ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    9. ไม่สนใจโทรศัพท์

    เมื่อไหร่ก็ตามที่คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ ต้องเข้าร่วมกลุ่มสนทนา พวกเขามักจะเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังที่ดีอยู่เสมอ สิ่งใดไม่เกี่ยวข้อง เช่น โทรศัพท์มือถือ พวกเขาจะไม่ให้ความสนใจมันเด็ดขาด ถึงแม้จะเป็นแค่บทสนทนาสั้นๆ ก็ตาม

    10. ไม่มีอีโก้

    คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง มักจะไม่ใช้อีโก้ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ ไม่ได้อยากเป็นที่สนใจ และไม่อยากได้ผลประโยชน์จากใคร อะไรถูกก็ว่าตามถูก อะไรผิดก็แค่บอกว่าผิด เท่านั้นเอง

    11. ไม่หน้าไหว้หลังหลอก

    พวกที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง มักจะแก้ไขปัญหาของตัวเองก่อน เรียนรู้ข้อผิดพลาดนั้น ๆ อย่างละเอียดก่อน จึงค่อยบอกต่อคนอื่น และถ้าพวกเขาบอกให้คนอื่นทำอะไรแล้ว เขาจะไม่มีทางทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามเด็ดขาด

    12. ไม่โอ้อวด

    พวกที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงนั้น เป็นพวกที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เชื่อมั่นในความเป็นตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่โอ้อวดตัวเองกับใคร ก็แค่ทำไปตามสิ่งที่ใจมองว่าถูกต้อง ใครจะเห็นก็เห็น ใครไม่เห็นก็ช่าง

    …ใครคิดว่า EQ ตัวเอง ต่ำ ก็แค่ปรับพฤติกรรมให้ได้อย่างพวกเขานี่ล่ะนะ

    ที่มา FWline
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    รถเมล์คันแรก
    สาย1 ท่าเตียน-ถนนตก เมื่อปี พ.ศ.2496
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    0L7qh4v8.jpg
     
  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    5 ข้อ คนที่มีความสุข เขาใช้ชีวิตแบบนี้

    1. Let it go…
    อะไรผ่านแล้ว ให้ผ่านไป อย่าจมปลักกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว จบไปแล้ว ทิ้งเป็น “อดีต” ไปเลย เราต้องอยู่ กับปัจจุบัน จะได้ทำ อนาคตให้ดีที่สุด ทุกวินาทีที่เราจมอยู่กับอดีต เราแค่ “หาย ใจ” เราไม่ได้ ใช้ชีวิต

    2. Get a move on…
    ก้าว ต่อไปข้างหน้า ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น จะผิดหวัง จะเจ็บปวด จะสูญเสีย เราต้องก้าวต่อไป ข้างหน้าได้เลยทันที ไม่มีเสียเวลาคร่ำครวญ ไม่ “แคร์” อะไรทั้งนั้น มุ่งไปที่ สิ่งที่เราต้องการในชีวิต ต้องไม่มี อะไร “หยุด” หรือ “ขวางหน้า” เราได้

    3. Follow your heart…
    ทำตามหัวใจ เรียกร้อง อย ากเป็นแบบไหน อย ากไปที่ไหน ไป อยากทำอะไร ทำ ไม่มีใครบอกว่า “ง่าย” ที่จะทำ ทุกอย่างที่เราต้องการ แต่จุดเริ่มต้น คือ “ตัดสินใจ” เรามีอิสระ ไม่มีอะไรกักขังเราได้ นอกจาก “เงื่อนไข” และ “ขีดจำกัด” ที่เราสร้าง ให้ตัวเอง

    4. Think positive…
    เชื่อมโยงทุกอย่ าง กับความคิดบวก ทุกเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น ล้วนเอาความคิดบวก มาเชื่อมโยงได้ หาเหตุผลที่ทำให้เรา “ขอบคุณ” ที่มันเกิดขึ้น มองให้ทะลุถึง “สิ่งที่ดีที่สุด” ที่เราจะเรียนรู้ จากมันได้ อย่าเอาแต่ เชื่อมโยงกับความคิดลบ จะทำให้เรา “ตาบอด” ต่อความสวยงามของชีวิต

