ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    23 พ.ย. 63 อัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า การระบาดของโควิดแม้จะส่งผลให้ผู้บริโภคกักตุนสินค้า และมีส่วนผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยปรับเพิ่มขึ้น แต่ด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทำให้แรงซื้อของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศลดลง เพราะต้องระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นการตั้งราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับสูงเกินไปจะทำให้ขายไม่ได้

    นอกจากนี้ ยังต้องรอดูนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐว่าจะขับเคลื่อนทางด้านใดบ้าง เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก ทำให้การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตร (จีดีพี) ของไทยต้องทำเดือนต่อเดือน

    อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อนำมาวิเคราะห์กับผลผลิตสินค้าเกษตร ทำให้สามารถพยากรณ์แนวโน้มราคาพืชเศรษฐกิจ เช่น ยาง ปาล์มน้ำมัน ข้าว มันสำปะหลัง ซึ่งคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น แม้จีดีพีเกษตรในปีนี้จะติดลบ3.4 - 2.4%

    ทั้งนี้ ในส่วนของยางพารา ในปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิต 4.7 ล้านตัน ลดลงประมาณ 2 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาในช่วงนี้อาจจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีปัจจัยภายนอก เช่นตลาดซื้อขายล่วงหน้า อัตราแลกเปลี่ยน เข้ามากดราคาในบางช่วง แต่จากผลผลิตที่ลดลง และกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลผลัดใบ ประกอบกับความต้องการใช้ถุงมือยาง มีมากขึ้นอุตสาหกรรมล้อยางเริ่มฟื้นตัว จึงเป็นแรงผลักให้ราคายางในช่วงต้นปีหน้าปรับเพิ่มขึ้น หรือจะไม่ลดลงไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉลี่ยกิโลกรัม(กก.)ละ 60 บาท

    ด้านปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวไปถึงไตรมาสแรกของปี2564 เฉลี่ยปาล์มดิบที่กก.ละ 6-7 บาท น้ำมันปาล์ม(ซีพีโอ) กก.ละ 25 – 25.25บาท จากความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นหลังจากการระบาดของโควิด เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับมาตรการของรัฐที่กระตุ้นการใช้น้ำมันปาล์ม โดยการนำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล รวมทั้งการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินของผู้ประกอบการ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเฉลี่ยเดือนละ 2.4 แสนตัน ประกอบกับผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงไตรมาสที่ 4 (ต.ค.- ธ.ค.) ออกสู่ตลาดน้อย ประมาณ 19% ของผลผลิตทั้งหมด 16.36 ล้านตัน โดยคิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบเดือนต.ค. 2.1 แสนตัน พ.ย.1.8 แสนตัน และธ.ค.1.6 แสนตัน ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสที่ 4 สต็อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงเฉลี่ยอยู่ระหว่างเดือนละ 3-8 หมื่นตัน และคาดว่า

    ณ สิ้นปี 2563 สต็อกน้ำมันปาล์มดิบจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 2.8-3.2 แสนตัน จากสต็อกที่เหมาะสมที่ 2.5 แสนตัน

    ขณะที่มันสำปะหลัง คาดว่าปีนี้จะมีผลผลิต 2.8 ล้านตัน หรืออาจจะน้อยกว่านี้เพราะ มีปัญหาโรคใบด่างเกิดขึ้น แนวทางแก้ไขโรคดังกล่าวคือโค่นแล้วเผาทำลาย ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดช่วงกลางเดือน พ.ย.- ธ.ค. ดังนั้นจึงคาดว่าราคาจะอยู่ในระดับที่ดี เพราะจีนสั่งซื้อมันเส้นจากไทยมากขึ้นเพื่อป้อนโรงงานเอทานอล ซึ่งปัจจุบันราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรได้รับเฉลี่ยที่ กก.ละ 2-2.50 บาท

    สำหรับข้าว นาปีมีผลผลิต 25.5 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้น 6 % เนื่องจากน้ำฝนตกทั่วถึง เฉลี่ยราคาข้าว ที่ 8,000-8,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก ซึ่งราคาอาจจะลดลงเล็กน้อยเพราะเป็นช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดพร้อมกัน แต่ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการผลักดันส่งออกข้าวไทยยังลำบาก เนื่องจากข้าวไทยมีราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยมีช่องห่างของราคาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการระบาดของโควิด ทำให้กำลังซื้อลดลง โดยหันไปบริโภคข้าวชนิดอื่นที่ถูกกว่า และคุณภาพใกล้เคียงของไทย
    “ราคาโดยรวมปีนี้ยังถือว่าดี เกษตรกรพอใจ แต่ราคาควรจะดีกว่านี้ หากไม่มีการระบาดของโควิด แต่หากมองในแง่ของเกษตรกร แล้ว ปีนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะรัฐบาลมีโครงการประกันรายได้ และมีมาตรการช่วยเหลือควบคู่ ซึ่งจะจูงใจให้เกษตรกรลงทุนต่อเนื่องในฤดูกาลผลิตต่อไป”

    สิ่งที่รัฐบาลควรเข้ามาแก้ปัญหาในขณะนี้ควรมีมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ เพื่อให้ขับเคลื่อนไปต่อให้ได้ในสถานการณ์ที่ท้าทายมากขึ้น ซึ่งในไตรมาสแรกของปี2564 จะเป็นช่วงจับตามองที่สำคัญ

