เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

8. ประสบการณ์ที่ผมจำไม่ลืม

เริ่มกันเลยนะคับ ย้อนไปเมื่อปี 2554 ตอนนั้นผมศึกษาอยู่ในมหาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก และเริ่มสนใจและสะสมพระเครื่อง เรียกได้ว่า เกจิไหนดังเกจิไหนดีผมแสวงหามาเก็บสะสมไว้หมด จนได้รู้จักกับหลวงพ่อกวย เพราะมีพี่ที่รู้จักแกเล่าประวัติของหลวงพ่อให้ฟัง ทำให้ผมสนใจและหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อเพื่อมาบูชา และผมได้พระที่หลวงพ่อร่วมปลุกเสกองค์แรกคือ สมเด็จหลังข้าวสารดำ โดยการจุดธูปขอหลวงพ่อ เพราะตอนนั้นเรียนอยู่ไม่มีเงินเพื่อที่จะเช่าหาบูชา หลังจากได้รับพระมาแล้วผมก็นำขึ้นคอเลยคับ และกะมีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่เลิกเรียน ในวันนั้นผมก็ขับรถกลับหอพักปกติเหมือนทุกวัน พอกลับมาถึงหอเพื่อนผมก็ได้ชวนกันว่าจะไปดื่มกัน

หลังจากที่นัดกันเสร็จสับ ผมก็ได้ไปจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ พอผมแต่งตัวเรียบร้อยผมก็ขับรถไปหาเพื่อนขณะที่ขับรถไปได้ครึ่งทางใจมันก็รู้สึกหายวูบและนึกขึ้นมาได้ว่าลืมแขวนพระมาผมเลยตัดสินใจขับรถกลับมาที่ห้องเพื่อจะมาเอาพระพอถึงห้องผมก็หยิบสร้อยแล้วก็ออกจากห้องมาเลย และก็กลับมาที่รถ แต่รถที่ผมพึ่งขับมาจอด สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด ผมก็สตาร์ทอยู่พักใหญ่ ก็ไม่ติด เลยตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนเพื่อให้เพื่อนมารับ แต่พอโทรไปหาเพื่อนปรากฏว่าแฟนของเพื่อนรับสายแล้วบอกว่าเพื่อนผมโดนฟัน ตอนนี้กำลังส่งตัวไปโรงพยาบาล ผมจึงตัดสินใจลองสตาร์ทรถอีกครั้งปรากฎว่าสตาร์ทติดง่ายๆไม่เหมือนกับครั้งแรกที่ทำยังไงก็ไม่ติด

เยี่ยมเพื่อนที่ โรงพยาบาลและผมก็ได้คุยกับแฟนของเพื่อนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แฟนเพื่อนผมบอกว่า เพื่อนผมนั่งดื่มอยู่ที่หน้าห้องปกติจู่ๆก็มีวัยรุ่นสองคนขับรถมอไซด์มาถึงแล้วคนซ้อนท้ายวิ่งเข้ามาหาเพื่อนผมใช้มีดฟันมาที่เพื่อนผมแต่เพื่อนผมยกแขนรับไว้แล้วคนขับมันก็ลงตามมาเข้ามาหาเพื่อนผมอีกแต่พอมันลงมาถึงตัวเพื่อนผมมันกะบอกเพื่อนมันว่าไม่ใช่ไอ้นี่แล้วมันกะรีบขึ้นรถแล้วขับหนีไป พอผมได้ฟังจบผมนึกในใจเลยว่าต้องเป็นเพราะหลวงพ่อแน่ๆที่ทำให้ผมรอดเหตุการในครั้งนั้น เพราะถ้าหากผมไม่กลับไปเอาสร้อยพระที่ห้อง ผมกะคงโดนไม่ต่างจากเพื่อนผมแน่ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผมศรัทธาหลวงพ่อเป็นอย่างมาก....#มีของที่กูเสกเพียงชิ้นเดียวหากกูไม่ช่วยอย่าเรียกว่าอาจารย์

#นี่แหละคับอาจารย์ผู้ไม่เคยทอดทิ้งศิษย์

แถมอีกเรื่องนะคับ มีอยู่วันหนึ่งแฟนผมจะต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด และช่วงแรกๆที่ไปถึงที่ทำงาน เค้าก็ได้จัดห้องพักไว้ให้พนักงาน นอนห้องละ2คนซึ่งแฟนของผมกะได้นอนกับรุ่นน้องที่พึ่งรู้จักกัน ซึ่งน้องคนนี้เค้ามาอยู่ห้องนี้ก่อนนะคับ และพอแฟนผมไปถึงห้องพัก น้องคนนี้กะมีอาการแปลกคือมองตาขวางๆ ไม่ค่อยพูด แฟนผมก็เลยแปลกใจเลยลองถามเพื่อนๆที่มไงานด้วยกัน ก็ได้ความว่าน้องเค้าเล่นของและเลี้ยงผีด้วย แต่แฟนผมก็ไม่ได้คืดอะไรมาก แต่ทุกคืนแฟนผมจะได้ยินเสียงคนเดินในห้องและพอหลับก็จะฝันเห็นเงาดำๆมายืนอยู่ที่ข้างๆเตียง

ผมเลยให้รูปถ่ายของหลวงพ่อ ปี52 ไปแขวนและกำชับกับแฟนว่าอย่าเอาไว้ห่างตัวนะพอวันแรกที่แฟนผมแขวนรูปหลวงพ่อกะฝันอีกคับ เหมือนเช่นทุกคืน คือมีเงาดำๆมายืนที่ข้างเตียงแต่วันนี้แปลกจากเดิมคือในฝันแฟนผมเล่าให้ฟังว่ามีแสงสว่างออกมาจากตัวและเห็นเท้าใหญ่ๆออกมาจากแสงนั้นคับและถีบเข้าไปที่เงาดำๆนั้นเลยคับ ด้วยความตกใจแฟนผมเลยสะดุ้งตื่นมากำรูปหลวงพ่อไว้แน่นเลยคับ และหลังจากนั้นได้ 3 วันน้องคนที่อยู่ห้องเดียวกับแฟนผมกะเก็บของย้ายออกโดยไม่ทราบเหตุ. และนี่แหละคับประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ผมประสบพบเจอมา

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

9. ตัวผมบวชวัดพ่อกวย พึ่งสึกเป็นทิด
วันที่20ก.ค เสาร์ 62
วันนี้ จะเขียนเรื่อง ประทับใจ เล็กๆ
#ตอน หลวงพ่อ ช่วยหาร้าน

วันนี้ว่างๆผมนำรูป หลวงพ่อกวยเก่ามาก กลัวจะขาด(รูปย่ามวิเศษ เก่ามากแล้ว)จึงจะนำใส่กรอบบูชาขนาดใหญ่มากๆ จึงม้วนขับมอไซค์ไป ร้านถ่ายรูป ปิดหลายร้าน จึงมาเจอร้านนึงแบบหรูหรา เจ้าของเป็นผู้หญิง ผมแต่งตัวเซอๆเก่าตามสไตล์ เขามองผมเหยียดด้วยสายตาและบอก ไม่มีหรอกค่ะ มีแต่แพงๆหลุย. เราไม่ชอบคนแบบนี้ เราเลย ออกจากร้านเลย

~~~ตั้งจิต หลวงพ่อกวย ช่วยหาร้านดีๆ ให้ทีครับ ขับมอไซค์วนตามซอย จนไปจอดจะสูบบุหรี่หน้าร้านใส่กรอบรูปใหญ่พอดี เจ้าของเรียกเลย จะใส่กรอบ เข้ามาเลยครับ ยิ้มแย้ม ร้านเก่าๆใหญ่ๆ(แนวทำส่ง) เราก็งง มันบังเอิญไปไหม จอดหน้าร้านพอดี ที่เจ้าของเรียกเข้าร้าน เหมือนหลวงพ่อกวยช่วยเลือก

~~เข้าไปในร้าน คนใส่กรอบยิ้ม เอ้ารูปพ่อกวยหรอค่ะ วันก่อนใส่กรอบให้ลูกค้า ตัวดิฉันขอต่อรูปท่านพ่อกวย ลูกทำงานใส่กรอบรูปหลวงพ่อมาเยอะ
ให้โชคหนูบ้าง ปาฏิหาริย์เกิดถูกหวย3ตัว ท่านมาเข้าฝัน เขาเล่าให้ฟัง นี่สำหรับ คนมีบุญและเคารพจริง ไม่มะโนนะ ตัวผมก็ขอใส่กรอบราคา 1,500เอาแบบดีๆ #เจ้าของใจดีลดให้อีก เหลือ450 บาท ผมบอกขอบคุณหลวงพ่อกวยครับ ที่ช่วยหาร้านให้ เป็นศิษย์หลวงพ่อพอดี

ผมใส่กรอบถวายหลวงพ่อกวยแล้วนะครับ วันอาทิตย์ ไปรับรูป นี่คือประสบการณ์ตรงจากผม พ่อกวยมีจิตอภิญญา เกิดกับคนที่เคารพท่านจริงเท่านั้นจึงเจอปาฏิหาริย์ ผมนี่สุดเลยครับ ขอบอก ความบังเอิญไม่มี มีแต่เหตุ และผล บันทึกไว้อ่านทุกปี

 