    5.Carelessness
    ไม่แคร์ อะไรที่ไม่จำเป็น คนจะมองเรายังไง จะคิดว่าเราเป็นยังไง จะพูดถึงเรายังไง จะวิจารณ์การใช้ชีวิต ของเรายังไง ไม่จำเป็นต้อง “แคร์” เพราะชีวิตเป็นของเรา ชีวิตที่ “สั้น” เกินกว่าเราจะไม่ทำอะไรที่มี ความสุข จำไว้ ใช้ชีวิต ให้เป็น “ของขวัญ” ไม่ใช่ใช้มัน “ลงโทษตัวเอง”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    The True Happiness in Life.

    ความสุข ไม่ได้อยู่ที่ การมีบ้านหลังใหญ่
    แต่ … อยู่ที่ ในบ้านนั้นมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะ
    ความสุข ไม่ใช่ รถคันหรู
    แต่ … คือ การขับรถถึงบ้านปลอดภัย
    ความสุข ไม่ใช่ การมีเงินเก็บเยอะ
    แต่ … หมายถึง การได้ทำในสิ่งที่ชอบ
    ความสุข ไม่ใช่ คนรักเราสวยหรือหล่อ
    แต่ … ความสุขคือ คนรักเรายิ้มได้งดงามเพียงใด
    ความสุข ไม่ใช่ ยศฐาบรรดาศักดิ์
    แต่ … เป็นใครๆก็บอกว่า คุณเป็นคนดี
    ความสุข ไม่ใช่ การได้กินอาหารดีใช้ของแพงๆ
    แต่ … คือการไม่เจ็บไม่ป่วย
    ความสุข ไม่ใช่ ตอนประสบความสำเร็จมีคนยินดี
    แต่ … เป็นตอนผิดหวัง แล้วมีคนให้กำลังใจ…

    ทำเถอะ แล้วจะ “โคตร มีความสุข”
    ขอบคุณที่มา : Issariya Sukkeepun, รักยิ้ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    นำมาฝากกันค่ะ:D

    คนที่เก่งจริงๆ ดูไม่ยาก เขามี 10 นิสัยนี้

    สังคมทุกวันนี้ดู ย า ก ว่าใครรู้จริง หรือแกล้งทำเป็นรู้ ว่าใครเก่งจริง หรือแค่สร้างภาพ หรือแม้กระทั่งว่า ใครฉลาดหรือใครโ ง่ มันมีปรัชญาที่คลาสสิคมาก คือ คนโ ง่มักอวดฉลาด คนฉลาดมักแกล้งโ ง่ คนอวดเก่งอวดฉลาด มักไม่ฉลาดจริง แต่คนเก่งจริงและฉลาดจริง มักมีคุณสมบัติ 10 ประการดังนี้
     
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    1. เป็นคนพูดเก่ง แต่ไม่พูดมาก เพราะรู้ว่าเค้าจะฉลาดขึ้นได้ด้วยการฟังคนเก่ง จะฟังเยอะ เพราะการฟังมักจะได้สิ่งใหม่ ๆ เข้าตัวอยู่เสมอ และจะพูดก็ต่อเมื่อคำพูดนั้นมีประโยชน์และสร้างสรรค์มากกว่าพูดในเชิงลบและไม่สร้างสรรค์

    2. มีความรู้หลายด้านมากกว่าอาชีพที่ทำ และมักจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอคนเก่งมักเป็นนักพัฒนาตนเอง และจะใช้เวลาอย่ างคุ้มค่าเพื่อให้ตนเองก้าวไปข้างหน้าอย่ างมั่นคงแข็งแรง จะไม่ปล่อยให้สูญเสียโอกาส โดยเฉพาะ เวลาที่ใช้เพื่อเดินไปข้างหน้าและไม่ย้อนถอยหลัง
     
