กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 154 ลำดับที่ #3070

    เรื่องยังงงๆ และข้อข้องใจจากผมเอง(9)
    ....เรื่องการแท้งลูกในสตรีเพศ
    ด้วยการแก้กรรมด้วยพิธีกรรมต่างๆ
    จากบางสำนัก หรือบางวัด


    [QUOTE="nopphakan, post:

    เรื่องแก้กรรม ยังไม่ได้เล่าครับ
    ควรจะงง เป็นเรื่องธรรมดา ๕๕๕
    คุณ ๙ ถามประมาณว่า ลบล้างเจ้ากรรมนายเวรด้วยพิธีกรรม
    ต่างๆ มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน? ตอบว่า ด้วยพิธีกรรม
    มีโอกาสครับ แต่มากน้อยแค่ไหนตอบไม่ได้......
    แม้ว่าจะเคยมีส่วนร่วมในพิธีกรรมนั้นๆมาก่อน

    ถ้าสมมุติว่า อ่านเหตุในการเกิดที่โม้ไปแล้วก่อนหน้า
    ข้างตนพอเข้าใจ ว่าทำไม ทารกน้อย ถึงได้กลาย
    มาเป็นเจ้ากรรมนายเวรได้ ตลอดจนบุคคล
    ที่มีเหตุสุดวิสัยนั้นได้บ้างแล้ว....

    ให้ลองถามมาว่า มีวิธีการใดบ้าง ที่จะพอแก้ได้
    วิธีการแก้นะครับ ไม่ใช่พิธีกรรมในการแก้
    เพราะส่วนตัวไม่มีความรู้ในเรื่อง พิธีกรรม
    จะพอเล่าให้ฟังได้ครับ.......

    ปล.บอกไว้ก่อน กรณีถ้าป่วย ร่างกาย ๑๐ / กรรม ๙๐ (ไม่หายหรือมีโอกาสน้อย ทำได้คือทุเราที่สุด). ร่างกาย ๕๐ / กรรม ๕๐ (มีโอกาสหายแต่ช้าหน่อย) และ ร่างกาย ๙๐ / กรรม ๑๐ (หายภายในไม่กี่นาที)

    บุคคลที่ มีวิบากหรือกระแส ไม่ว่า ชาย หรือ หญิง
    ในเรื่อง เกี่ยวกับการทำแท้งนี้ ทางด้านพลังงาน
    จะมีวิธีการดูเหมือน บุคคลที่เคย ฆ่าคนตายมาแล้ว
    คล้ายๆกัน....ส่วนนี้ เป็นทริค โม้ให้ฟังเล่นๆก่อน
    คุณ ๙ ถามต่อไป
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    "เห็นว่าน่าสนใจจึงดึงลงมาให้อ่าน"


    (ต่อ)
    ยกลงมาให้อ่าน...แบบเต็มๆ


    ผมขอพูดเรื่องการแท้งลูกเล็กน้อย
    หญิงที่เป็นมารดาน่าจะมีร้อยละ 30 ที่ผ่านการแท้งลูก
    ทั้งตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ
    หลายๆประเทศมีกฏหมายเสรีในการทำแท้งได้
    แต่ส่วนใหญ่จะแนบท้ายด้วยข้อจำกัดบางอย่าง
    เช่นเด็กในครรภ์พิการ, มารดาป่วยเป็นโรคร้ายแรง และอื่นๆ

    แต่ข้อจำกัดด้วยเหตุผลจำเป็นทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าว
    ไม่ทราบว่า...
    จะหนีพ้นกฏแห่งกรรมและแรงอาฆาตได้หรือไม่

    โอเคครับ...เดินหน้าเรื่องที่น่าสนใจ(ต่อ)
    "วิธีการ" กับ "พิธีกรรม"
    ท่านอจ.นพแยกแยะ 2 คำนี้ได้น่าทึ่งมาก

    ผมคงถามได้แค่วิธีการว่ามีอะไรบ้างครับ
    ส่วนพิธีกรรม คงต้องไปเสาะหาที่บางสำนักหรือบางวัด
    หรือท่านใดเคยมีประสบการณ์ก็แชร์ได้นะคับ

    ส่วนตัวผม...ภรรยาเคยแท้งลูกด้วยความไม่ตั้งใจ
    ...พอตั้งครรภ์ได้ 1-2 เดือน(ไม่แน่ใจ)
    จู่ๆเลือดเป็นก้อนเล็กๆไหลออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
    แม้จะเป็นเหตุสุดวิสัย..ไม่ได้ตั้งใจ
    ก็มีกังวลเรื่องกฏแห่งกรรมในเรื่องนี้เหมือนกัน
    ยิ่งระยะหลังๆบางครั้งเรื่องการแท้งลูก
    ถูกกระแสสังคมพูดถึงกันมาก

    *แต่ก็ไม่เคยไปเสาะหาพิธีกรรมในการแก้ไข*
    เพราะคิดและมั่นใจว่า"ไม่ได้ตั้งใจ"
    (แต่ก็ยอมรับว่ามีกังวลเล็กน้อยเหมือนกัน)

    (ต่อ)
    ส่วนปล.ที่อาจารย์นพบอกว่า...
    ".....กรณีถ้าป่วย ร่างกาย ๑๐ / กรรม ๙๐ (ไม่หายหรือมีโอกาสน้อย ทำได้คือทุเราที่สุด). ร่างกาย ๕๐ / กรรม ๕๐ (มีโอกาสหายแต่ช้าหน่อย) และ ร่างกาย ๙๐ / กรรม ๑๐ (หายภายในไม่กี่นาที)....."
    อ่านแล้วเข้าใจได้ว่าหมายถึง
    (10)คือร่างกายเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ
    (90)คือกรรมที่ทำไว้หนักและมาก
    ...น่าจะเข้าใจถูกต้องนะครับ

    9@Phonlee, 13 มกราคม 2019
     
  3. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    ญาติผมคนนึง เขาเคยเป็นแบบนี้ครับ เขาท้องลูกแฝดแล้วแท้ง ไปคคนนึง เขามักจะฝันถึงเด็กคนนึง มาเกาะรั้วหน้าบ้านตะโกนเรียก แล้วเขาก็ไป ก็ไปปรึกษาหลวงพ่อที่วัดใกล้บ้าน หลวงพ่อท่านก็แนะนำให้ถวายสังฆทานในโบสถ์อฐิษทานขอบารมีพระพุทธรูปประจำโบสถ์ให้ท่านช่วยสงเคราห์ หลังจากถวายสังฆทานเสร็จแล้ว เขาก็ฝันว่า เด็กคนนั้นมาลาไปเกิดกับครอบครัวใหม่
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    อ่านไป...ขนลุกไป

    แต่เท่าที่ผ่านมาเจ๊ก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง
    การฝันถึงเด็กคงมีบ้าง
    แต่ที่ฝันถึงบ่อยๆซ้ำๆตามที่เล่า...ไม่น่าจะมี
    เพราะถ้ามี...เจ๊คงเล่าให้ฟังแล้ว

