ติดตามสถานะการณ์

โลโก NASA แบบตัวหนอนกลับมาแล้ว!

พวกเราต่างก็คุ้นเคยกับโลโกของนาซากันเป็นอย่างดี เครื่องหมายทรงกลมสีน้ำเงินที่ปรากฏอยู่ในสื่อทุกช่องทางของนาซา รูปทรงวงกลมสื่อถึงดาวเคราะห์ สีน้ำเงินและจุดเล็ก ๆ สีขาวสื่อถึงดาวฤกษ์ในห้วงอวกาศ ปีกบั้งสีแดงสื่อการบินอย่างกล้าหาญ และวงโคจรรอบคำว่า NASA สีขาว แสดงถึงการเดินทางสำรวจอวกาศ

นี่คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก NASA "meatball" insignia หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "The Meatball" เพราะหน้าตาดูละม้ายคล้ายกับมีทบอล หรือลูกชิ้นนั่นเอง

นาซาใช้โลโกนี้มาตั้งแต่ปี 1959 จนในปี 1970 หลายคนในองค์กรมีความเห็นตรงกันว่าโลโกมีทบอลนั้นพิมพ์และผลิตซ้ำได้ยากเพราะมีความซับซ้อนสูง

ในปี 1975 นาซาได้ตั้งโครงการพัฒนาโลโก เพื่อออกแบบโลโกใหม่ที่เรียบง่ายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น และในปีนี้นี่เองที่โลโกแบบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นคำว่า NASA ที่เขียนด้วยตัวอักษรสีแดงโดดเด่นไม่เหมือนใคร รู้จักกันในชื่อ "The Worm" หรือ "ตัวหนอน" ออกแบบโดย บริษัท Danne & Blackburn ซึ่งในปี 1984 โลโกนี้ได้รับการยกย่องจากประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน สำหรับความเรียบง่ายแต่ดูดีมีนวัตกรรมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นาซายังคงให้พื้นที่กับเครื่องหมายทั้งสองเท่า ๆ กัน จนในปี 1992 นาซาประกาศยกเลิกใช้โลโกตัวหนอน ยกเว้นบนเครื่องแต่งกายอย่างชุดนักบินอวกาศ และของที่ระลึกบางรายการ และกลับมาใช้โลโกมีทบอลที่เราคุ้นเคยกันอย่างเต็มรูปแบบ

จนกระทั่งวันนี้

โลโกตัวหนอนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศ โลโกสุดเรียบง่ายสีแดงสดประทับอยู่บนจรวดสีขาวสะอาดตาของ SpaceX Falcon 9 ซึ่งมีกำหนดปล่อยตัวจาก Kennedy Space Center มุ่งสู่สถานีอวกาศนานาชาติในวันที่ 27 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งชาวอเมริกันขึ้นสู่อวกาศจากแผ่นดินอเมริกาในรอบเกือบทศวรรษ

ท้ายที่สุดนี้ เหมือนกับว่าที่ผ่านมา ตัวหนอนไม่ได้ถูกเลิกใช้งานจริง ๆ เพียงแค่หยุดพักชั่วคราว การกลับไปใช้โลโกตัวหนอนจะช่วยสร้างความตื่นเต้นสำหรับภารกิจสำรวจอวกาศยุคใหม่ และเป็นโอกาสดีที่เราทุกคนจะได้เห็นมันกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง

อ้างอิง :
[1] https://www.nasa.gov/feature/the-worm-is-back
[2] https://www.nasa.gov/audience/forstudents/5-8/features/symbols-of-nasa.html

เรียบเรียง : ลัดดา ดีสวน - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.