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/908893

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ❗️ #โควิดฮ่องกงวันนี้ (23 พย)
    ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +73, ติดในฮ่องกง +63
    .
    พี่แป๋วสังเกตมาหลายวันละ จำนวน “ไม่ทราบต้นตอ” จริงๆ ไม่เยอะนะคะ (ประมาณ 10+/-)
    .
    หลักๆ ที่ยอดพุ่ง คือ พวกที่ไป dance club/studio (ตอนนี้ที่ติดเชื้อคอนเฟิร์มแล้ว 130+ คน)
    เพราะฉะนั้นถ้าจับพวกนี้มาตรวจให้ได้เร็วที่สุด น่าจะสกัดไม่ให้ลุกลามกว่านี้ได้
    .
    ลูกเพจพี่แป๋วคนไหนที่เคยไปสตูดิโอเต้นรำไม่ว่าที่ไหนก็ตาม แนะนำให้เฝ้าระวังอาการตัวเอง หรือไปตรวจซะนะคะ
    วันนี้ สธ ประกาศเพิ่มอีก 4 สตูดิโอ
    ส่วน 14 สตูดิโอที่เคยประกาศไปแล้ว deadline ในการไปตรวจคือพรุ่งนี้ (24 พย) ใครไม่ไปตรวจถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
    .
    =============
    #เคสต่างประเทศ (10 คน)
    มาจาก:- อังกฤษ(4) อินโดนีเซีย(2) สหรัฐอเมริกา(1) UAE(1) อินเดีย(1) รัสเซีย(1)
    .
    #เคสในฮ่องกง (63 คน)
    - 50 คน เกี่ยวโยงถึง Starlight Dance Club (สรุป cluster นี้ รวมทั้งสิ้น 132 คน)
    .
    #ไม่ทราบต้นตอ (8 คน)
    - พนักงานของ Hsin Kuang Banquet Hall (San Po Kong)
    - พนักงานร้าน Gold Beauty Star Restaurant (Tai Kok Tsui)
    - ครูโรงเรียน True Light Middle School of Hong Kong (Tai Hang)
    - เจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ รพ Union Hospital (Tai Wai)
    - แม่บ้าน (housewife) 4 คน ใน Wong Tai Sin, Tsuen Wan, Ho Man Tin, North Point
    .
    #รอผลยืนยัน (70+ คน)
    ไฮไลท์
    - เจ้าหน้าที่แล็บการประปา Pak Kong Water Treatment
    - เจ้าหน้าที่หน่วยงาน Horticulture Unit of Housing Department
    .
    #DanceStudio ที่พบการเชื่อมโยง [เพิ่มเติม]
    - Victory Yan Studio (Cheung Sha Wan)
    - The World Dancer Performing Arts Federation (Tsim Sha Tsui)
    - Starway Music Studio (Tsim Sha Tsui)
    - Hit Power Entertainment Production Company (Aberdeen)
    .
    #ร้านอาหาร ที่พบการเชื่อมโยง
    - Kwan Ho Seafood Restaurant (Mei Foo)
    - Double Hapiness Restaurant (Kowloon Bay)
    .
    อื่นๆ รายงานพรุ่งนี้ค่ะ
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมื่อไม่มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
    “โควิด” ก็ “เละ” มากขึ้น
    บทเรียนจากอเมริกา
    .
    คำถามสำคัญ ท่ามกลางการระบาดของโควิด – 19 ในสหรัฐอเมริกาก็คือ ถ้าหากอเมริกา มีระบบ “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” แล้ว อัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อ - ผู้เสียชีวิต จะดีกว่านี้หรือไม่?
    .
    เพราะอย่างที่รู้กัน สหรัฐฯ มีค่ายา และค่ารักษาพยาบาล ที่ “แพง” ที่สุดในโลก และเป็นประเทศเจริญแล้วไม่กี่ประเทศ ที่ยังไม่มีระบบหลักประกันสุขภาพครอบคลุมประชากรทุกคน เพราะบริษัทประกันสุขภาพเอกชน และบริษัทยา มีอิทธิพล “เหนือตลาด” มานานนม อย่างน้อยก็ว่ากันที่ 50 – 60 ปี
    .
    รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุว่า การที่คนอเมริกันจำนวนมากถูกทิ้ง ไม่สามารถเข้าสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เสียชีวิตจาก “โควิด” มากขึ้น
    .
    ปัจจุบัน มีชาวอเมริกันกว่า 33 ล้านคน ที่อายุต่ำกว่า 65 ซึ่งไม่มีประกันสุขภาพใดๆ ไม่ได้อยู่ในระบบ Medicare หรือ Medicaid ของรัฐ ทำให้ต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลเอง และทำให้คนเหล่านี้ “หลีกเลี่ยง” การหาหมอ เพราะอาจทำให้เกิด “หายนะ” ทางค่าใช้จ่ายตามมา
    .
    อาเมอร์ เรอแมน แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยวิกฤตประจำมลรัฐมิชิแกน บอกว่าเขาเห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างผู้ป่วยเบาหวานที่มีประกันสุขภาพ และไม่มีประกันสุขภาพ โดยผู้ป่วยที่ไม่มีประกันสุขภาพนั้น มักจะมีอาการของโรคเบาหวานที่รุนแรงกว่า และทำให้อาการของโรคโควิด – 19 รุนแรงตามไปด้วย นั่นหมายความว่า กลุ่มคนที่ไม่มีประกัน จะป่วยตายด้วยโรคโควิด – 19 อย่างรวดเร็ว
    .
    และแม้จะมีประกันสุขภาพแล้ว แต่ระบบของอเมริกัน ก็ต้องการให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งอยู่นาน บริษัทประกัน ก็ต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่ม จ่ายเงินให้โรงพยาบาลเพิ่ม และเมื่อค่ารักษา เป็นไปในรูปแบบเอกชน รัฐไม่สามารถควบคุมมาตรฐานได้ ค่าใช้จ่ายก็แพงอย่างหยุดไม่อยู่
    .
    เรอแมนบอกว่าผู้บริหารโรงพยาบาลของเขา “กระตุ้น” ให้แพทย์ปล่อยผู้ป่วยกลับบ้านไวๆ เพื่อจะได้รับผู้ป่วยรายใหม่เข้ามา และโรงพยาบาล จะได้กำไรเพิ่ม แม้บริษัทประกันเหล่านี้ จะไม่จ่ายโรงพยาบาลเพิ่มเติม หากผู้ป่วยต้องกลับมายังโรงพยาบาลอีกรอบ ด้วยอาการแทรกซ้อนอื่นๆ
    .
    “ยิ่งให้คนไข้ออกเร็วเท่าไหร่ แพทย์ก็จะได้รับคำชื่นชมมากขึ้นเท่านั้น โรงพยาบาล ถึงกับมีบอร์ดประกาศอันดับใน “เลานจ์” ของหมอเลยว่า หมอคนไหน สามารถปล่อยคนไข้กลับบ้านได้เร็วที่สุด โดยวัดจากจำนวนวันที่คนไข้แอดมิต ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งคนไข้ยิ่งนอนในโรงพยาบาลนาน แพทย์ยิ่งกดดันมากขึ้น
    .
    กลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นักแสดงตลก บาเตน ฟิลิปส์ รู้สึกเจ็บคอ ก่อนขึ้นเครื่องบินไปแอตแลนตา ระหว่างที่อยู่บนไฟลท์ ฟิลิปส์มีอาการเหนื่อยหอบ หลังเครื่องลงจอด ภรรยาพาเขาไปยังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
    .
    โรงพยาบาลรัฐวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคหลอดลมอักเสบ และส่งเขากลับบ้าน อย่างไรก็ตาม 2 วันถัดมา แพทย์วินิจฉัยอีกครั้งว่าเขาเป็นโรคโควิด – 19 ฟิลิปส์อยู่ในห้อง ICU อีก 6 สัปดาห์ ก่อนจะให้เขาเลือกว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลต่อ จ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม หรือจะรีบออกจากโรงพยาบาล เพื่อลดค่าใช้จ่ายในบิลลง เพื่อไปรักษาตัวที่บ้าน
    .
    หากเป็นผู้ป่วยปกติ ก็คงไม่มีปัญหาใหญ่โต แต่ตัวเขามีโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้โควิด – 19 ทำพิษร้ายแรงกับเขามากกว่าเดิม ยิ่งเมื่อไม่มีหลักประกันสุขภาพ และต้องจ่ายค่ายาด้วยตัวเอง ทำให้เขาตัดสินใจออกจากโรงพยาบาล กลับไปรักษาตัวที่บ้าน
    .
    ในที่สุด ฟิลิปส์ถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลมากกว่า 1.4 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.3 แสนบาท) แม้ว่าโรงพยาบาลที่เขารักษาจะได้รับงบประมาณ และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลถึง 145 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านกฎหมาย CARES Act ซึ่งรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านเมื่อเดือนมีนาคม เพื่อช่วยให้คนเข้าถึงการรักษาโคโรนาไวรัส 2019 มากขึ้น
    .
    แต่เงินช่วยเหลือจากรัฐก็ไม่ครอบคลุมค่ารักษาของฟิลิปส์ จนสุดท้าย เขาต้องเปิดแคมเปญผ่านเว็บไซต์ GoFundme ขอ “ระดมทุน” ค่ารักษา ฟิลิปส์บอกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่าสหรัฐฯ ต้องการระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากขนาดไหน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลก ต่างชื่นชมประเทศที่มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าว่า ยิ่งระบบนี้เข้มแข็งแค่ไหน คนยิ่งป่วยน้อยกว่า ตายน้อยกว่า เพราะ “ระยะห่าง” ระหว่างระบบการรักษาพยาบาล และ “คนไข้” นั้น ห่างกันน้อยลง ที่เห็นชัดก็คือระบบของไทย ระบบของไต้หวัน หรือกระทั่ง แคนาดา ประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ
    .
    แคนาดา ประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ มีสัดส่วนการตายต่อผู้ป่วยโควิด – 19 น้อยกว่าเกินครึ่ง โดยอัตราตาย อยู่ที่ 282 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่สหรัฐฯ มีอัตราตายอยู่ที่ 722 ต่อ ประชากร 1 ล้านคน
    .
    ที่สำคัญก็คือ เมื่อประชาชนจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้อยกว่า เพราะรัฐมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าคอยดูแล ก็จะทำให้ประชาชนเหลือเงินไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ไม่ต้องคอยพะวงว่าหากเจ็บป่วยจะต้องจ่ายค่ารักษาเท่าไหร่ และหากนอนโรงพยาบาลยาวๆ จะต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่ารักษาหรือไม่
    .
    ทั้งหมดนี้ ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพ และเป็นความท้าทายของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าจะทำอย่างไร ทั้งการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ที่ยังระบาดไม่หยุด และการวางระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในระยะยาว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของไบเดน
    .
    แน่นอน ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และยังต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวนาน แต่เมื่อไวรัสเปิด “แผล” นี้ให้เห็น ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่สหรัฐฯ จะได้เริ่มสะสางเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที

    #COVID19 #โควิด19 #หลักประกันสุขภาพ #สหรัฐอเมริกา

    อ้างอิงจาก
    https://www.aljazeera.com/news/2020/11/14/universal-healthcare-critical-covid-19-pandemic

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "นวัตกรรมล่าสุด รับมือวิกฤตฝุ่นควัน"

    กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับรัฐบาล US จัดทำระบบติดตาม ประเมิน และพยากรณ์คุณภาพอากาศโดยใช้เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนในการจัดการปัญหามลพิษอากาศ

    เรียกว่า Mekong Air Quality Explorer (http://aqatmekong-servir.adpc.net/en/mapviewer/)

