ติดตามสถานะการณ์

Setiawan

# ภูเขาไฟ Taal พ่นเถ้าถ่านใกล้กรุงมะนิลาบังคับให้สนามบินปิดและชาวบ้านต้องหลบหนี
การแจ้งเตือน # ระดับ 4
#TaalVolcano spews ash near Manila, forcing airport to close and villagers to flee
Alert #Level4

 

Setiawan

# ภูเขาไฟ Taal ใน # Batangas พ่นคอลัมน์เถ้ายักษ์หลังจากแสดงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ # ฟิลิปปินส์ วันที่ 12 มกคาคม 2020
Phivolcs กล่าวว่าพวกเขาได้บันทึกแผ่นดินไหวสามครั้งที่เกี่ยวข้องกับการปะทุ
ภูเขาไฟ Taal (ฟิลิปปินส์: Bulkang Taal) เป็นภูเขาไฟสลับซับซ้อนที่ตั้งอยู่บนเกาะ #ลูซอน ในฟิลิปปินส์
มันเป็นภูเขาไฟที่มีความแอ็คทีฟมากเป็นอันดับสองในฟิลิปปินส์ที่มีการปะทุทางประวัติศาสตร์ 34 ครั้ง
การปะทุทั้งหมดเหล่านี้มุ่งไปที่ เกาะ Volcano ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบ Taal
ทะเลสาบบางส่วนเติม Taal Caldera ซึ่งเกิดขึ้นจากการปะทุของยุคก่อนประวัติศาสตร์ระหว่าง 140,000 และ 5,380 BP
จากมุมมองของ Tagaytay Ridge ใน Cavite, Taal Volcano และ Lake นำเสนอหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามและน่าดึงดูดที่สุดในฟิลิปปินส์
ตั้งอยู่ประมาณ 50 กิโลเมตร (31 ไมล์) ทางใต้ของเมืองหลวงของประเทศเมืองมะนิลา
#Taal volcano in #Batangas spewed a giant ash column after manifesting an increased level of activity on Sunday afternoon. #Philippine Jan12 2020
Phivolcs said they have recorded three earthquakes related to the eruption.
Taal Volcano (Filipino: Bulkang Taal) is a complex volcano located on the island of #Luzon in the Philippines.
It is the second most active volcano in the Philippines with 34 historical eruptions.
All of these eruptions are concentrated on Volcano Island, an island near the middle of Taal Lake.
The lake partially fills Taal Caldera, which was formed by prehistoric eruptions between 140,000 and 5,380 BP.
Viewed from the Tagaytay Ridge in Cavite, Taal Volcano and Lake presents one of the most picturesque and attractive views in the Philippines.
It is located about 50 kilometres (31 miles) south of the capital of the country, the city of Manila.

 

Setiawan

ภูเขาไฟTaalปะทุวันนี้ ในรูปภาพ
ฟิลิปปินส์ 12 ม.ค. 2020
Today's Taal volcano explosion in pictures
Philippine Jan12 2020

 