10. ความเหนียวของ พระสมเด็จเศียรโตหูบายศรี
สวัสดีครับพี่ๆศิษย์หลวงพ่อทุกท่าน ประสบการณ์พระเครื่องของหลวงพ่อนั้น
ผมเจอมาหลายเรื่องมาก แต่จะขอเล่าตามกติกาของพี่หนุ่ม เพียง 2เรื่อง

เรื่องแรกเป็นเรื่องความเหนียวของ พระสมเด็จเศียรโตหูบายศรี
มีอยู่เมื่อวันหนึ่ง ประมาณ 3-4เดือนที่แล้ว ผมได้ใช้ลูกหมูหินเจียร เจียรน็อตเพื่อให้สั้นลง ผมใช้มือซ้ายจับน็อต มือขวาถือลูกหมู พอเปิดเครื่องผมก็เริ่มลงมือเจียร พอเจียรไปได้แค่แป๊บเดียว ด้วยความแรงของเครื่อง มันได้แฉลบออกจากน็อตแล้วใบเจียรที่กำลังหมุนอยู่ ได้ปั่นเข้าที่หัวแม่มือผมอย่างจัง ผมไม่ทันได้ชักมือออกเลยโดนใบเจียรบดจนเนื้อที่หัวแม่ยุบลงไป พอตั้งสติได้ผมปล่อยน็อตทิ้งแล้วดับเครื่องเจียร มองดูที่ปลายนิ้วหัวแม่มือ มันยุบลงไปเกือบครึ่งเซน แต่ไม่มีบาดแผลแม้ซักนิดเดียว รู้สึกแค่ชาที่บริเวณนิ้วเท่านั้น ผมนี้ระลึกถึงพระหลวงพ่อที่ห้อยเลย แต่ผมก็ไม่แปลกใจเท่าใดนักถึงความเหนียว
เพราะพระองค์นี้ผมเคยโดนของมีคมบาดเป็นทางยาวแบบที่เห็นเนื้อข้างในฉีกขาด แต่หนังกับไม่เข้าเลยมาแล้ว

เรื่องที่2 เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระสมเด็จปรกโพธิ์ย้อย
พระองค์นี้ตั้งแต่ตอนที่ไปรษณีย์มาส่งถึงบ้าน ฝนได้เริ่มพร่ำลงเม็ดลงมา แบบไม่หนักนัก ทั้งที่อากาศตอนสายยังมีแดดดีอยู่ ผมนี่นึกถึงเรื่องที่ศิษย์ รุ่นเก่า หลวงพ่อ ที่เล่ากันฟังว่าถ้าใครได้บูชา พระปรกโพธิ์9ใบ ของหลวงพ่อ ครั้งแรกที่นิมนต์มาถึงบ้านฝนมักตกเสมอ แต่ประสบการณ์ที่ผมจะเล่าไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องการณ์ห้ามฝน

วันหนึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้นัดรถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวข้าวที่นา จำนวน19ไร่ วันนั้นรถเลยเวลา มาสายร่วมสิบโมงครึ่ง พอรถมาถึงก็ลงมือเกี่ยวใด้สักพักใหญ่ จนผ่านมาประมาณช่วงบ่าย2โมง เมฆดำกลุ่มขนาดใหญ่ตั้งเป็นกำแพงมาจากทางตะวันตก ลมก็พัดกระโชกอย่างแรง ข้าวในนาก็ยังเกี่ยวไม่เสร็จ เหลืออีกหลายไร่ ถ้าฝนตกลงมาหนักข้าวที่เหลือต้องล้มหมดแน่และหยุดเกี่ยว ส่วนข้าวที่เกี่ยวไปแล้ว เอาไปขายเลยก็จะโดนกดราคาจากโรงสีเพราะเปียกฝน ผมไม่รู้จะทำยังไง เลยระลึกถึงหลวงพ่อและสมเด็จโพธิ์ย้อยในคอ บอกหลวงพ่อดังไปในอากาศว่า "หลวงพ่อครับ ช่วยอย่าพึ่งให้ฝนตกเลย ให้ลูกเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วไปขายให้เรียบร้อยด้วยครับ แล้วลูกจะถวายขนมจีนแข่งใหญ่กับน้ำยาครับ "

ผมบอกหลวงพ่อจบสักครู่นึงไม่นานนัก ลมเริ่มพัดเบาลง แต่กำแพงเมฆดำทมึนยังคงอยู่ จนผ่านไปเวลาสี่โมงเย็นรถก็เกี่ยวข้าวเสร็จ และขนไปขายที่โรงสี ซึ่งไม่ไกลจากนามานัก รถขนข้าวยังออกตัวไม่ได้เท่าไร ลมก็เริ่มพัดแรงอีกครั้ง แต่ฝนก็ยังไม่ตก จนรถขนข้าวไปขายข้าวเสร็จแล้วเอาเงินมาให้ผม เงินถึงมือผมได้ซัก10นาทีมั้งครับ ทั้งลมทั้งฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ถึงสามสี่ชั่วโมง นาคนข้างๆที่เกี่ยวต่อจากผมเลยรับไปเต็มๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมศรัทธาหลวงพ่อกวย ของพวกเราได้อย่างไรละครับ

 

11.บารมีหลวงพ่อช่วยให้ขายที่นา

สวัสดีครับทุกท่านผม ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัวครับ ร่วมเผยแพร่บารมีหลวงพ่อกวย ประมาณเดือนมิถุนายน 61 ผมได้มีโอกาสได้บูชาพระขุนแผนเนื้อชินจากร้านพระเครื่องมา 1 องค์ ทั้งๆที่วันนั้นผมเดินเข้าไปดูทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะบูชาพระอะไร เป็นแผงพระรวมพระไว้มากมาย หลายเกจิอาจารย์ ผมไม่ถูกใจองค์ไหนเลย จนเจ้าของร้าน เอาชุดหลวงพ่อกวยออกมาให้ดู ผมถูกใจพระขุนแผนเนื้อชินหลวงพ่อกวย จากนั้นผมจึงเริ่มศึกษาและ อยากได้ วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยยุคต้นมาบูชา จึงเริ่มจากไปซื้อหนังสือหลวงพ่อกวยที่เซเว่นมาศึกษา จนเดือนมีนาคม 62 แฟนขึ้นศาลเป็นคดีความต้องชดใช้เงินจำนวน 7 แสนกว่าบาท เราไม่มีทางออกเลย ไม่มีปัญญาจะใช้หนี้ก้อนนี้ได้เพราะเป็นเงินเยอะมาก

ผมจึงจุดธูปบอกกล่าว ต่อพระเครื่องหลวงพ่อกวยหนังสือหลวงพ่อกวย เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าเดือดร้อนมาก ตอนนี้ขอบารมีหลวงพ่อช่วยให้ขายที่นาได้ด้วยจะได้มีเงินใช้หนี้ แล้วอีก 2 วันต่อมาก็มีคนติดต่อมาขอดูที่ดิน ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ก็นัดวันกันดูที่ดิน หลังจากดูเสร็จเขาก็บอกขอดู ที่ดินเจ้าอื่นด้วยยังไม่ได้ตัดสินใจ เขานั่งเครื่องมาจากกรุงเทพฯก็เลยมีเวลาไม่นาน ก็เลยรีบๆดูและจะไปเที่ยวต่อที่แม่สาย ผมล่ะแฟนกระวนกระวายใจมาก เขาบอกพรุ่งนี้เขาจะตัดสินใจ ตอนเย็นผมเลยบอกต่อหน้า รูปในหนังสือหลวงพ่อ ว่าขอให้ช่วยดลจิตดลใจให้เขาชอบที่ดินแปลงนี้ด้วยเถิด ตื่นเช้ามาผมเลย เอาหนังสือรวมถึงพระเครื่องหลวงพ่อ ตั้งโต๊ะกลางแจ้งจุดธูป 9 ดอก บนบานหลวงพ่อขอให้เขาชอบและให้เขามัดจำ ภายในวันนี้ด้วยเทอญ ถ้าหากว่าเขามัดจำ ลูกจะถวายขนมจีน กะทิ 20 โลลิโพ 1 แพ็ค และจะไปกราบหลวงพ่อฝากตัวเป็นศิษย์ที่วัด ถ้าหากสำเร็จ

และเขาก็มาดู แล้วก็ตกลงจ่ายมัดจำภายในวันนี้ เป็นเงิน 100,000 บาทพร้อมทำสัญญาจะจ่ายที่เหลือในเดือนพฤษภาคมเราดีใจมาก แฟนจึงจองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯเพื่อไปลงที่บ้านญาติเพื่อจะยืมรถไปต่อที่วัดโฆสิตาราม พอดีวันนั้นเป็นวันหยุดของญาติแฟน เขาเลยขอเดินทางไปด้วยญาติแฟนชื่อพี่ที ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ ทำงานไม่ได้ เขาจึงขอไปด้วย เราจึงออกเดินทางด้วยการเอารถไป 2 คัน ไปถึงที่วัดคนเยอะมาก พี่ทีและญาติแฟนจึงให้ผมกับแฟนขึ้นไปกราบรูปปั้นหลวงพ่อกวย และไปลอดใต้โลงศพขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ แล้วจึงมาเปลี่ยนชุดพี่ทีไปขึ้นไปกราบ