    โดยผ่านความร่วมมือกับ USAID, NASA, ADPC, SERVIR-Mekong และ GISTDA ประเทศไทย

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กรมควบคุมมลพิษจับมืออเมริกาใช้เทคโนโลยีอวกาศติดตามการแพร่รกระจายฝุ่นพิษและคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อประกาศเตือนประชาชนในการใช้ชีวิตช่วงฝุ่นควัน
    .
    นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้แถลงความร่วมมือการใช้เทคโนโลยีอวกาศแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ร่วมกับ ดร.สตีเว่น จี โอลีฟ ผอ.องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา สำนักงานภาคพื้นเอเชีย นายอัสลัม เปอร์เวส รอง ผอ.การบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา
    .
    ความร่วมมือดังกล่าวได้ร่วมกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจัดทำระบบการติดตาม ประเมิน และพยากรณ์คุณภาพอากาศโดยใช้เทคโนโลยีอวกาศ หรือ Mekong Air Quality Explorer (http://aqatmekong-servir.adpc.net/en/mapviewer/) เพื่อแก้ปัญหามลพิษอากาศผ่านความร่วมมือกับองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซ่า) ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย โครงการเซอร์เวียร์แม่โขง และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า
    .
    ทั้งนี้ คพ.จะใช้เครื่องมือดังกล่าวใช้แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองตามภารกิจและมาตรการในวอร์รูม เพื่อยกระดับการดำเนินงานอย่างเข้มงวดให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งระบบการติดตามดังกล่าวจะมวลผลข้อมูลดาวเทียมและระบบแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของนาซ่าราย 3 ชั่วโมง สามารถเพิ่มขีดความสามารถการรายงานความเข้มข้นฝุ่น PM2.5 เชิงพื้นที่ครอบคลุมทั้งประเทศ
    .
    รวมทั้งจะร่วมกับจิสด้าพยากรณ์ฝุ่นล่วงหน้า 3 วัน รวมถึงติดตามแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 จุดความร้อน (Hotspot) พื้นที่เผาไหม้ การกระจายตัวและทิศทางของฝุ่นละออง ซึ่งมีความแม่นยำถึงร้อยละ 70 ตลอดจนติดตามพฤติกรรมการแพร่กระจายของฝุ่น PM2.5 เชิงพื้นที่ ทั้งในประเทศและรอบประเทศที่ความถี่ทุกชั่วโมง สามารถใช้ประกอบการออกคำแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมความพร้อมและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
    .
    นอกจากนี้ มีระบบการติดตาม ประเมิน และพยากรณ์คุณภาพอากาศ ยังเป็นเครื่องมือสนับสนุนข้อมูลให้กับแอปพลิเคชัน Burn Check เพื่อลงทะเบียนบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตรกรรมด้วย
    #ฝุ่นพิษPM2_5 #ฝุ่นควันภาคเหนือ #เมืองมลพิษ #ฝุ่นพิษกรุงเทพ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “การเดินทางกลับประเทศไทยโดยเที่ยวบินพิเศษที่จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ในเดือนธันวาคม 2563”

    ตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดสรรโควตาในการเดินทางกลับประเทศไทยโดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 951 ในวันที่ 13 และ 27 ธันวาคม 2563 (เที่ยวบินละ 60 คน) ให้แก่ชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ที่เคยลงทะเบียนไว้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ แต่เนื่องจากมีผู้ยืนยันการเดินทางไม่ครบตามจำนวนโควตาที่จัดสรร สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอเปิดให้ผู้ที่สนใจและมีความพร้อม ให้ลงทะเบียนเพื่อขอรับโควตาเดินทาง (ผู้เดินทางสามารถเข้ารับการกักตัวในที่พักที่รัฐบาลจัดให้) ทางลิงก์ ดังต่อไปนี้ค่ะ

    ทั้งนี้ สำหรับท่านที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ หรือยังไม่แน่ใจว่า จะพร้อมเดินทางโดยเที่ยวบินข้างต้นหรือไม่ ขอความกรุณาไม่ลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์ไว้ก่อน เพราะจะทำให้ผู้มีความพร้อมในการเดินทางจริงๆ ไม่สามารถลงทะเบียนได้นะคะ

    เที่ยวบิน TG 951 วันที่ 13 ธันวาคม 2563
    https://bit.ly/35TGqi4 (คงเหลือ 26 ที่) ปิดรับการลงทะเบียนวันที่ 1 ธันวาคม 2563

    เที่ยวบินที่ TG 951 วันที่ 27 ธันวาคม 2563
    https://bit.ly/3foUEe0 (คงเหลือ 44 ที่) ปิดรับการลงทะเบียนวันที่ 15 ธันวาคม 2563

    สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอสงวนสิทธิ์ รับลงทะเบียนเฉพาะทางลิงก์ข้างต้นเท่านั้น โดยหากมีผู้ลงทะเบียนครบแล้วก่อนกำหนด ระบบจะปิดรับการลงทะเบียนอัตโนมัติค่ะ สำหรับผู้ที่เคยยืนยันการเดินทางโดยเที่ยวบินข้างต้นก่อนหน้านี้และได้รับการตอบกลับจากสถานเอกอัครราชทูตฯ แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำนะคะ

    ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ปิดรับการลงทะเบียนล่วงหน้าทาง Email เพื่อเดินทางไปยังประเทศไทยโดยเที่ยวบินพิเศษแล้ว พี่น้องชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ที่ประสงค์จะเดินทางไปยังประเทศไทย สามารถดูขั้นตอนในการเดินทางโดยเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ (Semi Commercial Flights) ในลิงก์นี้ ค่ะ https://thaiembassy.no/เปิดเพิ่มเที่ยวบินกึ่ง/


    #การทูตเพื่อประชาชนทุกแห่งหนเราดูแล
    #น้ำใจไทยไม่ทิ้งกัน

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #News1feed : พบสาวพม่าวัย 17 ติดโควิด-19 ลอบข้ามน้ำเมยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลฯ แม่สอด แม่-ญาติ รวมถึงคนขับรถรับจ้าง-เจ้าหน้าที่ รพ.เสี่ยง ต้องกักตัวอีกกว่า 10 ราย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000120604
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #News1feed : 3 ผู้ชุมนุมแยกเกียกกายเข้าแจ้งความกับตำรวจบางโพ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐฐานทำร้ายร่างกาย ฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่จนเกิดแผลพุพอ เนื้อหลุดลอก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000120738
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ข่าวสั้น (23 พ.ย.) วันหยุดวันสุดท้ายที่รัฐบาลและผู้ว่าทุกจังหวัดคงแทบไม่ได้หยุด เพราะประชุมกันทั้งวัน แผนคร่าว ๆ โกทูจะเอายังไงก็ออกมาแล้วนะคะ ดูที่ข้อ (3)

    #โควิด
    (1) #วัคซีนไฟเซอร์ ไฟเซอร์คาดจะเริ่มฉีดที่อเมริกาได้ 11 ธันวาเป็นต้นไป ส่วนญี่ปุ่นยังใช้ทันทีไม่ได้ จะเริ่ม clinical test ก่อน เพราะต้องรอดูว่าใช้กับคนญี่ปุ่นได้ไหม

    ญี่ปุ่นน่าจะกุมภา-มีนาเป็นต้นไป
    ———-

    (2) ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศวันนี้ถือว่าสูงสำหรับวันจันทร์ที่ปรกติยอดจะน้อยสุด ยอดคนป่วยหนักที่กำลังรักษาสูงที่สุดตั้งแต่มีโควิดมา

    ยอดเพิ่มวันนี้ 1,519 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย
    คนอาการหนัก 331 ราย (new high)

    เอะฮิเมะ นิวไฮของจังหวัดที่ 26 ราย
    อิวาเตะ มีผู้เสียชีวิตจากโควิดรายแรก

    ———

    (3) ผู้ว่าซุซุกิ พ่อเมืองฮอกไกโด กำลังถกกันภายในจังหวัดเพื่อเสนอให้เอาเมืองซัปโปโรออก

    ผู้ว่าโยชิมุระ พ่อเมืองจ. โอซาก้า จะขอให้รัฐบาลเอาโอซาก้าออกจาก Go to Travel หลัง 27 พ.ย. เป็นต้นไป

    ⚠️แผนคร่าว ๆ: โกทู ซัปโปโร และ โอซาก้า
    ยกเลิกรับยอดจองใหม่
    คนจองแล้ว : ถ้าไป ไม่ได้รับส่วนลด / ค่าแคนเซิลรัฐบาลน่าจะจ่าย

    ✒️รอคอนเฟิร์มก่อนนะคะ ยังเป็นแค่แผนร่าง

    —————-

    #การเมือง

    (4)‍♂️ เรียกตัวเลขาอดีตนายกอาเบะเข้าสอบสวนกรณี “งานชมซากุระ” หลังพบว่าเก็บค่าเข้างานแค่ 5,000 เยน และส่วนเกินนายอาเบะน่าจะเป็นคนจ่าย (เข้าข่ายการใช้เงินโดยมิชอบ)

    #บันเทิง

    (5)⚔️พบหินยักษ์คล้ายหินที่ปรากฏใน คิเม็ตสึ โนะ ไยบะที่จ. นางาโนะ ตอนนี้เด็ก ๆ ก็ไปคอสเพลย์ถ่ายรูปกันค่ะ ^^

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #สรุปข่าว
    เครดิต:
    NHK
    TVAsahi
    Yahoo! Japan News

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมื่อวานนี้...เครื่องบินโบอิ้ง 747
    ของสายการบิน #บริติชแอร์เวย์ส
    เกิดเพลิงไหม้ที่สนามบินในสเปน
    https://es.rt.com/80xb

    CR: photo by ActualidadRT

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แฉ! เนทันยาฮู เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียอย่างลับๆ

    สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 อิสราเอล ได้เปิดเผยข่าวการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียของนาย เบนจามิน เนทันยาฮู ถือเป็นการเดินทางอย่างลับๆ เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย)

    สถานีโทรทัศน์อิสราเอล ช่องดังกล่าว ยังได้อ้างรายงานจากแหล่งข่าวอิสราเอล ว่า นาย เนทันยาฮู ได้เดินทางยังเมือง Neom โดยเขาเข้าพบปะกับเจ้าชายมูฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฏราชกุมารของซาอุดิอาระเบีย และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในเมืองนี้ด้วยเช่นกัน

    Barak Ravid ผู้สื่อข่าวชาวอิสราเอล ได้รายงานด้วยเช่นกันว่า นาย ยอสซี่ โคเฮน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอล มอสสาด ได้เดินทางร่วมกับนาย เนทันยาฮูด้วย