อิหร่านหลังปฏิวัติอิสลาม ล้มพระเจ้าชาห์ สู่ปมปัญหานิวเคลียร์-ชนวนพิพาทสหรัฐฯ Iran: The Past and Present of the U.S.-Iran Standoff
ที่มา : จักรพันธุ์ กังวาฬ, กรุ่นกลิ่นอารยธรรมเปอร์เซียในเมืองสยาม www.silpa-mag.com
อิหร่านเกิดการปฏิวัติอิสลามเพื่อโค้นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เมื่อค.ศ. 1979 หลังจากนั้นมาอิหร่าน ดูอึมครึม ไม่่ต้อนรับคนแปลกหน้า คนจำนวนไม่น้อยมองดินแดนแห่งนี้เป็นแดนแห่งศรัทธาอันลึกลับ ขณะที่สัญลักษณ์ของอิหร่าน อันดับต้นๆ คือ อยาตุลเลาะห์ โคมัยนี (Ayatollah Khomeini) ผู้นำทางศาสนาที่นำมวลชนโค่นล้มพระเจ้าชาห์องค์สุดท้าย
2 ทศวรรษหลังจากการปฏิวัติอิสลาม ช่วงแรกเริ่มมีการจัดระเบียบทางสังคม แยกอิหร่านห่างจากการคุกคามของโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามาก่อนการปฏิวัติ หลังจากผ่าน 20 ปีไปแล้ว สถานการณ์จึงเริ่มผ่อนคลายลง
ประเทศอิหร่านหลังจากนั้นมีประธานาธิบดีโมฮัมหมัด คาเตมี (Mohammad Khatami) ซึ่งเป็นนักการเมืองหัวก้าวหน้า ปกครองประเทศมาสองสมัยโดยใช้นโยบายปฏิรูปประเทศ บรรยากาศภายในของประเทศอิหร่านในรอบ 8 ปีระหว่าง ค.ศ. 1997-2005 จึงผ่อนคลายความเข้มงวดลงในหลายๆด้าน เช่น ให้เสรีภาพกับสื่อมวลชน เปิดโอกาสให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองและศิลปวัฒนธรรม และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญขึ้นในประเทศอิหร่านเมื่อเมื่อเกิดสถานการณ์ตึงเครียดกดดันหลังจากอเมริกาและอังกฤษบุกโจมตีอิรักเสียหายอย่างรุนแรงและมีสัญญาณว่าอิหร่านคือเป้าหมายต่อไป
ชาวอิหร่านจึงหันไปเลือกคนที่มีแนวคิดต่อต้านตะวันตกคือนายมาห์มุด อามาดิเนจาด (Mahmoud Ahmadinejad) ผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้วและมีสายสัมพันธ์กับผู้นำศาสนาที่มีอิทธิพลในอิหร่าน ในอดีตเขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วยพิเศษประจำกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (ปาสดาราน) และมีกระแสข่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯ และจับชาวอเมริกันเป็นตัวประกันในช่วงที่มีการปฏิวัติอิสลามเมื่อ ค.ศ.1979 โดยอยาตุลเลาะห์ โคมัยนี
ภาพเหตุการณ์และการให้สัมภาษณ์ช่วงวิกฤตจับชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน
ชัยชนะของเขาในการเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานาธิบดีใน ค.ศ.2005 แสดงให้เห็นว่าชาวอิหร่านได้เลือกผู้นำที่กล้าต่อต้านตะวันตก หลังจากได้ตำแหน่งไม่นาน เขาสร้างความตะลึงให้คนทั้งโลกด้วยการกล่าวปราศรัยต่อหน้าประชาชนอิหร่านว่า จะลบอิสราเอลออกจากแผนที่โลกและประกาศว่าพร้อมทำสงครามกับสหรัฐอเมริกา ถ้าอิหร่านถูกโจมตี
ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับสหรัฐจึงเริ่มร้อนแรงขึ้นนับจากนี้นำไปสู่ประเด็นเรื่องปัญหานิวเคลียร์
ความจริงแล้วประเด็นปัญหานิวเคลียร์เริ่มมีเค้าลางปรากฏบ้างแล้วตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีคาเตมี เมื่อสหรัฐฯ ระบุว่าอิหร่านกำลังพัฒนาสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่อิหร่านบอกว่าการพัฒนายูเรเนียมเป็นไปเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า กระทั่งอิหร่านยอมระงับการพัฒนานิวเคลียร์ชั่วคราว จนมาถึงสมัยประธานาธิบดีอามาดิเนจาด ปัญหานิวเคลียร์กลับมาเป็นปัญหาเมื่อรัฐบาลอิหร่านตัดสินใจปลดตราผนึกของสหประชาชาติที่ติดไว้ในโรงงานนิวเคลียร์ทุกแห่งเพื่อเดินหน้าโครงการพัฒนานิวเคลียร์ต่อไปโดยไม่สนใจแรงกดดันจากนานาชาติ