 

อาเบะประกาศเพิ่ม 11 ประเทศ ห้ามเข้าญี่ปุ่น มีผล 27 พ.ค. นี้
.
เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยแผนการห้ามชาวต่างชาติอีก 11 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอินเดีย เดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
.
คำสั่งดังกล่าวระบุว่าพลเรือนที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นและมีประวัติเดินทางหรือพำนักอยู่ในอัฟกานิสถาน อาร์เจนตินา บังคลาเทศ เอลซัลวาดอร์ กานา กินี อินเดีย คีร์กีซสถาน ปากีสถาน แอฟริกาใต้ และทาจิกิสถาน ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ
.
อาเบะกล่าวว่าคำสั่งใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธ (27 พ.ค.) เป็นต้นไป และจะยังคงมีผลต่อไป "ในช่วงเวลานี้"
.
การเพิ่มรายชื่อประเทศต้องห้ามครั้งนี้ทำให้คำสั่งห้ามเข้าประเทศของญี่ปุ่นครอบคลุม 111 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงจีน เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และประเทศในยุโรปทั้งหมด
.
ขณะที่พลเรือนชาวญี่ปุ่นสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้ แต่ต้องเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 และกักกันตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าพวกเขาจะมีอาการป่วย เช่น มีไข้สูงและไอ หรือไม่
.
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะคงไว้ซึ่งมาตรการควบคุมชายแดนอื่นๆ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งรวมถึงการระงับวีซ่าและการกักกันผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนเป็นเวลา 2 สัปดาห์
.
.
ติดตามทวิตเตอร์ภาษาไทยของเรา (@XinhuaThai): https://twitter.com/xinhuathai

 

คณะนักวิจัยจากศูนย์ชีววิทยามะเร็ง (CCB) แห่งมหาวิทยาลัยเซาธ์ออสเตรเลีย (UniSA) ได้อธิบายว่าเซลล์มะเร็งสามารถผลิต 'Creld2' ซึ่งเป็นโปรตีนที่ส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้อย่างไร
.
https://www.xinhuathai.com/tech/108907_20200526

 