พี่ทีขึ้นไปกราบขอให้หายจากโรคและทำงานได้ภายใน 16 วัน พิธีบนไข่ต้ม 300 ฟอง พอลงมาเห็นผมถวายลิโพหลวงพ่อเลยถามว่าหลวงพ่อท่านชอบลิโพเหรอ ผมบอกว่าผมบนลิโพไว้และท่านชอบพิธีจึงขึ้นไปบนใหม่ไข่ต้ม 300ฟอง ลิโพ 4 ลัง เสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับ ผมกลับบ้านที่เชียงราย ส่วนพี่ทีหลังจากกลับมาอยู่บ้านพักฟื้นร่างกาย อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนเป็นปกติทำงานได้ก่อน 16 วัน นับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ที่รู้เพราะเขาโทรมาหาแฟนมาบอกว่าเขาหายดีและไปแก้บนแล้ว รวมถึงฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อด้วย ผมเชื่อมากเลยว่าหลวงพ่อรักลูกศิษย์และคอยช่วยเหลือลูกศิษย์ของท่าน ไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์ ตอนนี้ผมเชื่อและศรัทธาหลวงพ่อสุดหัวใจว่าหลวงพ่อไม่เคยทอดทิ้งสิทธิ์จริงๆครับ

 

12. ประสบการณ์คุณปลัด

ผมได้อ่านหนังสือนะโมตั่งเเต่ อ.เฒ่าลงประวัติของหลวงพ่อเล่มเเรกประมาณปี30 จนจบ อ่านไปได้สามตอนบอกตรงๆว่าทึ่งมากที่ยังมีพระเกจิที่เก่งขนาดนี้อีกเหรอ ทำของได้ทุกอย่างรักศิษย์ แต่เมื่อความศรัทธาแล้วเราก็ต้องหาวัตถุมงคลสิ อ่านมาทุกตอนไปสะดุดที่คุณปลัดว่าเก่งมากทางกันเขี้ยวงาเเละเมตตา เขียนจดหมายไปหาอาจารย์เฒ่า บอกว่าต้องการเช่าคุณปลัดรุ่นเเรกมีหางมีขามีไข่ นั่งรอจดหมายตอบกลับของอาจารย์เฒ่าว่าจะมีจะได้ไหม

พออาจารย์เฒ่าตอบกลับ ก็รับไปซื้อตั๋วธนาณัติที่ไปรษณีย์ส่งไปให้ท่านทีนี้ก็นั่งรอว่าเมื่อไรคุณปลัดจะเดินทางมาถึง สมัยก่อนเช่ากันแบบไม่เห็นวัตถุมงคลชิ้นนั้นจะสวยไหมสภาพขนาดไหน แต่เมื่อบุรุษไปรษณีย์มาส่งให้ที่ทำงานนั่งเเกะซองออกได้คุณปลัดสภาพสวยมาก แทบไม่สึกเลย จังหวะที่เเกะซองออกดูนั้นงูได้เลื้อยออกมาจากใต้ถุนเพิงพักที่ผมอยู่ ลองสิครับว่าจะเป็นจริงตามที่อาจารย์เฒ่าเขียนลงในหนังสือไหม ยกคุณปลัดจบหัวบอกหลวงพ่อลูกขอลองดูพุทธคุณนะครับ แล้วโยนใส่งูเลย แปลกมาก งูตัวนั้นไม่สามารถที่จะเลื้อยไปไหนได้ พอเอาไม้เขี่ยคุณปลัดออก งูเลื้ิอยหนีไปอย่างเร็วเลย ทีนี้มั่นใจเต็มร้อยว่าดีแน่ๆ เเขวนแบบไม่เลี่ยมเลย ติดตัวตลอด จนกลับบ้่าน แม่บอกว่าไปนาเจอเเต่งู ด้วยความห่วงแม่ เลยถอดคุณปลัดให้เเม่เเขวน และเเม่ผมก็เจอประสบการณ์เดินไปเหยียบงูเห่าในนา เรียกว่าเหยียบไปบนตัวเลยมันลื้นๆเลยก้มดู เห็นเป็นตัวงู เลยถอยหลังมาสามก้าวบอกให้ไปทางใครทางมัน งูก็ไม่ไป เเม่ผมเลยถอยออีกว่าจะเดินไปอีกทาง พอความห่างได้สักวา งูเลื่อยหนีลงป่าข้าวไป เลยให้แม่แขวนจนแกเลิกทำนาก็ขอคืน แต่สึกไปจนเท่าที่เห็นในภาพ

ผมเลยเอาไปเลี่ยมพลาสติก แล้วมัดติดกับกล้องส่องพระ ลูกสาวผมอายุตอนนั้นขวบกว่าๆ ชอบหยิบกล้องส่องพระไปเล่นเดินเหวี่ยงไปทั้วเป็นปกติ จนวันหนึ่งเขาหยิบไปเล่น กลับมามีแต่กล้องส่องพระ คุณปลัดหาย จะตีก็เด็กเกิน คิดว่าหายก็เหมือนว่าเราหมดบุญที่จะได้ครอบครองคุณปลัด ยกมือบอกกับหลวงพ่อว่าถ้าเป็นของลูก ก็ขอให้ได้คืน ถ้าหมดบุญหมดวาสนาก็ไม่เสียดาย จนเวลาผ่านไป1ปีเต็มๆ ข้างบ้านเขาเดินมาหาบอกว่า พี่ใช่ของพี่ไหม ผมเคยเห็นว่าลูกพี่เคยถือมาเล่นบ้านผม พอดีผมจัดบ้านเจอหล่นอยู่ใต้ตู้ขายข้าวแกงบ้านผม แค่เห็นจำได้เลยว่าใช่ เลยบอกว่าขอบคุณนะครับ นึกว่าจะไม่ได้คืนเสียเเล้ว

เรื่องเมตตาก็สุดๆ ก่อนมีเมียแข่งกันจีบสาวก็ได้เพราะคุณปลัดนี้เเหละ เคยลองบอกว่า คุณปลัดหิวก็หากินเองนะ ขายของอยู่ดีๆผู้หญิงมาซื้อของแต่ต้องรอทำ ก็คุยกันสัพเพเหระ ผู้หญิงเริ่มก่อนเลยคุยเรื่องใต้สะดือ แต่เราไม่สานต่อก็จบ แปลกมากถ้าไม่บอกไม่บน จะเป็นเมตตา แต่ถ้าบนจะไวกับเรื่องแบบนี้ คุณปลัดคือวัตถุมงคลชิ้นเเรกที่ผมเช่ามาในราคา800 เมื่อประมาณปี30 ทำงานได้เดือนละ3500 ถือว่าเเพงมากแต่ก็มากด้วยประสบการณ์จริงๆ

 

13.ประสบการณ์ที่ได้เเหวกม่านองค์นี้มา

เมื่อปี35 ผมได้ไปทำงานที่ประเทศใต้หวัน ก่อนไปได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อทางอากาศ คือฝากตัวกับรูปถ่ายท่านหน้าหิ้งพระที่บ้าน เมื่อไปทำงานได้1ปี ทางนายจ้างให้กลับมาพักผ่อน เมื่อกลับมาถึงบ้านได้สักสองวันก็นั่งรถจากสุโขทัยไปเช่าวัตถุมงคลจังหวัดหนึ่งที่ไกลๆชัยนาท(จะไม่บอกว่าที่ไหน) เช่ามาหลายชิ้น หมดไปหลายพัน เงินสมัยนั้นก็แพงมาก เเต่กล้าเช่าเพราะพึ่งกลับมาพักร้อน เวลาเหลือเลยต่อรถเข้าชัยนาทไปกราบหลวงพ่อที่มณฑป สมัยนั้นยังเป็นหลังเล็กๆอยู่ เเละกราบสังขารท่าน เจอลุงนังรถเข็นเเกพิการคุยไปคุยมาเเก่บอกว่ารู้จักบ้านอ.เฒ่า เลยถามทางเเกว่าขึ้นรถที่ตลาดสรรคบุรีไปลงหน้าวัดเดิมบาง ไวเท่าความคิด ไปเลยเหมือนกันแต่ไม่เจอ อ.เฒ่า เจอเเต่เมียท่าน เลยบอกว่าจะเอาพระมาให้ดูว่าแท้ไหม เสียดายที่ไม่เจออ.เฒ่า เมียท่านว่าพิมพ์ไหนเอามาสิ พอจะดูได้ เพราะ.เฒ่าสอนไว้ เมื่อเอาให้ดูบอกว่าเก๊หมดเลย ยังเอาของอ.เฒ่าที่มีมาเทียบให้ดูว่าเหมือนกันไหม

เราก็ต้องยอมรับสิ ใจตกเลยนึกว่าจะได้ของเเท้ๆ เช่ามาหลายพิมพ์เลย กลับไปที่เราเช่ามาครั้งเเรกจะเอาไปคืน คิดไปตลอดทางเขาจะรับคืนไหมนั่งรถทัวร์จาก อ.สรรคบุรีไป ก็คิดตลอดทาง เหลือบไปเห็นรูปหลวงพ่อกวยที่ติดไว้หน้ารถ ยกมือบอกหลวงพ่อเลยว่า ขอให้ลูกคืนพระได้เงินที่ได้คืนมา ลูกจะเอาทำบุญเข้ามูลนิธิของหลวงพ่อให้หมด เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดที่ผมเช่าพระมา เปิดโรงเเรมเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บ เเล้วเดินไปขอคืนพระ โกหกเขาว่าโดนลักกระเป๋าไม่มีเงินเหลือเลย แปลกมากเขารีบรับพระเเละคืนเงินให้ ผมก็นอนที่นั้นอีกคืน ตื่นเช้ามารีบนั่งรถไปบ้าน.เฒ่า เอาเงินทั้งหมดไปทำบุญเข้ามูลนิธิหมดเลย