ประเด็นนี้นำมาสู่การคว่ำบาตรอิหร่านในวันที่ 23 ธันวาคม 2006 ตามมติความมั่นคงของสหประชาชาติ โดยเรียกร้องให้อิหร่านหยุดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ มีมาตรการคว่ำบาตรกำหนดห้ามนำเข้าส่งออกวัตถุดิบและเทคโนโลยีเกี่ยวกับการพัฒนายูเรเนียม รวมถึงการคว่ำบาตรทางการเงิน เช่น ยึดทรัพย์สินของชาวอิหร่านในต่างประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ถึงอย่างนั้นอิหร่านก็ไม่เกรงกลัวต่อการคว่ำบาตรเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ต่อไป โดยติดตั้งเครื่องปั่นเหวี่ยงตะกอนในวันครบรอบ 28 ปีของการปฏิวัติอิสลามและเดินเครื่องปั่นเหวี่ยงตะกอนจำนวน 3,000 เครื่องเพื่อเสริมสมรรถนะให้กับยูเรเนียมในเมืองนาธานซ์
ท่าทีแข็งกร้าวและท้าทายของอิหร่าน ทำให้สถานการณ์การเผชิญหน้ากับตะวันตกยิ่งตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับอิหร่านมาตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามใน ค.ศ.1979 นอกจากสหรัฐฯ จะเป็นฝ่ายมีปัญหากับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านตั้งแต่ต้น ตลอดเวลาที่ผ่านมายังเป็นตัวตั้งตัวตีโน้มน้าวให้ชาติมหาอำนาจอื่นลงโทษคว่ำบาตรอิหร่าน
ทว่าสิ่งที่ทั่วโลกกลัวคือสหรัฐฯ จะส่งกองทัพเข้าทำสงครามกับอิหร่าน เหมือนกับที่สหรัฐฯ นำกำลังบุกอิรักใน ค.ศ. 2003 แต่สงครามไม่อาจเกิดขึ้นได้เพราะในช่วงนี้อยู่ในสมัยของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช สหรัฐฯ ยังติดพันสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน โดยที่กลุ่มต้อต้านในอิรักยังปฏิบัติการสร้างความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกประชาชนกดดันให้ถอนทหารออกจากอิรัก และความนิยมในตัวประธานาธิบดีก็ตกต่ำลง
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสัญญาณว่าสหรัฐฯ อาจจะโจมตีอิหร่าน เช่น การส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังอ่าวเปอร์เซีย ใน ค.ศ. 2007 หรือการกล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในอิรักและกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอื่นๆ เพื่อก่อความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐฯ อาจใช้เป็นข้ออ้างที่มีน้ำหนักสำหรับการบุกโจมตีอิหร่าน
ขณะที่อิหร่านก็มีการซ้อมรบแสดงแสนยานุภาพทางทหารและอาวุธบ่อยขึ้น รวมทั้งกักตุนสินค้าภายในประเทศ แต่ประชาคมโลกที่เฝ้าดูปัญหานิวเคลียร์อยากให้อิหร่านแก้ปัญหาทางการทูตมากว่ากำลังทหาร เพราะถ้าเกิดสงครามระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯขึ้น นั่นหมายความว่าจะเกิดการสังเวยชีวิตทหารและพลเรือนไปในการสู้รบ และตามมาด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันพุ่งสูงเป็นประวัติศาสตร์ ส่งผลกระทบไปยังเศรษฐกิจทั่วโลกและการสู้รบอาจขยายวงกว้างกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ ดึงให้ประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องรวมทั้งประเทศในตะวันออกกลางทั้งหมด
หลังจากนั้นมา อิหร่านจึงเป็นประเทศที่หลายฝ่ายจับจ้องมากที่สุด กระทั่งในปี 2019 ที่สหรัฐฯ ออกปฏิบัติการทางทหารนำมาสู่ความตึงเครียดอีกครั้ง
_______________________________________________
อ้างอิง: จักรพันธุ์ กังวาฬ, และอื่นๆ. กรุ่นกลิ่นอารยธรรมเปอร์เซียในเมืองสยาม. กรุงเทพฯ: มติชน. 2550
Article : https://www.silpa-mag.com/history/article_43883
Photo : ภาพวาดอยาตุลเลาะห์ โคมัยนี ผู้นำทางศาสนาอิหร่าน ฉากหลังเป็นอนุสาวรีย์บรรจุศพของโคมัยนี และครอบครัวของเขาในเมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน ภาพจาก AFP