.ป่วย 3 หมื่น ตาย 23
สำรวจวิธีการจัดการ “โควิด” ของสิงคโปร์
ที่ดีที่สุดในโลก
.
.
สิงคโปร์ ถือเป็นต้นแบบของ Second Wave หรือทฤษฎีคลื่นระลอกที่ 2 ของโรคโควิด - 19 เมื่อรัฐบาล ระดม “เทสต์” ผู้ป่วยในแคมป์แรงงานต่างชาติ จนทำให้ยอดผู้ป่วย ซึ่งดูเหมือนจะ “นิ่ง” แล้ว กลับพุ่งทะยานเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยตัวเลขผู้ป่วยกว่า 3.1 หมื่นคน และยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอัตราผู้ป่วยรายใหม่ มากกว่า 500 – 600 คน
.
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในตัวเลขผู้ป่วยที่สูงที่สุดในอาเซียนนั้น สิงคโปร์ มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพียง 23 คน ต่ำเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศในอาเซียน ต่ำกว่าประเทศข้างเคียงอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และต่ำกว่าไทย
.
ซ้ำยังสามารถจำกัดวงการระบาด ให้อยู่ในเฉพาะแรงงานต่างชาติ ธุรกิจในประเทศเริ่มเดินหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา และในอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ข้างหน้า “โรงเรียน” ทั่วเกาะสิงคโปร์ กำลังจะเริ่มเปิดเรียน ไปพร้อมๆ กับการยกเลิกมาตรการ Circuit Breaker หรือจำกัดการใช้ชีวิตนอกบ้าน เพื่อทำให้ประเทศกลับมาเป็น “ปกติ” อีกครั้ง เพราะสิงคโปร์จะหยุดนิ่งนานกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
.
คำถามก็คือ สิงคโปร์ใช้วิธีไหนในการรักษา ถึงสามารถกดอัตราการตายได้ต่ำขนาดนั้น? คำตอบแรก ต้องย้อนกลับไปยังช่วงเดือน มี.ค. วันที่สิงคโปร์ เหมือนจะคุมโรคนี้ได้อยู่ โดยใช้วิธีการตรวจให้มาก จำกัดวงอย่างเข้มข้น และทำ Contact Tracing จนไม่มีคลัสเตอร์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นเลยทั่วเกาะ
.
เป็นบทเรียนสำคัญ ซึ่งทุกประเทศที่ผ่านการระบาดของโรคซาร์สเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ไต้หวัน ล้วนรู้ดีว่า ทั้งหมด เป็นวิธีเดียวในการจะหยุดยั้งโรคไม่ให้ไปไกลกว่านี้
.
เมื่อเจอคลัสเตอร์สำคัญที่หอพักแรงงานต่างชาติ เกาะเล็กๆ แห่งนี้ก็ใช้วิธีเดียวกันคือปิดล้อมพื้นที่หอพัก S11 และหอพัก Westlite Toh Guan ทันที
.
ปัญหาก็คือ หากเป็นหอพักเล็กๆ ที่มีคนอยู่ไม่มากนัก ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ทั้ง 2 ที่นี้ กลับมีจำนวนแรงงานต่างชาติรวมกันกว่า 3 แสนคน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวบังกลาเทศ ชาวอินเดีย ชาวจีน ในพื้นที่ 1 ห้องเล็กๆ กลับต้องอยู่รวมกันมากกว่า 20 คน เพราะแรงงานเหล่านี้ ได้รับค่าแรงต่ำมาก อยู่ที่ราว 20 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ประมาณ 447 บาท) ต่อวันเท่านั้น
.
มีทฤษฎีมากมายว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงเริ่มมีเชื้อได้ บ้างก็บอกว่า ห้าง “มุสตาฟา” ห้างสรรพสินค้า ซึ่งขายสากกะเบือยันเรือรบ ใจกลางย่าน Little India (ซึ่งคนไทยชอบไปซื้อน้ำหอมราคาถูก) เป็นจุดที่พาโรคนี้กลับไปยังหอพักแรงงานต่างชาติ บ้างก็ว่า ไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งแรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่เป็นจุดเริ่มต้น และการอยู่อาศัยอย่างแออัด อากาศปิด กลายเป็นตัวเร่ง ให้โรคนี้ระบาดอย่างรวดเร็ว
.