  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    3. จัดสรรเวลาอย่ างมีประสิทธิภาพ มีสมดุลในชีวิตระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว และเต็มที่กับทุกเรื่องที่ทำคนเก่งและฉลาด มักจะเลือกบริหารเวลาได้อย่ างสมดุล ในช่วงเวลางานก็จะเต็มที่กับสิ่งที่ทำตรงหน้าเช่นกันเมื่อหมดเวลางานก็สามารถให้เวลาสร้างความสุข การผ่อนคลายให้กับตนเองอยู่เสมอ

    4. ไม่ใช้ Social Media ตลอดเวลา แต่ใช้รับข้อมูลที่สนใจ และส่งต่อความคิดดีๆ ให้กับคนอื่นเสมอยุคนี้เป็นยุคของข้อมูล ข่าวสารตลอด 24 ชั่ ว โมงคนเก่งมักจะเลือกเสพแต่ข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเขาเองเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือการบริหารชีวิตและเป็นนักแบ่งปันเพื่อให้คนอื่นๆ ได้เสพข้อมูลดีๆ ที่เขาคัดสรรมาอย่ างดีแล้ว
     
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    5. กลับมายิ้มได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีสิ่งเ ล ว ร้ า ย เข้ามาในชีวิตก็ตาม คนเก่งและฉลาดในการใช้ชีวิต จะสามารถลุกขึ้นสู้ได้ทุกครั้งยามเมื่อล้มลง ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรือผิดหวังเพียงแต่เขาจะไม่จมกับความทุกข์ตลอดเวลา แต่จะหาทางลุกขึ้นสู้ได้ทุกครั้งยามเมื่อล้มลง

    6. รู้ว่าตัวเองมีความสามารถ แต่ไม่เคยเสียเวลาภูมิใจกับความสามารถของตนเอง คนเก่งและฉลาด มักจะเป็นคนมีความมั่นใจ แต่ไม่ใช่อีโก้ เพราะเขาจะเปิดรับฟังคนรอบข้าง ไม่ตัดสินคนอื่นด้วยมุมมองของตนเอง และทุกครั้งที่เขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาทำ เขาจะมีเวลาดีใจไม่นาน เพราะความสำเร็จนั้นเป็นอดีตไปแล้ว สิ่งที่เขาจะทำต่อนั่นคือ หาทางพัฒนาตนเองและสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2020
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    7. ไม่ต้องเป็นผู้นำ แต่สามารถดึงความสามารถของคนในทีมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้เสมอ คนเก่ง และฉลาด มักเก่งในการจูงใจผู้คนให้คล้อยตามในแนวทางและความคิดของเขา ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใหญ่โตแต่มีคนให้เกียรติและนับถือ จากความรู้ ความสามารถ วิธีคิด และการกระทำที่เป็นเสมือนกระบอกเสียงให้เขานั้นเติบโตไปข้างหน้า

    8. ไม่อวดความสามารถที่แท้จริง ว่าเจ๋งแค่ไหน แต่จะพิสูจน์ได้เสมอเมื่อถึงเวลาต้องใช้มัน คนเก่ง และฉลาด มักเป็นคนถ่อมตน ไม่โอ้อวดในความสามารถเกินงาม แต่จะใช้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ตนเองอยู่เสมอ และเมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหา เขาเหล่านั้นมักจะแสดงวิสัยทัศน์จนเราต้องตะลึงและทึ่งในความสามารถ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2020
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    9. อาจมีหรือไม่มีการศึกษาสูง หรือไม่จบจากสถาบันมีชื่อเสียง แต่มีผลงานการันตีความสามารถเสมอในยุคนี้ที่ คนเก่งสามารถสร้างเวทีให้ตนเองได้ไม่ ย า กจะระบบโซเชียลเน็ตมีเดีย ทั้ง F a c e b o o k , L i n e , Y o u t u b e ฯลฯ