 

เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) หลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนตกหนัก ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพฝน 3 ชั่วโมงข้างหน้า ต้องเฝ้าระวังกลุ่มฝนตกหนักหรือตกต่อเนื่อง

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

มีรายงานคลื่นแรงในจังหวัด Guaira ของ Colon, Panama

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พืชผลถูกทำลายจากน้ำท่วมใน Sistan, อิหร่าน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พืชผลถูกทำลายจากน้ำท่วมใน Sistan, อิหร่าน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมฉับพลันใน Balochestan, อิหร่าน # 11 ม.ค.
​

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมใน sistan และ baluchestan ประเทศอิหร่าน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

นิวเซาธ์เวลส์ แครอท และมันฝรั่งหวานหลายพันกิโลกรัม ถูกส่งมอบให้กับจิงโจ้ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

หิมะตกหนักในเมือง Balochistan ประเทศปากีสถาน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ผู้เชี่ยวชาญเตือนการปะทุอย่างรุนแรงหลังจากภูเขาไฟ Taal ในฟิลิปปินส์พ่นเถ้าถ่านใกล้กับกรุงมะนิลา

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อิสราเอลสูญเสีย และเกิดความเสียหายนับล้านที่เกิดกับเครื่องบินรบ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมหนัก ในกองทัพอากาศในภาคใต้

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ทอร์นาโด กระทบ Carolina Mpumalanga, แอฟริกาใต้ # 12 ม.ค.

 

Setiawan

ทะเลสาบ Pontchartrain ที่มีสาหร่ายบานเกิดจาก #Cyanobacteria
นิวออร์ลีนส์, ทะเลสาบ Pontchartrain บานด้วยสาหร่าย #Louisiana # USA 6 ม.ค. 2020 #Copernicus # Sentinel-2️

Lake Pontchartrain with the algae bloom caused by #Cyanobacteria.
New Orleans, Lake Pontchartrain with algae bloom, #Louisiana, #USA 6 Jan 2020 #Copernicus #Sentinel-2️

 

Setiawan

# ภูเขาไฟ Taal 13 ม.ค. 2020

Phivolcs อ้างอิงจาก 3:20 น. การปรับปรุงการปะทุของภูเขาไฟ Taal กล่าวว่ามีรายงานว่า การตกลงของเถ้าภูเขาไฟ ได้ลดลงในพื้นที่ต่อไปนี้: Tanuan, Batangas, Escala, Tagaytay, Sta. Rosa, Laguna, Dasmariñas, Cavite, Bacoor, Cavite, Silang, Cavite, Malolos, Bulacan, San Jose Del Monte, Bulacan, Meycauayan, Bulacan, Antipolo, Rizal, Muntinlupa, Las Piñas, Marikina, Parañaque, Pasig, Quezon City, San Juan, Makati City และ Taguig City.

อนุภาคขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Lapilli ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 ถึง 64 มม. มีรายงานว่ามีขนาดลดลงในพื้นที่ต่อไปนี้: Tanuan, Batangas, Talisay, Batangas, Tagaytay City, Nuvali, Laguna and Sta. Rosa, Laguna.

#TaalVolcano Jan13 2020

Phivolcs, based on its 3:20 a.m. eruption update for Taal Volcano, says ashfall has reportedly fallen in the following areas: Tanuan, Batangas, Escala, Tagaytay, Sta. Rosa, Laguna, Dasmariñas, Cavite, Bacoor, Cavite, Silang, Cavite, Malolos, Bulacan, San Jose Del Monte, Bulacan, Meycauayan, Bulacan, Antipolo, Rizal, Muntinlupa, Las Piñas, Marikina, Parañaque, Pasig, Quezon City, San Juan, Makati City and Taguig City.

Larger particles called lapilli measuring 2 to 64 millimeters in diameter have reportedly fallen in the following areas: Tanuan, Batangas, Talisay, Batangas, Tagaytay City, Nuvali, Laguna and Sta. Rosa, Laguna.