ที่สำคัญคือแรงงานกลุ่มนี้ ไม่ได้มีประกันสุขภาพ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงค่ารักษาพยาบาลที่แพงแสนแพงในสิงคโปร์ จำนวนหนึ่ง ยังอยู่เกินวีซ่า และต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เจ้าหน้าที่ทุกวัน ทำให้ไม่สามารถไปเทสต์ ไปตรวจได้เหมือนประชากรท้องถิ่น
.
ลี เซียนลุง นายกฯ สิงคโปร์ ออกมายอมรับว่าเป็นความผิดพลาดสำคัญ ที่ไม่สามารถดูแลแรงงานต่างชาติเหล่านี้ได้ดีพอ จนกลายเป็นจุด “เพาะเชื้อ” ทำให้สิงคโปร์ ที่ควรจะสงบนิ่ง กลับ “ปะทุ” ขึ้นมาอีกครั้ง
.
แต่วิธีแก้ปัญหาหลังจากนั้นของรัฐบาล กลับดีกว่าที่หลายคนคาด สิงคโปร์มีอัตราการ “เทสต์” ในที่พักแรงงานต่างชาติที่สูงมาก ตัวเลขล่าสุดคือมากกว่า 3 แสนเทสต์ เท่ากับจำนวนแรงงานต่างชาติในประเทศ และเทสต์วันละ 1,000 คน ต่อเนื่องทุกวัน โดยไม่สนว่าคนเหล่านี้จะมี หรือไม่มีอาการป่วย พร้อมกับย้ายแรงงานที่ตรวจจนมั่นใจว่าไม่มีเชื้อ และทำงานในกิจการที่จำเป็น ออกจากพื้นที่ ไปยังพื้นที่ชั่วคราวอื่น
.
นอกจากนี้ สิงคโปร์ ยังสามารถจับคลัสเตอร์นี้ ปิดกั้นคลัสเตอร์นี้ได้รวดเร็ว เพียง 1-2 วันหลังจากรู้ว่ามีการระบาดในสถานที่นี้ ไม่เปิดการ์ดให้คนในหอพักออกไปใช้ชีวิตด้านนอก และก็โชคดีอีกอย่างที่หอพักดังกล่าว อยู่ในแถบด้านเหนือ คือย่าน Punggol ตรงข้ามกับมาเลเซีย ห่างไกลจากย่านธุรกิจ ย่านท่องเที่ยว โอกาสในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวของชาวสิงคโปร์อื่นๆ จึงน้อยมาก
.
เคสของสิงคโปร์ จึงใกล้เคียงกับการระบาดบนเรือสำราญ Diamond Princess ซึ่งมีการ “กั้นบริเวณ” จึงทำให้เคสผู้ป่วยไม่ไปปะปนกับคนทั่วไปในญี่ปุ่น
.
ที่สำคัญ แคมป์คนงานเหล่านี้ ยังเต็มไปด้วย “คนหนุ่มสาว” วัยแรงงาน ถึงแม้จะมีการระบาดอย่างหนัก มีคนติดเชื้อเกิน 3 หมื่นคน แต่ส่วนใหญ่ก็มีอาการแข็งแรง ไม่มีอาการป่วยแสดงออก ต่างจากในสหรัฐอเมริกา หรือในยุโรป ที่โรคนี้ไปบุกถึงบ้านพักคนชรา จนมีคนป่วยหนัก – เสียชีวิตมากมาย
.
เมื่อไม่มีอาการ ก็ทำให้โรงพยาบาล แพทย์ – พยาบาล ไม่ต้องทำงานหนัก ระบบสาธารณสุขที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว ยังสามารถเดินหน้าได้ปกติ ไม่มีผลกระทบอะไรจากโรคนี้ “เครื่องช่วยหายใจ” ที่เตรียมไว้ทั่วเกาะสิงคโปร์เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยหนัก ถูกใช้น้อยมาก
.
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นกันว่า สิงคโปร์ “ปิดบัง” ตัวเลขการตายของโรคโควิด – 19 ไว้ และโยนให้เป็นการตายด้วยโรคอื่น จนทำให้อัตราตายต่ำมาก แต่องค์การอนามัยโลกเอง ออกมายืนยันว่าการจัดการของสิงคโปร์นั้นดีจริง และเป็นเรื่องที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุน้อยมากกว่า ทำให้ไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่น และทำให้อัตราการตายไม่สูงนัก
.
อย่างไรก็ตาม แรงงานจากบังกลาเทศจำนวนมากก็วิจารณ์การจัดการของรัฐบาล ที่ให้ “ย้ายที่” ออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ บางราย ถูกให้ย้ายไปอยู่บนเรือสำราญ บางรายถูกให้ย้ายไปอยู่ในค่ายทหาร ซึ่งหลายคนบอกว่าคุณภาพชีวิตไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก รวมถึงถูกจับแยกกับเพื่อน ครอบครัว ญาติพี่น้อง
.
หากเป็นประเทศอื่น เมื่อครบ 14 วันก็จะได้กลับบ้าน แต่สำหรับสิงคโปร์ เมื่อตัวเลขในหอพักแรงงาน S11 ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ แรงงานเหล่านี้ ยังไม่มีโอกาสได้กลับง่ายๆ และไม่รู้ชีวิตจะกลับมาเป็นปกติ หารายได้ส่งกลับบ้านได้อีกเมื่อไหร่..