    ขณะเดียวกัน สถานีวิทยุอิสราเอลได้แจ้งข่าวการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียของนาย เนทันยาฮู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม สำนักงานของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็ยังไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆเกี่ยวกับข่าวนี้ ทั้งยังไม่ได้มีการปฏิเสธอีกด้วย

    #เพจเก็บตกตะวันออกกลาง

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ จะเปิดเผยคณะรัฐมนตรีกลุ่มแรกในวันอังคารนี้ และจะลดขนาดของพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งลง

    นายรอน เคลน ผู้ที่ไบเดนวางตัวให้เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว กล่าวว่า นายไบเดนได้ประกาศรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในทำเนียบขาวมาแล้วบางส่วน และจะได้เห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรีกลุ่มแรกในวันอังคาร แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อ

    ก่อนหน้านี้ นายไบเดน ได้เลือกรัฐมนตรีคลังไว้แล้ว โดยสื่อระบุว่า ผู้ที่อยู่ในโผรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ มีนางเจเนท เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐรวมอยู่ด้วย

    ขณะที่บรรดาพันธมิตรของนายไบเดน กล่าวว่า นายไบเดนน่าจะเปิดเผยชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยวางตัวนายแอนโทนี บลิงเคน อดีตนักการทูตให้มารับตำแหน่งนี้

    สำหรับนายบลิงเคน วัย 58 ปี ซึ่งเป็นคนสนิทของนายไบเดนมานาน เคยดำรงตำแหน่งหมายเลข 2 ในกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ในรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งมีนายไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี โดยที่ผ่านมานายบลิงเคนได้โน้มน้าวว่าสหรัฐจำเป็นต้องเป็นผู้นำที่แข็งขันของโลก มีส่วนร่วมกับพันธมิตร และต้องมองว่าประเทศที่พยายามขึ้นมามีบทบาททัดเทียม เช่นจีน คือผู้ขัดผลประโยชน์

    ส่วนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ และงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปกติมักจะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันนั้น นายรอน เคลนกล่าวว่า จะยังดำเนินไปตามธรรมเนียมแต่จะลดขนาดลง เนื่องจากหลายพื้นที่ของสหรัฐ มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    #เพจเก็บตกตะวันออกกลาง

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สัญญาณจากดวงอาทิตย์
    ที่ Quebec ประเทศแคนนาดา

    Quebec KAnada
    FB_IMG_1606174786800.jpg FB_IMG_1606174789086.jpg FB_IMG_1606174791466.jpg FB_IMG_1606174794035.jpg
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 23, 2020 อยู่บ้านนานๆ! ผ่านมา 20 วัน กดตัวเลขติดเชื้อไม่ลง เยอรมนีอาจต่ออายุปิดล็อคประเทศอีก

    รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เยอรมนี กล่าวว่า อาจมีการต่ออายุมาตรการปิดล็อคประเทศไปอีกราว 1 เดือน หรือถึงวันที่ 20 ธันวาคม หลังจากมาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ผ่านไป 20 วัน พบว่าสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในเยอรมนี ยังคงระบาดสูงต่อเนื่อง

    ด้านนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี นางแองเกลา แมเคิล มีกำหนดการประชุมในวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาการตัดสินใจต่อ หรือไม่ต่อมาตรการปิดช็อคประเทศ หากมีมติต่ออายุมาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้ยืดเยื้อไปเกินกว่าวันที่ 2 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันในแต่ละฝ่ายว่า หากต้องต่ออายุมาตรการปิดล็อกประเทศออกไปอีก ก็ควรให้มีผลไปสิ้นสุดก่อนเทศกาลคริสต์มาสนี้

    ขณะที่ ร้านอาหาร บาร์ ยังคงต้องปิดบริการต่อไป แต่สถาบันการศึกษาให้เปิดทำการตามปกติ สำหรับการรวมตัวในสถานที่ส่วนตัว ต้องไม่เกิน 10 คนจากจำนวน 2 ครอบครัว แต่อาจเป็นไปได้สูงที่จะลดจำนวนลงเหลือเพียง 5 คนเท่านั้น

    ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะการระบาดโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ในทวีปยุโรปมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน ทำให้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 จำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สะสมในเยอรมนี เพิ่มเป็น 936,155 ราย อยู่อันดับที่ 13 ของโลก และเป็นอันดับที่ 6 ของยุโรป ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 14,373 ราย

    #เยอรมนี #ปิดประเทศ #ปิดเมือง #โควิด19 #btimes

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nov 24, 2020 ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุกว่า 59.4 ล้านคน ยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 1.4 ล้านคน The Covid-19 infected globally toll surpassed 59.4 million

    เวลา 6.00 น.รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 59,455,143 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 12,740,982 ราย อินเดีย 9,177,641 ราย บราซิล 6,087,608 ราย ฝรั่งเศส 2,144,660 ราย รัสเซีย 2,114,502 ราย สเปน 1,606,905 ราย ยูเค 1,527,495 ราย อิตาลี 1,431,795 ราย อาเจนติน่า 1,374,631 ราย และโคลอมเบีย 1,254,979 ราย

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,401,223 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 263,507 ราย บราซิล 169,485 ราย อินเดีย 134,251 ราย เม็กซิโก 101,676 ราย สหราชอาณาจักร 55,230 ราย อิตาลี 50,453 ราย ฝรั่งเศส 49,232 ราย อิหร่าน 45,255 ราย สเปน 43,131 ราย และเปรู 35,641 ราย

    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 502,110 ราย(16,002) ฟิลิปปินส์ 420,614 ราย(8,173) เมียนมา 80,505 ราย(1,765) สิงคโปร์ 58,165 ราย(28) มาเลเซีย 56,659 ราย(337) ไทย 3,920 ราย(60) เวียดนาม 1,312 ราย(35) กัมพูชา 306 ราย บรูไน 149 ราย(3) และสปป.ลาว 39 ราย

    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19 #covid19 #Misterban #btimes

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระวัง !! ... ชีวิตจริงที่คนไทยต้องรู้ มหาวิบัติไวรัสกลืนเมือง ... นี่คือเมืองล่าสุดที่มีอัตราตายจาก Covid19 มากที่สุดของโลก ... กว่าจะรู้ตัว ก็เหมือนจะสายไปแล้ว เธอไม่เคยคิดว่าเมืองเธอจะมีการระบาดขนาดหายนะแบบนี้ได้ แต่ท้ายที่สุดหายนะก็มาถึงเมืองเธอ ไวรัสอยู่ทุกหนทุกแห่ง และท้ายที่สุดเธอติดเชื้อจากพ่อแม่ตัวเองแต่ยังต้องทำงานเพื่อช่วยเหลือให้กำลังใจผู้ติดเชื้อที่บางคนกำลังจะเสียชีวิต !!

    #ความลับCovid19ตอนพิเศษ ... อ่านแล้วส่งให้คนที่คุณห่วงใยเพื่อมิให้ประมาทกัน ...

    เมื่อสายพันธุ์ใหม่ยังมีความเสี่ยงจะเข้าไทยผ่านทั้งพม่าและมาเลเซียได้ทุกวินาที ... มาตรการรัฐต่างๆ ถ้ามาไม่ครบ และมาสายเกินไป อาจเป็นแบบรัฐนี้ ... North Dakota

    .........

    #มหาวิบัติไวรัสกลืนเมือง ตอนที่ 1

    Dakota Report

    พรุ่งนี้จะมีตอนที่ 2 ---> ตัวเลขที่น่าสนใจ รัฐบาลไทยต้องรู้ ก่อนจะสายเกินไป

    .........

    ทั้งที่ตอนแรกเธอคิดว่าไวรัสจะระบาดหนักเฉพาะในเมืองใหญ่แบบนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย ไม่คิดว่าจะระบาดในเมืองตัวเองเลยด้วยซ้ำ ...

    การระบาดทุกเมืองเริ่มจาก แค่ติดเชื้อ 1 คนจนไป 100 คน และไป 1000 คน จนระบาดทั้งเมือง และทั้งรัฐแบบในเรื่องนี้ .... ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย

    นสพ Washington Post ทำสกู๊ปข่าวดีๆ บอกเล่าจากปาก แะชีวิตจริง นศ พยาบาลที่มาช่วยเป็น Contact Tracer ตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อมาตรวจ

    ภายในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์แบบระเบิดเวลาได้ลงมาที่รัฐนี้ จากที่สบายใจมีผู้ติดเชื้อหลักร้อยคน จนระบาดแบบก้าวกระโดดเพราะแทบไม่มีมาตรการปิดเมือง หรือบังคับใส่มาส์กมาช่วยลดจำนวนคนติดเชื้อเลย

    North Dakota กลายเป็นรัฐที่มีอัตราผู้ติดเชื้อมากที่สุดเมื่อเทียบกับประชากรของสหรัฐ

    และ มีอัตราตายสูงที่สุดในโลกไปแล้ว

    จนสถานการณ์จริงเลวร้ายลงอย่างรวดเร็วขนาดระบบ Contact Tracing ต้องล่ม ต้องหยุดติดตามทุกคน หันมาเลือกตาม เลือกช่วยแค่บางคนที่จำเป็นกว่า !!