อ.เฒ่าก็สงสารที่โดนหลอก เเต่ก็ยังเอาเงินมาทำบุญ ท่านเลยเอาพระมาให้เลือก บอกว่าเป็นสินน้ำใจที่มาทำบุญ พระที่เอามาให้เลือกมีสมเด็จหลังมะอะอุหลายองค์ แต่ผมเลือกแหวกม่านองค์นี้เพราะชอบ อ.เฒ่าท่านว่าเมื่อเลือกเอาเเบบหลังไม่มียันต์ งั้นผมจะติดผ้าสังฆาฏิของหลวงพ่อให้แทนยันต์ก็เเล้วกัน ก็ได้มาอย่างที่เห็นในภาพ ยอมรับหลวงพ่อท่านรักลูกศิษย์จริงๆแค่บนบอกกับภาพถ่ายบนรถ ก็ยังสามารถช้วยได้และยังได้พระแท้พร้อมผ้าสังฆฏิของหลวงพ่อมาอีก ผมศรัทธาถึงขนาดที่ว่าเมื่อไม่ทันหลวงพ่อไม่ได้กราบ ไม่ได้เรียนวิชากับองค์หลวงพ่อ ก็ขอให้ตามหาศิษย์ที่ได้เรียนกับหลวงพ่อขอให้ได้เจอด้วย จนผมตามหาพระอาจารย์ตั้วเจอที่วัดสุทัศน์เมื่อปี42 ก็ตามเเละรับใช้ ได้สิ่งที่ผมปรารถนาจนพระอาจารย์ตั้วมรณะภาพ ทำไมผมถึงต้องตามหาพระอาจารย์ตั้ว ก็มาจากหนังสือที่ อ.เฒ่าเขียนอีกนั้นเเหละ ว่า หลวงพ่อกวยท่านพูดก่อนมรณะภาพว่า ใครสงสัยหรือไม่เข้าใจในคาถาวิชาอะไรให้ถามเจ้านกกระตั้วมันนะ ผมก็ตามหานกกระตั้วของหลวงพ่อจนพบ ได้ความรู้จากพระอาจารย์ตั้วหลายๆอย่างจริงๆ ไม่เสียชาติเกิดแล้วผม

 

14. พระแหวกม่านพลิกชีวิต
ขอเผยแผ่เกียรติคุณหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร

จากวลีเด็ด “พระแหวกม่านพลิกชีวิต” ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่าผู้ใดได้บัญญัติคำนี้ขึ้นมาก่อนเป็นคนแรก แต่ที่แน่ๆ วลีนี้ก่อให้เกิดเรื่องราวและประสบการณ์มากมายโดยตรงกับข้าพเจ้า จนเป็นที่มาของการบอกเล่าประสบการณ์ในครั้งนี้ ข้าพเจ้ามีจุดประสงค์เดียวคือ ต้องการเผยแผ่เกียรติคุณของพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งนามว่า หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร แห่งวัดโฆสิตาราม(วัดบ้านแค) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

ข้าพเจ้ามีอาชีพประจำเป็นพนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง อยู่ฝ่ายผลิต ซึ่งตามธรรมดาของชีวิตการทำงานมันก็มีขึ้นมีลงเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ก็คือมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป และถ้านับย้อนหลังไปเมื่อ5ปีที่แล้ว วัดความเจริญเติบโตของข้าพเจ้าเป็นเส้นกราฟจะเห็นได้ว่าดิ่งลง ดิ่งลง และก็ดิ่งลง ผลงานจากการวัดประเมินประสิทธิภาพการทำงานของข้าพเจ้าก็ไม่ได้ขี้เหร่ โดยรวมอยู่ในระดับเกรด2.5-3.(สูงสุดคือเกรด4)

แต่เหตุไฉนข้าพเจ้าได้รับการพิจารณาปรับเงินเดือนในแต่ละรอบ ถึงได้น้อยนิด ถ้าเทียบกับผลงาน ยอดขาย และกำไร (ลืมบอกไปครับว่าข้าพเจ้ามีตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนก) รวมไปถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้รับการพิจารณาอันพึงจะได้เหมือนคนอื่นๆเขา เช่นการให้เครดิตกับผลงานข้าพเจ้า การนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เป็นต้น สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้เองทำให้ข้าพเจ้าปลง เหมือนคนยอมแพ้ ไม่อยากต่อสู้อีกต่อไปเพราะว่า....เขาไม่เห็นคุณค่าของเรา....แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพที่ถูกสั่งสอนมาทำให้ข้าพเจ้าไม่ทอดทิ้งงานและผู้ใต้บังคับบัญชายังคงก้มหน้าทำงานต่อไป ก็หวังว่าสักวัน สวรรค์คงมีตาได้แลเห็นสิ่งที่ข้าพเจ้าทำลงไปบ้าง

จนมาวันหนึ่งในปี2562 ข้าพเจ้าได้ไปสมัครเฟสบุ๊คและขอสมัครเข้ากลุ่ม “หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท” ซึ่งพอเข้ามาในกลุ่มนี้ทำให้ข้าพเจ้าแปลกใจมาก เพราะในกลุ่มนี้มีการให้ข้อมูลพระเครื่องของหลวงพ่อกวยที่แปลกไปจากกลุ่มอื่นๆ คือมีการแนะนำพระพิมพ์แปลกๆที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมคำอธิบายสนับสนุนอย่างเป็นกลาง และที่สำคัญยกหลักฐานประกอบอ้างอิงในการให้ข้อมูลที่สามารถพิสูจน์สืบค้นทั้งพยานบุคคลและเอกสารได้ และก็มาสะดุดกับคำที่เป็นวลีเด็ด “พระแหวกม่านพลิกชีวิต” เพราะมีบรรดาสมาชิกนำรูปพระแหวกม่านมาลงให้ชมกันมากมายหลายพิมพ์ และที่สำคัญข้าพเจ้าก็เพิ่งจะได้ยินในเพจนี้เป็นที่แรกที่เรียก “พระแหวกม่านชุดลงกรุ” ซึ่งก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าก็พอรู้มาบ้างแบบงูๆปลาๆเรื่องพระของหลวงพ่อกวย แต่ไม่นึกว่าจะมีพระลงกรุด้วย ข้าพเจ้าก็เลยศึกษาหาอ่านจากบทความต่างๆและก็ไปเจอบทความของ(ขออนุญาตเอ่ยนาม) “คุณพี่หนุ่ม เมืองแกลง” เรื่องพระแหวกม่านชุดลงกรุ อ่านตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในพระชุดนี้มีจริงๆ และที่สำคัญทำให้ข้าพเจ้าเกิดความมั่นใจบางอย่างว่า ‘เอาว๊ะ จะขอลองพระแหวกม่านชุดลงกรุนี่แหละ จะมาช่วยพลิกชีวิต

ข้าพเจ้า’และไม่ช้าไม่นาน มาวันหนึ่งข้าพเจ้าได้เข้าไปเจอเฟสบุ๊คของ(ขออนุญาตเอ่ยนาม) “คุณพี่สุรศักดิ์ ทองดีศรี” ที่ลงโชว์พระแหวกม่านชุดลงกรุในกลุ่ม ข้าพเจ้าจึงส่งข้อความส่วนตัวไปหาพี่สุรศักดิ์ บอกเล่าปัญหาที่ข้าพเจ้าประสบและขอคำแนะนำ ซึ่งในขณะนั้นข้าพเจ้ากำลังเข้าประชุมงานอยู่ สักพักพี่แกโทรมาหาเองเลย ข้าพเจ้าตกใจเพราะกำลังประชุมเครียดอยู่ จึงขออนุญาตเดินออกมาคุยด้านนอกห้อง โดยเนื้อหาพี่แกบอกก่อนเลยว่า..พระของหลวงพ่อมีเจ้าของแล้วทุกองค์ ถ้าอยากได้ให้ไปจุดธูปขอกับหลวงพ่อ แล้วค่อยโทรมาหาแกใหม่..