#covid19 #โควิด19 #สิงคโปร์

อ้างอิงจาก

https://www.reuters.com/article/us-...res-biggest-coronavirus-cluster-idUSKBN2230RK

https://www.vox.com/2020/5/20/21265194/coronavirus-deaths-us-singapore-case-fatality-rates

https://www.scmp.com/week-asia/heal...irus-why-so-few-deaths-among-singapores-14000

https://edition.cnn.com/2020/05/14/asia/singapore-migrant-worker-coronavirus-intl-hnk/index.html

 

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) กลับมาเปิด Floor สำหรับการซื้อขายบางส่วนหลังจากที่ปิดไป 2 เดือน ด้าน Trader ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าต้องการจะกลับมาทำงานที่ Floor เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่พร้อมต่อการทำงานมากกว่าการทำงานจากที่บ้านหรือที่ออฟฟิศชั่วคราว

NYSE ได้ออกข้อบังคับซึ่งกำหนดให้ Trader ห้ามเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ ต้องลงนามในสัญญาจ่ายค่าเสียหายหากพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามการกำกับดูแลด้านสุขภาพของตลาด

ทั้งนี้ การศึกษาของ SIFMA พบว่าส่วนแบ่งการตลาดซึ่งวัดจากปริมาณการซื้อขายของ NYSE ปรับลดลงในช่วงดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่อนข้างผันผวนเป็นปกติซึ่งผู้บริหารของ NYSE คาดว่าส่วนแบ่งจะปรับลดลงในเดือน เม.ย. แต่จะฟื้นกลับขึ้นมาหลังจากนั้น

ด้านบริษัทเอกชนเริ่มกลับมามีความสนใจการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบริษัททั้งสิ้น 6 บริษัทได้ดำเนินการเพื่อขอจดทะเบียนใน NYSE ขณะที่บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 270 รายได้ให้พนักงานในส่วน Trading มาทำงานในช่วงวันหยุดเพื่อจัดการรายการซื้อขายที่ผิดการส่งมอบ การดำเนินงานดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 28 มีนาคมถึง 25 เมษายนซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้แผนฉุกเฉินของ SIFMA

แผนดังกล่าวมีต้นแบบมาจากการจัดการเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดในปี 2007 ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าแผนดังกล่าวช่วยให้การประสานงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและควบคุมไม่ให้จำนวนรายการที่ผิดชำระส่งมอบปรับสูงเกินไป

สัปดาห์นี้ รัฐ New York จะขยายการเปิดพื้นที่ให้ครอบคลุมเกือบทุกส่วนในรัฐ แต่ยังยกเว้นนครนิวยอร์กที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ด้านจำนวนเตียงรักษาผู้ป่วยและความสามารถในการติดตามผู้ติดเชื้อ

นาย Andrew Cuomo ผู้ว่าการรัฐ New York ได้กล่าวว่า วันนี้จะอนุญาตให้พื้นที่ Mid-Hudson กลับมาเปิดภาคเศรษฐกิจได้ และวันพุธนี้จะเปิดพื้นที่ส่วน Long Island เพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐ New York ได้เปิดไปแล้วกว่า 7 พื้นที่หลักในด้านทิศเหนือของรัฐ โดยการเปิดในระยะแรกจะอนุญาตให้ร้านค้าปลีกเปิดให้บริการได้ รวมถึงภาคการผลิตและการก่อสร้างกลับมาดำเนินการได้ ขณะที่ในส่วนนครนิวยอร์กยังติดประเด็นเรื่องความสามารถในการติดตามผู้ติดเชื้อ โดยรัฐจะจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 1,700 ตำแหน่ง ภายใน 1 มิ.ย. นี้ เพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว

นาย Bill de Blasio นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่าทางนครนิวยอร์กยังต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ผู้ว่าการรัฐกำหนด ซึ่งหวังว่านครนิวยอร์กจะกลับมาเปิดภาคเศรษฐกิจได้ในช่วงครึ่งแรกของเดือน มิ.ย. ขณะที่รัฐข้างเคียงอย่าง New Jersey ได้ผ่อนปรนมาตรการไปเป็นระยะ โดยอนุญาตให้มีการรวมตัวกันได้ไม่เกิน 25 คน และสามารถจัดพิธีจบการศึกษาได้ในสถานที่กลางแจ้ง

Source: BoTSS
- น้ำมันขึ้น-ดาวโจนส์พุ่ง 520 จุดจากสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจ ทองคำดิ่ง $29: https://mgronline.com/around/detail/9630000054981

www.aljazeera.com

 

ทวิตเตอร์ขึ้นแถบคำเตือนให้ “ตรวจสอบข้อเท็จจริง” ใต้ทวีตของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ทำเอาผู้นำสหรัฐฯ ออกอาการเดือดดาล และโจมตีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดฮิตว่ากำลังแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000055012

 