    Things got so bad, so fast, that we’ve surrendered one of our key weapons against the pandemic: Test and trace went by the wayside

    ผู้ติดเชื้อใหม่มีมากมาย จนทีมงานได้แต่รีบโทรบอกว่า "คุณติดเชื้อแล้วนะ"

    จากที่ต้องคอยโทรถามรายละเอียดมากมาย จนต้องเปลี่ยนมาถามเท่าที่จำเป็น แะเลือกเคสที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อในบางสถานที่ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ทำงานในโรงเรียน ผู้ที่ตั้งครรภ์

    ..........

    ตอนนี้ได้แต่หว่านอีเมล์ ให้ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อภายในระยะ 6 ฟุต ในระยะเวลา 15 นาที โดยที่มีคนใดคนหนึ่งไม่ได้ใส่มาส์ก ติดต่อกลับมา

    .......

    ปกติผู้ติดตามจะมีความเชี่ยวชาญในการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดมาตรวจ

    แต่ตอนนี้ทุกคนที่ทำงาน ได้แต่ภาวนาให้ ประชาชนแต่ละคนมีความรับผิดชอบส่วนบุคคล และความสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยง เพื่อติดตามคนรู้จักของตัวเองมาตรวจหาเชื้อ !!

    That’s it: We have to trust, or pray, that they will follow through.

    My co-workers and I were trained to investigate cases and trace contacts; the general public doesn’t have that expertise.

    It’s upsetting that we’re leaving that work to them

    และหลายรัฐของสหรัฐที่เริ่มระบาดหนัก ก็ใช้วิธีการนี้แล้ว โยนความเสี่ยง ความรับผิดชอบ รวมถึงชะตาชีวิตให้อยู่ในกำมือของประชาชนแต่ละคนกันแล้ว

    .......

    ถ้าอยากรู้ว่า Covid19 นั้นระบาดง่ายดาย และระบาดหนักจนนอกเหนือการควบคุมได้แค่ไหน ดูชีวิตของ นศ พยาบาลคนนี้ได้

    ........

    ชีวิตช่างเล่นตลก ตรงที่ท้ายที่สุดทั้งพ่อและแม่ของ นศ คนนี้ก็ติดเชื้อ Covid19 แม้อาการไม่มาก แต่พอ นศ นั่งไล่ถามคำถามมากมาย แต่ทั้ง 2 คนยังหาคำตอบไม่ได้ว่าติดเชื้อจากใครมา ?!?

    #และที่ตลกร้ายกว่าเธอติดเชื้อจากพ่อแม่ตัวเอง !!

    และงานล้น และหนักขึ้นจนเธอต้องยังทำงานทั้งๆ ที่ติดเชื้อและมีอาการพอควร !!

    ...........

    ในงานโทรติดตาม และบอกผลการตรวจกับผู้ติดเชื้อ

    มีครอบครัวที่ติดเชื้อทุกคน พ่อแม่ และลูกอีก 5 คน

    มีญาติที่มารับโทรศัพท์แทนผู้ติดเชื้อ และบอกว่าเขาได้นอน รพ. แล้ว และอาจจะไม่รอดด้วย

    มีคนตะโกนทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ

    โดยทั่วไป คนเริ่มยอมรับมากขึ้นเรื่องว่าตัวเองติดเชื้อ

    #เพราะตอนนี้เชื้อCovid19อยู่ทุกหนแห่งในเมืองแล้ว

    In general, though, it seems as though people have grown more accepting when they are told they are sick. The news doesn’t surprise them much:

    After all, the coronavirus is everywhere.

    ...........

    งานของ นศ เริ่มจาก 15 ชม. ต่อสัปดาห์ ตอนนี้เป็นทำงานได้แทบตลอดเวลา

    ได้พูดคุยตอบคำถาม ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ แม้โดยกฎหมายยังทำไม่ได้ แต่ตอนนี้จำเป็นต้องทำแล้ว

    สิ่งที่ทำได้ คือ คอยรับฟังปัญหา ความโดดเดี่ยว ความเจ็บป่วยของแต่ละคน และคอยปลอบใจ

    .....

    หลายเดือนที่ผ่านมา เธอคิดว่าไวรัสจะโจมตีเมืองใหญ่ รัฐใหญ่ที่คนพลุกพล่าน แต่เธอคิดผิด !!

    #ไวรัสCovid19เวฟล่าสุดนี้กลืนเมืองของเธอทั้งเมือง

    For months, it seemed as if we were relatively safe here — that the pandemic would hit big, busy places in New York and California

    but might not reach us.

    Instead, the current wave has swallowed my state.

    .....

    สถานการณ์ล่าสุดฉุกเฉินขนาดที่ว่า เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ใน รพ. ไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้ว่าการรัฐอนุญาตให้บุคลากรที่ติดเชื้อสามารถทำงานในหอผู้ป่วย Covid19 ได้แล้ว

    Even if hospitals have open beds, they don’t have enough staff;

    the governor recently proposed allowing health-care workers who test positive to continue working in covid-19 units

    ......

    สัปดาห์ล่าสุด North Dakota เริ่มออกกฎหมายบังคับใส่มาส์ก (แม้จะดูเหมือนสายเกินไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่ออกเลย)

    ทีมงานของเธอแอบดีใจ แต่ท้ายที่สุดก็พบความจริงว่า มาตรการบางส่วนยังเอื้อให้ระบาดต่อเนื่องได้ เช่น โรงเรียนยังเปิดเรียน ร้านอาหารยังเปิดได้

    หน่วยงานรัฐยังภูมิใจที่ได้ขยายการตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น

    หารู้ไม่ ว่าอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อต่อจำนวนการตรวจนั้นสูงมากคือ 15 % นั่นหมายถึง ยังมีคนติดเชื้อที่ไม่ได้มาตรวจอีกมากมาย และยังมีการระบาดอย่างหนักในสังคม (ถึงขนาด ตรวจยังไงก็เจอผู้ติดเชื้อเรื่อยๆ)

    but the positivity rate is so high — nearly 15 percent — that there are surely cases we’re not detecting.

    So many tests are coming back positive that we can’t keep up

    คนหลายคนไม่รู้ผลตรวจไวพอ หรือรู้ผลตรวจช้าจนสามารถแพร่เชื้อกับคนอื่นได้อย่างไม่จำกัด !!!

    Some people don’t know about their positive result until a week after their test. By the time they hear from us, they may have spread it to countless others

    .....

    เมื่อเธอคิดย้อนกลับถึงหลายเคสที่เธอได้พูดคุย ร้องไห้กับผู้ติดเชื้อหรือญาติ เธออาจเป็นคนสุดท้ายที่ผู้ติดเชื้อนั้นๆ ได้พูดคุยก่อนจะใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิตเสียด้วยซ้ำไป

    เธอตามอ่านใบมรณบัตรของแต่ละคน นี่คือผู้คน และนี่คือสิ่งที่เธอจะจดจำผู้คนเหล่านี้ !!

    I wonder whether I was the last person they spoke to before they were intubated.

    I read their obituaries. This is my way of reminding myself: This was a person.

    ความตายมากมายจะเกิดตามหลังการระบาดใหญ่เสมอ เธอไม่รู้ว่าจะยังทำใจสู้ต่อได้หรือไม่ ?!?

    #รัฐบาลไทยถ้าได้อ่านพึงระวังไว้อย่าประมาท

    การระบาดเวฟล่าสุดในรัฐ North Dakota นั้น ทำให้เห็นว่า เมื่อมาตรการมาไม่ครบ หรืิอมาช้าเกินไป

    การใส่มาส์ก หรือขอความร่วมมือให้อยู่บ้านนั้น ไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งการระบาดใหญ่อีกต่อไปแล้ว !!

    มาตรการที่เคยสำเร็จ เริ่มไม่ได้ผล ทุกคนอ่อนล้า กำลังจะหมดแรง !!

    เธอได้แต่ภาวนาให้ประชาชนรับผิดชอบตัวเองให้ได้ โดยการโทรติดตามผู้ใกล้ชิดตัวเองให้มาตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง

    มันน่าหวาดกลัวที่ว่า มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง !!

    .....................

    อ้างอิงจาก

    1. I'm a contact tracer in North Dakota. The virus is so rampant that we gave up.

    https://www.washingtonpost.com/outl...wp_main&utm_medium=social&utm_source=facebook

    ..............

    2. Researchers: 1 in 83 positive in North Dakota in past week

    November 12, 2020
    https://apnews.com/article/virus-outbreak-health-north-dakota-50a1e0d0a4157eaa1e98fe34a2431b0d

    ...............

    3. North Dakota Hits Highest COVID-19 Mortality Rate In The World

    South Dakota is close behind as residents of both states also have the lowest rate of face mask use.

    11/16/2020

    https://m.huffpost.com/us/entry/us_5fb30a6ac5b6a46646702d74

    ...............

    4. North Dakota nurses worry about working with sick colleagues

    November 16, 2020

    https://apnews.com/article/pandemic...rus-pandemic-c7680d009417c8cd66ffe9b8e3c53c47

    .................