    ...แต่อย่างไงก็ตาม
    ไว้วันไหนจะชวนเจ๊ไปทำสังฆทานเฉพาะกิจนี้
    เพราะส่วนตัวค่อนข้างเชื่อเรื่องนี้
    ...เรื่องกฏแห่งกรรมการทำแท้งลูก
    ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
    "ถ้าตั้งใจ...คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเหมือนฆ่าคน"

    ...แต่ที่ไม่ตั้งใจ...ไม่ตั้งใจเลยจริงๆ
    ถ้าคิดง่ายๆ...มันจะผิดได้ไง
    ส่วนตัวผม(9)กลับคิดว่า...
    เป็นกรรมที่ผูกพันหรือตามมาจากชาติปางก่อน
    ที่ทำให้ชาตินี้ต้องมาแท้งโดยไม่รู้ตัว

    เหมือนเราขับรถอยู่ดีๆ...ระมัดระวัง
    จู่ๆ...มีคนวิ่งออกจากซอย
    สะดุดสิ่งของหรือหินข้างทาง
    ...หัวพุ่งมาปะทะประตูรถอย่างแรง
    ...แล้วล้มลงเสียชีวิต
    (โดยมีวิดีโอข้างถนนบันทึกไว้)
    ตามกฏหมายก็จะถูกแจ้งข้อหาก่อนว่า...
    "ขับรถโดยประมาท" (555 งงไหม?)
    ...แล้วสุดท้ายจะผิดไหม ?


    ...แล้วกฏแห่งกรรมล่ะ
    ควรจะถูกบันทึกไว้อย่างไง?
    หรือจะปล่อยว่างไว้(ไม่มีบันทึก)
    เพราะกรรมคือเครื่องชี้เจตนา

    สุดท้าย...
    การทำสังฆทานคงเป็นพิธีกรรมที่ดีที่สุด
     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    กรรมของการทำแท้ง ที่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะได้รับ – ธรรมะจากท่านว.วชิรเมธี
    Therranuch
    29 January 2018


    janko-ferlic-152866.jpg

    กรรมของการทำแท้ง ที่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะได้รับ
    สมรู้ร่วมคิด สมรู้ร่วมทำ สมรู้ร่วมกรรม


    กรรมของการทำแท้ง จะเป็นอย่างไร?

    เวลาดูรายการโทรทัศน์แล้วมีผู้หญิงบางคนรับสารภาพว่าเคยทำแท้ง เห็นคนที่เป็นทุกข์มีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้น ทั้งๆ ที่เวลาก่อกรรมก็ทำร่วมกันทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย ในความเป็นจริง เวลากรรมส่งผล ผู้ชายได้รับผลกรรมเหมือนที่ ผู้หญิงได้รับหรือไม่ หรือว่าผู้ชายไม่ต้องรับกรรมอะไรเลย

    การทำแท้งเป็นกระบวนการสุดท้ายของโศกนาฏกรรมแห่งชีวิตคู่ ความจริงก่อนหน้านั้นจะต้องมีกิจกรรมที่นำไปสู่การ “ท้อง” แล้วจึงค่อย “แท้ง” เหตุที่คุณพบว่า เวลามีทุกข์เห็นแต่ภาพผู้หญิงเท่านั้นที่ก้มหน้ารับกรรมอยู่ฝ่ายเดียวก็เพราะการทำแท้งกิจกรรมหลักขึ้นอยู่กับผู้หญิงเป็นสำคัญเนื่องจากเด็กหรือลูกนั้นอยู่ในท้องของเธอ เธอเป็นผู้อุ้มท้องเป็นผู้เอาลูกออกจากท้อง เป็นผู้เจ็บปวดทางกายและทางใจโดยตรงจากกิจกรรมนี้ ส่วนผู้ชายนั้น ถ้ารักกันอย่างดีก็แค่พาไปส่งถึงหน้าคลินิก คอยดูต้นทาง หลังจากนั้นก็อาจกลับมาคบกันต่อหรือต่างคนต่างไป หรือที่ร้ายหน่อยก็คือขู่บังคับให้คนรักหรือบางทีคู่นอนไปทำแท้ง หลังจากนั้นก็สลัดผู้หญิงทิ้ง ไปทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกโดยไม่สนใจว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

    ความทุกข์ที่เกิดกับผู้หญิงนั้นเป็นความทุกข์ที่เข้มข้นเพราะเหตุต้นผลกรรมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับเธอ ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่มีมโนธรรมในใจสูง เธอจะยิ่งทุกข์หนักหนาสาหัสเป็นทวีคูณเพราะการทำแท้ง กล่าวอย่างถึงที่สุดก็คือการฆ่าคนดีๆ นี่เอง

    ความจริงการที่แม่ฆ่าลูกด้วยการทำแท้ง ก็คือการที่แม่กำลังฆ่าตัวเองให้ตายไปจากความดีงามนั่นเอง แล้วรอยบาปนี้จะถูกบันทึกไว้ในกล่องดำแห่งความทรงจำไปตราบจนชีวิตหาไม่นี่แหละจึงทำให้คนเป็นแม่เจ็บปวดหนักหนาสาหัสยิ่งนัก

    พระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งเล่าว่า เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยทำแท้งมาปฏิบัติธรรม ปรากฏว่า ตลอดเวลาหลายวันเธอไม่อาจข่มจิตให้นิ่งได้เลย วันหนึ่งเมื่อถึงเวลารายงานผลการปฏิบัติธรรม เธอจึงเล่าให้พระวิปัสสนาจารย์ฟังว่า จิตของเธอไม่เคยนิ่งเลย เพราะพอหลับตาลงเท่านั้น ลูกของเธอก็จะมาหาเพื่อขอส่วนบุญทันที พระวิปัสสนาจารย์ฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเข้าใจ ท่านจึงปลดปล่อยเธอจากโซ่ตรวนแห่งความทุกข์ด้วยการสอนว่า

    “ความจริงลูกไม่เคยมาหาคุณเลย ลูกนั้นเมื่อคุณทำแท้งเขา เขาก็ได้แตกดับไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนที่เหลืออยู่ก็คือความทรงจำในใจของคุณเท่านั้น ที่คุณบอกว่าลูกมาหานั้น ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณหรอก หากแต่เป็นเพียง

    ‘ความทรงจำ’ อันเจ็บปวดของคุณที่ยังคงมีตัวตนอยู่ในจิตส่วนลึกเท่านั้น ถ้าคุณฝึกปฏิบัติจนสามารถยกจิตให้อยู่กับ‘ปัจจุบันขณะ’ ได้ ลูกของคุณก็จะหายไป…”

