สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    c_oc=AQk0QMRN2F64klaEJqq_2K2NluwPG63PHVtXfjSXi2rQOO2oW6n7G_qcxbIkhtbFVlQ&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg


    เราต้องดูตัวเราเอง ส่วนใหญ่ที่กำลังใจตก เกิดจากสมาธิตก ที่สมาธิตกเพราะปัญญาไม่พอ พิจารณาไม่ตลอดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นธรรมดา การเกิดมาในโลกนี้ต้องมีการกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา

    ในเมื่อปัญญาไม่พอ สมาธิไม่พอ ถึงเวลาโดนกระทบก็กำลังใจตก ต้องรีบตะกายใหม่ทันทีที่รู้ว่าตก อย่าทิ้งระยะเวลาไว้นาน เพราะว่าถ้าทิ้งระยะเวลาไว้นาน เปิดโอกาสให้กิเลสครอบงำเราได้ ก็จะชักจูงเราไปไกล และทำให้เอาคืนได้ยาก

    อาตมาเคยเปรียบเอาไว้ว่า คนสองคนหกล้มพร้อมกัน คนหนึ่งลุกขึ้นได้ก็เดินต่อไปเลย แต่อีกคนเอาแต่นั่งคร่ำครวญอยู่นั่นแหละ เจ็บเหลือเกิน ปวดเหลือเกิน เดินมาได้ตั้งไกลไม่น่าจะล้มเลย ถามว่าสองคนนี้ใครจะได้ระยะทางมากกว่ากัน ? ก็คือคนที่ล้มแล้วลุกเดินต่อเลย

    ฉะนั้น..เรื่องการปฏิบัติก็เหมือนกัน รู้ว่าพลาดเมื่อไร ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา ให้เต็มที่ต่อไป ถ้าเราไม่หวั่นไหว สามารถที่จะไปต่อได้เลย ต่อไปเรื่องที่จะกระทบให้เราหวั่นไหวได้ ก็จะมีน้อยลงไปตามลำดับ ยิ่งกำลังใจสูงมากเท่าไร การกระทบก็จะน้อยลงมากเท่านั้น


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๔

    ที่มา : www.watthakhanun.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    คนเราถ้าจะประสบความสำเร็จได้ต้องผ่านความลำบากมาก่อน ถ้าสบาย...จะสำเร็จยาก คนเราเวลาลำบากแล้วมันจะต้องรีดเอาสมรรถนะของตัวเองทุกส่วนที่มีอยู่ออกมาเพื่อต่อสู้กับความลำบากนั้น แล้วมันจะทำให้ตัวเองมีความก้าวหน้าได้

    คนในยุคปัจจุบันมันสบายเกิน ในเมื่อสบายเกิน ความก้าวหน้ามันจะมีน้อย ร่างกายของเราต้องเจอการกดดัน ก็คือ การฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำแล้วย้ำเล่า จนกระทั่งกระดูกเส้นเอ็นมันเข้มแข็งขึ้น สมรรถนะร่างกายมันจึงจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงขึ้นได้ เรื่องของใจก็เหมือนกัน ถ้าหากเราอยู่ในสถานที่สบาย ๆ เลี่ยงความลำบากเอาความสบาย ถ้าหากไม่ได้สร้างบุญมาดีจริงประสบความสำเร็จยากมาก เพราะมันจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีสมรรถนะเท่าไหร่ โบราณเขาบอกว่าลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ แต่พวกเรามันสบายก่อนแล้วก็ตายเมื่อปลายมือ ไปไม่รอด

    พระพุทธเจ้าท่านกำหนดธุดงควัตร ๑๓ ประการเอาไว้ เพื่อเค้นเอาสมรรถนะของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ออกมา เราจะเลี่ยงไปฝึกอย่างอื่นก็ได้ ถ้าหากว่าจริตนิสัยชอบและทุ่มเท แต่ถ้าหากจริตนิสัยมันหยิบหย่งจับจด เอาดีได้ยาก ให้เอาธุดงค์ไปเลย ให้มันรู้สึกว่าลำบากแทบล้มประดาตาย เดี๋ยวมันก็เห็นทุกข์เอง ไม่อย่างนั้นมันไม่เห็น

