ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อะไรๆ ก็ไม่เที่ยงทั้งนั้น
    กายไม่เที่ยง ใจไม่เที่ยง แวดล้อมไม่เที่ยง
    ถือสาหาความกับสิ่งใดไม่ได้เลย
    ไปถือมาเมื่อไหร่ก็หนัก ก็ทุกข์

    ภาระเกิดเพราะ"มี"
    เมื่อมีภาระก็หยุดคิดไม่ได้ คิดไปในอดีต คิดไปในอนาคต

    ชีวิตมีเพื่อทิ้ง
    วันนี้ไม่ทิ้ง วันหน้าก็ต้องทิ้งอยู่ดี
    อยู่กับปัจจุบันให้เป็น

    ลองทำใจให้ไม่มีดูซิ ฉันผู้ไม่มีอะไรเลย ลองดู
    จะได้พบกับความเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก
    เพราะไม่มีสิ่งใดมาร้อยรัดไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2020
  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    มีเส้นลายมือแปลกๆ แตกขึ้นใหม่
    ทายว่า.........จะ.........ไม่รู้วววววว

    เป็นใบไม้หรือดอกบัว?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การเพ่งโทษผู้อื่นไม่ได้ร้องเรียกมาหาตนเลย ที่ร้องเรียกมาหาตนเพื่อเพ่งโทษผู้อื่นนั้น ก็เพราะจิตไม่มีเมตตานั่นเอง ไม่ใช่อื่นไกลเลย ขอให้ลูกๆ หลานๆ ปฏิบัติอย่างที่ว่ามานี้ติดต่ออยู่ อย่าทำแบบจับๆ จดๆ แล้วขาดๆ วิ่นๆ ให้เข้าใจว่าแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์มารวมอยู่ที่เมตตาแห่งเดียวนั่นเอง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว กระแสของจิตมันก็จะส่งส่าย ว่าอันนี้ดีอันนี้ชั่ว จับๆ วางๆ ให้เห็นคุณในตอนนี้เสียก่อน แล้วยังมีต่อไปอีกว่า ผู้เจริญเมตตาหลับคากันไม่ฝันเห็นสิ่งที่ลามกอันร้าย

    ธรรมอันนี้มันฆ่าความโกรธไปในตัวแล้ว มีพระบาลีอ้างว่า "โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ" ฆ่าความโกรธได้แล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข มีจินตกวีต่อท้ายว่า

    "ช้างมันขันโซ่เส้นตรวนขึง ปลอกมัดรัดรุมรึงผูกไว้ ให้อดหญ้าอดน้ำจึงเมาสร่าง ย่อมรู้พิษของ
    ความโกรธโหดร้ายเพราะช้างเมามัน ความรักดุจเชือกพันเหนี่ยวรั้ง โทสะฉุดแข็งขันรักขาด อาจฆ่าผู้อื่นได้ทั้งท่านผู้มีคุณ หมื่นหนสามารถทำให้รถหยุด ม้าพยศฉุดหมื่นครั้งก็ยังไม่เท่า เหนี่ยวรั้งโกรธได้คราวเดียว ตัดผมย้อมปากแก้มนะขา วิเลปะนะลูบไล้ทา ผ่องแผ้วประดับปภัสตราภรณ์ งามเลิศ ค่าแล โทสะมากแล้ว เช่นนี้ งามไฉน แม้ขาดเครื่องลูบไล้ ชะโลมทา นุ่งห่มผ้าราคา ต่ำต้อย
    มีขันตีตะปะ ข่มโกรธ เสงี่ยมงามแช่มช้อย เช่นนี้ เธียรชม ฆ่าสัตว์มุ่งเสพเนื้ออีกหวัง กระดูกงาเขาหนังได้ใช้ แต่ก็ยังเป็นบาป กรรมเฮย ใครฆ่าความโกรธได้ ประโยชน์แท้ บุญเหลือ...(ฟอ โกวิโท)