    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอจึงตั้งใจฝึกวิปัสสนาอย่างเข้มข้น พอผลแห่งการเจริญสติสุกงอม เธอก็สามารถเห็น“ความคิด” และ “อดีต” ที่คอยผุดพรายมาทำร้ายเธอผ่านเครื่องมือที่ชื่อ “ความทรงจำ” และ “ความรู้สึกผิด” ได้อย่างชัดเจน จนในที่สุดเมื่อเธอสามารถยกจิตให้ลอยพ้นอดีตได้ความทุกข์จากอดีตก็หายไป เธอกลายเป็นคนไม่มีอนาคตไม่มีอดีต หากเหลืออยู่แต่เธอที่เป็น “คนของปัจจุบัน” เท่านั้น

    พลันที่สามารถยกจิตให้อยู่กับปัจจุบันได้ ความทุกข์จากการทำแท้งก็ไม่มีตัวตนอีกต่อไป ลูกที่เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำของเธอก็หายไป เธอจึงคลายจากทุกข์ที่ตามรุมเร้าได้สำเร็จนับแต่นั้นเป็นต้นมา

    ส่วนสามีที่เคยสมรู้ร่วมคิด สมรู้ร่วมทำนั้น คุณไม่ต้องเป็นห่วงดอกว่ากฎแห่งกรรมจะไม่ส่งผล กฎแห่งกรรมจะตามผลิดอกออกผลแน่นอนไม่เร็วก็ช้า หลักการในเรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อสมรู้ร่วมคิด สมรู้ร่วมทำ ก็ต้องเป็นผู้สมรู้ร่วม (รับ) กรรมอย่างไม่มีทางปฏิเสธ จริงอยู่วันที่ผู้หญิงทุกข์ ผู้ชายอาจจะยังไม่ทุกข์ แต่ขอให้รู้ไว้เถิดว่า เขาหนีกรรมไม่พ้นแน่อุปมาดั่งผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย เขาจึงมีชีวิตรื่นเริงอยู่ได้ การที่เขารื่นเริงไม่ได้หมายความว่าโรคมะเร็งทำอะไรเขาไม่ได้ มะเร็งกำลังเล่นงานเขาอยู่ทีเดียว ปัญหามีแต่เพียงว่า เขายังไม่รู้สึกตัวเท่านั้นเอง วันไหนที่เขารู้สึกตัวขึ้นมา วันนั้นเขาจะรู้เองว่า ความทุกข์นั้นหนักหนาสาหัสเพียงไหน การให้ผลของกฎแห่งกรรมก็เป็นเช่นนั้น

    ธรรมะจากท่านว.วชิรเมธี

    หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่

    นิตยสาร Secret คอลัมน์ Dhamma Daily


    ขอบคุณที่มา...
    เวป.goodlifeupdate
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ประโยชน์ของเมตตา โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
    ying
    5 June 2019


    friendship-4068042_1280.jpg

    ประโยชน์ของ เมตตา โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

    ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า สำหรับผู้อยู่ด้วย เมตตา (เมตตาพรหมวิหารี) ต่อสรรพชีพ สรรพสัตว์อย่างสม่ำเสมอ ย่อมจะเห็นถึงอานิสงส์ 11 ประการดังต่อไปนี้ในตัวเองอย่างแน่นอน

    (1) นอนเป็นสุข คือ ไม่กลิ้ง ไม่กรน หลับสนิทเหมือนคนเข้าสมาบัติ มีลักษณะท่าทางเรียบร้อย งดงาม น่าเลื่อมใส

    (2) ตื่นเป็นสุข คือ ตื่นขึ้นแล้วไม่ทอดถอนหายใจ ไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่บิดไปบิดมา มีหน้าตาชื่นบานเหมือนดอกปทุมที่กำลังแย้มบาน

    (3) ไม่ฝันร้าย คือ ไม่ฝันเห็นสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว เช่น พวกโจรรุมล้อม สุนัขไล่กัดหรือตกเหว หากฝันเห็นแต่นิมิตที่ดีงาม เช่น ไหว้พระเจดีย์ ทำการบูชา และฟังธรรมเทศนา

    (4) เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย คือ เป็นที่รักเป็นที่เจริญใจของคนทั้งหลายเหมือนพวงไข่มุกที่ห้อยอยู่ที่หน้าอก หรือดอกไม้ที่ประดับอยู่บนเศียร

    (5) เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย คือ ไม่ได้เป็นที่รักของคนอย่างเดียว ยังเป็นที่รักตลอดไปถึงเหล่าเทวาอารักษ์ทั้งหลายด้วย

    (6) เทวดาทั้งหลายคอยเฝ้ารักษา คือ เทวดาทั้งหลายย่อมคอยตามรักษา เหมือนมารดาบิดาคอยตามรักษาบุตร

    (7) ไฟ ยาพิษ หรือศัสตราไม่กล้ำกราย คือ ไม่ถูกไฟไหม้ ไม่ถูกวางยาพิษ หรือไม่ถูกศัสตราวุธประหาร

    (8) จิตเป็นสมาธิเร็ว คือ เมื่อเจริญกรรมฐาน จิตสำเร็จเป็นอุปจารสมาธิ หรืออัปปนาสมาธิเร็ว

    (9) ผิวหน้าผ่องใส คือ หน้าตามีผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสเหมือนลูกตาลสุกที่หล่นจากขั้วใหม่

    (10) ไม่หลงตาย คือ ตายอย่างสงบ เหมือนคนนอนหลับไปเฉย ๆ

    (11) เมื่อไม่บรรลุถึงคุณธรรมเบื้องสูง อย่างต่ำก็จะไปบังเกิดในพรหมโลก คือ ถ้ายังไม่ได้บรรลุอรหัตผลอันเป็นคุณเบื้องสูงกว่าเมตตาฌาน พอเคลื่อนจากมนุษย์โลก ก็จะเข้าสู่พรหมโลกทันที เหมือนนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมา

    ที่กล่าวมาคือประโยชน์ของเมตตาในเชิงปัจเจกบุคคล แต่เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ของเมตตาในระดับส่วนรวมแล้วก็จะพบว่า เมื่อโลกทั้งผองเป็นพี่น้องกัน เพราะต่างก็มีเมตตาต่อกันและกันแล้ว ก็จะทำให้มนุษยชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ปฏิบัติการเบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกันก็จะลดน้อยถอยลงไป สันติภาพสันติสุขก็จะเกิดขึ้นทั้งในใจ ในชีวิตประจำวัน และในโลกอย่างยั่งยืน ชีวิตคน ชีวิตสัตว์ ชีวิตพืช ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และโลก ก็จะถูกทำลายน้อย ถูกเบียดเบียนเบาบาง ทรัพยากรของโลกก็จะถูกใช้อย่างมีสติ อย่างคำนึงถึงผลกระทบต่อคน สัตว์ สิ่งแวดล้อม โลก จะมีความเสี่ยงต่อการแตกดับช้าลง ภยันตรายที่เกิดจากการเบียดเบียนทำลายซึ่งกันและกันในมิติต่าง ๆ ก็จะถูกบรรเทาเบาบางลงเป็นอันมาก ด้วยอานุภาพแห่งเมตตา จะสามารถทำให้สันติภาพที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ที่ใจของเราทุกคน และแผ่กระจายไปปกป้องคุ้มครองโลกทั้งหมดให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติเหมือนที่พุทธศาสนสุภาษิตกล่าวไว้ว่า “โลโก ปตฺถมภิกา” (เมตตาจุนค้ำโลก)