 

เกิดเหตุยิงจรวดโจมตีฐานทัพในอิรัก ที่สหรัฐฯ ใช้เป็นที่พักทหารอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

 

สถานการณ์แล้งในภาคอีสานยังหนัก เลยวิกฤติ แล้งสุดในรอบ 65 ปี อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง มีน้ำแค่ 27% ส่วนแม่น้ำโขงต่ำกว่าตลิ่งถึง 12.40 เมตร ขณะที่แม่น้ำยมหน้าจวนผู้ว่าฯสุโขทัยแห้งจนลงไปเดินเล่นก้นแม่น้ำได้ ชลประทานชี้ต้นเหตุไม่มีเขื่อนกักน้ำ เตือนเกษตรกรอย่าเพิ่งเพาะปลูก ด้าน ส.ส.พลังประชารัฐภาคตะวันตกเตรียมผลักดันผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนแม่กลอง แก้ภัยแล้งและประปากร่อยจากน้ำทะเลหนุน
สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค.สำนักงานชลประทานจังหวัดเลยรายงานระดับน้ำแม่น้ำโขงที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยา อ.เชียงคาน จ.เลย อยู่ที่ 3.60 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 12.40 เมตร น้ำอุปโภคบริโภคยังไม่วิกฤติ ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง มีน้ำเฉลี่ย 27% นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่แล้วช่วงเดียวกันที่มี 67% ถือว่าต่ำกว่า 34% ในจำนวนอ่างดังกล่าวมีน้ำเพียง 6% จำนวน 2 แห่ง นับว่าแล้งที่สุดในรอบ 65 ปี สาเหตุเพราะฝนตกน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกๆปีที่ผ่านมา
นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.สุโขทัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า สั่งการให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่แม่น้ำยมไหลผ่านประชุมบูรณาการร่วมกันเพื่อบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมที่เหลือให้เพียงพอในฤดูแล้งนี้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ เช่น หากต้นน้ำกักน้ำไว้ใช้ก็ต้องเปิดทางให้น้ำไหลลงมาพื้นที่ด้านล่างด้วย ไม่ให้คนปลายน้ำเดือดร้อน ส่วนบนพื้นดินสั่งให้ทุกท้องถิ่นจัดเตรียมสถานที่สำหรับแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค และเตรียมรถน้ำให้พร้อมทุกเมื่อที่ได้รับการร้องขอจากประชาชน ล่าสุดน้ำยมหน้าจวน ผวจ.สุโขทัย ถนนนิกรเกษม ต.ธานี อ.เมือง สุโขทัย เริ่มแห้งขอดเป็นบริเวณกว้างสามารถลงไปเดินเล่นได้ถึงก้นแม่น้ำแล้ว
ด้านนายชัยโรจน์ พฤฒาวงศ์ ผอ.โครงการชลประทานสุโขทัย กล่าวว่า จ.สุโขทัยประสบปัญหาภัยแล้งติดต่อกันหลายปีแล้ว เนื่องจากแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนหรือแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ ประกอบกับมีการใช้น้ำมากในการเพาะปลูก จึงอยากฝากถึงพี่น้องเกษตรกรอย่าเพิ่งเปิดพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มเติม เชื่อว่าแม่น้ำยมช่วงที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัย โดยเฉพาะในเขต อ.เมืองจะแห้งขอดเร็วกว่าปกติคือประมาณช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้แน่นอน ส่วนน้ำดิบจากทุ่งทะเลหลวง แหล่งน้ำหลักในการผลิตน้ำประปาที่ ต.ปากแคว อ.เมือง ทางชลประทานได้เตรียมเก็บกักไว้ล่วงหน้าแล้ว คาดว่าจะมีเพียงพอผลิตน้ำประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคได้อีก 6-8 เดือนจะอยู่ในช่วงย่างเข้าฤดูฝนพอดี
ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ สายวันเดียวกัน นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับภัยแล้ง มีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 และนายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ นายอำเภอแม่แตง ร่วมหารือ ล่าสุดอ่างเก็บน้ำมีน้ำ 149.196 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 56.30 เปอร์เซ็นต์ นายประภัตรเผยว่า สถานการณ์น้ำขณะนี้ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการจัดทำแผนการจัดสรรน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมทั้งวางแผนการเพาะปลูกอย่างเป็นระบบ พร้อมทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรและประชาชนในการใช้น้ำและแจ้งเตือนขอความร่วมมือเกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปรัง และให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนในช่วงวิกฤติภัยแล้งนี้
“อยากให้ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านให้มีรายได้ช่วง 4 เดือนนี้ สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ และประมงจังหวัดจัดหาพันธุ์สัตว์น้ำปล่อยในพื้นที่ที่มีการส่งน้ำไปยังประตูระบายน้ำต่างๆทั้ง 12 แห่ง ให้ประชาชนสามารถจับสัตว์น้ำไปบริโภค หรือจำหน่ายสร้างรายได้ นอกจากนี้ให้เกษตรจังหวัดสำรวจและส่งเสริมการปลูกพืชผัก ให้เป็นพืชอินทรีย์ ต้องมีตลาดรองรับ และสำรวจเรื่องของการขุดบ่อบาดาลเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง” รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าว
ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการหารือกับ ส.ส.ภาคตะวันตกถึงการแก้วิกฤติภัยแล้งและน้ำประปากร่อยจากเหตุน้ำทะเลหนุนว่าจะผลักดันน้ำจากฝั่งตะวันตกเข้าช่วยแก้ไข ขณะที่ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วิกฤติภัยแล้ง ที่ต้องการปริมาณน้ำกว่า 3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ภาคตะวันตกมีความสามารถสนับสนุนน้ำมาใช้ได้กว่าร้อยละ 50 จากเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนแม่กลอง ยืนยันว่าชาว จ.กาญจนบุรีและราชบุรีพร้อมเสียสละ เบื้องต้นรัฐบาลได้ผันน้ำจากภาคตะวันตกอยู่แล้ว และพร้อมเปิดพื้นที่ให้รัฐบาลนำน้ำไปใช้เพิ่มเติม
ด้าน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,194 คน เรื่องประชาชนกับการรับมือภัยแล้ง ระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค.2563 เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไรกับสถานการณ์ภัยแล้ง ณ วันนี้ ร้อยละ 43.80 รู้สึกเป็นห่วง กังวล เข้าขั้นวิกฤติ รุนแรง แล้งหนักกว่าทุกปี ร้อยละ 26.51 กลัวไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ ประชาชนเดือดร้อน สงสารชาวนาและสัตว์ต่างๆ ร้อยละ 22.19 ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการป้องกันและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ร้อยละ 16.14 สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรและกระทบเศรษฐกิจ และร้อยละ 10.37 รัฐบาลต้องรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง บอกความจริง ไม่ปิดบัง
เมื่อถามว่าประชาชนได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 48.99 ระบุว่าได้รับผลกระทบอยู่บ้าง ทั้งน้ำประปาเค็ม น้ำขุ่น ไม่สะอาด น้ำไม่แรง อากาศร้อนอบอ้าว มีผลต่อสุขภาพอนามัย ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 32.17 ได้รับผลกระทบมาก ไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม พืชผลเสียหาย สัตว์เลี้ยงเป็นโรค ขาดน้ำ ขาดอาหาร ฯลฯ เมื่อถามว่าควรมีแนวทางการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง ณ วันนี้อย่างไร ร้อยละ 70.79 ระบุว่า ใช้น้ำอย่างประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น ร้อยละ 27.94 วางแผนการใช้น้ำ หาภาชนะสำรองน้ำไว้ใช้ และร้อยละ 23.81 แนะนำบอกต่อให้ทุกคนรักษาสิ่งแวดล้อม