    5. With North Dakota hospitals at 100% capacity, Burgum announces COVID-positive nurses can stay at work

    In an attempt to alleviate some of the staffing concerns, Burgum announced that the state health officer has amended an order that will allow health care workers with asymptomatic cases of COVID-19 to continue working in hospitals' COVID-19 units. The Republican governor said hospital administrators asked the state to take the extraordinary step.

    November 10th 2020

    https://www.grandforksherald.com/ne...ounces-COVID-positive-nurses-can-stay-at-work

    .
    FB_IMG_1606175051570.jpg FB_IMG_1606175055158.jpg FB_IMG_1606175058475.jpg FB_IMG_1606175088572.jpg FB_IMG_1606175096953.jpg FB_IMG_1606175102975.jpg

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รายงานพิเศษของบีบีซีเผยหลักฐานบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้จงใจจุดไฟเผาป่าฝนขนาดใหญ่ในอินโดนีเซียเพื่อเอาพื้นที่ไปทำสวนปาล์มน้ำมัน ชาวบ้านในท้องถิ่นจะสามารถปกป้องป่าฝนผืนใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ของเอเชียได้หรือไม่

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ‘โจชัว หว่อง’ พร้อมอีก 2 แกนนำ‘ม็อบฮ่องกง’ ถูกขังรอฟังจะโดนติดคุกนานแค่ไหน หลังยอมรับสารภาพคดีชุมนุมผิดกฎหมายปีที่แล้ว

    <b>โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง พร้อมนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันอีก 2 คน ถูกควบคุมตัวส่งเข้าเรือนจำในวันจันทร์ (23 พ.ย.) ระหว่างรอการตัดสินระวางโทษ ภายหลังทั้งหมดยอมรับสารภาพผิดต่อศาลในข้อหาต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเดินขบวนนอกกองบัญชาการตำรวจ ระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว </b>

    หว่อง วัย 24 ปี พร้อมกับ อีแวน ลัม และ แอกเนส โจว ยอมรับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับการจัดการประท้วง, การเข้าร่วมการประท้วง, และการยุยงผู้อื่นให้เข้าร่วมการประท้วงที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ที่บริเวณด้านนอกกองบัญชาการตำรวจฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ทั้ง 3 ต่างเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง “เดโมซิสโต” ที่เวลานี้ถูกยุบเลิกไปแล้ว

    จำเลยทั้ง 3 ถูกศาลสั่งควบคุมตัวเข้าเรือนจำเพื่อรอศาลกำหนดระวางโทษ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม ทำให้ดูจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาจะเจอโทษจำคุก ทั้งนี้ผู้มีความผิดฐานเข้าร่วมในการชุมนุมอย่างผิดกฎหมายอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี โดยขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำความผิด อย่างไรก็ดี ศาลแขวงซึ่งเป็นสถานที่พิจารณาคดีนี้นั้น ปกติแล้วสามารถสั่งจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 3 ปี

    เมื่อปีที่แล้ว ฮ่องกงตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนหนักจากการประท้วงใหญ่เรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อนานกว่า 7 เดือน ซึ่งบางครั้งดึงดูดผู้ชุมนุมไหลบ่าสู่ท้องถนนได้เป็นเรือนล้าน แต่บ่อยครั้งได้เกิดความรุนแรง ทั้งการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ การที่ผู้ประท้วงเข้าทำลายข้าวของสถานที่สาธารณะ และการที่กลุ่มซึ่งผู้ประท้วงระบุว่าเป็นพวกอันธพาลของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เข้าทำร้ายผู้ประท้วง

    ปักกิ่งได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรี และทางการผู้รับผิดชอบในฮ่องกงได้เล่นงานตั้งข้อหาอาญาต่อพวกผู้ประท้วง ซึ่งบ่อยครั้งนอกจากเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว ยังมีการแสดงออกเรียกร้องให้ฮ่องกงแยกตัวเป็นเอกราช รวมทั้งขอร้องต้องการให้ต่างชาติโดยเฉพาะสหรัฐฯและอังกฤษเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือพวกเขา และในที่สุดรัฐสภาจีนในปักกิ่งก็ออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ขึ้นมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้

    “เราจะยังคงต่อสู้เพื่อเสรีภาพต่อไป –และเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะคุกเข่าให้ปักกิ่งและยอมจำนน” หว่องบอกกับพวกผู้สื่อข่าวขณะเดินทางไปยังศาล

    ทันทีที่อยู่ภายในห้องพิจารณาคดี หว่องได้รับสารภาพความผิดฐานยุยงและจัดให้มีการชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ ลัม รับสารภาพในข้อหายุยง ส่วน โจว ซึ่งปัจจุบันอายุ 23 ปี ยอมรับความผิดฐานยุยงและเข้าร่วมการประท้วง

    “ทุกคนต้องยืนหยัดกันที่นั่นต่อไป ผมรู้ว่ามันหนักหนาสาหัสสำหรับพวกคุณที่จะยังอยู่ที่นั่น” หว่องตะโกนออกมาจากข้างในศาล

    พวกผู้สนับสนุนกลุ่มเล็กๆ ที่รายล้อมรถเรือนจำซึ่งพาพวกเขาเดินทางออกมาจากศาล ต่างพากันตะโกนว่า “เติมน้ำมัน!!” และ “ไม่มีพวกก่อจลาจล มีแต่ทรราช!”

    ทั้งนี้วลี “เติมน้ำมัน” เป็นคำในภาษาจีนซึ่งนิยมนำไปใช้ในการเชียร์กีฬาด้วย โดยมีความหมายให้อดทนยืนหยัดต่อสู้ต่อไป

    ถึงแม้ยังอยู่ในวัยเยาวชน แต่หว่องก็เคยติดคุกมาแล้วจากการเป็นผู้นำการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย และบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่าเขาพร้อมที่จะกลับมาอีก

    “ในทางอารมณ์ความรู้สึกแล้ว ผมลังเลใจในทุกๆ ทางที่จะต้องติดคุก แต่ในทางเหตุผล ผมไม่มีที่ว่างใดๆ เหลืออยู่เลยสำหรับที่จะมาคร่ำครวญเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ จำนวนมาก” เขากล่าวขณะอยู่นอกศาล โดยมุ่งอ้างอิงถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงรวมแล้วเป็นจำนวนหลายร้อยคดี ซึ่งตอนนี้ก็ถึงบทสรุปแล้วเช่นกัน

    ลัม ซึ่งพูดก่อนหน้าการพิจารณาคดีของศาลเช่นกัน กล่าวว่า เขาก็เตรียมพร้อมแล้วสำหรับการต้องติดคุก

    หว่องเขียนลงในหน้าเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันอาทิตย์ (22) ว่า เขากับลัมได้ตัดสินใจที่จะรับสารภาพภายหลังหารือกับทางทีมทนายของพวกเขา ก่อนหน้านี้ทั้งสองไม่ยอมรับสารภาพในทุกข้อหาความผิด

    สำหรับ โจว นั้น ได้ยอมสารภาพผิดไปก่อนแล้วในข้อหายุงยงผู้อื่นและเข้าร่วมการประท้วงที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ

    “ถ้าถูกลงโทษ นี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันติดคุก” เธอโพสต์ข้อความนี้ทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ (22) “ขณะที่ฉันมีการเตรียมตัวทางจิตใจสำหรับเรื่องนี้ ฉันก็ยังคงรู้สึกกลัวนิดหน่อย”

    หว่องกลายเป็นนักเคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนยังอายุแค่วัยรุ่นต้นๆ ด้วยการรวบรวมนักเรียนในฮ่องกงมาร่วมมือกันจัดการรณรงค์ต่อสู้ในปี 2012 เพื่อคัดค้านแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของฮ่องกงให้มีลักษณะ “รักชาติ” มากขึ้น คล้ายๆ กับบนแผ่นดินใหญ่ยิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นแบบแผนมุ่งปลูกฝังค่านิยมตะวันตก การรณรงค์นี้ประสบความสำเร็จ โดยทางการฮ่องกงต้องยอมพับแผนการนี้ไป

    ในปี 2014 เขากับ โจว ช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจและเป็นผู้นำของการประท้วง “ขบวนการร่ม” ซึ่งมุ่งเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวฮ่องกงเป็นผู้เลือกผู้นำและสมาชิกสภานิติบัญญัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่อำนาจชี้ขาดยังอยู่ที่ปักกิ่ง การรณรงค์คราวนั้นซึ่งส่วนใหญ่นำโดยนักเรียนนักศึกษา ได้เข้ายึดพื้นที่ถนนย่านศูนย์ราชการและธุรกิจของฮ่องกงเอาไว้เป็นเวลา 79 วัน แต่ก็ยุติลงด้วยความล้มเหลวพ่ายแพ้

    หว่องถูกจำคุกในความผิดฐานเกี่ยวข้องพัวพันกับการประท้วงเหล่านี้ เช่นเดียวกับพวกแกนนำส่วนใหญ่ของขบวนการ

    เขายังคงอยู่ในคุก ตอนที่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมากเปิดฉากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ถึงแม้เขาได้ไปปรากฏตัว ณ การชุมนุมครั้งต่างๆ จำนวนมาก ภายหลังเขาได้รับการปล่อยตัว