    ที่มา เมตตาธรรม โดย ท่าน ว.วชิรเมธี สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ

    Image by PaulaPaulsen from Pixabay

    Secret Magazine (Thailand)

    IG @Secretmagazine


    ขอขอบคุณที่มา...
    เวป.goodlifeupdate
     
  7. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    นิทาน

    เมื่อคืนฝันว่าเจองูสีขาว สองตัว ตาสีแดง และตาสีดำ พาลงถ้ำใต้ทะเล หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงนางนึงเอาเสื่อมาปูให้ แล้วบอกว่าพักผ่อนให้สบาย เดี๋ยวจะกลับมา แล้วก็มีผู้นางนึงเดินเข้ามา มองเหล่ผู้หญิงคนนั้นจนลับตา แล้วนางก็รีบจูงมือข้าพเจ้าออกมาจากเมืองที่ในอุโมงค์นั่น
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    ฝันแปลกดี
    ปกติฝันถึงงู...จะมีสตรีหมายปอง
    55 งูขาวสองตัว
    ...แล้วฝันถึงผู้หญิงสองคนเหล่ตาใส่กัน
    จากที่เล่าในฝันเหมือนศึกชิงรักหักสวาท
    ถ้าเป็นแค่บทย่อ(ไฮไลท์)ในหนัง...
    คงน่าติดตามต่อไป...สนุกดี
    ...แล้วชีวิตจริงจะเป็นเช่นในฝันหรือป่าวหนอ???
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ผ้าจำนำพรรษา และ ผ้าอาบน้ำฝน แตกต่างกันอย่างไร ถวายแล้วมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง
    Home ธรรมะ ผ้าจำนำพรรษา และ ผ้าอาบน้ำฝน แตกต่างกันอย่างไร ถวายแล้วมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง
    lotus_hd_wide-wide-150x150.jpg

    nintara1991
    13 July 2019

    theravada-buddhism-1788675_1280-1.jpg


    ผ้าจำนำพรรษา และ ผ้าอาบน้ำฝน แตกต่างกันอย่างไร ถวายแล้วมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง

    ใกล้เข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษาแล้ว ชาวพุทธนิยมถวาย ผ้าจำนำพรรษา และ ผ้าอาบน้ำฝน แด่พระภิกษุสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

    หลายท่านอาจสับสนว่าผ้าจำนำพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะเครื่องไทยทาน(วัตถุที่ถวายพระภิกษุโดยไม่เจาะจง แต่หากเจาะจงหรือพระภิกษุทราบแน่ชัดแล้วว่าถวายสิ่งนี้เฉพาะท่านเท่านั้นจะเรียกว่า “ไทยธรรม“) ทั้งสองนี้ ต่างเป็นที่นิยมถวายในช่วงเข้าพรรษา ซึเคร็ตจึงขอไขข้อสงสัยในเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่าน



    theravada-buddhism-1908610_1280-1.jpg

    ผ้าจำนำพรรษา คือ ผ้าไตรจีวรที่พุทธศาสนิกชนรีบถวายก่อนออกพรรษา อาจเพราะมีเหตุไม่สะดวกที่จะตระเตรียมผ้าไตรจีวรถวายในช่วงออกพรรษา จึงขอถวายไว้ตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษา จึงมีอีกชื่อว่า “อัจเจกจีวร” พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุรับผ้าไตรจีวรนี้ได้ในช่วง 10 วันสุดท้ายของการเข้าพรรษา เหตุที่เรียกว่า ผ้าจำนำพรรษาเพราะเป็นผ้าที่พระภิกษุไม่สามารถใช้ได้ในขณะเข้าพรรษานั่นเอง ต้องรอให้ออกพรรษาเสียก่อนจึงสามารถใช้ได้

    ผ้าอาบน้ำฝน คือ ผ้านุ่งสำหรับพระภิกษุในขณะอาบน้ำฝน สามารถศึกษาเรื่องผ้าอาบน้ำฝนเพิ่มเติมได้ที่ >>> นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ผู้ให้กำเนิดการถวาย ผ้าอาบน้ำฝน

    เมื่อคลายความสงสัยกันความสับสนระหว่างผ้าจำนำพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนแล้ว ลองมาฟังเรื่องอานิสงส์ของเครื่องไทยทานทั้งสองนี้กัน

    ครั้งสมัยพุทธกาลมีอุบาสกชื่อว่า “ติสสะ” ชักชวนภรรยาย้อม ตัด และเย็บผ้าไตรจีวรขึ้นเพื่อถวายเป็นผ้าจำนำพรรษา แล้วนำไปถวายพระพุทธเจ้ายังพระเชตวัน พระมหาโมคคัลลานะกำลังท่องไปในแดนสวรรค์ได้พบวิมานแก้วปรากฏขึ้น ภายในวิมานเต็มไปด้วยเทพธิดามากมาย แต่กลับไร้ซึ่งเทพบุตรผู้เป็นเจ้าของ จึงเหาะกลับไปยังพระเชตวันแล้วทูลถามพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า เจ้าของวิมานตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ และวิมานนั้นเกิดขึ้นจากกุศลที่เขาได้ถวายผ้าจำนำพรรษา เมื่อเขาสิ้นอายุขัยแล้วสถานที่ที่เขาจะไปเกิดคือวิมานแก้วนั้นเอง เมื่อติสสะสิ้นบุญก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรสถิตในวิมานแก้ว รื่นรมย์ด้วยทิพยสมบัติ และเทพธิดาผู้เป็นบริวารนับพันนาง



    image-1755099_640-1.jpg

    อานิสงส์แห่งการถวายผ้าอาบน้ำฝน นอกจากนางวิสาขามหาอุบาสิกาจะเป็นผู้ริเริ่มให้เกิดการถวายผ้าอาบน้ำฝนแล้ว มีสตรีนางหนึ่งที่ได้ผลบุญยิ่งใหญ่จากการถวายผ้าอาบน้ำฝนด้วย นางมีชื่อว่า “อมัยทาสี” หรือ “นางทาสอมัย” นางเกิดศรัทธาอยากถวายผ้าอาบน้ำฝนจึงบอกแม่ไปดังนั้น แม่เตือนนางว่าเราเป็นแค่ทาสจะนำเงินที่ไหนไปซื้อผ้ามาทำผ้าอาบน้ำฝน นางอมัยร้องไห้เสียใจ แม่สงสารจึงแนะนำให้นางไปขอขึ้นค่าแรงจากเศรษฐี แล้วนำเงินนั้นไปซื้อผ้ามาทำผ้าอาบน้ำฝน แต่เศรษฐีกลับไม่ยอมขึ้นค่าแรงให้ สุดท้ายนางจึงสละผ้าห่มของตนซักให้สะอาด แล้วย้อมและตัดเย็บเป็นผ้าอาบน้ำฝน จากนั้นนางนำไปถวายพระภิกษุที่พระเชตวัน หลังจากนั้น 7 วัน นางกำลังตัดฟืนอยู่ในป่า พระเจ้าพันธุราชเสด็จผ่านมา พอได้เห็นนางก็ทรงพึงพอพระทัย และรับนางเป็นพระมเหสี เมื่อนางสิ้นอายุขัยก็ไปเกิดเป็นเทพธิดาสถิตในวิมานทองคำ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