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 12) “สิงคโปร์” ถอดบทเรียน ความล้มเหลว “ร้านไร้พนักงาน” ในจีน : ในขณะที่ “ร้านค้าไร้พนักงาน” (unmanned store) ซึ่งเคยเฟื่องฟูในจีน ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กำลังทยอยปิดตัวไปหลังจากเปิดให้บริการไม่นาน แต่กระแสของร้านประเภทดังกล่าวในสิงคโปร์ กลับเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ หลังจากบรรดาผู้ประกอบการได้นำบทเรียนจากแดนมังกรมาปรับใช้ เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าได้มากขึ้น

นิตยสารนิกเคอิ เอเชียน รีวิว ระบุว่า “Octobox” ร้านสะดวกซื้อไร้พนักงาน จากสตาร์ตอัพสัญชาติสิงคโปร์ ที่มีสาขาตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ซึ่งมีระบบการชำระเงินสุดไฮเทค เพียงแค่สแกนฝ่ามือลงไปที่หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ที่ติดไว้บนผนัง

Ng Kiat Seng ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ Octobox ระบุว่า เขาต้องการทาร์เก็ตไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อินกับดิจิทัล โดยการเข้าไปตอบโจทย์เรื่องของความสะดวก ราคาที่เข้าถึงได้ และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารร้าน เพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ซึ่งต้นทุนการเปิดต่อสาขานั้นอยู่ที่ 108,000 เหรียญสหรัฐ และภายในระยะเวลา3 สัปดาห์ มีนักศึกษาที่สนใจลงทะเบียนกว่า 3,000 คน ที่สแกนฝ่ามือเพื่อผูกกับเบอร์โทรศัพท์ในการยืนยันตัวตน

Ng ยังระบุถึง แผนการเปิดสาขาอีก 4 แห่งเร็ว ๆ นี้ ด้วยกลยุทธ์เดียวกันกับที่ใช้ใน NUS คือ เข้าไปเจาะกลุ่มชนขนาดเล็ก เช่น ที่พักอาศัย รวมถึงยิม พร้อมกับความสนใจที่จะนำโมเดลนี้ไปเปิดในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย

เทรนด์ของการเปิดร้านค้าไร้พนักงานในสิงคโปร์ เป็นที่สนใจของกลุ่มผู้ประกอบการในสิงคโปร์อีกหลายราย เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและอัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เชนร้านสะดวกซื้อ “Cheers” ที่เปิดตัวร้านไร้พนักงานขายแห่งแรกที่นันยางโพลีเทคนิค เมื่อ 2 ปีที่แล้ว รวมถึงร้านอย่าง OMO Store และ Pick and Go โดยผู้ประกอบการแต่ละรายได้ให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ว่าจะไม่ทำผิดแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในจีน

Toh Hong Aik กรรมการผู้จัดการ ยู เวนเจอร์ อินเวสต์เมนต์ เจ้าของร้าน OMO ระบุว่า ขั้นตอนที่ยุ่งยากของการยืนยันตัวตน จนถึงการทำรายการได้สำเร็จ ในร้านค้าไร้พนักงานของจีนนั้น ขัดกับคอนเซ็ปต์ของสะดวกซื้อ เพราะมีหลายขั้นตอนเกินไป และลูกค้าก็หวังที่จะได้การบริการที่รวดเร็ว ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในร้าน OMO คือ ขั้นตอนของการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนแม้สเต็ปเดียว ขณะที่ประสบการณ์การเข้ามาใช้บริการของผู้บริโภคภายในร้านก็ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพื่อที่ร้านจะสามารถช่วยเหลือ หรือเติมเต็มได้

สวนทางกับเทรนด์ของร้านไร้พนักงานในจีน เช่น กรณีของร้าน “Buy-Fresh Go” ร้านสะดวกซื้อแบบไร้พนักงานที่ปิดตัวลงในช่วงกลางปีที่ผ่านมา หลังจากที่เปิดให้บริการได้เพียง 1 ปี

Buy-Fresh-Go ลงหลักปักฐานธุรกิจครั้งแรกในปี 2017 ที่เสิ่นเจิ้น จากนั้นก็เปิดสาขาที่หัวเฉียง ย่านการค้าสำคัญของเสิ่นเจิ้นในเวลาต่อมา แต่ไม่นานนัก ความนิยมชมชอบในร้านอัจฉริยะไร้พนักงานขายนี้ก็เริ่มลดลง และนำไปสู่การปิดสาขาในเวลาต่อมา

และที่เมืองกว่างโจว ก็พบว่า “i-Store”” ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อแบบไร้พนักงานขายเชนแรกของที่นี่ ก็ปิดสาขาลงเรื่อย ๆ จนเหลือเพียง 3 สาขา ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากช่วงที่มีสาขาพีก ๆ ประมาณ 9 สาขา