อดีตผู้บริการการบินไทย ฟันธง “นักการเมือง-บอร์ดคนนอก” เข้ามาหากิน ต้นเหตุการล่มสลายของสายการบินแห่งชาติ แฉ ขบวนการทุบการบินไทย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สิงคโปร์แอร์ไลน์ เริ่มจากการทำแผนปฏิรูปเมื่อปี 57 เปิดทางยึดเส้นทางการบินทั้งในและต่างประเทศ ผ่านบริษัทลูกที่เข้ามาร่วมทุน เตือน! ระวังเหลือบอาศัยแผนฟื้นฟู เตรียมแยก ครัวการบินไทย แอร์คาร์โก้ หน่วยซ่อมบำรุง และฝ่ายภาคพื้น แหล่งสร้างรายได้สำคัญออกขาย เอาเงินเข้ากระเป๋า

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054899

 

ลาแทม แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (LATAM Airlines Group) สายการบินรายใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ได้ยื่นได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ ในวันอังคาร (26 พ.ค.) จากถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของทางบริษัท กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054929

 

ชายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งถูกจำคุกเป็นเวลา 4 เดือนในวันอังคาร(26พ.ค.) โทษฐานละเมิดมาตรการกักกันโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ถือเป็นครั้งแรกที่มีการลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดในลักษณะนี้ในเกาหลีใต้

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054949

 

ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือนในวันอังคาร(26พ.ค.) จีนกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ในแผนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เพื่อใช้ในฮ่องกง และสัญญาว่าวอชิงตันจะชดเชยค่าเสียหายแก่บริษัทต่างๆของอเมริกาที่ต้องการย้ายปฏิบัติการออกจากฮ่องกงหรือจีน

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054977

 

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรัฐมิสซูรี ประณามฝูงชนหลายร้อยคนที่รวมตัวแออัดยัดเยียดกันบริเวณสระว่ายน้ำและบาร์แห่งหนึ่ง ณ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หลังวิดีโองานปาร์ตี้ดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054948

 

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆกลับไปเรียนหนังสือ จนกว่าจะมีวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) แม้บางประเทศเริ่มกลับมาเปิดการเรียนการสอนกันแล้ว

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000054963

 

World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

คอสตาริกา:ออกกฏหมายรองรับแต่งงานเพศเดียวกัน ภาพ Alexandra Quiros และ Dunia Araya
แต่งงานโดนแชร์ไปในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก
ทั้งคู่ได้แต่งงานเพศเดียวกัน เป็นคู่แรกที่ถูกต้องในคอสตาริกา รบ.ได้ลงนามกฏหมายแต่งงานเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่เท่าเทียม
Cr : ภาพบางส่วน AFP

 

World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

สหรัฐ : รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประชาชนออกมาประท้วง
ให้รัฐ รีบเปิดเมือง ธุรกิจ การค้า การลงทุนจะได้เดินหน้าต่อ และเพื่ออิสรภาพของพวกเขา นิวเจอร์ซีย์ปิดเมืองมาแล้วร่วมสองเดือน ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในรัฐนี้อยู่ที่ 373,622รายเสียชีวิต 29,451ราย
ภาพรวมของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตเกิน 1แสนคนแล้ว
ยอดติดเชื้อวันนี้ 1,725,275 เสียชีวิต100,572 ราย

 

World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

อินเดีย : จโยตี กุมารี สาวน้อยวัย 15 ปั่นจักรยาน พาคุณพ่อพิการกลับบ้าน มากกว่า 1200 กม. น้องใช้เวลา 7วันในการเดินทาง ในช่วงล็อคดาวน์อินเดีย ผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก ต่างออกจากเมืองใหญ่มุ่งหน้าสู้ชนบทบ้านเกิด เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว หลายคนเดินเท้ากลับเพราะเงินไม่มี บางคนเลือกรอรถไฟขบวนพิเศษที่รัฐจัดให้ วันละ 1-3ขบวนแต่ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชาชน หลายคนจึงหาทางออกต่างๆเพื่อให้ได้กลับบ้าน บางคนต้องแลกด้วยชีวิตระหว่างการเดินทาง ในอินเดียยังมีประชากรกว่า 300 ล้านคนที่ต่ำกว่าคำว่ายากจน หนทางเลือกของพวกเขาจึงไม่ได้มีมากนัก
Cr : al arabiya english