    ที่มา
    www.84000.org/อานิสงส์ถวายผ้าจำนำพรรษา
    www.84000.org/อานิสงส์ถวายผ้าอาบน้ำฝน
    www.museumthailand.com
    https://th.wikipedia.org
    ภาพ
    https://pixabay.com



    ขอบคุณที่มา...
    goodlifeupdate.com

     
  10. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยครับ
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 154 ลำดับที่ #3077

    เป็นคำถามจาก *Maxmi*
    "ไหล่ผมมันไม่เสมอกันอ่ะคับ แต่อาการอย่างอื่นผมว่าไม่มีนะ มีภูมิแพ้จมูก จมูกตันเป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิมากคับ อยากขอคำปรึกษาคุณนพเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน กับโรคผิว(ดีขึ้น)แต่ก็ยังไม่หาย ส่วนแม่เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์แต่รักษาหายนานแล้วคับ แต่กล้ามเนื้อดึงรั้งบริเวณคอต่อกับไหล่ขวา ก็ยังมีอาการปวด เกร็ง ตึงต้องไปนวดออกบ่อยๆ หรือว่าเค้ายังอยู่คับ ทำยังไงดี"

    [QUOTE="nopphakan, post: 10909434]
    เรื่องของอนุภาคที่เป็นสื่อนำแรง...หรือที่เรียกว่าแรงนั้น
    เอกลักษณ์ ที่ควรจำคือ
    ๑.ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ ไม่มีระยะทาง
    เลยไม่มีเรื่องเวลา กลายเป็นเหนือกาลเหนือเวลา
    (มักเรียกว่า อดีต ถ้าผ่านมา ยังไม่มาไม่ถึงเรียกอนาคต ประมาณนี้)

    ๒.เพิ่มแรงได้ ไม่จำกัด เป็นล้านๆแรงมารวมกันก็ได้...
    (รวมธาตุต่างๆ รวมความร้อน ความเย็น ฯลฯ)

    ๓.มีการเปลี่ยนแปลงได้ จากแรงต่างๆที่จะเข้ามา
    เช่น แรงนี้มากขึ้น แรงนี้น้อยลง ถ้าแรงนั้นมาก
    อีกแรงที่เป็นในลักษณะเกี่ยวข้องกันที่น้อยก็ไม่ส่งผล
    (บุญเยอะมากกว่าบาป)
    หรือถ้านี้นี้น้อยแรงที่เกี่ยวข้องกันถ้ามากกว่าก็ส่งผล....
    (เรียกง่ายๆว่า วิบากกรรม)
    (มีแรงบุญ แรง บาป ร้อน เย็น ธาตุต่างๆ
    คลื่นต่างๆ แรงโน้มถ่วงเป็นต้น)
    หรือมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการ
    สร้างแรงใหม่จากต้นกำเนิดของแรง ก็คือ จิต....

    ๔.มีการหายไปได้(ประมาณ พวกๆอนุภาคอัพๆที่เปลี่ยน
    แปลงประจุ แล้ว อีกแรงหลุดจากนิวเคียสที่เป็นศูนย์กลางอะตอม
    เชื่อว่า ตรงนี้คือ สภาวะที่ไม่ได้กลับมาเกิดอีก) ข้อนี้
    สำหรับ ระดับโปรซีรีย์ทั้งหลาย.....
    ๕. หรือ ข้อสุดท้าย ข้อพิเศษ คือ เข้าสภาวะดับ
    เพื่อค่อยๆส่งให้แรงตัวนั้นๆลดน้อยลงไป
    จากต้นกำเนิดของแรง(จิต) ทำได้เป็นบางบุคคล...

    พวกปัญญา วิปัสสนา ก็เป็นอุบายในการเพิ่มแรง
    เข้าไปในจิต เพื่อให้แรงที่จะส่งผล มีกำลังน้อย
    ไม่มามีผลอะไรนั่นเอง.........

    ดังนั้น ตราบใด ที่ต้นกำเนิดของแรง(จิต)ที่อยู่ในร่างกายนั้น
    สื่อนำแรงต่างๆ ที่เคยเข้ามา ผ่านมา เก็บอยู่ใน ต้นกำเนิดแรง
    หรือจิต มันยังไม่ถึง กระบวณการในข้อ ที่ ๔

    ทุกๆร่างกาย ก็จะยังคงต้องวนเวียนกลับแรง
    หรืออนุภาคของแรงอยู่เสมอ.....เพราะเป็นเรื่องปกติ
    อาจจะเคยได้ยินเรื่องแต่งขึ้นมาว่า
    '' แม้แต่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพยังไม่พ้น ''
    เรามักจะสื่อง่ายๆว่า เป็นกรรม แล้วก็ย้อนไป
    ว่า เคยไปทำอะไรมานั่นหละ เพื่อให้เป็นภาษา
    ที่เข้าใจได้ง่ายๆเป็นสากลนั้นเอง.....
    ลองย้อนอ่าน ข้อ ๓ อีกรอบ...


    กรณี ของ Maxmi ก็คือ ไม่ได้ส่งผลอะไร
    เหมือน เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นหนึ่ง เช่นเก้าอี้ อีกห้องหนึ่ง
    ที่ปกติวางเฉยๆอยู่ในบ้าน เรารู้ว่า มันมี แต่เราไม่ได้สนใจ
    จะสนใจก็ต่อเมื่อ เราไปมองเห็นแล้วจะใช้
    หรือเริ่มไปคิดถึง หรือ ไปยกมันมาใช้..
    แต่พอใช้แล้ว วางไว้ที่เดิมก็จบ......
    มันก็เป็นเก้าอี้ที่วางไว้เฉยๆอยู่อย่างนั้น....
    ทางโลก พอแรงไม่ส่งผลแล้ว
    ก็เลยเข้าใจว่า แก้กรรมได้....
    แต่ทางด้านพลังงาน คือ แรงนั้นน้อยกว่า
    แรงที่เกี่ยวข้องกัน จนไม่ส่งผลอะไร
    เปรียบเหมือนเก้าอี้นั่นหละ.....