หรือก่อนหน้านี้ JD.com พี่ใหญ่ในอีคอมเมิร์ซจีนอีกรายก็ได้ออกมาประกาศว่า จะเลื่อนแผนการทำ smart shelf business หรือร้านไร้พนักงานขายไซซ์เล็กออกไปก่อน หลังจากที่เคยวางแผนเอาไว้ว่าจะขยายสาขาร้านโมเดลดังกล่าวถึง 5,000 สาขา โดยจะเอาไปตั้งอยู่ในตึกออฟฟิศ และอาคารอื่น ๆ ในเมืองหลัก ๆ ทั่วประเทศ แต่ก็ถอดใจไม่ลงทุนต่อเพียงแค่ในระยะเวลา 6 เดือนต่อมา

ย้อนกลับไป หลังจากที่ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซในสหรัฐอย่าง “อเมซอน” ที่ได้ลอนช์ร้านสะดวกซื้อไร้พนักงานมาตั้งแต่ปี 2016 ในจีนก็มียักษ์อีคอมเมิร์ซอย่าง “อาลีบาบา” ที่เปิดร้านประเภทเดียวกันในปีต่อมา

เพียงแค่ 1 ปีหลังจากที่อาลีบาบาจุดกระแสของการเปิดร้านประเภทนี้ ในจีนก็มีร้านค้าไร้พนักงานเปิดไม่ต่ำกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ สอดคล้องไปกับ itjuzi.com บริษัทวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับระบบไอทีที่ออกมาระบุว่า ในปี 2017 นั้นมีการลงทุนไปกับการเปิดร้านโมเดลนี้ถึง 4.3 พันล้านหยวน หรือประมาณ 620 ล้านเหรียญสหรัฐ

นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมค้าปลีกระบุว่า ร้านสะดวกซื้อในเมืองหลักของจีนอย่างปักกิ่ง นั้นจำเป็นต้องมียอดขายประมาณ 5,000-6,000 หยวนต่อวัน เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยที่รายได้หลัก ๆ ของร้านมักจะมาจากสินค้าประเภท กล่องข้าวกลางวัน, อาหารปรุงสด, ขนมหวาน ฯลฯ ที่มีเชลฟ์ไลฟ์ไม่นานนัก

เช่นเดียวกับในญี่ปุ่น ร้านประเภทนี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากอาหารสด เป็นหลัก 40-50% อาจกล่าวได้ว่า ยิ่งอัตราส่วนของอาหารสดมีมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ร้านสะดวกซื้อมั่นคงเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า หลายบริษัทในจีนพยายามวิ่งเข้าหาเทรนด์ของร้านสะดวกซื้อไร้พนักงานจนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป

หากร้านค้าอัจฉริยะเหล่านี้วางขายเพียงแต่สินค้าที่เก็บไว้ได้นาน อย่างพวกขนม และเครื่องดื่ม ร้านนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติใหญ่ ๆ เครื่องหนึ่งในสายตาของผู้บริโภค

และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ธุรกิจนี้ยังขาดการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการที่ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จมากกว่าที่อื่น เนื่องจากมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการขาย การพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างเครือข่ายกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพในขณะที่บริษัทจีนที่สนใจแต่การนำเทคโนโลยีเข้าไปแทนที่การใช้แรงงานเป็นหลัก และอาจมองข้ามการนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับบริการอื่น ๆ แต่บางบริษัทก็ได้เรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

“อาลีบาบา” ได้เปิดตัว “Freshippo” หรือที่รู้จักกันในนาม “เหอหม่า เซียนเซิง” ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเทค ที่นำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ภายในร้าน ทั้งระบบการชำระเงินแบบแคชเลส คิวอาร์โค้ดบอกข้อมูลสินค้า ฯลฯ แต่ที่ร้านก็ยังมีพนักงานเพื่อซัพพอร์ตลูกค้าอยู่

แม้ว่าเทรนด์ของร้านไร้พนักงานที่จีนจะบูมสุดขีดและจบลงภายในระยะเวลาไม่นาน แต่ก็ได้ทิ้งบทเรียนบางอย่างเอาไว้ ซึ่งผู้ที่ผ่านมาได้อาจกลายเป็นผู้ชนะในสมรภูมินี้ในอนาคตก็เป็นได้

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/marketing/news-409363

- Singapore's unmanned convenience stores study China failures : https://asia.nikkei.com/Business/Retail/Singapore-s-unmanned-convenience-stores-study-China-failures