 

พบ 3 ใน 4 ของแรงงานเมียนมาที่ตกงานเพราะโควิด-19 เดินทางกลับประเทศ เผยจะไม่กลับมาเมืองไทยอีก สาเหตุหลักเพราะงานหายาก เจอมาเฟียชาติเดียวกันเก็บค่าคุ้มครองสารพัด



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/soc...ZTChdp7Bpdk2aKvBpkTtm7rEQlh4rgXKV5IP6GCSILOWA

 

ศรีสุวรรณ สอนกฎหมาย นพ.ทวีศิลป์ ชี้มีกฎหมายอื่นใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้



นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ “ศบค.” ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา กรณีขณะนี้ประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่มากแล้ว เหตุใดจึงยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเรามี พ.ร.บ.โรคติดต่ออยู่แล้วว่า ตอนเราใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่ออย่างเดียว ต้องมีการทำงานข้ามกระทรวง ซึ่งการสั่งการทำได้แต่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานข้ามกระทรวง แตกต่างจากตอนมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เป็นการนำเอากฎหมายกว่า 40 ฉบับ รวมถึง พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้มีการบูรณาการทำงานกัน
คำแถลงดังกล่าวไม่อาจเรียกว่าคำชี้แจงได้ แต่มีลักษณะที่อาจเข้าข่ายการโฆษณาที่มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับรัฐบาลที่ยังคงต้องการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป เพื่อควบคุมประชาชน มากกว่าที่จะใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย พลอยจะหลงเชื่อตามไปกับคำแถลงดังกล่าวได้
ทั้งนี้ หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ประเทศไทยก็ยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ และกฎหมายอื่นที่จะสามารถนำมาใช้ควบคู่กันได้ในการควบคุมโรค อาทิ การตั้งคณะทำงานแบบบูรณาการ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสามารถใช้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ม.11 มาใช้แทนได้ การสั่งห้ามการออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) และการสั่งห้ามการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกัน สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.34 แทนได้ การควบคุมการเปิดหรือปิดสถานที่ สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.35 แทนได้ การควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศ สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.39-43 แทนได้ การแก้ไขปัญหาการกักตุนสินค้า ก็สามารถใช้ พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ แบะ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ แทนได้ และอำนาจในการควบคุมการเสนอข่าว ก็สามารถใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.384 มาแทนได้
การที่รัฐบาลยังคิดแต่จะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะการทำลายวงจรเศรษฐกิจของประเทศ และก่อปัญหาสังคมตามมากมาย แม้จะกู้เงินมาช่วย 1.9 ล้านล้านบาทก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ นอกจากจะนำไปสู่การสร้างปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ทั้งปัญหาความขัดแย้งในสังคม ปัญหาคอร์รัปชั่น ฯลฯ ที่สำคัญกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือหากินของเจ้าหน้าที่รัฐบางคนในการกินหัวคิวกรณี State Quarantine รวมทั้งการที่พนักงานเจ้าหน้าที่นำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การควบคุมโรค แต่กลับนำไปใช้ข่มขู่ชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่ จ.สงขลา เป็นต้น
The post ศรีสุวรรณ สอนกฎหมาย นพ.ทวีศิลป์ ชี้มีกฎหมายอื่นใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ appeared first on SpringNews.
Source : #Springnews #สปริงนิวส์

https://www.springnews.co.th/politics/671147

 

ไม่ยอมตกงาน ดาวตลกคณะหมอลำ ขี่ซาเล้งเร่ขายไข่ ร้องรำเรียกลูกค้า
"น้องฟิล์ม ลูกอีสาน" ตลกน้อย ร้อยกิโล ดาวตลกคณะหมอลำ วงถูกเลิกจ้างไม่มีงานช่วงโควิด เจ้าตัวไม่ยอมตกงาน ขี่ซาเล้งเร่ขายไข่ไก่สดจากฟาร์ม เปิดเพลงร้องกลอนหมอลำเรียกลูกค้า รายได้กระฉูด



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...VYxp-FcW3uiJYh8lXElHtt8sO00ahWdQUvhpGd_bmYpn8

 

สมช. จ่อชง คลายล็อกเฟส3 ไฟเขียวปชช.ข้ามจว. สวนสนุก-มวยตู้ต้องลุ้น!