    สังเกตุไหม ว่าผู้สอนมักจะบอกว่า กรรมมันแก้ไม่ได้
    นี่คือภาษาพูด ที่เค้าแก้กัน คือ แก้ในเรื่องของ
    แรงต่างๆเหล่านี้ ที่มาเกี่ยวข้อง...ไม่ให้มันส่งผล
    บางที ครูบาร์อาจารย์บางท่าน ก็พูดว่า
    ทำบุญมากๆเพื่อหนีบาป อะไรนั่นหละ...
    แต่มันมีอยู่ ไม่มีคือ ต้องข้อ ๔.....

    กรณีที่ แรงยังส่งผลต่อกายอยู่(วัตถุ ประกอบ
    ด้วยอนุภาคของที่เป็นองค์ประกอบสะสาร +
    สื่อนำแรง) มันก็ยังคงจะต้องส่งผลสืบๆต่อ
    กับร่างกายอยู่....และมันจะยังส่งผลเรื่อยๆ
    (คือไม่หายขาด) ตราบใดที่แรงนั้น ยังมีกำลัง
    เพียงพอ หรือมากพอ กับแรงที่เกี่ยวข้องกัน.....


    กรณีเคยมีเหตุเกี่ยวกับทำแท้ง...
    มักจะเป็นอะไรที่เหตุสืบหรือเริ่มจากไหล่ขวา
    ส่วนพวกที่เคยฆ่าคนตายมา
    ก็จะเป็นทางด้านไหล่ซ้าย แล้วก็สืบๆอวัยวะมา
    สืบคือ ไม่ว่าจะจากไหลขึ้นไปทางศรีษะ
    หรือจากไหล่ลงมาที่มือ......

    กรณีคุณแม่ Maxmi. ก็แก้ด้วยการเพิ่มแรง
    ที่เกี่ยวข้องกันเข้าไปซะ....ฟังแล้วงง..๕๕๕๕
    พูดง่ายๆ ทำบุญนั่นหละ อุปโลกน์ชื่อให้ ซะ
    แล้วก็ ถวายพระพุทธรูปทองเหลืองย้ำว่าทองเหลือง
    อย่างน้อย หน้าตัก ๕ นิ้วนะ..ท่านเกิดวันไหน
    ก็ถวายปางนั้นหละ สมมุติจันทร์ก็ปางวันจันทร์
    อังคารก็ปางอังคาร ถ้ากำกึ่งก็ ถวายสององค์สองปรางไปเลย...
    เพราะเป็นตัวกลางในการนำแรงที่ดี...ระบุชื่อลงไป
    (ที่ร้านเค้าจะแกะให้ปกติ) แล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้เค้าไป
    ร่วมกับการกรวดน้ำ เพื่อเพิ่มความสะดวกหรือช่วย
    ในการนำแรง.....และเวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลอื่นๆ
    ก็อย่าลืมอุทิศ ชื่อ ที่อุปโลกน์ให้นี้

    ส่วนกรณีที่เป็นภูมิแพ้ ทั่วไปถ้าทำบุญ
    หรืออุทิศส่วนกุศล ให้กำหนดจุดส่งบุญ
    เหมือนเรากำหนดจิต ไว้ที่ หน้าฝาก ที่มือ อะไรประมาณนี้
    หลักการเดียวกัน...
    จากใต้แกนโพรงจมูกด้านซ้ายบ่อยๆ
    และก็อุทิศไปเรื่อยๆ ฝึกดันให้มันขยากออกเป็นวง
    กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้.....
    (ตรงสันดังจมูกที่เป็นกระดูก แล้วลึกลงไปอีกมาทางด้านซ้าย)
    ร่วมกับการออกกำลังกายบ้าง เหยียบดินหญ้าด้วย
    เท้าเปล่าร่วมด้วย
    ในอนางอ ก็ไปจัดกระดูกด้วยร่วมด้วย(ถ้าทำได้จะมาก)
    หรือใช้ท่า บริการกระดูก พระมหาไพลวัลย์ก็ได้..
    ตรงนี้ก็จะช่วยส่งผลให้ภายในลำคอ
    พวกสลงเสล็ดที่มันส่งผลให้เคืองๆคอยด้านซ้าย
    มันลดลงไปด้วยนั่นหละ......

    เครเนาะ ทั่วไปไม่มีอะไรหรอก พอขำๆ....

    ปล วิบาก = กะแสที่จรเข้ามา
    จรคือ แวะมา(แล้วแต่จะอยู่นานเท่าไหน) แล้วก็ออกไป(ไปที่อื่นต่อ)
    เพราะถ้าไม่ออกไป มันจะเป็น
    ค้างคืน เห้ย! ถาวร

    ส่วนกะแสคืออนุภาคที่เป็นสื่อนำแรง
    มันเหนือกาลเหนือเวลา
    จะหายเลยคือ ข้อ ๔

    ต้องไม่มีเชื้อให้มันเกิดได้อีก
    คือไม่รวมกับมันอีก แม้ว่าเรามี
    ถึงจะพ้นเรื่องนั้นๆได้

    ประมานนี้ ทั่วๆไป. จบ
    เรื่องของแรง แค่คิด หรืออยู่ในเหตุการณ์ ก็มีส่วนร่วมแล้ว
    จะมากน้อยก็สุดแล้ว แต่การตัดแรงหรือปล่อยวาง...

     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 155 ลำดับที่ #3092
    *เจน*ฝันว่า...
    "จะว่าไป เมื่อคืนนี้ ฝัน แบบเห็นภาพชัดเจน
    นอนดูดาว ดาวเต็มท้องฟ้า สวยงามมากคะ

    แล้วก็เป็นไปตามที่คาด มีดาวตกด้วย"
    (...
    หมูเจนหายไปไหน หรือยังนอนฝันอยู่ หรือไม่สบายตามที่เคยบอก วันนี้วันอาสา และพรุ่งนี้เข้าพรรษา เข้าวัดเถิดนะครับ จิตใจจะได้สบายขึ้น)
    (ส่วนผม(9)...วันนี้มาแต่เช้าตี4กว่าๆ เพราะตี5จะเดินทางไปงานบุญที่ตจว.หลายวัน...คงมีภาพสวยๆมาฝากทุกท่าน)


    [QUOTE="nopphakan ]สภาวะที่เจนฝันมันเป็นอรูปฌาน
    ที่ก้าวกระโดด ไม่ผ่านการขึ้นรูปมาก่อน
    สามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเคยฝึก
    หรือไม่เคยฝึกอะไรมาก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องปกติ....
    ก็ถือว่า ดูดาวบนท้องฟ้า เล่นๆไปแล้วกัน...
    สังเกตุซิ แม้จะรู้สึกว่า เหมือนดูท้องฟ้า
    แต่จะพบว่า ไม่สามารถขยับกายไปไหนได้เลย....