    อยู่สบายกินสบาย พอเจอธุดงควัตรเข้าไป เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร นั่งอาสนะเดียวเป็นวัตร แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว หลวงปู่วัดพระพุทธบาทตากผ้าท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านไปธุดงค์แล้วหลงทาง เดินอดข้าวมาสองวัน พอวันที่สามหลุดออกจากชายป่า มาเจอบ้านโยมดีใจแทบตาย เห็นว่า ๑๑ โมงยังฉันได้ โยมเห็นว่าพระอดมาสองวันก็รีบหุงข้าวให้ ในระหว่างที่รอให้ข้าวสุกท่านเกิดเป็นลมไปก่อน ฟื้นขึ้นมาก็ปรากฏว่าเลยเที่ยงไปแล้ว ทำให้อด ไม่ได้ฉันอีก

    พอวันที่สี่ท่านก็เดินไปเรื่อย ๆ กว่าจะเจอบ้านก็เกือบครึ่งวัน เมื่อบิณฑบาตได้ข้าวมาแล้ว ก็หลีกไปก็ปูผ้านั่งฉัน พอเปิดฝาบาตรฉันข้าวได้คำเดียว ช้างของชาวบ้านก็ดันตกมัน วิ่งมาทางนั้นพอดี หลวงปู่ท่านก็ต้องเผ่นลุกออกไป ทีนี้พระธุดงค์ท่านถือว่า นั่งฉันแล้ว...ถ้าลุกคือเลิกเลย แล้วหลวงปู่เพิ่งฉันได้คำเดียวด้วย ตกลงว่าสี่วันได้ฉันข้าวคำเดียว แต่ว่าท่านลำบากอย่างนั้นแล้วท่านมักจะได้มรรคได้ผล ตามที่ท่านต้องการ เพราะว่าจะให้ลำบากกว่านั้นมันไม่มีแล้ว อดจนแทบล้มประดาตาย แล้วท่านก็ยังไม่ยอมละเมิดศีล รักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต

    ถ้าหากว่าทำตัวให้ลำบากไว้ ต่อไปอะไร ๆ ก็จะสบาย อาตมาเองตอนช่วงธุดงค์ ด้วยความที่ตัวเองลำบากมามาก เป็นลูกชาวไร่ ทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พอมาเป็นทหารก็เจอการฝึกทั้งกลางวันกลางคืนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายจิตใจมันก็เลยที่จะค่อนข้างแข็งแกร่ง เดินธุดงค์มันก็รู้ว่าลำบาก เชื่อไหมว่ามันลำบากเสียจนแทบล้มประดาตาย จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๑ มันจึงยอมรับว่าทุกข์ ก่อนหน้านั้นมันไม่เคยยอมรับเลย มันนึกอยู่อย่างเดียวว่าแค่นี้กูไปได้ เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ลำบากถึงที่สุดจริง ๆ เราก็จะไม่นึกถึงความตาย มันไม่ลำบากจริง ๆ มันก็จะไม่นึกถึงความทุกข์ แล้วถ้าไม่ลำบากถึงที่สุดจริง ๆ สันดานอาตมาก็ไม่นึกขอให้คนช่วยเสียด้วย พอมันถึงที่สุดของที่สุดแล้วมันค่อยนึกถึงพระ นึกถึงครูบาอาจารย์ ไม่อย่างนั้นมันนึกอย่างเดียวว่าของแค่นี้เราเคยผ่านมาแล้ว เราไปได้

    ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าเราอยากจะเอาดีต้องยอมลำบาก สบายไม่ได้ ที่อาตมาออกจากวัดท่าซุงมาก็ด้วยเหตุนี้ เพราะว่าตอนที่อยู่วัดมันแทบจะก้าวถึงจุดสูงสุดแล้ว พระพี่พระน้องทั้งวัดเขายอมรับแล้วว่าเราแสบสุด ไม่มีใครยิ่งกว่านี้แล้ว ถ้าหากอยู่ลักษณะอย่างนั้นแล้วมันจะหาความก้าวหน้าไม่ได้ เพราะในเมื่อคนอื่นเขายกไว้ในที่สูงแล้วมันหาคู่แข่งไม่ได้ ในเมื่อมันหาคู่แข่งไม่ได้ถ้าไม่ใช่กำลังใจที่คิดจะใฝ่ดีจริง ๆ มันก็ไม่ไปดิ้นรน มันก็จะหยุดนิ่ง กลายเป็นน้ำเน่า แล้วก็มีอยู่ทางเดียวคือออกมาตกระกำลำบากข้างนอก มันก็จะได้รีดสมรรถภาพตัวเองออกมาอีก จะได้รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง

    เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
    วันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

    __________________
     
  4. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    สาธุๆๆ จิตตกอยู่บ่อยๆ ต้องรีบลุกเดินต่อโดยเร็ว "มารไม่มีบารมีไม่เกิด"แต่ในยุคนี้มารมากมายยั่วยวนยิ่งนัก...
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    c_oc=AQnH3ojNVX5CKaRKcNgQ3cQcIEtPoqULKQsylEjUh5AfAGFVQA2vRXEBybAw891R0f4&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    เมื่อดวงตก กรรมเก่ามาสนอง

    ถาม :
    กรรมเก่าหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือคะ ?
    ตอบ : หลีกได้ ถ้ากำลังใจของเรามั่นคงในทาน ศีล ภาวนา กรรมเก่าที่จะมาสนอง จะมาได้ไม่เกิน ๒๕ %

    คราวนี้คำว่า กรรมเก่า หรือที่เรียกว่า เคราะห์กรรม ชะตาตก หรือดวงตก อะไรพวกนั้น ถึงวาระ ถึงเวลาเขาก็จะเข้ามาสนอง

    สมัยนี้บรรดาหมอดูที่พอจะมีจรรยาบรรณหายาก ส่วนใหญ่จะหาผลประโยชน์ รู้จริงแล้วหาประโยชน์ยังพอจะอภัย ที่ไม่รู้อะไรเลยเอาแต่มั่วอย่างเดียว น่า..!

    ถาม : แล้วควรจะทำอย่างไร อยู่อย่างนี้รู้สึกกังวล ?
    ตอบ : ถ้าหากมีโอกาส ก็ถวายสังฆทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ ทำบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น หรือไม่ก็จัดงานศพตัวเองไปเลย

    ทำอะไรก็ได้สักอย่างหนึ่ง จะเป็นการตัดเคราะห์ ตัดกรรมที่จะมาถึงเรา จะช่วยให้หนีห่างไปได้ชั่วคราว

    การทำบุญใหญ่อย่างนั้น เราก็ทำอยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..เอาเป็นว่า ทำสังฆทานสักเดือนละครั้ง หรือถ้าเจอเขาทำบุญกันที่ไหน มีโอกาสก็ร่วมบุญกับเขาไป จะได้ไม่สิ้นเปลืองมาก ไม่หมดมาก

    แล้วถ้าไป ๆ มา ๆ ถึงจังหวะสุดท้าย เออ..หมดแล้ว ไม่มีปัญญาจะทำแล้ว ทรัพย์สินเงินทอง กำลังกาย กำลังใจ หมดเกลี้ยงเลย อย่างนั้นถ้าจะตายก็ตายไปเถอะ..! ...(หัวเราะ)...