    การศึกษาอาจเป็นเพียงใบเบิกทางที่ดี แต่ประสบการณ์และผลงานต่างหากที่ดีจะทำให้เราเติบโตได้เร็วกว่า

    10. ไม่เคยทำให้คนอื่นรู้สึกโง่เมื่อเค้าทำผิดพลาด แต่ให้โอกาส คำแนะนำ และให้กำลังใจเสมอคนเก่งและฉลาดมักเป็นผู้ให้โอกาสคนอยู่เสมอเมื่อเขาเหล่านั้นกระทำความผิดและพร้อมจะแนะนำชี้ช่องทางให้เขาเหล่านั้นสะท้อนความผิดของตนเองให้เกิดการยอมรับและพัฒนาตนเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ถอดจิตถอดใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "หลวงปู่มั่นฯ สอนหลวงปู่ขาวฯ...ความเป็นอาจาย์คนนั้นสำคัญมาก...อาจารย์ผิดเพียงคนเดียวอาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วย"

    -:หลวงปู่มั่น ได้เทศน์สอนหลวงปู่ขาว ในสมาธิต่อไปว่า :-

    "ท่านเอง (หลวงปู่ขาว) กำลังจะเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมาก จึงควรทำกรุยหมายที่ถูกต้องดีงามไว้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กุลบุตร สุดท้ายภายหลัง ผู้ดำเนินตามจะไม่ผิดหวัง

    ความเป็นอาจารย์คนนั้นสำคัญมาก จึงควรพิจารณาด้วยดี อาจารย์ผิดเพียงคนเดียว อาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วยเป็นจำนวนมากมาย อาจารย์ทำถูกเพียงคนเดียว ก็สามารถนำผู้อื่นให้ถูกด้วยไม่มีประมาณเช่นเดียวกัน

    ท่านควรพิจารณาเกี่ยวกับความเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมากให้รอบคอบ เพื่อคนอื่นจะมีทางเดินโดยสะดวกราบรื่น ไม่ผิดพลาด เพราะความยึดเราเป็นอาจารย์สั่งสอน

    คำว่า อาจารย์ ก็คือผู้ฝึกสอน หรืออบรมกิริยา ความเคลื่อนไหวที่แสดงออกแต่ละอาการ ควรให้ผู้อาศัยเป็นหลักดำเนินได้ ไม่เป็นกิริยาที่แสดงออกจากความผิดพลาด เพราะขาดการพิจารณาไตร่ตรองก่อนแสดงออกมา

    พระพุทธเจ้าที่ว่าทรงเป็นศาสดาสอนโลกนั้น มิได้เป็นศาสดาเพียงเวลาแสดงธรรมให้พุทธบริษัทฟังเท่านั้น แต่ทรงเป็นศาสดาของโลกอยู่ทุกอิริยาบถ

    ทรงสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงข้างขวาก็ดี ประทับนั่งก็ดี ประทับยืนก็ดี เสด็จไปในที่ต่าง ๆ แม้ที่สุดเสด็จภายในวัดก็ดี ล้วนเป็นศาสดาประจำพระอาการอยู่ทุก ๆ อิริยาบถ พระองค์ไม่ทรงทำให้ผิดพลาดจากความเป็นศาสดาเลย

    ผู้มีสติปัญญาชอบวินิจฉัยไตร่ตรองอยู่แล้ว ย่อมยึดเป็นคติตัวอย่างเครื่องพร่ำสอนตนได้ทุกๆ พระอาการที่ทรงเคลื่อนไหว