    แต่ถ้าทางปฏิบัติถือว่า ไม่ดีถ้าไปยึดนะ
    ไม่ดีเลยหละ
    แต่ก็มีนักปฏิบัติหลายคนนะที่ไปหลงสภาวะนี้
    ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกรูปฌานมาก่อน และมันมักจะ
    ทำให้หลงตัวเองได้อย่างสุดๆ....
    และหลงแบบกลับตัวไปได้ด้วย.....
    (ลองนึกว่า เจนนอนๆยังเข้าได้)

    คือปกติ ถ้ามาถูกหลักการปฏิบัตินะ
    หมายถึง ผ่านกรรมฐานที่ขึ้นด้วยรูปก่อน
    จิตที่เข้าถึงสภาวะนี้
    มันจะมีความสามารถทางด้านพลังงาน
    ขึ้นมาปกติเหมือนมีลมหายใจเข้าออก...
    และพวกที่เข้าถึงสภาวะนี้ได้นาน
    ก็จะกลายเป็น พวกจอมคาถานั่นหละ....
    มักจะเจอในกลุ่ม นักพรต พระฤาษี ดาษส ประมานนี้..
    คือเจอในกลุ่ม ที่ปฏิบัติแบบมีระเบียบวินัย....

    พอขำๆ...
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    555.....ไม่ได้เป็นไปตามฝัน
    งั้นโชคดีมากๆ
    ฝันถึงงูขาว 2 ตัว
    ผู้หญิง 2 คน
    ...ถ้ำด้วย...รูปทรงถ้ำเป็นเช่นใดหนอ
    (เดาเอาเองนะคร๊าบ)

    ปล.วันวิสา-เข้าพรรษาไปทำบุญที่ไหน
    ...อย่าลืมเอาภาพสวยๆ
    และรูปพระเครื่องมาให้ชมด้วยนะครับ

    "ขอให้บุญรักษาทุกท่านนะครับ"

     
  14. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    ถ้ำถ้าจำไม่ผิด รูปทรงถ้ำจะเป็นแบบ เหมือนอุโมงค์เจาะเข้าไปในถ้ำหิน มีน้ำปิดเอาไว้ ผู้หญิงสองคนนั่นท่าจะเป็นงูสีขาวสองตัวนั่นล่ะครับ แต่คงไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ // .วันวิสา-เข้าพรรษาไปทำบุญที่ไหน คงไม่ได้ไปเข้าเพราะพี่หวัดมาเยือน
     
  15. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    มายืมเงินเหมือนกันนิทาน

    เมื่อเร็วๆนี้ ข้าพเจ้ามีเรื่องผิดใจกับญาติผู้นึง ก็เนื่องด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ด้วย ญาติคนนี้ทักแชทมายืมเงิน บอกว่าเกรงใจพ่อเลยมายืมข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็สังเกตว่า ในเฟสของญาติผู้นี้ มีแต่เรื่องเที่ยว ข้าพเจ้าก็ไปปรึกษาพ่อข้าพเจ้า พ่อข้าพเจ้าก็บอกว่ามันโทรมายืมเงินเหมือนกัน ข้าพเจ้ารู้สึกทะแม่งๆ จากนั้นข้าพเจ้าก็ปรึกษากับพ่อของข้าพเจ้า ว่าจะให้ยืมเงินดีมั๊ย พอปรึกษากันได้ซักพัก พ่อของข้าพเจ้า ก็โทรไปด่าญาติผู้นั้นเฉยเลย แล้วปรากฏว่า ญาติผู้นั้นก็เอาพ่อของข้าพเจ้าไปด่าลงเฟส รวมถึงข้าพเจ้าด้วย บอกว่าไม่เคยคิดยืมเงินใคร ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็สังเวชในสันดา่นของญาติคนนี้มาก ก็เลยยกมือสาธุไป พร้อมบอกว่าขอให้จริงอย่างที่พูดเถอะ

    ไม่นานหลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ฝันไปเจอ บุคคลผู้นึงคล้ายๆ กับพวก Orger ในหนังฝรั่ง บอกว่าไม่ต้องไปสนใจมันหรอก มันถึงเวลาที่มันจะต้องชดใช้ กูจะเหยียบมันให้นานๆเลย ไม่มีใครจะช่วยมันได้อีกแล้ว แล้วก็ขอบคุณข้าพเจ้าที่ช่วยทำให้เขาอาศัยช่องโหว่มาหาญาติคนนี้ได้

    ไอ้ที่เขาเล่าให้ฟังว่า เวลาดวงตก เจ้ากรรมนายเวร ก็ดลจิตดลใจ ให้วิปริตได้นี่ก็น่าจะเป็นจริงแฮะ
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    "ดวงตก" คืออะไร
    บางคนดวงตกจะเห็นผี
    จริงหรือไม่ ?

    ช่วงที่ดวงตกทำอะไรมักติดขัด
    ราหูเข้าพระเสาร์แทรก
    แม้ความหวังดียังถูกเข้าใจผิดๆ

    ญาติมิตรก็ยังกลายเป็นศัตรูได้ง่ายๆ
    เป็นเรื่องของกรรม
    คนที่ดวงตก ชะตาไม่ดี ขัดสนเงินทอง
    ทำให้ “จิตตก”
    ยิ่งจิตใจอ่อนแอ สิ่งไม่ดีต่างๆก็กรูกันเข้ามา

    เสาะหาพิธีกรรมต่างๆมาสะเดาะเคราะห์
    บางคนดวงตกเป็นเดือน เป็นปี
    ...หรือข้ามปี และหลายๆปี

    ก็ชีวิตถูกบันดาลทุกข์มาเช่นนี้

    สาเหตุหนึ่งมาจากกรรมในปัจจุบัน
    และหรือที่ทำไว้ในอดีตชาติ
    ...มันตามมาทัน
    จึงเริ่มส่งผลในชาตินี้
    อาจเป็นแค่เศษเสี้ยวของกรรมเก่า
    ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
    แต่อาจลดความเข้มข้นของกรรมได้
    ด้วยความมั่นระลึกถึงศีล5
    อย่านอกลู่นอกทางจนเกินไป


    มันเหมือนเป็นวงจรของชีวิต

    ไม่ต้องคิดมาก
    จงตั้งหลักใหม่...จิตใจสำคัญที่สุด
    รักษาจิตใจไว้ให้ดีๆ
    "สุขทุกข์อยู่ที่ใจ"
    ประคองดวงใจน้อยๆนี้ไว้
    วันหนึ่งวงจรขาขึ้นมาถึง
    ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นมาเอง

     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    วันอาสาฬหบูชา ต่อเนื่องวันเข้าพรรษา
    ก็แวะเวียนไปเที่ยวที่เดิมๆ-ทำบุญตามสะดวก
    มีภาพสวยๆ-แปลกตาบนท้องฟ้ามาฝาก

    ได้พบ24สาวงามผู้ร่วมประกวดMiss Thailand World
    มาทำบุญเวียนเทียนช่วงบ่ายแก่ๆ


    (นายอำเภอปากช่องมาร่วมงานเวียนเทียน)
    75526.jpg
    75489.jpg
    75527.jpg
    75484.jpg 75486.jpg