    จำมาจากดวงประทีป สมัยปิ่น มุทะกันต์ ข้ออื่นยังมีอยู่อีกพระบรมศาสดายืนยันว่าท่านผู้ใดพลิกจิตแผ่เมตตาขณะลัดนิ้วมือเดียว ท่านผู้นั้นไม่อยู่ห่างจากฌานเลย และก็ประพฤติใกล้พระนิพพานโดยแท้ทีเดียว...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แค่คนธรรมดาๆ ค่ะ ชอบธรรมะ ชอบในการฝึกหัดขัดเกลาจิตเพราะไม่ต้องการเวียนว่ายตายเกิดอีก มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ผู้วิเศษหรือมีอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไป ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ไหน ใครๆ ที่ได้รู้จัก เค้าต่างพาเรียกกันเองว่าแม่ย่า ท่านย่า สงสัยเพราะเขาคงเห็นว่าเกิดก่อน แก่กว่าเขา ของขลังไม่มี มีแต่ของขัง

    ชัดเจนกับเรื่องของปลอม เพราะเราเองก็ยังปลอม กายนี้ก็ปลอม ถ้าไม่ปลอมมันต้องไม่พัง ไม่ชำรุด ไม่ตาย หรือถ้าตายแล้วเกิดใหม่ก็ต้องเป็นกายนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ไง

    เอาใจช่วยให้เข้าถึงธรรมแท้กันให้ได้นะ ธรรมแท้ ธรรมแท้ๆ ก็คือธรรมที่มีอยู่แล้วที่กาย ที่จิต...ค้นหากันให้เจอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    นำมาฝากค่ะ

    มรรค ๘ แก้โลกธรรม ๘

    (ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร)
    วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร

    ...มรรค ๘ ใครภาวนาเจริญดีแล้ว แก้โลกธรรม ๘ ประการ ฉะนั้น จิตท่านอรหันต์ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ๘ ประการ มีไตรลักษณ์บังคับ
    แม้โลกีย์ทั้งหลาย มีไตรลักษณ์บังคับอยู่เสมอ

    ไตรลักษณ์บังคับไม่ได้นั้น มีโลกุตระเท่านั้น
    โลกุตรอันนี้อยู่เหนือไตรลักษณ์ สถานที่เกษม
    บุคคลที่จะพ้นโลกีย์ไปถึงโลกุตระ ต้องสร้างบารมีเป็นการใหญ่

    บุคคล ๓ จำพวก คือ
    พระพุทธเจ้า ๑
    พระปัจเจก ๑
    พระอรหันต์ ๑

    พระพุทธเจ้าสร้างบารมี ๓ ชนิด
    ปัญญาบารมี ๔ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
    ศรัทธาบารมี ๘ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
    วิริยะบารมี ๑๖ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

    พระปัจจเจก สร้างบารมี ๒ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
    พระอรหันต์ สร้างบารมี ๑ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

    สร้างบารมีมิใช่น้อยกว่าจะสำเร็จพระนิพพานได้ดังนี้ ชำนาญมากที่สุด ๑ อสงไขย

    เหลือจะนับนั้นประการหนึ่ง
    เอาสวรรค์ เอานรกเป็นเรือนอยู่สร้างบารมี
    พระนิพพานเป็นของที่แพงที่สุด
    ต้องสร้างบารมีแลกเปลี่ยนเอา จึงจะได้พระนิพพาน
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จากเพจเล่าสู่กันฟัง

    ความจริงของชีวิตที่คุณต้องเข้าใจ

    1. เวลาชีวิตเราลดลงทุกวัน ทุก 1 นาทีที่เสียไป คือ 60 วินาที ของความสุขที่ลดลง

    2. ความสุขไม่อยู่ที่มีเท่าไหร่ แต่ความสุขอยู่ที่พอเมื่อไหร่

    3. มีพบ มีพราก มีรัก มีจาก เป็นเรื่องธรรมดาฝึกทำใจกับการจากลาให้ชิน เพราะสักวันมันต้องวนมาหาเรา

    4. สิ่งใดที่เราควบคุมมันไม่ได้ สิ่งนั้นกำลังสอนให้เรารู้จักปล่อยวาง

    5. ใครจะอวดลูก อวดเมีย อวดสามี อวดอะไรก็ตาม มันก็สิทธิ์ของเขา เรื่องของเขา รักษาใจเรา
    ไม่ไปอิจฉาเขาพอ

    6. เลิกดูถูกตัวเองได้แล้วว่าไม่เก่ง ไม่เก่งจริงเกิดเป็นคนไม่ได้

    7. กรรมถึงเวลา มันจะทำงานของมันเอง หน้าที่เราแค่ปล่อยวาง ถ้าอยากต่อกรรมก็จองเวรเขาต่อไป

