ร่องรอยแห่ง จิตพระอริยะเจ้า ที่เราจะต้องฝึกตาม จะต้องรู้ จะต้องมีในใจ

ต่อไป จะเป็นการแยก การฝึกอรูปญาน
ที่เป็นทั้งของ พราห์ม และของ พระพุทธะ

การ ฝึกอรูปญานของพราห์ม นั้น
จะเน้นไปที่ อากาส เป็นอย่างแรก
แล้วก็ ส่งจิตไป อวกาศ
ต่อจากนั้นส่งจิตออกไปที่ สุริยะจักรวาล
และอันสุดท้าย ส่งจิตออกไป ที่ แกแลคซี่
จะเป็นการ ส่งจิตออกนอกตัวทั้งหมด สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ส่วนการ ฝึกอรูปญานของพุทธะ นั้น
เป็นการฝึกดึงเข้าในตัวเอง ไม่ส่งออกนอกให้เป็น สมุทัย
ก็คือ 1 ส่งจิตออกไปที่ อากาสที่อยู่รอบๆตัวเรา
2 ดึงจิตกลับมาอยู่ที่ ผิวกายที่รับรู้อยู่รอบๆตัวเรา
3 จากนั้นดึงจิตกลับมาอยู่ใน ท้องของเรา ให้เหลือประมาณ ผลส้ม
4 จากนั้นจึงจิตกลับมาให้เล็กลงอีก ให้เหลือแค่เพียง แสงหิ่งห้อย
5 อันนี้แหละที่เป็น หัวใจหลักของการฝึกแบบพุทธะ
ก็คือ การดับแสง หรือ การเข้านิโรธ นั่นเอง

พวกพราห์ม จะเข้า นิโรธ หรือ การดับ ไม่ได้ เพราะว่า
ฝึกจิตให้ขยายออกไปรับรู้นอกตัว ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
มีแต่ การขยายออกไป จึงไม่สอดคล้องกับ การเข้านิโรธสมาบัติ
พระพุทธองค์ ก็เลยแก้ เป็นการส่งจิตแบบเล็กลงเรื่อยๆ
จนสุดท้าย ผู้ฝึก ก็จะเข้าใจ และจะสามารถเข้า นิโรธ ได้
ในท้ายที่สุดของการฝึกอรูปญาน

 

แต่ก่อน ผมคิดแบบนั้น น่ะครับ
ว่าเรา นำจิต ออกนอกโลกได้
แต่ มาวันนี้ กลับ รู้สึกว่า เราไม่ได้เคย
ออกนอกโลกเลย เหตุเพราะ นอกโลกไม่มีอากาศ ละอีกอย่างนึง ผมลองยิง ดาวเทียม
ไปบนชั้นบรรยากาศ เจอ สิ่งประหลาด
มากมายเลยครับ

 

เป็นไปได้สองอย่าง ก็คือ กายทิพย์ หรือ อรูปญาน
ถ้าฝึกสองอย่างนี้ได้ อย่างหนึ่งอย่างใด
คุณก็จะไปถึงที่ ที่ไม่มีอากาสอยู่ได้
โดยไม่ขาดอากาสตายเสียก่อน ลองฝึกดู

 

ใครๆ ที่มี ความสามารถในภาษาอื่นๆ
ก็ลองสอน แบบสนทนาธรรมแบบถาม - ตอบ ดูบ้าง
มันจะง่ายกว่า การสอนแบบพระเทศน์ให้ฟังอย่างเดียว
ชาวต่างชาติ และ ต่างศาสนา และ นิกายอื่นๆ จะได้เข้าใจ
พระพุทธศาสนาที่แท้จริง มากขึ้นไปอีก

 

ต่อไปในภายภาคหน้า ถ้ามีเหตุเภทภัยอะไร
ไม่สามารถติดต่อกันได้ ให้ไปที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ นะครับ
เราจะต้องสร้าง เมืองศรีเทพ ให้ใหญ่กว่า อันก่อน

 

ก็ไม่ต้องไปอยากให้ใครเป็นยังงัย
หรือ
ไม่ต้องไปอยากให้ใครไม่เป็นยังงัย
ก็เพราะธรรมทั้งหลาย(กุศลธรรม
และอกุศลธรรม)
ล้วนเป็นอนัตตา
คับ