    (ภาพข้างล่างนี้)
    ...เป็นความบังเอิญ
    *ความบังเอิญทางธรรมชาติ*
    กลุ่มเมฆคล้ายพญานาคปรากฏบนท้องฟ้า
    ในวันอาสาฬหบูชา(ก่อนเข้าพรรษา 1 วัน)
    ...ขณะที่24สาวงามกำลังก้าวขึ้นบันไดพญานาค
    75490 - Copy - Copy.jpg
    75492 - Copy (2).jpg
    เปิดดูไฟล์ 5002077
    เปิดดูไฟล์ 5002078

    (ปิดท้ายด้วยภาพนี้)
    75493.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2019
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ทำไมพระต้องเข้าพรรษา และเกร็ดน่ารู้ที่ชาวพุทธไม่ควรพลาด

    lotus_hd_wide-wide-150x150.jpg

    nintara1991
    17 July 2019

    ภัยของพระภิกษุในช่วงเข้าพรรษา
    หากพระภิกษุจำพรรษาอยู่ แล้วระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์อันตราย เช่น หมู่บ้านเกิดเหตุโจรปล้น หรืออัคคีภัย ต้องอพยพหนีโจรและไฟไหม้ ภิกษุสามารถอพยพย้ายที่จำพรรษาไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้ ไม่ถือว่าอาบัติ หรือพรรษาขาด

    หลานชายนางวิสาขาอยากบวช
    ครั้งหลานชายของนางวิสาขามหาอุบาสิกาปรารถนาบวชเป็นพระภิกษุ จึงขอให้พระภิกษุช่วยบวชให้ แต่ด้วยพระภิกษุเห็นว่าเป็นช่วงเข้าพรรษา ไม่สามารถประกอบกิจได้ ต้องขอให้เลยเข้าพรรษาไปก่อนถึงจะบวชให้ได้ เมื่อนางวิสาขาทราบจึงติเตียนพระภิกษุ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบจึงบัญญัติให้พระภิกษุสามารถบวชให้ผู้อื่นได้ ถึงจะเป็นช่วงเข้าพรรษาก็ตาม



    meditation-1777522_640-1.jpg

    เทวดาพบปะสมาคมกันในช่วงเข้าพรรษา
    ในพระสูตรที่มีชื่อว่า ชนวสภสูตร กล่าวว่า ในวันอุโบสถที่ 15 ในค่ำวันเข้าพรรษา (วัสสูปนายิกา) เทวดาชั้นดาวดึงส์ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่นับถือพระพุทธเจ้า เคยทำบุญในพระพุทธศาสนา พากันมาประชุม ณ สุธรรมาสภา แม้แต่จตุโลกบาล เจ้าสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาก็ขึ้นมาร่วมประชุมในเทวสภาแห่งนี้ด้วย



    ที่มา
    www.84000.org/เรื่องภิกษุหลายรูป เป็นต้น
    http://84000.org/อันตรายของภิกษุผู้จำพรรษา
    www.84000.org/ชนวสภสูตร

    ภาพ

    https://pixabay.com


    (ขอขอบคุณที่มา....
    https://goodlifeupdate.com)
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 155 ลำดับที่ #3092

    เป็นความสงสัยของเจนเรื่องความฝันที่ชัดเจน
    ประมาณว่า....
    นอนดูดาว ดาวเต็มท้องฟ้า สวยงามมาก

    แล้วก็เป็นไปตามที่คาด มีดาวตกด้วย



    [QUOTE="nopphakan, post:]
    สภาวะที่เจนฝันมันเป็นอรูปฌาน
    ที่ก้าวกระโดด ไม่ผ่านการขึ้นรูปมาก่อน
    สามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเคยฝึก
    หรือไม่เคยฝึกอะไรมาก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องปกติ....
    ก็ถือว่า ดูดาวบนท้องฟ้า เล่นๆไปแล้วกัน...
    สังเกตุซิ แม้จะรู้สึกว่า เหมือนดูท้องฟ้า
    แต่จะพบว่า ไม่สามารถขยับกายไปไหนได้เลย....

    แต่ถ้าทางปฏิบัติถือว่า ไม่ดีถ้าไปยึดนะ
    ไม่ดีเลยหละ
    แต่ก็มีนักปฏิบัติหลายคนนะที่ไปหลงสภาวะนี้
    ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกรูปฌานมาก่อน และมันมักจะ
    ทำให้หลงตัวเองได้อย่างสุดๆ....
    และหลงแบบกลับตัวไปได้ด้วย.....
    (ลองนึกว่า เจนนอนๆยังเข้าได้)

    คือปกติ ถ้ามาถูกหลักการปฏิบัตินะ
    หมายถึง ผ่านกรรมฐานที่ขึ้นด้วยรูปก่อน
    จิตที่เข้าถึงสภาวะนี้
    มันจะมีความสามารถทางด้านพลังงาน
    ขึ้นมาปกติเหมือนมีลมหายใจเข้าออก...
    และพวกที่เข้าถึงสภาวะนี้ได้นาน
    ก็จะกลายเป็น พวกจอมคาถานั่นหละ....
    มักจะเจอในกลุ่ม นักพรต พระฤาษี ดาษส ประมานนี้..
    คือเจอในกลุ่ม ที่ปฏิบัติแบบมีระเบียบวินัย....

    พอขำๆ...
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 155 ลำดับที่ #3096

    เป็นความกังวลของเจนที่ฝันถึงพระจันทร์ดวงใหญ่มาก
    เหมือนกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ๆ แบบจะชนโลกให้ได้
    จะว่าไปเจนฝันถึง การมองดาวบ่อยมาก

    [QUOTE="nopphakan, post:]
    เจน ไม่ต้องสนใจหรอก ไม่มีอะไร
    ไม่ต้องไปยึดอะไร และอย่าไปอยู่นาน
    คือ ถ้าเห็นอีก ก็ให้รีบตั้งสติซะ
    เอาไว้ แค่พอตีเลข พอฮาๆพอ

    เราไม่ได้เป็น สายปฏิบัติอะไรตอนนี้
    เอาเป็นแค่สายฮาพอ....


    พระจันทร์ ไม่ใช่แบบดวงจันทร์นะ มันดูคล้ายเฉยๆ
    แต่เป็นลักษณ์ดวงจิตชนิดหนึ่ง มีพลังเป็นปกติ
    คือจะมีคล้ายๆคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า..ถ้าใกล้ๆ อาจจะได้ยินเสียงคลื่นด้วย...
    ถ้าขยับตัวได้ เมื่ออยู่ใกล้ถือว่าแปลก ....
    ดวงจิตขนาดนั้น คนปกติมีกำลังจิต ฝึกสมาธิ
    ยังขยับตัวไม่ได้เลย......
    เพียงแต่ว่า ไม่ได้พบเห็นได้สากล...
     

แชร์หน้านี้

Loading...