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    c_oc=AQmE5_3evv97DRccv0eVex-bqLV2wIBBpI2fR9EnhougbOZr6nl1t8olD9HM1gtfmiE&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    แช่งตัวเอง

    ถาม : เรื่องของคำว่า "สำเร็จด้วยใจ" รวมไปถึงทุกเรื่องเลยไหมครับ ?
    ตอบ : ทุกเรื่อง.. ต้องดูตัวอย่างหลวงปู่ฝั้น ท่านบอกว่า "ถ้าใจดี อะไร ๆ ก็ดีหมด ถ้าใจไม่ดี อะไร ๆ ก็ไม่ดีทั้งหมด" คือเท่ากับตัวเองไปแช่งตัวเอง จึงดีไม่ได้ แต่ถ้าหากเราคิดว่าดี แล้วกำลังใจเรามีคุณภาพสะอาดบริสุทธิ์ ก็จะดีจริง ๆ

    ถาม : คนโบราณเขาบอกว่า "ห้ามพูดคำไม่มงคลกับตัวเอง" ก็เพราะเหตุนี้ ?
    ตอบ : ถ้ายังถือสาอยู่ก็มีผล กลายเป็นตัวเราแช่งตัวเราเอง พอพูดไปเสร็จแล้ว เอ๊ะ..ไม่ดีนี่หว่า..ไปตอกย้ำอยู่แต่ว่าไม่ดีอย่างนั้น ก็เลยไม่ดีจริง ๆ

    ถาม : เกี่ยวกับจิตตกไหม ?
    ตอบ : คนทั่วไปจิตตกง่ายอยู่แล้ว ยิ่งไปทำผิดในสิ่งที่เขาห้ามไว้ ไปย้ำคิดว่าตัวเองละเมิดในสิ่งที่ไม่สมควร ก็ยิ่งแช่งตัวเองหนักเข้าไปอีก

    ถาม : อย่างพวกท้อแท้ สิ้นหวัง แบบนี้ใช่ไหม ?
    ตอบ : แบบนั้นแสดงว่า กำลังใจแย่จริง ๆ ต้องอาศัยคนอื่นให้ช่วยหน่อย

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา : www.watthakhanun.com
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    1fGNrfp7ZJer_SmoaDZGN7XjlrvIzS27045eIH16nqhy&_nc_ohc=-H2mRbKiFMUAX96ZooT&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    1f496.png พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่พวกเราพอได้ยินว่ายากแล้วก็ท้อถอย การท้อถอยเกิดจากกำลังใจไม่พอ กำลังใจที่ไม่พอเกิดจากกำลังสมาธิมีน้อยเกินไป ฉะนั้น...ใครท้อง่าย ถอยง่าย พยายามนั่งสมาธิเข้าไว้ ถ้ามีกำลังสมาธิก็สามารถตื๊ออยู่ได้ ถ้ากำลังสมาธิดีก็ตื๊อจนสำเร็จทุกงาน"
    .........................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    ........................................

    #บุญวิหารทาน #บูรณะโบสถ์ #สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #หลวงพ่อเล็กสร้าง #ลูกศิษย์ร่วมกันบูรณะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    ?temp_hash=1f82ef15ca257cefe012967ffd5b5fa0.jpg

    ขอบคุณภาพจาก พระไตรปิฎกดอทคอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,370
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,120
    ค่าพลัง:
    +70,467
    s329a6AFwqZkfJjYWHSR7UnGj2PIZhGGSDjjRhUtHJI0&_nc_ohc=mhji7-vC4OMAX-SN53H&_nc_ht=scontent.fcnx4-1.jpg

    ถาม : เวลาเราทำความชั่ว เราให้อภัยตัวเองไม่ได้ รู้สึกซึมเศร้า เรามีวิธีไหนที่จะให้อภัยตัวเองได้คะ ?
    ตอบ : ไม่ต้องให้อภัยตัวเอง ให้เราคิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ เราต้องไม่ทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ธรรมดาของคนที่สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ก็ย่อมมีผิดพลาดได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะไม่ให้พลาดอย่างนั้นอีก
    __________________
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๔
    ที่มา : เว็บวัดท่าขนุน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...