    อย่างไรก็ตาม การประท้วงในปี 2019 ไม่ได้มีผู้นำที่ประกาศตัวออกมาอย่างเปิดเผย ขณะที่การเคลื่อนไหวและการนัดหมายต่างๆ อาศัยสื่อสังคม และแชทฟอรั่ม แบบที่มีการเข้ารหัส

    ตั้งแต่เริ่มปี 2020 เป็นต้นมา การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงได้ค่อยๆ ดับมอดลง ซึ่งสาเหตุสำคัญเห็นกันว่ามีทั้งเนื่องจากความเหนื่อยอ่อนจากการต่อสู้อันยืดเยื้อ, การที่มีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 10,000 คน, และการเกิดโรคระบาดโควิด-19

    มาตรการต่อสู้โรคระบาด เป็นต้นว่า ห้ามผู้คนชุมนุมในที่สาธารณะเกินกว่า 4 คน ถูกบังคับใช้แทบจะตลอดทั้งปีนี้

    กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ประกาศใช้กับฮ่องกง ยังทำให้จีนมีอำนาจควบคุมโดยตรงเหนือเขตบริหารพิเศษแห่งนี้เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่การแสดงทัศนะหลายๆ อย่างถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นต้นว่า การเรียกร้องเอกราช หรือการเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไบเดนเมินถูกเตะถ่วง เดินหน้าเตรียมเผยชื่อครม. รีพับลิกันเริ่มมีเสียงโวย ทรัมป์ทำสหรัฐฯกลายเป็น‘สาธารณรัฐกล้วย’

    ไบเดนเตรียมประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร (24) ไม่สนใจทรัมป์ที่ยังทวิตตกร่องว่าถูกโกงการเลือกตั้งและพยายามฟ้องร้องเพื่อเปลี่ยนผลการนับคะแนน ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากขึ้นหมดความอดทนและเรียกร้องให้อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้ยอมรับความพ่ายแพ้ ชี้ทรัมป์กำลังทำให้อเมริกากลายเป็น “สาธารณรัฐกล้วย”

    รอน เคลน ประธานคณะคณะทำงานของโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์รายการ “ดีส วีก” ของเครือข่ายเอบีซีเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ย.) ว่า ไบเดนจะเปิดเผยรายชื่อสมาชิกคณะรัฐมนตรีกลุ่มแรกในวันอังคาร (24)

    สื่อใหญ่อเมริกันหลายสำนัก ซึ่งรวมถึงเอพี บลูมเบิร์ก และนิวยอร์กไทมส์ ต่างรายงานว่า ไบเดนจะแต่งตั้งแอนโทนี บลิงเคน นักการทูตมากประสบการณ์และเป็นผู้ช่วยที่ทำงานกับเขามายาวนาน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อยุตินโยบายของทรัมป์ซึ่งกลายเป็นการโดดเดี่ยวห่างเหินออกจากบรรดาชาติพันธมิตร

    สื่ออเมริกันหลายเจ้ายังคาดว่า ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ และเจค ซัลลิแวน ผู้ช่วยไบเดนที่มีประสบการณ์ด้านนโยบายต่างประเทศอีกคนหนึ่ง จะอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ

    ขณะที่ตัวเก็งตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ได้รับการระบุชื่อว่า คือ เจนเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

    เวลาเดียวกัน สมาชิกรีพับลิกันจำนวนมากขึ้นเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องยอมรับชัยชนะของไบเดน หรืออย่างน้อยก็เรียกร้องให้สำนักบริหารงานบริการทั่วไป (จีเอสเอ) อนุมัติงบประมาณของรัฐบาลกลางให้ทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดน

    คริส คริสตี อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่เคยให้คำปรึกษาทรัมป์ในการถ่ายโอนอำนาจเมื่อปี 2016 ให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์ว่า สิ่งที่ทีมกฎหมายของประธานาธิบดีผู้นี้กระทำอยู่ คือ “ความน่าอับอายของประเทศชาติ”

    เขาขยายความว่า ทีมกฎหมายทรัมป์ชอบพูดเรื่องมีการทุจริตในการเลือกตั้ง “นอกห้องพิจารณาคดีของศาล แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องพิจารณาคดี พวกเขาไม่เคยให้การว่ามีการทุจริต และพวกเขาไม่เคยโต้แย้งว่ามีการทุจริตเลย”

    ด้านลิซา เมอร์โคสกี้ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐอะแลสกา ทวิตว่า ถึงเวลาแล้วในการเริ่มถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการและสมบูรณ์ และตั้งข้อสังเกตว่า ศาลในหลายรัฐพบว่า ข้อร้องเรียนของทรัมป์ไม่มีมูล นอกจากนั้นการที่ทีมหาเสียงของทรัมป์พยายามกดดันสมาชิกสภาประจำรัฐต่างๆ เพื่อไม่ให้รัฐนั้นๆ รับรองผลชนะของไบเดนนั้น ยังเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่สอดคล้องกับกระบวนการประชาธิปไตย

    ส่วนแลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์และสมาชิกสำคัญของรีพับลิกันอีกคน วิจารณ์ว่า ทรัมป์กำลังทำให้อเมริกาดูเหมือน “สาธารณรัฐกล้วย” และทวิตในเวลาต่อมาว่า ทรัมป์ควรหยุดตีกอล์ฟและยอมรับความพ่ายแพ้

    ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ออกรอบทุกสุดสัปดาห์ภายหลังการเลือกตั้ง แม้ยอมปลีกเวลาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อร่วมประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงของกลุ่มจี20 แต่ก็ไม่ร่วมหารือด้วยในวาระโรคระบาดโควิด-19 เมื่อวันเสาร์ (21)

    ในวันอาทิตย์ (22) ทรัมป์ทวิตซ้ำเรื่องมีการโกงบัตรเลือกตั้งขนานใหญ่ ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ถูกผู้พิพากษาในหลายรัฐปฏิเสธว่าไม่มีหลักฐาน

    วันเดียวกันนั้น รูดี้ จูเลียนี ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ได้ประกาศปลดซิดนีย์ พาวเวลล์ ออกจากทีมกฎหมายของประธานาธิบดี หลังจากเธอออกมากล่าวหาเลื่อนลอยโดยอ้างอิงทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด อาทิ ความเป็นไปได้ที่ระบบการเลือกตั้งถูกแฮ็ก และมีการโกงคะแนนกันเป็นล้านๆ เสียง

    ทั้งนี้ความหวังของทรัมป์ในการขัดขวางไม่ให้ไบเดนได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า มีหวังพังครืนแน่นอน ถ้ารัฐมิชิแกนและรัฐเพนซิลเวเนียประกาศรับรองผลการเลือกตั้งซึ่งยืนยันว่า ไบเดนคือผู้ชนะ

    มีรายงานว่า มิชิแกนเตรียมรับรองผลการเลือกตั้งในวันจันทร์ (23) และมีแนวโน้มว่า เพนซิลเวเนียก็ใกล้รับรองผลการเลือกตั้งเช่นกัน

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ‘วัคซีนสำหรับโลก’ แอสตราเซเนกาคุย ผลิตภัณฑ์ของตน ประสิทธิภาพสูง-ราคาถูกกว่า-เก็บรักษา-ง่ายกว่า-ผลิตออกมาได้เร็วกว่า

    แอสตราเซเนกา บริษัทอังกฤษแถลง วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ตนพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีศักยภาพที่จะกลายเป็น “วัคซีนสำหรับโลก” เพราะนอกจากมีประสิทธิภาพในระดับน่าพอใจแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าในการผลิต และสะดวกง่ายดายกว่าในการเก็บรักษาและในการแจกจ่าย รวมทั้งสามารถผลิตออกมาครั้งละมากๆ ได้รวดเร็วกว่า เมื่อเทียบกับพวกผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งรายสำคัญๆ

    แอสตราเซเนกากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ย.) ว่า สามารถที่จะผลิตออกมาได้มากถึง 200 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2020 หรือราว 4 เท่าตัวที่ไฟเซอร์ บริษัทอเมริกันซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ และภายในไตรมาสแรกของปี 2021 จะสามารถผลิตได้ 700 ล้านโดสพร้อมให้ใช้กันได้ทั่วโลก

    “นี่หมายความว่าเรามีวัคซีนสำหรับโลก” แอนดริว พอลลาร์ด ผู้อำนวยการของกลุ่มวัคซีน มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวนี้ บอก

    สำหรับประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนตัวนี้นั้น อยู่ที่ 70% ในการศึกษาทดสอบขั้นท้ายๆ ที่ดำเนินการในอังกฤษและในบราซิล แต่แอสตราเซเนกาอธิบายว่า อัตราความสำเร็จในการป้องกันจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 90% ถ้าให้วัคซีนนี้ครึ่งโดสแล้วตามด้วย 1 โดสเต็ม ขณะที่ระดับประสิทธิภาพจะเหลือ 62% หากให้ 1 โดสเต็มทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่เข้ารับการทดลอง

    ขณะเดียวกัน บริษัทยืนยันว่า ไม่มีปัญกาความปลอดภัยร้ายแรงใดๆ ขึ้นมาจากการทดลองคราวนี้