ในคืนนั้นข้าพเจ้าได้จุดธูป9ดอกบอกกล่าวหลวงพ่อกวยขอพระแหวกม่าน รุ่งเช้าข้าพเจ้าก็โทรกลับไปหาแกใหม่ โดยบอกพี่แกว่าข้าพเจ้าได้พิจารณาแล้ว มีอยู่1องค์ที่อยากได้มาบูชา พี่สุรศักดิ์พี่แกก็ใจดีเหลือหลาย ยอมแบ่งให้ข้าพเจ้าองค์นึงในราคาที่ข้าพเจ้าเอื้อมถึงได้ โดยพี่แกแนะนำวิธีการรับพระในแบบฉบับของแกก่อนนำพระไปเลี่ยมคล้องบูชา ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติทำตามที่พี่สุรศักดิ์แนะนำทุกอย่าง และเหตุการณ์ต่อไปนี้ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเอาเองครับ

ปรากฏการณ์ที่1

รุ่งเช้าข้าพเจ้านำพระใส่ตลับเงินและอารธนาขึ้นคอและไปทำงานตามปกติ แต่เช้าวันนั้นข้าพเจ้ารู้สึกว่า ตัวเองกำลังจะเป็นไข้เพราะเกิดอาการร้อนๆหนาวๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเหตุบอกกล่าวล่วงหน้าเลย อาการมาหายช่วงบ่าย โทรไปบอกพี่สุรศักดิ์ แกบอกว่าพระทำการปรับธาตุในตัว

ปรากฏการณ์ที่2

หัวหน้าข้าพเจ้า(เป็นผู้หญิง)ปกติจะไม่ชอบขี้หน้าข้าพเจ้ามาก ประมาณว่าทำอะไรก็ไม่เป็นที่สบอารามย์ แต่วันนั้นวันแรกที่คล้อง..แหวกม่านชุดลงกรุ..ไปทำงาน หล่อนกลับมีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิม อ่อนน้อม พูดกับข้าพเจ้าดีมากเหมือนหนังคนล่ะม้วนกับก่อนหน้านี้ และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาก็ดีกับข้าพเจ้ามาตลอดพูดให้เครดิตข้าพเจ้า ขออนุมัติปรับเงินเดือนให้ลูกน้องในทีมงานของข้าพเจ้าก็ง่ายแสนง่าย พูดง่ายๆว่า...คุยง่ายมากๆ (ไม่อยากจะเชื่อเลย)

ปรากฏการณ์ที่3

ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการผลิตงานให้กับหน่วยงานราชการที่เป็นโครงการใหญ่มีมูลค่าหลักพันล้านบาทและในเดือนมิถุนายน 2562 ทางคณะของหน่วยงานราชการจะขอเข้ามาตรวจสอบความพร้อมก่อนการเซ็นต์สัญญา เช้าวันนั้นข้าพเจ้าอารธนาพระแหวกม่านชุดลงกรุองค์เก่งว่า..ขอให้คณะที่มาตรวจงานชื่นชอบและชื่นชมจนสามารถเซ็นต์สัญญาให้ผ่าน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ...แต่...มันก็ต้องทำให้เชื่อ เหมือนใจเราเป็นคนกำกับการถ่ายหนังยังงัยอย่างนั้น ไม่ว่าเราไม่อยากให้เจออะไรเขาก็ไม่ตรวจ อยากให้ขั้นตอนยากๆผ่าน คณะก็ตรวจผ่านเฉยเลย สิ่งที่พวกเรากังวล พวกเขากลับไม่ตรวจ สรุปวันนั้นการตรวจสอบผ่านไปอย่างง่ายดาย ซึ่งข้าพเจ้าและทีมงานเหนื่อยกันมา1สัปดาห์เต็ม สุดท้ายบริษัทข้าพเจ้าได้รับการเซ็นต์สัญญาในที่สุด (ดีใจกันทั้งบริษัท) เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ปรากฏการณ์ที่4

สดๆร้อนๆ ในทุก6เดือนจะมีการนำเสนอผลงานของตัวเองต่อหน้าคณะCEOบริษัท เพื่อรับเงินโบนัส ข้าพเจ้าอารธนา..พระแหวกม่านลงกรุ...เหมือนเดิมบอกกล่าวเหมือนกับพระเป็นสิ่งมีชีวิตว่า...ขอให้ถามน้อยๆ ให้ผ่านง่ายๆ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ถ้าCEOถามแล้วตอบไม่ได้ ตอบไม่ดีจะถูกหักคะแนน คนก่อนหน้าข้าพเจ้าประมาณ8คนถูกตั้งคำถามจากคณะCEOเยอะมาก ครั้นเมื่อถึงคิวของข้าพเจ้านำเสนอ........ไม่อยากเชื่อว่าCEOได้แต่ยิ้มและพยักหน้าและแสดงอาการชื่นชมตลอด ซึ่งข้าพเจ้าจะบอกก่อนเลยว่าCEOกับข้าพเจ้าเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เมื่อไหร่เห็นหน้าข้าพเจ้า ยังไม่ทันที่ข้าพเจ้าจะอ้าปาก เขาบอกก่อนเลยว่า...ผมว่าไม่ใช่...ไม่ดี...ไปคิดมาใหม่ เชื่อหรือไม่ข้าพเจ้าใช้เวลาในการนำเสนอไม่ถึง10นาที ซึ่งปกติคนอื่นๆประมาณ30-50นาที เพราะมีคำถามเยอะมาก และที่ข้าพเจ้าเจอมันคืออะไรกัน

ปรากฏการณ์อื่นๆที่ประสบพบเจอ ข้าพเจ้าเคยลองอธิฐาน เช่นวันนี้ข้าพเจ้าไม่อยากให้เจอใคร ท่านทั้งหลายเชื่อมั้ย มันไม่เจอจริงๆ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ผมทดลองมาหลายครั้งแล้ว หลังๆไม่ขอพร่ำเพรือ จะขอเอาเท่าทีจำเป็นเท่านั้น

กับความเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปกติข้าพเจ้าจะเป็นคนอารมณ์ร้อน ประเภทเสียงดังฟังชัด มึงมาพาโวย หลังจาก คล้องพระแหวกม่านชุดลงกรุแล้ว ข้าพเจ้ากลายเป็นคนยิ้ม อารมณ์ดี ลูกน้องบอกว่า...เฮียแกเปลี่ยนไป หรือจะว่าไปผมมีความสุขที่ได้พระแหวกม่านหรือเปล่า5555

ข้าพเจ้าจะบอกว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ข้าพเจ้าเกิดความลังเลสงสัยในพระแหวกม่านชุดลงกรุองค์นี้ คือรูปแบบไม่เหมือนใครไม่เป็นสากล ทำให้ข้าพเจ้าลังเลอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายของความลังเลสงสัยก็หายไป เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา มันสามารถการันตีได้เลยว่า พุทธคุณของพระแหวกม่านชุดลงกรุนั้นเหลือคณานับ เหมือนดังแก้วสารพัดนึก(ต้องไม่เกินกรรมเรา) ท่านช่วยได้หมด ข้าพเจ้ารักองค์นี้มาก

ปล. จากประสบการณ์จริงล้วนๆจากตัวข้าพเจ้าเอง ไม่มีเสริมเติมแต่งแต่อย่างใด ขอเทิดทูลไว้เหนือหัว ขอสักการะบูชา และจะขอเป็นศิษย์ที่ดีของพระเดชพระคุณเจ้า ท่านพ่อกวย ชุตินฺธโรตลอดไป

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