    8. อยากไปคิดเยอะว่าต้องมีทรัพย์สมบัติมหาศาล ตายไปยังไม่เห็นใครหอบไปได้สักคน พอมีพอกิน
    ก็พอแล้ว อย่าไปคิดมาก

    9. ช่างแม่งบ้างในบางโอกาส เพราะบางสิ่งมันก็
    ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดเสมอไป

    10. ถ้าเรายังห้ามเล็บไม่ให้ยาว ผมไม่ให้ร่วง ก็อย่าไปคาดหวังจากใครว่าไม่เปลี่ยนแปลง เพราะขนาดเรายังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย

    11. เสียใจได้แต่อย่าเสียดาย เพราะเสียใจสักวันมันก็หาย แต่เสียดายระวังมันจะฝังเป็นปมไปตลอดชีวิต

    12. จงชัดเจนกับตัวเอง เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตไปต่อได้ ถ้ามัวแต่คาราคาซังชีวิตก็วนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

    13. ไม่ว่าชีวิตจะดีสุดขั้ว ไม่ว่าชีวิตจะแย่สุดขีด จงรู้จักปล่อยวาง เพราะเรามาตามกรรม แล้วก็ไปตามกรรม เป็นธรรมดาเอย

    #เล่าสู่กันฟัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2020
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    _/|\_ _/|\_ _/|\_

    "โยมขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรม เพราะพระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย" โดยหลวงปู่หา สุภโร ( หลวงปู่ไดโนเสาร์ )

    โยม : หลวงปู่ครับ ผมจะขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรมครับ เพราะพระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ผมว่าพระแท้ๆหมดแล้วจากพระศาสนา

    หลวงปู่ : ฮ้วย แสดงว่าบ่นับถืออาตมานำตั้วนี่

    โยม : เปล่าๆ ครับหลวงปู่ ผมยังเคารพศัทธาหลวงปู่เหมือนเดิม

    หลวงปู่ : เอ้าไสว่าไม่นับถือพระสงฆ์เด้

    โยม : เว้นหลวงปู่สิครับผม

    หลวงปู่ : บ่ะ เว้นหลวงปู่ก็แสดงว่าหลวงปู่ก็ไม่ใช่พระสงฆ์สิ

    โยม : (ทำหน้าเหมือนคิดหนัก).........

    หลวงปู่ : บักหล่าเอ้ย เวลาเขาเอาทองคำนั้นเขาไปหามาจากที่ไหน

    โยม : ไปขุดดินแล้วร่อนเอาทองมาครับ

    หลวงปู่ : ดินมากหรือทองมาก

    โยม : ดินมากครับผม ร่อนทองจากดินมากแล้วจะได้ทองนิดเดียว

    หลวงปู่ : มันก็เหมือนพระสงฆ์นั้นหล่ะ พระสงฆ์ก็ร่อนมาจากลูกชาวบ้าน ลูกสมมติสงฆ์ ไม่ใช่เป็นพระอรหันต์แล้วมาบวชเมื่อไหร่ มันก็มีบ้างเสียบ้าง จะให้ดีหมดมันก็ทำไม่ได้ จะให้มันเสียหมดก็ทำไม่ได้ ส่วนที่มันเป็นดินก็อย่าเอา เอาส่วนที่มันเป็นทองสิ ถ้าเชื่อหลวงปู่ถ้าเคารพหลวงปู่ ก็จงเชื่อว่าพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีมากมาย อย่าเหมาว่าไม่ดีทั้งหมด ขนาดคุณยังมีข้อเสีย จะให้ดีทั้งหมดทั้งโลกก็ไม่ได้ พระรัตนตรัยเหมือนไม้สามลำค้ำกันไว้ เ อาออกอันหนึ่งมันก็ล้ม จำไว้พระก็คือนักเรียน ผู้เป็นอริยะคือผู้สอบผ่าน ผู้เป็นข่าวคือผู้สอบตก ให้สงสารคนสอบตก อย่าไปเกลียดคนสอบตก เพราะไม่มีใครอยากจะสอบตก เข้าใจนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ทารกไม่มีพิษภัย กิน นอน ขี้ เยี่ยว ไปตามประสา ทารกอ่อนประสบการณ์ชาตินี้ แต่มากประสบการณ์จากชาติก่อนๆ ร่างกายที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ ยังต้องการๆ พัฒนา แต่ร่างกายที่กำเนิดมานานแล้ว ถูกสะสมด้วยซากปฏิกูลต่างๆ มากมายจนล้นรอวันพัง ปรุงแต่งเพื่อไปสู่ความพัง ถนอมรักษาไว้แค่ไหนยังไงก็ต้องพัง ไม่งั้นธรรมชาติคงไม่หมุนเวียน