เลขา สมช. เผย จ่อเตรียมเสนอ ศบค.ใหญ่ คลายล็อกเฟส 3 ให้ประชาชนข้ามจังหวัดได้-ส่วนสวนน้ำ -มวยตู้ ยังไม่เคาะ รอถกกระทรวงสาธารณสุขก่อน
วันที่ 27 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่า ในช่วงการผ่อนคลายระยะที่ 3 นี้ ถึงเวลาเหมาะสมที่ต้องเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว บ่ายวันนี้จึงมีการประชุม เพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ กิจการ และกิจกรรมในวงกว้างมากขึ้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะการผ่อนคลายมาตรการเดินทางข้ามจังหวัดที่จะออกเป็นข้อกำหนดกลาง แต่จังหวัดก็ยังสามารถบังคับใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่าได้ การปรับลดเวลาเคอร์ฟิวลง ส่วนกิจการประเภทสวนน้ำ สวนสนุก และกีฬาบางประเภท เช่น มวยตู้ จะมีหารือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขด้วย หากเห็นว่ายังมีความเสี่ยง ก็จะต้องจัดให้อยู่ในกิจกรรมที่จะผ่อนคลายได้ในระยะที่ 4 ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อไป
________________________________________________
The post สมช. จ่อชง คลายล็อกเฟส3 ไฟเขียวปชช.ข้ามจว. สวนสนุก-มวยตู้ต้องลุ้น! appeared first on ข่าวสด.
Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4205963

 

“ดูเตอร์เต” ลั่น ไม่ให้เด็กไปโรงเรียน จนกว่าจะมีวัคซีนต้านโควิด



โรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผยว่า ตนจะไม่อนุญาตให้นักเรียนไปโรงเรียน จนกว่าจะมีวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เช่นเดียวกับที่บางประเทศสั่งให้มีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์
บรรดาเด็กนักเรียนฟิลิปปินส์จะต้องกลับเข้าชั้นเรียน เดิมมีกำหนดเปิดเทอมในปลายเดือน ส.ค. หลังจากที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาถูกสั่งให้ปิดตั้งแต่เดือน มี.ค. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ดูเตอร์เต มองว่าเป็นการเสี่ยงเกินไป ที่จะให้นักเรียนกลับไปสู่ระบบโรงเรียน และไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัยจริงหรือไม่ พร้อมกับย้ำว่า สำหรับตน วัคซีนต้องมาก่อน ถ้ามีวัคซีนต้านโควิด-19 ทุกอย่างก็จบ หากจะไม่มีใครเรียนจบก็ไม่ใช่ปัญหา
“ดูเตอร์เต” เอาจริง! สั่งยิงทันทีหากพบผู้ฝ่าฝืนล็อกดาวน์
รัฐบาลฟิลิปปินส์ กำลังพิจารณาลดระดับมาตรการล็อกดาวน์ภายในประเทศ จากเดิมที่จะครอบคลุมในระดับภูมิภาค ลงเหลือเพียงระดับชุมชน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดเศรษฐกิจประเทศ หลังรัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์นานกว่า 2 เดือน
โดยตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนใหญ่ในกรุงมะนิลาได้รับการอนุญาตให้เปิดกิจการบางส่วน ขณะที่ยังให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้น
The post “ดูเตอร์เต” ลั่น ไม่ให้เด็กไปโรงเรียน จนกว่าจะมีวัคซีนต้านโควิด appeared first on SpringNews.
Source : #Springnews #สปริงนิวส์

https://www.springnews.co.th/global/671123