    อย่าเข้าใจว่าพระองค์จะทรงปล่อยปละละเลยมารยาทเหมือนโลกทั้งหลาย ที่ชอบทำกิริยาต่างๆ จากคนๆ เดียวในสถานที่ต่างๆ อยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอย่างหนึ่ง ไปอยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอีกอย่างหนึ่ง ไปอยู่ในที่อีกอย่างหนึ่ง แสดงกิริยาอาการอย่างหนึ่งเป็นลักษณะเปรตผี ทั้งเป็นคนดีทั้งเป็นคนชั่วทุกทิศไม่มีประมาณให้พอยึดเป็นหลักได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น

    ส่วนพระพุทธเจ้า มิได้เป็นอย่างโลกดังกล่าวมา แต่ทรงเป็นศาสดาทุกพระอิริยาบถ ตลอดวันนิพพาน

    แต่ละพระอาการที่แสดงออก ทรงมีศาสดาประจำมิได้บกพร่องเลย ใครจะยึดเป็นสรณะ คือหลักที่พึ่งพิงเพื่อดำเนินตามเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น โดยไม่เลือกว่าเป็นพระอิริยาบถหรือพระอาการใด

    จึงสมพระนามว่าเป็นศาสดาของโลกทั้งสาม...

    ***ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ข้อความข้างบนนี้เป็นโอวาทธรรมส่วนหนึ่ง จากหนังสือ "หลวงปู่ขาว อนาลโย" วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจรย์ เล่ม ๔ หน้า ๒๖๘ - ๒๗๐ สาธุๆๆ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "ปัจฉิมโอวาท...ตอนสุดท้ายแห่งธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"

    "ตอนสุดท้ายแห่งธรรมที่พอยึดได้ว่าเป็นปัจฉิมโอวาท เพราะท่านมาลงเอยในสังขารธรรมเช่นเดียวกับพระปัจฉิมโอวาทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่สงฆ์เวลาจะเสด็จปรินิพพาน โดยท่านยกเอาพระธรรมบทนั้นขึ้นมาว่า

    ดูก่อนพระภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่านทั้งหลาย สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเกิดหรือเจริญขึ้นแล้วเสื่อมไป ดับไป จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด จากนั้นท่านก็อธิบายต่อใจความว่า คำว่าสังขารในพระปัจฉิมโอวาทนั้นเป็นยอดธรรม พระองค์ทรงประมวลมาในคำว่าสังขารทั้งสิ้น แต่พระประสงค์ทรงมุ่งสังขารภายในมากกว่าสังขารอื่นใดในขณะนั้น เพื่อเห็นความสำคัญของสังขารอันเป็นตัวสมุทัย เครื่องก่อกวนจิตให้หลงตามไม่สงบลงเป็นตัวของตัวได้ เมื่อพิจารณาสังขาร คือความคิดปรุงของใจทั้งหยาบละเอียด รู้ตลอดทั่วถึงแล้วสังขารเหล่านั้นก็ดับ เมื่อสังขารดับใจก็หมดการก่อกวน แม้มีการคิดปรุงอยู่บ้างก็เป็นไปตามปกติของขันธ์ ที่เรียกว่าขันธ์ล้วนๆ ไม่แฝงขึ้นมาด้วยกิเลสตัณหาอวิชชา ถ้าเทียบกับการนอนก็เป็นการนอนหลับอย่างสนิทไม่มีการละเมอเพ้อฝันมาก่อกวนในเวลาหลับ ถ้าหมายถึงจิต ก็คือ "วูปสมจิต" เป็นจิตสงบที่ไม่มีกิเลสนอนเนื่องอยู่ภายใน จิตของพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งปวงเป็นจิตประเภทนี้ทั้งนั้น ท่านจึงไม่หลงใหลใฝ่ฝันหาอะไรกันอีก นับแต่ขณะที่จิตประเภทนี้ปรากฎขึ้น คำว่า 'สอุปาทิเสสนิพพาน' ก็มีมาพร้อมกัน ความสิ้นกิเลสก็สิ้นไปในขณะเดียวกัน ความเป็นพระอรหันต์ก็เป็นขึ้นพร้อมในขณะเดียวกัน จึงเป็นธรรมอัศจรรย์ไม่มีอะไรเทียบได้ในโลกทั้งสาม'