    การถือกำเนิดแต่ละครั้ง นั่นคือเฟืองที่ใช้หมุนวงล้อ ฟันเฟืองคือกิเลส กรรมและวิบาก วงในสุดมีกำลังน้อยที่สุด วงนอกสุดมีกำลังมากที่สุด ด้วยรอบของมันมีขนาดต่างกัน แรงเหวี่ยงจึงต่างกัน ขณะนี้อยู่ที่วงนอกหรือวงใน

    กิเลสหยั่งรากลึกลงสันดาน ปัญญาก็ต้องหยั่งลึกลงสันดานเช่นกัน จึงจะถอนรากได้ สำคัญที่เจอปัญญาหรือยัง? อย่าเพิ่งดีใจที่ได้เจอกระดาษ

    สมมติอุปโลกน์ ติดสมมติจนยากถอดถอน

    ธรรมชาติของธาตุ การกำเนิดขึ้น การแตกออก การรวมตัว

    เป็นเพียงผัสสะ ปฏิกูลทางอารมณ์ ปฏิกูลนี้หากไม่ถูกขับออก ก็จะเก็บสะสมทับถมต่อไป แล้วแสดงออกมาทางกาย ทางจิต ในวันใดวันหนึ่ง เป็นความกราดเกรี้ยวก้าวร้าวบ้าง เจ้าเล่ห์แสนกลบ้าง...เป็นโรงงานผลิตทุกข์

    ก็ไม่ต่างจากหนังผืนหนึ่งที่ห่อหุ้มเนื้อ เลือด ไขมัน กระดูกฯ ไว้ มองภายนอกเห็นเป็นงดงาม กิเลสฉาบไว้ที่อายตนะ มีสายโยงใยถึงกันหมด อายตนะที่บริสุทธิ์มีเพียงพระอรหันต์

    ที่ว่าถูกก็ถูกตามสมมติ ที่ว่าผิดก็ผิดตามสมมติ
    ที่ว่าตรงตามธรรมก็ยังเป็นธรรมที่สมมติ
    โลกก็ยังเป็นโลกสมมติ
    แม้แต่เราเองก็ยังถูกสมมติขึ้นมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เช้า-สาย-บ่าย-เย็น ของวันนี้ ไม่ซ้ำกันเลย:D
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2020
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
    ของฝากจากแดนไกล

    เรื่อง “พระโสดาบัน” กับการละสักกายทิฏฐิ

    (โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    ผู้สำเร็จชั้นพระโสดา ท่านกล่าวไว้ว่า ละสังโยชน์ได้ ๓ คือสักกายทิฏฐิหนึ่ง วิจิกิจฉาหนึ่ง สีลัพพตปรามาสหนึ่ง สักกายทิฏฐิที่แยกออกตามอาการของขันธ์มี ๒๐ โดยตั้งขันธ์ห้าแต่ละขันธ์ ๆ เป็นหลักของอาการนั้น ๆ ดังนี้ ความเห็นกายเป็นเรา เห็นเราเป็นกาย คือเห็นรูปกายของเรานี้เป็นเรา เห็นเราเป็นรูปกายอันนี้ เห็นรูปกายในอันนี้มีในเรา เห็นเรามีในรูปกายอันนี้ รวมเป็น ๔ เห็นเวทนาเป็นเรา เห็นเราเป็นเวทนา เห็นเวทนามีในเรา เห็นเรามีในเวทนา นี่ก็รวมเป็น ๔ เหมือนกันกับกองรูป แม้สัญญา สังขาร วิญญาณก็มีนัย ๔ อย่างเดียวกัน โปรดเทียบกันตามวิธีที่กล่าวมา คือขันธ์ห้าแต่ละขันธ์มีนัยเป็น ๔ สี่ห้าครั้งเป็น ๒๐ เป็นสักกายทิฏฐิ ๒๐ มีตามท่านกล่าวไว้ว่า พระโสดาบันบุคคลละได้โดยเด็ดขาด
     