"พระเนื้อดิน หลวงพ่อท่านบอกจะสร้างให้ดีเหมือนของเก่า ท่านได้สร้างขึ้นมาหลายพิมพ์ ก่อนปี พ.ศ. 2500 แต่ เนื้อดินที่สร้างใหม่นี้จะแตกต่างกับพระกรุสรรบุรี หรือพระปลอมกรุสรรบุรี ที่ทำเนื้อแบบเนื้อดินกรุเก่า และคราบราปลอม ซึ่งพระของท่านจะมีลักษณะเป็นเนื้อสีดินเผาแบบสีหม้อใหม่ หม้อดินหุงข้าว สีจะต่างกับพระกรุเมืองสรรค์ และบางพิมพ์ก็ทำเป็นเนื้อดินผสมว่านและผงพุทธคุณ จึงทำให้สีองค์พระต่างออกไปแต่ก็ดูออกว่าสร้างใหม่ ท่านได้ทำแจก และมีตกค้างมาจนกระทั่งท่านมรณะภาพ และ บางส่วนท่านได้ฝังไว้บริเวณรอบๆสระน้ำของวัด และบริเวณโกดังเก็บศพนายยอด เดชมาพ่อหมอเฉลียว เดชมา ใส่ใหดินไว้ บางส่วนใหแตกพระก็ถูกดินพอกจับที่ผิว เช่นพิมพ์สรรค์ยืน ที่ลงให้ดูขณะมีคราบกรุดินและล้างน้ำอุ่นออกแล้ว แต่เนื้อจากบริเวณดังกล่าวข้างสระน้ำ ทางวัดเลี้ยงจระเข้ไว้ด้วย ทำให้น้ำซึมถึงกรุพระที่ท่านฝังดินไว้ จึงเป็นเหตุให้บางองค์ มีคราบราขึ้นที่ผิวแต่ไม่มาก(ราแท้ๆมิใช่หมึกจีนที่ทำเป็นราปลอม)แต่ก็ดูออกว่าต่างจากพระสรรค์กรุเดิม ที่เนื้อดินและคราบรา จะมีอายุเป็นร้อยๆปี คราบจะแตกต่างกันมาก จึงนำมาลงให้ดูเพื่อศึกษากันครับ เพราะบางท่านเล่นหากันโดยเอาพระสรรค์ปลอม ที่มีคราบราปลอม มาเช่าหากันว่าเป็นพระของหลวงพ่อมากมายหลายพิมพ์ครับ"......จากเฟสบุ๊คคู่มือสะสมวัตถุมงคลพระหลวงพ่อกวย

พระกรุหลวงพ่อกวยมีมานานเป็นที่นับถือของลูกศิษย์แต่ก่อนมา ท่านจะใส่พระไว้ในไห บาตรหรืออะไรก็แล้วแต่ และฝากแม่ธรณีไว้ ไม่ได้อยู่ในที่โคจรของคนอย่างแน่นอน... ถึงได้มีกรุต้นพิกุล...ใต้ต้นไม้ต่างๆ บริเวณวัด คนดูเป็นก็ดูคราบกรุเก่าจริงหรือไม่และเนื้อเป็นอย่างไร ...คนดูไม่เป็นก็จะไม่เสี่ยง...แต่ว่าของแท้มี แต่ต้องระวังเท่านั้น ....ลงไว้ให้ทราบว่าศิษย์ที่ดีต้องไม่ประมาทครู....เพราะครูท่านเป็นอัจฉริยะ...ท่านไม่ดูถูกดูหมิ่นพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน...
ท่านถึงได้เสกพระลอยน้ำได้...ส่งพระให้ลูกศิษย์ทางไปรษณีย์ทางอากาศถึงบ้านลูกศิษย์ได้...เรียกพระออกจากหลังคาปิดเอาเก็บออกมาได้ ....ฝากพระไว้กับต้นไม้หาไม่เจอได้...เรียกแม่พระธรณีให้ช่วยมาเปิดตาน้ำให้วัดได้ใช้ทำบ่อน้ำได้แต่จะทำเมื่อลูกศิษย์มาร้องขอ...เหมือนลูกศิษย์มาจุดธูปอาราธนาให้ท่านอยู่ในรูปหล่อที่หล่อใหม่ท่านก็ต้องไปตัวท่านถึงร้อนมากในขณะนั้น...
ที่เขียนมานี้ไม่ใช่อะไร ต้องการเชิดชูครูบาอาจารย์...ตามที่ท่านว่าไว้ศิษย์ที่ดีต้ององอาจไม่ประมาทครูบาอาจารย์เท่านั้น ...เพราะท่านที่รู้แบบผิวเผินก็อย่าไปประมาทครูบาอาจารย์ท่านเลย

 

มองต่างมุม

รองเท้าของเด็กน้อย ถูกคลื่นทะเลซัดหายไป
เด็กน้อยเขียนที่ริมชายหาดว่า " ทะเลคือขโมย "
อีกชายฝั่งของทะเล ชาวประมงหาปลาได้เป็นจำนวนมาก
ชาวประมง เขียนลงที่หาดทรายว่า " ทะเลคือผู้ให้ "

ชายหนุ่มคนหนึ่ง จมน้ำทะเลและเสียชีวิต
แม่ของเขาเขียนที่ชายหาดว่า " ทะเลคือฆาตกร "
ชายชราหลังค่อม ก้มหน้าเดินถือไม้เท้าไปตามชายหาด
พบเจอไข่มุกอันล้ำค่า จึงเขียนว่า " ทะเลคือผู้เมตตา "

ทันใดนั้น " คลื่น " ได้ซัดสาดมายังชายฝั่งและลบการเขียนทั้งหมดลง พร้อมกล่าวขึ้นเบาๆว่า "อย่าไปสนใจคำตัดสินของผู้อื่น หากเจ้าคิดจะเป็นทะเล "

ดังนั้น..อย่าไปวิตกกับสิ่งที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้ หรือความผิดหวัง ความสุขหรือความทุกข์ เพราะหากชีวิตมนุษย์จะเรียบง่าย คงไม่เริ่มต้นด้วยการร้องไห้เมื่อแรกเกิด

คนเรา " เกิดมา " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของตัวเอง
แต่ " ตายไป " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของผู้อื่น
ช่วงเวลาระหว่างนั้น เรียกว่า " ชีวิตคน "

แมวชอบกินปลา แต่แมวก็ลงน้ำไม่ได้
ปลาชอบกินไส้เดือน แต่ขึ้นฝั่งมากินไส้เดือนไม่ได้
ชีวิตคนเรา " มีได้ - มีเสีย " มีทั้ง "เลือกได้" และต้อง "ล้มเลิก"

ในชีวิตคนเรา ไม่มีทางที่ทุกอย่าง จะเป็นไปดั่งใจนึกได้ทั้งหมด
จงอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับใคร เพราะมันไม่คุ้ม และมันไม่ควร
จงอย่าจริงจังกับตัวเองจนมากเกินไป เพราะมันจะทำร้ายตัวเอง
จงอย่ามัวไปจมปลักอยู่กับอดีต เพราะมันจะไม่ได้อะไรขึ้นมาอีก
จงอย่าจริงจังกับปัจจุบันมากไป เพราะชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของๆเราอย่างแท้จริง นอกจากสุขภาพกายที่แข็งแรง (อันมาจากสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เปี่ยมด้วยกำลังใจ) อย่าได้อวดเรื่องเงินเรื่องทอง เพราะตายไปก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ อย่าได้อวดเรื่องหน้าที่การงาน เพราะเมื่อลาออกไปแล้ว ก็จะมีคนมาแทนที่คุณและอาจทำได้ดีกว่าคุณ อย่าอวดเรื่องบ้าน เรื่องรถ เพราะเมื่อตายไปแล้วก็เป็นของทายาท..คุณก็หมดเวลาใช้

ควรอวดเรื่อง "สุขภาพแข็งแรง" จะดีที่สุด เพราะเมื่อคนอื่นตายไปแล้ว คุณยังคงนอนเล่นริมทะเล ยังได้มองคนรอบข้าง หรือนั่งจิบชามองดูลูกหลานอย่างมีความสุขและเข้าใจในชีวิตที่เหลืออยู่

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

15.ผมหายตัวได้ครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนไปเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมอายุประมาณ 20 กว่าๆครับ ผมเป็นคนที่สนใจในเรื่องพระเครื่องเพราะที่บ้านพระพ่อเยอะครับ ผมก็ได้สนใจซื้อหนังสือพระเครื่องมาอ่านในตอนนั้นก็มีหนังสือนะโมร่วมอยู่ด้วยครับ เมื่อผมอ่านนะโมผมไปสดุดคอลัมนึง คือคอลัม ปฎิปทา หลวงพ่อกวย ผมจึงเริ่มสนใจอ่านเมื่ออ่านไปนานเกิดความศรัทธาหลวงพ่อเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งธนาณัติไปบูชา รูปปี 21 ราคา 100 บาทกับ เหรียญหลังยันต์ ราคา 200 บาท มาจาก อ.เฒ่า สุพรรณ