    พอแสดงธรรมถึงที่นี้แล้วท่านก็หยุด นับแต่วันนั้นมาไม่ปรากฎว่าได้แสดงที่ไหนในเวลาใดอีกเลย จึงได้ยึดเอาว่าเป็นปัจฉิมโอวาท และได้นำลงในประวัติท่านเป็นวาระสุดท้าย สมนามว่าเป็นปัจฉิมโอวาท.. "
    -------------------
    ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา #จากหนังสือประวัติ#ท่านพระอาจารย์มั่น_ภูริทัตตเถระ
    #โดยท่านอาจารย์พระมหาบัวญาณสัมปันโน
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      53
  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ธรรมะสวัสดี_/|\_:D
    (แด่ผู้ที่ยังเป็นทุกข์กับกาย ทั้งกายตนและกายผู้อื่น)

    กายนี้คือกองทุกข์ เรียนรู้ทุกข์แล้วทิ้งทุกข์ออกไปจากใจ ทุกข์เป็นของกาย เมื่อกายไม่มีเจ้าของก็ไม่มีใครเป็นทุกข์

    แต่ถ้าใจเป็นทุกข์ก็ต้องบำบัดใจ วิธีบำบัดใจแนวพุทธ คือสร้างกุศลให้เกิดขึ้นที่ใจ ละอกุศลในใจให้หมด เป็นการสร้างกำลังใจให้ใจมีกำลังพอที่จะสลัดทิ้งซึ่งสิ่งที่เป็นเหตุแห่งทุกข์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    #ไฟราคะ_จากใต้ถุนกุฎี

    "พอออกพรรษานั้นแล้ว หลวงปู่ขาว อนาลโย ก็ออกเที่ยวธุดงคกรรมฐานไปตามอัธยาศัย ท่านไปพักอยู่หมู่บ้านป่าแห่งหนึ่งในเขตอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ มีกุฏิเล็กเพื่อบำเพ็ญภาวนาอยู่หลังหนึ่ง

    ที่นั่นเคยเป็นที่พักบำเพ็ญของพระธุดงคกรรมฐานมาก่อน ท่านเห็นว่าสงัดดี และห่างจากหมู่บ้านพอประมาณ ท่านจึงเข้าพักบำเพ็ญที่นั่น

    วันหนึ่ง ตอนกลางวันฝนตกหนัก ไม่อาจลง เดินจงกรมได้ หลวงปู่จึงปิดประตูหน้าต่าง ฝาแถบ (ฝาขัดแตะ) นั่งภาวนาอยู่ในกุฎีนั้น ซึ่งยกพื้นสูงพอประมาณ

    ขณะที่นั่งพิจารณาธรรมทั้งหลายอยู่ ปรากฎเหมือนมีห่อไฟแทงขึ้นมาที่ก้นท่าน ร้อนแปลบ ๆ หยุดไป แล้วก็ร้อนขึ้นมาอีก ท่านจึงย้อนมาพิจารณาดูว่า เป็นอะไรกัน

    พอย้อนจิตมากำหนดจดจ่อ เพื่อเอาเหตุเอาผลกับห่อไฟที่กำลังเผาก้นท่าน ก็ทราบว่าไฟนี้เป็นไฟราคะตัณหา แสดงขึ้นมาจากใต้ถุนกุฎี มิได้แสดงออกมาจากใจท่านเอง

    หลวงปู่ กำหนดจิตพิจารณาทบทวน ก็ทราบอยู่อย่างนั้นว่าเป็นไฟราคะตัณหาแสดงขึ้นมาจากใต้ถุนกุฎี สำหรับในจิตท่านไม่มีปรากฎว่าจิตเป็นราคะตัณหาแต่อย่างใด