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แต่ทางด้านปฏิบัติของธรรมะป่า รู้สึกจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง เฉพาะสักกายทิฏฐิ ๒๐ นอกนั้นไม่มีข้อข้องใจในด้านปฏิบัติ จึงเรียนตามความเห็นของธรรมะป่าแทรกไว้บ้าง คงไม่เป็นอุปสรรคแก่การฟังและการอ่าน เมื่อเห็นว่าไม่ใช่ทางปลดเปลื้องตามนัยของสวากขาตธรรมแล้ว ก็กรุณาผ่านไป อย่าได้ถือเป็นอารมณ์ขัดข้องใจ ผู้ละสักกายทิฏฐิ ๒๐ ได้เด็ดขาดนั้น เมื่อสรุปแล้วก็พอได้ความว่า ผู้มิใช่ผู้เห็นขันธ์ห้าเป็นเรา เห็นเราเป็นขันธ์ห้า เห็นขันธ์ห้ามีในเรา เห็นเรามีในขันธ์ห้า คิดว่าคงเป็นบุคคลประเภทไม่ควรแสวงหาครอบครัว ผัว-เมีย เพราะครอบครัว (ผัว-เมีย) เป็นเรื่องของขันธ์ห้า ซึ่งเป็นรวงรังของสักกายทิฏฐิที่ยังละไม่ขาดอยู่โดยดี ส่วนผู้ละสักกายทิฏฐิได้โดยเด็ดขาดแล้ว รูปกายก็หมดความหมายในทางกามารมณ์ เวทนาไม่เสวยกามารมณ์ สัญญาไม่จำหมายเพื่อกามารมณ์ สังขารไม่คิดปรุงแต่งเพื่อกามารมณ์ วิญญาณไม่รับทราบเพื่อกามารมณ์ ขันธ์ทั้งห้าของผู้นั้นไม่เป็นไปเพื่อกามารมณ์ คือประเพณีของโลกโดยประการทั้งปวง ขันธ์ห้าจำต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปงานแผนกอื่นที่ตนเห็นว่ายังทำไม่สำเร็จ โดยเลื่อนไปแผนกรูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา
     
  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ผู้ละสักกายทิฏฐิ ๒๐ ได้โดยเด็ดขาด คิดว่าเป็นเรื่องของ “พระอนาคามีบุคคล” เพราะเป็นผู้หมดความเยื่อใยในทาง “กามารมณ์” ดังกล่าวแล้ว ส่วน “พระโสดาบันบุคคล” คิดว่าท่านรู้และละได้โดยข้ออุปมาว่า มีบุรุษผู้หนึ่งเดินทางเข้าไปในป่าลึก ไปพบบึงแห่งหนึ่งมีน้ำใสสะอาดและมีรสจืดสนิทดี แต่น้ำนั้นถูกจอกแหนปกคลุมไว้ ไม่สามารถจะมองเห็นน้ำโดยชัดเจน เขาคนนั้นจึงแหวกจอกแหนที่ปกคลุมน้ำนั้นออก แล้วก็มองเห็นน้ำภายในบึงนั้นใสสะอาดและเป็นที่น่าดื่ม จึงตักขึ้นมาดื่มทดลองดู ก็รู้ว่าน้ำในบึงนั้นมีรสจืดสนิทดี เขาก็ตั้งหน้าดื่มจนเพียงพอกับความต้องการที่เขากระหายมาเป็นเวลานาน เมื่อดื่มพอกับความต้องการแล้วก็จากไป ส่วนจอกแหนที่ถูกเขาแหวกออกจากน้ำก็ไหลเข้ามาปกคลุมน้ำตามเดิม เขาคนนั้นแม้จากไปแล้วก็ยังมีความติดใจ และคิดถึงน้ำในบึงนั้นอยู่เสมอ และทุกครั้งที่เขาเข้าไปในป่านั้น ต้องตรงไปที่บึงและแหวกจอกแหนออก แล้วตักขึ้นมาอาบดื่มและชำระล้างตามสบายทุก ๆ ครั้งที่เขาต้องการ เวลาเขาจากไปแล้วแม้น้ำในบึงนั้นจะถูกจอกแหนปกคลุมไว้อย่างมิดชิดก็ตาม แต่ความเชื่อที่เคยฝังอยู่ในใจเขาว่า น้ำในบึงนั้นมีอยู่อย่างสมบูรณ์หนึ่ง น้ำในบึงนั้นใสสะอาดหนึ่ง น้ำในบึงนั้นมีรสจืดสนิทหนึ่ง ความเชื่อทั้งนี้ของเขาจะไม่มีวันถอนตลอดกาล
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
    :D:D:D
     
