อ ส่วนใหญ่ท่านให้เวลา ๓ เดือน แต่ผมมักจะทำแค่วันสองวันก็สำเร็จแล้ว เพราะว่ามาตอนหลัง เข้าใจว่าสมาธิระดับไหนที่ทำแล้วคาถาเกิดผล ก็ทรงสมาธิระดับนั้นภาวนา ก็เกิดผลจริง ๆ
    แต่มีคาถาบางอย่างที่มีข้อกำหนดพิเศษมา ผมลองใช้สมาธิระดับที่เคยเกิดผลแล้วไม่สำเร็จครับ อย่างคาถามหาประสาน เป็นต้น ตำราบอกว่าต้องใช้ใบตองปิดแผลแล้วว่าคาถาเป่า ในเมื่อผมมั่นใจว่าคาถาบทนี้ ใช้กำลังใจแค่นี้ ผมลองโดยไม่ใช้ใบตองดู ปรากฎว่า เป่าแล้วแผลไม่ติด เป็นเรื่องที่แปลกมาก ก็คือคำสั่งครูบาอาจารย์ไม่ควรที่จะไปฝืนอย่างเด็ดขาด

    ในวันนี้ท่านทั้งหลายก็ได้คาถาไป ลองไปซักซ้อม ลองไปใช้งานดู วันต่อ ๆ ไปถ้ามีโอกาส ก็จะมาบอกกล่าวกันต่อ เนื่องจากว่าสมัยก่อนที่เรียนจากหลวงพ่อวัดท่าซุงและหลวงปู่ท่านอื่น ๆ มา มีบทพระคาถาไม่ถึงร้อยก็ใกล้เคียง กว่าที่จะทำขึ้นแต่ละอย่าง แรก ๆ ยังไม่มีความเข้าใจ ก็ใช้เวลาหลายวันหน่อย แต่ถ้ามีความเข้าใจว่าใช้กำลังใจแบบไหน พักเดียวก็ทำได้แล้ว

    จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวให้แก่ญาติโยม ทั้งที่อยู่ที่นี่และที่บ้าน ให้ได้รับทราบแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...