    ขณะที่หลวงปู่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่กับการพิจารณาไฟชนิดนั้น ก็ไม่คิดสะดุดใจว่าไฟนั้นมาจากอะไรที่ไหน เป็นเพียงรำพึงอยู่ในใจว่า ไฟราคะนี้มันติดตามเรามาได้อย่างไร เพราะเรามิได้มีความกำหนัดยินดีกับหญิงชายใด ๆ ใจก็เป็นปกติไม่เกิดราคะ การไปบิณฑบาตในหมู่บ้านก็ไปด้วยความสำรวมระวังมีสติอยู่กับตัว ระวังสังเกตทุกแง่ทุกมุม

    บรรดาอารมณ์ที่เคยเป็นข้าศึกต่อจิตใจ ก็ไม่เห็นมีเรื่องราคะตัณหาเป็นอารมณ์แต่อย่างใดพอเรื่องสงบไม่แสดงอีก หลวงปู่ก็ลืมตาขึ้นจะออกจากการภาวนาหลังฝนหยุดแล้ว ก็พอดีมองเห็นด้านหลังผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังเดินออกไปจากใต้ถุนกุฎี ทำให้ท่านนำเรื่องไฟที่เผาก้นท่าน ออกพาดพิงกับหญิงที่เพิ่งออกไปจากกุฎีท่าน แล้วรำพึงว่า.. "

    "หญิงคนนี้คงคิดไม่ดีกับเรา เหตุการณ์จึงได้แสดงขึ้นทำนองนี้ ที่เราเองก็ไม่คาดคิดว่าเป็นไปได้"

    ความจริงผู้หญิงคนนั้นอยู่ในวัยเบญจเพศ ยังไม่แก่อะไรเลย อาจจะเป็นสาวแก่หรือแม่หม้ายมากกว่าหญิงที่มีสามี เธอคงมาเที่ยวเก็บผักหาอยู่หากิน ก็มิอาจทราบได้ ในมือถือตะกร้าใบหนึ่ง ขณะมาถึงที่นั่น เกิดฝนตกหนักพอดี เธอเลยรีบเข้าไปหลบฝนใต้ถุนกุฎีหลวงปู่ รอจนกระทั่งฝนหยุดแล้ว ถึงได้ออกจากที่นั่น เวลาที่หลวงปู่มองออกไปตามช่องหน้าต่าง ซึ่งเป็นฝาขัดแตะห่าง ๆ จึงมองเห็นหญิงคนนั้นเดินออกไปได้อย่างชัดเจน.. "
    ---------------------------------------
    ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตนำมาเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา #ข้อความข้างบนนี้เป็นโอวาทธรรมส่วนหนึ่ง #จากหนังสือหลวงปู่ขาว_อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจารย์เล่ม ๔
    หน้า ๒๑๔ - ๒๑๖
    *******************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เคยเห็น...แล้วไง...ใจเจ้าเอ๋ย
    ใจที่เคย...ก็สะสมซึ่งสงสาร
    ใจไม่ละผละจากใจใจต้องการ
    จึงผสานกาลทุกภพลบเถิดใจ
    :confused::confused::confused:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เมื่อคืนฝันดี๊ดี...ฝันว่าสวดมนต์ยันตื่น

    ไม่ส่งจิตออกนอก จิตจะมีกำลัง ไม่ส่งจิตออกนอก จิตจะรวมอยู่ภายในจึงเป็นจิตที่มีกำลัง หลักง่ายๆ...จิตจึงคุ้มครองกาย

    สภาวะของคนตายกับคนหลับเหมือนกัน คือไม่เอาอะไรเลย ปล่อยหมดทุกอย่าง ทริคของการหลับหรือตายแล้วไม่ไปสู่อบายภูมิ คือ เมื่อไม่เอาอะไรเลยแล้วต้องกำหนดทิศทางให้จิต กำหนดอย่างไร อ่านแล้วย้อนแย้งกับเรื่องที่ไม่เอาอะไรเลย กำหนดให้จิตเกาะพระรัตนตรัย เหมาะสำหรับผู้ที่ยังเป็นปุถุชน ควรฝึกไว้ สร้างความเคยชินแบบไหน จิตก็ยึดแบบนั้น...ตัดยากที่สุดก็ความเคยชินนี่แหละ