  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    วิปัสสนาญาน

    ต้นไม้ใบไม้ที่กำลังร่วงหรือสดใส จงไปพิจารณาให้เป็นวิปัสสนาญาน

    วิปัสสนาไม่ใช่เกาะแต่ตำรา จงหาของจริงมาใคร่ครวญวิปัสสนา ท่านให้ดูของจริง ไม่ใช่ถ่างตาดูแต่ตำรา แล้วก็ติดตำราแจ

    ของจริงไม่ใช้ จะได้อะไรเป็นที่พึ่ง

    โอวาทธรรม หลวงพ่อปาน โสนันโท
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อารมณ์ของมนุษย์(คำสอนของหลวงพ่อโอภาสี)

    ๑. ผู้มีอารมณ์ร้อนโกรธง่ายรุนแรง ขาดสติ ประมาทง่าย ทำผิดง่าย ทำชั่วง่าย ทำดียาก ไปสวรรค์ยาก ไปนรกง่าย

    ๒. ผู้มีอารมณ์เย็นโกรธยาก มีสติไม่ประมาท ทำดีง่าย ทำชั่วยาก ไปนรกยาก ไปสวรรค์ง่าย

    ๓. ผู้ดับความโกรธด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อพิจารณารู้แจ้งความจริงที่เกิดแห่งทุกข์ ทางที่จะดับทุกข์ เป็นผู้ชนะใจตนเอง สามารถจะดับความรัก โลภ โกรธ หลง ดับกิเลส ตัณหา ในรูป รส กลิ่น เสียง มีจิตสงบนิ่ง บริสุทธิ์ใสสะอาด เป็นผู้อยู่เหนือความตาย เห็นทางไปสู่นิพพานง่าย

    " โอภาสี " แปลว่า ผู้ให้แสงสว่าง
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อดีต ปัจจุบัน อนาคต

    อดีตล่วงไปแล้ว ไม่หวนคืน
    อนาคตยังมาไม่ถึง ไม่แน่นอน
    ปัจจุบันก็เกิด-ดับ
    จะยึดอะไรไว้ได้เล่า:(

    ไม่มีตัวตนในอดีต ไม่มีตัวตนในปัจจุบัน ไม่มีตัวตนในอนาคต แล้วจะเหลืออะไรอีกเล่า:(
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จากเฟสบุคชื่นศิริ

    “ถ้าไม่อยากเสียกันไป ก็ต้องรักษาไว้ให้ดี”

    เพราะคำว่า “รักษา” ที่ถูกหลายคนตีความผิด เพราะหยิบมันออกมาใช้ในตอนท้ายที่ความสัมพันธ์มันเดินมาถึงปากเหวแล้ว เพราะคิดว่า “รักษา” คือจะไม่ยอมปล่อยไป

    แต่แท้จริงแล้ว “รักษา” นั้นหมายความว่า ดูแลมันอย่างสม่ำเสมอ ใส่ใจเป็นประจำ บำรุง ซ่อม เติม ไม่ใช่ละเลย ทิ้งขว้าง ปล่อยไปก่อนเรื่อยๆ พอสังเกตได้ว่าใกล้จะพังแล้วถึงค่อยรักษา

    อย่าปลูกดอกไม้ ถ้ายังไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ต้องรดน้ำให้มันทุกวัน มันไม่สามารถเบ่งบานอยู่ได้ทุกวัน แล้วก็รอให้คุณว่างมารดน้ำอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละสองหน มันไม่สามารถเขียวชะอุ่มดอกสะพรั่งอยู่ได้ ถ้าโดนแสงแดดแค่ครั้งสองครั้งในสัปดาห์

    ~ดอกไม้ต้องการการดูแลทุกวัน~

    "รักษากันไว้ให้ดี ตั้งแต่ตอนนี้แหละ ไม่ใช่ตอนท้าย"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      51.1 KB
      เปิดดู:
      66
  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ลองพิจารณากันดูค่ะ