เมื่อได้มาผมก็นำรูปไปเลี่ยมทองแขวนเดี่ยว ที่วันเกิดปฎิหารณ์คือ มีวันหนึ่งผมต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ โดยรถเมล์ประจำทาง กรุงเทพ-ชลบุรี เมื่อผมทำธุระที่กรุงเทพเสร็จ ผมก็นั้งรถมาลงบางนา เพื่อต่อรถโดยสารกลับชลบุรี ในขณะผมขึ้นรถเมล์เป็นเสร็จสรรพ ซึ่งตอนขึ้นนั้นมีผู้โดยสารอื่นขึ้นมาอีก 2 คน รวมทั้งผมเป็น 3 คน โดยมีกระเป๋ารถเดินตามขึ้นมาด้วย เมื่อนั้ง 2 คนแรกนั้งเบาะข้างผม โดยเบาะที่ผมนั้งมีคนนั้งอยู่หนึ่งคนแล้ว ผมนั้งเป็นคนริมนอก ผมนั้งไปเกิดคิดอะไรขึ้นมาไม่ทราบเพราะผมแขวนรูปหลวงพ่อมาองค์ ผมจึงได้ขอเห็นปาฎิหารย์หลวงพ่อดู โดยอธิษฐานในใจว่า ถ้าหลวงพ่อรับผมเป็นศิษย์ ขอให้กระเป๋ารถอย่ามองเห็นผมเลย ทันใดนั้นเองเมื่อกระเป๋าเดินมาเก็บค่าโดยสารโดยเก็บคนที่ขึ้นมากับผม 2 คน แล้วก็เก็บกับคนที่นั้งข้างผม โดยผ่านหน้าผมไปมา กระเป๋ารถไม่ได้กวาดสายตามาที่ผมเลย แล้วก็ไม่เรียกเก็บเงินค่าโดยสารกับผมด้วย แล้วเขาก็ยืนตรงผมสักพักเหมือนกับเขากำลังมองหาผมอยู่ เพราะเขาก็เห็นว่าตอนที่ขึ้นมีคนขึ้นมา 3 คน แต่ทำไมหายไปไหนคนนึงได้ เรื่องนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร นะโม เพราะผมเขียน ไปให้ อ.เฒ่า ได้นำลงในหนังสือครับ

ปล.รูปถ่ายปี 21 ที่ผมแขวนนี้ ผมเคยนำฟาดไปที่รุ้งกินน้ำ รุ้งแยกเป็น 2 ท่อนเลยครับ ขณะนั้นไม่มีมือถือ ถ้ามีทุกท่านคงได้เห็นกันแน่ๆ ครับ ผมขอยืนยันเรื่องที่ผมเล่านี้เกิดขึ้นจริง คนที่อายุเท่าหรือมากกว่าผมคงอาจจะจำได้ว่า บทความนี้ได้เคยอ่านในนะโมครับ

 

16. บารมีหลวงพ่อกวยช่วยพลิกชีวิต

เรื่องราวที่ผมจะเล่า ถึงบารมีหลวงพ่อกวยช่วยพลิกชีวิต ผู้ชายธรรมดา ที่ไม่เคยศรัทธาในหลวงพ่อมาตั้งแต่ต้นครับ ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปี ผมเข้ามาสู่วงการพระเครื่อง โดยสนใจศึกษาแต่พระเกจิที่มีชื่อเสียงซึ่งในขณะนั้น หลวงพ่อกวยยังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแบบปัจจุบัน มีอยู่วันนึง มีคนรู้จักแถวชัยนาท เอาพระหลวงพ่อกวยมาให้ผมดู ผมบอกเขาว่าผมไม่รู้จัก ไม่ดัง ผมไม่สนใจหรอก จำได้ว่าเป็นเหรียญรุ่น3 ซึ่งราคาตอนนั้นยังไม่แพงครับ

เวลาผ่านไป พระหลวงพ่อดังและแพงขึ้น ผมเองก็ยังไม่ได้สนใจ แถมยังพูดอยู่ว่า พระหลวงพ่อกวยผมไม่เล่นหรอก เก๊เยอะ ใครเล่นก็มีแต่จนกับจน แต่มาวันนึง ผมได้มีโอกาสไปที่วัดหลวงพ่อ ได้ไปกราบสรีระของหลวงพ่อ แต่ในขณะนั้น ผมเองได้คิดในใจว่า พระองค์นี้จะเก่งจริงหรอ? ทันทีทันใดเลยครับ ทั้งตัวผมมีอาการเสียวแปร๊บไปทั้งตัว เหมือนกับถูกไฟแรงสูงช็อต ผมถึงกับขนลุกใจสั่นไปทั้งตัวเลย มานอนคิดดูว่า อยู่ดีๆ ร่างกายผมมันเป็นอะไร หรือว่าหลวงพ่อจะรู้กันนะ ว่าผมไม่นับถือท่าน ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆครับ ผมฝันเห็นพระรูปร่างผอม มายืน แล้วทำหน้าดุตวาดเสียงดัง ทำให้ผมสะดุ้งตื่น

ผมเลยมานั่งคิดดูว่าพระในฝันต้องเป็นหลวงพ่อกวยแน่ เพราะผมจำได้จากรูปท่านที่ตั้งอยู่ที่วัด ไม่กี่วัน ผมไปกราบหลวงพ่อเพื่อขอขมา พอก้าวขาไปในศาลาเก็บสรีระหลวงพ่อเท่านั้นแหละ อาการไฟช็อตเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมจึงรีบไปกราบขอขมาท่าน ตั้งแต่วันนั้นทำให้ผมศรัทธาพระองค์นี้อย่างมาก ไปหาพระหลวงพ่อจากหนังสือ มาบูชา ผ่านไปไม่เท่าไร ผมก็ได้ฝันเห็นหลวงพ่ออีก ครั้งนี้ท่านมาพูดกับผมว่า อดทน ไม่นานหลังจากนั้น พระหลวงพ่อ ที่ผมบูชามา หายไป แล้วรู้สึกได้เลยว่าชีวิตผม แย่ลง เป็นอย่างมาก ครอบครัวที่เคยมีฐานะดี เริ่มย่ำแย่ เป็นหนี้สินมากมาย ลำบากมาก ไม่นาน แม่ผมก็มาป่วยหนัก ทำให้ผมต้องเป็นคนดูแล ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ผมอยากจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง ไม่รู้จะหาทางออกยังไง

แต่วันหนึ่ง ผมไปเห็นรูปหลวงพ่อก็เลยนึกถึงหลวงพ่อขึ้นมา จึงไปกราบหลวงพ่อ แล้วนั่งร้องไห้ต่อหน้ารูปเหมือน พูดให้ท่านฟังเลยครับ ไม่อายใคร เล่าปัญหาให้ท่านฟัง กลับก็เช่ารูปถ่ายปี58ที่วัดมาแขวนไว้หน้ารถ ไม่กี่วันครับ ผมฝันถึงหลวงพ่อท่านมาบอกว่า ระวัง เพียงแค่นี้เลย ผมขับรถจากสิงห์บุรีไปเชียงใหม่ เพื่อไปดูแม่ยายที่ป่วย ขับไป 160 แต่ทันทีทันใดครับ ยางหน้าข้างขวาของรถระเบิด ผมเป็นคนขับไม่รู้เลย ว่ายางระเบิด รถลอยตัวขับได้ปกติเหมือนไม่เกิดเหตุการอะไร แต่มาทราบจากรถที่มาติดไฟแดงด้วยกันตะโกนบอกว่า น้องๆ ยางระเบิด ขับมาได้ยังไง .. มีพระอะไรดีวะ...!! ผมรีบมองรูปปี58 หน้ารถเลย ใจสั่นๆ พูดอะไรไม่ออก

ตั้งแต่วันนั้นผมก้อเอารูปใบนี้มาคล้องคอบูชาจริงจัง ชีวิตผม เริ่มมีอะไรดีๆเข้ามาตลอด โดยไม่คาดคิด หลวงพ่อมาเข้าฝันผม แล้วบอกดีแล้ว ผมนี่รู้สึกปิติอย่างมากจริงๆครับ ตั้งแต่วันนั้นผมมีโอกาสเมื่อไร ก็จะไปกราบหลวงพ่อที่วัดตลอด ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆ ศรัทธาหลวงพ่อกวย ด้วยในจริง แล้วคุณจะไม่ผิดหวังครับ โดยที่ผมไม่สงสัยในศรัทธาอีกแล้วครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

17. ช่วยหางาน

สวัสดีครับอาจารย์ทุกท่านพี่ทุกท่าน ผมมีประสบการณ์ เกี่ยวกับวัตถุหลวงปู่กวยจะมาเล่าให้ฟัง เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริงจากของผมเอง ซึ่งได้เกิดขึ้นว่าปีที่แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเด่นที่สุดในชีวิตของผม แต่ประสบการณ์ของหลวงปู่กวยผมมีเยอะมากมาย แต่ผมจะคัดเอามาเรื่องเดียวที่ทำให้ผมศรัทธาหลวงปู่เป็นอย่างยิ่งและเป็นที่สุดในชีวิตของผม