    พวกข่าวต่างๆ ดูนะ แต่ไม่ดูที่คน ดูที่กฏแห่งกรรม กฏแห่งกรรมโยงใยลากจูงให้มาพบกัน มาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เราไม่มีส่วนร่วมในผลนั้น จึงแค่ดู

    โลกนี้ก็มีแต่เรื่องเวรกรรม เวรกรรมชักนำมา เวรกรรมชักนำไป กิเลส กรรม วิบาก ของใครของมัน แบกแทนกันไม่ได้ ถอนแทนกันไม่ได้ มีส่วนร่วมได้ถ้าส่งใจเข้าไปร่วมกรรม คู่เวรมาเจอกัน ถ้าไม่หยุดก็สานเวรกันต่อไป ก็กลายเป็นเฟืองหมุนให้วัฏจักรยาวไกลออกไปอีก นี้....ดูอย่างนี้ เพราะมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนี้ เพราะทำมาอย่างนี้ จึงเป็นอย่างนี้ วัฏสงสารสั้นดีกว่าวัฏสงสารยาว สั้นหรือยาวล้วนทำกันเอง

    ย้อนแย้งกับตัวเองไหม อยากจบกิจแต่ต่อกรรม พิจารณากันเอาเองเด้อ

    ทำ พูด คิด สิ่งใดก็ได้แก่ตนเองทั้งนั้น ออกมาจากตนก็เป็นของตน ผลก็เกิดที่ตน คนอื่นแค่สรรเสริญให้ นินทาให้ ไม่มีอะไรนอกจากนี้ ตนเป็นคนปลูก คนอื่นจะได้กินก็เป็นไปไม่ได้ ปลูกเอง รดน้ำ พรวนดินเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    etXDEp6a.jpg
     
  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ถ้าไม่มีสีดำก็คงไม่รู้ว่าสีขาวมันขาวอย่างไร สีไหนๆ ก็แค่สี ดีที่สุดคือใจที่ไม่ยึดกับสิ่งใดเลย แต่หายาก...

    เพราะมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนี้ ที่มีสิ่งนี้ก็เพื่อให้รู้เห็นสิ่งนี้ เพราะรู้เห็นสิ่งนี้ จึงเป็นสิ่งนี้ แล้วก็ไม่พ้นสิ่งนี้ ...เล่นกับเงา

    สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก พ่อเคยบอกไว้
    สันดานขุดยาก ขุดไม่ได้ แต่สะสมสันดานใหม่ได้ ใช้น้ำดีราดน้ำเสียออกไป หรือจะใช้เครื่องปั้มลมพ่นลมไล่ก็ได้ หรือจะใช้ไฟเผาก็เข้าที

    จะเอาองค์ไหนลงก็ได้ทั้งนั้น เพราะสัญญามันมีอยู่เยอะ อ่านมาเยอะ จำมาเยอะ เค้าเรียกว่าสิงจิต เอาสัญญาสิงลงไปในจิต

    อยู่กับความจริง ทุกวันนี้อยู่กับความจริง สติเป็นตัวบอกว่าจริงหรือเท็จ ทั้งจริงและเท็จ เป็นเข็มทิศในการตัดสินใจในการกระทำ ควรทำ พูด คิด อย่างไร ไม่ควรทำ พูด คิด อย่างไร ใครจะขึ้นช้างลงม้าก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วย

    อยู่กับความฝันมานาน สมควรลืมตาตื่นได้แล้ว ถ้าไม่รีบตื่น อาจจะไม่ได้ตื่นอีกเลย สมควรแก่เวลา หนอนควรเป็นผีเสื้อได้แล้ว

    ภวังคภพกลืนกินวันเวลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...