    เปลือกของศาสนา คือ ทาน ศีล และศาสนพิธีต่างๆ ถ้าทำถูกต้องแล้วจะกลายเป็น กระพี้ คือ ทำจิตให้เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส จนเกิดปีติอิ่มใจ ทาน ศีล นั้นจะเข้ามาภายในใจหล่อเลี้ยงน้ำใจให้แช่มชื่นอยู่เป็นนิจ นี่ได้ชื่อว่า ทำเปลือกให้เป็นกระพี้
    .
    เมื่อพิจารณาไปถึงความอิ่มและความแช่มชื่น เบิกบานของใจ ก็เห็นเป็นแต่ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากปัจจัย คือความพอใจเป็นเหตุ เมื่อความพอใจหายไป สิ่งเหล่านั้นดับไปเป็นของไม่เที่ยงเป็นธรรมดา...เป็นอนัตตา ไม่มีใครเป็นใหญ่เป็นอิสระ
    แล้วก็ปล่อยว่าง เห็นเป็นสภาพตามความเป็นจริง
    เมื่อพิจารณาถูกอย่างนี้ ได้ชื่อว่า ทำกระพี้ให้เป็นแก่นสาร
    .
    พระพุทธศาสนาอยู่ได้
    ด้วยเปลือก กระพี้และแก่นอย่างนี้
    .
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     
  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "ใจไม่ดี ใจไม่รู้เท่า ใจโง่

    มนสา เจ ปทุฏเฐน
    ใจอันมีโทษประทุษร้ายมันอยู่แล้ว เพราะราคะ โทสะ โมหะ ประทุษร้ายอยู่ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุขสบาย มีแต่ความเดือดร้อนเผาผลาญ
    ท่านเปรียบไว้เหมือนโคที่เข็นภาระอันหนักไปอยู่ ใจไม่ดีแล้ว ผู้ไม่ฝึกฝนอบรมใจของตนแล้ว ทำไปตามความพอใจ ความชอบใจ ใจเศร้าหมอง ไม่มีความสุข ยืน เดิน นั่ง นอน ก็ไม่มีความสุข

    ใจที่อบรมดีแล้ว ฝึกฝนทรมานดีแล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็มีความสุข พูดอยู่ก็เป็นสุข ยืน เดิน นั่ง นอน ทำอะไรอยู่ก็เป็นสุข ไม่มีความเดือดร้อน

    มนสา เจ ปสันเนน
    บุคคลผู้ฝึกฝนอบรมจิตใจของตนให้ดีแล้ว จิตผ่องใสแล้ว แม้จะพูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม ไปที่ไหนก็ตาม ความสุขย่อมติดตามไปอยู่ ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    *ลักษณะของคนมีบุญมาก

    คือ อานุภาพแห่งบุญกุศลนี้ มันเป็นไปเพื่อความสงบ เพราะฉะนั้นผู้ใดมีบุญมากขึ้นมาแล้วก็สงบ ไม่ชอบวุ่นวาย นี่เป็นลักษณะของผู้มีบุญมาก

    เราต้องเอาเรื่องนี้แหละเป็นเครื่องวัด จะทำแต่เอาแต่เงินแต่ทอง ข้าวของมากมายนั้นมาเป็นเครื่องวัด ว่าเป็นคนมีบุญมาก อย่างนั้นดูจะไม่ถูกเท่าไรนัก แต่ก็มีถูกอยู่บ้าง

    แต่ถ้าจะให้ถูกตรงๆ จริงแล้ว มันต้องหมายเอาบุคคลผู้ที่เบื่อหน่ายต่อความวุ่นวาย ต่อความเละเทะต่างๆในโลก แล้วก็ยินดีแสวงหาความสงบทางจิตใจ นี่...อันนี้จึงเป็นที่แน่นอนว่าเป็นคนมีบุญมากจริง

    เพราะว่าบุญนี้มีลักษณะเป็นของสงบ ของเย็น...ไม่ได้เป็นของร้อน

    ดังนั้นเมื่อบุคคลใดมีบุญมากๆเข้าไปแล้ว มันจึงชอบทำแต่ความเยือกเย็น ความทะเลาะวิวาทถกเถียงอะไรก็ไม่ชอบ

    คนมีบุญมากนะ...ชอบแต่ความปรองดองสามัคคี ความชื่นชมยินดีต่อกันในการกระทำความดี.

    - หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -

    ที่มา::เพจข่าวสาร พระกรรมฐาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อยู่กับโลกให้เป็น ไม่ต้องหนีโลก แต่ให้เผชิญโลก...แค่รู้แต่ไม่เอา ไม่ยึดว่าต้องเป็นอย่างโลก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...