    หุ้นของ แอสตราเซเนกา หล่นลงมา 4% ถือเป็นผลงานในรอบวันที่แย่ที่สุดของหุ้นตัวนี้ในรอบ 6 เดือน เนื่องจากพวกนักลงทุนเข้าใจกันว่าข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ออกมาน่าผิดหวังเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ซึ่งรายงานเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าวัคซีนของพวกตนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ในอัตราประมาณ 95%

    อย่างไรก็ดี วัคซีนของบริษัทยาอังกฤษแห่งนี้มีความได้เปรียบที่สำคัญๆ หลายประการ ซึ่งสามารถชิงชัยกับพวกคู่แข่งสหรัฐฯได้

    เป็นต้นว่า ต้นทุนสำหรับวัคซีนตัวนี้ที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องจ่ายจะตกเพียงแค่สองสามดอลลาร์ต่อการฉีด 1 ครั้ง ซึ่งเป็นแค่เศษเสี้ยวของราคาค่าวัคซีนจากไฟเซอร์และโมเดอร์นา ที่ต่างใช้เทคโนโลยีซึ่งพิเศษผิดแผกจากที่เคยใช้กันแต่ก่อนมากกว่า

    วัคซีนนี้ยังสามารถขนส่งและเก็บรักษาเอาไว้ในอุณหภูมิของตู้เย็นปกติ นั่นคือระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการแจกจ่ายโดยเฉพาะในบรรดาประเทศยากจน เมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์ซึ่งต้องขนส่งและเก็บรักษาในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส

    ขณะที่การผลิตออกมาเป็นจำนวนมากๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่า หมายความว่าทั้งชาติร่ำรวยและชาติยากจนสามารถที่จะแจกจ่ายวัคซีนออกไปได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วกว่า ซึ่งในที่สุดแล้วสามารถช่วยให้ยุติการใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ ที่ส่งผลกระทบหนักทั้งทางสังคมและทางเศรษฐกิจ

    <b>สหรัฐฯลุ้นเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนต้นเดือนหน้า </b>

    คาดหมายกันว่าการเริ่มต้นฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง กำลังจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1.4 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งรวมถึง 255,000 คนในอเมริกา

    ผลการทดสอบวัคซีนหลายๆ ตัวซึ่งออกมาน่าพอใจ กระตุ้นความหวังที่จะเห็นวิกฤตไวรัสมรณะสิ้นสุดลง ในเวลาประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯและยุโรป กำลังถูกกดดันให้ต้องยอมฟื้นคืนมาตรการจำกัดกิจกรรมต่างๆ ของประชาชน และการล็อกดาวน์ที่เคยช่วยชะลอการระบาดเมื่อต้นปี ทว่าส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจทั่วโลก

    เวลานี้วัคซีนที่มีแนวโน้มดีที่สุด 2 ตัว นั่นคือ ของไฟเซอร์แห่งสหรัฐฯซึ่งพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี และของโมเดอร์นาที่เป็นบริษัทอเมริกัน ในระหว่างการทดลองทางคลินิก มีประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสโคโรนาถึงระดับ 95% และไฟเซอร์ได้ยื่นขออนุมัติเพื่อใช้วัคซีนนี้แบบฉุกเฉิน จากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) แล้ว

    มอนเซฟ สเลาอี ประธานที่ปรึกษาฝ่ายวิทยาศาสตร์โครงการพัฒนาวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนาของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (22) ว่า รัฐบาลมีแผนจัดส่งวัคซีนไปยังสถาบันวัคซีนต่างๆ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับอนุมัติจากเอฟดีเอ โดยระบุว่า อาจเป็นในวันที่ 11-12 เดือนหน้า

    สเลาอีคาดว่า ชาวอเมริกัน 20 ล้านคนจะได้รับวัคซีนในเดือนธันวาคม และเดือนละ 30 ล้านคนหลังจากนั้น

    อย่างไรก็ตาม แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำของอเมริกา แม้ยืนยันว่า ประชาชนราว 20 ล้านคนอาจได้รับวัคซีนภายในกลางเดือนถึงสิ้นเดือนธันวาคม แต่ก็เตือนว่า สถานการณ์การระบาดในอเมริกาอาจเลวร้ายลงก่อนที่จะดีขึ้น ถ้าประชาชนไม่ระมัดระวังตัวเองในช่วงเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะมีคนอเมริกันจำนวนเป็นล้านๆ คนเดินทางเพื่อไปร่วมฉลองกับครอบครัว

    เวลานี้ อเมริกามียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 12 ล้านคน สูงที่สุดในโลก และบางรัฐได้บังคับใช้มาตรการจำกัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมาใหม่เพื่อชะลอการระบาด

    <b>เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรายวันลดลง </b>

    ทางด้านเกาหลีใต้ เมื่อวันจันทร์ (23) สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคดีซีเอ) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน 271 คน ลดลงจาก 330 คนในวันอาทิตย์ โดยที่วันอาทิตย์เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันที่จำนวนเคสใหม่สูงกว่า 300 คน อันเป็นสิ่งไม่ได้เกิดขึ้นมาเลยนับจากเดือนสิงหาคม

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระบุว่า จำนวนเคสใหม่ที่ลดลงอาจสืบเนื่องจากมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อลดลงในช่วงสุดสัปดาห์

    วันอาทิตย์ยังเป็นวันแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้ยกระดับกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมในโซลและพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากเพิ่งกลับมาบังคับใช้มาตรการสกัดไวรัสเพียง 3 วัน

    มาตรการล่าสุดที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันอังคาร (24) ยังจะครอบคลุมการปิดบาร์และไนต์คลับ จำกัดการรวมกลุ่มประกอบพิธีทางศาสนา และการรับประทานอาหารภายในร้านอาหารและคาเฟ่

    ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา (20) สมาคมโรคติดต่อเกาหลี ซึ่งเป็นสมาคมแพทย์สำคัญในเกาหลีใต้ ได้ออกคำแถลงเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งขึ้นเป็นวันละ 1,000 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ถ้าไม่มีมาตรการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ระบบติดตามผู้สัมผัสโรคมีงานล้นมือ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นขณะที่ทรัพยากรการแพทย์ร่อยหรอลง

    เจ้าหน้าที่ยังกังวลว่า การระบาดระลอกล่าสุดอาจควบคุมได้ยากเนื่องจากส่วนใหญ่เกิดขึ้นในชุมชนทั่วไปรอบๆ โซล ซึ่งมีประชากรครึ่งหนึ่งของทั้งหมด 52 ล้านคนทั่วประเทศ ไม่เหมือนการระบาดรอบที่แล้วที่มาจากกลุ่มคนหรือสถานที่ที่เฉพาะเจาะจง

    วันจันทร์ เจ้าหน้าที่ในกรุงโซลเผยว่า จะห้ามการชุมนุมเกิน 10 คน และลดบริการขนส่งสาธารณะในตอนกลางคืนเพื่อลดการเดินทางของประชาชน

    <b>จีนเจอคนติดโควิดจากคอนเทนเนอร์สินค้าที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ </b>

    ที่จีน ซุน เสี่ยวตง เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมโรคในเมืองเซี่ยงไฮ้เผยว่า เจ้าหน้าที่ในฝ่ายขนส่งสินค้าคนหนึ่งในสนามบินผู่ตงที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา และเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ตรวจพบติดเชื้อในวันที่ 10 ต่างเข้าไปทำความสะอาดในคอนเทนเนอร์ที่มากับเที่ยวบินจากอเมริกาเหนือโดยไม่สวมหน้ากาก

    ข่าวนี้ออกมาพร้อมกับที่แวริไฟลต์ ผู้ให้บริการข้อมูลการบิน ติดเครื่องหมายยกเลิกเที่ยวบินกว่า 40% ที่สนามบินผู่ตง ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก

    ซุนเสริมว่า ไวรัสที่พบในผู้ติดเชื้อทั้งสองคนนี้มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับสายพันธุ์ที่พบในอเมริกาเหนือ บ่งชี้ว่า ที่มาของการระบาดครั้งนี้อาจมาจากต่างประเทศ

    ทั้งนี้หลังจากไม่พบการติดเชื้อในท้องถิ่นนาน 5 เดือน เซี่ยงไฮ้รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่น 6 คนนับจากวันที่ 9 ที่ผ่านมา โดย 5 คนในจำนวนนี้พบเมื่อ 2-3 วันก่อน และเกี่ยวข้องกับพนักงาน 2 คนที่ดูแลฝ่ายขนส่งสินค้าในสนามบินและผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับทั้งคู่

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่าง 2 เคสแรกกับเคสส่วนใหญ่

    นับจากวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพนักงานในส่วนจัดการการขนส่งสินค้าของสนามบินผู่ตงไปแล้ว 17,719 คน ซึ่ง 11,544 คนในจำนวนนี้ผลออกมาเป็นลบ ส่วนที่เหลือยังไม่รู้ผล และจะมีการตรวจเจ้าหน้าที่ส่วนจัดการการขนส่งสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงเป็นประจำ รวมทั้งฉีดวัคซีนฉุกเฉินให้ตามความสมัครใจ

    ทั้งนี้ ในวันจันทร์ จีนพบผู้ติดเชื้อใหม่ 11 คน ซึ่งรวมการติดเชื้อในท้องถิ่น 2 คนในเซี่ยงไฮ้

     

แชร์หน้านี้

Loading...