ผมมีอาชีพเลี่ยมพระอยู่ที่บางปะอิน ช่วง ปี 60 ถึง 61 ชีวิตกระท่อนกระแท่น งานเลี่ยมพระไม่ค่อยเยอะ และผมมีเพื่อนคนนึง ที่นับถือหลวงปู่กวยอยู่มาหลายปี เขาก็บอกผมว่าให้หาหลวงปู่กวยมาคล้องคอ แล้วชีวิตจะดีขึ้น แล้วเขาก็ให้เหรียญผม 1 เหรียญ กลับรูปถ่าย โปสเตอร์ มาไว้บูชา 1 ใบ และก็ได้บอกกล่าวหลวงปู่ งานก็เริ่มเยอะขึ้นเยอะขึ้น งานเริ่มทำไม่ทัน และผมมีโครงการอยากได้เครื่องเลเซอร์ แต่ผมไม่มีเงินก้อน เครื่องเลเซอร์ราคา 50,000 กว่าบาท ผมเดินเรื่องกู้ธนาคารก็ไม่ผ่าน ผมก็เลยปรึกษากับเพื่อนคนที่ให้พระผม เขาก็บอกว่าลองบนหลวงปู่กวยดูซิ เผื่อจะได้ ผมก็ค้านว่า เราไม่ได้ยื่นเรื่องกู้ธนาคาร แล้วเราจะเอาเงินมาจากไหนหลวงปู่จะช่วยอย่างไร เพื่อนก็บอกว่าลองบนดูเผื่อจะได้

ผมก็เลยไปวัดบ้านแคไปกราบหลวงปู่ และบอกกล่าวหลวงปู่ว่า ถ้าได้เครื่องเลเซอร์มาช่วยงานเลี่ยมพระ ภายใน ปี 61 นี้ ผมจะถวายขนมจีน 20 โล เงินซื้อที่ดิน 1,000 บาท ธูป 1 ถังลิโพ 1 แพ็ค พวงมาลัย 9 พวง แต่ในใจผมคิดว่า คงไม่มีทางเป็นไปได้ นอกจากจะถูกหวยเท่านั้น และผมก็เล่นหวยไม่ค่อยเยอะ ถึงจะถูกก็ได้เงินมาไม่พอแน่นอน พอบนหลวงปู่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เจ้าของหอ ที่ผมเช่าเปิดร้านอยู่ เขาเรียกผมไปพบ แล้วเขาถามผมว่า ปรีชาอยากได้เครื่องเลเซอร์มาช่วยงานเลี่ยมพระเหรอ ผมก็เลยตอบไปว่า ครับ เขาก็บอกว่าถ้าผมจะให้ยืม 100,000 บาท เอาไหม

ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับเอาครับ แล้วประมาณ 2 อาทิตย์ เขาก็เอาเงิน 100 000บาทมาให้ผม ผมดีใจมากเลยครับ ทั้งๆที่เจ้าของหอที่ผมเช่าอยู่ ไม่ได้เป็นคนปล่อยเงินกู้ แต่เขาให้ยืมโดยที่คิดดอกเบี้ยเท่ากับธนาคาร ใบสัญญาก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เป็นสัญญาใจซะมากกว่า ผมได้เงินแสนมาผมนึกถึงหลวงปู่กวยเลยครับ ด้วยบารมีหลวงปู่แท้ๆ ที่ผมได้เงินมา ผมก็เลยไปซื้อเครื่องเลเซอร์มา 50000 กว่าบาท และผมก็ได้ไปแก้บนกับหลวงปู่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้งานเลี่ยมพระเยอะมาก ด้วยบารมีของหลวงปู่กวย และประสบการณ์อื่นๆอีกมากมาย

ทุกวันนี้ผมบูชาหลวงปู่กวย ถวายลิโพเป็นประจำ ผมลืมตาอ้าปากได้ทุกวันนี้ ก็เพราะบารมีของหลวงปู่กวย แล้วผมมีประสบการณ์อีกมากมายเลยตั้งแต่บูชาหลวงปู่กวยมาตั้งแต่ปี 2560 ชีวิตดีขึ้นกว่าเก่าค่อนข้างเยอะ พระที่ใฝ่ฝันของผมคืออยากได้สมเด็จแหวกม่านคงหลวงปู่สักองค์มาบูชา เรื่องของผมก็มีเท่านี้ครับ เครื่องของผมเป็นเรื่องจริงทุกประการครับ และขอบารมีของหลวงปู่กวย คุ้มครองอาจารย์ทุกท่านพี่ๆทุกท่าน ให้มีแต่ความสุขแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงนะครับ

 

18. หมากัด

ผมขอเล่าประสบการณ์ครั้งแรกที่ผมเริ่มใช้วัตถุมงคลของหลวงพ่อครับ..เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาน30ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมอายุ19ปีครับ..เรื่องมีอยู่ว่าผมไปชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ผมจะไปเที่ยวบ้านเขาทุกวัน..ที่บ้านเขามีหมาอยู่สามตัว ซึ่งผมไปที่รัย มันก้อไม่เคยแม้แต่จะเห่าเพราะผมเอาของกินให้มันกินจนเชื่อง มีอยู่ตัวหนึ่งมันเคยกัดคนขนาดต้องอุ้มขี้อุ้มเยี่ยวกันเลย แต่มันก้อไม่เคยแม้แต่จะเห่าผม..

จนมีอยู่วันหนึ่งผมไปค้นในห้องพระเจอปลัดขิกปี21เป็นตะกั่ว มีเชือกคาดเอวสีขาว ซึ่งพ่อผมไปเช่าตอนงานฝังลูกนิตร..พ่อผมเห็นว่าผมเอามาคาดเอว พ่อผมเตือนผมว่าระวังหมากัดนะ..แต่ไม่เข้าหรอก มันจะปวด ผมไม่เชื่อพ่อ เลยไปบ้านสาวตามปกติ วันนั้นใส่กางเกงขาสั้นไปด้วย ไปนั่งที่ร้านใต้ถุนบ้านแปปเดียวจิงๆ หมาตัวที่เคยกัดคน มันกัดเข้าน่องเนื้อด้านหลังเต็มๆ ทั้งปวดทั้งขัดแต่ไม่เคยเข้าเลย มีแต่รอยเขี้ยวเเดงๆ..ปลัดตัวนี้ยังอยู่กับผมเลย แต่เชือกคาดเอวขาดแล้ว

 

19. แมวข่วน

ผมมีประสบการณ์ที่รู้สึกได้ว่าแปลกทั้งตัวเองและคนรอบข้างครับ มีเจ้าแมวน้อยน่าจะติดสัด แล้วไล่กัดกันจนตกไปที่กำแพงหมู่บ้านผมกับตึกแถวครับ ซึ่งสูงมากประมาณ 5 เมตรได้ เพราะเป็นกำแพงหมู่บ้านที่อีกฝั่งเป็นตึกแถว 4 ชั้น ซอกกำแพงระหว่างตึกแคบมากประมาณ 1 ฟุตเท่านั้น เค้าร้องอยู่น่าจะเกือบ 1 อาทิตย์ ซึ่งตอนแรกหาที่มาของเสียงไม่เจอเลยคิดว่าน่าจะติดสัดกันตามปกติ จนเอาหูฟังที่กำแพง เลยแน่ใจจึงเอาบันไดปีนดู หลังจากนั้นก็หาทางช่วยเจ้าแมวตัวนี้

แต่ซอกกำแพงทั้งสูงและแคบ อีกทั้งฝั่งตึกไม่มีคนอยู่เพราะเค้าปรับปรุงไว้รอขาย ผมจึงได้แต่รอให้มีผู้ดูและมาจึงขอเข้าไปช่วยแมว ระหว่างนั้นก็หย่อนอาหารและน้ำไปให้เค้า จนวันที่คนดูและตึกแถวมา ผมจึงลางานไปช่วยเค้า ก่อนไปได้ไหว้และบอกกับหลวงพ่อให้มีทางนำเจ้าแมวออกมาด้วยเถอะ เพราะซอกกำแพงแคบมาก คนยืนได้แค่หันข้างเท่านั้น ประกอบกับแมวนั้นตื่นกลัวมากไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย สุดท้ายต้องใช้เชือกทำบ่วงแล้วคล้องคอเค้าขึ้นมา แล้วต้องรีบปลด เพราะอันตรายเค้าจะหายใจไม่ออก ปรากฎว่าขึ้นมาได้เจ้าแมวข่วนไปทั่วอย่างกับว่ายน้ำเพราะตื่นตกใจ

คนอื่นหนีวงแตก ผมไม่ทันระวัง เค้าวิ่งมาเกาะและข่วนตัวผมขึ้นมาถึงคอและเกี่ยวจนสร้อยคอที่มีพระหลวงพ่ออยู่นั้นขาด แต่ผมกลับไม่มีรอยเล็บเลย สุดท้ายก็หาทางเอาเจ้าแมวใส่ตะกร้าไปหาหมอ ให้เค้าเอาเชือกที่คอออก จนถึงตอนนี้เค้าก็มีความสุขอยู่ในบ้านผมแล้วครับ